คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #61 : บทเรียนที่ 55 ไม่ใช่แค่ความฝันของชั้น ไม่ใช่แค่ความฝันของนาย
บทเรียนที่ 55 ไม่ใช่แค่ความฝันของชั้น ไม่ใช่แค่ความฝันของนาย
‘คอยดูให้ดี นี่คือไม้ตายของชั้น’ พรีสไซสูดหายใจเข้า โยนลูกปิงปองขึ้นฟ้าอย่างสง่างาม ทุกสิ่งทุกยอย่างฝากไว้กับแต้มนี้แล้ว
‘เทเลพอตต์’
ลูกความเร็วสูงพุ่งอย่างรวดเร็วราวกับข้ามผ่านกาลเวลา
“ เปล่าประโยชน์ ! ” เอจิสที่สีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกกล่าว พร้อมตวัดไม้ตบกลับไปได้อย่างง่ายดาย ทิศทางของลูกเบนทแยงเล็กน้อย และหากโต้กันไปเรื่อยๆมันก็จะค่อยๆกลายเป็นลูกโยกในที่สุด
พรีสไซที่ติดเครื่องถ่วงน้ำหนักแทบรับไม่ทัน กัดฟันทุ่มพลังสมาธิและพลังใจที่มีทั้งหมดออกมา สวนลูกโต้กลับไปได้
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ จากลูกโต้ที่น่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว ก็กลายเป็นลูกโยกที่เอจิสจะใช้เผด็จศึกในที่สุด
คู่ต่อสู้ของพรีสไซคราวนี้ไม่ใช่เพียงแต่ต้องใช้ฝีมือในการเล่นด้วยเท่านั้น แต่ต้องอาศัยข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดรวมไปด้วย เพราะหากเทียบฝีมือกันจริงๆ ฝั่งนั้นยังเหนือกว่าอยู่ขั้นหนึ่ง แต่ที่พรีสไซสามารถตีตื้นมาถึงขนาดนี้ได้ก็เพราะความสามารถในการวิเคราะห์ทางล้วนๆ ดังนั้นการโต้แต่ละลูกล้วนมีความหมายทั้งสิ้น
‘ เริ่มเสียศูนย์แล้วสินะ ’ เอจิสจ้องมอง
วากลืนน้ำลาย หัวใจเต้นระรัวเมื่อเห็นพรีสไซโดนโยกอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ในที่สุดวาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้
‘ ทำไมทั้งๆที่โดนโยกถึงขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่ยังสามารถรับลูกได้หมดทุกลูก แถมท่ารับประหลาดๆนั่นอีก มันไม่น่าเอาไว้ใช้เล่นปิงปองด้วยซ้ำไป ’
ขณะที่เอจิสยังคงโยกอยู่นั้น พรีสไซก็รีบตั้งสมาธิหาจังหวะเพื่อจะใช้ฮิปโปไดร์ฟออกไปให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นหาก เอจิสรู้ถึงความลับของท่านี้แล้ว เขาคงจะไม่รอดแน่ อีกอย่างหนึ่งท่าฮิปโปเซตอัพของพรีสไซไม่สมบรูณ์พอที่จะใช้ได้ตลอดแบบพาทัม
‘ อึ่บ ’ ขาของพรีสไซยกสูงกว่าที่ผ่านมา ถึงขีดจำกัดของท่าฮิปโปเซตอัพแล้ว และในการโยกครั้งต่อไปนี่ละ จะเป็นเวลาที่จะต้องใช้ฮิปโปไดร์ฟแล้ว
‘ จงพ่ายแพ้ไปซะ ! ’ เอจิสที่เห็นพรีสไซเสียศูนย์จนถึงที่สุด ง้างไม้ไปด้านหลัง จากนั้นตวัดไม้ตบไปลูกท็อปสปินหวังพิชิตชัย
“ เหวอ ” จู่ๆ พรีสไซก็เสียหลักเข้าจริงๆ ขาด้านซ้ายยกขึ้นสูง จากนั้นร่างผอมเก้งก้างก็เอียงตัวไปทางขวาในทันที
‘ นะ นี่หรือครับ ความรู้สึกเวลาจะใช้ฮิปโปไดร์ฟ ! ’ พรีสไซรู้สึกร่างกายควบคุมไม่ได้ แต่ลูกท็อปสปินที่กำลังพุ่งเข้าใส่หน้าเขาไม่มีความปราณี หากไม่สามารถโต้ไปด้วยฮิปโปไดร์ฟก็มีแต่จะต้องพ่ายแพ้เท่านั้น
‘ เอาฟะ ! ตายเป็นตายสิ ! ’ พรีสไซฮึดสู้ยอมทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านขวาทั้งหมด หากเป็นเช่นนี้คงจะต้องล้มหัวฟาดพื้นแน่ๆ
วาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนโซลีนนั้นก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่เป็นการตื่นเต้นคนละแบบกับวา เพราะโซลีนรู้ว่าวินาทีต่อจากนี้คือ การตัดสินด้วยท่าไม้ตายในตำนานของชมรมปิงปองแล้ว !
รุ่นน้องชมรมปิงปองที่ดูอยู่ก็อุทานออกมาเช่นกัน
เสี้ยววินาทีนั้นเอง ภาพของพาทัมคล้ายซ้อนขึ้นมาในตัวพรีสไซ ก่อนที่มือด้านขวาจะรวมพลังในการตบไปกับน้ำหนักร่างกาย ผสานกับน้ำหนักอีกสองกิโลจากที่ถ่วงน้ำหนักซัดพลังใส่ลูกปิงปองพุ่งตรงเข้าหาเอจิสอย่างทรงพลัง
“ ไปเลย ฮิปโปไดร์ฟ !!! ” พรีสไซตะโกน แว่นกระเด็นหลุดออกไป ซี่โครงด้านขวาล้มลงกระแทกพื้นอย่างจัง เพราะไม่สามารถทรงตัวได้เช่นพาทัม
ฮิปโปไดร์ฟพุ่งในมุมที่ค่อนข้างต่ำ จนเกือบจะติดตาข่ายเสียแล้ว แต่ด้วยพลังในการตบที่รวมกับน้ำหนักตัว ทำให้เกิดลูกอันทรงพลัง ถึงแม้จะเฉียดตาข่ายแต่ก็ยังสามารถข้ามผ่านไปได้ แถมพลังของมันก็ไม่ได้ตกลงไปแต่อย่างใด
“ นี่มันอะไรกัน ” พริบตานั้นสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเอจิส กลับเกิดความรู้สึกตกใจชนิดหนึ่งขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่เอจิสไม่เคยได้สัมผัสมานานแล้ว มันคือ ความกลัวนั่นเอง !
‘ ปัก !!! ’
ฮิปโปไดร์ฟหลังจากพุ่งลงโต๊ะแล้วก็กระเด้งขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแทกเข้าใส่หน้าผากของเอจิสอย่างจัง
‘ ลูกไม้ตายของเทพเจ้าฮิปโปสำแดงเดชแล้ว ! ’
จากนั้นเสียงเชียร์จากฝั่งอับดุลอินเตอร์ก็ดังก้องไปทั่ว วารู้สึกตัวอีกทีก็เห็นโซลีนวิ่งออกไปหาพรีสไซแล้ว และเมื่อลองมองตามไปดู วาก็ต้องรีบวิ่งออกไปเช่นกัน
เห็นพรีสไซนอนกุมซี่โครงด้านขวา สลับกับแขนขวาอยู่อย่างทรมาน การล้มกระแทกเมื่อสักครู่นี้ทำให้เขาปวดซี่โครง และแขนขวาอย่างหนัก แถมหัวยังถูกกระแทกอย่างจัง เพราะจงใจเทน้ำหนักตัวไปด้านขวาทั้งหมด
“ เฮ้ ไหวรึเปล่า ” โซลีนที่เข้าไปดูอาการถาม ส่วนวาวิ่งไปหยิบแว่นที่กระเด็นไป จากนั้นรีบมาดูอาการ
เอจิสหลุดจากสภาวะไร้ชีวิตวูบหนึ่ง คิดวิ่งมาดูอาการพรีสไซด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความตะลึงกับลูกเมื่อครู่ไม่หาย ประกอบกับวาและโซลีนวิ่งมาดูอาการแล้ว จึงยืนดูเหตุการณ์แทน ในหัวพลันลืมนึกถึงความลึกลับของท่าเมื่อสักครู่นี้ไปสนิท
ฝ่ายกองเชียร์พรีสไซเริ่มระสับระส่ายห่วงอาการของพรีสไซ เพราะหากได้รับบาดเจ็บมาก ต่อให้ยังแข่งไหวก็ยากที่จะชนะได้
“ แบบนี้สงสัยแพ้แน่ๆ ” เด็กชายชมรมปิงปองคนหนึ่งหันไปกล่าวกับเพื่อนอย่างหมดหวัง
“ อย่าดูถูกรุ่นพี่พรีสไซนะ ” ระรินหันไปว่าเด็กคนนั้น “ คนอย่างรุ่นพี่เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ”
เด็กชายทำหน้างง ขณะจะกล่าวค้าน ระรินก็เอ่ยขึ้นอีก
“ พวกเราก็อย่าถอดใจสิ มาช่วยกันเชียร์พวกรุ่นพี่กันเถอะ ”
เด็กหนุ่มถึงกับหน้าแดงขึ้นมาเพราะรอยยิ้มจิ้มลิ้มของระริน พยักหน้ารับคำด้วยความเขอะเขิน “ อะ อืม ”
จากนั้นเสียงเชียร์เรียกชื่อพรีสไซเป็นระยะๆ ก็ดังขึ้นจากฝั่งระริน มิวที่เห็นเหตุการณ์เมื่อได้ยินกองเชียร์จากฝั่งชมรมปิงปองดังขึ้นก็รีบขานรับโดยไม่รีรอ
จากเสียงเบาๆ ก็เริ่มดังขึ้นจนตอนนี้ทั้งห้องได้ยินเพียงเสียงเรียกชื่อพรีสไซจากทั้งกองเชียร์โรงเรียนอับดุลอินเตอร์ และคนที่ประทับใจในการเล่นของพรีสไซ
วาถึงกับอมยิ้มขึ้นมา หันไปมองรอบๆห้อง
“ วะ แว่น ” พรีสไซแบมือ พยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ วารีบส่งแว่นให้พรีสไซ อยากจะถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่เขาก็ทราบดีว่า หากเปลี่ยนเป็นเขาก็คงจะกัดฟันสู้ต่อไป เพราะศึกครั้งนี้ถึงแม้จะต้องแพ้ แต่เมื่อพลังใจมากถึงขนาดนี้ก็คงต้องลุกขึ้นมาสู้กันสักตั้ง
ทันใดนั้นเสียงปรบมือดังสนั่นขึ้น เมื่อพรีสไซยันตัวลุกขึ้นมา
“ ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ เมื่อกี้แขนนายกระแทกดูท่าไม่ค่อยดีเลยนะ ถ้าเกิดว่ากระดูกมันเกิดเคลื่อน หรือหักขึ้นมาจะแย่เอานะ ” โซลีนที่ปกติจะเยือกเย็นกล่าวอย่างกังวล
“ หึ นายเป็นคนขี้บ่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ” พรีสไซลุกขึ้น แม้หัวจะสู้สึกเจ็บปวดเหลือทนแต่ก็ฝืนยิ้มออกมาราวกับไม่เป็นอะไร
“ ให้หมอดูอาการก่อนดีไหมเธอ ” กรรมการเดินเข้ามาบอก เพราะเห็นท่าล้มของพรีสไซผิดปกติเช่นเดียวกับโซลีน
“ ไม่ต้องครับ ผมขอแข่งต่อเลย เมื่อกี้เพื่อนผมมาดูอาการให้แล้ว ” พรีสไซทำเป็นยิ้มยกโซลีนมาอ้าง โซลีนแม้จะอึ้งๆไปบ้างแต่ก็ต้องยอมรับตามน้ำไป เพราะทราบว่า หากหมอมาดูอาการแล้วเกิดบาดเจ็บจริงก็จะต้องถูกปรับแพ้ทั้งๆที่เหลืออีกแค่ลูกเดียวเท่านั้น
“ ถ้าอย่างนั้นก็แข่งต่อนะ ” กรรมการยิ้ม ในใจอดชื่นชมในตัวพรีสไซไม่ได้ ความจริงไม่ใช่ไม่รู้ แต่เพราะเห็นความมุ่งมั่นในแววตาพรีสไซ ประกอบกับเกมนี้เป็นเกมที่ดุเดือด ถ้าจะต้องแพ้เพราะบาดเจ็บก็ออกจะน่าเสียดายไปหน่อย อีกอย่างแค่ลูกเดียวเท่านั้นคงจะไม่ส่งผลอะไรมากนัก จึงยอมปล่อยให้พรีสไซแข่งต่อ
“ เต็มที่นะเพื่อน แต่อย่าฝืนเกินไปละ ยังไงก็ยังมีพวกชั้นอีกสองคนนะ ” โซลีนย้ำ เพราะรู้สึกว่าแขนของพรีสไซผิดปกติจริงๆ
พรีสไซไม่ตอบคำ กลับมายืนประจันหน้าเอจิส เอจิสแม้จะเห็นพรีสไซบาดเจ็บ แต่อย่างไรเกมก็คือเกม สำหรับเขาแล้วจะยอมอ่อนข้อให้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นสีหน้ากลับคืนสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง ในมือกุมลูกปิงปองที่จะตัดสินผลการแข่งเอาไว้
“ พร้อมรึยัง ? ” เอจิสเพียงถามสั้นๆ
“ อืม เสิร์ฟมาได้เลย ” เพียงพรีสไซพยักหน้า ลูกปิงปองในมือของเอจิสก็พลันลอยสูงขึ้น จากนั้นเอจิสตวัดไม้วูบ ตีลูกออกด้วยความรวดเร็วโดยไม่มีท่าทีอ่อนข้อให้เลยแม้แต่น้อย
‘ ฟ้าว ! ’ ลูกปิงปองที่คล้ายสัตว์ร้ายพุ่งตรงเข้าหาพรีสไซราวกับจะจัดการเขาให้ตายภายในลูกเดียว
‘ ขะ แขนเรา ! ’ พรีสไซรู้สึกแขนขวาเจ็บปวดเหลือทน แค่จะขยับยังยากลำบาก แต่ในยามนี้ไม่มีเวลาให้คิดอีกแล้ว ดังนั้นรวบรวมแรงใจทั้งหมดยกแขนขึ้นตั้งรับลูกอันแสนรวดเร็วนั้น ก่อนที่สมองจะตั้งสติคิดถึงทางที่เอจิสจะโต้กลับมา
“ ชั้นไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก ! ” พรีสไซกัดฟัน สวนลูกของเอจิสกลับไปอย่างยากเย็น
‘ ฮิปโป เซตอัพ ! ’
ท่าตั้งรับในตำนานถูกใช้ออกมา เมื่อเห็นว่าเอจิสจะเริ่มโยกอีกครั้ง แต่ความเจ็บปวดจากแขนขวายิ่งมายิ่งมาก เพราะท่าฮิปโปเซตอัพจำเป็นต้องกางเขนทั้งสองข้างออก ดังนั้นแขนขวาที่ได้รับการกระทบกระเทือนเริ่มตกลงทีละน้อย
เอจิสที่แววตาไร้ประกายโยกพรีสไซอย่างไม่ยั้ง บางทีหลอกว่าจะตีไปซ้ายแต่ตีไปทางขวา ความร้ายกาจของการหลอกล่อนับว่า ยากจะบรรยายได้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พรีสไซซึ่งมีความสามารถในการอ่านทางสูงแล้วคาดว่าคงไม่สามารถต้านทานรับได้เกินห้าลูก
‘ สุดยอด ! ’ วาอุทานออกมา เมื่อเห็นการโต้ลูกตัดสินอันแสนดุเดือดของทั้งคู่ เห็นเอจิสไม่ว่าจะซ่อนไม้ใต้โต๊ะหรือจะใช้กลยุทธ์โยกไปทางไหนก็ถูกพรีสไซตั้งรับได้อย่างฉิวเฉียดตลอด ราวกับได้ดูการแข่งระหว่างวิสด้อม และไลร่าอีกครั้งหนึ่ง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ อาการของแขนขวาพรีสไซที่ยิ่งเห็นยิ่งชัดเจนว่าเริ่มไม่ปกติแล้ว ไม่ทราบว่าพรีสไซกล่ำกลืนความเจ็บปวดไว้ถึงเพียงไหน
‘ น่าเบื่อจริงๆ ชมรมปิงปองที่ไม่ได้ไปแข่งกับโรงเรียนอื่นแบบนี้ ’ เสียงโซลีนตอนก่อนจะได้เป็นประธานชมรมทอดถอนใจดังขึ้นมาในหัว พรีสไซจำได้ว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับโซลีนอย่างจริงๆจังๆ
‘ ชั้นก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าได้ไปแข่งมันคงจะสนุกพิลึก ’ พรีสไซในตอนนั้นที่บังเอิญได้ยินเข้า เอ่ยตอบ
‘ งั้นเรามาลองสร้างชมรมที่เราฝันกันขึ้นมาดูไหมละ ’ โซลีนชักชวน ‘ ปีสุดท้ายแล้ว ไม่ลองดูสักตั้งคงจะน่าเสียดาย ’
‘ หึ อย่าว่าแต่ไปแข่งเลย แค่ทำให้ชมรมมันเหมือนชมรมขึ้นมาหน่อยก็ดีใจตายแล้วละ ’ พรีสไซถอนหายใจ
โซลีนส่ายหน้า เหม่อมองไปด้านหน้า ‘ ไม่หรอก สำหรับชั้นแล้ว ชั้นจะพาชมรมไปแข่งกับโรงเรียนอื่นให้ได้ ให้พวกโรงเรียนอื่นได้รู้กันเสียมั่งว่า โรงเรียนของเราไม่ได้เก่งแค่ชมรมอื่น แต่ยังมีชมรมปิงปองที่ไม่ว่าใครได้ยินชื่อก็ต้องผงาด เป็นชมรมที่ไม่มีใครจะมามองข้ามได้เป็นอันขาด ! เพื่อรุ่นน้องชมรมในอนาคตจะได้ไม่ต้องอับอายชมรมอื่น หรือโรงเรียนอื่นๆอีก และเพื่อความฝันของชั้นเอง หรือแม้แต่นายด้วย ! ’ โซลีนกล่าวได้ราวกับอ่านจิตใจของพรีสไซออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่า พรีสไซเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน เพียงแต่ลำพังตัวพรีสไซเองไม่กล้าฝันไกลถึงขนาดนั้น
พรีสไซยังจำความมุ่งมั่นของโซลีนในตอนนั้นได้ดี
‘ ถ้ามีวั้นนั้นจริง มาช่วยกันเป็นกำลังเพื่อชมรมของเรากันเถอะ
แล้วก็ช่วยทำให้ในความฝันของชั้นเป็นจริงที ’
หวนคิดถึงตอนนี้พรีสไซข่มความเจ็บปวดที่เริ่มทวีขึ้น แววตาปรากฎความมุ่งมั่นอันแรงกล้า จับจ้องไปยังเจ้าสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลลึก ถึงเวลาที่ต้องตัดสินกันแล้ว แม้ว่าแขนข้างนี้จะเป็นยังไงก็ช่างมัน ตอนนี้มีแต่จะต้องใช้ฮิปโปไดร์ฟอีกครั้งเพื่อเผด็จศึกเท่านั้น เพราะหากยื้อต่อไปแขนของเขาคงจะต้องยกไม่ขึ้นจริงๆแน่
“ แพ้ไปสักทีสิ ! ” มุซาชิกำหมัดแน่น เห็นพรีสไซที่บาดเจ็บถึงขนาดนั้นแต่ยังสามารถรับลูกของเพื่อนเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย ถึงกับหวั่นใจอยากให้เกมที่แสนจะดุเดือดนี้จบลงเร็วๆ เขาไม่อยากจะเห็นเอจิสพ่ายแพ้เลยจริงๆ
‘ ฟ้าว ! ’
ลูกตบท๊อปสปินของเอจิสพุ่งไปยังมุมโต๊ะด้านขวาอย่างไร้ความปราณี ซึ่งการโยกครั้งนี้นับว่ารุนแรง และได้มุมที่สุดแล้ว หากเป็นการวิ่งธรรมดาไม่มีทางรับได้ทันอย่างแน่นอน นับว่าเป็นการปิดบัญชีสำหรับเอจิสอย่างแท้จริง
‘ โซลีน และเจ้าหน้าใหม่ดูไว้ให้ดี ’ พรีสไซหันไปยังวา กับโซลีนโดยไม่สนลูกตบที่กำลังพุ่งเข้าใส่ ร่างกายเอียงไปด้านขวาอย่างรวดเร็ว ครานี้ถึงกับเร็วกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะเป็นการจงใจถ่ายน้ำหนักให้ถึงที่สุด เพื่อไปตั้งรับในตำแหน่งที่ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าจะรับได้ให้ทัน
โซลีนพยักหน้ารับความมุ่งมั่นของพรีสไซไว้ ภายใต้กรอบแว่นปรากฎน้ำหยดเล็กๆขึ้นมาหยดหนึ่ง
“ ไม่ใช่แค่ความฝันของชั้น
..ไม่ใช่แค่ความฝันของนาย
.. ”
พรีสไซกัดฟัน ยามนี้ความเจ็บปวดที่แขนขวาพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้ว หัวของเขารู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมา สติคล้ายเริ่มเลื่อนลอย
ลูกท๊อปสปินแม้จะอยู่ในตำแหน่งที่การวิ่งทั่วไปไม่สามารถรับได้ทัน แต่ด้วยการเอียงตัวทิ้งน้ำหนักของท่าฮิปโปเซตอัพทำให้ร่างกายของเขาสามารถเคลื่อนตามลูกตบนั้นได้ทันอย่างฉิวเฉียด ขณะนี้เจ้าลูกพิฆาตนั้นอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว ถึงเวลาตัดสินศึกที่แสนยาวนานนี้เสียที
“ แต่เป็นความฝันของพวกเราทุกคน ชมรมปิงปองอับดุล อินเตอร์ !!! ”
พรีสไซตวัดมือออก เมื่อน้ำหนักจากร่างกายกับน้ำหนักของที่ถ่วงแขนข้อมือรวมเป็นหนึ่งเดียวถ่ายทอดพลังผ่านไม้ปิงปองออกไปก็แปรเปลี่ยนเป็นลูกตบพลังมหาศาลในตำนาน ‘ HIPPO DRIVE ’
‘ ไปเลย ฮิปโปไดร์ฟ !!! ’ พรีสไซเพียงเห็นลูกปิงปองถูกตีออกไป แต่ไม่ทราบว่าลูกนั้นตีลงโต๊ะหรือโดนสวนกลับมาได้หรือไม่ เพราะยามนี้ร่างของเขาเอียงไปด้านขวาอย่างรวดเร็ว ภาพที่เห็นเป็นเพียงโต๊ะปิงปอง ขาโต๊ะ จากนั้นก็เป็นพื้น ก่อนที่ภาพจะค่อยๆเลือนลางหายไป หัวฟาดกระแทกพื้น หมดสติไป
แต่สิ่งที่เอจิส และทุกคนเห็นก็คือ ลูกตบที่แสนจะทรงพลัง ครานี้มันไม่ได้พุ่งเฉียดตาข่ายเหมือนครั้งก่อน ทำให้พลังของลูกตบไม่ได้ทุกลดทอนไป
ภายในเสี้ยววินาทีนั้นเอจิสตาเบิกกว้าง ขยับร่างกายวูบ ‘ ใครจะไปยอมแพ้เพราะลูกประหลาดๆ แค่นี้กัน ’ เอจิสรีบวิ่งไปยังลูกปิงปอง จากนั้นทราบว่าพลังของลูกรุนแรงมาก จึงวิ่งถอยออกมาเพื่อตั้งรับในระยะไกล ซึ่งช่วยสามารถลดพลังของลูกไปได้บ้าง
ฮิปโป ไดร์ฟหลังจากกระแทกลงโต๊ะก็กระเด้งขึ้นอย่างรุนแรงเข้าใส่เอจิสที่เตรียมตั้งรับอยู่แล้ว
นี่นับว่าเป็นวินาทีตัดสินครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ หากเอจิสสามารถรับลูกนี้ได้ก็นับว่าพรีสไซต้องพ่ายแพ้ไป
มุซาชิที่นั่งดูอยู่ลุ้นตัวเกร็ง วาและโซลีนก็เช่นกัน
ต้องยอมรับว่า เอจิสเก่งจริงๆที่สามารถเดาทางลูกตบของพรีสไซครั้งนี้ได้ ประกอบกับความเร็วที่วิ่งมาเตรียมตั้งรับและการตัดสินใจร่นถอยในเสี้ยววินาทีนั้นทำได้สวยงามมาก แต่ด้วยความเร็วในระดับนี้แค่ทำให้ไม้สัมผัสลูกได้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
แต่มิคาดเอจิสสามารถตั้งรับฮิปโปไดร์ฟได้จริงๆ ทั้งๆที่การตบครั้งนี้สมบรูณ์แบบจนแทบจะเรียกได้ว่า ราวกับพาทัมมาตบเองก็ไม่ปาน
‘ อึ่บ ’
เอจิสพยายามตั้งหน้าไม้ให้ได้มุมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะนี้เจ้าสัตว์ร้ายที่ไร้กลุยทธ์ได้เผชิญหน้ากับเทพเจ้าฮิปโปแล้ว
‘ ป๊อก ’
ลูกตบอันทรงพลังพุ่งเข้าใส่หน้าไม้ของเอจิสอย่างพอดิบพอดี แต่พลังของลูกรุนแรงจนเอจิสแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เป็นการตบจากพรีสไซที่แขนขวาเพิ่งได้รับบาดเจ็บไปขนาดนั้น หาทราบไม่ว่านั่นไม่ใช่พลังที่มาจากแขน แต่เป็นพลังที่ได้จากการถ่ายเทน้ำหนักร่างกายมากกว่า
ฮิปโปไดร์ฟเมื่อกระทบกับหน้าไม้ของเอจิสก็ลอยสูงโด่งอย่างไม่น่าเชื่อเพราะพลังลูกที่มาก ประกอบกับใช้เวลาน้อยในการตั้งรับจึงต้องปรับหน้าไม้ให้สูงที่สุด เพื่อไม่ให้ลูกนี้กระเด้งออก ขอเพียงลูกนี้ลงโต๊ะเอจิสก็จะชนะ เพราะพรีสไซในตอนนี้ไม่สามารถลุกขึ้นมารับได้อย่างแน่นอน
ลูกปิงปองลอยโด่งกลับไปยังฝั่งพรีสไซอย่างไร้การควบคุม แต่รวดเร็วจนน่าตกใจ ทำเอาทุกผู้คนหยุดหายใจไปช่วงหนึ่ง และทันใดนั้นก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว
“ พะ พรีสไซ อับดุล อินเตอร์เป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนน 21 ต่อ 20 !!! ” เสียงของกรรมการที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองประกาศผลออกมา
“ คงต้องถอนคำพูดแล้วละเรา ” ลมดำที่เคยคิดว่าพรีสไซต้องแพ้อย่างแน่นอน ปรบมือให้พร้อมยอมรับพรีสไซอย่างเต็มหัวใจ
ลูกไม้ตายของเทพเจ้าฮิปโปยังคงศักดิ์สิทธิ์เหมือนเช่นเคย แม้เอจิสจะสามารถตั้งรับได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังตั้งหน้าไม้อย่างดีที่สุดแล้ว แต่พลังของลูกรุนแรงเกินไป ทำให้มันลอยเลยโต๊ะไปสามสี่นิ้ว เป็นอันว่าพรีสไซเป็นฝ่ายชนะไปในรอบนี้
เสียงเชียร์จากฝั่งอับอุลอินเตอร์ดังสนั่นทำเอากองเชียร์ฝ่ายไกเซอร์ด้อมต้องหง๋อยไปตามๆกัน นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนอื่นสามารถเอาชนะไกเซอร์ด้อมได้ แถมโรงเรียนที่ชนะกลับเป็นโรงเรียนที่ไม่เคยมีชื่อด้านปิงปองมาก่อนเลยแม้แต่น้อยด้วย
‘ ปึก ! ’
ไม้ปิงปองของเอจิสหล่นลงกับพื้น มือขวาของเขาสั่นไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่มือของเขาสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่ทราบเป็นเพราะความกลัว ความผิดหวัง หรือว่าความดีใจกันแน่ที่มีคนสามารถสู้กับเขาได้ถึงขนาดนี้
เห็นเอจิสก้มหน้าอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างสมใจ
ขณะที่โซลีน และวากำลังจะวิ่งไปดูอาการของพรีสไซ ก็เห็นเอจิสยกมือห้ามไว้ พร้อมเข้าไปดูอาการของพรีสไซด้วยตัวเองแทน โซลีนเห็นดังนั้นจึงชะงักเท้าไว้
“ พรีสไซเดี๋ยวเราไปช่วยดูให้เอง นายเตรียมแข่งรอบต่อไปเถอะ ” วาบอกโซลีน ไม่ทันสังเกตเห็นหยดน้ำตาหยดเล็กๆที่ตาของโซลีน
“ นั่นสินะ ” โซลีนพยักหน้า เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกลำคอมันตีบตันอย่างบอกไม่ถูก ใช่แล้วเขาจะไม่ทำให้ความพยายามของพรีสไซต้องสูญเปล่า “ ถ้าอย่างนั้นฝากด้วยนะ นายจะไปเฝ้าพรีสไซที่ห้องพยาบาลเลยก็ได้ เพราะการแข่งครั้งนี้ต่อให้คู่แข่งจะเป็นเทพเจ้ามันก็หยุดชั้นไม่ได้หรอก ! ”
วาถึงกับตะลึง เขาไม่เคยเห็นโซลีนดูจริงจังเท่าครั้งนี้มาก่อน ดังนั้นพยักหน้ารับ เดินไปเข้าดูอาการของพรีสไซ
เอจิสที่ประคองพรีสไซขึ้นมากล่าวกับวา
“ เพื่อนนายเก่งมาก ” วาที่ได้เห็นน้ำใจนักกีฬาของเอจิส รู้สึกประทับใจขึ้นมา ภาพการท้าทายเมื่อตอนเช้าที่ทำให้รู้สึกหมั่นไส้หายไปในทันที และเพิ่งเข้าใจว่านั่นเป็นเพียงแค่กลยุทธ์ข่มขวัญ หรือดึงสมาธิเท่านั้น “ แต่ดูเหมือนว่ากระดูกแขนขวาจะเคลื่อนนะ ส่วนหัวคงไม่เป็นไรมาก แค่ได้รับการกระทบกระเทือนเลยหมดสติไปเท่านั้น ”
“ อืม ขอบใจนะ ” วายิ้มรับ แต่ก็ยังอดเป็นห่วงพรีสไซไม่ได้
ทุกคนที่เห็นภาพเอจิสประคองพรีสไซอยู่ก็ปรบมือให้กับความมีน้ำใจนักกีฬา ดังนั้นทั้งห้องตอนนี้เต็มไปด้วยความประทับใจ การเชียร์คู่ต่อไปจึงลดความมีทิฐิของโรงเรียนตนเองลงไปหมด เหลือเพียงแต่การเชียร์เพราะความสนุก และประทับใจเท่านั้น
เอจิสหันไปกล่าวกับกรรมการที่เข้ามาดูอาการ จากนั้นกรรมการโบกมือเรียกหมอมาพาพรีสไซไป
“ ฉายาไร้กลยุทธ์ของชั้นก็ยังไม่พ้นถูกจอมทลายกลยุทธ์พรีสไซทำลายลงจนได้ ” เอจิสกล่าวก่อนจะเดินกลับไปยังฝั่งตน แต่เมื่อได้ยินวากล่าวกลับมาก็ต้องชะงัก จากนั้นเพียงยิ้มรับเท่านั้น
“ กลยุทธ์ที่คู่ต่อสู้รู้ย่อมมิใช่กลยุทธ์ ” วาเพียงเอ่ยอ้างตามหนังสือที่เขาอ่านมา “ อีกอย่างไร้กลุยทธ์ย่อมมิอาจทำลายได้ เพียงแต่มีกลยุทธ์ถึงโดนทำลาย ความจริงนายคงไม่ได้ไร้กลยุทธ์สินะ ”
ได้ยินเช่นนี้เอจิสคล้ายรู้สึกเริ่มสนใจวาขึ้นมาบ้าง ชักอยากลองดูแล้วสิว่า ฉายาปีศาจมันมีที่มายังไงกัน เพียงแต่ตอนนี้เขาคงทำได้แค่กลับไปนั่งพักรอดูมุซาชิแข่งเท่านั้น
กลับมาเห็นมุซาชิยืนตรงใบหน้าขึงขังมองไปยังโซลีน
“ ขอโทษด้วยนะ ” เอจิสยิ้มจือนๆ
มุซาชิเพียงยื่นมือห้ามไม่รับคำขอโทษ “ ไม่จำเป็น นายทำดีที่สุดแล้ว ไปพักซะ บอกทรอนด้วยว่านัดต่อไปอย่าแพ้เจ้าปีศาจนั่นก็พอ ”
จากนั้นก้าวออกไปยังโต๊ะปิงปอง ดึงกระชับผ้าพันหัวที่เป็นรูปดวงอาทิตย์สีแดง มือทั้งสองเตะไม้ปิงปองที่ไขว้ไว้ด้านหลังเอวอยู่ในท่าเตรียมพร้อม
แม้จะทำเป็นนิ่งไม่ใส่ใจ แต่ในใจของมุซาชิพลันบังเกิดความปวดร้าวชนิดหนึ่งขึ้น คงเพราะเอจิสเป็นเพื่อนรักของเขาคนหนึ่ง เมื่อเห็นเพื่อนแพ้จึงอดเกิดความเสียใจแทนไม่ได้ ดังนั้นตัดสินใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นการแข่งครั้งนี้จะเอาจริงอย่างที่สุด คิดใช้สองไม้ตั้งแต่เริ่มเกม เพื่อกู้หน้าเพื่อนและโรงเรียนให้ได้
ด้วยความสามารถของมุซาชิเพียงใช้ไม้เดียวก็นับว่าร้ายกาจสุดหยั่งคาดแล้ว หากพูดถึงฝีมือนับว่าเหนือกว่าเอจิสอยู่ขั้นหนึ่ง หรือถ้าเทียบกับซิลเว่อร์ที่วาแข่งด้วย มุซาชิเพียงใช้ไม้เดียวก็สามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็น ยามนี้มุซาชิตัดสินใจใช้สองไม้ตั้งแต่เริ่มเกมนับว่า โซลีนต้องรับศึกหนักเสียแล้ว
โซลีนเองก็ไม่ใช่ไม่ทราบถึงความร้ายกาจนั้น เคยได้ยินมาว่า มุซาชิยามใช้สองไม้คล้ายกับดาบอัคคีทมิฬรวมร่างกับโล่น้ำแข็งแห่งแสง มีทั้งรุกรับในตัวยากที่จะเอาชัยได้
แต่ความมุ่งมั่นของโซลีนในตอนนี้ใช่ว่าจะน้อยกว่ามุซาชิ ไม่บอกก็รู้ว่าการแข่งครั้งนี้จะดุเดือดกว่าคู่เมื่อสักครู่นี้ถึงเพียงไหน
ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน ไม่มีใครกล่าวคำพูดแม้สักคำเดียว สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องเท่านั้น ห้องแข่งคล้ายกำลังลุกโชนด้วยไฟแห่งการต่อสู้ วาที่เห็นอดกลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้นไม่ได้ เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆยังรู้สึกกดดันถึงขนาดนี้ หากแข่งกันจริงๆเกรงว่าไม่อาจกระพริบตาได้แล้ว
“ การแข่งคู่ที่สองระหว่างโซลีน ทีมแพทริออต โรงเรียนอับดุลอินเตอร์ และมุซาชิ ทีมโรงเรียนไกซเอร์ด้อม เมื่อพร้อมแล้วเริ่มได้ ! ” เสียงกรรมการประกาศเริ่มการแข่งอันแสนดุเดือด
ครั้งนี้มุซาชิเป็นฝ่ายได้เสิร์ฟก่อน ไม่ทันที่วาจะนึกออกว่าจะเสิร์ฟลูกขณะถือไม้ไว้สองมืออย่างไร ลูกปิงปองก็ถูกไม้ทั้งสองข้างหนีบไว้ พร้อมโยนขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว และรวบรัดที่สุด
“ รับมือ ! ” มุซาชิกล่าวอย่างรวบรัด ตวัดไม้ปิงปองในมือขวาออกอย่างรวดเร็ว พริบตานั้นลูกเสิร์ฟความเร็วสูงพุ่งใส่โซลีน เสียงเฮจากฝั่งไกเซอร์ด้อมก็ดังขึ้นมา
แต่โซลีนก็หาแสดงตัวว่าเป็นรองมุซาชิไม่ ตวัดไม้ปิงปองสวนกลับไปรวบรัดที่สุดเช่นกัน
ทั้งสองโต้กันไปมาอย่างดุเดือด เพียงลูกแรกก็โต้หักล้างกันอยู่หลายลูก ทำเอาคนดูลายตาไปตามๆกัน
“ สมแล้วที่เป็นประธานชมรมที่วาเคยแพ้มา ร้ายกาจจริงๆ ” มิวอ้าปากค้าง พิชากิที่เห็นก็คำรามออกมา การแข่งคู่นี้ดุเดือดกว่าคู่ที่แล้วมากนัก เพราะเป็นการหักล้างกันด้วยฝีมือล้วนๆ
โซลีนที่เห็นช่องโหว่ของมุซาชิก็ไม่รอช้าตวัดไม้ตบออกด้วยลูกไม้ตายปิดบัญชีลูกแรกไปได้อย่างสวยงาม
‘ Underground !
ลูกไม้ตายที่เมื่อใช้ออกมาเมื่อไหร่ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถต้านรับได้ พลานุภาพร้ายกาจถึงเพียงไหนวาล้วนทราบดี
ลูกปิงปองพุ่งเลียดพื้นไปโดยไม่เด้งขึ้น ทำเอาคนที่ไม่เคยเห็นลูกแบบนี้มาก่อนต่างพาอุทานด้วยความตื่นตระหนกไปตามๆกัน
“ ร้ายกาจจริงๆ ” วิสด้อมที่ดูอยู่อดทึ่งในลูกตบของโซลีนไม่ได้ คิง สตั้นก็เช่นกัน หลังจากดูการแข่งของทั้งฝั่งวา และฝั่งพวกเอจิสแล้ว วิสด้อมก็รู้แล้วว่า คู่แข่งของเขาไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ไม่อาจเอาชนะได้โดยง่ายแล้ว
วาถึงกับเหงื่อตกเมื่อเห็นโซลีนเอาจริงขึ้นมา ไม่อยากจะเชื่อว่าโซลีนถึงกับต้องงัดลูกไม้ตายมาใช้ตั้งแต่ลูกแรกแสดงว่าคู่ต่อสู้ต้องร้ายกาจมากจริงๆ
ทางด้านมุซาชิเพียงยืนนิ่งไม่แสดงท่าทีประหลาดใจ หรือตกใจออกไปแม้แต่น้อย
จากนั้นเห็นทั้งคู่โต้กันอย่างถึงพริกถึงขิง หากโซลีนมีช่วงโหว่เพียงเล็กน้อย มุซาชิก็ไม่พลาดโอกาสตบลูกเอาแต้มไปได้อย่างหมดจดเช่นกัน การรุกและรับของโซลีนในตอนนี้สำหรับวาแล้วแทบจะเรียกได้ว่าเกือบไร้ช่องโหว่ และด้วยฝีมือของมุซาชิที่เกือบจะไร้ช่องโหว่เช่นกันทำให้ไม่ว่าใครก็ตามหากพลาดขึ้นมาเพียงนิดเดียวก็จะต้องเสียแต้มไปในทันที
ทางด้านโซลีนใช้ทั้งลูกตบ ลูกท๊อปสปิน และลูกตัดออกไปอย่างไม่กลัวเหนื่อย เพื่อจะทลายกำแพงของมุซาชิให้ได้ แต่ละลูกที่ใช้ออกก็ล้วนเฉียบคมไร้ที่ติ แต่ไม่ว่าจะตีอย่างไรกำแพงของมุซาก็ยากที่จะทำลายลงได้โดยง่าย เพราะถึงจะตบโยกไปด้านซ้ายไม้ปิงปองในมือซ้ายของมุซาชิก็สามารถตั้งรับได้ทัน หรือหากโยกไปด้านขวาไม้ปิงปองในมือขวาของมุซาชิก็สามารถตบกลับไปมา บวกกับความเร็วและฝีมือของมุซาชิแล้วทำให้มุซาชิแทบจะไม่พลาดท่าเลย นอกจากตอนที่โซลีนใช้ลูกไม้ตายตีเข้าที่จุดอ่อนเท่านั้น
หากเป็นเช่นนี้ในระยะยาวโซลีนอาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะแม้จะเป็นฝ่ายรุกมากกว่า แต่ทุกครั้งที่ถูกมุซาชิโต้กลับมาก็ยากที่จะต้านทานได้ อีกอย่างมุซาชิใช้สองไม้ได้ราวกับเป็นแขนขาของตนเองพลังการรุกรับจึงร้ายกาจอย่างยิ่ง
ในตอนนี้วายอมรับคำพูดของพรีสไซแล้ว เพราะหากเปลี่ยนเป็นเขายังไม่มีความมั่นใจจะเอาแต้มจากมุซาชิได้เลย คนๆนี้คล้ายเทพเจ้าแห่งการเล่นปิงปองสองไม้จริงๆ ดังนั้นวาได้แต่จับจ้องอยู่ที่การแข่งขัน จนลืมสังเกตแม้แต่วิธีตีสองไม้ของมุซาชิว่าทำได้อย่างไร
‘ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนตั้งรับมุซาชิได้ถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่าโรงเรียนอับดุลจะไม่ธรรมดาจริงๆ ที่ผ่านมาที่ไม่มาลงแข่งคงเพราะฝึกฝีมือซุ่มไว้แน่ๆ ’ ทางด้านเอจิสก็ใช่ว่าจะไม่ตกใจในฝีมือของโซลีน เพราะตั้งแต่แข่งมามุซาชิเพียงใช้ไม้เดียวก็เอาชัยคู่ต่อสู้ได้แล้ว ยามนี้ใช้สองไม้เข้าสู้ตั้งแต่เริ่มเกม โซลีนยังต้านรับหักล้างกันได้ถึงขนาดนี้ ต้องยอมรับในฝีมือของโซลีนแล้ว เมื่อเห็นเช่นนี้ขนาดเอจิสยังมองไม่ออกว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
ทางด้านโซลีนที่พกความมุ่งมั่นมาเต็มร้อย เมื่อเผชิญคู่ต่อสู้เช่นมุซาชิแม้จะกล่าวกับวาไว้เช่นนั้น แต่ก็อดยอมรับในฝีมือของมุซาชิไม่ได้
มุซาชิตอนแรกความจริงคิดจัดการโซลีนอย่างรวบรัดที่สุด จึงคิดใช้สองไม้หักหน้าโซลีนให้พ่ายแพ้ศิโรราบแต่โดยไว มิคาดโซลีนกลับมีฝีมือถึงเพียงนี้เป็นที่ตื่นตระหนกแก่ตนเอง แต่ก็อดยอมรับในฝีมือของโซลีนไม่ได้ ดังนั้นทั้งคู่แม้จะสู้กันอย่างสุดความสามารถแต่ในใจกลับรู้สึกนับถือในฝีมือของกันและกัน
ทั้งคู่ผลัดกันรุกรับอย่างรวดเร็ว โจมตียังช่องโหว่ของแต่ละฝ่ายอย่างเฉียบคมที่สุด หากอีกฝ่ายได้คะแนนไปหนึ่งถึงสองแต้มอีกฝ่ายก็จะตีตื้นตามกันมาติดๆ เรียกได้ว่ากินกันไม่ลง สู้กันแบบแต้มต่อ จนในที่สุดผลคะแนนที่ออกมาตอนนี้ก็คือ
‘ 13 12 ไกเซอร์ด้อมได้แต้ม !! ’
‘ แฮ่กๆ ตั้งแต่เล่นมาเจ้านี่สู้ได้สูสีกับเรามากที่สุด ขนาดเราเอาจริงแบบสุดๆแล้ว ยังเอาชนะมันไม่ขาด ’
มุซาชิหอบหายใจกัดฟันกรอด หนีบลูกปิงปองไว้กับไม้ทั้งสองข้างจับจ้องยังโซลีนซึ่งกำลังหอบหายใจอยู่เช่นกัน
‘ ข่าวลือเรื่องลูกไม้ตายที่ไม่มีใครเคยรับได้มันดันเป็นเรื่องจริงเสียด้วย สงสัยหลังแข่งจบต้องขอบใจแหล่งข่าวของเจ้าเอจิสสักหน่อยแล้ว แต่ว่าในเมื่อเพื่อนของนายสามารถทำลายฉายาไร้กลยุทธ์ของเพื่อนชั้นได้ มีหรือที่ชั้นจะทำลายลูกไม้ตายที่ไม่มีวันรับได้ของนายไม่ได้ ! ’
ว่าแล้วมุซาชิก็สูดหายใจเข้าจากนั้นหมุนลูกปิงปองด้วยไม้ทั้งสองก่อนจะโยนขึ้น จากนั้นตัดลูกปิงปองตอนเสิร์ฟอีกทีหนึ่ง
นี่เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มแรงหมุนของลูกปิงปองเป็นสองเท่า !
“ เมื่ออยู่ต่อหน้าแสงอาทิตย์ ก็จงหลับตาของเจ้าลงซะ ! ”
‘ Spinner Sun !!! ’
ลูกเสิร์ฟที่หมุนคว้างพุ่งข้ามไปยังฝั่งโซลีนอย่างน่ากลัว พลังการหมุนของลูกไม่ได้ด้อยไปกว่าลูกไม้ตายอย่าง ‘Black hole ’ ของคิงสตั้นเลยแม้แต่น้อย
แต่โซลีนก็คือโซลีนหาได้หวาดหวั่นไม่ แม้วิถีการหมุนของลูกจะลอยคว้างอย่างน่ากลัว แต่เขาก็ง้างไม้จากนั้นตวัดใช้ออกด้วยลูกไม้ตายในทันที
‘ Underground !!! ’
ลูกตัดที่ผสานพลังสปินประกอบกับการปรับหน้าไม้ให้ได้มุมอย่างที่สุด พุ่งสวนลูกเสิร์ฟของมุซาชิกลับไปได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่ว่าใครก็ทราบดีว่า หากโซลีนใช้ลูกไม้ตายออกเมื่อไหร่ก็ต้องได้แต้มอย่างแน่นอน เพราะลูกปิงปองไม่มีวันเด้งขึ้นมาจากพื้นโต๊ะอีก แต่ทว่าครั้งนี้มุซาชิจับจ้องลูกปิงปองด้วยจิตตั้งมั่น พริบตานั้นจู่ๆไม้ในมือซ้ายก็ตวัดวูบขึ้น
การตวัดไม้ครั้งนี้เหนือความคาดหมายของผู้คนมาก เพราะมันไม่ใช่การตวัดไม้เพื่อตีลูกแต่อย่างใด แต่มันเป็นการตวัดเพื่อให้เกิดลมพัดใส่ลูกปิงปองเท่านั้น !
และทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วาต้องตะลึงเมื่อลูกไม้ตายไร้เทียมทานที่ไม่มีทางเด้งขึ้น จู่ๆก็เกิดลอยขึ้นมา หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ลูกไม้ตายของโซลีนนั้นปกติแม้จะเลียดพื้นตลอดแต่อย่างไรลูกปิงปองก็ยังคงเป็นลูกปิงปองย่อมต้องเด้งขึ้น เพียงแต่ว่าเป็นการเด้งขึ้นเพียงน้อยนิดเท่านั้นเพราะใช้พลังในการสปินผสานกับลูกตัดกดลูกให้เลียดถึงที่สุด
มุซาชิที่เพิ่งเข้าใจถึงหลักการนี้ จึงทดลองดูโดยการใช้ไม้ในมือซ้ายตวัดใส่ด้านข้างของลูกปิงปอง คนอื่นที่เห็นอดตื่นตระหนกไม่ได้คิดว่ามุซาชิมีพลังข้อมือสูงจึงทำให้ลูกปิงปองลอยขึ้นมาได้ แท้จริงแล้ว ลูกอันเดอร์กลาวเป็นลูกสปินความแรงสูงอยู่แล้ว เมื่อโดนพัดเพียงเล็กน้อยก็สามารถลอยขึ้นได้
“ เฮอะ ” มุซาชิเค้นหัวเราะ จากนั้นใช้ไม้ในมือขวาตวัดตบใส่โซลีนที่กำลังเปิดช่องโหว่อยู่ เพราะหลังจากใช้ลูกไม้ตาย ร่างจะชะงักไปพักหนึ่ง อีกทั้งยังไม่เคยมีใครรับลูกไม้ตายของเขาได้เลย จึงไม่ทันระวังตัว
‘ 14 12 ไกเซอร์ด้อม !’
เสียงโห่ร้องดังลั่นเมื่อคนดูได้เห็นภาพการรับลูกไม้ตายอันแสนร้ายกาจได้อย่างรวบรัดหมดจดของมุซาชิ เอจิสที่นั่งดูอยู่ถึงกับพยักหน้ายิ้มเป็นการใหญ่
มุซาชิได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงพลังของความเป็นราชาอย่างไกเซอร์ด้อมอีกครั้งหนึ่ง
‘ ต้องขอบคุณการวิเคราะห์ของนายจริงๆ ’ มุซาชิหันไปยิ้มให้กับเอจิสเป็นครั้งแรกหลังจากเริ่มแข่ง ที่แท้ก่อนแข่งเอจิสเคยกล่าวเตือนมุซาชิเรื่องลูกไม้ตายของโซลีน แต่มุซาชิเป็นคนดื้อหากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเองย่อมไม่ยอมเชื่อ แต่เอจิสที่รู้ใจเพื่อนก็ได้ลองบอกทฤษฎีของลูกพร้อมวิธีรับมือที่คิดได้ให้มุซาชิฟังเผื่อถึงเวลาจริงจะได้สามารถรับมือได้
ในตอนนี้หากพรีสไซไม่ได้ถูกพาไปห้องพยาบาลก่อนคงจะต้องอุทานออกมาว่า ‘ ผิดท่า ’ แล้วอย่างแน่นอน
โซลีนในตอนนี้รู้สึกทึ่ง แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเพราะทราบดีว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่แก้ไม่ได้ เพียงแต่วิธีที่มุซาชิใช้รับลูกเขานั้นออกจะอยู่เหนือความคาดหมายของผู้คนไปหน่อย
วาใจนึงแม้จะดีใจที่ได้เจอคนที่หาวิธีทำลายลูกอาถรรพ์ของโซลีนได้ แต่อีกใจนึงกลับรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เพราะหากมุซาชิสามารรถจัดการกับลูกไม้ตายของโซลีนได้นั่นก็เท่ากับว่าเป็นการปิดประตูที่จะเอาแต้มจากมุซาชิได้อีก เพราะมีเพียงแต่ต้องใช้ลูกอันเดอร์กลาวของโซลีนเท่านั้นจึงจะสามารถทำลายการรุกรับอันสมบรูณ์แบบของมุซาชิได้ เพียงคิดถึงตรงนี้ร่างกายก็ต้องรู้สึกหนาววาบขึ้นมา ไม่ทราบว่าโซลีนในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
แต่เห็นโซลีนยังยืนนิ่งคล้ายไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก ก็ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย
‘ ใช่แล้วการแข่งมันยังไม่จบสักหน่อย ’
โซลีนเพียงเค้นหัวเราะ หากเปรียบความสามารถในการวิเคราะห์แล้วพรีสไซอาจเหนือกว่าเขา เผลอๆในตอนนี้อาจจะคิดหาวิธีแก้ไขการตั้งรับของมุซาชิออกแล้ว แต่หากพูดถึงความหนักแน่นแล้ว โซลีนเหนือกว่าพรีสไซ ดังนั้นแม้จะหาทางรับมือมุซาชิในตอนนี้ไม่ได้ แต่โซลีนก็หาได้หวาดหวั่นไม่
หลังจากนั้นไม่ว่าโซลีนจะพยายามตีใส่มุซาชิเพียงไรก็ไม่สามารถเอาแต้มมุซาชิได้อีกเลย เพราะทุกครั้งที่ใช้ลูกอันเดอร์กลาวมุซาชิก็จะตวัดไม้ให้ลูกปิงปองลอยขึ้นจากนั้นก็ตวัดไม้ตบกลับไปได้ทุกครั้ง จริงอยู่ที่โซลีนก็ไม่ได้มีฝีมือด้อยไปกว่ามุซาชิแต่เมื่อลูกไม้ตายซึ่งเป็นความหวังเดียวในการทำแต้มใช้ไม่ได้ผล ก็เปรียบกับยืนอยู่หน้ากำแพงเหล็กที่ไม่สามารถทลายลงไปได้ นอกจากนี้พลังในการตบลูก และรุกของมุซาชิก็หาได้ด้อยกว่าวิสด้อมไม่ ข่าวที่ได้ยินมาจากพรีสไซที่ว่า มุซาชิคล้ายคนที่รวมพลังของดาบอัคคีทมิฬ และโล่น้ำแข็งแห่งแสงไว้ในมือทั้งสองข้างนั้นหาได้แปลกปลอมไม่
ครั้งนี้นับว่าโซลีนรู้สึกจนตรอกที่สุดแล้ว ยิ่งเล่นยิ่งเริ่มถูกทิ้งห่าง แต่ถึงกระนั้นโซลีนก็ยังรักษาความเยือกเย็นไว้ และเล่นอย่างเต็มที่ในทุกลูก
“ 18 12 ไกเซอร์ด้อม ! ”
‘ ไกเซอร์ด้อม ไกเซอร์ด้อม ไกเซอร์ด้อม ! ’
เสียงเชียร์ราชาดังเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง โซลีนแม้จะฝึกมาอย่างหนักแต่การใช้ลูกอันเดอร์กลาว ประกอบกับการพยายามตบอย่างสุดความสามารถใช้เรี่ยวแรงมาก อดหอบหายใจไม่ได้ ทางด้านมุซาชิก็ใช่ว่าจะไม่เหน็ดเหนื่อยเลย การรับลูกอันเดอร์กลาวของโซลีนแม้จะดูง่ายดาย แต่ความจริงน่าหวาดเสียวยิ่ง หากพลาดไปเพียงนิดเดียวไม้ตวัดโดนลูกก่อนที่ลูกจะลอยขึ้นก็ต้องเสียแต้มไป ดังนั้นต้องใช้พลังข้อมือที่มั่นคงในการตวัดไม้ ประกอบกับพลังสมาธิอย่างสูง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นนอกจากมุซาชิคาดว่าไม่สามารถทำได้
‘ ทางที่เราสามารถเอาชนะไกเซอร์ด้อมได้มีเพียงทางเดียวเท่านั้นคือ นายกับชั้นต้องเอาชนะ เอจิสและมุซาชิให้ได้สองรอบติด เพราะทรอนไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่วาจะเอาชนะได้ ไม่สิ ไม่ใช่แค่วาแม้กระทั่งนายก็ไม่สามารถ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของนายกับชั้นก็คือ กันไม่ให้วาต้องแข่งกับทรอนให้ได้ ’ คำพูดของพรีสไซตอนที่ซ้อมปิงปองกันสองคนเมื่อคืนดังก้องขึ้นมา
“ อับดุล อินเตอร์เป็นฝ่ายเสิร์ฟ ! ”
โซลีนหลับตาลงเริ่มรู้สึกท้อใจขึ้นมา นี่เขาจะไม่สามารถกันวาไม่ให้ต้องไปเจอกับทรอนได้จริงๆหรือ ?
ความจริงเจอคู่ต่อสู้เช่นมุซาชิสามารถหักล้างกันได้ถึงขนาดนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว แต่นึกถึงความพยายามของพรีสไซต้องสูญเปล่ากลับรู้สึกเสียใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ อย่าเพิ่งถอดใจกันสิ ขนาดรุ่นพี่พรีสไซยังเอาชนะเอจิสได้เลย รุ่นพี่โซลีนต้องสู้อย่างสุดความสามารถแน่ มาช่วยกันเชียร์ประธานชมรมของพวกเรากันดีกว่า ” ระรินหันไปกล่าวปลุกใจสมาชิกชมรม แต่ในใจรู้ดีว่าคู่ต่อสู้ครั้งนี้หินมาก ถึงกับไม่กล้าเอ่ยคำว่า รุ่นพี่โซลีนต้องชนะแน่ออกมา
‘ แฮ่กๆ ’ มุซาชิหอบหายใจเล็กน้อย
ขณะที่โซลีนกำลังจะเสิร์ฟนั่นเอง เสียงบอกขอเวลานอกจากเอจิสก็ดังขึ้น
โซลีนจึงต้องเดินกลับไปยังฝั่งตัวเองก่อน เขาพยายามทำสีหน้าให้สงบนิ่ง เพื่อไม่ให้สมาชิกชมรมหรือแม้แต่วาสังเกตเห็น แต่เหงื่อที่ไหลด้วยความเหนื่อยนั้นไม่สามารถปิดบังได้จริงๆ
“ ขอเวลานอกทำไมกัน ” มุซาชิถามเอจิสทั้งๆที่ในใจรู้ดี เอจิสเห็นมุซาชิใช้เรี่ยวแรงไปมากกับการตั้งรับลูกไม้ตายของโซลีนไหนเลยต้องสู้กันด้วยฝีมือที่มีทั้งหมดอีก ดังนั้นไม่อาจปล่อยให้มุซาชิเหนื่อยได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีสมาธิเหลือพอจะตั้งรับลูกอันเดอร์กลาวได้ นอกจากนี้เอจิสยังรู้ถึงจุดอ่อนของการใช้ไม้ปิงปองสองไม้ของมุซาชิเป็นอย่างดี การขอเวลานอกครั้งนี้จึงนับว่าได้จังหวะอย่างที่สุด
แต่ทว่าน่าเสียดายที่เอจิสไม่ได้มองไปยังฝั่งวาเลย เพราะหากมองไปยังฝั่งวาตอนนี้แล้วละก็จะพบกับรอยยิ้มอันน่าสะพรึงกลัวรอยหนึ่งของเจ้าปีศาจน้อย
โซลีนดื่มน้ำไปนิดนึงพอให้กระชุ่มกระชวยขึ้นมา จากนั้นกวาดหน้ามองสมาชิกชมรมที่นั่งเชียร์อยู่ด้านข้างปั้นรอยยิ้มแห่งความหวังเล็กๆขึ้น ก่อนที่จะหยุดสายตาลงที่คนๆหนึ่ง ซึ่งยิ้มอย่างออกหน้าออกตาผิดกับสมาชิกคนอื่นที่สีหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“ ฮ่าๆ แข่งได้เร้าใจจริงๆ ” คนที่พูดถึงไม่ใช่ใคร แต่เป็นวานั่นเอง ในสถานการณ์เช่นนี้วายังหัวเราะออกมาได้นับว่าประหลาดมาก โซลีนถึงกับคิดว่า วาสิ้นหวังจนเสียสติแล้ว ถึงกับพูดปลอบโยนวาขึ้น
“ ไม่ต้องห่วงน่า ชั้นไม่แพ้ง่ายๆหรอก ” แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่นี่เป็นครั้งแรกที่โซลีนรู้สึกไม่มั่นใจถึงขนาดนี้
“ จริงๆ ก็เริ่มรู้สึกกลัวคนชื่อ ทรอนขึ้นมาแล้วนะ เพราะฟังจากที่นายสองคนพูดแล้วเห็นจะเป็นเรื่องจริง ” ปากกล่าว แต่สีหน้ายังคงยิ้มอยู่ “ ว่าแต่ขอถามหน่อยว่า นายมีแรงเหลือพอที่จะเล่นต่ออีกสักครึ่งชั่วโมงไหม ? ”
โซลีนถึงกับงุนงงที่วาจู่ๆ ก็ถามคำถามแปลกๆ
“ นายจะไปเข้าห้องน้ำก็รีบไปเข้าสิ ” โซลีนขมวดคิ้ว ทำท่าจะเดินกลับไปแข่งต่อ
“ เฮ้ ไม่ต้องรีบ ตอบคำถามเรามาก่อน ” วาสีหน้าเอาจริง
“ ก็พอไหว ” การเล่นอย่างจริงจังเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงกลับเป็นเวลาไม่น้อย แต่ด้วยความพยายามฝึกฝนของโซลีนทำให้ร่างกายสามารถเล่นได้นานกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง
ได้ยินเช่นนี้วาก็ยิ้มขึ้น
“ งั้นก็ดี เห็นหมอนั่นรับลูกไม้ตายของนายได้ก่อนเราแล้วก็อดหมั่นไส้ขึ้นมาไม่ได้ อีกอย่างนายเป็นคนที่เอาชนะเราได้ เราไม่ยอมให้นายแพ้เจ้านั่นง่ายๆหรอก ”
คิ้วของโซลีนขมวดเข้าหากัน หวังเพียงแค่วาคงไม่ได้มากล่าวอะไรล้อเล่นในเวลาแบบนี้
“ เรารู้วิธีจัดการกับเจ้าหมอนั่นแล้ว เอียงหูมาสิ ” วายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ราวกับปีศาจ โซลีนถึงกับไม่เชื่อหูตัวเอง ยังมีทางที่จะเอาชนะเทพเจ้าอย่างมุซาชิได้อีกงั้นรึ หรือว่าวาเกิดเสียสติขึ้นมาจริงๆ ต่อให้พรีสไซนั่งอยู่ยังไม่แน่ว่าจะคิดวิธีเอาชนะคนอย่างมุซาชิได้เลย
แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ได้แต่ต้องเอียงหูไปรับฟังคำแนะนำของวาแล้ว
เจ้าปีศาจเอ๋ย ขอรับทราบวิธีโค่นเทพเจ้าของเจ้าหน่อยเถอะ !
____________________________________________
ความคิดเห็น