ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #32 : บทเรียนที่ 27 คำท้าของก็อบ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.12K
      52
      15 ม.ค. 50

                                       ทเรียนที่ 27  คำท้าทายของก็อบ

     

     

     


                           ขณะนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว  หยดน้ำหยดเล็กๆที่เกาะติดอยู่บนใบไม้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาพื้นดินโดยทั่วไปเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงเมื่อวานอย่างหนักจึงไม่เป็นที่น่าแปลกที่อากาศยามเช้าของวันนี้จะหนาวเย็นเป็นพิเศษ

    โซเฟียค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ  เธอมองไปยังนาฬิการูปตัวการ์ตูนที่แขวนติดอยู่บนฝาผนังก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้ว

    ‘ ฮัดชิ่ว !!! ’

    โซเฟียสูดหายใจเข้าลึกๆ  เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นหวัดไปหรือเปล่าเมื่อวานหลังจากที่รอวาอยู่หน้าโรงเรียนได้สักพักเธอก็กลับเข้ามายังห้องของเธอและเธอก็ได้พบว่าการแข่งประลองระหว่างสถาบันใกล้เข้ามาถึงทุกทีแล้วซึ่งดูจากปฎิทินแล้วเหลือเวลาอีกแค่ สิบเอ็ดวัน  ซึ่งก็เท่ากับอาทิตย์กว่าๆเท่านั้นเอง

    เวลาที่เหลือก่อนที่จะถึงเวลาแข่งนั้นถ้าตัดออกจากการคัดเลือกทีมประลองอาวุธของโรงเรียนแล้วก็เหลือแค่ราวๆห้าวันเท่านั้นซึ่งอีกสองวันก็จะเป็นวันแข่งขันคัดเลือกทีมของโรงเรียนที่จะไปแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันแล้วแต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด  เธอถึงรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ค่อยพร้อมที่จะแข่ง  ทั้งๆที่ปกติเธอเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมากหรือเพราะว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้กันแน่

     

    โซเฟียส่ายหัวเล็กน้อย 

    ‘ นี่เรากำลังคิดอะไรของเราอยู่นะ  หมอนั่นก็แค่ไปไหนของเขาก็เท่านั้นเอง  ไม่เห็นว่าจะต้องไปคิดอะไรมากเลย เรานี่มันไม่ไหวเลย ’

    ว่าแล้วเธอก็ตัดสินใจลุกไปอาบน้ำพร้อมเตรียมตัวที่จะไปเรียน

     

     

    โซเฟียเปิดประตูห้องเรียนออกช้าๆ เพื่อนร่วมห้องเริ่มมานั่งเตรียมตัวที่จะเรียนกันแล้วซึ่งเมื่อเธอมองไปยังโต๊ะของเธอก็ต้องพบว่า  วามานั่งอยู่ก่อนแล้วแต่หากดูจากสีหน้าจากตรงนี้แล้ว  สีหน้าของวาไม่สู้ดีนัก

    “ นี่ เมื่อวานเธอแอบหนีไปไหนมา ห๊า ”

    โซเฟียทำหน้าบึ้ง

    “ อ่า เออ จริงด้วย ”  วายิ้มเฉือนๆ รีบพยายามเปลี่ยนสีหน้า  “ พอดีไปทำธุระนิดหน่อยน่ะ ”

    “ น่าเกลียดจริงๆ ถึงอย่างนั้นก็น่าจะโทรบอกกันหน่อยนี่หน่า ”

    คราวนี้สีหน้าของวากลับมาเป็นเครียดเล็กน้อย

    “ อ่า ต้องขอโทษจริงๆ นะ  เมื่อวาน……….. ”  ทำท่าครุ่นคิดสักพัก“ เราลืมน่ะ ฮ่าๆ 

    ไม่ทราบว่าโซเฟียไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของวา  หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่เห็นกันแน่ 

    “ หึ สักวันเราจะลืมเธอมั่ง  แล้วจะรู้สึก ” 

    จากนั้นก็เลื่อนเก้าอี้พร้อมกับนั่งลงหันไปมองค้อนใส่วาครั้งหนึ่ง

    “ เออ แล้วนี่รู้หรือยังว่า มะรืนนี้เราจะต้องแข่งประลองอาวุธรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายเพื่อเป็นตัวแทนโรงเรียนแล้วน่ะ ”

    “ อืม จริงสิ  จำได้ๆ  เฮ้อ แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีกะใจจะสู้เลยแฮะ ”

    โซเฟียหันไปมองวา  คล้ายๆพยายามจะสังเกตว่าวาเป็นอะไรไป

    “ เป็นอะไรรึเปล่าปกติไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้เลยนะ ”

    วายิ้ม  “ ก็ไม่เป็นอะไรหรอก  เดี๋ยวก็อยากสู้เองแหละ ฮ่าๆๆ ”

    “ หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อวานกันแน่ ”

    “ เปล่านะ  เรื่องเมื่อวานไม่เห็นจะมีอะไรเลย ”

    “ แน่ใจหรอ ”  โซเฟียจ้องวา

    “ แน่ใจสิ ”

    และหลังจากนั้นไม่ว่าโซเฟียจะถามว่าวาไปไหนมาเมื่อวาน  วาก็ไม่เอ่ยปากพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย  และก็พยายามที่จะตัดบทซึ่งโซเฟียคิดว่ามันจะต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆและก็ไม่น่าจะใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่  เพราะดูจากสีหน้าของวาเวลาถามถึงแล้ว  สีหน้าไม่สู้ดีนัก

    และจากการสันนิษฐานของเธอแล้ว  เธอคิดว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่ขึ้นมาบนเวทีคนสุดท้ายแน่นอนแต่ในเมื่อวาไม่อยากจะเอ่ยถึง  เธอก็ไม่อยากจะถามอะไรมากนักเพียงแต่พยายามกระตุ้นให้วาฮึดสู้ขึ้นเท่านั้น

     

     

    เมื่อถึงเวลาหลังเลิกเรียนคาบวิชาชมรมแล้ว  วา โซเฟีย ดีว่า และไซโคร แนช ก็ได้มีการนัดพบกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการประลองที่จะมาถึงในอีกสองวันต่อจากนี้ซึ่งไซโคร แนชก็ไม่ได้พูดอะไรมาก  แค่นัดเวลากับสถานที่ที่จะพบกันก่อนที่จะขึ้นแข่งเท่านั้น  โดยบอกว่าหากจะฝึกซ้อมก็ขอให้ฝึกวันนี้เป็นวันสุดท้าย และเก็บแรงไว้จนกว่าที่จะถึงวันแข่ง 

    และขณะที่กำลังจะแยกย้ายกันนั้น  โซเฟียเห็นท่าทางวายังดูไม่ค่อยสบายนักจึงถามว่า

    “ วันนี้จะซ้อมประลองอาวุธกันเล่นๆ ดูไหม ”

    “ ซ้อม ?”

    โซเฟียผงกศีรษะ

    “ ซ้อมยังไงหรอ ”

    “ แหะๆ ก็ลองสู้กันจริงๆ ดูยังไงละ ”

    วาทำหน้างง

    “ เหอๆ สู้กันจริงๆ เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดีหรอก เธอนี่ท่าทางจะบ้าแฮะ ”

    โซเฟียเมื่อเห็นวาดูร่าเริงขึ้นก็ยิ้ม  แต่ก็อดค้อนวาไม่ได้ที่หาว่าตัวเองบ้า

    “ นี่ คุณเด๋อมาว่าเราบ้าได้ไง หา ”

    “ หรือ ไม่จริงละ  ใครเขาจะมาสู้กันจริงๆละ ”

    “ แล้วใครบอกละว่าจะให้สู้กันจริงๆ  เราถามว่าจะซ้อมประลองอาวุธกันดูไหม ”

    “ ก็นั่นแหละ ”

    “ เชอะ  เราหมายถึงลองใส่ชุดป้องกันแล้วสู้กันดูไหม ”

    “ อ่าวหรอ ” วาหัวเราะ “ แต่เราจะไปหาชุดกับที่ประลองได้ยังไงละ ”

    โซเฟียทำหน้าเจ้าเล่ห์

    “ นี่ ลืมไปแล้วหรอว่าเราอยู่ชมรมอะไร แล้วเรามีตำแหน่งอะไร ”

    “ อืม ลืมไปแล้ว ”

    วาหัวเราะวันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ  แต่พอได้คุยกับโซเฟีย  เขาเองก็ไม่ทราบเพราะเหตุใดถึได้งรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเป็นพิเศษ  และยิ่งได้เห็นสีหน้าของเธอเวลาโดนเขากวน กลับยิ่งรู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้นอีก

    “ หึ งั้นก็เชิญตามสบาย ”

    โซเฟียค้อนกอดอกทำท่าจะเดินจากไป

    “ อ่าๆ อะล้อเล่นๆ คุณหัวหน้า คุณมือกีต้าร์ คุณกรรมการนักรียน คุณ………… อ่า อะไรอีกละ ฮ่าๆ ”

    โซเฟียเมื่อได้ยินก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

    “ แหะๆ พอแล้วๆ คุณเด๋อนี่ไม่ไหวจริงๆ  สรุปตกลงว่าจะซ้อมกันดูไหม ”

    “ สงสัยถ้าสู้กันเราจะโดนซ้อมมากกว่าได้ซ้อมน่ะสิ ”วายิ้มเจือนๆ

    “ ไม่หรอกน่า  นายเองก็เก่งใช่เล่นนะ ”  โซเฟียมองวาทำหน้าดุ “ แล้วตกลงว่าไง จะถามเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ”

    “ แหม  อย่ามาทำตัวโหดสิ  กลัวนะเนี่ย  ซ้อมก็ซ้อมครับ คุณหญิงโซเฟีย ”

    “ งั้นไปกันเถอะ ”

    ว่าแล้วโซเฟียก็เหมือนนึกขึ้นได้  หันกลับไปหาดีว่ากับไซโคร แนช

    “ ว่าแต่สองคนนี้จะไปซ้อมด้วยกันไหม ”

    ดีว่าหันไปมองหน้าไซโคร แนช  แต่ไซโคร แนชทำหน้านิ่ง คล้ายกับกำลังครุ่นคิดอยู่ สักพักก็ได้ยินเสียงตอบของไซโรแนชเพียงสามคำเท่านั้น

    “ ไม่ดีว่า ”

    เมื่อไซโคร แนชบอกว่าไม่ก็คือไม่ 

    โซเฟียเอียงคอให้ดีว่าเป็นเชิงถาม

    “ ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่มีคู่ที่จะซ้อมด้วย ”

    “ ก็มาซ้อมด้วยกันก็ได้นิ ผลัดๆกัน ”

    “ ไม่ดีกว่าครับ การซ้อมกันมันก็เหมือนการสู้จริงๆแหละครับ  จะซ้อมหลายคนก็คงไม่ได้  ถ้าเป็นอย่างนั้นเหนื่อยแย่เลยครับ ”

    ดีว่ายิ้มอย่างสุภาพ  โซเฟียเองก็เข้าใจดังนั้นจึงไม่คิดจะชักชวนอีก

    ก่อนที่ดีว่าจะไปก็หันกลับมากล่าวกับว่าและโซเฟียว่า

    “ ซ้อมให้เหมือนแข่งจริง และแข่งจริงให้เหมือนซ้อมนะครับ ”

    หลักการนี้นับว่ามีเหตุผลในตัวของมันหากเราซ้อมได้เหมือนการแข่งจริงก็จะฝึกซ้อมได้อย่างจริงจัง  และหากเราแข่งจริงได้เหมือนซ้อมก็จะไม่รู้สึกกดดัน  แต่น้อยคนนักที่จะทำได้อย่างที่ว่านี้

    หลังจากนั้นวา และโซเฟียก็ไปฝึกซ้อมกันเป็นครั้งสุดท้ายที่ห้องชมรมอัศวินก่อนที่จะถึงวันแข่งอีกสองวัน

     

     

    ยามเช้ามักเหมือนกันทุกเช้า  พระอาทิตย์ก็ขึ้นเป็นปกติของมันทุกวันแต่เช้านี้กลับดูพิเศษกว่าทุกเช้า คึกคักเป็นพิเศษกว่า  นั่นเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันคัดเลือกตัวแทนทีมจะไปแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันเป็นวันสุดท้ายนั่นเอง  ซึ่งทีมที่จะได้ไปแข่งระหว่างสถาบันนั้นมีได้เพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น 

    เช้านี้เมื่อนีโอตื่นขึ้นมาก็พบว่าวาตื่นมาก่อนแล้ว  แถมยังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเสียแล้ว

    “ อรุณสวัสดิ์นีโอ ”

    นีโอยิ้มให้กับวา พร้อมกับเอนตัวไปหยิบแว่นที่หัวเตียงมาสวมใส่ท่าทางงัวเงียอยู่นิดหน่อย

    “ อรุณสวัสดิ์  นี่กี่โมงแล้ว ”

    “ นายไม่ต้องรีบหรอก นี่เพิ่งจะตีห้าครึ่งเอง ”

    “ ตื่นเช้าจังนะนายเนี่ย  แล้วนี่จะไปไหนหรอ ”

    “ อ๋อ ไปเตรียมตัวกันนิดหน่อยน่ะ ”

    “ งั้นหรอ ” นีโอยิ้ม จากนั้นลุกขึ้นจากเตียงของเขา  และเดินไปหาวา

    “ ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้โชคดีในการประลองวันนี้นะแล้วเราจะคอยดู  สู้ให้เต็มที่ละ ”

    “ อืม ได้เลย ”

    วายกกำปั้นให้กับนีโอ ส่วนนีโอก็เช่นกัน 

    “ ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ ”

    “ อืม โชคดีๆ แล้วจะคอยดู ”

     

     

    วันนี้เป็นวันศุกร์ แต่วันศุกร์วันนี้ออกจะพิเศษกว่าทุกวันก็คือ  วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนนั่นเองเนื่องจากเป็นการประลองอาวุธรอบสุดท้ายดังนั้นทางโรงเรียนจึงหยุดให้เป็นพิเศษ  และแน่นอนนักเรียนส่วนใหญ่ต่างเตรียมพากันไปชมการประลองบ้างก็เพราะทีมเพื่อนตัวเองแข่ง  บ้างก็เพราะไม่มีอะไรทำ  

    แต่ที่แน่ๆก็คือ  วันนี้คนในห้องชมรมอัศวินจะต้องเยอะเป็นพิเศษแน่นอน  อาจถึงขนาดทำให้ห้องชมรมที่กว้างพอๆกะโดมดูเล็กไปเลยทีเดียว 

    การแข่งขันประลองคู่แรกจะเริ่มเมื่อเวลาแปดนาฬิกา  ดังนั้นพวกวาจึงนัดพบกันก่อนตอนหกโมงเช้าเพื่อเตรียมตัว  แม้ทีมของเขาจะไม่ใช่ทีมแรกที่ต้องแข่งก็ตาม

    จากการคุยกับไซโคร แนชทำให้วาได้รู้ว่า  เขาจะต้องสู้ชนะทีมอีกสามทีมถึงจะเข้ารอบได้วันนี้วารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย  เขาเองก็ไม่ทราบว่าตัวเองจะสามารถช่วยอะไรทีมได้หรือเปล่า  ทีมของเขาจะเข้ารอบหรือไม่แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้นั่นก็คือ  เขาจะสู้ให้เต็มที่

    หลังจากพูดคุย และเตรียมตัวกันได้สักพักแดดอ่อนๆก็เริ่มปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าแล้ว  และบรรยากาศรอบๆ อาคารชมรมก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันที

    ขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง  ซึ่งได้เวลาที่แต่ละทีมจะต้องไปลงทะเบียนก่อนที่จะแข่งวา โซเฟีย ดีว่า และไซโคร แนชจึงพากันไปที่บริเวณลงทะเบียน

    ซึ่งขณะที่กำลังลงทะเบียนอยู่นั้น  วารู้สึกได้ถึงสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรนักของทีมที่เขาจะต้องสู้ด้วย  แต่นั่นยังไม่ทำให้เขากดดันเท่ากับได้เห็นสายตาของพวกแก๊งเอ็ดดี้ที่มองมายังเขา  โดยเฉพาะสายตาที่เย็นชาของก็อบ  และวาก็พยายามที่จะทำเป็นไม่เห็นซะ

     

     

    หลังจากที่ลงทะเบียนทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว  ยังเหลือเวลาอีกประมาณสิบห้านาทีก่อนที่ทีมของเขาจะต้องแข่ง  วา และโซเฟียจึงขอตัวไปเดินคุยกับเพื่อนๆ ของเขาก่อนเพื่อเป็นการคลายความกดดัน

    และบริเวณทางขวาของประตูใหญ่ห้องชมรมอัศวินวาก็ได้พบกับซักก้า พิชากิ มิว เบต้า เสือใบ้นิค หรือแม้กระทั่งพรีสไซ กับโซลีนก็มาคอยให้กำลังเขาด้วย 

    “ โชคดีนะเพื่อน ”  ซักก้าชูนิ้วโป้งให้

    “ อย่าเป็นเกลือให้ชั้นเห็นละ ”  พรีสไซยิ้มเจ้าเล่ห์

    “ ถ้าแพ้ละก็จะต้องฝึกซ้อมปิงปองเพิ่มขึ้นนะ ” โซลีนกล่าวอย่างจริงจัง

    ส่วนพิชากิ เบต้า เสือใบ้นิคทำหน้าตาไร้ความรู้สึก  แต่ก็ยังยิ้มให้ 

    ขณะที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนๆอยู่นั้น  ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกโซเฟียมากจากด้านหลัง  และคนที่ร้องเรียกนั่นก็คือ วีวี่นั่นเอง

    วีวี่หอบหายใจเล็กน้อย  คล้ายกับเพิ่งตื่นแล้วรีบวิ่งมา

    “ นี่ พวกเธอยังไม่แข่งกันใช่ไหม  หรือว่าแข่งเสร็จกันไปแล้ว  แล้วท่านดีว่าละ…….”

    “ แหะๆ ใจเย็นๆก่อนก็ได้เรายังไม่แข่งหรอก  เธอมาทีนเวลาพอดี ”

    “ โอ้ เราเกือบคิดว่าจะมาไม่ทันซะแล้วสิ  ว่าแต่ว่าท่านดีว่าละ ”

    “ เขาไปเตรียมตัวอยู่ข้างสนามแล้วละ ”  โซเฟียชี้ไปในห้องชมรมอัศวิน

    “ แย่จัง อดอวยพรเลย  เราทำไอ้นี่มาให้เขาด้วยสิ ”

    วีวี่หยิบผ้าผืนหนึ่งออกมาจากเป้ของเธอ  มิวมองด้วยสายตาหมั่นไส้  จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกัดวีวี่

    “ อะไรเนี่ย  ผ้าเช็ดผืนหรอ  จะเอาไปให้หมอนั่นทำไม ”

    “ ปากเสียจริงๆ  นี่มันผ้าพันมือ หรือจะเอาไว้คาดหัวก็ได้ปักลายไว้ว่า ดีว่าสู้ๆ ไม่เห็นเรอะ !!! ”

    กล่าวพร้อมกางผ้าสี่เหลี่มผืนผ้าสีขาวเขียนคำว่า    D I V Asusu !!! ”  ไว้ด้วยตัวอักษรสีแดง

    “” แหะๆ งั้นเราฝากเอาไปให้เขาก็ได้นะ

    “ อ่า จริงหรอโซเฟีย ขอบใจมากนะ ”

    มิวทำท่าไม่พอใจ

    “ อย่างเธอคงไม่กล้าเอาไปให้เขาหรอกนะ  ต่อให้เขาอยู่ตรงหน้าเนี่ย ”

    “ ใครว่าละ ถ้าเขาอยู่เราจะเอาไปให้กับมือเลยละ และก็จะบอกด้วยว่า โชคดีนะ เราจะเป็นกำลังใจให้ ”

    “ งั้นหรอ  ถ้าอย่างนั้นทำให้ดูหน่อยสิ ”

    กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปด้านหลังของวีวี่  เมื่อวีวี่หันหน้าไปก็ตกใจสุดขีด  ถึงกับแทบเป็นลมล้มไปเลย  นั่นเพราะดีว่ามายืนอยู่ที่ด้านหลังของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 

    เห็นดีว่ายิ้มอย่างสุภาพพร้อมกับกล่าว

    “ อ่า ขอโทษทีนะครับ ทำให้ตกใจรึเปล่า  พอดีจะมาบอกกับคุณวา แล้วก็คุณโซเฟียว่าไปเตรียมตัวได้แล้วละครับ ”

    วีวี่หน้าแดงขึ้นมาทันที  คำพูดที่พูดกับมิวเมื่อกี้ดีว่าคงต้องได้ยินหมดแล้วแน่ๆเลยซึ่งที่จริงดีว่าเพิ่งเดินมาถึงไม่ทันได้ยินที่วีวี่พูดกับมิวเลยแม้แต่น้อย

    ตอนนี้หากเธอหายตัวไปได้ เธอแทบจะอยากหายตัวไปในทันทีแต่เมื่อเธอหันไปเห็นมิวหัวเราะชอบใจก็ไม่ทราบว่าเธอใจสู้ขึ้นมาได้อย่างไร

    ‘ หึ มิวเราไม่ยอมให้นายหัวเราะเยาะเราหรอก  เอาละ ถึงตายก็ยอมละงานนี้ !!!’

    “ เออ……….ดะ ดีว่า ”

    ดีว่าหันมายิ้มให้กับวีวี่

    “ ว่ายังไงครับ คุณวีวี่ ” 

    ‘ หาา เขาจำชื่อเราได้ด้วย !!!!’  วีวี่ดีใจจนแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่  แต่ก็คุมสติตัวเองเอาไว้จากนั้นรีบกล่าวออกไปว่า

    “ นี่เราทำมาให้น่ะ  พะ พอดี ผ้ามัน หะ เหลือแบบว่า แบบว่าเออ คือ เราว่างนะ ”  พร้อมกับยื่นผ้าพัมมือ หรือผ้าคาดหัวไปให้กับดีว่า อย่างกล้าๆ กลัวๆ 

    อึดใจนั้นคล้ายโลกจะแตกสลายไปให้ได้  ดีว่าหยิบผ้าของวีวี่มาพร้อมกับมองดู 

    “ สวยมากเลยครับ  ผมจะเก็บไว้อย่างดีเลย  ขอบคุณมากเลยนะครับ คุณวีวี่ ”

    “ มะ ไม่เป็นไรค่ะ 

    วีวี่คล้ายจะล้มลงตรงนั้นให้ได้ส่วนมิวทำหน้าอึ้งไม่คิดว่าวีวี่จะกล้าได้ถึงขนาดนี้ 

    “ ขอโทษทีนะครับ  ผมขอตัวไปเตรียมตัวแข่งก่อนนะครับ ”

    “ โชคดีนะค่ะ ”

    “ ครับ ”

    ดีว่ายิ้มให้วีวี่จากนั้นเดินไปโดยไม่ได้หันกลับมาซึ่งหากดีว่าหันหลับมาจะต้องพบว่าคนที่ดีใจจนจะเป็นลมเป็นยังไง

    “ แหะๆ ทำใจดีๆไว้ ”

    โซเฟียหัวเราะที่วีวี่ดีใจจนออกนอกหน้าส่วนวาหัวเราะเพราะขำท่าทางของวีวี่ผิดกับมิวที่หน้าบึ้ง  เพราะเขาไม่คิดว่าวีวี่จะกล้าทำได้จริงๆ

    “ โอ๊ย  เกือบตายแน่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ”

    “ แหะๆ ใจเย็นๆ เธอทำดีแล้วยินดีด้วย  ไว้เราแข่งเสร็จค่อยมาคุยกันนะ ”

    “ จ๊ะ สู้ๆนะ โซเฟียวาด้วยละ ”

    หากบอกว่าคนถูกรางวัลร้อยล้านมีสีหน้าดีใจขนาดไหนก็สู้วีวี่ในตอนนี้ไม่ได้  วาจะไม่เถียงเลยสักคำ 

     

     

     

    จากนั้นโซเฟียและก็วาก็เดินกลับมาพบไซโคร แนช  ส่วนเพื่อนๆของเขาก็พากันไปนั่งยังที่ที่พวกตัวเองจองไว้

    “ วันนี้เราต้องแข่งกับทีมสามทีมถึงจะชนะได้รู้กันแล้วหรือยัง ”

    ไซโคร แนชกล่าวขึ้นมาซึ่งทุกคนต่างก็ผงกหน้าเป็นเชิงรับทราบจากนั้นกล่าวต่อ

    “ เพราะฉะนั้นคงจะรู้แล้วสินะว่าปัญหาของเราคืออะไร ”

    “ ปัญหาก็คือ เวลาในการพักพ่อน และความเหนื่อยจากการต่อสู้กับทีมถึงสามทีมใช่ไหมครับ ”

    วาตอบ  ไซโคร แนชพยักหน้า

    “ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือ การจัดการคู่ต่อสู้ให้ได้เร็วที่สุด และพยายามออมแรงไว้ให้ได้มากที่สุด  เพราะว่าคู่ต่อสู้ในรอบสุดท้ายของเราคงไม่ธรรมดาแน่นอน ”

    ดีว่ากล่าวเสริม

    “ ส่วนเรื่องการจัดคนที่จะลงไปแข่งข้าจะเป็นคนจัดการให้เอง ”

    หลังจากที่ตกลงอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็ได้ยินเสียงของเด็กชายนักประกาศกล่าวขึ้น

    “ เอาละครับ  การแข่งขันคู่แรกก็จบลงไปกันแล้วนะครับ  เพื่อไม่ให้เสียเวลา  เรามาชมการแข่งขันคู่ต่อไปกันเลยครับ !!! ”

    จากนั้นแอบอ่านรายชื่อทีมจากแผ่นกระดาษในมือของตนเอง

    “ คู่ต่อไปเป็นการแข่งขันระหว่างทีมโทลว์ กับทีม โอ้  ทีมมิราเคิลครับ!!! ”

    เสียงปรบมือดังขึ้น พร้อมกับเสียงเชียร์  ซึ่งก็เหมือนเดิมวาเป็นคนถูกส่งไปเลือกหัวเหรียญ  และคราวนี้ทีมที่ต้องจัดผู้เล่นก่อนก็เป็นฝั่งตรงข้ามอีกเช่นกันไม่ทราบว่าเป็นเพราะวาใช้มายากล หรือดวงดีในการเสี่ยงทายกันแน่ 

    เมื่อเห็นการจัดทีมไซโคร แนชก็จัดคู่ให้เสร็จสับโดยเร็ว  และคนที่จะต้องเป็นคนสู้คนแรกก็คือ วา นั่นเองส่วนคนต่อไปก็คือ โซเฟีย  และคนสุดท้ายหากมีการผิดพลาดก็คือ  ดีว่า 

    ขณะที่วากำลังจะก้าวขึ้นไปบนเวทีก็ได้ยินเสียงโซเฟียกล่าวขึ้นว่า

    “ ชนะสองครั้งรวดกันไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงดีว่าเขา ”

    “ อืม ”

    วาชูนิ้วโป้งให้จากนั้นสวมเครื่องป้องกันแล้วเดินขึ้นเวทีไป

     

     

    เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นหน้าวาก็ยิ้มออกมาทันที  คล้ายกับจำวาได้ขึ้นใจแต่ขณะที่เด็กชายนักประกาศจะกล่าวอะไรกับวา  คู่ต่อสู้ทีมตรงข้ามก็ก้าวขึ้นมาบนเวทีแล้ว

    ที่เบื้องหน้าของวา ปรากฎเด็กหนุ่มร่างยักษ์ตัวของเด็กหนุมคนนี้แทบจะใหญ่กว่าพิชากิเสียอีก  อาวุธที่เด็กหนุ่มคนนั้นถือมาก็เป็นกระบองหนามยักษ์  ดูๆไปแล้วคล้ายๆกับพวกยักษ์ในนิยายแฟนตาซีทั่วๆไปยังไงอย่างนั้น      

    “ เอาละครับ ในเมื่อพร้อมกันแล้วก็เริ่มการแข่งขันคู่แรกได้เลย ณ บัดนี้!!! ”

    หลังจากประกาศจบทั้งคู่ยืนนิ่งคล้ายถูกกดปุ่มหยุดไว้  วาพยายามมองหน้าวิธีที่จะจัดการกับเจ้าเด็กหนุ่มร่างยักษ์คนนี้อยู่ซึ่งดูจากอาวุธที่แล้วน่าจะมีน้ำหนักมาก  ความคล่องตัวก็น่าจะต่ำแต่หากถูกอาวุธนั่นโจมตีใส่สักสองสามครั้งมีหวังจบแน่นอน

    ขณะที่วากำลังครุ่นคิดอยู่นั่นก็ได้เสียงเด็กหนุ่มร่างยักษ์กล่าวขึ้น

    “ เฮ้  เจ้าตัวเล็ก ไม่กล้าจะสู้รึไง  แล้วไหนละอาวุธของนาย ”

    “ อยู่นี่ยังไงละ !!! ” ไพ่ในมือของวาถูกซัดออกแทบจะในเวลาเดียวกันกับที่วาเอ่ยปาก  เด็กชายร่างยักษ์ไม่ทันระวังก็ถูกไพ่ของวาซัดใส่ใบหน้าเต็มๆ

    ไพ่ที่ซัดถูกใบหน้ากลับระเบิดออกเป็นควันสีขาวเล็กน้อย  ทำให้เด็กชายร่างยักษ์มองไม่เห็นอะไรไปชั่วขณะ  แต่ไม่นานนักควันก็หายไป 

    จากการโจมตีครั้งนี้ของวาทำให้ไลฟ์พอตย์ของเด็กชายร่างยักษ์ลดไป 50 หน่วย 

    ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กชายร่างยักษ์

    “ ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็เป็นไพ่กระจอกๆเท่านั้นเอง  ต่อไปตาเราบ้างละนะ ”

    ว่าแล้วก็โถมเข้าหาวาพร้อมกับตวัดกระบองหนามยักษ์เข้าใส่วาแต่ไม่ทันที่กระบองนั้นจะฟาดถึงวาก็เห็นวาทำท่าเกาหัวแล้วกล่าวขึ้น

    “ ไพ่กระจอกๆ งั้นหรอ ”

    ‘ เปรี้ยง !!! ’ เสียงไพ่ของวากระทบกับร่างของเด็กชายร่างยักษ์  จากนั้นได้ยินเสียงโครม 

    เด็กชายร่างยักษ์ล้มลงตรงหน้าวา

    ที่แท้ตอนที่วาซัดไพ่ใบแรกออกจงใจใช้ไพ่ควันเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เด็กชายร่างยักษ์มองไม่เห็นชั่วคราวจากนั้นซัดไพ่ต่อเนื่องออกอีกห้าใบไปยังด้านหลังของเด็กชายร่างยักษ์หลังจากเด็กชายร่างยักษ์คิดจะโจมตีใส่วาไพ่ทั้งห้าก็ซัดใส่เด็กชายร่างยักษ์ซึ่งไพ่ทั้งห้านั้นเป็นไพ่ระเบิด และแรงระเบิดครั้งนี้นับว่ารุนแรงมาก

    เห็นไลฟ์พอต์ยของเด็กชายร่างยักษ์ลดลงไปถึง 1500 หน่วยเลยทีเดียวจนบัดนี้เด็กชายร่างยักษ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะลุกขึ้นมา

    “ โอ้ อะไรกันครับเนี่ย  ไพ่ระเบิดของวาครั้งนี้นับว่ารุนแรงมากทีเดียว  จนฝ่ายตรงข้ามถึงกับลุกไม่ขึ้นเลยหรือครับเนี่ย 

    วาเองไม่คิดว่าคู่ต่อสู้จะล้มเอาง่ายๆ แบบนี้  แต่ก็นับว่าเขาไม่ได้ประมาทคู่ต่อสู้

    ตามกฎหากมีคนล้มลงแล้วยังไม่สามารถลุกขึ้นได้  หลังจากการนับถึงสิบจะถือว่าอีกฝ่ายหนึ่งชนะทันทีซึ่งตอนนี้เด็กชายนักประกาศก็เริ่มนับแล้ว

    ได้ยินเด็กชายนักประกาศนับจนถึงแปดแล้ว  เด็กชายร่างยักษ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะลุกขึ้นดูท่าครั้งนี้วาจะชนะเอาได้ง่ายๆจริงๆ

    ได้ยินเสียงนับเก้าแล้ว  ครั้งนี้วาจะชนะได้ง่ายๆแบบนี้จริงๆงั้นหรือ ?

    วาไม่อยากจะคิดว่าตัวเองจะชนะได้ง่ายๆ แบบนี้จริงๆเขากำลังจะได้ยินคำว่า สิบ อยู่แล้วแต่ทันใดนั้นเองคำว่า สิบ ยังไม่ได้จะเปล่งออกจากปาก  จู่ๆเด็กชายร่างยักษ์ก็พุ่งตัวขึ้น

    ต่อให้เป็นคนที่มีความระมัดระวังถึงเพียงไหน  ก็ไม่น่าจะระวังการโจมตีของเด็กชายร่างยักษ์ครั้งนี้ได้ถึงต่อให้ระวังก็ไม่มีใครคาดคิดได้ว่า เด็กชายร่างยักษ์จะพุ่งตัวขึ้นได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ยิ่งเป็นเวลาที่กำลังจะนับครั้งสุดท้ายย่อมเป็นเวลาที่สมาธิจะขาดหายไปช่วงหนึ่ง 

    เด็กชายร่างยักษ์พุ่งตัวขึ้นจากนั้นฟาดกระบองหนามใส่วาอย่างจัง  วาถึงกับกระเด็นถอยหลังล้มลงไปในทันทีไลฟ์พอต์ยของวาลดลงไป 2000 หน่วยเลยทีเดียวนับว่าเป็นพลังโจมตีที่รุนแรงมากๆทีเดียว

    ความจริงวิธีการโจมตีแบบนี้ถือว่าเป็นไพ่ตายของเด็กชายร่างยักษ์เลยทีเดียว  ซึ่งไซโคร แนชเองก็ทราบว่าเขามักจะใช้วีธีนี้ในการเอาชนะคู่ต่อสู้  แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรวาไปเนื่องเพราะไซโคร แนชอยากดูว่า วาจะสามารถเอาชนะได้หรือไม่

    แต่ดูจากท่าทางแล้ววาไม่น่าจะมีโอกาสชนะได้เลยแม้แต่น้อย

    “ ฮ่าๆ ทำได้แสบมากนะ  ไม่เลวเลยทีเดียว  แต่ว่าไพ่กระจอกๆ มันก็คือไพ่กระจอกๆนั่นแหละนะ ”

    เด็กชายร่างยักษ์เดินเข้าใกล้วา  จากนั้นยกกระบองหนามจับไว้ด้วยสองมือเตรียมฟาดวาอีกครั้งหนึ่ง  ครั้งนี้ต่อให้วาสามารถซัดไพ่ออกก็คงไม่ทันการณ์แล้ว

    โซเฟียเองก็ไม่คิดว่าวาจะรอดจากการโจมตีครั้งนี้ได้สงสัยว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปเธอจะต้องเอาจริงเพื่อชนะให้ได้จริงๆ

    “ ลา ก่อน !!! ”

    เด็กชายร่างยักษ์เตรียมฟาดกระบองลงใส่วา

    ได้ยินเสียงวาพูดขึ้นเบาๆว่า

    “ ไพ่กระจอกๆอีกแล้วหรอ ”

    “ จะแพ้อยู่แล้ว ยังจะมาพล่ามอะไรอีก !!! ”

    จากนั้นฟาดกระบองหนามใส่วาแต่วากลับยิ้มพร้อมกับกระดิ้กนิ้วเล็กน้อยวาทั้งไม่ได้หลบหลีกการโจมตีครั้งนี้  และไม่คิดที่จะหลบรอด 

    ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  จากนั้นกระบองหนามก็ถืออยู่ในมือของเด็กชายร่างยักษ์ก็ร่วงลงกับพื้น  พร้อมกับร่างของเด็กชายร่างยักษ์ที่ล้มลงข้างๆวา  แทบจะห่างกันเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น

    เด็กชายร่างยักษ์แม้ล้มลงแล้วยังไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะล้มลงจริงๆ  การล้มครั้งนี้ใช่สามารถลุกขึ้นอีกได้หรือไม่ ?

    อาจสามารถลุกขึ้นได้อีก  แต่ไลฟ์พอต์ยของเขาไม่เหลืออีกแล้ว

    “ เพราะ เพราะ อะไรกัน ? ”

    เด็กชายร่างยักษ์ถามอย่างไม่เชื่อขณะที่นอนคว่ำอยู่

    “ ก็เพราะมีไพ่ใบหนึ่งติดอยู่ที่หลังนายตอนนายล้มลงไปแล้วยังไงละ ”

    ขณะที่เด็กชายร่างยักษ์ล้มลง  วาเองก็ซัดไพ่ใบหนึ่งใส่หลังจากเขาไว้แล้ว  เพียงแต่ไม่มีใครเห็นได้ว่าวาแอบซัดไพ่ใส่ตอนไหนซึ่งวาเองก็ไม่คิดว่าเด็กชายร่างยักษ์จะลุกขึ้นได้อีก  เพียงแต่ว่าเขาได้เตรียมการณ์เผื่อไว้ก่อนและการเตรียมการณ์ของเขาก็ไม่เสียเปล่าจริงๆ

    ขณะที่วากำลังค่อยๆลุกขึ้นก็กล่าวเพียงสั้นๆอีกประโยคหนึ่งว่า

    “ และก็เพราะพ่ของเราไม่กระจอกยังไงละ ! ”

    เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วห้องชมรม  คราวนี้วาสามารถเอาชนะได้แบบใจหายใจคว่ำอีกแล้ว  นักเรียนบางคนคล้ายติดใจสไตล์การต่อสู้แบบเฉียดฉิวของวาขึ้นมาบ้างแล้ว

    การต่อสู้ครั้งนี้แม้หวาดเสียว แต่วายังคงจำครั้งที่ต่อสู้กับเซ้นส์ได้  คราครั้งนั้นยังหวาดเสียวกว่าครั้วนี้มากนัก

    แม้แต่โซเฟียเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าวาจะสามารถเอาชนะได้จริงๆ

      โอ้  สมแล้วที่เป็นนักมายากลสามารถแสดงอะไรให้เราประหลาดใจได้เสมอๆเลยนะ ครับเนี่ย 

    วาเมื่อถอดเครื่องป้องกันออกก็พบว่าโซเฟียสวมชุดป้องกันเรียบร้อยแล้ว

    “ เอาละ ต่อไปก็ตาเธอแล้วนะ ”

    “ ไว้ใจได้เลย ”

    ซึ่งหลังจากที่โซเฟียขึ้นไปแข่งไม่นานนักก็สามารถล้มคู่ต่อู้ได้อย่างไม่ยากนัก  โซเฟียไม่จำเป็นต้องใช้ดาบเพลิงอัคคีเลยด้วยซ้ำ  เพียงใช้ดาบทิ่มแทงธรรมดาก็เอาชนะได้แล้ว

    ดังนั้นทีมของวาจึงเข้ารอบไปได้อีกรอบหนึ่ง

    และนั่นก็หมายความว่า หากทีมของเขาสามารถชนะอีกสองทีมได้ก็จะได้เป็นตัวแทน ไปแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันแล้ว

     

     

     

    หลังจากแข่งเสร็จวาและทีมของเขาก็พากันมานั่งพักกันยังที่คนดู  พวกเขายังมีเวลาเหลืออีกมากก่อนที่จะประลองอีกครั้งหนึ่ง

    วาที่นั่งข้างโซเฟียก็พูดคุยกันเรื่องการประลองของคู่อที่ประลองอยู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ฝั่งไหนมีโอกาสอย่างไรบ้างจนทำให้วาลืมเรื่องที่เขากำลังเครียดไปเสียสนิท

    ส่วนวีวี่นั้นตั้งแต่เห็นดีว่ามานั่งแถวๆเธอก็แทบจะไม่ได้ดูการประลองเลยก็ว่าได้ทางด้านไซโคร แนชก็นั่งอยู่เงียบๆไม่ได้พูดคุยกับใครจนดูแทไม่ต่างกับเสือใบ้นิค หรือพิชากิสักเท่าไหร่

    ทั้งหมดนั่งดูการประลองไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงทีมๆหนึ่งทำให้วาถึงกับต้องเพิ่มความสนใจขึ้นมาในทันทีทีมๆนั้นก็คือ ทีมแก๊งเอ็ดดี้ นั่นเอง

    ซึ่งหากทีมแก๊งเอ็ดดี้ยังสามรถชนะไปได้เรื่อยๆจนถึงรอบสุดท้ายแล้ว  นั่นก็หมายความว่าทีมที่วาจะต้องสู้ด้วยก็คือ ทีมแก๊งเอ็ดดี้

    และวาก็ไม่ค่อยอยากจะสู้กับเจ้าพวกนี้สักเท่าไหร่  โดยเฉพาะก็อบ

     

     

    “ เอาละครับ ทีมเอ็ดดี้หากชนะการประลองรอบนี้ไปได้ก็จะเข้าไปสู่รอบชิงเพื่อจะ เป็นตัวแทนของสถาบันแล้วละครับ”  

    ภาพที่วาเห็นก็คือ โกจิเด็กชายจอมพลังค่อยๆก้าวขึ้นบนเวที  โดยตู่ต่อสู้ของเขาเป็นเพียงแค่เด็กชายตัวผอมๆท่าทางไร้เรี่ยวแรงเท่านั้น

    ดูยังไงๆคนที่ชนะก็จะต้องเป็นโกจิแน่นอน  เพราะจากที่วาเคยเห็นเขาต่อสู้และจากที่เคยเจอะมากับตัวเองก็พอที่จะทราบถึงพลังอันมหาศาลของโกจิอยู่ 

    เมื่อเด็กชายนักประกาศกล่าวเริ่มการประลองคู่แรก  จู่ๆเด็กชายร่างผอมก็หายตัวไปจากที่ยืนอยู่ทันที

    และในพริบตานั้นเองที่ด้านหลังของโกจิเด็กชายร่างผอมก็ใช้มีดสั้นบางๆอันเล็ก  จนแทบจะมองไม่เห็นฟันใส่ท้ายทอยของโกจิทันที

    ระดับความเร็วของการลงมือแทบจะมองไม่ทันจริงๆ

    ไลฟ์พอต์ยของโกจิลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว  เนื่องจากถูกโจมตีใส่จุดสำคัญทางด้านโกจิเองก็ใช่ว่าจะไม่เคลื่อนไหวโกจิหันหลังวูบไปจะคว้าจับแต่ร่างๆนั้นก็หายไปเสียแล้วพร้อมกันนั้นที่ด้านขวาก็ปรากฎมีดสั้ขึ้น

    ‘ ฉับ ’ 

    แขนขวาของโกจิถูกมีดสั้นฟันใส่สองมีด  จากนั้นร่างๆนั้นก็หายไปอีกแล้วจินเจซึ่งยืนมองอยู่ด้านข้างเวทีคล้ายมีเหงื่อหยดลงมาเขาคล้ายประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา  ซึ่งหากดูจากสีหน้าแล้ว  สถานการณ์คงไม่สู้ดีนัก

    สักพักจินเจก็ค่อยๆเอ่ยปากขึ้น คล้ายพูดกับก็อบ และแซฟเบริน์

    “ วิเคราะห์จากการต่อสู้แล้ว  โอกาสที่โกจิจะชนะนั้นมีน้อยมาก  เนื่องจากคู่ต่อสู้ใช้ความเร็วในการเอาชนะเป็นหลักมีดสั้นเล่มนั้นถูกออกแบบมาให้เบาบางเป็นพิเศษทำให้น้ำหนักเบาและสามารถใช้ออกได้อย่างรวดเร็ว  ถ้าเปลี่ยนเป็นนายก็อาจจะยังพอสู้ได้นะก็อบ  แต่เป็นโกจิที่ไม่มีความเร็วและปฎิกิริยาสักเท่าไหร่  เห็นท่าจะสู้ยาก 

    จากนั้นได้ยินก็อบเค้นเสียงหัวเราะ

    “ ก็ช่วยไม่ได้นิเราดันเป็นฝ่ายต้องเลือกคนก่อนเอง ”

    “ แต่ว่าก็อย่าดูถูกเจ้าหมอนั่นละ ”แซฟเบริน์กล่าวเสริม

     

     

    เด็กชายร่างผอมยังคงเป็นฝ่ายชิงลงมืออย่างไม่หยุดยั้ง  ไลฟ์พอต์ยของโกจิค่อยๆลดลงทีละนิดๆจนใกล้จะหมดแล้ว โกจิก็ยังไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้เลยแม้แต่ น้อยซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆโกจิจะต้องเป็นฝ่ายผ่ายแพ้แน่นอน

    วาเองหากเลือกที่จะสู้ได้ก็ขอเลือกที่จะสู้กับโกจิมากกว่าที่จะสู้กับเด็กชายร่างผอมคนนี้

    และแล้วโกจิก็กำลังจะแพ้แล้วพลังชีวิตของเขาเหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น  หากโดนโจมตีอีกเพียงครั้งสองครั้งก็ต้องแพ้แน่นอน

    “ ฮ่าๆๆ แกแพ้แล้วละ ตัวใหญ่เสียเปล่าทำอะไรไม่เห็นจะได้เรื่องเลย  คงเพราะไม่ค่อยมีสมองจะคิดสินะ !!! ”

    ได้ยินเสียงกล่าวจากเด็กชายร่างผอม  โกจิก็มีท่าทางเปลี่ยนไปในทันที

    “ เหอๆ แกพลาดแล้วที่ไปว่าเจ้านั่นแบบนั้น ”

    แซฟเบริน์ยิ้มแหย๋ๆ

    สิ่งที่โกจิเกลียดมากที่สุดคือ การถูกว่าเป็นพวกไม่ฉลาด  ดังนั้นตอนนี้โกจิจึงโมโหแล้ว !!!

    โกจิเปลี่ยนจากการยืนคอยระวังเด็กชายร่างผอมเป็นวิ่งพล่านเพื่อที่จะไล่จับเด็กชายร่างผอม  พร้อมกับตวัดหมัดจู่โจมออกมั่วไปหมด

    เด็กชายร่างผอมตกใจเล็กน้อย  แต่ก็ตั้งสติหลบหมัดของโกจิได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

    “ เจ้ายักษ์บ้าพลังนี่ ดูท่าจะโมโหเอาเสียแล้ว  แต่ก็ทำได้แค่นิ้สินะ  แกนี่มันช่างกระจอกเสียจริงๆ ”

    เด็กชายร่างผอมหลังจากอ้อมไปด้านหลังโกจิได้ก็ใช้มีดฟันออกใส่หลังโกจิทันที  เขามั่นใจในความเร็วของตนเองมากตลอด  แต่คราวนี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรอยู่ดีๆก็รู้สึกที่ต้นคออึดอัดขึ้นมา  เมื่อมองดูก็พบว่าถูกมือของโกจิบีบไว้พร้อมกับยกขึ้น

    เด็กชายร่างผอมแทบไม่เชื่อสายตาว่าตนเองจะถูกจับไว้ได้  ความจริงระดับความเร็วของโกจิไม่น่าจะจับเขาได้ทัน

    ซึ่งก็ถูกต้องแล้วหากวัดระดับความเร็วโกจิไม่น่าจะจับได้ทันจริงๆ  แต่ที่โกจิจับได้นั่นเป็นเพราะความโมโหทำให้โกจิตวดัมือ และวิ่งสะเปะสะปะบังเอิญเกิดหมุนตัวไปพบกับเด็กชายร่างผอมพอดี 

    แต่ตอนนี้หากเด้กชายร่างผอมจะหนีก็ทำไม่ได้เสียแล้วไลฟ์พอต์ยของเด็กชายร่างผอมค่อยๆลดลงทีละน้อยๆ

    “ ปล่อย ปล่อยนะไอ้เจ้าบ้า ”

    โกจิไม่กล่าวอะไร แต่พลุกพล่านค้ลายปีศาจยักษ์นำมือมาหนึ่งต่อยใส่ท้องของ

    เด็กชายร่างผอมจากนั้นยกตัวเด็กชายร่างผอมขึ้นเหนือหัว

    “ นี่ แกจะทำอะไร  อย่า อย่านะ ”

    ทันใดนั้นโลกคล้ายหยุดหมุนเด็กชายร่างผอมแม้ใส่ชุดป้องกันแต่แรกกระแทกขนาดนี้ทำให้เขาแทบสลบไปในทีเดียวโกจิถุมเด็กชายร่างผอมอัดใส่พื้นเวทีอย่างจัง  พร้อมกันกันก็กระโดดต่อยอัดซ้ำไปอีกครั้งไลฟ์พอต์ยของเด็กชายร่างผอมก็หมดลงในทันที

    วาเมื่อเห็นพลังการโจมตีอันหนักหน่วงของโกจิถึงกับอดสยองไม่ได้  หากเปลี่ยนเป็นเขาคงจะต้องเจ็บปวด  จนแทบไม่อยากจะคิดเลยทีเดียว

    “ โอ้ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าโกจิจะสามารถผลิกสถานการณืเป็นฝ่ายชนะได้ในที่สุด  เอาละครับถ้าคู่ต่อไปทีมเอ็ดดี้สามารถเอาชนะได้ละก็  ก็จะสามารถเข้าไปถึงรอบชิงได้แล้วละครับ ”

    ซึ่งคู่ต่อไปเป็นการแข่งระหว่างก็อบ กับเด็กชายผมยาวสะป้ายกีต้าร์อันหนึ่ง

     

     

     

    หลังจากเด็กชายนักประกาศเรียกตัวผู้เข้าแข่งขัน  ก็อบก็กระโดดหมุนตัวลงบนเวทีอย่างแผ่วเบา  ส่วนเด็กชายผมยาวค่อยๆเดินเล่นกีต้าร์พร้อมกับเดินขึ้นมาเวที  สไตล์เพลงที่เล่นเป็นพวกละติน  ค้ลายๆกับพวกมาทาดอลเวทีต่อสู้กับวัวกระทิง

    “ หึ ถ้าจะมาเล่นกีต้าร์ขอเงินละก็ไปเล่นที่อื่นจะดีกว่านะ ”

    ก็อบกล่าวขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ

    “ โฮะๆ คุณก็เหมือนกันถ้าจะเล่นเป็นนินจาแบบเด็กๆละก็เชิญที่สนามเด็กเล่นจะดีกว่านะครับ ”

    เด็กชายผมยาวนับว่าตอบโต้ก็อบกลับไปแล้วเด็กชายนักประกาศเห็นทั้งสองคนนี้คล้ายจะพุ่งใส่กันอยู่แล้ว  จึงได้ประกาศเริ่มการแข่งขันในทันที

    เมื่อประกาศเริ่มการแข่งก็อบก็หายตัวไปในทันทีส่วนเด็กหนุ่มผมยาวยังคงยืนยิ้มเล่นกีต้าร์อยู่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “ หายตัวได้งั้นหรือ  นับว่าไม่เลว  แต่จะสู้กับฮิวโก้มือกีต้าร์สังหารยังนับว่าเร็วไป ”

    พร้อมกันนั้นฮิวโก้ก็ดีดกีต้าร์คราหนึ่ง  ไม่ทราบในตัวกีต้าร์ติดตั้งกลไกอันใดไว้  ปรากฎอาวุธลับพุ่งออกมาจากช่องต่างๆในตัวกีต้าร์

    เข็มหลายเล่มพุ่งตรงไปยังพื้นว่างเปล่าเบื้องหน้าแต่ทันใดนั้นเองพื้นที่ว่างเปล่าก็ปรากฎก็อบกระโดดปราดถอยหลังออกไป

    “ ก็บอกแล้วยังไงครับ ว่าถ้าจะมาเล่นเป็นนินจาหลอกเด็กเชิยไปเล่นที่สนามเด็กเล่นจะดีกว่า ”

    “ แกก็เหมือนกันแหละนะ ”

    จู่ๆที่เบื้องหลังของฮิวโก้ก็ปรากฎก็อบอีกคนหนึ่งเข้ามาล็อคแขนทั้งสองข้างไว้แต่ฮิวโก้ก็ยังคงเล่นดนตรีต่อไป

    ก็อบไม่พูดพล่ามกระโดดปราดเข้าใส่ฮิวโก้  ในมือเพิ่มมือสั้นนินจาขึ้นสามเล่ม  จากนั้นใส่ซัดฮิวโก้ด้วยความเร็วสูง

    แต่มีดสั้นไม่ทันจะถึงตัวฮิวโก้ก็ตกลงสู่พื้น  เนื่องจากถูกฮิวโก้ดีดกีต้าร์คราหนึ่งอาวุธลับในกีต้าร์พร้อมกับพลังของเสียงเพลงก็ทำให้มีดสั้นทั้งสามเล่ม ไม่สามารถกระทบถูกตัวของเขา

    จากนั้นร่างของก็อบที่ล็อคแขนทั้งสองไว้ก็กลายเป็นควันหายไป

    “ ไม่เลวเหมือนกันนิ ”

    “ คุณเองก็เหมือนกัน ”

    จากนั้นฮิวโก้คลายมือจากการเล่นกีต้าร์

    “ แต่ว่าได้เวลาเลิกเล่นกันแล้วละ ”

    “ ชั้นเองก็เหมือนกัน  เพราะคู่ต่อสู้ที่ชั้นอยากจะเอาชนะจริงๆ คือ เจ้าหมอนั่นตะหาก !! ”

    ฮิวโก้เริ่มเล่นกีต้าร์ของเขาอีกครั้ง  แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นรวดเร็ว และบ้าคลั่งในทันใดทำนองเพลงที่เล่นก็ดุเดือดยิ่งนัก

    พร้อมกันนั้นอาวุธลับก็ซัดออกจากกีต้าร์มากมายเต็มไปหมดทุกทิศทางใส่ก็อบ

    “ โอ้ อะไรกันครับเนี่ย  อาวุธลับมากมายขนาดนี้ก็อบจะสามารถหลบได้หรือเปล่าครับเนี่ย ”

    ‘ ฉึก ฉึก ฉึก ’

    เข็มหลายสิบเล่มซุดใส่ร่างของก็อบ  พร้อมกับอาวุธที่ตามติดมาด้านหลังอีกจำนวนนับไม่ถ้วน  ฮิวโก้ยังคงเล่นเพลงของเขาต่อไป  ทำนองยิ่งมายิ่งรอนแรง ดุดัน

    “ จบกันสักทีสินะ ”

    พร้อมกันนั้นอาวุธลับมากมายซัดใส่ร่างก็อบเพียงแต่ไลฟ์พอต์ยของก็อบไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย  สร้างความประหลาดใจแก่ฮิวโก้เป็นอย่างยิ่ง

    ขณะที่ฮิวโก้กำลังรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ  อะไรบางอย่างที่กดดัน  พลังของจิตสังหารที่มากมายมหาศาลคล้ายกับเวลาที่นักสู้วัวกระทิงพลาดพลั้งในการล่อวัว 

    พริบตานั้นร่างของก็อบกลับกลายเปลี่ยนเป็นท่อนไม้ท่อนหนึ่งอาวุธลับทั้งหมด

    กลับใส่ซัดท่อนไม้ธรรมดาๆท่อนหนึ่ง !!!

    ทันใดนั้นเองรอบตัวของฮิวโก้ก็ปรากฎร่างของก็อบสี่ห้าร่างยึดจับตัวของเขาไว้  คราวนี้ฮิวโก้ไม่สามารถเล่นกีต้าร์ได้อีกแล้ว

    “ เพลงที่นายเล่นมันก็เพราะดีหรอกนะ เพียงแต่ว่า…………” เสียงของก็อบดังขึ้นน  แต่จากที่ไหนกันแน่ขณะที่ฮิวโก้กำลังหาที่มาของเจ้าของเสียงนั่น  ที่เหนือหัวของฮิวโก้ก็ปรากฎร่างของก็อบขึ้น  พร้อมกับดาวกระจายอันใหญ่เท่ากับร่างของก็อบ

    ฮิวโก้เหงื่อตกแล้ว  เขาทราบว่าจะเกิดอะไรต่อไปเขาพยายามสลัดตัวให้หลุดจากการยึดกุมของก็อบ  แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่  ร่างแยกของก็อบก็คล้ายกับโซ่ตรวนซึ่งไม่สามารถจะสลัดหลุดออกไปได้

    “ เพียงแต่ว่าชั้นไม่ชอบเพลงสไตล์นี้ก็เท่านั้น  และก็……..” จากนั้นก็อบมองไปยังวาที่นั่งอยู่  วาเองถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย

    “ คนที่ชั้นอยากจะจัดการมากที่สุดก็คือเจ้าหมอนั่นส่วนแกก็จบกันแค่นี้ละนะ !!! ”

    “ วงจักรสังหาร!!! ”

    ดาวกระจายสี่แฉกอันยักษ์ถูกซัดออกในทันทีด้วยความใหญ่ของมันยากนักที่จะหาผู้ที่ซัดออกได้  ก็อบเองก็ใช้เวลาฝึกฝนมาเป็นเวลานานกว่าจะสามารถใช้มันออกได้  ซึ่งแรงบันดาลใจที่จะใช้มันก็คือ  จัดการกับวานั่นเอง !!!

    ดาวกระจายยักษ์เข้าใกล้ฮิวโก้ทุกทีๆ และ

    ‘ ปัง!!! ’

    กีต้าร์ของฮิวโก้แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ  อาวุธลับในตัวกีต้าร์ล่วงหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น  พร้อมกันนั้นร่างของฮิวโก้ก็กระเด็นล้มลง  ไลฟ์พอต์ยหมดลงในทันที

    “ และผู้ชนะของเราก็คือ ทีมแก๊งเอ็ดดี้คร๊าบ!!!  และทีมใดจะเป็นทีมที่จะได้ไปต่อสู้กับทีมแก๊งเอ็ดดี้ต่อไปในรอบชิงก็ต้องรอติดตามกันดูนะครับวันนี้ได้รู้กันแน่นอน ”

    ก็อบหิ้วดาวกระจายของเขาจากนั้นค่อยๆเดินลงจากเวทีแต่ก่อนที่จะก้าวลงไปนั้นได้มองไปยังวา  คล้ายจะสื่อความหมายว่า ‘ มาสู้กันให้ได้นะ ชั้นรอที่จะจัดการแกอยู่ ’ ซึ่งวาก็ยิ้มให้คล้ายกับรับคำท้าของก็อบเช่นกัน

     

                         _________________________________________

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×