คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : บทเรียนที่ 30 วันแห่งความสุข
บทเรียนที่ 30 วันแห่งความสุข
ทันใดนั้นเมื่อเสียงประกาศเริ่มการแข่งขันดังขึ้นร่างของก็อบก็หายไปจากสายตาของวาแล้ว นี่นับว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนอยู่มาก เพราะปกติเกือบจะทุกคู่เวลาได้ยินเสียงประกาศการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองฝ่ายมักจะยืนเผชิญหน้ากันก่อนสักพักหนึ่ง เพื่อหาโอกาสในการเข้าโจมตีช่องว่างของคู่ต่อสู้
สำหรับเรื่องนี้นั้นไม่ใช่ว่าก็อบเองจะไม่รู้ เพียงแต่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาครั้งนี้ ‘ กระจอก ’ เกินไปที่จะต้องหาช่องโหว่นั่นเอง
วายังคงยืนอยู่กับที่ คล้ายสงบนิ่ง คล้ายตกใจกับการหายไปอย่างรวดเร็วของก็อบ
และในทันใดนั้นเอง !!!
เงาร่างสายหนึ่งปรากฎขึ้นด้านหลังของวาอย่างรวดเร็ว มีดนินจาในมือทั้งสองข้างของก็อบตวัดใส่วาด้วยความรวดเร็ว
ไซโคร แนชที่ยืนมองดูอยู่เอ่ยปากขึ้นทันที
“ มาถึงก็พลาดเสียแล้ว
.”
‘ ตูม !!! ’
ร่างของก็อบกระเด็นออกไปในทันทีด้วยแรงระเบิด การจู่โจมครั้งนี้นับว่าเหนือความคาดหมายของก็อบมากนัก แต่ก็อบก็หมุนตัวตั้งท่าได้โดยไม่ล้มลงกับพื้น
“ เป็นไปได้ยังไง !!! ”
ในหัวสมองของก็อบเริ่มไตร่ตรองคิดดู เขาไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างวาจะมีความไวได้ถึงเพียงนั้น ด้วยเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนไม่น่าจะมีความเร็วได้ถึงขั้นนี้ ความเร็วที่แม้แต่เขาเองก็ยังยากที่จะเร็วได้
ซึ่งความจริงนั่นไม่ได้เรียกว่าเป็นความเร็ว แต่เป็นการวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
ตั้งแต่ที่วาก้าวขึ้นมาช่วยบนเวที เขาก็วางกับดับไพ่ระเบิดไว้ก่อนหน้านั้น เพื่อเตรียมป้องกันตัวเองจากโกจิ และจินเจแล้ว แต่เผอิญก็อบมาช่วยจัดการไปเสียก่อน ดังนั้นวาจึงแกล้งทำเป็นไม่ทันตั้งตัวเพื่อล่อให้ก็อบโจมตีเขานั่นเอง
“ สงบนิ่งกว่าเมื่อก่อนแล้วสินะ ”
ไซโคร แนชแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย
วายังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ จากนั้นก็หันหน้ามาเผชิญกับก็อบอีกครั้ง
“ ก่อนอื่นขอถามอะไรสักอย่างได้ไหม ”
ก็อบไม่ตอบ แต่ก็ไม่ปฎิเสธ
“ ทำไมนายถึงต้องคอยตามหาเรื่องเราอยู่เป็นประจำ ”
สีหน้าของก็อบเปลี่ยนไปเป็นกึ่งโกรธ กึ่งเสียใจเล็กน้อย
“ หึ เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ในวันแรกที่ข้ามีเรื่องกับแก นั่นก็เพราะข้ากำลังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ อยู่ ” ก็อบก้มหน้าจากนั้นกล่าวต่อ “ ข้าก็รู้ตัวเองเหมือนกันเวลาที่ข้าอารมณ์ไม่ค่อยดีจะคุมตัวเองไม่ค่อยได้ แต่ข้าก็ขอโทษแกไปแล้วไม่ใช่รึไง ”
วาทำหน้างงเล็กน้อย
“ แต่การกระทำส่วนใหญ่ของพวกนายก็มักจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่งั้นหรอไง ”
ก็อบเงยหน้าจ้องใส่วาในทันที แววตาเปลี่ยนเป็นดุดัน จากนั้นค่อยๆสงบนิ่งลง
“ หึหึ นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นะ ถ้าจะให้เล่าละก็เรื่องมันยาวนัก ไอ้เรื่องความเลวร้ายของพวกกรรมการนักเรียนในช่วงนั้นน่ะนะ
แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ที่ข้าเลือกจะสู้กับแกไม่ใช่เพราะต้องการจะหาเรื่อง หรืออะไรทั้งสิ้น ”
“ ถ้าอย่างนั้นเป็นเพราะอะไรละ ”
“ นั่นเป็นเพราะว่าข้ารู้สึกว่าแกเป็นคนที่น่าสนใจ และอาจจะผสมกับความหมั่นไส้เล็กๆน้อยๆ หรือความรู้สึกที่เรียกว่า อยากสู้ด้วย อะไรทำนองนั้นละ ”
ซึ่งความจริงก็อบควรจะกล่าวว่าถูกชะตาเสียมากกว่า หรือเป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่า เพื่อนอยากสู้กับเพื่อนเสียมากกว่า เพราะตั้งแต่พวกเขาเริ่มตั้งแก๊งมาก็ไม่เคยมีใครกล้าจะมาขัดขวางพวกเขาเลยนอกจากพวกกรรมการนักเรียน ซึ่งวาเองก็ไม่เป็นคนแรกที่กล้าเข้ามาขัดขวางพวกเขา
( เหตุผลที่ทำไมแก๊งเอ็ดดี้ถึงถูกตั้งขึ้นอีกครั้งโดยพวกก็อบนั้น หาอ่านได้จากตอนพิเศษนะครับ )
บางครั้งคนเราเองก็มีบ่อยครั้งที่รู้ตัวเองว่ากำลังทำตัวผิด แต่ไม่อาจสามารถหยุดตัวเองไว้ได้ พวกเขาอาจจะกำลังรอใครสักคนเพื่อมาหยุดพวกเขาไว้ และก็อบเองก็ไม่คนประเภทนั้น
“ อย่างนั้นแน่หรอ ” วารับฟังอย่างไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่
“ หึ มั่วพูดมากอยู่ได้ระวังจะเจ็บตัวเร็วกว่าที่คิดนะ ”
“ อย่างนั้นก็เข้าใจแล้วละ ไอ้ความรู้สึกอยากสู้ด้วย ผสมกับความหมั่นไส้เล็กๆน้อยๆน่ะ ”
วากล่าวพร้อมกับแย้มยิ้ม ก็อบเองก็เช่นกัน
“ ขอบอกไว้อย่างหนึ่งนะ ถ้าคิดว่าจะออมมือให้เรานายจะต้องเสียใจ ”
“ หึ อย่างแกความจริงไม่ต้องเอาจริงหรอกนะ แต่วันนี้ข้าจะต่อสู้อย่างเต็มที่เลยละ ไม่ต้องห่วงไม่นานหรอก เดี๋ยวก็จบแล้วละ ”
“ ถ้าอย่างนั้นก็ดี จะได้รีบๆไปนอนพักเหมือนกัน ”
ทั้งสองยิ้มขึ้นอีกครั้ง
“ เจ็บหน่อยก็อย่าโทษก็แล้วกัน ”
“ ก็เช่นกัน ”
ในตอนนี้ความรู้สึกของวาไม่ใช่เต็มไปด้วยความโกรธเหมือนแต่ก่อนทุกครั้งที่เจอกับก็อบ แต่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะต่อสู้แทน เขาเองก็ไม่รู้เหตุผลเช่นกันว่าทำไมตัวเองถึงเป็นเช่นนี้ ซึ่งความจริงแล้วอาจจะเป็นเพราะว่า วาพึ่งจะรู้สึกว่าก็อบนั้นลึกๆก็อาจจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรก็ได้
ก็อบเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และการต่อสู้ครั้งนี้นี่เองที่จะนำไปสู่เรื่องราวของมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ต่อไปในภายภาคหน้า
ทั้งสองไม่กล่าวอะไรกันอีกแล้ว นั่นเพราะทั้งสองพร้อมที่จะต่อสู้กับอย่างเต็มที่แล้วนั่นเอง ดูจากความสามารถและการฝึกฝนแล้ว วานั้นแทบจะไม่มีโอกาสที่จะชนะก็อบได้เลย ถึงต่อให้ก็อบออมมือไว้ก็ยากที่จะเอาชนะได้อยู่ดี ยิ่งคราวนี้ก็อบประกาศจะเอาจริงแล้วด้วย วายิ่งเรียกได้ว่า หมดหนทางชนะเลยก็ว่าได้
แต่สิ่งที่เดียวที่ทำให้วาอยากจะชนะให้ได้นั่นก็เพราะ คำสัญญา ที่ให้ไว้กับโซเฟียนั่นเอง
คนบางคนเพื่อแลกกับความศักดิ์สิทธิ์ของคำสัญญา และความศรัทธาในตัวเองแล้ว ต่อจะให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง หรือเหนื่อยยากแค่ไหนก็พร้อมที่จะยอมแลกได้
และวาก็เป็นคนเช่นนั้น !!!
ก็อบยืนอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจจะเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน
‘ จุดอ่อนอย่างนั้นหรือ ดูยังไงๆก็มีอยู่เต็มไปหมด ’
ก็อบแม้คิดได้ดังนั้น แต่ก็ไม่กล้าที่จะประมาทอีก เพราะเขาจะไม่ยอมพลาดท่าอีกเป็นครั้งที่สอง
ดังนั้นก็อบจึงตัดสินใจซัดมีดนินจาใส่วาแทนที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาวาเหมือนครั้งที่แล้ว
มีดนินจาของก็อบพุ่งเข้าใส่วาด้วยความเร็วสูง ถึงกับเร็วกว่าครั้งแรกที่วาได้เจอกับก็อบเสียอีก ทางด้านวานั้นหากขยับตัวหลบในตอนนี้ย่อมไม่มีทางทันแน่ เพราะคนที่ไม่ได้ฝึกฝนมาเป็นพิเศษด้านการต่อสู้อย่างวาไม่มีทางทำได้ทัน
ดังนั้นวาจึงเหลือทางเลือกที่จะเสี่ยงเพียงทางเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ
.
‘ ฟ้าว !! ’
ควันปรากฎขึ้นบนมือทั้งสองด้านของวา จากนั้นก็ปรากฎไพ่ขึ้นจำนวนสองใบบนมือของสองข้างของวาอย่างรวดเร็ว หากใครเห็นจะต้องคิดว่า วาเสียสติไปแล้วที่จะซัดไพ่คืนใส่ก็อบในเวลาเช่นนี้
แต่วาไม่ได้เสียสติ เพราะวาไม่คิดที่จะซัดไพ่ใส่มีดนินจาของก็อบอยู่แล้ว นั่นเพราะความหนาของไพ่กับมีดต่างกันมากนัก การที่จะซัดไพ่ให้โดนมีดนินจาในเวลาคับขันเช่นนี้ ต้องอาศัยฝีมือระดับสูง สมาธิอันแน่วแน่ และความรวดเร็วอย่างมาก น้อยคนนักที่จะสามารถทำได้เช่นนี้
( ซาซาไร เป็นหนึ่งในนั้น )
ถ้าเช่นนั้นวาเสกไพ่ขึ้นมาในมือของเขาเพื่ออะไรกัน ?!
‘ ฉึก ฉึก !! ’
มีดนินจาทั้งสองของก็อบปักเข้าใส่ไพ่ทั้งสองของวาราวกับมีแรงดึงดูด หรือประหนึ่งเป็นการแสดงชนิดหนึ่งที่ทั้งสองได้เตรียมตัวไว้เป็นอย่างดี
เสียงโห่ร้องแสดงความตกใจ ระคนกับชื่นชมดังขึ้นจากผู้ชมทั้งห้อง
“ เล่นกลเข้าแล้วสินะ เพื่อนวาของเรา ”
มิวกล่าวขึ้น ส่วนวีวี่ก็ยิ้มอย่างชื่นชม
“ ไม่อยากจะเชื่อเลยนะเนี่ย ” วีวี่จ้องตาไม่กระพริบ
มีดนินจาที่ปักเข้ากับไพ่ของวานั้นทะลุไพ่ของวาขาดไป แต่ก็ไม่สามารถพุ่งต่อไปได้ ไม่ใช่ว่าก็อบอ่อนหัดถึงขนาดซัดกระดาษไม่ทะลุ แต่ว่าไพ่ของวานั้นเป็นไพ่ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษอย่างที่ซาซาไรได้เคยบอกไว้ การที่สามารถซัดทะลุได้ถึงขนาดนี้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว หากเป็นต้นไม้มีดก็คงจะปักเข้าไปจนถึงโคนด้ามแล้ว
วาไม่รอช้ารีบถอนมีดทั้งสองออกจากไพ่ของเขาในทันที จากนั้นวานำมือทั้งสองข้างประกบกันสักพักมีดทั้งสองก็หายไปในทันที และไพ่ที่เคยเป็นรูก็กลับมาคงสู่สภาพเดิม
ก็อบแปลกใจเล็กน้อยที่วาสามารถรับการโจมตีของเขาได้ แถมยังเสกมีดของเขาให้หายไปได้ในทันที แต่ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นมาบนในหน้าของก็อบอีกครั้ง
“ ไม่ผิดหวังจริงๆ เอาละต่อจากนี้มันคงไม่ง่ายอย่างครั้งที่ผ่านๆมาแล้วนะ ”
“ อืม ”
วาขานรับเบาๆ เหงื่อเม็ดเล็กๆหยดลงผ่านใบหน้าของเขา ซึ่งวาเองก็รู้สึกได้ถึงพลังกดดันขุมหนึ่ง พลังกดดันที่ทำให้เขารู้สึกว่าต้องเอาจริงเท่านั้น ไม่สิต้องรอดจากการต่อสู้ครั้งนี้ให้ได้มากกว่า
วาพยายามตั้งสติค่อยๆคิดหาหนทางในการเอาชนะ แต่ก็อบก็ไม่ได้ให้เวลาวามากนัก เมื่อเห็นว่าวาไม่น่าจะมีกับดับอะไรหลงเหลืออยู่แล้ว ก็อบก็เปิดฉากโจมตีในทันที
คราวนี้ก็อบไม่ได้อยู่กับทีแล้วซัดมีดนินจาของเขา แต่ก็อบกลับวิ่งเข้าหาวาด้วยความเร็วสูง ถึงกับเร็วกว่าวันแรกที่วาได้เผชิญหน้ากับก็อบเสียอีก และที่น่าตกใจก็คือ ขณะที่วิ่งอยู่ก็อบยังซัดอะไรบางอย่างใส่วาอีกต่างหาก
ซึ่งความจริงการซัดอาวุธลับนั้น การที่จะสามารถซัดได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต้องซัดในสภาพที่ผู้ใช้อาวุธลับอยู่นิ่งที่สุด นิ่งในที่นี้ไม่จำเป็นว่าต้องอยู่กับที่เสมอไป ตามคำสอนของมาสเตอร์สไชเดอร์ แต่อยู่ในสภาวะที่นิ่งที่สุด
และดูจากอาวุธลับที่ก็อบซัดออกไปนั้นก็พุ่งเข้าใส่วาด้วยความรวดเร็วพอตัวทีเดียว นับว่าฝีมือการซัดอาวุธลับของก็อบยอดเยี่ยมมากทีเดียว
วาเองนั้นแม้จะเตรียมตั้งรับการโจมตีอยู่ก่อนแล้ว แต่การโจมตีครั้งนี้รวดเร็วเกินไป หน่ำซ้ำยังมีอาวุธลับพุ่งเข้าใส่อีก
วาเอี้ยวตัวหลบตามสัญาชาตญานด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ อาวุธลับสองชิ้นพุ่งผ่านวาไปเพียงแค่ไม่กี่มิลเท่านั้น แต่อาวุธลับชิ้นที่สามนั้นพุ่งเข้าใส่หน้าของวาอย่างจัง
‘ ตูม !!! ’
วาไม่ทันได้คิดวาสิ่งนั้นคืออะไร ที่เบื้องหน้าของเขาก็ปรากฎควันขาวขึ้นเต็มไปหมด จนไม่สามรถจะมองเห็นอะไรได้เลยนอกจากฝุ่นควันขาวๆ นอกจากนี้ที่หน้าหากป้องกันของเขาก็ดูเหมือนจะติดแป้งฝุ่นสีขาวอยู่เต็มไปหมด แต่หากจะปัดออกในตอนนี้ก็ดูจะไม่ทันเสียแล้ว
“ เป็นยังไงละ อาวุธลับของข้าระเบิดเงา เหมือนกับมายากลของแกเลยไหมละ ”
เสียงของก็อบฟังดูใกล้กับตัววาอย่างมาก และวาก็รู้สึกได้ว่าที่ชุดเกราะป้องกันของตนบริเวณท้องนั้นถูกกระแทกเข้าอย่างจัง ต่อจากนั้นก็ไหล่ และการจู่โจมครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะไร้ที่สิ้นสุดจริงๆ
ก็อบกระหน่ำพุ่งหมัดของตนใส่วาอย่างรวดเร็ว แต่ละหมัดนั้นแม้จะไม่ถือว่าแรงเหมือนโกจิ แต่ก็พอที่จะทำให้คนธรรมดาโดนเข้าหลายๆทีหมดสติได้
วาเองแม้จะมองอะไรไม่เห็น แต่สมองของเขาสั่งให้เขารีบทำอะไรอย่างบาง
‘ ระเบิดเงาของข้า เหมือนกับมายากลของแกไหมละ !! ’
คำพูดของก็อบแล่นเข้ามาในหัวของวาแว่บหนึ่ง และทันใดนั้นเองวาก็ตัดสินใจลงมือในทันที
วาลดการ์ตป้องกันของตนลด จากนั้นก็ขว้างอะไรบางสิ่งลงที่พื้นในทันที
‘ ฟู่
’
เสียงของควันที่แผ่กระจายออกจากลูกบอลกลมๆดังขึ้น
ก่อนที่ก็อบจะรู้สึกตัวก็ถูกกลุ่มควันสีขาวเกือบจะเช่นเดียวกันกับระเบิดเงาของเขาคลุมไปรอบตัว
จนมองอะไรแทบจะไม่เห็นแล้ว
หากมองจากด้านคนดูแล้วจะพบว่าบนเวทีในตอนนี้เต็มไปด้วยควันสีขาวอยู่เต็มไปหมด จนไม่สามรถมองเห็นแม้แต่วา หรือก็อบได้เลย
“ โอ้วววว อะไรกันครับเนี่ย ขณะที่ผู้แข่งขันวากำลังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากระเบิดเงาของก็อบอยู่นั้น ก็มีควันสีขาวเช่นเดียวกันพุ่งออกมาเหมือนกัน มันเกิดอะไรกันขึ้นครับเนี่ย แล้วใครกันแน่ที่จะเป็นผู้ชนะ ระหว่างคาถานินจา กับมายากลของนักมายากลคร๊าบบบบบบบบ !!! ”
เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างกึกก้อง สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้คนทั่วห้องเป็นอย่างมาก
และในจังหวะนั้นเองวาก็รีบถอยตัวห่างออกมาในทันที พร้อมกับพยายามรีบปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนหน้าหากป้องกันของตนออกด้วยความรวดเร็ว
ระเบิดเงาของก็อบนั้นต่างจากระเบิดควันของวาอย่างหนึ่งคือ ระเบิดเงานั้นทำมาจากแป้งฝุ่น ซึ่งเมื่อถูกเป้าหมายก็จะกระจายเป็นควันไปรอบๆตัวศัตรู แต่ของวานั้นเป็นระเบิดควันที่คล้ายกับระเบิดควันของพวกทหารที่จะกระจายออกไปเรื่อยๆจนกว่าควันที่อัดอยู่ในตัวระเบิดจะหมด
ซึ่งการใช้ระเบิดควันในแบบของวานั้นต้องคำนึงถึงทิศทางลมที่จะพัดไปด้วย เพราะทางที่ควันจะออกมีเพียงด้านเดียวเท่านั้น และวาก็ได้เลือกทิศทางลมที่ดีที่สุด นั่นก็คือ ทิศที่ควันจะพุ่งกระขายใส่เขาน้อยที่สุดนั่นเอง
ก็อบถึงแม้จะรู้ตัวเองว่า ถูกกับดับของวาเข้าอีกแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถออกจากควันเหล่านี้ได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะพยายามวิ่งไป แต่ก็ไม่แน่ว่าวาจะดักโจมตีจากที่ๆวาสามารถมองเห็นได้ชัดกว่า
ดังนั้นก็อบจึงพยายามตั้งสติพร้อมกับพยายามหาทิศที่ลมพัดผ่าน แต่นั่นอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะวาคงไม่ปล่อยโอกาสเช่นนี้ให้ผ่านไปแน่นอน
‘ เราใช้ระเบิดควันลูกสุดท้ายไปจนได้ จากนี้หากโดนโจมตีระยะประชิด หรืออยู่ในสถาณการณ์ที่คับขันคงต้องแย่แน่ๆ ’ วาคิด แต่เขาไม่มีเวลาคิดแล้วตอนนี้
ไพ่ในมือของวาถูกเสกขึ้นมา และซัดออกไปในทันที จำนวนที่ถูกซัดออกไปนั้นเป็นจำนวนมากถึง สิบกว่าใบทีเดียว (ไพ่ของวามีเพียงแค่ห้าสิบสองใบเท่านั้น หากไม่รวมไพ่โจ๊กเกอร์ )
และห้าในจำนวนสิบใบนั้นเป็นไพ่ระเบิด ซึ่งพลังการทำลายล้างหลายๆคนก็เคยเห็นมาแล้วในตอนที่วาได้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ผ่านๆมา ไพ่ระเบิดช่วยให้วาชนะได้อย่างหวุดหวิดมาตลอด
ก็อบนั้นแม้จะระวังตัวอยู่แล้วแต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย จึงไม่สามารถรับรู้ทิศทางการโจมตีของวาได้ แม้แต่การฟังเสียงก็ไม่สามรถช่วยเขาได้ เพราะเสียงไพ่ที่แหวกอากาศนั้นมีเสียงเบา และถึงจะได้ยินก็แสดงว่ามันอยู่ในระยะใกล้ตัวเต็มที่แล้ว
‘ ฟิ้ว !!! ’
ก็อบได้ยินเสียงไพ่กังผ่านอากาศมา หากไม่ใช่คนที่ฝึกมาอย่างเขาแล้วย่อมไม่สามรถได้ยินได้อย่างแน่นอน เพราะการฝึกจะเป็นนินจานั้นหากแม้กระทั่งเสียงอาวุธลับยังไม่สามรถได้ยิน แล้วจะสามารถกระทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างไร
สิ่งแรกที่ก็อบทำไม่ใช่การพยายามวิ่งหนีไพ่ หรือเอี้ยวตัวหลบอะไรทั้งนั้น แต่ก็อบกลับพุ่งตัวฟุบหมอบลงกับพื้นในทันที
‘ ตูม !!! ’
เสียงไพ่ระเบิดดังกึกก้องขึ้น และควันขาวๆที่ค่อยๆเลือลางก็กำลังจะปรากฎภาพให้เห็นชัดเจนขึ้น
วารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น อาจเป็นเพราะไพ่ระเบิดเมื่อสักครู่นี้เป็นไพ่ระเบิดชนิดที่แรงที่สุดแล้ว และไพ่ระเบิดที่เหลืออยู่นั้นมีความแรงเพียงแค่นิดเดียว หรือไว้ใช้หลอกล่อความสนใจของคู่ต่อสู้เท่านั้น
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากไพ่ทั้งสิบใบที่วาซัดออกไปนั้นไม่สามารถล้ม หรือเอาชนะก็อบได้แล้วละก็ วาอาจจะเรียกได้ว่าหมดหนทางในการเอาชนะก็อบเลยก็ว่าได้
เพราะความจริงแล้วแผนการใช้ระเบิดควัน แล้วตามต่อด้วยไพ่ระเบิดนั้นเป็นไม้ตายสุดท้ายที่ใช้ในการล้มก็อบ ซึ่งวาวางแผนมาไว้อย่างดี
‘ ล้มลงไปสิ ไม่ก็ประกาศว่าเราชนะสักที !! ’
วาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ กลุ่มควันค่อยๆสลายไปทีละนิดๆแล้ว และภาพก็เริ่มปรากฎขึ้นมาแล้ว
วาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดอะไร เพราะก็อบนั้นไม่ได้อยู่ที่เบื้องหน้าของเขาเสียแล้ว
แล้วก็อบหายไปไหน ?
ทันทีที่ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของวา ก็อบก็จับวาล๊อคจากทางด้านหลัง ท่าเดียวกับที่เคยได้ล๊อคคู่ต่อสู้คนอื่นเอาไว้แล้ว
ซึ่งก็ไม่ต้องบอกเลยว่า ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
“ แสบมากเลยนะแก แต่ต่อไปเป็นตาของข้าบ้างละ ”
วาไม่เอ่ยปากอะไร ในหัวของเขาตอนนี้แทบจะไม่สามารถคิดอะไรได้อีกแล้ว
นอกจากคำว่า ‘ พลาดเสียแล้ว ’ และ ‘ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ’
สิ่งที่วาพลาดก็คือ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่า ก็อบจะหมอบตัวหลบลงกับพื้น ซึ่งผิดคาดของวาไปอย่างมาก ดังนั้นไพ่จำนวนมากจึงไม่โดนตัวก็อบ
และสิ่งที่วาไม่พลาดก็คือ การซัดไพ่จำนวนสองใบในระดับที่ต่ำ หรือซัดใส่พื้นดิน เผื่อว่าก็อบจะก้มตัวหลบ
ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือ เขาไม่สามารถล้มก็อบได้ภายในการซัดไพ่ครั้งสำคัญของเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามไลพ์พอตย์ของก็อบก็เหลืออีกแค่เพียงไม่กี่หน่วยเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่าถ้าหากวาสามารถโจมตีก็อบได้อีกไม่กี่ที เขาก็จะเป็นฝ่ายชนะ
ก็อบนั้นไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่า หากตัวเองโดนโจมตีเข้าอีกสองสามครั้งตัวเองจะต้องแพ้แน่นอน ดังนั้นก็อบจึงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ประมาทอีกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ยังดีที่ก็อบนั้นไม่รู้ว่าไพ่ที่วาใช้นั้นเป็นไพ่ระเบิดชุดที่แรงที่สุดของเขา แล้วในตอนนี้มันก็หมดลงเสียแล้ว
วาพยายามตั้งสติคิดหาวิธีที่จะโจมตีก็อบให้ได้ ส่วนก็อบเองก็เช่นกัน เขาพยายามมองดูว่าวามีกับดักอะไรซ่อนอยู่อีกหรือไม่
ทั้งสองต่างไม่ขยับไปไหน จ้องมองกันอย่างไม่ละสายตา ผ่านไปไม่นานนักวาก็ตัดสินใจเปิดการโจมตีก่อนด้วยการซัดไพ่ใส่ก็อบอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไร้ผลก็อบเอียงตัวเพียงเล็กน้อยก็สามารถหลบไพ่ที่วาซัดไปได้หมด ความจริงก็อบกะว่าจะโจมตีสวนในทันที แต่ด้วยความไม่ประมาทจึงยังไม่โจมตีเข้าใส่วาในทันที แต่หยุดก้มตัว มือแตะพื้นคล้ายกับท่าหมอบของนินจาเวลาอยู่บนเพดาน
วาหลังจากรู้ว่าการซัดไพ่ใส่ก็อบไม่ได้ผลก็เริ่มคิดอีกครั้ง และเมื่อเห็นก็อบหมอบอยู่ไม่ขยับไปไหนเลยยิ่งเพิ่มความวิตกให้แก่วาเพิ่มขึ้นไปอีก
นี่นับว่าคล้ายหลักการ ใช้ความสงบนิ่ง สยบความเคลื่อนไหวจริงๆ
ไม่มีท่าทีว่าก็อบจะขยับหรือจู่โจมเลยแม้แต่น้อย ส่วนวานั้นก็เริ่มคิดได้แล้ว
‘ ฝ่ายนั้นคงยังไม่รู้ว่าเราไม่มีไพ่ระเบิด หรือหมอกควันอะไรเหลือแล้ว เลยยังไม่กล้าจะลงมือ ’ จากนั้นวาค่อยๆเสกไพ่ขึ้นมาบนมือของเขาอีกครั้งหนึ่ง
‘ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เราคงต้องหลอกว่าเราจะโจมตีจากระยะไกล แล้วใช้ไพ่ระเบิดสำรองชุดสุดท้ายนี้เข้าไปซัดใส่ในระยะใกล้แล้วละ ’ เมื่อตัดสินใจได้เช่นนั้นวาก็แกล้งซัดไพ่ใบหนึ่งใส่ก็อบ ซึ่งวาก็รู้อยู่แล้วว่าก็อบจะต้องเตรียมตัวหลบแน่นอน ดังนั้นไพ่ที่ซัดออกไปจึงซัดออกไปอย่างเชื่องช้า เพื่อสร้างความสับสนให้ก็อบ และในจังหวะเดียวกันนั้นเอง วาก็วิ่งพุ่งตรงเข้าหาก็อบในทันที
ก็อบเมื่อเห็นวาซัดไพ่ออกมาก็เตรียมตัวระวังเต็มที่ ดังนั้นจึงทุ่มเทสมาธิไปกับไพ่ที่ถูกซัดออกมา เขาคิดว่าวาจะต้องซัดไพ่ออกมาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งไพ่อาจจะซ่อนอะไรเอาไว้ก็ไม่รู้ ดังนั้นเมื่อวาวิ่งพุ่งเข้าหา จึงเป็นการผิดคาดอย่างยิ่ง
ไม่ทันแล้ว แม้ว่าวาจะไม่ใช่คนที่มีความเร็วระดับดีว่า หรือไซโคร แนช แต่การจู่โจมแบบหลอกล่อทำให้วาสามารถเข้าถึงตัวของก็อบก่อนที่ก็อบขะขยับตัวหนี และ
‘ ฟ้าววววววว ’ วาซัดไพ่ในมือออกห้าใบพร้อมกัน ไพ่ห้าใบนี้เป็นไพ่ระเบิดสำรอง ซึ่งมีพลังทำลายเพียงเล็กน้อย เอาไว้ใช้หลอกล่อความสนใจ แต่ตอนนี้มันเป็นความหวังสุดท้ายจริงๆของวาแล้ว
‘ ตูม !!! ’
ไพ่ทั้งห้าระเบิดพร้อมกัน เป็นขณะเดียวกันกับที่ไพ่ใบแรกที่วาซัดเพียงหลอกล่อความสนใจตกลงบนพื้นพอดี
เสียงโห่ร้องดังขึ้นพร้อมกันทั้งห้องชมรม จบเสียทีวาคิด ต่อให้ก็อบจะเร็วแค่ไหนก็คงไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนี้ได้แน่นอน
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็อบไม่สามารถหลบการโจมตีของวาครั้งนี้ได้
เสียงปรบมือแสดงความยินดีน่าจะดังขึ้นมาได้นี่ วาคิด
‘ เป็นไปไม่ได้ เมื่อสักครู่นี้ไม่มีการพลาดเป้าแน่นอน แต่ทำไม
. ’ ขณะที่วากำลังคิดอยู่นั้นควันเบื้องหน้าก็จางลงจนเห็นได้ชัดว่าก็อบนอนอยู่กับพื้น วาไม่รอให้โอกาศหลุดมือไปอีกแล้ว เขาคิดว่าการโจมตีเมื่อสักครู่อาจไม่รุนแรงพอจะทำให้ก็อบแพ้ได้ ดังนั้นวาจึงซัดไพ่กระหน่ำใส่อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
ร่างของก็อบที่นอนอยู่ถูกไพ่ของวาปักใส่ใบแล้วใบเล่า แต่ทว่าก็ยังไม่มีเสียงประกาศจบการแข่งเสียที
และวาก็เริ่มรู้สึกแล้วว่า เรื่องราวมันจะต้องไม่ปกติแน่นอน แต่เมื่อวาคิดได้ก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว
‘ ฟุป!!! ’
ร่างของก็อบที่นอนอยู่กับพื้นคลายเป็นกลุ่มควัน และแปรสภาพกลายเป็นท่อนไม้ท่อนหนึ่ง เสียงผู้ชมร้องโห่แสดงความตกใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนวานั้นไม่ต้องพูดถึงหัวใจของเขาแทบจะหลุดออกจากตัวเลยทีเดียว
‘ ปึก !!! ’
ไม่ทราบว่าก็อบไปหลบอยู่ที่ไหน แต่คล้ายโผล่ขึ้นมาจากพื้นพร้อมกับล็อคแขนวาด้วยความรวดเร็ว ไพ่ที่อยู่ในมือของวาหล่นลงกับพื้นจนหลงเหลืออยู่ในมือแค่ไม่กี่ใบเท่านั้น และถึงต่อให้วามีไพ่เยอะกว่านี้ก็คงไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้อีกแล้ว
ก็อบกำลังจะใช้ท่ากระโดดทุ่มที่ใช้ล้มคู่ต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนกับวา ซึ่งทุกคนที่เคยโดนท่านี้ไม่เคยมีใครรอดมาได้แม้แต่คนเดียว
“ หึหึ เสียใจด้วยนะ แต่ว่ามันจบลงแค่นี้แล้วละ ”
วาคล้ายพยายามตั้งสติครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง ภาพของตัวเขาเองที่ให้สัญญากับโซเฟีย ไซโคร แนช และดีว่าปรากฎขึ้นมาในหัวสมองของเขา
‘ นี่เรากำลังจะแพ้จริงๆหรือเนี่ย ’
‘ ถึงเราจะไม่ใช่คนที่อยากจะต่อยตีกับใครก็เถอะ แต่ว่า
.. ทำไมครั้งนี้ถึงได้รู้สึกอยากจะเอาชนะให้ได้ขนาดนี้นะ ’
‘ เพราะอะไรกัน
. เพราะคำสัญญากับโซเฟียน่ะหรอ ? ’
วาค่อยๆหลับตาลง ‘ เราคงมาได้แค่นี้ละนะ ขอโทษด้วยนะทุกคน
.’
“ เอาละ ได้เวลาจบเกมกันเสียที !!! มีอะไรจะพูดกับเพื่อนแกไหม ฮ่าๆๆๆ ”
ก็อบหัวเราะอย่างสะใจ เพียงแค่ทุ่มวาลงได้เท่านั้นทุกอย่างก็จะจบลงแล้ว น่าเสียดายทีมของเจ้าหมอนี่จริงๆ มีทั้งดีว่า ไซโคร แนชแต่กลับต้องแพ้แบบง่ายๆ
วาส่ายหน้าอย่างหมดหวัง เขาหมดหนทางเอาชนะแล้วจริงๆ
“ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วละก็
ลาก่อน !!! ”
ก็อบย่อตัวลงเกร็งพลังรวมไว้ที่ขาของเขา แต่ขณะที่ก็อบกำลังจะพุ่งตัวขึ้นนั้น !!
“ เดี๋ยวก่อน !!! ”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา และเท่าที่วาจำได้นั่นคือเสียงของ โซเฟีย !
ก็อบหันไปจ้องโซเฟีย
“ มีอะไร ”
“ ขอพูดอะไรกับเขาหน่อยได้ไหม ” โซเฟียยิ้มให้กับก็อบ พร้อมกับชี้ไปที่วา ซึ่งก็อบก็ไม่ได้ว่าอะไร และหากกลับไปถามก็อบว่าทำไมเขาถึงยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ เขาเองก็ต้องตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เรียกว่า ‘ ความเมตตา ’
ซึ่งออกจะขัดกับนิสัยประจำตัว และวิถีของนินจาเป็นอย่างยิ่ง แต่อาจเป็นเพราะวาก็ได้ที่ทำให้เขารู้สึกถึงความรู้สึกแบบนี้ได้ ความรู้สึกที่ไม่เคยได้รู้สึกมานาน
“ นี่คุณเด๋อ ” โซเฟียเรียกวา ซึ่งเมื่อวาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าหน้าของโซเฟียไม่ได้ยิ้มแย้มอย่างที่เขาคิดไว้ โซเฟียหน้าบึ้งจนเรียกได้ว่า โมโหเลยก็ว่าได้
“ นายแพ้แล้วหรือยัง ” โซเฟียถาม
วาส่ายหน้า
“ ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงยอมแพ้แล้วละ ” โซเฟียในตอนนี้หน้ากลัวที่สุดเท่าที่วาเคยเจอมาเลยก็ว่าได้ เป็นสีหน้าที่จริงจังเหมือนทุกครั้งที่เธอจะเอาจริงกับอะไรสักเรื่อง แต่บวกกับความโกรธเข้าไปด้วย
“ แต่
.. ” วาไม่ทราบว่าจะพูดอะไรดี ยังไงเสียเขาก็แพ้แน่นอน
“ มองหน้าเราสิ ” โซเฟียเรียกด้วยเสียงเอาจริง ซึ่งเมื่อวาประสานสายตากับโซเฟียก็รู้สึกถึงคำพูดอะไรบางอย่างในแววตาของเธอ และจู่ๆวาก็รู้สึกเหมือนไฟที่ลุกโชนขึ้นมาใหม่ ‘ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แค่ได้เห็นแววตานี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะให้ชั้นลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แม้ว่าจะล้มอีกสักกี่ครั้ง ’
“ ไอ้เรื่องสัญญาว่าจะเอาชนะให้ได้น่ะ จะแพ้ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าไอ้เรื่องที่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้มันไม่สมกับเป็นนายเลยนะ ถ้ายังไม่ถึงที่สุดก็อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ !!! ”
โซเฟียจ้องหน้าวาสักพักก็หันหลังเดินกลับไปยังที่นั่งประจำทีม ซึ่งก็อบก็เค้นหัวเราะเล็กน้อยขณะที่โซเฟียเดินผ่านหน้าเขาไป
“ เข้าใจเรียกกำลังใจกันดีจริงๆนะทีมนี้ แต่มันก็เท่านั้นละนะ ถ้าเจ้าหมอนี่เอาชนะข้าได้ มันก็คงเรื่องเหลือเชื่อที่สุดในชีวิตของข้าแล้วละ ฮ่าๆๆๆ ”
และก็อบก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงของวานั่นเอง
“ ไม่ต้องห่วง ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ”
และเมื่อโซเฟียหันมายิ้มให้กับวา เขาก็รู้สึกว่า หากไม่สู้ให้ถึงที่สุดในวินาทีนี้ ก่อนที่การแข่งขันจะจบลง เขาคงจะต้องเสียงใจไปตลอดแน่
สิ่งที่วาคิดในตอนนี้ไม่ใช่การจะเอาชนะ แต่เป็นการสู้ในเต็มที่ ที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่หนทางเกรงว่าถูกปิดตายหมดเสียแล้ว
“ หึหึ แสดงให้ดูหน่อยสิ วิธีเอาชนะของแกน่ะ !!! ”
ก็อบเกร็งพลังพร้อมกับกระโดดขึ้นแล้ว ร่างของทั้งสองลอยขึ้นบนฟ้าแม้จะไม่ได้สูงมากเท่าไหร่ แต่ก็เพียงพอที่จะกลับหัวของวากระแทกใส่พื้น และจบการแข่งนี้ได้อย่างสมบรูณ์แบบที่สุด
หนทางถูกปิดตายแล้วจริงๆ ?!
วาในตอนนี้พอจะเข้าใจความรู้สึกของการต่อสู้ในเสี้ยววินาทีแล้วจริงๆ เขารู้สึกเข้าใจดีว่า และโซโคร แนชที่อาศัยจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้จนถึงตอนนี้แล้วจริงๆ
แต่เพียงแค่เข้าใจมันก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าหากไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง ดังเช่นคำที่ว่า
‘ อุดมการณ์จะมีค่า ถ้ามีคนเห็น ’
วารู้สึกว่าเวลาของเขาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว เวลาในตอนนี้นับถอยหลังเป็นเศษเสี้ยววินาทีเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจก็คือ ต้องพยายามให้ถึงที่สุด !!!
‘ แววตาเธอที่มองชั้น ถ่ายทอดความรู้สึกบางอย่าง
’
ร่างของวาถูกหลับหัวพร้อมดิ่งลงสู่พื้นด้วยความรวดเร็ว
‘ ความรู้สึกที่เกินกว่าจะบรรยาย เพียงแค่แววตานั้นก็เพียงพอแล้ว
’
อีกไม่กี่เสี้ยววินาทีวาก็จะแพ้แล้ว
‘ อยากจะรักษาแววตานั้นไว้ตลอดไป เผื่อวันหนึ่งชั้นจะสามารถสบตาเธอได้อย่างนั้นบ้าง
. ’
0.1 วินาทีก่อนที่วาจะพุ่งชนพื้น จะมีปาฎิหารย์เกิดขึ้นหรือไม่ ?!
“ ตูม !!! ”
สิ่งที่เห็นก็คือ วาถูกกระแทกใส่พื้นอย่างจัง ส่วนก็อบนั้นก็กระโดดหมุนตัวขึ้นมาอย่างอยู่ข้างวา
พร้อมกับกอดอกเตรียมพร้อมรับชัยชนะอย่างสมบรูณ์แบบ
ทุกอย่างจบลงแล้ว ในเมื่อถ้าวาแพ้แล้วก็เท่ากับว่า ทีมแก๊งเอ็ดดี้ชนะผ่านไปสู่รอบระหว่างสถาบันในทันที
ออกจะน่าเสียดายที่วาไม่มีโอกาสผลิกเกมคืนมาได้ อาจเป็นเพราะการจัดตัวที่เสี่ยงเกินไป หรือความผิดพลาดอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งไซโคร แนชก็ได้คิดไว้ว่าหากเพียงเท่านี้ยังไม่สามรถเอาชนะ การแข่งระหว่างสถาบันก็คงไม่ต้องพูดถึง
แต่สิ่งที่กล่าวไปทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อวาแพ้เท่านั้น !!!
เสียงสัญญาณยังคงไม่ได้ดังขึ้น และก็เป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน ไม้เว้นแม้แต่ก็อบ
‘ เพราะอะไรกัน !!!
ทั้งๆที่เราใช้ท่าจับทุ่มที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดท่าสังหารกลางอากาศที่ได้ผลที่สุดแล้ว ’
โซเฟียนั้นตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว เธอเองก็สงสัยเช่นกันว่าทำไมเสียงสัญญาณไม่ดังขึ้นสักที จะบอกว่าสัญญาณเสียก็ไม่ได้
เธอเองก็รู้ดีว่าหากเงยหน้าขึ้นไปมองแป้นไลต์พอต์ยที่ด้านบนก็จะรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คล้ายมีอะไรบางอย่างสะกดเธอไว้ที่บนเวที อะไรบางอย่างที่เรียกว่า ‘ ความเชื่อ’ นั่นเอง
ก็อบนั้นขณะนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น และความผิดปกตินั้นทำให้ก็อบลงมือกับใส่วาในทันที มีดสั้นในมือของเขาซัดพุ่งในวาในทันที
“ แอ๊ด !!!!”
เสียงสัญญาณดังขึ้นในทันทีเมื่อมีดนินจาของก็อบปักใส่หลังของวาที่นอนฟุปอยู่
‘ ใช่แล้ว เราแค่ลงมือเบาไปหน่อยก็เท่านั้นเอง มันคงเหลือไลต์พอต์ยแค่นิดเดียวพอดีก็เท่านั้นเอง ’
ก็อบบอกกับตัวเอง แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นเหงื่อก็ไหลลงมาจากแก้มของเขา โดยนั่นไม่ใช่เหงื่อที่เกิดจากความเหนื่อยในการต่อสู้ แต่เป็นเหงื่อที่เกิดจากพลังกดดัน พลังกดดันที่แม้ว่าชัยชนะอยู่แค่เบื้องหน้าแล้ว ก็ยังไม่สามารถรับชัยชนะได้ นั่นเป็นเพราะอะไรกัน !!!
หรือว่าเป็นเพราะตอนนี้เขาซัดมีดนินจาออกนั้น เขาสังเกตเห็นที่นิ้วมือของวานั้นมีการขยับครั้งหนึ่ง เพียงแค่ครั้งเดียวจริงๆ และก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มีดของเขาปักใส่วา พร้อมกับเสียงสัญญาณที่ดังขึ้น
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !!!
และก่อนที่ความคิดทุกอย่างจะเกิดขึ้นต่อไปนั้น เสียงของเด็กชายนักประกาศก็กล่าวขึ้น
“ โอ้ววววว โอ้วววว !!!
สุดยอดมากครับการประลองรอบนี้นับว่าไม่เสียเที่ยวที่เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก่อนจะไป แข่งระหว่างสถาบันจริงๆครับ ”
เด็กชายนักประกาศเดินเข้าหาก็อบ
‘ ใช่แล้ว ข้าชนะแล้ว ฮ่าๆๆๆ ’
จากนั้นเด็กชายนักประกาศก็ชี้มือไปยัง
“ และผู้ชนะในรอบนี้ของเราก็คือ ผู้แข่งขัน วา ครับ !!! ”
เสียงปรบมือดังลั่นห้องชมรม ส่วนก็อบนั้นแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยินอยู่
‘ ไม่จริง ! ต้องมีอะไรผิดพลาด คนที่ล้มอยู่นั่นมันเจ้าหมอนั่นไม่ใช่หรอ แล้วมีดที่ปักใส่ก็เป็นมีดของเรา แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน !! ไม่มีทาง !!!’
ก็อบรีบหันไปมองยังจอแสดงไลต์พอต์ยข้างบนทันที และก็พบว่าไลต์พอต์ยที่เหลือสูนย์เป็นไลต์พอต์ยของเขาจริงๆ ส่วนวานั้นเหลือเพียงแค่สิบเท่านั้น
แต่เพราะอะไรกัน ช่วงเวลาเพียงแค่นั้น แขนก็ถูกล็อคอยู่ชัดๆ ไม่มีทางที่จะโจมตีได้เลยแท้ๆ แต่ทำไมกัน
หนทางที่ถูกปิดตายถูกเปิดออกได้อย่างไรกัน ?!
ซึ่งต่อมาหากถามคำถามนี้กับวา เขาก็จะตอบแล้วยิ้มว่า ‘ หากหนทางถูกปิดตายแล้ว ทำไมเราไม่เปิดมันขึ้นมาอีกครั้งด้วยตัวเองละ ’
และหากจะถามว่าอะไรคือ สิ่งที่ทำให้วาสามารถเอาชนะได้ วาก็คงจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า ‘ แววตาของโซเฟียครับ ’ เพียงแต่ไม่มีใครเคยถามคำถามนี้กับวาเท่านั้น
ก็อบซึ่งยังคงไม่เชื่อว่าตนเองแพ้นั้นขณะที่จะเอ่ยปากกล่าวอะไรก็พบอะไรบางอย่างสะท้อนแสง ค่อยๆหล่นลงสู่พื้น และนั่นก็คือคำถามที่จะตอบคำถามทั้งหมดของก็อบ และทุกคน
“ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับเนี่ย ” ดีว่าถอนหายใจ คล้ายรู้สึกผิดที่ไม่เชื่อใจวาว่าจะสามารถเอาชนะได้จริงๆ
“ นั่นสินะ แต่คุณเด๋อก็สร้างปาฎิหาร์ยได้จริงๆนั่นละ ” โซเฟียยิ้มอย่างดีใจจนแทบจะหุบไม่อยู่ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าวายังคงนอนอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกขึ้นมาเธอก็รีบวิ่งขึ้นไปบนเวทีในทันที ไซโคร แนชและดีว่าเองก็เช่นกัน
โซเฟียถอดหมอกป้องกันของวาออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจับวานอนหงาย
“ วา วา เป็นอะไรไปน่ะ !! ”
ไม่มีเสียงตอบ โซเฟียรู้สึกเหมือนโลกเกือบจะหยุดหมุนลงตรงนั้น ซึ่งดีว่าก็เข้ามาแตะบ่าเธอเบ่าๆคล้ายกับบอกว่าให้ใจเย็นๆไว้
ก็อบนั้นแม้จะตะลึงกับความพ่ายแพ้ แต่เมื่อเห็นวานิ่งไปก็รีบเข้ามาดูทันที
“ นายทำอะไรกับเขาน่ะ ! ”
โซเฟียคาดคั้นก็อบ ซึ่งก็อบเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นเพราะการเอาหัวโหม่งพื้นทำให้หัวสมองของวาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงทำให้หมดสติลง และหากร้ายแรงกว่านั้นละก็
“ ถ้าเขาเป็นอะไรไปนะ
!!! ”
น้ำตาไหลออกจากแก้มของโซเฟีย ซึ่งดีว่าก็พยายามห้ามโซเฟียไว้
และก่อนที่ทุกอย่างจะเร็วร้ายลงไปกว่านี้ ไซโคร แนชก็ทำให้ทุกอย่าสงบลงโดยการบอกให้ทุกคนหลบไปก่อนจากนั้นก็ตรวจดูวาสักพักก็ส่ายหน้าเล็กน้อย
“ หลบไป ”
ไซโคร แนชอุ้มวาขึ้นจากนั้นก็หันกลับไปมองก็อบ ก็อบคล้ายกับหัวใจหยุดเต้นไปจริงๆในช่วงเวลานี้ สายตาของไซโคร แนชคล้ายกับมัจจุราชที่จะมาทวงวิญญาณเขาก็มิปาน
“ ไม่ต้องห่วง เจ้านี่แค่หมดสติไปเท่านั้นเอง แกสบายใจได้ ” และไซโคร แนชก็เดินจากไปอย่างช้าๆ ตามด้วยโซเฟีย และดีว่า
ซึ่งก่อนจะลงจากเวทีไซโคร แนชก็หันกลับไปหาก็อบอีกครั้ง
“ ลืมบอกไป หลังจากการแข่งนี้จบลง ถ้าแกอยากจะไปเยี่ยมเจ้าหมอนี่ละก็ เชิญได้ตามสบายนะ ”
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดก็อบรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ไซโคร แนชในตอนนี้คล้ายไม่ใช่ไซโคร แนชที่เขาเคยรู้จักจริงๆ ใช่แล้วนั่นคือ ‘ เจ้าชาย ’ ที่หัวใจเริ่มจะกลับมาเป็นเจ้าชายอีกครั้งแล้วนั่นเอง
แสงสว่างส่องเข้ากระทบตาของวา และตาของเขาก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการปรับการมองเห็น ซึ่งภาพแรกที่เขาเห็นก็คือ โซเฟีย
ที่มือของวานั้นรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น มันเป็นความอบอุ่นจากมือของเธอนั่นเอง
“ อา
”
วาพยายามขยับตัว เขารู้สึกมึนหัวเล็กน้อย แต่อะไรบางอย่างทำให้เขาต้องรีบลุกขึ้นมานั่งให้ได้
“ เฮ้ ! เป็นยังไงบ้าง ไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ !! ” โซเฟียรีบเข้ามาพยุงวาให้ขึ้นมานั่ง และเมื่อวามองหน้าโซเฟียก็ถึงได้รู้ว่า ที่ตาของเธอมีคราบน้ำตาปรากฎอยู่
“ ไม่เป็นไรหรอก แค่รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ” วายิ้มให้กับโซเฟีย ซึ่งแม้โซเฟียจะยิ้มให้กับเขาแต่ในแววตาของเธอยังคงแฝงแววเป็นกังวลและห่วงใยอยู่
และเมื่อวาลองมองไปรอบๆก็พบว่าเขาอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียนนั่นเอง โดยมีเพื่อนๆนั่งล้อมเขาไว้ทุกคนจนแทบจะเรียกได้ว่า ขนกันมาเต็มคันรถ ไม่ว่าจะเป็น เสือใบ้นิค นีโอ มิว วีวี่ พิชากิ ซักก้า ดีว่า และที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ ก็อบนั่นเอง
เมื่อวามองไปที่ก็อบ ก็อบก็กระตุกเล็กน้อยหากว่าวาไม่ได้คิดไปเองพร้อมกับถามวาว่า
“ เป็นยังไงบ้าง ”
วาแม้จะแปลกใจแต่ก็ยิ้มให้แก่ก็อบ เป็นรอยยิ้มอย่างยินดีที่สุดก็ว่าได้
“ ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ ”
ก็อบก็ยิ้มให้แก่วาเช่นกัน นี่นับว่าทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันแล้วก็ว่าได้ คำว่า มิตรภาพ นั้นแม้จริงแล้วเป็นไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะสัมผัสมาอย่างไร แต่สำหรับวาแล้วเขาสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า นี่ละเพื่อนของผม คนที่จะคอยช่วยผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
และก่อนที่ทุกคนจะชิงถามอะไรกันนั้น วาก็นึกขึ้นมาได้ถึงการแข่ง
“ แล้วการแข่งละ!! ใครเป็นคนชนะหรอ ”
แล้ววาก็รู้สึกได้ว่าที่หัวของเขาโดนเขกไปทีหนึ่ง ซึ่งคนที่เขกหัวของเขาก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นโซเฟียนั่นเอง
“ ตาบ๊อง นี่เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็พูดถึงเรื่องนี้เลยนะ ”
“ โอ๊ย แหม ก็มันอยากรู้นี่น่า แล้วจะบอกอะไรให้นะ ถ้าเราจะสลบไปอีกทีก็เพราะกำปั้นของเธอนั่นละ ”
ได้ยินวาพูดเช่นนี้ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จนอาจารย์พยาบาลต้องทำปากให้ลดเสียงลงหน่อย
“ พูดแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้สลบจริงหรอก ” โซเฟียกำกำปั้นชูขึ้นขู่วา
“ อะ ล้อเล่นๆ ”
แล้วโซเฟียก็หัวเราะออกมาจนได้ สีหน้าแห่งความกังวลลดลงไปมากแล้ว
“ คนเราน้า คนเขาเป็นห่วงแทบตาย ”
“ รู้แล้วคร๊าบ คุณหัวหน้าห้อง แล้วตกลงจะบอกผมได้ยังว่าใครเป็นคนชนะ ”
ซึ่งขณะที่โซเฟียกำลังจะเอ่ยปากนั้นก็ได้ยินเปิดประตูห้องมา และคนที่เปิดประตูห้องมาก็คือ ไซโคร แนชนั่นเอง
“ คนที่แพ้ก็คือ เจ้ายังไงละ ” ไซโคร แนชพูดแบบหน้าตาย
“ จริงหรือครับรุ่นพี่ ” วาคอตกทันที
“ ซะเมื่อไหร่เล่า เจ้าชนะต่างหากละ ” แล้วไซโคร แนชก็หัวเราะออกมา เป็นครั้งแรก ครั้งแรกจริงๆที่วาได้เห็นไซโคร แนชหัวเราะ หรือแม้แต่คนอื่นก็ตาม บรรยากาศในตอนนี้ช่างเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ วารู้สึกอยากจะเก็บเวลาเช่นนี้ไว้ให้นานเท่านานจริงๆ
ซึ่งเหตุที่วาชนะได้นั่นก็เพราะ ตอนที่วาถูกล็อคคอยู่นั้นเขาคิดที่จะยอมแพ้แล้วจริงๆ แต่เมื่อโซเฟียมาพูดกับเขาทำให้เขาไม่อยากที่จะยอมแพ้ แล้วในเสี้ยวเวลานั้นเอง ทำให้วาคิดพบวิธีสุดท้ายแม้ว่าจะเป็นวิธีที่เสี่ยงมาก แต่ก็ไม่มีทางเลือกเหลืออีกแล้ว นั่นคือ วิธีใช้เส้นเอ็นแบบที่รุ่นพี่ซาโต้เคยใช้
ตอนที่วาตะโกนลอกกับโซเฟียว่าจะพยายามนั้นก็คือ ตอนที่วาคิดแผนนี้ได้แล้ว และเริ่มลงมือของรวดเร็วโดยที่ก็อบไม่ทันได้สังเกต แม้ว่าแขนของวาจะถูกล็อคอยู่แต่ก็ใช้ว่ามือจะใช้การไม่ได้ วาสลัดเส้นเอ็นคล้องคอก็อบอย่างรวดเร็วตอนที่ก็อบกระโดดขึ้น ซึ่งโอกาสที่จะคล้องได้นั้นมีน้อยมาก แต่ด้วยความที่วาฝึกฝนมาอย่างมากทำให้สามารถคล้องได้อย่างเหมาะเจาะ และตอนที่กระโดดขึ้นนั้นเองเป็นตอนที่วาอาศัยแรงดึงจากเส้นเอ็นทำให้ไลต์พอต์ยของก็อบลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ในทันที ซึ่งตอนที่วาถูกกลับหัววาก็อาศัยแรงโน้มถ่วงในการเพิ่มแรงอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และวาก็รู้ว่ามันคงหมดทางเสียแล้ว
แต่โชคดีที่เส้นเอ็นที่รัดคอนั้นทำให้สภาวะท่าร่างของก็อบถูกลดทอนความรุนแรงลงไปได้บ้างเล้กน้อย ดังนั้นวาจึงไม่ถูกพิชิตในกระบวนท่าเดียว แต่นั่นทำให้เขาหมดสติไป
และหากจะถามว่าอะไรคือ สิ่งที่ทำให้เขาขยับนิ้วมืออีกครั้ง ก่อนที่จะถูกมีดของก็อบปักเข้าใส่นั้น วาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน หรือความจริงเขาก็ไม่กล้าที่จะตอบ เขาเพียงรู้สึกว่า อยากจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับโซเฟียก็เท่านั้นเอง ( ต่อมาภายหลังจะรู้เองว่าคืออะไร )
วาทำท่าตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าตนเองชนะ เรียกได้ว่าไม่กล้าที่จะเชื่อเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้
“ แล้วถ้าอย่างนั้นการแข่งขันละครับ รุ่นพี่ไม่ได้ไปแข่งหรอกหรอครับ ”
วาคล้ายเห็นรอยยิ้มกวนๆของไซโคร แนชขึ่นวูบหนึ่ง
“ แข่งสิ แล้วรุ่นพี่เขาก็ชนะด้วย เร็วเป็นบ้าเลยละ คงเพราะเป็นห่วงนายนั่นละ ” มิวพูดอย่างตื่นเต้นไม่หาย
ส่วนไซโคร แนชไม่กล่าวอะไรเพียงแค่เดินมาหาว่า
“ ที่ข้าชนะเร็วน่ะไม่ใช่เพราะห่วงเจ้าหรอกนะ ก็แค่สู้ตามปกติเท่านั้น ” จากนั้นก็มาหยุดอยู่หน้าวา “ ส่วนไอ้คนที่ห่วงเจ้าจริงๆนะ ถ้าอยากรู้ข้าจะบอกให้ ”
วาเองก็ไม่ปฎิเสธที่จะรู้ เอียงหูเข้าหาไซโคร แนช จากน้นทั้งวา และไซโคร แนชก็หันไปยิ้มให้กับโซเฟีย
“ นี่ทั้งสองคนน่ะ กระซิบอะไรกันหา ” โซเฟียหน้าแดง
“ เปล่านิ ก็แค่
..” วายิ้มกวนๆให้โซเฟีย ซึ่งโซเฟียเมื่อมองหน้าไซโคร แนชก็พบว่าหน้าของไซโคร แนชตอนนี้ก็กวนเช่นเดียวกัน
“ รุ่นพี่อย่าทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดสิค่ะ !!! ” โซเฟียขู่ไซโคร แนช ซึ่งไซโคร แนชก็หันกลับไปพูดกับวา
“ สงสัยข้าจะต้องรีบไปหน่อยแล้ว ก่อนที่จะตายไม่รู้ตัว ” จากนั้นรีบเดินออกจากห้องทันที พร้อมกับเสียงหัวเราะของคนทั้งห้อง
“ เชอะ รู้อย่างนี้น่าจะให้สลบไปนานๆ ไม่ต้องฟื้นขึ่นมาเลย ”
“ แหม ถ้าไม่ฟื้นก็กลัวคนแถวนี้เขาจะสลบตามน่ะสิ ฮ่าๆๆ ” วาหัวเราะอย่างดีใจที่สุด ซึ่งโซเฟียแม้จะพยายามกลั้นยิ้มเพราะอาย แต่ก็ยังยิ้มออกมาให้วาเห็น
แน่นอนชื่อที่ไซโคร แนชกระซิบให้วาฟังก็คือ ‘ โซเฟีย ’ นั่นเอง
วันนี้ช่างเป็นวันแห่งความสุขเสียจริงๆ
..
‘ อยากจะรักษาแววตานั้นไว้ตลอดไป
เผื่อสักวันหนึ่งชั้นจะสามารถสบตาเธอแบบนั้นได้บ้าง
สักวันหนึ่ง
. ’
_________________________________________________
ความคิดเห็น