คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #78 : บทเรียนที่ 72 Strike Back
บทเรียนที่ 72 Strike Back
ดีว่า และโซเฟียที่จวนจะถึงฆาตจากการโจมตีของชายปริศนาเมื่อเห็นไซโคร แนชที่มาพร้อมกับเกก้าดีนและไซเมตก็ใจชื่นขึ้นมา ถึงกับยิ้มออกมาอย่างลืมตัวโดยไม่รู้เลยว่าพวกตนกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากขนาดไหน หรืออาจเป็นเพราะดาบกางเขนคู่เล่มหนึ่งที่ปักลงยังพื้นเวทีที่คล้ายดังคำประกาศิตไม่ให้ปีศาจร้ายตนนี้กล้ำกลายพวกตนได้
เสียงเชียร์และเป่าปากดังกระหึ่มไปทั่วห้องประลองอาวุธเนื่องจากการเปิดตัวอย่างอลังการของไซโคร แนช เหล่าผู้คนที่อดใจรอเชียร์ไซโคร แนชอย่างเช่น สเวนอัศวินนักฆ่า เคออสอัศวินแห่งความสับสน หรือกระทั่งไลร่าต่างพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก
“โอ้ววว ! ในที่สุดผู้เข้าแข่งขันจากทีมมิราเคิล โรงเรียนอับดุลอินเตอร์ก็ทำธุระตัวส่วนเสร็จจนได้นะครับ ” เด็กชายนักประกาศพยายามสร้างความขบขันกลบเกลื่อนความตึงเครียดและดูเหมือนว่ามันจะได้ผลพอสมควร
ทว่าขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดดูเหมือนจะดีขึ้น เสียงสายฟ้าคล้ายอัสนีคลั่งก็ดังขึ้นยังใจกลางเวทีประลองทำเอาทุกสายตาต้องหันขวับกลับไปจับจ้องยังเวทีการประลองอีกครั้ง
ความกดดันที่แผ่ออกมาหลายเท่าตัวจากชายปริศนากดดันจนกระทั่งดีว่า หรือโซเฟียซึ่งปกติไม่ค่อยรู้สึกกดดันรู้สึกขนลุกวาบราวกับกำลังจะเกิดเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวขึ้น
“ มาจนได้นะเจ้าชาย ถ้าอย่างนั้นชั้นขอสังเวยวิญญาณของเพื่อนรักของนายก่อนก็แล้วกัน ” ทันใดนั้นเคียวยมทูตตวัดแวบขึ้นอย่างรวดเร็วพุ่งตรงใส่ดีว่าและโซเฟียที่ยังล้มลงอยู่ อย่างไม่คาดฝัน
‘ เสร็จกัน ’ ไซโคร แนชคิดรีบพุ่งดาบกางเขนอีกเล่มหนึ่งออกไป ครั้งนี้แม้จะอัดพลังลมปราณสายฟ้าไปมากพอควร แต่กลับไม่สามารถหักเหวิถีของเคียวปีศาจนั่นได้
โซเฟียหลับตาลงเตรียมรับแรงปะทะ ส่วนซิลเวียร์กับวีวี่ใจหายจนแทบจะเป็นลม
‘ เคร้ง ! ’
เสียงอาวุธคล้ายดาบปะทะเข้ากับเคียวปีศาจดังสนั่นก้องไปทั่วห้องประลอง
เมื่อโซเฟียลืมตาขึ้นก็พบร่างของไซเมที่กำลังยันร่างของเกก้าดีนที่ใช้ดาบประจำกายตั้งรับเคียวของชายปริศนาไว้ แต่ที่น่าตื่นตระหนกก็คือ แม้กระทั่งสองคนนี้ร่วมมือกันยังดูเหมือนจะไม่สามรถต้านทานพลังของเคียวปีศาจได้
ชายปริศนาฉีกยิ้ม
“ หืม ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกแกสองคนก็จะเป็นพรรคพวกของเจ้าชายด้วย ”
“ เปล่าสักหน่อย ชั้นก็แค่ไม่ชอบใจอาวุธของแกก็เท่านั้นเอง ” เกก้าดีนยิ้มกลับ
“ พวกนายก็รีบลุกได้แล้ว ” ไซเมตหันไปบอกดีว่ากับโซเฟียแม้จะยิ้มอยู่แต่สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นก็ลงนรกไปพร้อมๆกันซะเถอะนะ ” ชายปริศนารีดเร้นพลังจากนั้นเคียวปีศาจคล้ายหนักอึ้งเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลเหวี่ยงร่างของเกก้าดีนและไซเมตที่คอยยันอยู่ด้านหลังกระเด็นออกไปอย่างง่ายดาย
‘ Cleaving Soul (ผ่าวิญญาณ) ! ’
ไซเมตตีลังกาใช้มือดันตัวลุกขึ้น ส่วนเกก้าดีนลากดาบไปกับพื้นเพื่อยันตัว การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแฝงพลังมหาศาลแต่ทั้งคู่กลับรับรู้ได้ถึงพลังกดดันบางอย่างที่แผ่เข้ามายังร่างกายราว รู้สึกหดหู่ขึ้นาอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าถูกความสิ้นหวังแผ่ซ่านเข้ามา
‘ ไม่น่าเชือว่าจะสามารถซัดคุณไซเมตและเกก้าดีนได้ด้วยการตวัดเคียวเพียงแค่ครั้งเดียว ’ ดีว่าอึ้ง
ไซเมตฉีกยิ้มใส่สนับมือกางเขนคู่กล่าวกับเกก้าดีน
“ นายรีบใช้รีเฟรกชั่นสลายพลังประหลาดนั่นให้สองคนนั้นก่อน เจ้านี่ชั้นจะเป็นคนจัดการเอง ”
“ หึ ” เกก้าดีนทำท่าไม่พอใจ ความจริงเขาไม่เคยฟังคำสั่งใครมาก่อนแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไซเมตเอ่ยปากขอกับเขา “ ตามสบายเลย เจ้านี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ชั้นสนใจอยู่แล้ว ”
“ โอ้ ” ชายปริศนาลูบคางเมื่อเห็นไซเมตทำท่าเอาจริง “ ก๊อดแฮนด์ไซเมตยินดีที่ได้ปะมือด้วย แต่ว่าแกไม่ใช่คู่มือของชั้นหรอกนะ ”
‘ กึ๊ง ! ’
ชายปริศนากระแทกเคียวในมือลงกับพื้นจากนั้นเคียวหุบกลับเป็นกระบองไม้สีดำ ดังเดิมจากนั้นเคียวที่ถูกแปลงสภาพแล้วก็ตั้งตรงกับพื้นนิ่งไม่เคลื่อนไหวราวกับอาวุธปีศาจที่รอการสั่งการจากเจ้านาย
“ ไม่ใช่เจ้านั่นมันจะดีหรอ ” ไซเมตถาม
ชายปริศนาเค้นหัวเราะจากนั้นร่างกายขยับวูบหนึ่ง แม้แต่เกก้าดีนที่กำลังหันหลังรักษาโซเฟียกับดีว่าอยู่ยังต้องหันขวับมาด้วยความตื่นตระหนก
‘ ความเร็วระดับนี้มันอะไรกัน ’ ไซเมตไม่ทันจะคิดเสร็จท้องก็ถูกซัดใส่ด้วยหมัดอันหนักอึ้งร่างกระเด็นถอนหลังไปอย่างไร้การทรงตัว แต่ไม่ทันที่ร่างจะตกถึงพื้นก็รู้สึกที่คอเย็นวาบถูกคว้าจับไว้ด้วยมืออันทรงพลังภายใต้ถุงมือเหล็กสีดำ ร่างค่อยๆถูกชูขึ้นด้วยแขนเพียงข้างเดียว
จากนั้นพลังบางอย่างแผ่พุ่งเข้ามาสู่ร่างของไซเมตรู้สึกอึดอัดจนแทบจะสิ้นสติ
‘ ร่างกายของผู้ที่ได้ชื่อว่าก๊อดแฮนด์ที่แม้จะโดนปราณกระบี่ของเราเข้าไปยังไม่สะทกสะท้านแต่ชายคนนี้กลับใช้พลังอะไรบางอย่างทะลวงร่างของคุณไซเมตได้ ชายคนนี้เป็นคนระดับไหนกันแน่ ’ ดีว่าที่ลุกขึ้นแล้วได้แต่ยืนอึ้ง
คนที่ดูออกได้ดีที่สุดก็คือ เกก้าดีนนั่นเอง
ไซโคร แนชรีบวิ่งขึ้นไปยังเวที ส่วนเกก้าดีนพละออกจากการรักษาวิ่งเข้าตวัดดาบใส่ชายปริศนาในทันที
พริบตานั้นดาบของเกก้าดีนฟันถูกอากาศธาตุร่างของชายปริศนาเอี้ยวตัวหลบไปอย่างรวดเร็วราวกับวิญญาณภูคผีจากนั้นคว้าจับดาบของเกก้าดีนไว้
“ พลาดแล้วละแก ” เกก้าดีนกล่าว ใช้รีเฟรกชั่นหนึ่งในท่าไม้ตายประจำตัวออกถ่ายทอดพลังผ่านดาบที่ชายปริศนาคว้าจับไว้อยู่หวังสลายพลังลมปราณของชายปริศนาและช่วยเหลือไซเมต ทว่าไม่ทันที่จะดีใจพลังลึกลับบางอย่างก็พุ่งกลับมาหาตรงโดนไม่ทันตั้งตัวร่างกายรู้สึกราวกับสูญเสียพลังไปสิ้นหมดรีบดึงดาบออกแต่ก็ไม่สามารถทำได้
“ ช่วยหยุดทีเถอะครับ ”
‘ ฟ้าว ! ’
กระบี่สุญญากาศพุ่งตรงเข้าใส่ชายปริศนาแต่ชายปริศนาไม่เพียงไม่หลบถึงกับยืนนิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไร
“ ฮ่าๆๆ ” เสียงหัวเราะลั่นดังขึ้น “ มีแต่พวกไม่ได้เรื่องทั้งนั้น ”
ร่างของไซเมตถูกเขวี้ยงกลับไปยังดีว่ากระแทกโครมล้มลงทั้งคู่
‘ ฟึ่บ ! ’
“ ขอโทษด้วยนะคะ ”
ประกายไฟปรากฏขึ้นวูบหนึ่งจากนั้นดาบเพลิงอัคคีซัดพุ่งไปยังร่างชายปริศนาอย่างรวดเร็ว โซเฟียที่ลุกขึ้นมาได้แล้วรีบซัดดาบเพื่อช่วยเหลือเกก้าดีนกับไซเมตในจังหวะเดียวกันกับดีว่าที่ใช้กระบี่สุญญากาศไป
คราวนี้ชายปริศนาทำสีหน้ายากจะรับเตะร่างของเกก้าดีนกระเด็นออกไปจากนั้นใช้ดาบของเกก้าดีนที่ชิงมาได้ฟันใส่ดาบเพลิงอัคคีที่พุ่งมาได้อย่างฉิวเฉียด
“ บอกแล้วยังไงว่าพวกเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ… ” ไม่ทันขาดคำชายปริศนารู้สึกที่เบื้องหน้าสว่างวูบก่อนที่ร่างจะเสียการทรงตัวจากหมัดความเร็วสูงที่ไม่ทราบพุ่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่เซถอยหลังไปจนเกือบจะล้มคว่ำลง
“ ถ้าอย่างนั้นชั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ให้แกเอง ” ไซโคร แนชบจับกำปั้นที่เพิ่งซัดใส่หน้าของชายปริศนาไปยืนนิ่งอย่างสง่างาม พลังหมัดเมื่อสักครู่ต่อยออกโดยปราศจากถุงมือเหล็กทว่าแม้ชายปริศนาจะอยู่ภายใต้ชุดเกราะป้องกันก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนอันหนักอึ้ง “ หมัดนี้ชั้นขอคืนให้แทนพวกพ้องของชั้นก็แล้วกัน ”
อีกมุมหนึ่งในห้องแข่งปิงปองหลังจากที่วาเสิร์ฟลูกออกไปบรรยากาศตึงเครียดก็เริ่มขึ้นทันที เมื่อถูกครอสสวนกลับมาได้อย่างสวยงาม แถมการสวนกลับยังรวดเร็วไร้ที่ติ แต่วาก็ไม่ยอมน้อยหน้าโต้กลับไปอย่างรวดเร็วแบบตรงๆไม่มีการพลิกแพลงใดๆทั้งสิ้น จากนั้นครอสก็โต้กลับมาแบบตรงๆก่อนที่ทั้งคู่จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆราวกับกำลังวัดกันด้วยศักดิ์ศรีในฝีมือการโต้ว่าใครเหนือกว่ากันโดยไม่สนผลแพ้ชนะเลย
การโต้ยิ่งมายิ่งรวดเร็วจนน่าใจหาย แม้กระทั่งวาเองยังไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถตีลูกที่เร็วขนาดนี้ได้นานเท่านี้มาก่อน ในที่สุดเมื่อได้จังหวะวาก็เสี่ยงตีลูกตบออกไปเป็นฝ่ายเอาแต้มแรกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว
เสียงเชียร์ดังขึ้นทำให้วารู้สึกหัวใจพองโตแม้จะเป็นเพียงแค่แต้มแรกเท่านั้น แต่ก็หมายถึงศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับเขา วายิ้มเล็กน้อยราวกับจงใจยั่วโมโหให้ครอสแต่ยังไม่มองไปยังสโนว์ราวกับต้องการจะชนะให้ขาดลอยก่อนค่อยยิ้มยั่วทั้งคู่
“ Wonderful (วิเศษมาก) ” อาจารย์พาทัมปรบมือ
ครอสนิ่งเงียบเพียงแต่สายตาซ่อนความเจ็บแค้นเอาไว้จับจ้องไปยังวาราวกับกดดันให้เสิร์ฟลูกต่อไปเร็วๆเพื่อเอาคืน แต่วารู้ดีแกล้งทำเป็นลีลาดึงจังหวะสักครู่หนึ่งค่อยเสิร์ฟออกคล้ายกับกำลังล้อเล่นกับเพื่อสนิทไม่คล้ายกับกำลังแข่งรอบชิงชนะเลิศอยู่
คราวนี้วาต้องนึกเสียใจเพราะเพียงแค่ลูกเสิร์ฟสัมผัสโต๊ะฝั่งครอสเท่านั้น ลูกตบความแรงสูงก็พุ่งกลับมาทำแต้มคืนไปได้อย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย
ครอสหันกลับมามองหน้าวาแม้จะไม่ได้ยิ้มแต่ก็ทำให้วารู้สึกหัวเสียใช้ได้ ดังนั้นตัดสินใจเอาจริงไม่เปิดโอกาสให้ถูกทำแต้มได้ง่ายๆอีกแล้ว
ลูกต่อไปวาเสิร์ฟออกด้วยลูกตัดความเร็วสูง ลูกปิงปองพอกระทบกับพื้นโต๊ะก็ตีวงโค้งตวัดวูบอย่างรุนแรง แต่ครอสก็โต้กลับมาอย่างรวดเร็วด้วยลูกตัด ทั้งคู่โต้กันไปมาอีกครั้งแม้ขณะนี้จะยังดูไม่ออกว่าใครมีฝีมือเหนือกว่าแต่การโต้กันของทั้งคู่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนดูขนลุกแล้ว บางคนถึงกับไม่เชื่อสายตาว่านี่จะเป็นการตีโต้กันของสองโรงเรียนม้ามืดที่ไม่เคยมีใครกล่าวขานถึงมาก่อน
“ ตบไปเลยก็สิ้นเรื่อง ไม่ทันใจเลย ” วิสด้อมดาบอัคคีทมิฬบ่นอุบอิบไม่ทันไรก็ถูกโทโมะที่นั่งอยู่ข้างๆศอกใส่ด้วยความรำคาญ
“ ดูเฉยๆได้ไหมนายเนี่ย ชนะเขาก็ไม่ได้ทำมาพูด ”
วิสด้อมถึงกับอ้าปากค้างไม่รู้จะโต้กลับไปว่าอะไรดี
“ เฮ้ ดูนั่นสิ ” คิงสตันชี้ไปยังโต๊ะปิงปองหมากฝรั่งเกือบกระเด็นออกจากปากเมื่อเห็นวาเปลี่ยนท่าเป็นหยอดลูกสวนการตัดลูกอันรุนแรงของครอสไปอย่างแนบเนียน
มุมลูกตัดแทบจะอยู่ชิดขอบโต๊ะฝั่งซ้ายซึ่งยากที่จะเอื้อมตัวมารับได้ นับว่าเป็นการหยอดได้สวยงามและถูกจังหวะอย่างยิ่ง
“ เยี่ยม ” ลมดำคู่ซี้เก่ายิ้ม
แต่วาก็ต้องรีบตั้งท่าเตรียมรับลูกต่อไปเนื่องจากครอสวิ่งอ้อมโต๊ะมาอย่างรวดเร็วจากนั้นเผชิญหน้ากับวาในระยะเกือบจะประชิดที่มีเพียงแค่ตาข่ายกางขั้นอยู่อย่างท้าทายก่อนจะตวัดไม้ตบอย่างไม่ยั้งไปยังอีกมุมหนึ่งของโต๊ะปิงปอง
ไม่ว่าใครหากถูกตบโยกในระยะประชิดเช่นนี้ต้องถูกทำแต้มไปในเวลาไม่ถึงสองวินาที แต่วาไม่ยอมแพ้รีบออกตัววิ่งตามลูกปิงปองที่กระเด็นออกไปไกลแล้วก่อนจะตวัดไม้ตีในท่าย้อนหลังได้ทันส่งลูกกลับไปยังโต๊ะปิงปองได้อย่างเหลือเชื่อแต่ด้วยความที่ลูกตบนั้นเร็วก่อนไปกับท่าที่ตีสวนนั้นยากเกินไปทำให้ลูกปิงปองไม่ข้ามตาข่ายเสียแต้มไปอย่างน่าเสียดาย แต่ทุกคนก็ปรบมือให้กับความพยายามอันน่าเหลือเชื่อของวา
คราวนี้ครอสยิ้มออกมาแล้ว เป็นรอยยิ้มที่วาไม่อยากเห็นเลยจริงๆ จิตใจของวาเริ่มครุกรุขึ้นมา ลูกต่อไปหลังจากเสิร์ฟออกวาก็พยายามตบใส่ครอสอย่างไม่ยั้งแต่ก็ถูกสวนกลับมาได้ด้วยลูกตบจนเสียแต้มและเกมเสิร์ฟไปด้วยคะแนนหนึ่งต่อสี่
“ Calm down ! Don’t rush ! (ใจเย็นๆอย่าใจร้อน) ” อาจารย์พาทัมเมื่อเห็นวาเริ่มเข้าเกมฝั่งนั้นก็ป้องปากตะโกนบอกวา ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับพยายามตั้งสติให้ใจเย็นลง
วาแอบเหลือบไปทางสโนว์ที่นั่งอยู่กับสองทูตดำขาวก็พบว่าเธอทำหน้านิ่งราวกับไม่ได้สนใจอะไรการแข่งครั้งนี้นัก
คราวนี้เป็นตาเสิร์ฟของครอส เขาเดาะลูกปิงปองสองสามครั้งแล้วโยนลูกปิงปองขึ้นเสิร์ฟออกด้วยลูกความเร็วสูงไม่ต่างอะไรกันสไตล์การเสิร์ฟของวาเลยแม้แต่น้อย
“ เริ่มดูอะไรออกบ้างไหม ” โซลีนถามพรีสไซที่กำลังนั่งวิเคราะห์การเล่นของครอสอยู่
“ แทบไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด แค่มีการรุกรับที่พอดีเท่านั้นเอง แต่ว่าถ้าเทียบกับนายแล้วยังอ่อนกว่าขั้นหนึ่งด้วยซ้ำ ที่วาเสียแต้มเป็นเพราะใจร้อนไปก็เท่านั้นเอง ” พรีสไซขมวดคิ้ว แม้จะพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจลึกๆกลับสงสัยในความสามรถของครอสอยู่
ไม่ทันขาดคำครอสก็ตบลูกเอาแต้มจากวาไปได้อีกแล้ว
“ ทำไมถึงดูเล่นไม่ค่อยออกเลยนะ ” ซิลเวอร์เจ้าของลูกบูมเบอร์ลิสซึ่มแห่งโรงเรียนเกเบรียลสงสัยทั้งๆที่ฝีมือของครอสแม้จะน่ากลัวอยู่แต่ก็ไม่ถึงระดับที่จะทำให้วาต้องพลาดถึงขนาดนั้นได้ ถ้าเทียบกับตอนที่สู้กับตนแล้ววายังวาดลวดลายได้เหนือกว่านี้อีก
“ โดนนำทิ้งไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่ดีแน่ ” มุซาชิกล่าวกับเอจิส ซึ่งเอจิสก็พนักหน้ารับ ส่วนทรอนสุดยอดนักปิงปองที่หลับตาอยู่ตลอดเวลาขมวดคิ้วกล่าว
“ เสียงการตีของเขายังคงแฝงความลังเลอยู่ผมสัมผัสได้ ”
วาพยายามโต้ลูกของครอสเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรแม้จะเป็นแค่เพียงลูกธรรมดาแต่เขากลับไม่สามารถตั้งรับได้ ทั้งๆที่เขาสามารถเอาชนะยอดฝีมืออย่างเช่น ซิลเวอร์หรือแม้กระทั่งวิสด้อมมาได้
หลังจากไม่สามารถตบทำแต้มได้วาจึงเริ่มเปลี่ยนมาเป็นตั้งรับเพื่อหาจุดอ่อนของครอส แต่ไม่ว่ายังไงก็หาไม่พบ เขารู้สึกว่าความสามารถของครอสธรรมดาเกินไปเสียด้วยซ้ำแต่ทำไมเขาถึงผ่ายแพ้อยู่ลูกแล้วลูกเล่า
“ ฮ่าๆ เสร็จแน่ๆ ” ทูตขาวกวน
“ นี่หรอที่ได้ฉายาว่าปีศาจ ดูไม่ได้เลยจริงๆ ” ทูตดำเสริม
“ เจ้าสองตัวนั่นน่ารำคาญชะมัด ” วิสด้อมแม้จะเห็นสองทูตดำขาวจากอีกฝั่งของที่นั่งแต่ยังอดหัวเสียไม่ได้
ทางด้านวายิ่งคะแนนถูกทิ้งห่างก็ยิ่งกดดันขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับสองทูตดำขาวที่กล่าวกอกวนสมาธิยิ่งยากจะตั้งรับการรุกของครอส
คะแนนตอนนี้ปาเข้าไปสิบห้าต่อห้า ดูเหมือนว่าวาจะถูกนำโด่งจนเกินกว่าจะโต้คืนมาได้ง่ายๆแล้ว
เสียงเชียร์ฝั่งโรงเรียนเอสมอนเต้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่กี่ลูกครอสก็จะเป็นฝ่ายนำเกมแรก ซึ่งหากเกมต่อไปวายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่ต้องสืบเลยว่าผลจะออกมาเป็นยังไง
‘ ตั้งสติไว้ยังพอมีโอกาสอยู่ ’
ท่ามกลางเสียงปรบมือระหว่างรอเสิร์ฟลูกต่อไปวาก็พยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด จากนั้นพอวาเสิร์ฟลูกต่อไปออกก็พยายามหาช่องโหว่เพื่อเอาแต้มจากครอสให้ได้มากที่สุด แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าแต่ไม่ว่าจะมองยังไงช่องว่างของครอสก็มีอยู่เต็มไปหมด แต่เมื่อไหร่ที่วาตัดสินใจตีไปยังช่องว่างนั้นก็จะถูกตีสวนกลับมาได้อย่างประหลาดราวกับเป็นการจงใจเปิดช่องโหว่อย่างไงอย่างนั้น
‘ เปิดช่องโหว่ให้โจมตีอย่างงั้นหรอ ’จู่ๆวาก็นึกขึ้นมาได้ปรับหน้าไม้เปลี่ยนเป็นลูกหยอดแบบกะทันหัน แต่ก็ถูกครอสจับความเคลื่อนไหวได้ทันวิ่งเข้ามาประชิดพร้อมตบสวนกลับลูกหยอดวาอย่างรวดเร็ว
‘ ป๊อก ป๊อก ! ’
เสียงใสของไม้ปิงปองกระทบลูกปิงปองดังขึ้นสองครั้งติดต่อกันก่อนที่กรรมการจะขานคะแนนให้วาเป็นฝ่ายได้แต้มไป
ครอสยังคงยืนนิ่งแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีใครที่สวนกลับลูกตบของเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนั้น แถมเมื่อสักครู่ยังเป็นการตบที่ไม่น่าจะคาดเดาทิศทางได้เลย แต่วากลับสามารถทำได้
‘ นี่มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ เจ้านี่ไม่มีทางอ่านทางของเราได้หรอก ’ ครอสคิด
“ แผนนี้ไม่เลวเหมือนกันนี่ ” พรีสไซยิ้มแว่นตาเป็นประกายอดชื่นชมวาขึ้นมาไม่ได้ที่คิดแผนเช่นนี้ขึ้นมาได้ เมื่อสักครู่นั้นวาจงใจเปิดช่องโหว่เผื่อให้ครอสตบใส่ตนแบบที่เคยหยอดไปเมื่อครั้งแรกๆ และผลลัพธ์ก็คือวาตบสวนกลับแบบสายฟ้าแลบไม่ทันให้ครอสตั้งตัว แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยการคำนวณทิศทางไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว อีกอย่างหากครอสไม่ตัดสินใจตบไปทางเดิมย่อมไม่มีทางที่สวนกลับไปแบบนี้ได้ง่ายๆ แต่เป็นเพราะวาถูกครอสเล่นงานมาหลายสิบลูกแล้วจึงจับทางตบของครอสขึ้นมาได้
แต่พรีสไซอาจลืมไปว่าคนอย่างวาไม่เคยมีแผน ต่อให้มีแผนก็ไม่น่าจะคิดขึ้นมาได้ง่ายๆภายใต้ความกดดันของการแข่งขนาดนี้
“ พี่วาสู้ๆคะ ” ระรินสาวน้อยประจำชมรมปิงปองส่งเสียงเชียร์
ลูกต่อไปวาเสิร์ฟออกด้วยลูกวาร์ป แต่ก็ถูกครอสตบกลับมาด้วยความรวดเร็วทว่าเหตุการณ์ซ้ำเดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเสียงลูกปิงปองดังกระทบกันขึ้นสองครั้งโดยที่ครอสถูกวาตบสวนได้อย่างแม่นยำ
“ มันต้องอย่างนี้สิ ไม่ใช่ให้เขาได้ใจอยู่ฝ่ายเดียว ” วิสด้อมชูมืออย่างสะใจ
การตบกลับของวาเมื่อสักครู่รวดเร็วไม่ต่างกับการดวลปืนของคาวบอยเลยทีเดียว เป็นเพราะวาจำได้ว่าเมื่อตอนเสิร์ฟลูกที่สองถูกครอสตบสวนกลับมาหลังจากที่ครอสถูกทำแต้มน่าจะเกิดน้ำโหดังนั้นจึงตั้งสติตัดใจตบสวนกลับไปแบบดื้อๆ
“ เครื่องเริ่มติดแล้วสิเพื่อนเรา ฮ่าๆ ” มิวกำมือมีอารมณ์ร่วม ส่วนเบต้ากับพิชากินั่งดูนิ่งๆในโหมดประหยัดพลังงาน
จากนั้นวาอาศัยเทคนิคการสวนกลับแบบสายฟ้าแล่บจงใจเปิดช่องโหว่ให้ครอสแล้วสวนกลับทำแต้มตีตื้นขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ
ตอนนี้คะแนนคือ สิบเอ็ดต่อสิบเจ็ดถึงแม้ว่าครอสจะยังเป็นฝ่ายนำอยู่แต่การตีตื้นของวาก็สร้างความหวาดหวั่นให้แก่กองเชียร์ฝั่งเอสมอนเต้ได้ไม่มากก็น้อย
‘ ถ้าเป็นแบบนี้เรื่อยๆเราน่าจะชนะได้ ’
แต่ทันใดนั้นขณะที่วากำลังดีใจอยู่เมื่อเสิร์ฟลูกออกไปก็ถูกลูกตบอันรุนแรงของครอสโต้กลับมา แต่วาก็สวนกลับไปได้อย่างหวุดหวิด
‘ อะไรกัน ทำไมจู่ๆถึงรู้สึกว่าเจ้านั่นเปลี่ยนไป ’
ความคิดไม่ทันจะสิ้นสุดลูกตบความแรงสูงก็สวนกลับมาแบบสายฟ้าแลบเป็นเช่นเดียวกันกับที่วาเคยสวนกลับครอสไป มันรวดเร็วเกินกว่าที่วาจะคาดคิดได้ทำให้เขาเสียแต้มไปโดยไม่ทันที่จะตั้งตัว
“ นะ นั่น ท่าทางแบบนั้นมัน… ” เด็กชายผมทองที่นั่งถัดไปจากวิสด้อมสองที่เอ่ยปากขึ้นท่าทางตื่นตะลึงพอสมควร “ เหมือนกับตอนที่เอาชนะเราได้ไม่มีผิด ”
วิสด้อมหันขวับตรามเสียงไปก็พบว่าคนที่พูดคือ กัปตันชมรมโรงเรียนไวท์แฟง ฉายานกอมตะ นามว่า มัลโก้ ซึ่งมีความโดนเด่นในการสวนกลับคู่ต่อสู้แบบสายฟ้าแลบ แม้วิสด้อมจะไม่เห็นคนๆนี้อยู่ในสายตาแต่จากคำร่ำลือมาฝีมือการสวนกลับของคนๆนี้ร้ายกาจจนแม้กระทั่งเขาก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ คำพูดของมัลโก้ว่าท่าทางแบบนั้นที่เคยเอาชนะเขาได้ของครอสมันคืออะไรกัน
“ มาแล้วสินะ ฮ่าๆ ” ทูตขาวหัวเราะ
“ ใช่ๆมาแล้ว สุดยอดไม้ตายของครอสที่ต่อให้เป็นโซลีนก็ยังต้องคุกเข่าให้ ” ทูตดำเสริมท่าทางมีความสุข
‘ 11 -18 เอสมอนเต้ได้แต้ม ! ’
วาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่เขาเองก็คุ้นเคยแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ จากนั้นเสิร์ฟลูกเทเลพอตออกไป ซึ่งความเด่นของลูกเทเลพอตหรือลูกเสิร์ฟไม้ตายประจำตัวของพรีสไซก็คือ การที่ลูกจะกระเด้งอย่างรวดเร็วจนคล้ายกับลูกเคลื่อนที่ข้ามมิติเวลาแต่ข้อเสียก็คือลูกจะกระเด้งค่อนข้างแรงทำให้ลูกค่อนข้างลอยขึ้นสูงจึงมีโอกาสถูกตบกลับหรือใช้ลูกท๊อปสปินสวนเอาได้ง่ายๆ
‘ ป๊อก ’
ครอสสวนกลับด้วยลูกท๊อปสปินที่คล้ายกับลูกเทเลพอตแต่วาก็ตั้งรับไว้ได้ ทว่าก็ถูกครอสกระหน่ำตบกลับมาจนไม่มีโอกาสตั้งตัวทำได้เพียงแค่วิ่งรับลูกเท่านั้น
วารู้สึกยิ่งมาร่างกายของเขาเริ่มช้าลงๆไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ไม่สามารถตั้งรับครอสได้อีกล้ว ช่องโหว่ที่เคยมีของครอสบัดนี้หายไปหมดสิ้น
‘ 19 – 11 เปลี่ยนเสิร์ฟเอสมอนเต้’
จากนั้นไม่ว่าจะพยายามหาช่องโหว่หรือตั้งรับวาก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว ร่างกายรู้สึกเชื่องช้าถึงขีดสุด ซึ่งความจริงไม่ใช่ว่าร่างกายของเขาช้าลง แต่เป็นครอสและเกมต่างหากที่เร็วขึ้นจนร่างกายของเขาตามไม่ทัน และในที่สุดเกมเซทแรกก็ตกเป็นของครอสจนได้
เสียงปรบมือแสดงความยินดีและชื่นชมในความสามารถของครอสดังขึ้นไปทั่ว แต่ด้านกองเชียร์ของฝั่งวาก็ยังไม่ถอดใจช่วยกันปรบมือและส่งเสียงเชียร์มาตามๆกัน
“ ทำดีแล้ว ” โซลีนกล่าวปลอบใจขณะที่วาเดินกลับมาดื่มน้ำตอนพักหนึ่งนาที
“ ยังไหวอยู่นะ ” พรีสไซบีบไหล่กระตุ้นวาให้คึกคัก
“ สบายอยู่แล้ว ” วาฝืนยิ้ม แต่ในใจเริ่มหมดความหวังที่จะเอาชนะแล้ว ความรู้สึกนี้คุ้นๆเหมือนตอนที่เขากำลังจะแพ้ซิลเวอร์เมื่อรอบแรกชอบกล
“ ตั้งสติเข้าไว้ คุณยังพอมีโอกาสเอาชนะเขาอยู่ รอบแรกคุณมัวแต่ตั้งรับมากเกินไปในบางโอกาสตบสวนเขาไปบ้างก็ได้ แต่ก็อีกแหละพอใจร้อนเกินไปก็ถูกเขาโต้กลับมาได้ต้องระวัง ” พาทัมกล่าวจริงจัง
“ ขอบคุณครับ ” วารับคำไม่ว่ายังไงก็ยังไม่เห็นทางชนะ เขาเดินกลับไปยังโต๊ะปิงปองเพื่อเตรียมสู้ต่อในเซทที่สอง แม้จะรู้สึกสิ้นหวังอยู่บ้าง ทว่าในใจลึกๆความรู้สึกไม่ยอมแพ้ก็ยังคุกร่นอยู่
ครอสเดาะลูกปิงปองในมือสองสามทีจากนั้นเสิร์ฟลูกแรกของเซทที่สองออก
‘ Jet Coaster ! ’
ลูกเสิร์ฟความเร็วสูงที่พุ่งตรงเลียดจนเกือบจะชนตาข้ายวิ่งตรงเข้าหาวาอย่างน่าหวาดเสียว นี่เป็นครั้งแรกที่ครอสเริ่มเสิร์ฟลูกอันตรายเช่นนี้ออกมาหลังจากแข่งกับวามาเซทหนึ่งราวกับจงใจจะจัดการวาให้อยู่หมัดในการแข่งรอบนี้
‘ ไม่ยอมง่ายๆหรอก ’
วาสวนกลับไปด้วยลูกตัดความแรงสูง ลูกปิงปองโค้งเป็นวีถีอย่างสวยงามแต่ครอสก็สวนกลับไปได้ด้วยลูกชนิดเดียวกัน ถึงกับรวดเร็วกว่า จากนั้นสปีดของเกมก็ถูกเร่งขึ้นเรื่อยๆแต่คราวนี้ฝ่ายที่ตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดเจนก็คือวา
วากัดฟันวิ่งตามลูกแต่พยายามยื้อการรุกของครอสให้ได้อย่างถึงที่สุด ขณะที่เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มช้าลงทีละน้อยๆวาก็ตัดสินใจตบกลับไปอย่างไม่คิดชีวิตว่าลูกจะข้ามตาข่ายหรือไม่
พริบตานั้นลูกตบชนิดเดียวกันกับวิสด้อมพุ่งเข้าหาครอสอย่างเหลือเชื่อ
‘ ป๊อก ! ’
ทว่าไม้ปิงปองของครอสเหมือนมีระบบสวนกลับอัตโนมัติจู่ๆก็ตวัดสวนตบกลับไปได้เอาเสียดื้อๆ
‘ Autopilot (ระบบนักบินอัตโนมัติ) !!! ’
“ นั่นมันท่าไม้ตายประจำตัวของกัปตันนี่ เจ้านั่นเป็นพระเจ้าหรือยังไง ทำไมถึงสามารถใช้ออกมาได้ ” เสียงสมาชิกทีมโรงเรียกไวท์แฟงอุทาน ทางด้านมัลโก้เจ้าของลูกไม้ตายก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่ที่กำลังตะลึงตะลานจนหัวหมุนไปหมดแล้วก็คือวิสด้อมที่ได้ยินการสนทนาและเห็นการสวนกลับแบบไม่คาดฝันของครอสทั้งๆที่ลูกตบของวาลูกนั้นเขาเองยังยอมรับว่าร้ายกาจไม่แพ้เขาเลย
‘ 1-0 เอสมอนเต้ ! ’
“ เริ่มจะเข้าใจแล้วละว่าทำไมเจ้าหมอนั่นถึงได้น่ากลัว ” พรีสไซฉีกยิ้มแต่ในแววตากลับรู้สึกเจ็บปวดแทนวา
‘ แฮ่ก แฮ่ก ’
วาหอบหายใจลูกตบเมื่อสักครู่ครอสไม่น่าจะรับได้แท้ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้จะเอาอะไรมาชนะครอสได้
‘ Jet Coaster ! ’
ครอสเสิร์ฟลูกต่อไปในทันที วารู้สึกว่าลูกเสิร์ฟของครอสคล้ายกับลูกวาร์แของเขาดังนั้นการตบสวนจึงเป็นวิธีทำลายสูงคสามเร็วสูงชนิดนี้ได้ที่ดีสุด แต่ต้องอาศัยจังหวะและองศาหน้าไม้ที่พอดีไม่เช่นนั้นลูกจะแรงจนกระเด็นออกจากโต๊ะ และเมื่อได้จังหวะที่กะไว้วาก็ตวัดไม้ตบสวนกลับไปทันที แต่ก็ถูกครอสใช้ท่าเค้าเตอร์กลับมาได้
‘ Autopilot ! ’
การสวนกลับด้วยไม้ตายของมัลโก้จะเป็นการสวนกลับแบบเดียวกันกับลูกที่ตีมาทุกประการนี่คือ ความน่ากลัวของชายที่ได้ฉายาว่าเจ้าแห่งการสวนกลับนั่นเอง
วารีบปรับหน้าไม้ตั้งรับลูกเอาไว้ได้ทัน แต่ลูกที่สวนกลับช้าเกินไปจึงถูกครอสตบซ้ำย้ำมาอีกที
‘ รัตติกาล (Darkness) ! ’
ทันใดนั้นลูกตบประหลาดก็พุ่งเข้าหาวาหากดูไม่ผิดนั่นคือลูกท๊อปสปิน ทว่าพอลูกปิงปองสัมผัสกับโต๊ะฝั่งวาชะลอความแรงครู่หนึ่จากนั้นกระเด้งขึ้นแทนที่จะเด้งตรงออก
“ นั่นมันลูกท๊อปสปินไม้ตายของท่านคางคาวแห่งโรงเรียนผู้ดีเลดี้แบล๊คนี่ (Lady Black) ”
‘ 2-0 เอสมอนเต้ ! ’
วาต้องพลาดท่าให้แก่ลูกไม้ตายประหลาดๆถึงสองสามลูก แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเสียความมั่นใจแต่อย่างใดกลับกันไฟแห่งความฮึดสู้กลับค่อยๆสุมขึ้นมาทีละนิดๆโดยที่เขาไม่รู้ตัว
‘ บัตเตอร์ฟลายคิส (Butterfly Kiss) ! ’
ลูกตัดที่ลอยหมุนอย่างสวยงามคล้ายกับผีเสื้อที่กำลังกระพือปีกบินอยู่แต่รวดเร็วอย่างน่าตกใจพุ่งทำแต้มวาลูกแล้วลุกเล่า
“ ฮ่าๆ เละไม่เป็นท่าเลย ” ทูตขาวหัวเราะ
“ ใช่ๆ เละไม่เป็นท่าๆ ” ทูตดำเสริม
เกมนี้ต้องยอมรับว่าครอสโชว์ฝีมือได้อย่างน่าตกใจจริงๆ เหล่าบรรดานักกีฬาโรงเรียนอื่นๆทั้งที่เคยแข่งหรือไม่เคยแข่งกับครอสต่างพากันหวาดกลัวในฝีมือของครอสขึ้นมา ส่วนนักเรียนที่มาดูต่างพากันขนลุกไปกันการรุกอันดุดันที่ไม่เปิดโอกาสให้วาทำแต้มได้เลย
“ ขนาดลูกบัตเตอร์ฟลายคิสของเรฟ ฉายาจ้าวแห่งการตัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จตุรเทพของคิงยังใช้ออกมาได้อีกงั้นเรอะ ”
เสียงพึมพำจากนักเรียนที่นั่งดูใกล้ๆมิวดังขึ้น
‘ เจ้าหมอนั่นคงจะเก่งมากสินะ ’ มิวสีหน้ากลุ้ม ‘ แต่อย่ายอมแพ้นะวา ’
‘ 10 - 0 เอสมอนเต้ได้แต้มเปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
วารับลูกปิงปองมาแต่ในแววตายังไม่ยอมแพ้สบตากลับครอสที่ส่งสายตาท้าทายมาเย้ยหยัน
“ ล่อแล่จริงๆ ” ทูตขาวกล่าว
“ รีบๆแพ้ไปเถอะ ฮ่าๆ ” ทูตดำหัวเราะ
“ เฮ้ย ! ” วิสด้อมที่หมดความอดทนก็ตะโกนขึ้นท่ามกลางเสียงพึมพำของคนในห้อง “ สองคนนั้นช่วยเงียบหน่อยจะได้ไหม ไม่มีมารยาทเลย คนเขากำลังแข่งกันอยู่รบกวนสมาธิการแข่งหมด”
นักเรียนในห้องรวมทั้งวาหันไปมองยังวิสด้อม ทำเอาโทโมะปิดหน้าด้วยความปวดหัว แต่ก็ถูกของวิสด้อมเธอเองก็รำคาญเจ้าสองทูตดำขาวนี่พอควรเพราะตั้งแต่แข่งมาก็แสดงท่าทีเยาะเย้ยไม่หยุดจริงๆ
ขณะที่ห้องตกอยู่ในความเงียบเพราะไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป เสียงหนึ่งก็ตะโกนสนับสนุนขึ้นมา
“ ใช่แล้ว ช่วยหยุดก่อกวนนักกีฬาหน่อย หรือว่ากลัวจะแพ้กันเลยต้องทำอย่างนี้ ”
คนที่ตะโกนเสริมไม่ใช่ใครแต่เป็นมิวที่นั่งอยู่แถวที่นั่งด้านบนนั่นเอง มิวหันไปยิ้มให้กับวิสด้อมราวกับรู้กันดูเหมือนทั้งสองคนนี้จะมีอะไรบางอย่างเหมือนกันลึกๆ โชคยังดีที่วีวี่ไม่ได้นั่งอยู่ด้วยไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นก็ได้
“ พวกแกต่างหากที่กลัวจะแพ้ ” ทูตขาวตะโกนกลับ จากนั้นเหล่ากองเชียร์ฝั่งไกเซอร์ด้อมที่นิสัยไม่ดีบางคนก็ส่งเสียงเชียร์เป็นกองหนุน
“ แน่จริงมาดวลกันเลยไหมละ ” วิสด้อมลุกขึ้นชี้ไปยังฝั่งไกเซอร์ด้อม เสียงพึมพำดังขึ้นยกใหญ่
“ ใช่ แนร่จริงมาแข่งกีต้าร์กันไหมละ ” มิวเสริมขึ้นมาเลียนแบบวิถีของสองทูตดำขาวแต่ดูเหมือนจะไม่ตรงประเด็นสักเท่าไหร่
ความสนใจของคนทั้งห้องจึงตกไปที่การปะทะกันของฝั่งวิสด้อมและมิวกับสองทูตดำขาวไปโดยปริยายจนกรรมการต้องตักเตือนทั้งสองฝั่งให้ยุติความบาดหมางลดพร้อมกับกล่าวเตือนสองทูตดำขาวทำให้ทั้งคู่ต้องปิดปากอย่างไม่ยินยอม
เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อเหตุการณ์ดูสงบลง วาหันไปยิ้มเป็นการขอบคุณวิสด้อมแล้วก็มิวแม้ว่าจะรู้สึกกดดันแทนทั้งคู่ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นการเรียกสติและกำลังใจของเขากลับมาอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็รู้สึกว่ายังมีเหล่าเพื่อนที่ยังคอยอยู่ข้างเขา
“ คอยดูเถอะถ้าแพ้ขึ้นมาจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย ”ทูตขาวกอดอกกระซิบกับทูตดำ
ครอสดูเหมือนจะหัวเสียเล็กน้อยไม่ทราบเป็นเพราะถูกกองเชียร์ฝั่งวากล่าวหาหรือเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ขัดสมาธิของเขาก็ไม่ทราบ
“ สู้ๆนะครอส ” สโนว์ตะโกนให้ครอสขณะที่วากำลังจะเสิร์ฟลูกออกพอดี ทำให้วาเสียจังหวะไปวูบหนึ่งลูกที่เสิร์ฟออกจึงความเร็วตกไปวูบหนึ่ง
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ครอสไม่ได้ตบลูกกลับทั้งๆที่ระดับฝฝีมือของครอสน่าจะทำได้ไม่ยากเย็น เปิดโอกาสให้วาที่จิตใจเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาตบกลับไปได้ง่ายๆ ครอสรีบตั้งรับลูกตบของวาแต่ก็ทำได้เพียงแค่สวนกลับไปแบบปกติไม่ได้ใช่ลูกไม้ตายของมัลโก้แต่อย่างใด ทำให้วารีบกระหน่ำตบกลับไปอย่างมีคิดชีวิตหวังจะเอาแต้มขึ้นมาให้ได้
‘ 1-10 อับดุลอินเตอร์ ! ’
และและแต้มแรกจากเซทที่สองก็ถูกตีไข่แตก เสียงเชียร์ดังกระหึ่มขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะมิวกับวิสด้อมที่ผิวปากอย่างมีความสุขจนออกนอกหน้า
ไม่ทราบว่าวาคิดไปเองหรือเปล่าว่าความเร็วของครอสเริ่มตกลง ดังนั้นรู้สึกใจชื่นขึ้นมาลูกต่อไปจึงเสิร์ฟออกด้วยลูกวาร์ปจากนั้นโยกหลอกล่อครอสจนได้แต้ม
วาใช้ทั้งลูกล่อลูกชน ทำท่าทางหลอกล่อรบกวนสมาธิของครอสไปเรื่อยๆราวกับเป็นการเล่นแบบขำขำ พอได้โอกาสปิดบัญชีก็ตบทำแต้มไปได้อย่างสวยงาม ความน่ากลัวของครอสเมื่อสักครู่จู่ๆก็หายไปหมดสิ้นไม่ทราบเป็นเพราะอะไร จะมีเสียแต้มให้กับครอสบ้างก็เพราะวาเล่นจนตีติดตาข่ายเอง
‘ 18- 13 อับดุลอินเตอร์ ! ’
สโนว์แอบทำท่าไม่พอใจเล็กน้อย ส่งสายตาตำหนิสองทูตดำขาวที่เอาแต่เยาะเย้ยวาจนได้เรื่องขึ้นมา แต่ก็แอบยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อวาทำแต้มได้อาจเป็นเพราะมั่นใจว่ายังไงครอสก็ชนะกระมัง
“ ต้องงี้สิเพื่อน ยะฮู้วว ! ” มิวชูมือสะใจพอวีวี่ไม่อยู่ดูเหมือนจะทำตัวหลุดโลกได้เต็มที่
ขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของครอสที่จู่ๆก็กลายเป็นแพ้เอาเสียง่ายๆ ความรู้สึกแบบเดิมก็กลับมาอีกครั้งเมื่อครอสกลับมาสีหน้าจริงจังราวกับคนไร้ความรู้สึก
ขณะที่ชัยชนะกำลังอยู่แค่เอื้อมนั่นเองวาก็ถูกลูกท๊อปสปินประหลาดหรือก็คือ ลูกรัตติกาลที่จะพุ่งขึ้นฟ้าเมื่อสัมผัสพื้นโต๊ะเล่นงานเอา
‘ กลับมาแล้วสินะ ’ พรีสไซปั้นสีหน้าบอกไม่ถูก ‘ อีกแค่สามลูกแท้ๆถ้าสามารถทำเกมนี้ได้ก่อนก็ค่อยยังชั่วแต่ทำไมถึงไม่มั่นใจเลยนะ ’
ทางวาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆเช่นกันวิ่งตามสูงปิงปองที่พุ่งสูงราวกับดวงจันทร์ที่ลอยอยู่ยามรัตติกาลทว่าเสียงไฟเบื้องบนกลับส่องเข้าตาเขาพอดีทำให้ไม่สามรถมองเห็นลูกปิงปองได้ชัดนัก
‘ ป๊อก ! ’
ไม้ปิงปองคู่จับตวัดออกโต้ลูกไม้ตายของท่านค้างคาวที่ครอสนำมาใช้ได้อย่างเฉียดฉิว
‘ บัตเตอร์ฟลายคิส (Butterfly Kiss) ! ’
แต่ว่าก็ถูกครอสสวนกลับมาด้วยลูกไม้ตายของเรฟหนึ่งในสี่จตุรเทพของคิงที่มีการเคลื่อนไหวยากจะจับทางได้ทำแต้มไปได้อย่างน่าเสียดาย
จากนั้นครอสกระหน่ำใช้ลูกไม้ตายพิสดารออกเรื่อยๆ หากวาตบมาก็จะถูกโต้ด้วยระบบอัตโนมัติหรือ ลูกออโต้ไพลอตของมัลโก้ที่เคยถูกทิ้งห่างก็ค่อยๆตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆอย่างน่ากลัว
‘ 18-18 เอสมอนเต้ ! ’
‘ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปแพ้แน่ๆ ’ วาเริ่มรู้สึกร่างกายช้าลงทีละนิดๆอีกครั้ง
‘ 19-18 เอสมอนเต้ ! ’
สองทูตดำขาวหรือทำท่าดีใจอย่างออกนอกหน้าตระเตรียมลุกขึ้นแสดงความยินดีในชัยชนะ
‘ Jet Coaster ! ’
ลูกเสิร์ฟความเร็วสูงประจำตัวครอสพุ่งเข้าหาวา ความจริงวาอยากจะตบสวนกลับไปแต่หากทำเช่นนั้นต้องถูกครอสใช้ออโต้ไพลอตสวนกลับมาแน่ๆ แต่หากไม่ทำเช่นนั้นก็จะถูกตีมาด้วยลูกบัตเตอร์ฟลายคิสหรือไม่ก็ลูกรัตติกาลแน่ ดังนั้นสลัดความคิดทุกอย่างทิ้งในเสี้ยววินาทีตบกลับไปในทันที
‘ Autopilot !’
จริงดังคาดลูกสวนกลับที่รวดเร็วราวสายฟ้าแลบก็พุ่งเข้ามาวาอย่างในเสี้ยววินาที แต่คราวนี้วาไม่ยอมแพ้ตวัดไม้กลับแบบไม่คิดโต้ลูกสวนกลับสายฟ้าแลบนั้นไปได้ แต่ก็ถูกครอสสวนกลับมาแถมยังเร็วกว่าครั้งที่แล้วอีก
‘ ไม่ยอมหรอก ! ’
วาตวัดไม้ออกแบบเสี่ยงดวงจากนั้นทั้งคู่จึงเร่งความขึ้นเป็นความเร็วที่ยิ่งกว่าการโต้กันในเซทแรกเสียอีกเพราะเป็นการตบสวนกันไปมา หากวายอมเสียแต้มนี้ไปเกมนี้ต้องตกเป็นของครอสอย่างแน่นอนเพราะลูกต่อไปเขาคงไม่มีสมาธิพอที่จะกล้าเสี่ยงขนาดนี้แล้ว
ทุกคนที่เชียร์วาอยู่ต่างพากันนิ่งเงียบลุ้นจนตัวโก่ง ทางด้านวาขณะนี้กลับเริ่มไม่ได้ยินเสียงรอบข้างแล้วสมาธิทั้งหมดจับจ้องยังลูกปิงปองและครอสที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น จากนั้นเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มช้าลงสงสัยว่าครอสคงเริ่มจะหมดแรงแล้วจึงออกแรงฮึดฝืนตบกลับไปจนในที่สุดจังหวะก็มาถึง
‘ Unreturned ! ’
พริบตานั้นลูกตบที่รุนแรงราวเปลวอัคคีที่สามารถแผดเผาทุกสรรพสิ่งให้เป็นจุลที่คล้ายกับท่าไม้ตายของวิสด้อม พุ่งข้ามตาข่ายไปอย่างรวดเร็ว
‘ Autopilot ! ’
ทางด้านครอสใช้ออกด้วยท่าไม้ตายระบบอัตโนมัติของมัลโก้ทว่ากลับไม่สามารถสวนกลับลูกตบความแรงสูงนี้ไปได้หรือจะพูดอีกย่างหนึ่งก็คือไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ก็เป็นได้
‘ 19-19 อับดุลอินเตอร์ได้แต้ม ! ’
วิสด้อมถึงกับอ้าปากค้างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ส่วนซิลเวอร์ฉีกยิ้มขึ้นมานั่นก็เพราะเขาจำท่าทางแบบนั้นของวาได้ดี
‘ ปีศาจได้ตื่นขึ้นแล้ว ! ’
ครอสทำท่าไม่สบอารมณ์แต่ก็เสิร์ฟออกด้วยลูกความเร็วสูงเหมือนเช่นเคย วาตบกลับไปนทันทีแต่ก็ถูกโต้กลับมาด้วยออโต้ไพลอตในทันที คราวนี้วาระวังตัวกลัวว่าหากฝืนตบไปอีกอาจพลาดท่าได้จึงจงใจใช้ลูกตัดออกไป
‘ Butterfly Kiss ! ’
ทว่าลูกตัดของวากลับถูกครอสโต้กลับมาด้วยลูกตัดที่เหนือกว่าได้ ลูกปิงปองพอลอยข้ามตาข่ายก็หมุนอย่างไร้ทิศทางราวกับผีเสื้อแต่วารู้สึกว่ามันเชื่องช้าเฉกเช่นกับผีเสื้อเช่นกันดังนั้นตบลูกกลับไปได้อย่างง่ายดาย
‘ Autopilot ! ’
หากครอสไม่มีเทคนิคนี้คงจะต้องพลาดท่าแก่วาไปแล้ว ลูกบัตเตอร์ฟลายคิสไม่ใช่ลูกที่ใครจะสวนกลับมาได้ง่ายๆเพราะเป็นถึงลูกไม้ตายของหนึ่งในสี่จตุรเทพของคิงซึ่งยังร้ายกาจกว่าลูกแบล๊คโฮลของคิงสตันเสียอีกแต่วาก็สามารถสวนกลับมาได้ในที่สุด ไม่เพียงแค่สวนกลับแต่ยังตบกลับไปอีกด้วย
ทั้งคู่ปะทะกันอย่างดุเดือดแต่คราวนี้ผิดกันตรงที่วาเป็นฝ่ายได้เปรียบเล็กน้อย ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรวารู้สึกว่าเขาสามารถตามลูกของครอสได้ทันไม่เหมือนตอนก่อนหน้านี้
‘ 21-19 เกมอับดุลอินเตอร์ ! ’
ในที่สุดเกมเซทที่สองก็ตกเป็นของวาราวปาฏิหาริย์ เล่นเอาสองทูตดำขาวที่เตรียมลุกขึ้นเฮต้องนั่งเงียบตกอยู่ในความสงสัย
‘ ไม่เคยมีใครสามารถไล่ต้อนครอสในสภาพนั้นได้ถึงขนาดนี้ ’ ทูตดำปั้นสีหน้าเคร่งเครียด
‘ ฉายาปีศาจไม่ได้ตั้งมาเล่นๆจริงๆ ’ ซิลเวอร์ยิ้ม
‘ แต่ว่าผู้ที่ได้ฉายาว่าเทพก็คงจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปง่ายๆหรอก ’ มัลโก้กัปตันโรงเรียนไวท์แฟงที่เคยผ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้แก่ครอสรู้ดี
เกมในเซทต่อไปไม่ว่าใครก็ดูไม่ออกจริงๆว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
อีกด้านหนึ่งที่ห้องประลองอาวุธหลังจากชายปริศนาเซถอยร่นไปไซโคร แนชก็สัมผัสได้ถึงรังสีกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมารีบกางแขนออกสั่งให้ทุกคนถอยไป
“ พวกนายทุกคนรีบลงไปจากเวทีนี้ซะ ”
แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์พลังแห่งความเกรี้ยวกราดพุ่งเข้าเล่นงานทุกคนที่ยืนอยู่ ณ ที่นั้น
“ จงมาหาข้าเดธไซส์ (Death Scythe) ! ”
ชายในชุดดำปริศนายื่นแขนออกไปเคียวที่หุบอยู่ในรูปของกระบองหรือในอีกนามว่าเดธไซส์อาวุธอันน่าสะพรึงกลัวของบมทูตก็เคลื่อนที่เข้ามาหาชายปริศนาราวกับมีชีวิต
‘ ชิ้ง ! ’
จากนั้นกระบองสีดำกางออกเป็นเคียวยมทูตชวนขนหัวลุกแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความตาย
“ อันตราย ! ”
ไซโคร แนชตะโกนเมื่อเห็นชายปริศนากวาดเดธไซส์ใส่พวกตนที่ไร้ซึ่งชุดเกราะป้องกัน
‘ แอ๊ด ! ’
ทว่าเดธไซส์กลับง้างอยู่กลางอากาศไม่สามารถตวัดลงมาได้ราวกับถูกชักใยไว้
“ ในฐานะของหนึ่งในกรรมการการแข่งขันครั้งนี้ขอให้ยุติการวิวาทครั้งนี้ลงซะเนื่องจากคู่ต่อสู้ยังไม่ได้รับการใส่ชุดเกราะอาจจะเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ หากยังไม่เชื่อฟังจะถูกปรับแพ้ในทันที ”
ชายหนุ่มในชุดเกราะป้องกันที่ไขว่มืออยู่ด้านหลังไซโคร แนชกล่าวขึ้นด้วยเสียงสุขุมแต่แฝงไปด้วยอำนาจ หากพลังจิตมีจริงการที่เดธไซส์ถูกหยุดลงคงจะต้องเป้นฝีมือของชายคนนี้ออย่างแน่นอน ทว่านั่นไม่ใช่พลังจิตแต่เป็นด้ายใสความทนทานสูงที่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ประธานนักเรียนซาโต้นั่นเอง !
“ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะไซโคร แนช ” ซาโต้กล่าวทักทาย
___________________________________________
ความคิดเห็น