คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #82 : บทเรียนที่ 76 เจ้าหญิงและเจ้าชายกับงานเฉลิมฉลองอันสมเกรียติ
บทเรียนที่ 76 เจ้าหญิงและเจ้าชายกับงานเฉลิมฉลองอันสมเกรียติ
ไซโคร แนชพยายามทรงตัวให้มั่นตรวจสอบสติและสภาพร่างกายตัวเองคร่าวๆก่อนจะค่อยๆสืบเท้าไปข้างหน้า วินเซนต์ก็เช่นกันควงเคียวไปมาอย่างเชื่องช้าเนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บจากสายฟ้าแห่งเทพอยู่
สภาพของทั้งคู่ดูทุลักทุเลไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เดินเป็นวงกลมดูเชิงกันเพื่อรอจังหวะในการลงมือที่ดีที่สุดเพียงจังหวะเดียวเท่านั้น
นี่เป็นการต่อสู้ที่เร้าใจที่สุดเท่าที่วาเคยเห็น การรอจังหวะลงมือของทั้งคู่ตื่นเต้นกว่าเมื่อตอนที่เขาดูดีว่าประลองกับไซโคร แนชเมื่อนานมาแล้วแบบเทียบไม่ติด
การหยั่งเชิงกันของทั้งคู่แม้จะเชื่องช้าที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเห็นมา แต่กลับแฝงถึงพลังกดดันมากมายมหาศาล เพียงจังหวะเดียวเท่านั้นที่จะตัดสินความเป็นความตายในศึกครั้งนี้ ใครกันที่จะเป็นฝ่ายได้ชัยไป
ห้องทั้งห้องเงียบกริบพลังสมาธิที่แผ่ออกมาจากทั้งคู่ทำให้นักเรียนและผู้ชมทั้งหมดต่างไม่มีใครกล้าปริปากออกมาเพราะเกรงว่าจะรบกวนสมาธิของทั้งคู่
ห้องทั้งห้องขณะนี้เงียบถึงขั้นแม้มีเข็มเพียงเล่มเดียวตกลงมาก็สามารถได้ยิน
หากเป็นนักเรียนที่นั่งอยู่บริเวณหน้าเวทีสามารถได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังผ่านหน้ากากป้องกันทั้งสองได้อย่างชัดเจน
‘ หนึ่งต่อหนึ่งร้อยอย่างนั้นเรอะ ช่วยแสดงปาฏิหาริย์ให้ผมเห็นทีเถิดครับเจ้าชาย ’ เกก้าดีนเบิกตากว้างด้วยความศรัทธาตื่นเต้นจนขนลุกไปทั่วตัว
ระยะห่างของทั้งคู่ร่นเข้าหากันจนอยู่ในระยะลงมือแล้ว
พริบตานั้นเคียวยมทูตหมุนเป็นวงฟาดใส่ร่างของไซโคร แนช
‘ เกร้ง ! ’
ประกายไฟปรากฏขึ้นจากการปะทะของอาวุธทั้งสอง
ไซโคร แนชอาศัยจังหวะตั้งรับพร้อมใช้ดาบกางเขนในมือขวาแทงสวนใส่ร่างของวินเซนต์ แต่วินเซนต์ถอยร่นหลบได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นทั้งสองแยกออกจากกันเพื่อหาจังหวะโจมตีอีกครั้ง
ทั้งคู่ในตอนนี้คล้ายนักรบสมัยโบราณที่ตัดสินกันเพียงแค่ดาบเดียวเท่านั้น แต่สำหรับไซโคร แนชแค่ถูกสะกิดเบาๆไม่ว่าจะเป็นหมัดหรือเท้าก็ต้องแพ้แล้ว แต่ทางวินเซนต์ก็ไม่กล้าประมาทเพราะหากถูกสวนกลับมาได้ก่อนพลังชีวิตเพียงหนึ่งร้อยย่อมไม่เพียงพอต่อการรับการโจมตีจากดาบกางเขนคู่เป็นแน่
‘ วินเซนต์แชมป์การประลองอาวุธสี่สมัยรวดผู้ไม่เคยมีใครเอาชนะได้มาก่อน ฉายาจ้าวนครยูโทเปีย ถนัดการใช้วิชาจิตมายาในการหลอกล่อและทำลายขวัญของคู่ต่อสู้ ’ ซาโต้คิดถึงประวัติของวินเซนต์ที่สืบมาได้ระหว่างชมการต่อสู้ ‘ ว่ากันว่าในทุกอิริยาบถและการกระทำแฝงพลังในการสะกดจิตคู่ต่อสู้ไว้อยู่ ’
ไซโคร แนชไม่สามารถรับรู้ได้ถึงข้อนี้ ที่เขาต้องพลาดท่าให้แก่วินเซนต์หลายต่อหลายครั้งเป็นเพราะวิชามายาจิตประสานกับฝีมือที่แข็งแกร่งของวินเซนต์ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ถึงรู้ไปก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาอีกแล้ว เขารู้เพียงแต่ต้องรีบล้มวินเซนต์ให้เร็วที่สุดก่อนที่ร่างกายของเขาจะไม่สามารถรับสภาพได้อีก
ยิ่งจับจ้องร่างของวินเซนต์ยิ่งรู้สึกมึนงง เคียวยมทูตที่หมุนควงไปมาคล้ายกำลังแยกออกมาเป็นสองอัน วินเซนต์เริ่มใช้วิชาจิตมายาใส่เขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ไซโคร แนชในตอนนี้ไม่สามารถใช้วิชาจากปราณสายฟ้าได้อีก เพียงทรงตัวให้ยืนอยู่ได้ยังนับว่าลำบาก เมื่อเจอวิชาจิตมายาของวินเซนต์เข้าจึงเริ่มถูกสะกดทีละนิดๆ แต่โชคยังดีที่ทางด้านวินเซนต์ก็อ่อนแรงลงเหมือนกัน ทำให้วิชาสะกดจิตไม่ได้ผลเท่าที่ควร
‘ ถ้าเราใช้ชั่วร้ายกลับคืนได้อีกครั้งละก็… ’ วินเซนต์ลอบโคจรพลังสะกดจิตตัวเองที่เรียกว่า ‘ชั่วร้ายกลับคืน’ ขณะควงเคียวไปมาแต่ไม่เป็นผล พลังสายฟ้าแห่งเทพรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะใช้วิชานี้ได้
‘ชั่วร้ายกลับคืน’ คือหนึ่งในสุดยอดวิชาไม้ตายของวินเซนต์หรือจะเรียกว่าเป็นวิชาสะกดจิตตัวเองเพื่อเพิ่มพลังและสะกดอาการบาดเจ็บของร่างกายให้แก่ผู้ใช้ราวกับเกิดใหม่ได้ไม่ต่างกับรีเจนเนเรเตอร์ของพาลาดิน เพียงแต่ผู้ใช้จำเป็นต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษมิเช่นนั้นอาจเกิดผลกระทบถึงระบบความคิดและอาจสูญเสียความสามารถในการรับรู้ไปได้หากใช้ออกผิดพลาด
อีกเหตุผลหนึ่งที่วินเซนต์ไม่อาจใช้ชั่วร้ายกลับคืนอีกครั้งได้อาจเป็นเพราะศรัทธาของไซโคร แนชที่ท่วมท้นออกมาทำให้จิตของเขาลดท่อนความฮึดเหิมลง ประกอบกับการที่รีน่าจู่ๆก็ลุกขึ้นมาได้แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาแต่นั่นก็ทำให้จิตใจของวินเซนต์สั่นคลอนไปมาก
ไซโคร แนชยิ่งมายิ่งรู้สึกมึนงง แต่พยายามประคองสติกระชับดาบในมือให้มั่น เขาจะพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เพราะวินเซนต์คอยจับจ้องหาช่องโหว่เพื่อลงมืออยู่ทุกเมื่อ
ขณะที่แขนเริ่มอ่อนล้าลงเพราะวิชามายาจิตของวินเซนต์ ที่เบื้องหลังวินเซนต์บริเวณที่นั่งแถวหน้าสุดนั้นไซโคร แนชก็บังเอิญเหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวใส่หมวกแก๊ปที่ถูกแสงของดวงดาราส่องเข้ามาวูบหนึ่ง ทันใดนั้นความรู้สึกบางอย่างก็แล่นเข้าสู่ห้วงสำนึกพร้อมกับวินเซนต์ที่ลงมือมาในจังหวะเดียวกัน
‘ ฟับ ! ’
ร่างของวินเซนต์ที่โหมฟันเคียวเข้ามาบดบังร่างของหญิงสาวคนนั้นมิด ความรวดเร็วในการลงมือนับว่าเป็นน่าที่หวาดกลัวยิ่งนัก
‘ จิตเข้มแข็ง ! ’
พริบตานั้นดาบกางเขนคู่ทั้งสองข้างประทับเข้าหากันตั้งรับการโจมตีจากเคียวปีศาจได้อย่างหวุดหวิดเพราะปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติที่พลันทำงานขึ้นมาได้ราวกับปาฏิหาริย์
การตั้งรับครั้งนี้นับว่าอยู่เหนือความคาดคำนวณของวินเซนต์อยู่พอสมควร แต่ด้วยความเป็นยอดฝีมือวินเซนต์จึงไม่ใส่ใจมากความออกแรงดันหวังทะลวงการตั้งรับของดาบกางเขนคู่พร้อมจบพลังชีวิตของไซโคร แนชลง
ไซโคร แนชเอียงตัวไปด้านหลังเพื่อหลบให้พ้นจากปลายแหลมของเคียวที่ห่างจากหน้าของเขาเพียงไม่กี่มิลเท่านั้น พร้อมออกแรงดันสู้กับเคียวยมทูต
‘ กึก ’
แม้วินเซนต์จะออกแรงมากเพียงใดก็ตาม ดาบกางเขนคู่กลับไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย แต่ในสายตาของคนดูต่างอดใจหายไม่ได้
วินเซนต์เริ่มรู้สึกถึงพลังจากดาบกางเขนคู่ที่เริ่มดันเคียวยมทูตของเขากลับมา
ไซโคร แนชกัดฟันใช้เท้าขวายันตัวเองไปด้านหน้าเพื่อต้านพลังอันมหาศาลของวินเซนต์ จากนั้นเทพลังไปยังดาบกางเขนคู่ยันเคียวยมทูตกลับขึ้นมาทีละน้อยๆ
‘ ไม่ผิดแน่ ’
เท้าของวินเซนต์ถอยครูดไปด้านหลังด้วยแรงยันของไซโคร แนช
‘ ที่ด้านหลังนั้นความฝันที่เราเฝ้ารอคอยมาตลอดทุกขณะจิตกำลังรออยู่ตรงนั้น ! ’
‘ บ้าน่า ’ วินเซนต์ตะลึง พลังของดาบกางเขนคู่ยิ่งมายิ่งเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ไซโคร แนชถูกอัดจนอยู่ในสภาพขนาดนั้นแถมยังถูกวิชามายาจิตของเขาเข้าไปแล้วแท้ๆ
‘ เกร้ง ! ’
พริบตานั้นดาบกางเขนคู่ผลักเคียวยมทูตออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ วินเซนต์เซเสียการทรงตัวไปวูบหนึ่ง
ไซโคร แนชไม่รอช้าออกแรงใช้ดาบกางเขนคู่ฟันใส่ร่างของวินเซนต์ที่ไร้การป้องกัน นักเรียนหลายอุทานออกมาอย่างหวาดเสียว
‘ เกร้ง !!! ’
วินเซนต์อาศัยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีตวัดเคียวกลับมาใช้ส่วนลำตัวของเคียวตั้งรับการโจมตีอันหนักหน่วงของไซโคร แนชได้อย่างทันถ่วงทีสมกับเป็นแชมป์การประลองสี่สมัยที่กัดไม่ปล่อยจริงๆ
แต่ด้วยการโจมตีที่หนักหน่วงเคียวยมทูตถึงกับหักออกเป็นสองท่อน
‘ ฟึ่บ ! ’
วินเซนต์เอี้ยวตัวหลบการโจมตีของดาบกางเขนคู่ได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด ก่อนที่จะทำสิ่งที่ไม่คาดฝันทุกผู้คนขึ้น
พริบตาที่เคียวบมทูตหักออกเป็นสองท่อนนั้น ไซโคร แนชก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างนั่นก็คือ แม้เขาจะออกแรงอย่างหักโหมแต่ก็ไม่น่าถึงขั้นฟันเคียวที่แข็งแกร่งขนาดนั้นออกเป็นสองท่อนได้ด้วยสภาพร่างกายเช่นนี้
เคียวยมทูตที่หักออกเป็นสองท่อนกลายสภาพเป็นกระบองคู่ฟาดเข้าสีข้างทั้งสองของไซโคร แนช
‘ รีเฟรกชั่น ! ’
ดาบกางเขนคู่ตั้งรับกระบองสองท่อนที่แยกย้ายจู่โจมเข้ามาได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นเคียวยมทูตที่กลายสภาพเป็นกระบองสองท่อนในมือซ้ายและขวาของวินเซนต์ก็ฟันซ้ายทีขวาทีใส่ร่างของไซโคร แนชอย่างว่องไว
เคียวยมทูตหรือเดธไซต์ความจริงทำมาจากดาบคู่อาวุธคู่ใจของวินเซนต์ที่ใช้คว้าแชมป์มาถึงสี่สมัยเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ตั้งใจจะกำจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดที่ทำร้ายรีน่ารวมถึงไซโคร แนชด้วย ซึ่งออกแบบมาให้สามารถแยกออกเป็นสองท่อนได้แต่วินเซนต์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นจะต้องใช้มันจริงๆจนกระทั่งไซโคร แนชได้แหกกฎความเป็นไปได้ทุกข้อขึ้น
ด้วยการลงมือที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน ไซโคร แนชในสภาพเช่นนี้ไม่สมควรตั้งรับได้ถึงขนาดนี้ ต่อให้อยู่ในสภาพสมบรูณ์ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถทำได้ แต่ด้วยแรงศรัทธาในจิตใจที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่ขอยอมแพ้ทำให้ปฏิกิริยารีเฟรกในร่างกายเกิดทำงานขึ้นมาโดยอัตโนมัติผสานกับความทรงจำที่เคยฝึกฝนวิชาดาบคู่ทำให้ร่างกายสามารถแยกประสาทตั้งรับการโจมตีทั้งซ้ายขวาของวินเซนต์ได้อย่างอัศจรรย์
ตั้งแต่ต่อสู้มาวินเซนต์ไม่เคยพบคู่ต่อสู้คนไหนสามารถต้านทานเพลงดาบคู่ของเขาได้ถึงขนาดนี้มาก่อน เพลงดาบคู่ที่เคยเอาชนะพยัคฆ์ร้ายแห่งซอรอนที่มีพละกำลังร้ายกาจเสียยิ่งกว่าสเวนและเพลงดาบอันดุดันในการประลองรอบชิงชนะเลิศเมื่อสี่ปีที่แล้ว ใช้เอาชัยซากุระปราณกระบี่บุผาในรอบชิงชนะเลิศเมื่อสามปีที่แล้ว เคยปราบจินผู้ใช้หอกได้ราวกับพายุเมื่อสองปีที่แล้ว แต่กลับไม่สามารถทำอะไรไซโคร แนชที่เคยผ่ายแพ้ไม่เป็นท่าให้กับพวกกระจอกอย่างแก๊งเอ็ดดี้เมื่อครั้งกระโน้นมาแล้วได้
ยิ่งไซโคร แนชที่ไม่รู้ว่าอาวุธที่แท้จริงและสันทันที่สุดของเขาคือดาบคู่แล้วด้วย ขนาดเกิดเหตุการณ์พลิกแพลงถึงขีดสุดขนาดนี้ยังสามารถตั้งรับได้อย่างไม่บกพร่องวินเซนต์ถึงกับยอมรับในฝีมือขึ้นมา ทั้งๆที่ในหัวใจของเขาไม่อาจยอมรับชายคนนี้ได้เด็ดขาด
กระบองในมือซ้ายของวินเซนต์บริเวณด้านบนแตกออกด้วยกลไกอัตโนมัติปรากฏเป็นดาบ ส่วนกระบองในมือขวาที่เป็นหัวเคียวก็ตั้งตรงขึ้นเป็นดาบเช่นกัน รวมแล้วเป็นดาบยาวเล่มหนึ่งและสั้นเล่มหนึ่งผลัดเปลี่ยนจู่โจมใส่ดาบกางเขนคู่
‘ นั่นมันดาบคู่แห่งความฝัน ยูโทเปียไนท์แมร์ (Utopia Nightmare) ! ’
ไม่เพียงแต่ซากุระที่รู้จักอาวุธชิ้นนี้เป็นอย่างดี แต่เหล่าผู้ที่คลุกคลีในวงการการประลองอาวุธทุกคนไม่อาจไม่รู้จักมัน เพราะนั่นคือหนึ่งในสุดยอดศาสตราวุธที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมาในการประลองและยังไม่เคยมีผู้ใดสามารถเอาชัยดาบคู่ที่ยาวเล่ม สั้นเล่มนี้ได้
ทันใดนั้นตัวตนที่แท้จริงของวินเซนต์ก็ถูกเปิดเผยสร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนที่รู้เป็นอย่างยิ่ง แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่อาวุธที่ถืออยู่ในมือนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะข่มขวัญทุกคนได้ แต่ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องที่มาที่ไปนั้นการต่อสู้ที่ระทึกใจทุกขณะจิตบนเวทีก็เรียกความสนใจทั้งหมดไป
ทั้งคู่ประดาบกันอยู่ประมาณสิบกระบวนท่าไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถเอาชัยได้ ดังนั้นถอยร่นออกห่างกันเพื่อดูเชิงอีกครั้ง
“ รุ่นพี่แข็งแกร่งจริงๆ ” ดีว่าเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว แม้เขาจะไม่เคยเห็นวินเซนต์ในการประลองที่ผ่านมาแบบจริงๆจังๆเพราะตอนนั้นเขายังเด็กอยู่เลยไม่ได้สนใจ แต่เมื่อเริ่มศึกษาก็ได้ยินถึงชื่อเสียงของมันถึงกับเคยคิดกับตัวเองว่าหากต้องเผชิญหน้ากับดาบแห่งความฝันนี้ตัวเองจะสามารถต่อกรได้ถึงสามกระบวนท่าหรือไม่
โซเฟียเองก็มีความคิดไม่ต่างอะไรกับดีว่านัก ได้แต่ทึ่งไม่แปลกใจเลยที่พวกเธอไม่สามารถต่อกรกับชายลึกลับคนนี้ได้
ทว่าความสงสัยมากมายก็ผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ทำไมแชมป์สี่สมัยถึงได้ลงมืออย่างโหดร้ายกับไซโคร แนชได้ถึงขนาดนั้น ทั้งๆที่วินเซนต์ที่เธอเคยได้ยินมาเป็นนักรบที่มีเกรียติ แต่หวนนึกถึงตอนที่ชายปริศนาให้โอกาสเธอไม่ยอมลงใส่ผู้หญิงก็ทำให้เธอคิดว่าไม่น่าผิดตัวแต่ก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าชายคนนี้จะใช่วินเซนต์จริงๆหรือ
“ คะ คุณโคทาโร่ครับ ดาบนั้นมัน ” มาซาซึมุเหงื่อตกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ ไม่ผิดแน่ ในที่สุดมันก็เผยร่างที่แท้จริงออกมาแล้ว วิญญาณชั่วร้ายที่น่ากลัวยิ่งกว่าโนบุนากะ ชายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติการต่อสู้ วินเซนต์ ดี เกบรีเอล จ้าวนครยูโทเปียที่ผู้ใดเมื่ออยู่ต่อหน้าก็หลงเหลือเพียงแค่ความฝันเท่านั้นที่จะเอาชัยได้ ”
วีวี่ที่ได้ยินบทสนทนาของนินจาจอมป่วนทั้งคู่จู่ๆก็ขนลุกขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่อให้รู้ตัวจริงไปก็เท่านั้นเพราะผลตัดสินกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่กี่อึดใจนี้แล้ว
เหล่านักเรียนไกเซอร์ด้อมส่วนใหญ่รู้จักดาบคู่ทั้งสองนี้ดีต่างพากันตะโกนเชียร์ขึ้นมาด้วยความฮึกเหิมเมื่อสุดยอดอาวุธที่ไร้เทียมทานจากแชมป์สี่สมัยที่หายตัวไปปรากฏขึ้น
“ ฮ่าๆๆๆ สนุกจริงๆ ” เกก้าดีนคลั่งเก็บอาการตื่นเต้นไม่อยู่ “ สุดยอดนักรบทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างสมศักดิ์ศรีช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเหนือจริงๆ นี่ต้องเป็นการประลองที่ถูกกล่าวขานไปอีกนานแสนนานแน่ ”
“ วินเซนต์ ดี เกรบรีเอล ” ไซโคร แนชเอ่ยขึ้นเบาๆ “ ที่แท้ก็เป็นนาย ”
ในตอนนี้ไซโคร แนชรู้ถึงสาเหตุว่าทำไมเขาถึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของวินเซนต์แล้ว แต่ที่เขายังไม่รู้คือความสัมพันธ์ระหว่างวินเซนต์กับรีน่า และถึงแม้จะรู้ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางให้ถอยอีกแล้ว
“ เฮอะ ” วินเซนต์เค้นหัวเราะเย็นชา “ รู้ตัวตอนนี้มันก็สายไปแล้ว จงยอมศิโรราบเสีย ”
วินเซนต์ย่อตัวลงง้างดาบยาวไปด้านหลัง ส่วนดาบสั้นในมือซ้ายยกขึ้นด้านหน้าเป็นท่าป้องกัน แต่หากใครรู้ที่มาที่ไปจริงๆนี่คือการตั้งท่าของสุดยอดเพลงดาบไม้ตายที่โค่นยอดฝีมือมานักต่อนักแล้ว เพลงดาบที่ทำให้คู่ต่อสู้รู้สึกราวกับกำลังตกอยู่ในความฝัน
‘ ทลายสวรรค์ (World end) ! ’
ดาบแห่งความฝันทั้งสองเล่มสะท้อนแสงน่าเกรงขาม ไม่ว่าใครเมื่อเผชิญหน้าเพลงดาบนี้ก็ต้องผ่ายแพ้หมดสิ้นหนทางเอาชัย แม้ความคิดจะเอาชนะก็ไม่อาจมีขึ้นมาได้
ไซโคร แนชไม่ต่อคำ ประสานดาบกางเขนคู่เป็นกระบวนท่าสุดท้าย
‘ พิพากษา (Judgment) ! ’
ดาบกางเขนคู่ประสานกันเป็นรูปกางเขนคล้ายกับคำพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้ากำลังจะเริ่มต้นขึ้น คมดาบทั้งสองเล่มทอประกายเจิดจ้า
“ รู้ไหมว่าคนอ่อนแออย่างแกทำให้รีน่าต้องเจ็บปวดขนาดไหน ” วินเซนต์กล่าวเสียงดัง
“ ไม่รู้ ” ไซโคร แนชตอบสั้นๆสะกดอาการเจ็บแปลบในหัว ตั้งจิตภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้ารวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายขึ้น
“ แกรู้ไหมว่ารีน่าต้องเสียใจขนาดไหน รู้สึกถึงความเจ็บปวดของเธอบ้างหรือเปล่า แล้วคนอย่างแกพร้อมแล้วหรือที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ พร้อมที่จะปกป้องรีน่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ไหม พร้อมที่จะรับภาระที่หนักอึ้งขนาดนั้นได้รึเปล่า แกมั่นใจแค่ไหนกันถ้าได้เจอเธอในสภาพเช่นนั้น ”
ทุกถ้อยคำของวินเซนต์ดังกลบเสียงเชียร์ของเหล่านักเรียนทั่วห้อง
รีน่าที่อยู่หน้าเวทีได้ยินอย่างชัดเจน แต่เธอไม่อาจเห็นสีหน้าของไซโคร แนชได้ชัด หัวใจของเธอรู้สึกราวกับกำลังแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ สิ่งที่วินเซนต์พูดแม้จะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแต่ก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
‘ เขาจะรับได้ไหมหากเห็นเราในสภาพเช่นนี้ เขาพร้อมที่จะรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดของเราได้ไหม แล้วเขายังจะรักเราอยู่อีกไหม ’
ไซโคร แนชนิ่งเงียบไป ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นช้าๆ
“ ขอโทษนะช่วยอะไรหน่อยได้ไหม ” เขากระชับดาบกางเขนคู่ในมือ ดาบข้างขวาอยู่บนส่วนดาบข้างซ้ายอยู่ล่าง สูดหายใจเข้าลึกๆ
วินเซนต์เอียงคอด้วยความสงสัย
“ ช่วยหลีกทางให้ที !! เพราะคนที่ชั้นอยากเจอมากที่สุดกำลังรอชั้นอยู่ที่ด้านหลังนั่น !!! ” ไซโคร แนชตวาดลั่นจากนั้นพุ่งตัวเข้าหาวินเซนต์อย่างไม่เกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น
รีน่าปิดปากน้ำตาไหลอาบข้างแก้มเมื่อได้ยินคำตอบของไซโคร แนช
“ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ ! ” วินเซนต์วิ่งเข้าหาไซโคร แนชเช่นกัน
พริบตานั้นการต่อสู้ที่ถูกจดจำว่าเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่ระทึกขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์การประลองอาวุธก็เริ่มขึ้น
ไซโคร แนชใช้ดาบกางเขนข้างขวาวิ่งเข้าปะทะกับดาบสั้นในมือซ้ายของวินเซนต์ประกายไฟที่เกิดจากการเสียดสีปรากฏขึ้นพร้อมเสียงการปะทะกันของสองสุดยอดอาวุธดังก้องทั่วจักรวาลจำลอง จากนั้นดาบยาวในมือขวาของวินเซนต์ก็ฟันใส่ด้านซ้ายมือของไซโคร แนช
‘ ก๊อง ! ’
ดาบกางเขนในมือซ้ายของไซโคร แนชเกี่ยวพันต้านการโจมตีอันหนักหน่วงจากดาบยาว พริบตานั้นไซโคร แนชรู้สึกข้อมือซ้ายชาวูบดาบยาวกดเข้าเกือบถูกสีข้างก่อนเขาห่างเพียงไม่กี่มิล ส่วนดาบสั้นในมือซ้ายของวินเซนต์ก็กรีดลากผ่านดาบกางเขนคู่ในมือขวาของไซโคร แนชใส่หน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
‘ ฟึ่บ ! ’
ไซโคร แนชออกแรงเอี้ยวตัวไปทางขวาจากนั้นอาศัยแรงในมือขวาฟันดาบกางเขนคู่ปัดดาบสั้นออกไปได้ พร้อมใช้ดาบกางเขนทั้งสองรวบดาบแห่งความฝันเข้าด้วยกัน แต่ถูกวินเซนต์สลัดหลุดไปได้
พริบตานั้นวินเซนต์กระโดดขึ้นเล็กน้อยใช้ดาบคู่แห่งความฝันฟันใส่ไซโคร แนช
ไซโคร แนชรีบใช้ดาบกางเขนคู่ตั้งรับ กระบวนท่าในตำนานช่างร้ายกาจยิ่งกว่าคำร่ำลือเสียอีก
‘ เกร้ง เกร้ง เกร้ง ! ’
ดาบคู่แห่งความฝันกระหน่ำฟันลงใส่อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งครั้งที่สามไซโคร แนชตัดสินใจวาดดาบกางเขนคู่ไปด้านหน้าออกเป็นวงโค้งเพื่อโจมตีกลับบ้าง แต่ถูกวินเซนต์ใช้ดาบยาวฟันปัดใส่ดาบกางเขนด้านซ้ายจนกระทบเข้ากับดาบกางเขนเขนในมือขวาก่อนที่ดาบสั้นใส่มือซ้ายของวินเซนต์จะแทงตรงยังร่างของไซโคร แนช
‘ ฟึ่บ ! ’
ไซโคร แนชตั้งท่าดาบคู่เป็นรูปกางเขนตั้งรับดาบยาวจากด้านซ้ายพร้อมกับใช้ดาบในมือขวาตั้งฉากเพื่อปัดการโจมตีจากดาบสั้นให้เบี่ยงเบนทิศทางซึ่งลากผ่านเฉียดแก้มซ้ายของเขาไปอย่างหวุดหวิด
ทุกดาบของทั้งคู่ล้วนใช้พลังสมาธิ พลังฝีมือและจิตวิญญาณในการเข้าห้ำหั่นกันอย่างถึงที่สุด
พริบตานั้นไซโคร แนชถือโอกาสสวนกลับโดยการกดดาบคู่แห่งความฝันลงไปด้านซ้ายอย่างรวดเร็วพร้อมหมุนตัวตวัดดาบกางเขนคู่ฟันใส่ร่างของวินเซนต์ที่เสียการทรงตัวอยู่
‘ เคร้ง ! ’
‘ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น… !!! ’
ดาบสั้นในมือซ้ายของวินเซนต์พุ่งขี้นมาตั้งรับได้ทันแต่การโจมตีของไซโคร แนชรุนแรงเกินไปดาบแห่งความฝันข้างซ้ายหลุดลอยไปก่อนที่ดาบกางเขนคู่จะซัดใส่ร่างของวินเซนต์
‘ เคร้ง ! ’
‘ ขอเพียงแค่เธอยังยืนอยู่ตรงนี้ก็พอ…’
ไซโคร แนชออกแรงเฮือกสุดท้ายจังหวะนี้เป็นจังหวะเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะวินเซนต์ได้ เขาออกแรงทั้งหมดฟันเข้าใส่ร่างของวินเซนต์
ทว่าทันใดนั้นดาบแห่งความฝันในมือขวาของวินเซนต์ก็ฟันเข้าใส่ดาบกางเขนคู่ในมือซ้ายของไซโคร แนชหลุดกระเด็นไป ก่อนจะใช้ดาบแห่งความฝันในมือขวารับการโจมตีของดาบกางเขนคู่ข้างขวาที่เหลืออยู่ไว้ได้ทันที่ระดับอก
‘ เกร้ง ! ’
ดาบกางเขนกับดาบแห่งความฝันที่เหลืออยู่เล่มเดียวปะทะกันเสียงดังสนั่นอื้ออึง พริบตานั้นดาบแห่งความฝันตกลงไปกับพื้นเพราะความรุนแรงของดาบกางเขนคู่ที่โจมตีมา
วินเซนต์เบิกตากว้างวินาทีแห่งการตัดสินมาถึงแล้ว
‘ ฉึก ! ’
ไซโคร แนชใช้มือทั้งสองจับดาบกางเขนคู่ที่เหลืออยู่เพียงเล่มเดียวไว้มั่น จากนั้นฟันกระทบเข้ากับชุดเกราะบริเวณท้องของวินเซนต์ส่งเสียงดังสนั่นผ่านร่างของวินเซนต์ไป พร้อมเสียงสัญญาณยุติการแข่งขันที่ดังขึ้นราวกับเรียกทุกผู้คนในตื่นจากความฝันที่อยู่ตรงหน้า
“ ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยดูแลรีน่าด้วยนะ ” วินเซนต์คุกเข่าลงอย่างหมดแรง
“ เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว ” ไซโคร แนชกล่าวขณะยังตั้งท่าดาบอยู่มือทั้งสองข้างสั่นเทาด้วยความเหนื่อยล้า
จากนั้นเสียงเชียร์ดังสนั่นเสียยิ่งกว่าตอนที่วาได้แชมป์ปิงปองเสียอีก
“ และผู้ชนะการประลองรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ได้แก่ไซโคร แนช ดังนั้นรางวัลชนะเลิศการประลองระหว่างสถาบันครั้งนี้จึงตกเป็นของทีมมิราเคิล แห่งโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ครับ !!! ” เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างดีใจ
ดีว่าและโซเฟียหันมามองหน้ากันราวกับได้เห็นปาฏิหาริย์ขึ้นตรงหน้า ปรบมือแสดงความยินดีกันยกใหญ่
ไซโคร แนชขณะนี้ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างแม้แต่น้อยดาบกางเขนในมือหลุดร่วงลงกับพื้น สายตาจับจ้องไปยังร่างของหญิงสาวใส่หมวกแก๊ปที่อยู่เบื้องหน้า จิตใจรู้สึกตื่นเต้นราวกับหัวใจจะหลุดลอยออกมาลืมทุกสิ่งไปหมดสิ้น
เขาสะกดอาการเจ็บแปลบที่เริ่มทวีขึ้นจากทั้งในหัวและร่างกาย รีบประคองตัวตรงรี่เข้าไปหาร่างนั้น
วามองตามไซโคร แนชท่ามกลางผู้คนที่ปรบมือแสดงว่ายินดีอยู่ เข้าใจว่าไซโคร แนชกำลังตรงเข้าไปหาไลร่าพลอยยินดีด้วยไม่ได้
แสงไฟส่องตามร่างของไซโคร แนชที่เป็นผู้ชนะเลิศไป เรียกความสนใจของผู้คนในห้องให้จับจ้องไปยังเขา ภายใต้จักรวาลที่มืดมิดนั้นร่างของไซโคร แนชกำลังเดินตรงไปที่ไหนกันแน่
ในที่สุดไซโคร แนชก็เดินมาหยุดลงยังหญิงสาวในหมวกแก๊ป เขาหอบหายใจก่อนจะพบว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างซึ่งก็คือไลร่ามีท่าทางกังวลอยู่ไม่น้อย
หญิงสาวในหมวกแก๊ปก้มหน้าไม่ยอมสบสายตาเขา จนกระทั่งไซโคร แนชเพิ่งสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
‘ แกจะสามารถรับในสิ่งที่เธอเป็นได้หรือ ’
ร่างของหญิงสาวไม่ได้นั่งอยู่บนเก้ากี้แบบปกติ แต่นั่งอยู่บนรถเข็นซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาควรจะเอามานั่งเล่นๆ จากนั้นความคิดมากมายก็แล่นเข้าสู่หัวของเขา ความรู้สึกในขณะนี้ยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดจริงๆ
ไซโคร แนชถอดหมวกป้องกันจากนั้นทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าหญิงสาวคนนั้นใช้แขนซ้ายหนีบหมวกป้องกันก้มหัวพร้อมกล่าวค่อยๆราวกับนักรบสมัยโบราณที่มาเข้าเฝ้า
“ ผมมารับตัวตามที่สัญญากันไว้แล้วนะครับเจ้าหญิง ”
ร่างบนรถเข็นสะอื้นมือทั้งสองข้างกำแน่นสั่นระริกไม่ทราบว่าเกิดจากความปิติหรือว่าเสียใจที่ถูกพบเห็นในสภาพเช่นนี้กันแน่
ไซโคร แนชยิ้มเล็กน้อยยื่นมือกุมมือนุ่มลื่นทั้งสองข้างนั้นไว้ แม้จะไม่ได้สัมผัสโดยตรงแต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอนั้นแม้แต่ชุดเกราะก็ไม่สามารถกีดกั้นไว้ได้
พริบตานั้นความอาลัยอาวรณ์ก็พรั่งพรูออกมา ความรู้สึกของทั้งคู่สื่อถึงกันโดยไม่ต้องบอกกล่าว
เขาจับมือข้างซ้ายของหล่อนขึ้นมาอย่างนุ่มนวล พร้อมโน้มตัวลงจุมพิตลงบนหลังมือย่างแผ่วเบา ทำเอาร่างที่สะอื้นอยู่นั้นต้องเงยหน้าขึ้นมาด้วยความขวยเขิน
ผู้คนทั้งห้องต่างกำลังจับจ้องยังทั้งคู่อยู่ แม้จะไม่ทราบที่มาที่ไปแต่เมื่อได้เห็นความรักอันจริงใจจากไซโคร แนชที่มีต่อหญิงสาวคนนั้นก็ต่างพากันปรบมือชื่นชม จักรวาลเงียบงันบัดนี้กลับเต็มไปด้วยสีสันแห่งความยินดีและชื่นชม
“ ดีใจจริงๆที่ได้เจอกันอีกครั้ง ”
ไซโคร แนชตาแดงก่ำพอเงยหน้าขึ้นก็พบกับดวงตาที่งดงามยิ่งกว่าดวงดาราซึ่งในขณะนี้จ้องมองมายังเขาเช่นกัน ใบหน้าที่เฝ้าฝันจะได้พบเจออยู่ทุกขณะจิตบัดนี้กำลังอยู่เบื้องหน้าของเขาแล้ว
‘ จะเกิดอะไร จะรักเธอไป แค่เธอนั้นยืนอยู่ตรงนี้….. ’
จากนั้นเขารู้สึกสติค่อยๆเลือนรางร่างกายหนักอึ้งขึ้นมา หมดแรงทรุดลงบนตักของรีน่าพล่อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
การประลองอาวุธถือเป็นการประลองรายการสุดท้ายดังนั้นเมื่อการประลองอาวุธสิ้นสุดลงนักเรียนทั้งหลายต่างก็พากันเดินชมโรงเรียน ซึ่งวันนี้ทางโรงเรียนไอแซกมีการจัดงานเลี้ยงใหญ่ในตอนกลางคืนตั้งแต่เวลาหกโมงเป็นต้นไปจนกระทั่งสี่ทุ่มเพื่อเฉลิมฉลองให้สมกับการเป็นเจ้าภาพงานประลองระหว่างสถาบัน โดยเวลาว่างระหว่างวันนักเรียนที่ประสงค์จะเดินชมรอบโรงเรียนก็สามารถทำได้โดยจะมีคณะกรรมการและอาสาสมัครคอยช่วยอธิบายส่วนต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าร่วมเล่นกีฬาต่างๆได้ตามต้องการเนื่องจากหมดการแข่งจริงหมดแล้ว นักเรียนบางคนที่มาชมการประลองแล้วเกิดอินต่างพากันเข้าแข่งตามกีฬาที่ตัวเองสนใจมากมาย และที่เห็นจะได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้เห็นจะเป็นการแข่งประลองอาวุธอีกเช่นเคย
ทางด้านวาและพรรคพวกหลังจากส่งไซโคร แนชไปยังห้องพยาบาลโดยมีหลวงพ่อแอนเดอร์สันและผู้อาวุโสเสี่ยงให้การดูแลอยู่แล้วก็หายห่วง แต่ที่น่าปลื้มใจมากที่สุดเห็นจะเป็นนักเรียนรุ่นพี่ที่หายตัวไปที่ชื่อว่า รีน่าซึ่งโซเฟียบอกว่าเธอคนนี้แหละที่มีฉายาว่า ‘เจ้าหญิง’ เฝ้าคอยดูแลด้วย
ครั้งแรกที่วาได้เห็นรีน่าแม้เธอจะอยู่บนรถเข็นแต่บุคลิกและท่าทีที่สง่างามของเธอกลับเปล่งประกายออกมาได้อย่างประหลาด ความงามของเธอไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือจิตใจล้วนทำให้วาเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงทำให้ไซโคร แนชเฝ้าคิดถึงและพร้อมที่จะแลกทุกสิ่งเพียงเพื่อได้เจอกับเธออีกสักครั้ง แต่เขาก็รู้สึกอายกับตัวเองเช่นกันที่หลงเข้าใจผิดว่าไลร่าคือเจ้าหญิงมาโดยตลอด โดยไลร่าได้กล่าวขอโทษที่เธอไม่ได้อยู่เชียร์ตอนวาแข่งพร้อมกับกล่าวแสดงความยินดีที่วาสามารถเอาชนะครอสได้โดยสัญญาว่าจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังเป็นการส่วนตัวในภายหลังแต่ต้องสัญญาว่าจะเป็นแค่ความลับระหว่างเขาและเธอเท่านั้นเล่นเอาโซเฟียที่ยืนอยู่ด้านข้างออกอาการไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นวาและพรรคพวกต่างนัดหมายกันเพื่อฉลองชัยชนะกันที่ห้องอาหารซึ่งบัดนี้อัดแน่นไปด้วยนักเรียนมากมายเต็มไปหมด
โชคดีที่พิชากิ ซักก้าและจ๋อยมานั่งจองที่ให้ก่อนแล้ว และดูเหมือนนักเรียนหลายคนจะเกรงอกเกรงใจพิชากิพอสมควรทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่บุคลิกของพิชากิก็เพียงพอแล้วที่ข่มขวัญไม่ใครเข้ามาแย่งที่ได้ง่ายๆสมกับเป็นหัวหน้าแก๊งหมูดำผู้คุมประตูห้องน้ำโรงเรียนจริงๆ
การกินมื้อเที่ยงครั้งนี้ทำให้วาได้ทราบข่าวดีมากมายไม่ว่าจะเป็นนีโอเพื่อนร่วมห้องของเขาและเสือใบ้นิคที่สามารถคว้าชัยในการแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ระหว่างสถาบันมาได้ หรือว่าพิชากิที่แข่งชนะแชมป์หลายสมัยอย่างบูรินในการแข่งกินมาได้
เมื่อโซลีนและพรีสไซมาถึงโต๊ะเพื่อนๆทุกคนต่างก็ปรบมือชมเชยทีมปิงปองที่แสดงฝีไม้ลายมือได้อย่างสุดยอด
“ พวกพี่เท่เป็นบ้าเลย ” มิวชูนิ้วให้ดีใจออกนอกหน้า ส่วนเบต้าพยักหน้าเสริม
“ ส่วนวาเนี่ยสุดๆไปเลย ตอนดูนี่เล่นเอาลุ้นฉี่แทบราด ”
“ ฮ่าๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ” วาหัวเราะ
“ ใช่ๆอย่างคุณเด๋อคงไม่เท่าไหร่หรอกน่า ” โซเฟียแซว
“ ครับๆ ใครจะสู้คุณอัศวินเพลิงได้ละครับ ” วากวนกลับ
“ แหะๆ ล้อเล่นน่าๆ ” โซเฟียยิ้ม
“ พูดถึงก็น่าเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้มาดูเธอกับดีว่าแข่ง ”
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่มาทันดูรุ่นพี่แนชแข่งก็ถือว่าคุ้มแล้วละครับ ” ดีว่าตอบอย่างถ่อมตัว
“ แต่ว่าเราอยู่ดูตลอดการแข่งเลยนะคะ ” วีวี่ที่นั่งอยู่ข้างมิวยกมือขึ้นแสดงอาการปลื้มจนมิวหมั่นไส้สะกิดเตือน “ นี่เธอให้มันน้อยๆหน่อย ” แต่ก็ถูกวีวี่หันกลับมามองด้วยสายตาน่ากลัวจนต้องนั่งจ๋อยกินข้าวต่อไปแบบเงียบๆ
ดีว่ายิ้มรับอย่างสุภาพ ขณะนั้นเองซากุระพร้อมรุ่นน้องโรงเรียนเรนครอสอีกสองคนก็เดินผ่านบริเวณโต๊ะเขาพอดี ดีว่ารีบลุกพรวดเข้าไปทักทายในทันทีทำเอาวีวี่ยกมือค้างไปโดยไม่ตั้งใจ ส่วนมิวแอบหัวเราะเบาๆแต่เมื่อถูกวีวี่จับได้ก็ทำเป็นนั่งกินข้าวต่อ
“ คุณซากุระครับ ” ดีว่าเรียก
“ ว่าไงคะ ” ซากุระหันกลับมาอย่างประหลาดใจ
“ ไม่ทราบว่าคุณจะอยู่ถึงกี่โมงหรอครับ ”
“ อ๋อ ” ซากุระปิดปากหัวเราะทำเอาดีว่าเขินอาย “ นึกว่าเรื่องอะไรเสียอีกเห็นท่าทางคุณร้อนรนขนาดนี้ ดิฉันคงอยู่จนถึงงานเลี้ยงตอนเย็นเลย แต่อาจจะกลับก่อนสี่ทุ่มนะคะ ”
“ ผมเองก็เช่นกันครับ ถ้าอย่างนั้นเจอกันที่งานเลี้ยงตอนเย็นนะครับ ”
“ เดี๋ยวก่อนคะ ” ซากุระเรียกขำในท่าทีลุกลนของดีว่า “ ดิฉันขอแสดงความยินดีในชัยชนะของคุณด้วยนะคะ แล้วก็คงต้องขอคำชี้แนะจากคุณเรื่องเพลงกระบี่ที่แสนพิสดารนั้นด้วย ”
เธอก้มหัวคาราวะเล็กน้อยก่อนเดินจากไป ดีว่าจึงรีบคำนับตอบ
พิธีการปิดการแข่งขันการประลองระหว่างสถาบันจัดขึ้นในเวลาบ่ายสี่โมงเย็นโดยนักกีฬาทุกคนต่างพากันมาเข้าแถวเหมือนเช่นเคย ส่วนนักเรียนคนอื่นๆต่างพาเข้าเข้าแถวต่อจากนักกีฬาอีกที
วันนี้ฟ้าเบิกอากาศแจ่มใส แม้จะมีหิมะตกอยู่แต่ก็ไม่ทำให้หนาวมากนัก
วามาเข้าแถวกับพวกพรีสไซและโซลีนตรงแถวนักกีฬาปิงปองเพื่อรอประกาศผลและออกไปรับเหรียญรางวัล
ขณะกำลังยืนเข้าแถวอยู่วาก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากด้านข้าง
“ เฮ้ ” วิสด้อมป้องปากกระซิบเรียกเขาเหมือนครั้งแรกที่พบกัน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วเพราะทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว
“ ว่าไงพวก ” วาหันไปคุยอย่างร่าเริง
วิสด้อมชูนิ้วโป้งให้
“ ขอแสดงความยินดีด้วย สมแล้วที่เอาชนะชั้นได้ แต่ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้นละ ปีหน้าชั้นไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแบบนี้หรอกนะ ”
“ แล้วจะรอดูนะ ”
เสียงเพลงประจำโรงเรียนไอแซกดังขึ้น นักเรียนทุกคนต่างเปลี่ยนกริยาให้อยู่ในความสำรวมก่อนที่ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือด๊อกเตอร์ไอแซกที่สามจะขึ้นมากล่าวคำปิดพิธีการอันแสนยิ่งใหญ่ พร้อมทยอยกันมอบเหรียญให้แก่นักกีฬาต่างๆก่อนจะสรุปยอดรวมโรงเรียนที่ได้เหรียญมากที่สุด
วารู้สึกเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อเห็นนักเรียนแถวหน้าทยอยออกไปรับเหรียญกันทีละคนๆ
“ รางวัลชนะเลิศการแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ได้แก่โรงเรียนอับดุลอินเตอร์ ขอเชิญนักกีฬาขึ้นรับเหรียญรางวัล ”
วาหัวใจเต้นตูมตามปรบมือให้นีโอและเสือใบ้นิคเพื่อนรักทั้งสองของเขา
“ รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองการแข่งขันกีฬาปิงปองได้แก่ ทีมโรงเรียนบริงเกอร์ ขอเชิญนักกีฬาขึ้นรับเหรียญรางวัล ”
วิสด้อมขยิบตาให้วาก่อนกวักมือเรียกเพื่อนร่วมทีมทั้งสองให้ตามขึ้นไปรับเหรียญ โดยที่วาเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าทีมของวิสด้อมเป็นอันดับสามของการแข่งครั้งนี้หลังจากแพ้กับเขาไป ซึ่งภายหลังได้ทราบจากพรีสไซว่าวิสด้อมได้แข่งขันชิงที่สามกับโรงเรียนไวท์แฟงที่มีคนนำทีมคือ มัลโก้ ฉายานกอมตะที่มีท่าไม้ตายคือ ระบบนักบินอัตโนมัติที่สามารถโต้กลับลูกแบบเฉียบพลันได้ ซึ่งวาก็ได้เผชิญหน้ากับลูกนั้นมาแล้วในการแข่งกับครอสแม้ว่าจะไม่ใช่จากเจ้าตัวโดยตรงแต่ก็รับทราบถึงความร้ายกาจดี เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาที่วิสด้อมเองก็สามารถเอาชนะทีมโหดๆอย่างไวท์แฟงได้เช่นกัน สมแล้วที่เป็นคู่ต่อสู้ที่เขานับถือคนหนึ่ง
“ ลำดับถัดไปรางวัลรองชนะเลิศการแข่งขันกีฬาปิงปองได้แก่ ทีมซิลเวอร์บลูเลท จากโรงเรียนเอสมอนเต้ ขอเชิญนักกีฬาขึ้นรับเหรียญรางวัล ”
พรีสไซ โซลีนและวาปรบมือให้เป็นพิธี จากนั้นหันมามองมาหน้ากัน
โซลีนพยักหน้าเป็นความหมายให้เตรียมพร้อม และเมื่อเสียงประกาศที่รอคอยดังขึ้นโซลีนก็ก้าวนำพรีสไซ และวาไปยังบนเวทีที่รายล้อมไปด้วยเสียงปรบมืออย่างท่วมท้นจากกองเชียร์ฝั่งอับดุลอินเตอร์ที่ดังกระหึ่มไม่น้อยหน้าโรงเรียนอื่น โดยเฉพาะสมาชิกชมรมปิงปองที่มี
“ และรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งกีฬาปิงปองได้แก่ ทีมแพทริออท จากโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ ขอเชิญนักกีฬาขึ้นรับเหรียญรางวัล ”
โซลีนโค้งคำนับด๊อกเตอร์ไอแซกเป็นคนแรกก่อนจะเป็นพรีสไซ และสุดท้ายก็คือวา
บนแท่นรางวัลขนาดใหญ่วิสด้อมและคิงสตันปรบมือให้แก่วาเมื่อเขามาถึง ส่วนคอรสและสองทูตดำขาวทำเป็นไม่สนใจ
วาก้าวขึ้นมายืนบนแท่นสำหรับทีมที่หนึ่งรู้สึกราวกับกำลังฝันอยู่จากนั้นรับเหรียญรางวัลจากด๊อกเตอร์ไอแซก เหรียญทองเหรียญแรกในชีวิตที่เขาได้มาด้วยความสามารถของตัวเองกำลังส่องแสงแวววาวอยู่บนอกของเขา
เมื่อมองกลับไปยังสนามที่เต็มไปด้วยนักเรียนโรงเรียนต่างๆมากมายเขารู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก ความจริงเขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
แฟลชจากกล้องถ่ายช่วยรูปปลุกเขาให้ตื่นขึ้น ก่อนจะก้าวลงจากเวทีอันศักดิ์สิทธิ์ในความรู้สึกของเขา
ระหว่างทางเดินกลับเขาเหลือบไปเจอโซเฟียที่โบกไม้โบกมือในแถวประลองอาวุธที่อยู่หลังสุดแต่ไกล วาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินยาวเลยแถวอื่นๆไปยังหล่อน
“ มีอะไรอย่างงั้นหรอ ” วาถามแบบงงๆ
“ คุณเด๋อเนี่ยไม่ไหวเลยนะ ” โซเฟียกัด “ ลืมไปแล้วหรือไงว่าพวกเราก็ชนะเลิศการประลองอาวุธด้วยน่ะ ”
“ จริงด้วยสิ ”
โซเฟียส่ายหน้า
“ สงสัยคุณวาคงจะตื่นเต้นที่ได้รับเหรียญจนลืมไปแล้วมั้งครับ ” ดีว่ายิ้มนี่เป็นครั้งแรกที่วาเห็นดีว่าดูมีความสุขขนาดนี้ ซึ่งคิดๆดูแล้วก็ควรจะเป็นเช่นนั้นเพราะคนที่ริเริ่มก่อตั้งทีมประลองอาวุธขึ้นก็คือดีว่านั่นเอง
“ ว่าแต่รุ่นพี่ยังไม่หายดีอีกหรอ ” วาถาม
“ ครับคงต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง ” ดีว่าตอบก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีละอองหิมะตกอยู่อย่างเบาบาง “ แต่สำหรับผมแล้วคิดว่านั่นคงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุขของเขาเลยละครับ ”
หลังจากประกาศรายการต่างๆอันยาวยิบในที่สุดเวลาที่โซเฟียและดีว่ารอคอยที่สุดก็มาถึง เมื่อกีฬารายการสุดท้ายซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่โดดเด่นที่สุดของการประลองระหว่างสถาบันมาถึง
“ ณ บัดนี้พิธีมอบรางวัลกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว ขอเสียงปรบมือให้แก่เหล่านักกีฬาในรายการสุดท้ายที่ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดและเร้าใจที่สุดที่มีนักเรียนและผู้สนใจมากที่สุดของทุกๆการแข่งในครั้งนี้ด้วยครับ ” เสียงประกาศดังขึ้นพร้อมเสียงเชียร์แสดงความยินดี
“ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาดูโฉมหน้าของทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองกันเลยดีกว่า ซึ่งทีมที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองในครั้งนี้เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของทุกคนดีอยู่แล้วได้แก่ ทีมโรงเรียนเกเบรียลซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะรองชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว โดยชนะทีมโรงเรียนไซเซนไปได้อย่างฉิวเฉียดร้ายกาจด้วยกันทั้งคู่สมกับเป็นโรงเรียนตัวเต็งจริงๆ ขอเชิญนักกีฬาขึ้นมารับเหรียญรางวัลด้วยครับ ”
ดีว่าปรบมือให้ไซเมต และเกก้าดีนที่กำลังเดินผ่านแถวนักเรียนขึ้นไปรับรางวัลรู้สึกเสียใจแทนซากุระอยู่ไม่น้อยที่พลาดรางวัลไปทั้งๆที่ฝีมือระดับเธอไม่น่าจะแพ้ให้แก่ เกก้าดีนหรือไซเมตได้ง่ายๆ อาจเป็นเพราะเสียพลังลมปราณไปมากเมื่อตอนที่สู้กับรูเกียร์ แต่ทั้งนี้ฝีมือของไซเมตดีว่าเองก็ประจักษ์เป็นอย่างดีว่าร้ายกาจถึงเพียงไหน
แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อไม่พบวี่แววของจีดาบคลั่ง
“ ถัดไปรางวัลรองชนะเลิศซึ่งเป็นที่ผิดคาดของทุกคนเลยก็ว่าได้ นั่นก็เพราะโรงเรียนนี้เคยครองแชมป์ประลองอาวุธติดต่อกันถึงห้าสมัยรวดได้แก่ ทีมโรงเรียนไกเซอร์ด้อม ขอเชิญนักกีฬาขึ้นมารับเหรียญรางวัลด้วยครับ ”
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวเมื่อชื่อโรงเรียนไกเซอร์ด้อมดังขึ้นสมกับเป็นโรงเรียนที่มีความยิ่งใหญ่ในอันดับต้นๆของทุกการแข่งขันจริงๆ
ซิลเวียร์เป็นคนแรกที่ก้าวขึ้นไปรับเหรียญซึ่งเป็นที่ฮือฮาของเหล่าหนุ่มๆไม่น้อย ต่อมาคือรูเกียร์และท้ายที่สุดชายหนุ่มท่าทีเคร่งขรึมหน้าตาคมคายแต่พิถีพิถันในทุกรายละเอียดของเครื่องแต่งกายหากไม่บอกล่วงหน้าย่อมไม่มีใครคาดคิดว่านั่นคือ ชายคนเดียวกันที่ลงมืออย่างอำมหิตในการต่อสู้หรือก็คือ วินเซนต์อดีตแชมป์การประลองอาวุธสี่สมัยรวดนั่นเอง
“ และที่เหนือคาดที่สุดรางวัลชนะเลิศการแข่งขันประลองอาวุธในครั้งนี้ตกเป็นของทีมม้ามืด ซึ่งปีนี้ได้คว้าเหรียญในการแข่งหลายรายการไปอย่างน่าตกใจ ขอเสียงปรบมือให้แก่ ทีมมิราเคิล จากโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ที่สามารถคว้าแชมป์ไปด้อย่างน่าสวยงามสมกับชื่อทีมด้วยครับ ”
ดีว่าออกเดินนำไปอย่างผ่าเผย โซเฟียสะกิดวาให้รีบเดินตามมาเมื่อเห็นวาทำท่าทีเงอะๆงะๆ
ซิลเวียร์ยิ้มแฉ่งโบกมือแสดงความยินดีให้แก่โซเฟียเมื่อเห็นเธอก้าวขึ้นมาบนเวทีโดยไม่สนว่าเธอจะแพ้ให้แก่โซเฟียแม้แต่น้อย
เสียงกรี๊ดกราดดังเกรียวกราวมาจากบรรดาสาวๆเกือบทุกโรงเรียนเมื่อดีว่าขึ้นรับมอบเหรียญ ส่วนโซเฟียเองก็ไม่น้อยหน้าเหล่าบรรดาหนุ่มๆต่างผิวปากส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มเล่นเอาวารู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ
ก่อนที่วาจะขึ้นไปรับเหรียญแทนไซโคร แนชและของเขาเองในฐานะตัวสำรองนั้นเขาเหลือบไปเห็นสีหน้าของวินเซนต์ที่รู้สึกว่าจะดูเศร้าๆอยู่ไม่น้อย
“ พ่อหนุ่มนี่ร้ายกาจจริงๆนะ ” ด๊อกเตอร์ไอแซกกล่าวด้วยรอยยิ้มกรอบแว่นสีน้ำตาลขนาดใหญ่ไม่อาจปิดบังรอยย่อนบนใบหน้าได้ แต่ก็ไม่อาจปิดบังความหนุ่มของจิตใจได้เช่นกันวาคิดเช่นนั้น
“ ขอบคุณครับ แต่ผมไม่ใช่คนที่แข่งในรอบชิงหรอกนะครับ ” วารีบปฏิเสธ
ด๊อกเตอร์ไอแซกจุ๊ปากพร้อมส่ายหน้าแล้วกระซิบ
“ เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้ว ก็คุณไม่ใช่หรอที่ลงแข่งสองรายการแถมยังเอาชนะทีมเก่งๆอย่างเกเบรียลเขาได้ด้วยน่ะ ”
วารู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมารีบกล่าวขอบคุณพร้อมคำนับแล้วก้าวลงมา คงจะดีไม่น้อยหากเขามีโอกาสได้เรียนกับด๊อกเตอรืไอแซก และนั่นก็ทำให้วาเริ่มรู้สึกสงสัยว่าทำไมเขาไม่เคยรู้จักหน้าค่าตาของผู้อำนวยการโรงเรียนตนบ้างเลย ผู้อำนวยการโรงเรียนของเขาจะเป็นคนแบบไหนนะ คงจะต้องแปลกมากแน่ๆ
เสียงปรบมือดังที่สุดเมื่อวาหันหน้ากลับมา อาจเป็นเพราะหลายคนคิดว่าเขาคือ เจ้าชายหรือไซโคร แนชที่วาดฝีไม้ลายมือเอาชนะสุดยอดนักสู้ในตำนานอย่างวินเซนต์มาได้แบบปาฏิหาริย์ทำเอาเขารู้สึกเขินไม่น้อย
จากนั้นพลุดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นพร้อมวงโยธาวาทิตที่บรรเลงเพลงด้วยจังหวะที่คึกครื้นสร้างบรรยายในพิธีปิดให้คึกคักและยิ่งใหญ่สมกับการเป็นเจ้าภาพได้อย่างเต็มภาคภูมิ
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นลงทางคณะกรรมการและทีมงานโรงเรียนไอแซกต่างพากันเคลียร์สนามอย่างขะมักเขม้นเพื่อเตรียมจัดงานเลี้ยงส่งท้ายในค่ำคืนนี้ โดยระหว่างนั้นมีคอนเสิร์ตของวงโยธาวาทิตและวงต่างๆผลัดเปลี่ยนกันขึ้นบรรเลงแบบเบาๆไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวแจ๊ส บลูส์หรือโฟล์กส่งผ่านเสียงตามสายไปทั่วโรงเรียนไอแซกให้ความรู้สึกอิ่มเอมอย่างถึงที่สุด
ความจริงวาอยากจะไปเอนตัวพักผ่อนสักพักก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น แต่พวกมิวคะยั้นคะยอให้วาไปเดินทัวร์รอบโรงเรียนด้วยกันเพราะเป็นนานๆทีจะได้มีโอกาสเดินรอบโรงเรียนไอแซกด้วยบรรยายกาศที่คึกคักแบบนี้
เหล่านักเรียนมากหน้าหลายคนจากโรงเรียนต่างๆก็พากันเดินชมโรงเรียนอย่างคึกครื้น ทันใดนั้นดีว่าที่เดินอยู่ในกลุ่มวาด้วยก็บังเอิญเจอกับเกก้าดีนและไซเมตโดยบังเอิญจึงถือโอกาสเข้าไปกล่าวทักทาย
“ ยินดีด้วยนะครับ ”
“ นายเองก็เช่นกันนะ ” ไซเมตชี้นิ้วไปยังเหรียญทองที่ดีว่าคล้องอยู่ “ ว่าแต่ไซโคร แนชเป็นยังไงบ้าง ”
“ เจ้าชายต่างหาก ” เกก้าดีนรีบแย้ง
“ รุ่นพี่ปลอดภัยดีครับ ตอนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของหลวงพ่อแอนเดอร์สันและอาจารย์ของผมเรียบร้อย ”
“ หะ หลวงพ่อแอนเดอร์สันบาทหลวงในตำนานคนนั้นน่ะหรอ ” เกก้าดีนเบิกตากว้าง
“ ขออภัยครับที่ผมอาจไม่ทราบความเป็นมาที่ชัดเจน แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณพวกคุณทั้งสองมากที่ช่วยดูแลและหาตัวรุ่นพี่จนพบ ไม่เช่นนั้นพวกผมคงไม่มีทางได้รับรางวัลเช่นนี้ ขอฝฝากขอบคุณแทนรุ่นพี่ด้วยครับ ” ดีว่าประสานมือคาราวะ
“ เรื่องเล็กน้อยน่า ถือว่าเป็นการชดเชยที่พวกชั้นเคยก่อเรื่องก็แล้วกัน ” ไซเมตเกาหัว
“ คู่ต่อสู้ที่ดีหายากยิ่งกว่ามิตรแท้ ” เกก้าดีนฉีกยิ้ม ดีว่ารู้สึกถึงพลังลมปราณอันเกรี้ยวกราดในตัวเกก้าดีนได้ “ ช่างน่าเสียดายจริงๆที่ไม่มีโอกาสได้ปะมือกับเจ้าชายแบบจริงๆจังๆ แต่การได้ชมการต่อสู้ระดับตำนานขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วละ ”
“ ฝากไปบอกเจ้าชายด้วยว่า สายฟ้าเกก้าดีนคนนี้จะรอวันปะมือกับเขาอีกครั้ง ” เกก้าดีนกระชับหมวกก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนไซเมตโบกมือลา
ดีว่ารู้สึกว่าวันที่เขาจะต้องปะมือกับทีมโรงเรียนเกเบรียลจะต้องมาถึงในเร็วๆนี้แน่
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีทีละนิด เฉดสีบนท้องฟ้าก็คล้ายกับชีวิตของคนเราย่อมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ยามใดที่ส่องสว่างฟ้าเปิดก็ต้องมีแต่ความเบิกบานแต่หากฟ้าเปลี่ยนสีจิตใจย่อมเปลี่ยนตาม ทุกข์สุขเคล้าคลอขึ้นอยู่กับแต่ละมุมมองของคน
สนามหญ้าหน้าปราสาทโรงเรียนไอแซกบัดนี้ถูกเนรมิตเป็นที่จัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่คล้ายกับงานคานิวัลในสมัยโบราณ กระดาษหลากสีรูปสามเหลี่ยมถูกขึงห้อยระโยงรยางค์ไปทั่วสนามในสีสันสวยงามเช่นเดียวกับหลอดขนาดเล็กหลากสีที่กระพริบระยิบระยับไปมา แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเห็นจะเป็นดวงบนท้องฟ้าที่เริ่มปรากฏขึ้นอย่างสวยงาม
วาก้มมองนาฬิกาข้อมือพบว่าขณะนี้เป็นเวลาหกนาฬิกา คงเป็นเพราะเข้าใกล้กลางฤดูหนาวแล้วดังนั้นฟ้าจึงมืดเร็วกว่าปกติ
นักเรียนทั้งหลายต่างพากันมารวมตัวในสนามหญ้าทำให้สนามหญ้าที่กว้างใหญ่เริ่มคับคั่งไปด้วยผู้คน ส่วนบนเวทีเริ่มเปิดงานเลี้ยงอย่างเต็มตัวโดยมีการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนไอแซกผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาแสดงฝีไม้ลายมือไม่ว่าจะเป็นการโชว์ฟันดาบของชมรมอัศวินซึ่งวาดลีลาได้อย่างสวยงามสมกับเป็นโรงเรียนที่มีเพียงชมรมอัศวินเท่านั้น ก่อนจะเป็นการโชว์ควงกระบองไฟ การแสดงตลกและอื่นๆอีกมากมาย
จากนั้นดีว่าก็สะดุดเข้ากับแสงสีขาวซึ่งพริบตาแรกดีว่าคิดว่าเป็นซากุระแต่กลับพบว่านั่นคือ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดเสื้อคลุมสีขาว ใบหน้านั้นช่างคุ้นเคยเข้ายิ่งนัก ชายคนนั้นยิ้มมาให้เขาทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองรีบเข้าไปทักทาย
“ พี่ ”
“ เยี่ยมมากดีว่า ” ชายคนนั้นคือ แดชพี่ชายของดีว่าผู้เคยสอนวิชากระบี่ให้เขานั่นเอง
“ แต่ว่าพี่ไม่ได้เรียนอยู่หรอครับ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ” ดีว่าท่าทางดีใจอย่างยิ่ง เขาไม่ได้พบกับพี่ชายมาระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่แดชเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยซึ่งต้องไปเรียนยังต่างเมือง
“ ได้ข่าวว่าเราเข้ารอบชิงทั้งที่จะพลาดได้ยังไง ยิ่งมีโอกาสได้พบกับผู้อาวุโสเสี่ยงแล้วนับว่าคุ้มค่ายิ่ง ” แดชตบไหล่ดีว่าก่อนจะหันมายังพวกวา ซึ่งวีวี่ที่ยืนมองดูการสนทนาของพี่น้องสุดหล่อก็หน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว
“ นั่นพวกเพื่อนของผมเองครับ ” ดีว่ารีบแนะนำ
แดชพยักหน้าสวัสดีด้วยท่าทางที่อบอุ่น โซเฟียพยายามดึงวีวี่กลับเข้ามาสู่ความเป็นจริง
“ คุณซากุระก็เข้าแข่งด้วยนะครับ ”
แดชจู่ๆก็หน้าแดงขึ้นมาเมื่อดีว่าเอ่ยชื่อซากุระขึ้น เกาหัวแล้วยิ้มกล่าวแบบอึกๆอักๆ
“ นั่นสินะ เสียดายที่ยังไม่มีโอกาสได้เจอเธอเลย ถ้าเจอก็ฝากสวัสดีด้วยละกัน หวังว่าเธอคงยังจำได้ ”
“ คุณซากุระจำได้อยู่แล้วครับ เธอยังเอ่ยถึงพี่อยู่เลย ” ดีว่ายิ้ม “ ความจริงผมก็กำลังมองหาเธออยู่เหมือนกัน พี่จะไปลองหาด้วยกันไหมครับ ”
แดชหน้าแดงยิ้มแก้มปริเมื่อรู้ว่าซากุระยังจำเขาได้
“ ฮ่าๆ ไม่เป็นไรพอดีพี่มีสอบต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือก่อนน่ะ แค่อยากทักทายเราเฉยๆ แล้วไว้เจอกันใหม่ ตอนนั้นหวังว่าคงจะได้ศึกษาวิชากระบี่จากน้องพี่บ้าง ขอตัวก่อนนะครับ ”
แดชประสานมือให้กับพวกวาแล้วเดินจากไป นี่ก็คงเป็นหนึ่งบุคคลในตำนานการประลองอาวุธที่วามีโอกาสได้พบแบบตัวเป็นๆดูจากบุคลิกและความสง่าแล้วนับว่าคงมีวิชากระบี่ร้ายกาจใช่ย่อย
จากนั้นไม่นานดีว่าก็พบกับเงาสีขาวอีกครั้ง แต่คราวนี้ประกายของเสื้อคลุมทอแสงตัดกับแสงไฟชวนให้หลงใหลก่อนดีว่าจะพบว่านั่นคือ ซากุระในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่ผลัดเปลี่ยนมาใหม่โดยมีกลีบดอกซากุระสีชมพูอ่อนตัดอยู่ที่ขอบเสื้อเสื้อและชายเสื้อคลุมดูงดงามชดช้อยยิ่ง
ดีว่าขอตัวจากพวกวาแยกตามซากุระที่เดินหายไปในกลุ่มผู้คน ทำเอาวีวี่ฝันสลาย
เขาเร่งฝีเท้าเพื่อตามซากุระให้ทันแต่ไม่ว่าจะเร่งความเร็วแค่ไหน ร่างของซากุระก็คล้ายกับเงาถลันวูบไปมา และก่อนที่ดีว่าจะทันรู้ตัวเขาก็ติดตามซากุระจนออกมาจากงานเลี้ยงในสนามแล้ว
ดีว่าก้าวตามร่างของซากุระที่ก้าวไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวี่แววจะชะลอฝีเท้าลง ตัวเขาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่กล้าเอ่ยปากเรียกเธอออกไป
ในที่สุดซากุระก็หยุดฝีเท้าลงที่หน้ากระท่อมหลังโรงเรียน หรือก็คือบริเวณชมรมอัศวินที่ดีว่าได้พบกับเธอครั้งแรก ก่อนจะหันหลังกลับมายิ้มให้แก่ดีว่า เล่นเอาดีว่าตั้งตัวไม่ติดแทบจะเซล้มลง
“ ตามมาได้ไม่เลวนี่คะ สมแล้วจริงๆที่สามารถสู้กับรูเกียร์ได้สูสีขนาดนั้น ”
ดีว่าพูดไม่ออก ไม่ทราบจะยินดีที่เธอกล่าวชมหรือไม่เพราะรู้สึกเขินกับคำว่าที่ ‘ตามมาได้ไม่เลว’ อยู่
ก่อนที่ดีว่าจะกล่าวอะไรออกมานั้นซากุระก็ทำสิ่งไม่คาดฝันขึ้น
‘ ขวับ ! ’
กระบี่ไม้ถูกชักออกมาจากภายใต้เสื้อคลุมของหล่อนชี้ห่างจากใบหน้าของดีว่าเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
“ ตามที่สัญญากันไว้เรามาแลกเปลี่ยนวิชากระบี่กันเถอะคะ ”
ดีว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาก่อน เขายอมรับว่าคำพูดของซากุระยังร้ายกาจกว่าเพลงกระบี่ที่เขาเคยเจอมาทั้งหมดอีก
“ คงจะไม่ปฏิเสธนะคะว่าคุณก็พกเทพกระบี่ประกายแสงมาด้วย ” รอยยิ้มของซากุระบัดนี้ยังคมเสียยิ่งกว่ากระบี่ใดๆเสียอีก
ดีว่าไม่พูดพร่ำทำเพลงชักเทพกระบี่ประกายแสงออกมา ตัวกระบี่สีฟ้าอ่อนตัดกับแสงจันทร์อย่างงดงาม
กระบี่ทั้งคู่ประสานเข้าหากันก่อนที่ซากุระจะตวาดคำว่า ‘อยู่’ แล้วเริ่มลงมือ
นี่เป็นครั้งแรกที่ดีว่ารู้สึกถึงการลงมือของซากุระแบบจริงๆจังๆ แม้ซากุระจะพ่ายแพ้ให้แก่รูเกียร์แต่จัดอยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นดีว่าจึงไม่ประมาทแม้แต่น้อยวกเทพกระบี่ประกายแสงเข้าตั้งรับเกี่ยวพันด้วยท่าแหงนมองจันทร์หนึ่งในกระบวนท่าของเพลงกระบี่ชมจันทร์
ซากุระเมื่อเห็นดีว่าไม่มีทีท่าว่าจะรุกเข้ามาก็โอกาสรุกคืบเข้าหาดีว่า แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าใดก็ไม่สามารถหาช่องว่างได้เลย ทางด้านดีว่าเองก็เช่นกันแม้จะใช้เพลงกระบี่ชมจันทร์แล้วแต่ด้วยความสามารถของซากุระทำให้หาช่องว่างยากยิ่ง นอกเหนือจากนั้นใบหน้าที่ส่องต้องแสงจันทร์ของซากุระยังงามชวนให้หลงใหล เขาเพียงแต่หวังจะได้ร่ายรำกระบี่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ทั้งคู่ร่ายรำเพลงกระบี่ไปมาโดยไม่ใช้พลังลมปราณแม้แต่น้อยเพื่อจะศึกษาความสูงต่ำของเพลงกระบี่กันอย่างจริงจัง หากพิจารณาตามฝีมือแล้วซากุระมีความหนักแน่นมั่นคงกว่า แต่ทางด้านดีว่ามีความพลิกแพลงและลึกล้ำกว่าหากแต่ยังขาดประสบการณ์ต่อสู้และการใช้เพลงกระบี่ชมจันทร์อยู่
ในเพลงกระบี่ที่ทั้งคู่ใช้อยู่นั้นยิ่งมายิ่งแฝงความหมายซากุระใช้ออกด้วยท่าวิกาลคล้อยคล้ายสื่อความหมายว่าอีกไม่นานคงต้องจากกัน ดีว่าก็โต้ด้วยท่าดวงจันทร์มิกล้าทอแสงชมเชยความงามของซากุระ
‘ ติง ! ’
เทพกระบี่ประกายแสงหยุดชะงักลง กระบี่ของทั้งคู่กลับมาประสานกันอีกครั้งการร่ายรำกระบี่สิ้นสุดลง
ซากุระโค้งตัวคำนับดีว่าอย่างชื่นชม
“ คุณดีว่านับว่าเป็นอัจฉริยะกระบี่โดยแท้ ”
“ คุณเองก็เช่นกัน ” ดีว่าคำนับตอบจากนั้นบอกเล่าถึงที่แดชพี่ชายของตนฝากสวัสดีแก่เธอ ซากุระถึงกับปิดปากหัวเราะออกมา
“ พี่ชายของคุณก็ถือเป็นมือกระบี่ที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง ฝากสวัสดีเขาด้วยคะ ” ซากุระเสยผมที่จอนหู “ ดิฉันคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก แต่ก็ต้องขอบคุณมากที่ได้รับการแลกเปลี่ยนเพลงกระบี่กับคุณ ”
“ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่ทราบว่า..... ” ดีว่าชะงักรู้สึกอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งซากุระเอียงคอรอคำตอบยิ่งรู้สึกปั่นป่วนในหัวใจ
“ ไม่ทราบว่าอะไรหรอคะ ”
“ มะ ไม่ทราบว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ ” ดีว่ากล่าวไปอย่างเขินอายเป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกกระอักกระอวนขนาดนี้
“ เรื่องนั้นเองหรอคะ ” ซากุระปิดปากหัวเราะ “ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หากคุณสามารถเอาชนะดิฉันได้ภายในห้ากระบวนท่า ดิฉันจะให้เบอร์ติดต่อคุณไว้เป็นอย่างไรคะ ”
“ ตกลงครับ ” ดีว่ายิ้ม ต้องยอมรับว่าการจะเอาชนะซากุระภายในห้ากระบวนท่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่าว่าแต่เอาชนะหากแต่สู้ไม่ให้พลาดท่ายังนับว่ายากเย็น แต่ดีว่ากลับรับคำในทันที
ทั้งคู่ตั้งท่ากระบี่ขึ้นอีกครั้ง และเมื่อซากุระเอ่ยปากขึ้นดีว่าก็เริ่มลงมือ คราครั้งนี้เขางัดสุดยอดไม้ตายของเพลงกระบี่ชมจันทร์ออกมาตั้งแต่กระบวนท่าแรกชื่อกระบวนท่า ‘ เย้ยจันทร์’ วกกระบี่เข้าหาตัวเองแทนที่จะโจมตีใส่ซากุระ ไม่ว่าจะพิจารณาในแง่มุมไหนนี่ก็เป็นการใช้กระบวนท่าออกอย่างสุญเปล่าหนึ่งกระบวนท่า
จากนั้นดีว่าใช้ออกด้วยกระบวนท่า ‘ ชิงดาราเคลื่อนคล้อย ’ หมุนกระบี่ไปมาไร้ทิศทางเสียเปล่าไปอีกเป็นกระบวนท่าที่สองสร้างความประหลาดใจให้แก่ซากุระอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้กระบวนท่าที่สาม ‘ ถามจันทร์ ’ แทงกระบี่ตรงเข้าใส่ซากุระแต่ก็ถูกกระบี่ไม้รับไว้ได้
พริบตานั้นดีว่าพลันลงมือย่างรวดเร็วใช้ออกด้วยกระบวนท่าที่สี่ ‘ มิอาจลืมเลือน ’ พัวพันเทพกระบี่ประกายแสงเข้ากับกระไม้ของซากุระ สภาวะกระบี่ของทั้งคู่พัวพันอลวนกันอย่างหยุดเหยิงเหลือเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้นตามที่สัญญากันไว้ แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถเอาชัยได้แต่อย่างไร
‘ จูบจันทร์ ’
ทันใดนั้นกระบวนท่าสุดท้ายถูกใช้ออกดีว่าก้าวขาไปข้างหน้าเขยิบตัวเข้าใกล้ซากุระก่อนจะใช้กระบวนท่าที่มีความพลิกแพลงถึงขีดสุดสลัดกระบี่ไม้ในมือของซากุระให้หลุดลอยไป พร้อมซากุระที่รู้สึกเสียการทรงตัวจากการสืบเท้าเข้ามาของดีว่า ร่างส่ายโอนเอนล้มลง
‘ ฟึ่บ ’
ดีว่าใช้แขนซ้ายโอบประคองร่างของซากุระไว้ได้อย่างสวยงาม ทั้งคู่ประสานตากันภายใต้แสงจันทร์นวล ความจริงกระบวนท่านี้เป็นกระบวนท่าปิดท้ายในเพลงกระบี่ชมจันทร์ซึ่งแม้จะมีความพลิกแพลงถึงขีดสุดแต่หากคู่ต่อสู้รู้ถึงแนวทางกระบี่แล้วย่อมสามารถป้องกันได้โดยง่ายกล่าวคือเป็นการอาศัยกระบวนท่าเอาชัยในระยะเวลาที่สั้นที่สุด หากคู่ต่อสู้ใช้ลมปราณตีโต้ผู้ใช้อาจได้รับบาดเจ็บได้ แต่ครั้งนี้ซากุระไม่ได้ใช้ลมปราณดังนั้นดีว่าจึงถือโอกาสใช้กระบวนท่านี้ออก เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ ผู้บัญญัติกระบวนท่านี้เพียงเพื่อต้องการร่ายรำกระบี่กับผู้ที่ตนรักเท่านั้น กระบวนท่าจบจึงเป็นเช่นนี้
“ ดิฉันแพ้จนได้ ” ซากุระหลบสายตาเอียงหน้ายิ้มอย่างเขินอายภายใต้การประคองของดีว่า ดีว่าเพิ่งรู้สึกตัวว่าโอบร่างของเธออยู่ก็รีบปล่อยมือ
“ ขออภัยด้วยครับ ”
“ นี่ค่ะตามที่สัญญาไว้ ” ซากุระหยิบกระดาษสีชมพูแผ่นเล็กออกจากใต้แขนเสื้อยื่นให้แก่ดีว่า
ดีว่ารับแผ่นกระดาษมาด้วยความรู้สึกอิ่มเอม
“ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะ ” ซากุระโบกมือภายใต้แสงจันทร์ช่างเป็นภาพที่แสนงดงามเหลือคำบรรยายเสียเหลือเกิน
ดีว่าเหม่อมองร่างเธอเดินจากไปพร้อมคิดในใจเบาๆ
‘ จันทราที่ลอยกระจ่างฟ้าเอ๋ย เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอผู้นี้ เจ้ายังกล้าทอแสงอีกหรือ ’
อีกด้านหนึ่งขณะที่วากำลังเดินกับพวกมิวอยู่นั้นเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มก็แหวกผู้คนตรงเข้ามายังพวกเขา พร้อมกระโดดเข้าคล้องแขนโซเฟียแบบไม่สนสายตาใคร
“ พี่โซ ” ซิลเวียร์ลากเสียงออดอ้อน “ อีกสักพักก็ต้องกลับแล้ว ซิลวี่คิดถึงพี่โซจัง ”
“ แหะๆ เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกจ้า ”
“ ว่าแต่เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน ” ซิลเวียร์จู่ๆก็ชี้นิ้วไปยังวา เล่นเอาเจ้าตัวตั้งตัวไม่ทัน
“ เพื่อนพี่เองจ๊ะ ” โซเฟียยิ้ม
“ งั้นก็แล้วไป ถ้าคิดจะจีบพี่โซของหนูละก็เจอดีแน่ ท่าทางเด๋อด๋าแบบนี้หนูไม่ให้ผ่านหรอก ”
วาความจริงควรจะฉุนบ้าง แต่ด้วยการปรากฏตัวแบบสายฟ้าแลบพร้อมกับคำกล่าวหาที่กล่าวออกมารวดเดียวทำให้เขารู้สึกสับสนเสียมากกว่า
โซเฟียหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ซิลเวียร์เห็นโซเฟียยิ้มชอบใจก็ดีใจ รีบหยิบจดหมายที่เตรียมมายื่นให้แก่เธอ
“ พี่โซช่วยรับนี่เป็นของขวัญด้วยนะคะ ”
“ ขอบใจมากจ๊ะ ” โซเฟียกล่าวจดหมายซองสีฟ้าอ่อนติดรูปหัวใจสีฟ้าจ่าหน้าซองว่า ‘ ถึง พี่โซสุดที่รัก ’
“ แต่ห้ามเปิดออกจนกว่าหนูจะกลับนะคะ ไม่สิจนกว่าพี่จะถึงบ้านนะ ” ซิลเวียร์รีบห้าม
“ จ้าพี่สัญญา ขอบใจจริงๆนะ ยังไม่มีโอกาสได้ให้ของตอบแทนเลย ” โซเฟียกล่าวพลางแกะริบบิ้นผูกไว้ออกแล้วยื่นให้แก่ซิลเวียร์ “ นี่จ๊ะ ช่วยรับเป็นของที่ระลึกก่อนก็แล้วกันนะ ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ เอาเป็นว่าถ้าเจอกันคราวนี้พี่จะหาของที่ดีกว่านี้มาให้นะ ”
ซิลเวียร์รีบรับมาหน้าแดงก่ำ
“ ไม่ต้องหรอกคะ ขอบคุณมากนะคะหนูจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเลย แล้วเจอกันใหม่นะคะ อย่าลืมติดต่อมาบ้างนะคะ ”
จากนั้นออกตัววิ่งหนีจู๊ดไปด้วยความเขิน ปล่อยให้วาผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากคำกล่าวหายืนงง
“ เสน่ห์แรงจริงๆนะแม่คุณ ” มิวแซว แล้วหันไปกระซิบบอกวา “ ระวังไว้เถอะ ถูกแย่งไปแล้วจะหาว่าไม่เตือน ”
วาจู่ๆก็รู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จนโซเฟียเริ่มสงสัย
“ นิๆ กระซิบนินทาอะไรเรากัน ”
“ ไม่มีอะไรๆ ไปต่อกันเถอะๆ ” มิวกอดคอวาเดินไปข้างหน้า ทิ้งโซเฟียไว้ให้กับวีวี่ที่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
ทั้งคู่เดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งเจอกับไลร่าซึ่งเข้ามากล่าวทักทายวาก่อน
“ ขอยืมตัวเพื่อนนายหน่อยนะ ” ไลร่ายิ้มหวานให้มิวเล่นเอามิวเคลิ้ม
“ ครับๆ เชิญเลยครับ ”
จากนั้นไลร่าก็ชวนวาเดินเล่นสักพักเพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นคร่าวๆและให้วาให้สัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความลับระหว่างเธอกับเขาเท่านั้น
เมื่อวาทราบเรื่องราวทั้งหมดก็รู้สึกทึ่งไม่น้อย แต่ก็รู้สึกยินดีกับไซโคร แนชเป็นอย่างยิ่ง ส่วนตัวเขาเองกลับแอบรู้ดีใจอยู่ลึกๆที่ไลร่าไม่ได้ชอบไซโคร แนชแบบที่เขาคิดไว้
“ แล้วพบกันใหม่ในการประลองปีหน้านะ ไม่สิถึงตอนนั้นเราก็เรียนจบไปแล้ว เอาเป็นว่าถ้าว่างอย่าลืมแวะมางานจบของเราก็แล้วกัน ”
“ อืม แล้วพบกันครับ ” วาแอบเขินที่จู่ๆไลร่าก็ชวนเขาขึ้น
“ จริงสิ เรายังไม่ได้เก็บค่าซ้อมที่ช่วยให้เอาชนะวิสด้อมได้เลยนะ ” ไลร่าแบมือเล่นเอาวาชะงัก
“ ขอติดไว้เป็นคราวหน้าได้ไหมครับ ” วาเกาหัวแบบอายๆ
“ ได้ห้ามลืมที่สัญญาไว้ละ ” ไลร่าชูนิ้ว “ เอาที่ติดต่อนายมาด้วยเผื่อตามตัวไม่เจอ ”
“ อะ โอเคครับ ” วาตะกุกตะกักจดโน้ตส่งให้แก่ไลร่า
“ แล้วเจอกันนะ ” ไลร่าโบกมือ วารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ส่วนมิวรีบเข้ามาถามไถ่ถึงที่มาที่ไป
อีกมุมหนึ่งท่ามกลางแสงไฟสีขาวที่ส่องสว่างไซโคร แนชรู้สึกสติเริ่มกลับมาทีละนิด ในความฝันของเขากำลังฝันว่าได้พบกับรีน่าอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะค่อยๆเดินห่างออกไปทีละน้อย จากนั้นทุกอย่างพลันสว่างขึ้น
“ อย่าเพิ่งไป ” ไซโคร แนชยื่นมือไปข้างหน้าตะโกนเสียงดังร่างกระตุกตื่นขึ้นจากฝัน มือซ้ายรู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่างที่ส่งผ่านมา ความลื่นนุ่มนั้นไม่ใช่หมอนหรือเตียงแน่นอน
เมื่อหันไปด้านข้างเตียงก็พบกับรีน่าที่นั่งยิ้มอยู่อย่างดีใจ
“ คิดถึงใครอยู่หรอ ”
ทันใดนั้นไซโคร แนชรู้สึกวาบหวามขึ้นในหัวใจ ก่อนจะพบว่าเขากลับมาอยู่ในห้องพยาบาลอีกครั้งพร้อมกับรีน่าที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆโดยหล่อนกุมมือซ้ายของเขาไว้ตลอด
ห้องพยาบาลขณะนี้มีเพียงรีน่าและเขาเท่านั้น มองออกไปข้างนอกหน้าต่างก็พบว่าเป็นท้องฟ้ามืดลงแล้ว แสดงว่าเขาหลับไปเป็นเวลานานพอสมควรเลยทีเดียว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเวลานี้คนที่เขาอยากเจอมากที่สุดทุกลมหายใจได้นั่งอยู่เคียงข้างเขาแล้ว
ไซโคร แนชกระชับมือของรีน่าแล้วยันตัวขึ้นนั่งครึ่งตัว
“ ก็คิดถึงเธอยังไงละ ”
รีน่ายิ้มมุมปากน้ำตาไหลอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของไซโคร แนช
“ เฮ้ๆ เราพูดอะไรผิดอย่างนั้นหรอ ” ไซโคร แนชเขย่ามือของหล่อน
รีน่าส่ายหน้าพยายามปรับเสียงให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ ขอบคุณนะ ”
“ เราต่างหากที่ต้องขอบคุณ ” ไซโคร แนชรีบบอกปัดจากนั้นถามไถ่ความเป็นมาของเรื่องราวทั้งหมดกับรีน่าเริ่มตั้งแต่สาเหตุที่เธอหายตัวไปเพราะท่านพ่อไม่อนุญาตให้กลับมาเรียนที่นี่อีก และต้องรับการรักษาอย่างจริงจัง รวมทั้งเรื่องอาการของเธอและวินเซนต์
“ อย่าโกรธวินเซนต์เลยนะ ” รีน่าขอร้องแววตาของเธอแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ หากไม่ได้วินเซนต์เราคงไม่ได้พบกัน ถึงเขาจะทำรุนแรงกับเธอแต่โทษที่เขาต้องรับหากถูกจับได้ว่าฝ่าฝืนคำสั่งของท่านพ่อก็รุนแรงไม่ใช่น้อย ”
ไซโคร แนชเพียงยิ้มเท่านั้น
“ ได้สิ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ”
ขอเพียงได้เจอกับเธออีกครั้ง ขอเพียงเอ่ยปากขอมาไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขาจะไม่มีวันหวั่นไหวเด็ดขาด
จู่ๆรีน่าก็ปัดมือไซโคร แนชออก แล้วหันหน้าเข็นรถเข็นจากไป
“ ขอบคุณมากนะ ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราก็ขอตัวก่อนนะ ”
“ เดี๋ยวก่อนสิจะไปไหนน่ะ อุตส่าห์ได้เจอกันแล้วแท้ๆ เราพูดอะไรผิดไปงั้นหรือ ” ไซโคร แนชรู้สึกหัวใจเจ็บแปลรีบคว้าแขนเธอเอาไว้
“ กรุณาช่วยปล่อยมือด้วยเถอะคะ ” รีน่าไม่สบตาของไซโคร แนชก้มหน้ากล่าวอย่างเย็นชา
“ ไม่ปล่อยเด็ดขาด เราทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรอบอกมาสิ ” ไซโคร แนชลุกพรวดออกจากเตียงซวนเซเล็กน้อย
“ ปล่อยเถอะ เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ”
“ มะ หมายความว่ายังไงกัน ” หัวใจของไซโคร แนชคล้ายถูกบีบอัดอย่างรุนแรง “ หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องนั้นถ้าอย่างนั้นเราขอโทษจริงๆที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ”
ไซโคร แนชก้มหัวทำท่าจะคุกเข่าขอขมาแต่ถูกรีน่าห้ามไว้
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นหรอก ”
“ ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกมาทีเถอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเราจะปรับปรุง ขอแค่ให้โอกาสเราอีกสักครั้งเถอะนะ ” “ไซโคร แนชคุกเข่าก้มหัวลง ทันใดนั้นประกายของกางเขนที่มีรอยเลือดก็สะท้อนเข้าตารีน่า
รีน่าสะอื้นหนักกว่าเดิม สะกดกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่กล่าวเสียงแข็งสลัดมือของไซโคร แนชแล้วเข็นรถเข็นออก
“ หมดเวลาแล้ว เราขอตัวก่อนนะ ”
‘ ไม่มีทางที่คนไม่สมบรูณ์อย่างเราจะคู่ควรกับเขาหรอก ลาก่อน….’
ไซโคร แนชรู้สึกโลกหมุนคว้างนิ่งไปพักหนึ่ง ร่างของรีน่าค่อยๆเคลื่อนออกจากเข้าไปทีละน้อยๆ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจวิ่งตามไปอ้าแขนโอบกอดร่างของรีน่าไว้จากด้านหลังรถเข็นน้ำตาไหลออกมาอย่างลืมตัว
“ ไม่ยอมให้ไปเด็ดขาด จะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่มีวัน ไม่มีวัน ! ”
รีน่านิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ไซโคร แนชรู้สึกตัวเองทำเกินไป ความจริงเขาควรจะแคร์จิตใจของเธอบ้างดังนั้นค่อยๆคลายมือจากการสวมกอดทว่ารีน่าก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงอันแผ่วเบาแต่ชัดเจนในทุกอณูการรับรู้ของเขา
“ ถ้าอย่างนั้น……ก็ห้ามปล่อยเราไปอีกตลอดกาลนะสัญญาได้ไหม ไม่ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรห้ามปล่อยมือเราเด็ดขาดนะ นี่เป็นคำขอร้อง ไม่ใช่คำสั่งเข้าใจไหม ! ”
“ ขอสัญญาด้วยเกรียติของผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไร จะรักเธอไป ขอแค่เธอยังอยู่ตรงนี้ ”
“ ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ ” รีน่าหลั่งน้ำตาแห่งความปิติออกมาหันกลับมาโผเข้ากอดไซโคร แนช
ทั้งคู่โอบกอดกันด้วยความรักและอาวรณ์จากการผลัดพราก นิทานของเจ้าหญิงและเจ้าชายอาจจะไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ แต่ความรักที่ทั้งสองมีต่อกันนั้นจะคงอยู่เป็นนิรันดร์
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเหล่านักเรียนทั้งหลายพากันทยอยกลับบ้าน หรือโรงเรียนกันจนผู้คนเริ่มเบาบางลงแล้ว ที่มุมหนึ่งใต้ต้นไม้ในเงามืดร่างของชายหนุ่มยืนพิงต้นไม้เหม่อมองไปยังหน้าต่างตัวปราสาทที่มีไฟเปิดอยู่จากระยะไกล นาฬิกาแบบโบราณที่มีสายห้อยติดกับเสื้อกั๊กสีดำส่งเสียงติกๆๆเมื่อเข็มของมันเดินไปเรื่อยๆ
“ ที่แท้ก็มาอยู่นี่เอง ” เสียงใสดังจากด้านหลังของชายคนนั้น ทำให้เจ้าตัวรีบหันกลับไปและพบว่าผู้มาคือ หญิงสาวหน้าตาสละสลวย ผมของหล่อนสีขาวราวกับหิมะบุคลิกเยือกเย็นแต่ให้ความรู้สึกเร้าร้อนในเบื้องลึก เธอคือ ไลร่าเพื่อนสนิทของรีน่านั่นเอง
วินเซนต์กระดกข้อมือปิดหน้าปัดนาฬิกาแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกง
“ มีอะไรอย่างนั้นหรอ ”
“ ไม่คิดเลยนะว่าคนอย่างนายก็มีมุมนี้เหมือนกัน ”
“ ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ ” วินเซนต์กล่าวโดยไม่มองหน้าหล่อน
“ คงจะเจ็บจี๊ดอยู่ละสิ ” ไลร่าชี้นิ้วก่อกวนโดยไม่มีท่าทีจะกลัววินเซนต์ผู้เงียบขรึมแม้แต่น้อย เล่นเอาเจ้าตัวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ จริงๆมีเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจอยู่เหมือนกันนะ ทำไมตอนนั้นไม่เอาชนะเขาไปเลยละ ปล่อยโอกาสให้เขาตั้งตัวสู้ทำไม นายนี่ก็แปลกคนนะ ”
“ เฮอะ ” วินเซนต์เค้นหัวเราะ “ ได้เวลาที่รีน่าต้องกลับแล้ว ขอตัวก่อนนะ ”
“ นายนี่เหมือนพ่อราชรถประจำตัวจริงๆนะ ได้เวลาไปรับซินเดอเรลล่าแล้วหรอ ” ไลร่าแหย่ “ เฮ้อ ไม่รู้จะเชียร์ฝ่ายไหนดีนะ ”
แต่เจ้าตัวไม่สนใจเดินผ่านหน้าไลร่าไปอย่างเย็นชา
“ เฮ้ๆ รอด้วยสิ ชั้นเองก็มีหน้าที่ต้องพารีน่ากลับเหมือนกันนะ ”
ไลร่ารีบตามวินเซนต์ไป
เสียงระฆังบอกสัญญาณเวลาดังจากหอนาฬิกาเก่าแก่ของโรงเรียนไอแซกเป็นการประกาศเลิกงานเลี้ยงอย่างชัดเจน ไซโคร แนชที่เข็นรถเข็นพารีน่าออกมาชมดอกวินเทอร์วิสยามค่ำคืนอยู่หยุดฝีเท้าลงพร้อมถอนหายใจ เขาทราบดีว่าเวลาที่รีน่าจะต้องกลับไปมาถึงแล้ว
“ เวลาช่างผ่านไปเร็วเสียจริงๆ ”
“ อืม ” รีน่ายิ้มละไมทั้งคู่รู้ดีว่าเวลาแห่งความสุขหมดลงแล้ว และต่อจากนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ อย่าลืมที่สัญญากันไว้ละ ” รีน่ากล่าวพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ร้องไห้อีก
ไซโคร แนชรีบเดินมาข้างกายหล่อนจับมือของเธอไว้เหม่อมองท้องฟ้า และดอกวินเทอร์วิสคล้ายอยากหยุดเวลาช่วงนี้เอาไว้ชั่วนิรันดร์
“ ไม่มีวันลืมหรอก เราจะตามไปให้ได้ ส่วนเธอก็เหมือนกันละ ”
“ อืม เราจะเข้มแข็งนะ แล้วจะหายดีให้ได้คอยดู ”
เสียงระฆังตีเป็นครั้งที่สองเวลาแห่งการจากลาจริงๆมาถึงแล้ว รีน่าเห็นเงาร่างของวินเซนต์และไลร่าที่เดินมารับตนได้อย่างชัดเจน
“ ช่วยเอียงตัวลงมาหน่อย ” รีน่ากระซิบแผ่วเบา
ไซโคร แนชเอียงตัวเข้ามาหาหล่อน
“ ใกล้อีกนิด อีกนิด ”
ไซโคร แนชรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันแผ่วเบาของรีน่า
“ ช่วยหลับตาที ” เธอกล่าว จากนั้นวินาทีที่คล้ายความฝันก็บังเกิดขึ้น
ไซโคร แนชสัมผัสถึงได้ถึงริมฝีปากอันอ่อนละมุนที่ประทับเข้ายังริมฝีปากของเขา โลกคล้ายหยุดหมุนไปอีกครั้ง หัวใจรู้สึกอิ่มเอมอย่างยากจะเกินบรรยาย ก่อนที่เสียงเรียกของไลร่าจะทำให้ช่วงเวลาแห่งความฝันหยุดลง
“ รีน่าใช่ไหม ” ไลร่าโบกมือเรียกแต่ไกล ทั้งคู่ผละออกจากกันด้วยความเขิน
วินเซนต์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบราวกับไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่พร้อมกล่าวเหมือนไม่เห็นไซโคร แนชที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ ได้เวลาแล้วครับ ”
“ อืม ขอบใจนะ ” รีน่ากล่าว แล้วหันไปมองไซโคร แนช “ แล้วพบกันใหม่นะคะ ”
“ แล้วพบกัน ขอสัญญาไม่ว่าจะนานเท่าไหร่จะไปหาให้จงได้ ”
ไซโคร แนชหันมาสบตากับวินเซนต์ก่อนจะเข้าไปกระซิบบอก
“ ฝากดูแลรีน่าด้วย แค่ดูแลเท่านั้นเข้าใจไหม ”
วินเซนต์ทำเป็นไม่ได้ยินตอบกลับแบบเย็นชาพร้อมยิ้มมุมปาก
“ เรื่องนั้นชั้นไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าหากตามมาช้าก็อย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน ”
จากนั้นวินเซนต์ก็พารีน่ากลับไปพร้อมกับไลร่า ทิ้งเอาไว้เพียงรองเท้าแก้วของเจ้าหญิงที่รอวันที่เจ้าชายจะตามหาเธอให้พบอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้เจ้าชายไม่หวั่นไหวอีกต่อไปแล้ว เพราะสัญญาแห่งใจที่ทั้งคู่ได้ให้ไว้แก่กันล้ำค่าเสียยิ่งกว่าสัญญาใดๆเสียอีก
ไซโคร แนชกำกางเขนสีเงินบนอกไว้แน่น
‘ จะเกิดอะไร จะรักเธอไป แค่เธอนั้นยืนอยู่ตรงนี้……. ’
_____________________________________________________
ความคิดเห็น