คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : บทเรียนที่ 83 ความลับของราชาฟักทอง
บทเรียนที่ 83 ความลับของราชาฟักทอง
ประเมินจากสถานการณ์ตอนนี้หากถูกพวกผีดิบทั้งหมดสามสิบตัวกรูเข้ามาโจมตีกันในคราเดียว ต่อให้จะเก่งแค่ไหนแต่ก็คงไม่อาจรอดไปทั้งหมดได้แน่ แต่ต่อให้รู้อย่างนั้นพวกผีดิบก็ได้เริ่มกรูกันเข้ามาแล้ว
จากการวิเคราะห์เบื้องต้นช่องทางเข้ามาป้อมชั้นในนั้นมีด้วยกันห้าทาง บริเวณด้านหน้าสามทาง ซ้าย ขวา และกลาง กับทางด้านหลัง ซ้าย และขวา ช่องทางที่สำคัญที่สุดคือ บริเวณด้านหน้า ส่วนด้านหลังนั้นเท่าที่มองดูยังไม่มีวี่แววของผีดิบโผล่มา แต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะซอนมีเป็นคนที่ทำให้ทุกคนรู้ว่า ยังมีผีดิบบางตัวที่ลักลอบเข้ามาจากช่องด้านหลัง
ถ้านับจากจำนวนคนที่เหลืออยู่ตอนนี้มีด้วยกันทั้งสิ้นหกคน ถ้าให้ทุกคนคอยคุมทุกช่องทางก็จะเหลือคนที่เป็นตัวฟรีสามารถสิ่งช่วยเหลือคนอื่นๆในทีมได้อยู่ ปัญหาคือคนๆนั้นจะเป็นใครดี วาพยายามคิดให้ได้เร็วที่สุด
‘ ต้องเป็นคนที่สามารถอ่านทางได้ว่า ทางไหนกำลังลำบาก แต่รีบเข้าไปอุดช่องว่างได้เร็วที่สุด นอกจากนั้นยังอาจต้องคอยช่วยเพิ่มพลังให้เพื่อนในกรณีที่ถูกโจมตีจากระยะประชิด ’
กองทัพผีดิบเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกที ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นเสียงเต็มเปี่ยมด้วยพลังของโซเฟียก็ดังขึ้น
“ ทุกคนกระจายกำลังเฝ้าตามแต่ละช่อง มิวกับวีวี่คอยดูบริเวณช่องด้านหลังซ้ายกับขวา แต่ถ้าไม่มีวีวี่ของผีดิบให้มาช่วยหนุนที่กองหน้า วาดูแลช่องขวาและคริสตัล ซอนมีช่วยดูแลช่องทางซ้าย ” โซเฟียหยุดครู่หนึ่งเหมือนหันไปถึงมิสเตอร์พัมพ์กิ้น “ ส่วนมิสเตอร์พัมพ์กิ้นดูที่ช่องด้านกลาง แล้วเราจะเป็นคนคอยวิ่งประสานในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินกับแต่ละทางเอง ”
การวิเคราะห์ของโซเฟียเด็ดขาดและเหมาะสม สมกับที่อยู่ชมรมอัศวินจริงๆ นี่คงเป็นหนึ่งในความสามารถในการ ‘ประเมินสถานการณ์’ ที่นำออกมาใช้จริง ราวกับแม่ทัพที่กำลังควบคุมกองทัพอยู่ การกำหนดตำแหน่งและหน้าที่ล้วนชัดเจนและเข้ากับความสามารถของแต่ละคน
“ โอเค ” ทุกคนพยักหน้ารับคำสั่ง
“ พวกที่อยู่กองหน้าพยายามอยู่ห่างกันไว้ หากมีการโจมตีเกิดขึ้นจะได้มีช่องว่างให้หลบได้ทัน พยายามออกไปตั้งรับให้ไกลที่สุดจากบริเวณคริสตัล ถึงเวลาค่อยถอยร่นเข้ามา ” โซเฟียเสริม
พวกกองหน้าได้แก่ วา ซอนมี และมิสเตอร์พัมพ์กิ้นเริ่มเดินทัพออกไปตั้งรับ
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นดูเป็นห่วงซอนมีอยู่พอสมควร โซเฟียที่เห็นดังนั้นจึงกระซิบบอก
“ ไม่ต้องห่วงเราจะช่วยดูแลให้เองนะเบต้า ”
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นสะดุ้ง แล้วป้องปากที่ปิดเย็บชวนสยองตอบ
“ เธอรู้ได้ยังไงกัน แต่เอาเถอะห้ามบอกใครนะ ”
โซเฟียไม่ตอบ เพียงขยิบตาให้
มิวและวีวี่ดูจริงจังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่ บางครั้งในบางสถานการณ์เราก็ต้องการให้ใครสักคนมองเห็นความสามารถ และมอบหน้าที่อันเหมาะสมให้เหมือนกัน
“ พร้อมไหม แต่ถ้าไม่ไหวจะมาหลบที่แผ่นหลังลูกผู้ชายของเราก็ได้นะ ” มิวเอานิ้วจิ้มอก ในเวลาแบบนี้ยังมีกะใจเล่น
“ ยอมไปซบพวกผีดิบยังจะดีเสียกว่า ” วีวี่แยกเขี้ยว แล้วเดินไปประจำตำแหน่งทิ้งมิวให้หงายค้าง สายลมพัดผ่านลูกผู้ชายไปอย่างเงียบๆ
วาวิ่งอย่างกระฉับกระเฉงแล้วเล็งปืนยิงใส่เจ้าผีดิบตัวแรกด้วยความระมัดระวังไม่ให้พลาดเป้า อากาศหนาวทำให้มือของเขาเย็นจนอาจเกิดการสั่นได้ จึงใช้มืออีกข้างช่วยเล็ง ซึ่งก็ได้ผลเจ้าผีดิบผู้โชคร้ายตัวแรกที่โผล่เข้ามาล้มลงไปนอน
ส่วนมิสเตอร์พัมพ์กิ้นใช้มือเพียงข้างเดียวยกขึ้นเล็ง แขนซ้ายเอียงทิ้งน้ำหนักไปอีกข้างขาซ้ายยันพื้นดูไม่คล้ายท่าเล็งยิงที่ได้ผลนัก แต่กลับยิงถูกเป้าได้อย่างประหลาด จนมิวที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านหลังอดชื่นชมไม่ได้ ทางด้านซอนมีเผลอตัวไปมองมิสเตอร์พัมพ์กิ้นแว่บหนึ่งก็เกิดหน้าแดง จนเสียงผีดิบที่เบื้องหน้าสี่ห้าตัวปลุกให้ตื่นจากภวังค์
‘ ปิ้วๆๆ ! ’
โซเฟียเข้ามาช่วยซอนมีกำจัดผีดิบสี่ตัวที่พุ่งเข้ามา แม้ฝีมือยิงปืนจะไม่เฉียบขาดเท่า แต่โซเฟียก็ช่วยชะลอการโจมตีของพวกมันได้บ้าง
“ เธอจะไปช่วยเขาอีกแรงก็ได้นะ ด้านหลังเราดูคนเดียวได้ ” มิวป้องปากตะโกนบอกวีวี่เมื่อเห็นว่า กองหน้าเริ่มถูกบุกหนักขึ้น
“ ก็ได้ อย่าเกมโอเวอร์ก่อนก็แล้วกัน ” วีวี่บอกแล้วตรงไปช่วยตรงมิสเตอร์พัมพ์กิ้นที่แม้จะยิงได้แม่นแต่ยังขาดเรื่องความเร็ว แถมดูแล้วยังเดินอืดๆชอบกล
วารู้สึกเลือดลมสูบฉีดอย่างบอกไม่ถูก อากาศหนาวทำให้หายใจได้ไม่ถนัด ยิ่งเวลาที่ต้องเอี่ยวตัวหลบไปมา เพราะผีดิบเริ่มเข้ามาประชิดตัวเขาทุกที ซึ่งถ้าดูจากจุดที่ต้องป้องกันแล้วตำแหน่งของเขาสำคัญรองลงมาจากมิสเตอร์พัมพ์กิ้นที่อยู่ตรงกลาง แต่จำนวนผีดิบทำไมมันกลับมาเยอะกว่าก็ไม่รู้
วากัดฟันไม่เรียกให้คนอื่นมาช่วย เพราะประเมินดูแล้วเขายังพอต้านทานและหลบหลีกพวกมันไหว ดูเหมือนจะเริ่มจับจังหวะในการเข้ามาโจมตีของพวกมันได้บ้างแล้ว
“ สังเกตพวกผีดิบให้ดีๆ ถ้ามันตั้งใจจะเข้ามากัด มันจะเอื้อมมือทั้งสอง และโผเข้ามา แต่ถ้ามันจะใช้มือตะปบก็จะง้างแขนก่อน ” วาตะโกนบอกทุกคน แต่เจ้าผีดิบสี่ตัวที่ด้านหน้าจู่ๆก็วิ่งรี่มาเข้าใส่เขา “ แต่ถ้ามันรี่เข้ามาแบบนี้ก็วิ่งก่อนนะ ”
ว่าแล้วเขาก็วิ่งถอยร่นลงมา โซเฟียเห็นสถานการณ์ทางด้านวาไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงบอกวีวี่ที่ช่วยมิสเตอร์พัมพ์กิ้นอยู่ให้มาช่วยทางด้านซอนมีไปก่อน และวิ่งเข้าไปช่วยเหลือวา
มิวที่ทำตัวเหมือนยาม พอเห็นทางด้านหลังไม่มีวี่แววของพวกผีดิบก็ตัดสินใจจะไปช่วยทางด้านหน้า ทว่าทันใดก็ได้ยินเสียงครวญของผีดิบดังขึ้นหลายตัว ต้องสะดุ้งหันกลับไป แต่ก็ถูกพวกมันเข้ามาประชิดตัวได้เสียแล้ว
มิวพยายามขัดขืน แต่ร่างถูกพวกผีดิบยืดจับไว้ได้ พอจะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือก็ถูกปิดปากราวกับรู้ทัน ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไอ้พวกนี้มันจกใจแกล้งกันชัดๆ
จากนั้นพวกผีดิบระดมกันกัดใส่ร่างของมิว จนเจ้าตัวน้ำตาไหล ไม่ทราบว่าด้วยความกลัวหรือว่าจั๊กจี้กันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหากใครได้มาอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบเขาคงจะทำสีหน้าไม่ต่างกันนัก
ก่อนที่พลังชีวิตของมิวจะเหลือศูนย์ วีวี่ที่ไม่ทราบโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยิงใส่ผีดิบสี่ตัวที่รุมทึ้งมิวอยู่ให้ปล่อยมือ
‘ ปิ้วๆ ! ’
มิวพอหลุดจากการจับกุมก็สาดกระสุนใส่ไม่ยั้งด้วยความเจ็บช้ำ โดยไม่สนว่าจะเหลือกระสุนหรือไม่
‘ แฮ่กๆ ’
“ เผลอเดี๋ยวเดียวก็สภาพดูไม่ได้ละนะ รีบฉีดยาเร็วเข้า ” วีวี่แซว แต่สีหน้าร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด รีบสั่งให้มิวรักษาตัวเอง
มิวยังไม่หายจากความตกใจก็ต้องตกใจอีกครั้ง เหมือนถูกปลุกในชั่วโมงอาจารย์พิชายะ รีบคลำหาเข็มฉีดยาอย่างรวดเร็ว เพราะพลังชีวิตเหลือเพียงแค่สิบหน่วยเท่านั้น แถมมันยังค่อยๆลดลงแบบนับถอยหลังเพราะถูกเชื้อจากพวกผีดิบอีก
‘ ปี๊ปๆๆ ’
เข็มฉีดยาเฉีดเข้าที่เข็มขัดอย่างทันถ่วงที ทั้งคู่ถอนหายใจอย่างโลกอกพร้อมกัน
พวกผีดิบถูกกำจัดไปจนเหลือเพียงสิบกว่าตัวเท่านั้น ทางด้านมิสเตอร์พัมพ์กิ้นหรือเบต้า พอเห็นว่าตรงกลางไม่มีผีดิบแล้ว จึงค่อยๆเดินไปช่วยทางซอนมีซึ่งยังคงมีผีดิบหลงเหลืออยู่ ส่วนวากับโซเฟียผลัดกันร่นถอยพร้อมเว้นระยะยิงก็สามารถจัดการผีดิบได้หมด
“ ทุกคนปลอดภัยนะ ” โซเฟียถาม เมื่อกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้ง แม้จะหอบหายใจหลังจากผ่านเหตุการณ์ตื่นเต้น ลุ้นระทึกแต่ในแววตาของทุกคนบ่งบอกได้ถึงความเป็นทีมเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดแล้วตอนนี้
“ บราโว้ สุดยอดไปเลยครับ เพิ่งจะมีกลุ่มที่ผ่านด่านสองไปได้ก็เป็นกลุ่มนี้กลุ่มแรกนี่ละครับ เอาละทุกรีบเติมกระสุนและพลังชีวิตกันเถอะครับ เพราะการโจมตีครั้งสุดท้ายกำลังมาในไม่กี่ฮึดใจแล้ว ”
เสียงเด็กชายนักประกาศดูยินดี แต่พอได้ยินว่าการโจมตีครั้งสุดท้าย ในใจทุกคนต่างรู้สึกหวิวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก โชคดีที่ทุกคนร่วมมือกันเป็นทีมแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ ต่างรีบเข้าไปเติมกระสุนและเก็บเข็มฉีดยาสำหรับคนที่ยังพอมีพลังชีวิตเหลืออยู่บ้างเช่น วา โซเฟีย และมิสเตอร์พัมพ์กิ้น
“ ทุกคนถ้าพร้อมแล้วให้ประจำตำแหน่งเดิมก่อน เรากับวาจะลองออกไปดูบริเวณป้อมชั้นหน้าเอง ” โซเฟียกล่าวขึงขัง โดยไม่มีท่าทีล้อเล่น
วาวิ่งนำโซเฟียไปประจำตำแหน่งหลังซากปราการบริเวณป้อมหน้าด้าน ภายใต้หมอกหนาทึบในครั้งนี้ไม่ทราบว่าซ่อนปีศาจแบบไหนอยู่อีก แต่เท่าที่รู้ๆก็คือ คงจะร้ายกาจไม่ใช่เล่น เพราะจากการโจมตีที่ผ่านมากว่าจะเอาชนะได้ก็เล่นแทบหืดขึ้นคอเลยทีเดียว
ขณะที่วากำลังจดจ่ออยู่กับการระวังตัวเสียงคำรามหนักแน่นก็ดังขึ้นนำก่อนที่เสียงระฆังเตือนจะดังเสียอีก ต้องยอมรับว่าเขารู้สึกตกใจมิใช่น้อย เพราะฟังจากน้ำเสียงนั้นเสียง สิ่งที่กำลังจะมาถึงน่าจะมีขนาดมหึมาพอสมควร
‘ ตึง ตึง ตึง ’
เสียงระฆังดังกังวานถี่กว่าที่เคย คล้ายกับเตือนให้มนุษย์หน้าไหนก็ตามที่อยู่แถวนี้หนีเอาชีวิตรอดไปซะ ทันใดนั้นกิ่งไม้ใหญ่ลอยผ่านอากาศแหวกหมอกหนาที่อยู่เบื้องหน้าของวามาอย่างรวดเร็วพุ่งเลยหัวของทั้งสองตรงไปยังระฆังที่ดังอยู่
‘ เกร๊ก ! ’
ระฆังโบราณที่อยู่บนหอนาฬิกาถูกท่อนไม้กระแทกหล่นลงเสียงโครมของระฆังดังกังวานอึกทึกไปทั่วบริเวณ จากนั้นเสียงคำรามทุ้ม แต่น่าเกรงขามของปีศาจที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรก็ดังยาวราวกับจะแสดงความน่าสะพรึงให้ทุกคนได้รับรู้
ฟังจากเสียงที่ได้ยินแล้วศัตรูน่าจะมีเพียงแค่ตัวเดียว วาหันไปมองหน้าโซเฟียเป็นเชิงถามความเห็น แต่สีหน้าของหล่อนดูมุ่งมั่นไม่หวั่นเกรง วาเลยเลิกความคิดที่จะให้เจ้าหล่อนหลบไปอยู่ที่ป้อมชั้นในเสียก่อน เพราะถึงแม้ว่าเธอจะเก่งในเรื่องการหลบหลีกในการประลองอาวุธอย่างไรก็ตาม แต่ในการยิงปืนป้องกันตัวเองเขาน่าจะเอาตัวรอดได้ดีกว่า
“ ถ้าเห็นตัวมันแล้ว รีบถอยก่อนเถอะ ดูท่าทางมันจะไม่ใช่เล่นๆ ”
ยังไม่ทันขาดคำ เสียงประหลาดเล็กแหลมก็ดังขึ้น โดยที่วาเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน มันเหมือนไม่ใช่สัตว์หรือปีศาจที่เขาจะจินตนาการได้ และไม่ใช่เจ้าตัวที่คำรามไปเมื่อสักครู่
‘ กี้ๆๆ ! ’
เจ้าตัวการของเสียงกระโจนผ่าหมอกมาที่วา และโซเฟียอย่างเหนือคาด กรงเล็บของมันตะปปเฉียดหน้าวาไปเพียงไม่กี่เซน โชคดีที่เขาไหวตัวทันพร้อมกันนั้นวาก็ส่งเสียงทันทีโดยไม่ลังเลว่า
“ วิ่ง ! ”
เจ้าสัตว์ร้ายร้องเสียงแหลมเมื่อจู่โจมเป้าหมายพลาด มันไม่ใช่ผีดิบ หรือปีศาจในหนังสยองขวัญทั่วไป แต่กลับเป็น แร็พเตอร์ไดโนเสาร์นักล่าที่มีสติปัญญาฉลาดล้ำ เปรียบได้กับฝูงหมาป่าในปัจจุบันแต่ด้วยเขี้ยวที่ดูแหลมคม กับกรงเล็บและฝีเท้าอันรวดเร็วทรงพลัง คงไม่ต้องสืบเลยว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน หากโผล่มาโดยที่คุณไม่รู้ตัว แถมยังในคืนวันฮาโลวีนอีก
เท่านั้นยังไม่พอ หากวาและโซเฟียได้หันไปเห็นเจ้าของเสียงคำรามอันทรงพลังที่เพิ่งโผล่พ้นหมอกมาหมาดๆ เมื่อพวกเขาออกตัววิ่งแล้ว อาจจะถึงกับต้องถอดใจก็ได้
‘ กี้ๆๆๆ ’
เจ้าแรพเตอร์ขนาดเท่าตัวคนกระโดดมาดักหน้า วาไม่รีรอใช้ปืนเลเซอร์ยิงใส่หัวของมันทันที แต่มันไม่เพียงไม่เจ็บไม่คันกลับกรี๊ดร้องเสียงแสบแก้วหูใส่แล้วกระโจนพุ่งเข้ามาหมายจะฉีกกระฉากร่างของทั้งคู่
วา และโซเฟียรีบแยกตัวออกจากกันเพื่อหลบการจู่โจมของมัน แม้จะฉิวเฉียดแต่ก็ได้ผล
ทั้งคู่เมื่อเห็นว่าปืนเลเซอร์เพียงสองกระบอกไม่อาจทำอะไรมันได้จึง ตัดสินใจวิ่งสุดชีวิตเพื่อเข้าไปหาพรรคพวกที่ด้านในโดยหวังว่า จำนวนกระสุนจากปืนอีกสี่กระบอกน่าจะช่วยหยุดความบ้าคลั่งของมันได้
แต่พวกเขาก็พบว่าคิดผิดเมื่อเข้ามาที่ป้อมด้านใน เจ้าแรพเตอร์อีกตัวที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนกำลังไล่ทำร้ายเพื่อนๆของเขาอย่างน่าหวาดเสียว โดยเป้าของมันในตอนนี้มุ่งตรงไปที่ซอนมี ซึ่งกำลังวิ่งหลบการโจมตีของมันไปอย่างทะลักทุเล
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นกัดฟันที่คนอื่นคงไม่มีทางเห็นกระหน่ำยิงใส่เจ้าแรพเตอร์ตัวนั้น พร้อมตะโกนเพื่อให้มันหันมาสนใจเขา แต่ก็ไม่ได้มันยังไม่เลิกความพยายามในการไล่กวดซอนมี
“ ทุกคนกระจายกำลัง พวกมันกำลังมาเพิ่มอีกสองตัว ” โซเฟียตะโกน และนั่นไม่ได้ทำให้ทุกคนสีหน้าดูดีขึ้นเลยเมื่อแรพเตอร์อีกสองตัวกระโดดเข้ามาในบริเวณป้อมชั้นในโดยพร้อมเพรียง
“ เผ่นกันเถอะพวก ” มิวออกความเห็น ซึ่งวีวี่ไม่ลังเลที่จะทำตามเมื่อเจ้าแรพเตอร์ที่กำลังมาใหม่พุ่งเป้าไปยังทั้งคู่แทน คราวนี้สถานการณ์อลหม่านแบบสุดๆเลยก็ว่าได้
วาและโซเฟียพยายามยิงช่วยทุกคน แต่ทำได้ไม่นานเจ้าแรพเตอร์ตัวแรกที่ตามติดเขามาก็พุ่งเข้ามาอ้าปากเตรียมกัดใส่วาอย่างรวดเร็วสมกับเป็นยอดนักล่าในอดีต
ขณะที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่ เสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงพร้อมเสียงคำรามทุ้มดังก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่วาไม่มีเวลาให้คิดถึงเรื่องนั้นเพราะแม้เจ้าแรพเตอร์จะพลาดไปหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มันจู่โจมเข้ามาดูเหมือนจะมีชั้นเชิงมากขึ้นราวกับว่ามันเริ่มอ่านทางการหลบหลีกของวาและโซเฟียออกสมกับเป็นนักล่าที่มีปัญญาล้ำในอดีตกาลจริงๆ
“ ยิงเท่าไหร่มันก็ไม่เป็นไรเลย แถมยังเร็วอีกต่างหาก ” โซเฟียหอบหายใจขณะวิ่งหนี
วาพยายามคิดถึงจุดตายที่เขาพอจะนึกขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นในหนังสือนิยาย หรือว่าหนังฟอร์มยักษ์ที่เคยดูมา แต่ไม่ว่าจะยิงไปที่หัว หัวใจ เท้าหรือแม้แต่หางมันก็ไม่กระเทือนแม้แต่น้อย
กว่าจะรู้ตัวเขาก็วิ่งกลับมายังบริเวณหน้าชั้นกลางโดยไม่รู้ว่า คนอื่นจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่รู้สึกที่เบื้องหน้ามีเงามืดทะมึนบดบังร่างของเขาอยู่ พอหันหน้าไปดูก็ต้องหยุดฝีเท้ากะทันหันรีบสะกิดโซเฟียที่ยังพะวงกับการตามล่าของเจ้าแรพเตอร์อยู่
“ โฮ๊ก! ”
สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์เจ้าของเสียงคำรามอันทรงพลังง้างกำปั้นขนาดใหญ่ตรงใส่โซเฟีย
‘ พึ่บ ! ’
แม้จะกะทันหัน แต่จากการฝึกฝนนับครั้งไม่ถ้วนทำให้เธอก้มหลบหมัดนั้นได้อย่างทันถ่วงที เจ้าปีศาจยักษ์แผดเสียงด้วยความไม่พอใจ ร่างของมันน่าจะสูงสักสองเมตรได้ กล้ามเนื้อที่ถูกปกปิดอยู่ภายใต้เสื้อเก่าหลุดลุ่ยเผยให้เห็นแผลเย็บเป็นชิ้นๆสีดำบ้าง ขาวบ้างสลับกันไปดูน่าสะอิดสะเอียน แต่ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือ บนหน้าของมันที่บิดเบี้ยวดวงตาแดงก่ำ มีเคล้าหน้าของมนุษย์เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ที่ข้างคอฝังไว้ด้วยน็อตขึ้นสนิมที่บัดนี้มีไฟฟ้าวิ่งวนเวียนอยู่
มันคือ ปีศาจในตำนานสยองขวัญอมตะ
‘ The Frankenstein !!! ’
ถ้าตอนนี้วาเป็นด๊อกเตอร์แฟรงเก้นสไตล์คงจะดีใจแล้วตะโกนว่า ‘ มันมีชีวิต มันมีชีวิต ! ’ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขากำลังจะตะโกนคือ ‘ มันมาทางนี้ มันมาทางนี้ !!! ’
ตอนนี้ด้านหนลังของทั้งคู่ถูกเจ้าแรพเตอร์ค่อยๆย่องรอจังหวะโจมตี ส่วนด้านหน้าปีศาจแฟรงเก้นสไตน์ก็ตรงรี่เข้ามาหมายจะทุบทั้งคู่ให้จมดิน ขณะที่กำลังอับจนหนทางโซเฟียก็บอกให้วิ่งแยกกันไปซะ โดยที่วายังไม่ทันจะเห็นด้วยเพราะไม่อยากจะทิ้งหล่อน แต่เธอก็ยิงใส่แฟรงเก้นสไตล์ที่ตรงเข้ามาหา พร้อมวิ่งสวนเข้าหามันอย่างไม่กลัวเกรง
เธอหลบหมัดที่สองของมันได้ ทำให้เจ้าแฟรงเก้นสไตน์ถึงกับงุนงง จากนั้นกระหน่ำยิงใส่หลังอันแข็งแกร่งของมัน ถึงแม้จะไม่ได้ผลแต่ก็ทำให้มันหันความสนใจไปที่เธอแทน เธอขยิบตาให้วาผ่านซอกแขนขวาของแฟรงเก้นสไตน์คล้ายบอกให้เขารีบวิ่งหนี หรือจัดการเจ้าแรพเตอร์นั่นซะ ส่วนเธอจะดึงความสนใจของเจ้าแฟรงเก้นสไตน์ให้
แม้ไม่อยากทำเช่นนั้น แต่โซเฟียก็ล่อแฟรงเก้นสไตน์ให้ห่างออกไปแล้ว วาจึงรีบหันไปรับมือเจ้าแรพเตอร์ที่ยืนจ้องเขาเหมือนรอทีท่า หากวาพลาดเมื่อไหร่มันคงต้องลงมือแน่
‘ กรี๊ด ! ’
ซอนมีถูกเจ้าแรพเตอร์พุ่งชนจนเสียหลักล้มลง มันหยุดชะงักแล้วแหงนหัวแผดเสียงราวกับได้ชัย มิสเตอร์พัมพ์กิ้นหรือเบต้าเร่งฝีเท้าจนแทบจะวิ่งเข้ามาช่วยซอนมีโดยไม่สนว่าขาตัวเองจะยังไม่หายดี
มันหันขวับมาใส่เบต้าที่ยิงใส่แล้วอ้าปากแผดเสียงอย่างไม่พอใจ
ซอนมีที่กองอยู่กับพื้นโบกมือให้เบต้า
“ หนีไปเถอะค่ะ ชั้นจะถ่วงเวลาให้เอง ”
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นก้มหน้าไม่ตอบคำ ใช้มือขวาเล็งไปที่เจ้าแรพเตอร์อย่างไม่แยแส ในสายตาซอนมีแล้วมันช่างเป็นท่าที่เท่อะไรเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาได้อย่างบอกไม่ถูก แม้จะอยู่ในอันตรายถึงขนาดนี้ แต่ท่าทางสงบนิ่งของเขาทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจได้อย่างประหลาด
“ ระวัง ! ” ซอนมีร้อง เมื่อเจ้าแรพเตอร์เปลี่ยนเป้าหมายไปที่มิสเตอร์พัมพ์ที่ยังคงก้มหน้าอยู่
ด้วยความเร็วในระยะเช่นนี้ต่อให้เป็นโซเฟียยังไม่แน่ว่าจะหลบพ้น แต่เบต้าที่ขาไม่ปกติกลับก้มหน้าเล็งปืนใส่มันอย่างสงบนิ่ง
‘ กี้ ! ’
เจ้าแรพเตอร์เปิดปากกว้างกัดใส่แขนข้างขวาของเบต้า เป็นวินาทีเดียวกับที่ปืนเลเซอร์ลั่นไกออก
‘ ปิ้ว ! ’
ร่างของเจ้าแรพเตอร์กระเด็นถอยหลังล้มลงแบบนัดเดียวจอดดังตุบเกือบทับใส่ร่างซอนมีเล่นเอาเธอเผลอหลุดร้องออกมา เมื่อนึกถึงได้ก็หน้าแดงมองไปที่มิสเตอร์พัมพ์กิ้นเห็นเขาเพียงแต่เงยหน้าขึ้นใช้มืออีกข้างเท้าจมูกคล้ายกับมัจจุราชในเหล่าปีศาจทั้งปวงผู้อยู่เหนือความกลัวทุกสรรพสิ่ง
ตาของซอนมีเป็นประกายลืมเรื่องที่ทุกคนกำลังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่อยู่ไปหมดพร้อมคิด
‘ ต้องใช่เขาแน่ๆ ’
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นเดินมาหาเธออย่างช้าแล้วยื่นมือให้ แต่หันหน้าไปอีกทางราว
‘ หรือว่ากำลังสมเพชท่าทางอันอ่อนแอของเราอยู่นะ ’ ซอนมีส่ายหัวรีบคว้ามือของมิสเตอร์พัมพ์กิ้นแล้วยืนขึ้น
“ ขอโทษนะค่ะ ที่ทำให้เดือดร้อน ”
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นตอบตะกุกตะกัก
“ มะ ไม่เป็นไรครับ คุณซอนมีไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ”
ซอนมีเอียงคอ รู้สึกคำพูดกับท่าทางที่ดูเงียบขรึมราวกับพญาปีศาจมันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ติดใจจุดนั้นมาก เนื่องจากเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วยดังมาทางนี้พร้อมกับโซเฟียที่โบกมือให้สัญญาณขอความช่วยเหลือ
ซอนมีเมื่อได้เห็นแฟรงเก้นสไตน์ก็ต้องตกใจ แม้เธอจะเคยเป็นหนึ่งในแฟนพันธ์แท้คืนวันฮาโลวีนของปีที่แล้ว แต่ด้วยการร่วมมือกันจากหลายชมรมทำให้ปีนี้ต้องบอกได้ว่าอลังการงานสร้างจริงๆ แถมยังน่ากลัวกว่าหลายสิบเท่าจนเธอแทบอยากจะถอดใจ นี่ยังไม่รวมเรื่องการถูกตามล่าจากโพผู้สุภาพอีกนะ ต้องขอบคุณมิสเตอร์พัมพ์กิ้นที่ช่วยให้เธอรู้สึกมีความหวังขึ้นมาได้มาก
ซอนมีหันไปทางมิสเตอร์พัมพ์กิ้นไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรดี แต่กลับได้ยินเพียงแค่
“ แย่จังกระสุนใกล้หมดแล้วสิ ”
“ เอาของชั้นไปสิค่ะ ” ซอนมียื่นซองเติมกระสุนให้ มิสเตอร์พัมพ์กิ้นไม่ลังเลรับซองกระสุนและเปลี่ยนมันอย่างคล่องแคล่ว
“ ไปช่วยโซเฟียกันเถอะ ” มิสเตอร์พัมพ์กิ้นยกปืนขึ้นแล้วก้าวออกอย่างมั่นคง
แฟรงเก้นสไตน์ไล่ต้อนโซเฟียจนถึงหน้าคริสตัล กำปั้นทรงพลังพุ่งใส่โซเฟียอย่างต่อเนื่อง ด้วยร่างอันใหญ่ยักษ์ทำให้ยากที่จะหลบพ้นรัศมีโจมตี หนำซ้ำแถวหน้าคริสตัลมีพื้นที่ให้หลบหลีกน้อย จึงคล้ายเหมือนถูกจำกัดวงไปเรื่อยๆ ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปมีหวังถูกโจมตีเข้าแน่ๆ และไม่ต้องสืบเลยว่าผลจะเป็นเช่นไร
ซอนมีกับมิสเตอร์พัมพ์กิ้นพยายามกระหน่ำยิงช่วย แต่ไม่ทันไรกระสุนของซอนมีก็หมดลง เพราะเพิ่งให้มิสเตอร์พัมพ์กิ้นไป แถมการยิงช่วยก็ไม่ได้ผลเลย ไม่ว่าจะยิงไปยังจุดไหนก็ไม่สะเทือน
ถ้าอยากจะเติมกระสุนก็จำเป็นต้องเข้าไปบริเวณแท่นศิลาที่อยู่ใกล้คริสตัล แต่ตอนนี้ถูกแฟรงเก้นสไตน์ครองพื้นที่อยู่
สถานการณ์ของโซเฟียถือว่าคับขันเมื่อหลังเธอชนกับแท่นคริสตัลไม่มีที่ให้ถอยหลบอีกต่อไป
‘ Re Re Re Reload ! ’
เสียงปืนเตือนเมื่อกระสุนหมด แต่โซเฟียไม่รู้สึกตกใจไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่ากระสุนจะช่วยอะไรเธอได้ เธออาศัยความสามารถส่วนตัวในการหลบหลีกล้วนๆ
แฟรงเก้นสไตน์มองเธอด้วยใบหน้าอันอัปลักษณ์ สายฟ้าที่น็อตบนหัวดูน่าสยดสยองกว่าหนังสยองขวัญสามมิติส่งเสียงซู่ๆ มันเอื้อมมือทั้งสองข้างหมายจะจับร่างของเธอให้ได้
ถ้านี่เป็นการแสดงละครเธอคงจะต้องถูกล้อว่าเป็นนางเอกหนังเรื่องแฟรงเก้นสไตน์ที่ถูกหลงรักแน่ๆ แต่นี่คือ เหตุการณ์จริงที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ถึงจะรู้ว่านี่เป็นแค่ชุดจำลองแต่การที่จะถูกใครไม่รู้ที่อยู่ในชุดแสนอัปลักษณ์นี้จับเอาคงจะไม่ช่วยให้รู้สึกดีได้แน่
โซเฟียตั้งสมาธิมั่นเมื่อมือทั้งสองข้างโอบรัดเข้ามา เธอก็อาศัยช่องว่างเพียงน้อยนิดก้มตัวลง แล้วม้วนตัวไปทางซ้ายเพื่อหลบให้พ้นร่างยักษ์ แต่โชคร้ายที่ยังไม่ทันจะยืนชึ้นเจ้าแรพเตอร์ที่ไม่ทราบโผล่มาจากไหนก็อ้าปากดักทางรออยู่แล้ว
“ ระวัง ! ” เสียงวีวี่ก็เพิ่งโผล่มาเพราะหนีจากแรพเตอร์ตัวนั้นตะโกนบอก แต่ไม่ทันการเสียแล้ว
โซเฟียผงะหงายหลังล้ม เพราะพยายามจะหลบการกัดของแรพเตอร์อย่างกะทันหันไป โดยที่ยังไม่ทันจะยืนให้ดี ปืนหลุดออกจากมือ ถูกเจ้าแรพเตอร์ยืนคร่อมกันไม่ให้ลุกขึ้น อีกทางหนึ่งแฟรงเก้นสไตน์ที่พลาดจากการโจมตีโซเฟียแทนที่จะหันเข้ามาร่วมมือเล่นงาน กลับตรงไปหน้าคริสตัลแล้วปล่อยหมัดโจมตีเข้ารุนแรงพร้อมคำรามเสียงทุ้มต่ำน่ารำคาญอย่างยิ่ง
แต่ทั้งทุกคนไม่มีสนใจเรื่องนั้น เพราะตอนนี้เจ้าแรพเตอร์กำลังจะลงมือหม่ำเธอแล้ว และหากกัดถูกจุดสำคัญก็หมายถึงเกมโอเวอร์ทันที
ขณะโซเฟียกำลังวิกฤต วาซึ่งพยายามยื้อแรพเตอร์อีกสองตัวหนึ่งก็วิ่งอ้อมกลับมาที่ป้อมชั้นในทางด้านหลังและเห็นเหตุการณ์พอดี โดยไม่สนว่ากำลังถูกไล่ล่าอยู่ เขารีบตะโกนบอกมิวที่สังเกตเห็นเขาคนแรก
“ ขอปืนหน่อยกระสุนจะหมดแล้ว ” วาเอื้อมมือขอให้มิวโยนปืนมา
แรพเตอร์กัดใส่โซเฟีย แต่เธอเอี้ยวหัวหลบได้ ตาจ้องไปยังการเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของมัน แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ในตอนนี้คงทำได้เพียงแค่รอการช่วยเหลือเท่านั้น ขณะที่คริสตัลก็ถูกแฟรงเก้นสไตน์ทุบตีจนพลังลดลงเรื่อยๆเหลือแค่ยี่สิบหน่วย
ทุกอย่างกำลังจะจบสิ้น
“ รับนะ ” มิวขว้างปืนให้วา
วาเพ่งสมาธิเปลี่ยนปืนในมือขวาเป็นซ้ายแล้วรับด้วยมือขวาได้อย่างพอดิบพอดี
“ ไม่ยอมให้จบง่ายๆหรอก ! ”
พริบตานั้นพลังสมาธิพุ่งถึงขีดสุด ภาพทุกอย่างค่อยๆช้าลง
‘ Zone ! ’
สภาวะที่คล้ายกับตอนแข่งปิงปองนัดชิงพลันปะทุขึ้นในเสี้ยววินาทีนั้น ก่อนวาจะกระโดดเอียงตัวยิงใส่ปากแรพเตอร์ที่กำลังอ้ากัดใส่โซเฟียอีกครั้ง
‘ ปิ้วๆๆ!!! ’
กระสุนเลเซอร์จำนวนสี่นัดจากปืนสองกระบอกพุ่งเข้าใส่เป้าหมายอย่างเหลือเชื่อ แรพเตอร์ร้ายเซล้มลง แต่ฝันร้ายยังไม่จบเมื่อสัญญาณเตือนดังแจ้งว่า พลังของคริสตัลกำลังจะหมดลง
ขณะที่ร่างของวายังลอยอยู่กลางอากาศ เขาอาศัยช่วงก่อนที่ตัวจะกระแทกพื้นเล็งไปยังตำแหน่งหนึ่งซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เป็นการเดิมพันเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
“ โฮ่ก ! ”
แฟรงเก้นสไตน์แผดร้องด้วยความเจ็บปวด พร้อมร่างของวาที่กระแทกลงกับพื้น แต่เขาไม่ใส่ใจกับความเจ็บปวด เพียงเงยหน้าดูว่าการลงมือของเขาได้ผลหรือไม่
กระสุนเมื่อครู่ถูกเป้าเข้าอย่างจัง ไม่เพียงแต่แรพเตอร์ที่หงายภายในนัดเดียว แต่แฟรงเก้นสไตน์ก็คุมคอเซถอยหลังผละจากคริสตัลไปครู่หนึ่ง
แต่วาที่ล้มลงก็ถูกแรพเตอร์ตัวสุดท้ายที่ไล่ล่าเขามาตั้งแต่ต้นกัดใส่
“ ระวังรีบลุกเร็วเข้า ” มิวร้องเตือน ส่วนโซเฟียเมื่อรอดจากแรพเตอร์ก็รีบยันตัวขึ้นขอปืนจากวีวี่ไปช่วยเหลือวา
“ เล็งไปที่น็อตข้างหัวของมัน ” วาตะโกนบอกทั้งๆที่เพิ่งถูกกัด
มิสเตอร์พัมพ์กิ้นพยักหน้ารับพยายามยิงไปที่น็อตข้างคอ แต่ตอนนี้ถูกมือทั้งสองข้างกุมปิดอยู่ หนำซ้ำมันยังหันมาทำหน้าโกรธแค้นใส่อีก มันคำรามเสียงดังแล้ววิ่งรี่เข้าใส่เบต้าหรือมิสเตอร์พัมพ์กิ้นมือทั้งสองปิดคอไว้ไม่เปิดโอกาสให้โจมตี
‘ แย่ละสิ ’ เบต้าหากขาอยู่ในสภาพปกติอาจจะพอวิ่งหนีได้ แต่ตอนนี้มันเข้ามาประชิดตัวเขา แล้วเหวี่ยงหมัดใส่
ก่อนที่หมัดจะซัดใส่ร่างของมิสเตอร์พัมพ์กิ้น เจ้าแฟรงเก้นสไตน์ก็แผดร้องอีกครั้ง
“ ถอยห่างจากเขานะ ” ซอนมีที่อาศัยจังหวะเผลอไปเติมกระสุนเป็นกล่าวเสียงแข็ง
เมื่อครู่เธออาศัยจังหวะที่มันปล่อยหมัดใส่มิสเตอร์พัมพ์กิ้นเล็งยิงถูกน็อตตรงคอได้อย่างหวุดหวิด
โซเฟียเมื่อเข้ามาในระยะยิงก็เล็งปืนด้วยสีหน้าจริงจังแบบที่วาไม่เคยเห็นมาก่อน กระสุนปืนถากปากของแรพเตอร์ก็ทำให้มันเขวไปได้ วาจึงไม่รอช้ารีบลุกขึ้นวิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
ทั้งหมดเมื่อได้โอกาสตั้งหลักจากการลงมือของวาที่เปิดเผยจุดอ่อนของแฟรงเก้นสไตน์ได้ก็รีบกลับมารวมตัว มิววิ่งไปเก็บปืนของโซเฟีย และแลกเปลี่ยนปืนคืนกันพร้อมผลัดกันเติมกระสุน โดยมีซอนมีเป็นผู้ช่วยยิงคุ้มกัน
‘ กี้ ! ’
แรพเตอร์ที่ถูกโซเฟียยิงล้มยังไม่สิ้นฤทธิ์มันอาศัยทีเผลอเข้าเล่นงานเธอ
“ ระวัง ! ” ขณะที่ทุกคนกำลังเติมกระสุนอยู่มิสเตอร์พัมพ์กิ้นก็เข้ามาบังพร้อมใช้แขนรับเขี้ยวของแรพเตอร์ที่ห่างจากหน้าซอนมีเพียงไม่กี่นิ้ว
มันขบกรามกัดแขนของมิสเตอร์พัมพ์กิ้นแน่น พลังชีวิตไหลราวน้ำ
“ ยิงเลยครับ ”
ซอนมีรีบหันปืนยิงตามคำบอก แต่จู่ๆปืนที่อยู่บนมือก็ถูกคว้าไป พอหันกลับก็พอว่าถูกแฟรงเก้นสไตน์ถืออยู่
‘ ปิ้ว ! ’
วาใข้ปืนที่ยังพอมีกระสุนเหลือรีบยิงช่วยมิสเตอร์พัมพ์กิ้น แต่ช่องปากที่งับเล็กเกินไปด้วยระยะห่างขนาดนี้ไม่สามารถยิงเข้าไปด้านในได้
‘ เสร็จกัน ’ เบต้าคิดเมื่อพลังชีวิตกำลังจะหมดลง
“ ย๊าก ! ”
มิวส่งเสียงแล้ววิ่งเข้ามายัดปืนใส่ปากแล้วกระหน่ำยิงใส่แรพเตอร์ทั้งๆที่ยังกัดแขนของมิสเตอร์พัมพ์กิ้นอยู่ แต่ไม่ทันเสียแล้วพลังชีวิตของมิสเตอร์พัมพ์กิ้นหมดลงพร้อมกับแรพเตอร์ที่ล้มลง ส่วนซอนมีได้แต่ตกใจทั้งที่ถูกแย่งปืนและเห็นมิสเตอร์พัมพ์กิ้นล้มลงเพราะเข้ามาช่วยเหลือเธอ
‘ ปิ้วๆๆๆ ! ’
ขณะกำลังอลหม่านแฟรงเก้นสไตน์ก็ใช้ปืนเลเซอร์ยิงใส่ซอนมีผู้เป็นเจ้าของพลังชีวิตลดฮวบ น้ำหนักชุดเกราะเพิ่มรวดเร็ว ก่อนจะถูกกำปั้นจากมืออีกข้างมันมันชกใส่ แม้จะไม่รู้สึกเจ็บเท่าที่คิดแต่นั่นก็ทำให้เธอเกมโอเวอร์ในทันที
เพียงไม่กี่วินาทีทั้งมิสเตอร์พัมพ์กิ้น และซอนมีก็เกมโอเวอร์ติดๆกัน ทรุดลงกับพื้นเพราะน้ำหนักของชุดที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น
วา โซเฟีย และวีวี่เพิ่งจะเติมกระสุนเสร็จพอดี เมื่อเผชิญเหตุการณ์เช่นนี้ถึงจะตกใจ แต่ก็ช่วยกันกระหน่ำยิงใส่น็อตที่คอของแฟรงเก้นสไตน์
มันพยายามยิงใส่พวกวา แต่นั่นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขายิงใส่จุดตายของมัน ซ้ำฝีมือการยิงปืนของมันก็ไม่ดีไปกว่ามิวสักเท่าไหร่ เพียงแต่เมื่อครู่ที่สามารถจัดการซอนมีได้เป็นเพราะยิงในระยะประชิดมาก
กระสุนเลเซอร์นัดแล้วนัดเล่ายิงใส่น็อตที่คอโดยไม่เปิดโอกาสให้มันป้องกัน จนในที่สุดมันต้องตัดสินใจโยนปืนทิ้ง คำถรามก้องเกรี้ยวกราดพุ่งเข้ามาหาพวกวาที่กำลังยิงใส่มัน
“ แย่ละสิ ” มิวร้อง
“ ถอยไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นคริสตัลจะต้องพังแน่ ” วาอ่านเกมขาด ที่แท้มันคิดจะเอาชนะพวกเขาโดยการทำลายคริสตัลมากกว่าที่จะจัดการทีละคน เพราะตอนนี้พวกวารู้จุดอ่อนของมันแล้ว
หากไม่สามารถหยุดการพุ่งเข้ามาของมันได้ พวกเขาคนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมดอาจจะต้องเกมโอเวอร์ก็ได้ แต่แววตามุ่งมั่นของวาทำให้มิว วีวี่และโซเฟียเชื่อมั่นและยืนหยัดช่วยกันเล็งยิงใส่น็อตย่างสุดความสามารถ
แฟรงเก้นสไตน์ใช้มือทั้งสองป้องกระสุน ร่างของมันใกล้เข้ามาทุกที
“ ทุกคนหยุดยิงรอ ” วากลั้นหายใจ เขาเชื่อว่ามันจะต้องเปิดจังหวะโจมตีมาแน่
และก็เป็นเช่นนั้นเมื่อมันเข้ามาในระยะโจมตี มันก็อ้าแขนสองข้างคล้ายต้องการจะกวาดพวกวาทั้งหมดให้ล้มไปกองกับพื้น ซึ่งนั่นเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะจัดการกับมัน
“ ยิง !!! ”
เลเซอร์จากปืนสี่กระบอกพุ่งออกแทบจะพร้อมเพรียงใส่น็อตที่คอทั้งสองข้าง ก่อนที่เจ้าแฟรงเก้นสไตน์จะร้องคำรามเป็นครั้งสุดท้ายล้มลงที่แทบเท้าของทั้งสี่ดังโครม
“ บ้าจริงๆเลยนะนายเนี่ย ” โซเฟียเป่าลม
จากนั้นเสียงไชโยของกองทัพที่ได้รับชัยชนะดังก้องไปทั่วปราการร้าง พร้อมเสียงระฆังซึ่งถูกต้นไม้ชนจนตกไปแล้วก็ดังขึ้น คาดว่าน่าจะถูกนำกลับขึ้นไปอัตโนมัติเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การจัดฉากเพื่อสร้างความตื่นเต้นในตอนเปิดตัวบอสประจำด่านเท่านั้น
“ โอ้ๆๆๆ สุดยอดมากเลยครับที่สามารถจัดการกับบอสสุดหินอย่างแฟรงเก้นสไตน์ และมินิบอสแรพเตอร์ได้ ถึงแม้ว่าในครั้งนี้ทางทีมงานจะลดจำนวนแรพเตอร์ลงไปถึงสิบตัวเพราะเห็นแก่คนน้อย และตั้งแต่เล่นมายังไม่มีใครผ่านเลยก็ตามครับ ”
เด็กชายนักประกาศไม่ทราบต้องการจะกล่าวแสดงความยินดี หรือเกทับเรื่องที่พวกวาชนะได้เพราะลดจำนวนแรพเตอร์ลงกันแน่ แต่สิ่งที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจในตอนนี้คือ มิสเตอร์พัมพ์กิ้น และซอนมีที่เกมโอเวอร์ไปก่อนที่จะเอาชนะแฟรงเก้นสไตน์ไปได้ไม่ถึงนาที
“ เป็นอะไรไหม ” โซเฟียคุกเข่าลงถามซอนมี และมิสเตอร์พัมพ์กิ้น
“ ถ้าเรื่องเจ็บตัวน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่… ” ซอนมีมองไปทางมิสเตอร์พัมพ์กิ้นที่เข้ามาเสียสละป้องกันตนเองจนต้องเกมโอเวอร์ไปด้วย
“ ขอโทษด้วยนะค่ะ ” ซอนมีหลุบตาต่ำ แต่มิสเตอร์พัมพ์กิ้นไม่เห็น
ขณะนั้นเองไฟฟ้าบนน็อตที่คอของแฟรงเก้นสไตน์ก็ส่องแสงสว่างขึ้น ทุกคนหันปืนไปเล็งที่มันโดยอัตโนมัติ แต่สิ่งที่เห็นคือ น็อตบนหัวที่ตกลงมา
“ ยินดีด้วยนะครับ นอกจากจะสามารถเอาชนะด่านทดสอบความกล้าได้แล้ว ทุกคนยังสามารถทำภารกิจโดยเอาชนะแฟรงเก้นสไตน์ได้ ซึ่งจะได้รับไอเท็มลับ น็อตคืนชีพจำนวนหนึ่งชิ้น สามารถชุพชีวิตคนที่เกมโอเวอร์ได้หนึ่งคนครับ ส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์สามารถไปรับได้ที่คริสตัลที่กำลังจะเปิดออกครับ ”
วาเดินไปเก็บน็อตที่ตกลงมา แล้วหันไปมองโซเฟียคล้ายจะปรึกษาว่าควรจะช่วยใครดี ถ้าว่ากันตามหลักมิสเตอร์พัมพ์กิ้นน่าจะเป็นผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือมากกว่า เพราะซอนมีก็เคยทำไม่ดีกับพวกเขาไว้มาก
แต่มิสเตอร์พัมพ์กิ้นที่นอนอยู่กล่าวขึ้น
“ รีบเอาไปช่วยเธอเร็วเข้า ”
“ ไม่ได้นะ เพราะชั้นคุณถึงต้องเกมโอเวอร์ เพราะฉะนั้นช่วยเอาไปช่วยมิสเตอร์พัมพ์กิ้นเถอะค่ะ ” ซอนมีปฎิเสธจนวาจนใจ
โซเฟียเห็นวาไม่สามารถตัดสินใจได้จึงแบมือขอน็อตคืนชีพมาจากเขา แล้วเดินไปที่ซอนมี จากนั้นใช้น็อตคืนชีพแตะที่เข็มขัดของซอนมี
“ ทำอะไรของเธอน่ะ ” ซอนมีไม่พอใจ แต่เธอก็รู้สึกถึงน้ำหนักที่เบาลงจนสามารถขยับตัวได้แล้ว
“ ก็ทำตามคำขอของเขาน่ะสิ ” โซเฟียชี้ไปที่มิสเตอร์พัมพ์กิ้น ยืนจ้องหน้ากับซอนมี แต่ซอนมีรู้สึกงุนงงไปหมด ไม่รู้จะต่อคำยังไงจึงรีบไปดูมิสเตอร์พัมพ์กิ้น
“ ขอโทษด้วยนะค่ะ ” ซอนมีกล่าวย้ำ
“ มะ ไม่เป็นไรครับ พวกคุณรีบไปกันเถอะ ”
ซอนมีตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาชนะเกมนี้ให้ได้โดยอาศัยเพียงความร่วมมือจากสมาชิกวงเท่านั้น แต่เมื่อเห็นพวกวา และมิสเตอรืพัมพ์กิ้นดีต่อเธอถึงขนาดนี้จึงต้องเปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิง
เธอส่ายหน้าไม่ยอมไปต่อ
“ ได้โปรดไปเถอะครับ อย่างน้อยก็ช่วยเอาชนะเกมนี้แทนในส่วนของผม ” มิสเตอร์พัมพ์กิ้นกล่าว แต่ซอนมียังดื้อดึงอยู่ พวกวาในตอนนี้ได้แต่ยืนงงไม่ทราบว่าควรทำเช่นไรต่อไป
ทันใดนั้นแสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นที่หัวฟักทองของมิสเตอร์พัมพ์กิ้นเป็นสีส้มเหมือนสีฟักทอง ดวงแต่โกรธเกรี้ยวบนใบหน้าฟักทองปรากฏเป็นสีแดง สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนแม้กระทั่งซอนมี
มิวกับวีวี่พากันถอยหลังเพราะคิดว่ามิสเตอร์พัมพ์กิ้นอาจจะระเบิดตัวเอง แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเมื่อมิสเตอร์พัมพ์กิ้นค่อยๆลุกขึ้นมา
หรือนี่จะเป็นพลังของความรักที่ทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้
ก่อนที่จะมีใครถามคำถาม เสียงเด็กชายนักประกาศก็กล่าว
“ ฮะ แฮ่ม ไม่อยากจะขัดจังหวะหรอกนะครับ แต่ช่วยไปรับอาวุธศักดิ์สิทธิ์แล้วออกไปจากด่านได้แล้วครับ เพราะเราต้องเคลียร์สถานที่เผื่อว่าจะมีผู้เล่นรอบต่อไปมานะครับ ส่วนที่ผู้เล่นที่สวมใส่ศีรษะของพัมพ์กิ้นคิงฟื้นมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะเป็นความสามารถของไอเท็มลับที่มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ชื่อว่า พัมพ์กิ้นคิงเฮดครับ สามารถฟื้นชีพได้ทุกๆสามสิบนาทีครับ ”
“ ว่าไงนะ ” มิวถาม
“ ว่ากันว่าคู่ปรับในสมัยก่อนของท่านเค้าท์แดร๊กคิวล่าความจริงแล้วไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์หมาป่าหรอกนะครับ แต่ยังมีพัมพ์กิ้นคิงเจ้าแห่งความกลัวรวมอยู่ด้วย ซึ่งเคยต่อสู้กันเจ็ดวันเจ็ดคืน แม้จะไม่รู้ผลแพ้ชนะ แต่ก็พลาดท่าถูกเค้าท์แดร๊กคิวล่าตัดศีรษะขาดออกมา เพียงแต่ด้วยความเป็นอมตะที่เหมือนกันทำให้พัมพ์กิ้นคิงยังไม่ตาย แต่รอวันกลับมาแก้แค้นอยู่ที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นในทุกคืนฮาโลวีนหัวฟักทองจึงเป็นสัญลักษณ์ของความแค้นของพัมพ์กิ้นคิงที่น้อยคนนักที่จะทราบได้ครับ ”
“ เอาละครับ ทีนี้ช่วยกรุณาไปรับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำด่านทดสอบความกล้าได้แล้วครับ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจปลุกพวกผีดิบขึ้นมาไล่ล่าตามกฎนะครับ ”
มิวลืนน้ำลาย นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กชายนักประกาศแสดงความน่ากลัวในเห็น ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอิทธิพลของคืนวันฮาโลวีนหรือเปล่า แต่ทุกคนก็ทำตามพากันเดินไปที่คริสตัลสีน้ำเงินที่ค่อยๆแยกเปิดออก
“ ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ตกใจ ” เบต้ารีบบอกซอนมี เพราะเกรงว่าเธอจะโกรธที่เขาฟื้นชีพมาได้ แล้วมาหลอกให้เธอต้องเป็นห่วงจนมากขนาดนั้น ซึ่งความจริงแล้วเขาก็ไม่ทราบมาก่อน ความจริงตอนที่เขาแอบสะกดรอยคุ้มกันเธออยู่ก็บังเอิญสะดุดกับหลุมศพประหลาดที่บริเวณหลังป้อมชั้นในเข้า บนหลุมศพสลักรูปปีศาจฟักทองเอาไว้ แต่ก่อนที่จะทันสังเกตอะไรไปมากกว่านั้นเขาก็ถูกโจมตีโดยฝูงค้างคาว จนเผลอเหยียบเข้าไปที่หลุมศพที่ถ้ามองดีๆจะมีคำเขียนไว้บนนั้นว่า
‘ มันผู้ใดกล้าเหยียบย่ำข้า ข้าจะกลับมาอีกครั้ง ! ’
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมผู้เล่นหลายคนจึงไม่สามารถหาไอเท็มชิ้นนี้พบ เพราะเพียงแค่ต้องสู้กับไลเคนและค้างคาวก็แย่แล้ว ขืนเหยียบกับดักปลุกปีศาจขึ้นมาเพิ่มคงไม่ดีแน่
ทันใดก็ปรากฏหัวฟักทองขึ้นมา ด้วยความตกใจค้างคาวที่บินไปมาเขาก็รีบหยิบมันเข้ามาสวมโดยไม่อยากให้มันบินโฉบไปมาใส่หน้าเขา เพียงสวมใส่หัวฟักทองที่เก็บมาได้ เขาก็พบว่าเมื่อมองผ่านมันเขาสามารถเห็นจุดอ่อนของปีศาจทุกชนิดได้ จะเว้นก็แต่แฟรงเก้นสไตน์เท่านั้น ซึ่งความจริงนอกจากความสามารถในการฟื้นชีพทุกๆสามสิบนาทีแล้ว พัมพ์กิ้นเฮดยังสามารถมองจุดอ่อนของปีศาจทุกตัวได้อีกด้วย ยกเว้นชนิดบอส แต่เด็กชายนักประกาศไม่ได้บอกเพราะคิดว่าผู้ใช้คงทราบอยู่แล้ว และไม่ต้องการเสียเวลา
“ อย่าพูดอย่างนั้นสิค่ะ ” ซอนมียิ้มอ่อนหวาน ดวงตางามสะท้อนแสงจันทร์มองไปที่เขา หากไม่มีหัวฟักทองใส่อยู่เกรงว่าตอนนี้หน้าของเบต้าคงจะต้องแดงกว่าสีฟักทองเป็นแน่
“ ที่คุณทำไปเพราะเป็นห่วงชั้นไม่ใช่หรอ ชั้นเองที่ไม่ดีไม่ยอมฟังคุณ แต่จริงๆแล้วชั้นเองก็มีเรื่องที่อยากจะถามคุณอยู่เหมือนกัน ”
พูดถึงตรงนี้เบต้าก็สะดุด
‘ หรือว่าเธอจะถามถึงเรื่องนั้น ไม่น่าเลย เรานี่มันโง่จริงๆไม่น่าบอกเธอไปเลยว่าชื่อ มิสเตอร์พัมพ์กิ้น ทำยังไงดีละ ทำยังไงดี !’
“ ความจริงแล้วคุณคือ……. ”
ขณะที่ซอนมีกำลังจะเอ่ยปากถามเสียงแสดงความลิงโลดของมิวก็ขัดจังหวะขึ้น
“ อะไรเนี่ย เจ๋งเป็นบ้า ! ”
ทำให้เธอต้องหันไปสนใจยังอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เบื้องหน้า และก็ต้องดวงตาเบิกกว้างเช่นกัน นี่มันเหนือกว่าที่เธอคาดคิดไว้เสียอีก ส่วนมิสเตอร์พัมพ์กิ้นหรือเบต้าได้แต่ถอนหายใจ โล่งอกไปที
“ ต้องอย่างนี้สิถึงค่อยสนุกหน่อย ” วายิ้มสีหน้าแสดงความตื่นเต้นไม่ต่างจากมิวเมื่อเห็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นที่สอง
______________________________________
ความคิดเห็น