ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : นักเรียนใหม่สุดประหลาด
Tsunayoshi ‘s Part :
“นี่เราฝันไปอย่างงั้นเหรอ...”ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันที่แสนประหลาด ซึ่งผมก็ได้พบกับหญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้า เหมือนว่าเธอจะพยายามทวงอะไรบางอย่างจากผมด้วย คำสัญญาอะไรสักอย่าง ที่ผมไปให้กับเธอตอนไหนก็ไม่รู้
แต่ว่านะ...น่าแปลกจริงๆที่ผมรู้สึกคุ้นหน้าเธอเหลือเกิน หรือว่าที่เธอพูดจะเป็นความจริงกันนะ แต่ว่าช่างเถอะ ตอนนี้น่ะผมคงนอนต่อไม่ได้แล้วล่ะ ก็เวลาขนาดนี้แล้ว สมควรที่จะตื่นได้สักที ตอนนี้เช้าแล้วล่ะครับ และก็ต้องไปโรงเรียนซะด้วย
ผมมองหาครูพิเศษเจ้าปัญหาที่ปกติเวลานี่น่าจะกระโดดถีบหน้าผมด้วยความงุนงง เพราะไม่มีร่างเล็กๆของรีบอร์นอย่างในห้องนอนของผมเลย หรือว่าจะอยู่ที่ห้องครัวกันนะ? ผมคงคิดมาไปเอง จะว่าไปตั้งแต่กลับมาจากอดีตคนในบ้านก็มองผมแปลกไปนะ
“มีอะไรตรงไหนแปลกรึเปล่านะ?”ผมเองก็รู้สึกกังวลใจอย่างประหลาดนะกับสายตาของทุกคนที่มองผมเมื่อวาน เหมือนกับกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผมยังไงอย่างงั้น แต่ผมคงคิดไปเองอีกนั่นแหละ มันจะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะเนอะ
แน่นอนว่าตื่นมาแล้วต้องล้างหน้าล้างตาให้มันตาสว่างสักหน่อย แล้วก็แปรงฟันด้วยรวมถึงอาบน้ำแต่งตัว อ่า...ยุคปัจจุบันนี่ช่างดีซะจริงๆ มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกที่ในอดีตไม่มี แต่ว่าการเดินเที่ยวรอบๆเมืองก็สนุกไปอีกแบบนะ เอาล่ะ ไปทานข้าวเช้าดีกว่า! ชักจะหิวซะแล้วสิ
“อรุณสวัสดิ์นะครับพี่สึนะ”
“อรุณสวัสดิ์จ้ะสึคุง”
“หนี่ห่าว!”
“ไงเจ้าห่วย”
“อรุณสวัสดิ์สึนะ”
“ฮี่ๆๆ ไงสึน้า!”
“อรุณสวัสดิ์นะทุกคน”ผมกล่าวทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่เป็นตำแหน่งของตัวเอง ซึ่งทุกคนก็ดูปกติไม่มีอะไร สงสัยผมจะคิดมากไปเองจริงๆซะด้วยสิ
สำหรับมื้อเช้าในวันนี้มันกลับดูเงียบเหงาจนน่าแปลกใจเลยล่ะครับ เพราะแรมโบ้ที่ปกติจะส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายจนน่ารำคาญแล้วยังวิ่งเล่นกับอี้ผิงเป็นประจำ วันนี้กลับดูนิ่งเสียจนผิดสังเกต หรือว่าเป็นเพราะเพิ่งกลับจากอดีตเมื่อวานกันนะ
“ผมอิ่มแล้วนะครับ”
“อิ่มแล้วเหรอจ๊ะสึคุง ถ้างั้นก็รีบเตรียมไปโรงเรียนได้แล้วนะจ๊ะ!”ซึ่งผมพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อหยิบกระเป๋า แต่จะว่าไป...ผมหยุดเรียนไปตั้งอาทิตย์นึงเลยนี่น่า จะเรียนทันเพื่อนรึเปล่าเนี่ย เฮ้อ...ไว้ค่อยไปคิดดูอีกทีที่โรงเรียนแล้วกัน
“ไปดีมาดีนะจ๊ะลูก!”
“ครับ ไปก่อนนะครับ!”
เนื่องด้วยผมตื่นเช้า ทำให้รู้สึกอากาศรอบข้างมันปลอดโปร่งอย่างน่าตกใจ รู้อย่างงี้ตื่นเช้าตั้งแต่แรกก็ดีสิ อากาศดีขนาดนี้เราพลาดได้ยังไงกัน แถมไม่ต้องกังวลเรื่องไปโรงเรียนสายด้วย ตั้งแต่วันพรุ่งน้เป็นต้นไปผมจะไม่ตื่นสายแล้วล่ะครับ
“อรุณสวัสดิ์ครับท่านรุ่นที่สิบ!”อ่า..โกคุเดระคุงเนี่ยแรงดีจังเลยนะ “สบายดีไหมครับ?”
“อรุณสวัสดิ์โกคุเดระคุง”
“โย้ว! สึนะ! โกคุเดระด้วย!”ยามาโมโตะก็ร่าเริงเหมือนเคยเลยนะ “พวกนายดูสดใสดีจังเลยนะ!”
“อย่ามาเสียมารยาทกับท่านรุ่นที่สิบนะเฟ้ยเจ้าบ้าเบสบอล!”
“ฮะๆๆ อะไรกันๆ แค่พูดความจริงแค่นั้นเองนะ”
“ใจเย็นๆน่าโกคุเดระคุง”ทะเลาะกันอีกแล้วสองคนนี้ หวังว่าจะสนิทกันไวๆนะ
ผมเดินมาโรงเรียนพร้อมกับโกคุเดระคุงและยามาโมโตะ ซึ่งระหว่างทางพวกเราสามคนก็คุยกับสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อย และก็เดินมาปะกับเอ็นมะคุงที่เดินผ่านทางเดียวกันพอดี เลยเดินมาด้วยกันสี่คนซะเลย แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อนะว่าพวกเราจะสามารถมาโรงเรียนไหวกันในวันนี้
“แต่ว่าพวกพรีโม่คงจะเหงาแย่เลยเนอะ ก็บางคนน้ำตาคลอเบ้าเลยนี่น่าเมื่อวานน่ะ”นั่นสิ ถึงจะอยู่กับพวกพรีโม่แค่หนึ่งสัปดาห์ แต่ผมก็รู้สึกสนุกมากๆในช่วงที่อยู่กับพวกเขา
“แต่ว่าทำไมถึงส่งพวกเราไปยุคของพรีโม่แฟมิลี่ด้วยล่ะ?”เป็นคำถามที่เอ็นมะนึกสงสัย แม้แต่ผมเองก็ยังอยากรู้ว่าทำไม แต่ไม่เข้าใจเลยคำพูดของคุณเลโอเน็กซ์กับคุณคาสเตอร์พูดตอนนั้น คนที่มีความเกี่ยวข้องกับผม?
เดินมาสักพักพวกเราก็เดินมาถึงหน้าโรงเรียนนามิโมริแล้วล่ะครับ วันนี้มีทั้งคุณฮิบาริและคุณอเดลโฮด์เลย การตรวจตราวันนี้ดูเข้มงวดดีจริงๆ อุ๊ย! มองกลุ่มพวกเราตาขวางเลยแฮะ! จะโดนขย้ำไหมล่ะเนี่ย! อืม... เหมือนจะมีลางสังหรณ์ถึงเรื่องไม่ดีเลย...
End Tsunayoshi ‘s Part.
ยิ่งสึนะและผองเพื่อนเดินเข้ามาในใกล้โรงเรียนเท่าไหร่ จิตอาฆาตจากหัวหน้ากรรมการคุมกฎก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น อเดลไฮด์ก็ไม่ต่างกับผู้พิทักษ์เมฆารุ่นที่สิบเท่าไหร่นัก เพราะเธอก็อยากรู้สาเหตุที่บอสของเธอหายไปพร้อมกับพวกวองโกเล่เช่นกัน
“พวกคุณน่ะ...”ฮิบาริจิกตามองสามหนุ่มวองโกเล่และหนึ่งชิม่อนให้เดินไปหาตน
“ครับ!”
“แรงดีจังเลยนะ...”ประโยคนี้ของเมฆารุ่นที่สิบทำเอาผู้พิทักษ์แห่งน้ำแข็งของชิม่อนที่ยืนข้างๆหันขวับไปมองด้วยความทั้งตกใจและแปลกใจ ส่วนสี่หนุ่มเจ้าทุกข์นั้นถึงกับเอามือปิดปากไม่ให้เห็นรอยยิ้ม
“เอ๊ะ?!”
“ช่างเถอะ เข้าไปได้แล้ว”ก่อนที่ฮิบาริจะผลักไสไล่ส่งสี่หนุ่มที่แอบยิ้มแป้นด้วยความประทับใจในท่าทางของของเขา
“แต่ว่าดีจังเลยนะที่เราไม่โดนฮิบาริขย้ำน่ะ”ยามาโมโตะพูดพร้อมยิ้มแป้นอย่างดีใจ “เนอะ!”
“เดี๋ยวถ้าพี่แกเห็นเดี๋ยวเราจะโดนลากไปขย้ำนะ! รีบไปกันเถอะ!”ก่อนที่ว่าทีบอสรุ่นที่สิบจะวิ่งแจ้นออกห่างจากร่างผู้พิทักษ์เมฆาของตัวเองด้วยความรวดเร็ว ซึ่งผู้พิทักษ์วายุและพิรุณก็ไม่รอช้าวิ่งตามหลังไปโดยไม่ลืมลากบอสชิม่อนรุ่นสิบไปด้วย
อีกด้านหนึ่งที่อพาร์ตเมนต์ของโกคุเดระ ห้องข้างๆกันนั้นคือห้องของสองหัวหน้ายมทูตหน่วยสองทั้งฝ่ายไล่ล่าและตัดสิน เวลานี้ถ้าเป็นปกติล่ะก็ดารอนจะยังไม่อยากออกไปไหนเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ไม่รู้ทำไมหัวหน้าหน่วยไล่ล่าจึงนึกพิเรนทร์อยากออกไปจากห้องนอกจากเวลากลางคืน
“ฉันไปข้างนอกสักหน่อยนะแฟรคลอยย์”ดารอนเอ่ยบอกเพื่อนของเขา “ฉันอยากออกไปดูข้างนอกตอนกลางวันสักหน่อยน่ะ”
“ว้าว..หายากนะเนี่ย...”แฟรคลอยย์มองค้อน “เอาเถอะ ตามสบายเลย เดี๋ยววันนี้ฉันอยู่เฝ้าห้องให้”
“ขอบใจนะ...”ก่อนที่ร่างสูงของยมทูตหนุ่มจะก้าวออกจากห้องด้วยสีหน้าเรียบๆ
“น่าแปลกใจนะที่ดารอนอยากออกไปข้างนอกตอนกลางวันเนี่ย”
ณ คฤหาสน์
“คุณอา..นาโอคิ..”
“คุณเกือบเรียกฉันว่าอารินนะคะคุณอเลนสัน”เธอเหล่ตามองชายหนุ่มด้วยความหงุดหงิดนิดๆ “พร้อมนะคะ?”
“ต่อให้ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วล่ะครับ”นายราชองครักษ์ถอนหายใจ “จะรีบไปก็ไปเถอะนะครับ”
“ก็ดีค่ะ”สาวเจ้ายิ้มแป้น “ไปกันเถอะนะคะ..ที่โรงเรียนนามิโมริ”
กลับมาที่โรงเรียนนามิโมริ เวลา 07:44 น.
“จะว่าไปเหมือนจะได้มาว่ามีนักเรียนจากต่างประเทศมาเรียนห้องเราด้วยนี่น่า”
“แถมเป็นเด็กผู้หญิงด้วย แหล่มไปเลย!”
“เจ้าพวกบ้านั่น! เสียงดังเกินไปแล้วนะเฟ้ย!”โกคุเดระสบถด้วยความหงุดหงิด
สึนะที่ได้ยินถึงสิ่งที่เพื่อนผู้ชายในห้องคุยกันก็พอจะเดาได้ว่าห้องที่ต้องรับภาระนั้นคือห้องของตัวเอง แล้วเขาเองก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ คงสื่อสารกับพวกเธอไม่ได้แน่ๆ ซึ่งในเวลาต่อมาไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียด
“นักเรียน!”
“สวัสดีครับ/ค่ะอาจารย์!”
“วันนี้มีนักเรียนมาจากอิตาลีสามคนและจากอังกฤษหนึ่งคน จะย้ายมาเรียนกับพวกเราตั้งแต่วันนี้เนื่องจากย้ายตามผู้ปกครองมา”
“...”
“เชิญเข้ามา!”
ทันทีที่อาจารย์เอ่ยเชิญสี่สาวเข้ามา พวกเธอก็ค่อยๆก้าวออกมาแสดงตัวให้คนในห้องเห็น คนแรกเป็นเด็กสาวผมบลอนด์ทองยาวปล่อยสยาย เธอมีดวงตาสีน้ำเงินสดใสและใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้มแต่ก็สวยคมในเวลาเดียวกัน ใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางๆ
“Hi! I’m Frensissa! Nice to meet ya!”เสียงใสๆทักทายเพื่อนๆในห้องเป็นภาษาอังกฤษอย่างขันแข็ง “ฉันแฟรนซิสซ่านะ! เรียกเฟรนเฉยๆก็ได้!”
“เรามาริสซ่าและคาริสซ่า เป็นฝาแฝดกัน”ตามด้วยสาวน้อยผมน้ำตาลยาวสวมที่คาดผมทั้งสองคน เมริสซ่าแฝดพี่จะสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับสีส้มและแผดน้องคาริสซ่าจะสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับสีม่วง “ยินดีที่ได้รู้จัก”
“I’m Aries from England “และคนสุดท้าย สาวน้อยผมบลอนด์สั้นร่างเล็กจากอังกฤษ หน้าตาเธอดูน่ารักมากกว่าจะสวยและดูเป็นสาวขี้อายเสียด้วย “ฉันเอริส จากอังกฤษ ฝากตัวด้วยนะ”
“วู้ๆ!”
“น่ารักชะมัดเลย!”
“...”สึนะไล่สายตามองนักเรียนใหม่ที่มีท่าทางประหลาดด้วยความสงสัย ที่ว่าประหลาดน่ะไม่ใช่เพราะอะไรหรอก เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวผู้หญิงสามคนจากอิตาลี ลางสังหรณ์ของว่าที่บอสบอกว่าพวกเธอต้องไม่ใช่สาวน้อยธรรมดาแน่นอน หรือเธอคือมาเฟียกัน?
สวัสดีค่ะทุกคน! ขอโทษที่หายไปนานเลยนะคะ เดี๋ยวหลังจากนี้จะกลับมาอัพได้แล้วล่ะค่ะ! ขอสอบวันอาทิตย์นี้ให้เสร็จก่อนนะคะ เราจำวันสอบผิดค่ะ นึกว่าสอบวันเสาร์ แต่จริงๆมันคือวันอาทิตย์ค่ะ 555 ส่วนตัวคือตอนนี้ลุ้นเรื่องที่เรียนอยู่เหมือนกันค่ะ น่าจะรู้ผลเดือนกุมภาพันธ์นะคะ แล้วหลังมีนาคมจะเริ่มกลับไปลงฉบับเก่าค่ะ มีอะไรก็บอกได้นะคะ ติชมได้ค่ะ เราจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเนอะ แค่นี้ล่ะค่ะ ถ้ามีคำผิดทักท้วงได้นะ! บางที่เราขี้เกียจกลับไปอ่าน ถ้าไม่บอกว่าคุณรู้สึกยังไงเราก็ไม่รู้หรอกนะคะ มีอะไรก็บอกกันได้ค่ะ และอย่าลืมให้กำลังใจกันด้วยนะคะ! ทางใดก็ได้ค่ะ จะได้มีแรงใจและมีไฟในการแต่งต่อ ไปแล้วค่ะ บาย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น