ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 4 12.7 mm

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 85
      1
      12 พ.ย. 60

    ตอนที่ 4   12.7 mm

     

              “ค่อยๆเดินมาทางนี้ คาระ” หญิงสาวผมสีบอร์นทองเรียกคาระ

     

                คาระได้แต่ยืนนิ่งในท่าเตรียมต่อสู้และหันมองกลับไปมาระหว่างหญิงสาวที่ให้เรียกเธอว่า วาเลนไทน์ กับปีศาจในร่างหญิงสาวที่มีกรงเล็บอันน่าสยดสยองทั้งสองข้าง ความน่าไว้วางใจตกไปอยู่ที่ วาเลนไทน์ เพียงแต่ติดอยู่สิ่งหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้ คาระ ลังเล

     

                “เมื่อกี้ คุณพูดถึงพี่ของผมงั้นหรอ คิระ น่ะ” คาระถามโดยที่ยังไม่ขยับไปไหน

                “ใช่ คิระ ให้ฉันมารับตัวนายไปหาเขาน่ะ”

                “เป็นไปไม่ได้ คุณโกหก ผมจะไม่ไปไหนกับคุณ” คาระเริ่มหันปลายดาบมาที่ วาเลนไทน์

                “เสียใจด้วยนะ คาระเลือกฉันล่ะ เมี้ยว ฮิๆๆๆ” เธอใช้หลังมือที่มีกรงเล็บนั่นขึ้นบังปาก

                “หยุดนะ ไม่ไปกับใครทั้งนั้นล่ะ วาเลนไทน์ พี่ของฉันน่ะ...”

     

                ก่อนที่คาระจะพูดจบประโยค วาเลนไทน์ถอดผ้าคลุมออกอย่างรวดเร็วแล้วโยนมาตรงกลางระหว่างคาระกับปีศาจตนนั้น คาระมองตามผ้าคลุมนั้น เขาคิดผิด ผ้าคลุมนั้นไม่ได้อยู่ตรงกลางระหว่างเขากับปีศาจ  แต่มันปะทะเข้ากับร่างกายของปีศาจเข้าเต็มๆและมันบังหน้าของปีศาจที่กระโจนข้ามเตียงเข้าหาคาระ ร่างของปีศาจถูกกระแทกออกจากเส้นทางเดิมอย่างแรงไปด้านข้างอัดเข้ากับกำแพงตามด้วยกระสุนนับไม่ถ้วน

     

                “คาระ ถอยออกไป” วาเลนไทน์พุ่งตัวเข้ามาที่ปีศาจและใช้ปืนของเธอยิงเข้าใส่ระยะประชิด

     

                คาระหมอบตัวลงกับพื้นและคลานออกจากรัศมีการต่อสู้ ปีศาจใช้กรงเล็บแทงออกมาจากผ้าคลุมหมายให้เสียบทะลุวาเลนไทน์ แต่เธอหลบทันและถอยออกมาตั้งหลัก ปีศาจตนนั้นฉีกผ้าคลุมออกเป็นสองส่วนแล้วปล่อยทิ้งไว้บนพื้น คาระออกจากห้องนอนของเขาและลงไปยังชั้นล่างของบ้านอย่างลุกลน

     

                “โธ่ เอ้ย ”

     

                คาระใช้หลังมือปาดเหงื่อออกจากหน้าผากขณะที่วิ่งผ่านห้องนั่งเล่นไปยังประตูหน้าอย่างรวดเร็ว เสียงปืนของวาเลนไทน์ดังขึ้นอีกหลายครั้ง เมื่อคาระออกเปิดประตูออกมาจากตัวบ้าน แสงไฟสาดส่องมาที่ใบหน้าของคาระจนเขาต้องใช้มือขึ้นบังแสงนั้น

     

                “นี่เธอ เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงผู้ชายถาม

     

                แสงนั้นเลื่อนลงไปที่ลำตัวของคาระทำให้สามารถปรับสายตาได้ แสงนั้นมาจากไฟฉายของผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างบ้านของคาระนั่นเอง คาระไม่ได้ตอบคำถามนั้นและมองไปรอบๆด้วยความงุนงง

     

                “ใจเย็นก่อน วางมีดลง” ชายคนนั้นยกมือขึ้นทำท่าทางให้ใจเย็น

     

                คาระไม่ได้สนใจที่ชายคนนั้น บริเวณนั้นสว่างขึ้นมากเนื่องจากไฟตามบ้านที่อยู่ใกล้ๆสว่างจนลอดผ่านหน้าต่างออกมาภายนอก คาระหันมาที่ชายเพื่อนบ้านและมองไปยังดาบที่ตัวเองถืออยู่ เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด แต่คราวนี้มาจากที่ไกลออกไป ชายเพื่อนบ้านหลบเข้าหลังกำแพงรั้วบ้านฝั่งตรงข้าม

                ทันใดนั้นไฟทุกดวงดับลง ทำให้บริเวณนั้นกลับมามืดอีกครั้งหนึ่ง เสียงปืนจากห้องของคาระดังขึ้นอีกและมีแสงไฟสว่างวาบออกมา คาระพิงตัวกับประตูบ้านและก้มตัวลงด้วยความหวาดกลัว

     

                “ไฟมาดับอะไรตอนนี้เนีย” คาระพูดด้วยเสียงที่สั่น

     

                นอกจากเสียงปืน เสียงการต่อสู้ที่มาจากห้องของคาระและเสียงปืนจากที่ไกลออกไป ตอนนั้นเองเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นก้องไปทั่วเขต ตามมาด้วยเสียงประกาศภาวะฉุกเฉินจากเสาเครื่องกระจายเสียง

     

                ประกาศภาวะฉุกเฉิน ระดับ2  ประกาศภาวะฉุกเฉิน ระดับ2  เนื่องจากเขตที่6 และบางส่วนของเขตที่7 เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เราจึงต้องดำเนินการตัดไฟ ขอให้ทุกท่านอยู่แต่ภายในบ้านและออกห่างจากหน้าต่าง...

     

                เสียงประกาศวนซ้ำไปมา ชายเพื่อนบ้านของคาระรีบวิ่งกลับไปที่บ้านของตนเอง

     

                “เธอน่ะ กลับเข้าบ้านก่อนเถอะ” ชายคนนั้นตะโกนบอกคาระและเดินเข้าบ้านอย่างลุกลน

     

                ถ้าเข้าไปได้ก็ดีน่ะสิ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คาระยังคงยืนอยู่ที่เดิมในความมืดมิดที่มีเพียงแสงของดวงจันทร์ให้แสงสว่าง ทันใดนั้นประตูกระจกของห้องนอนแตกกระเด็นข้ามรั้วระเบียงตกมาที่สวนหน้าบ้านสิ่งที่ตกลงมาพร้อมกันคือร่างของปีศาจ

     

                “อา ฉันโกรธจริงๆแล้วล่ะเมี้ยว” ปีศาจตนนั้นยันตัวเองขึ้นแล้วหันมาที่คาระ “เจ้าน่ะ สิ่งที่ตัดสินใจไปมันถูกจริงๆหรอเมี้ยว ต้องการจริงๆหรอเมี้ยว”

     

                “เงียบเถอะน่ะ เขามีอิสระที่จะตัดสินใจ” วาเลนไทน์ยืนที่ระเบียงเล็งปืนไปที่ปีศาจ “นางฟ้าหรือซาตานจะก้าวก่ายการตัดสินใจไม่ได้” วาเลนไทน์กระโดดลงจากระเบียงมายืนขวางระหว่างคาระกับปีศาจ “เขามีอิสระมากที่สุดแล้ว”

     

                “อิสระงั้นหรอเมี้ยว  แบบนั้นจะดีจริงๆหรอเมี้ยว” ปีศาจตนนั้นยืนขึ้น “ตัดสินใจที่จะต้องถูกผูกมัด เพื่อไขว่คว้าสิ่งที่ตนเองไม่รู้ว่าคืออะไรงั้นหรอเมี้ยว เพื่อสิ่งที่ตนเองไม่ได้ต้องการงั้นหรอเมี้ยว” แสงสีแดงสองดวงสว่างขึ้นบนใบหน้าของปีศาจกลายเป็นดวงตา “โอกาสสุดท้ายเมี้ยว ครั้งหน้าจะเป็นการใช้ความรุนแรง ขอถามครั้งสุท้ายเมี้ยว พวกเราจะให้ทุกสิ่งแก่เจ้าเพื่อไขว่คว้าสิ่งที่เจ้าต้องการ จะมากับพวกเรามั้ยล่ะเมี้ยว คาระ”

     

                คาระได้แต่งุนงงกับคำเสนอนั้น “อิสระ ผมไม่เข้าใจ พวกคุณพูดถึงอะไรกัน ทำไมจะต้องเป็นผม”

     

                “ตอนนี้เธออาจจะไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น ขอร้องล่ะ ไปพบกับ คิระ อีกสักครั้ง” วาเลนไทน์พูดโดยยังคงเล็งปืนไปที่ปีศาจ

                “ไม่ คุณโกหก พี่ของผมน่ะ  ตายไปแล้ว” คาระพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

     

                วาเลนไทน์หันมาหาคาระด้วยสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้พูดอะไรออกไป

     

                “เวลามีจำกัดนะเมี้ยว” ปีศาจกระโจนเข้าหาวาเลนไทน์ในจังหวะนั้น


                กระสุนเข้าปะทะกับร่างของปีศาจทันทีที่เสียงปืนกลดังขึ้น ทำให้ปีศาจกระเด็นออกไป กระสุนยังคงพุ่งออกจากปากกระบอกปืนอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าจะหยุดลง วาเลนไทน์วิ่งเข้าหาคาระเปิดประตูบ้านและผลักเขาเข้าไปในบ้านจากนั้นก็ปิดประตูทันที คาระระหงายหลังลงกระแทกกับพื้น

     

                “อย่าพึ่งออกมาล่ะ” วาเลนไทน์ตะโกนบอกหลังบานประตู

     


                เสียงปืนหยุดลง แทนที่ด้วยเสียงของวาเลนไทน์กำลังพูดอะไรบางอย่าง คาระได้ยินไม่ชัดจึงไม่ได้สนใจ เขายันตัวเองขึ้นยืนและเปิดประตูเพื่อดูเหตการณ์ที่เกิดขึ้น

     

                “ปลอดภัยแล้วเจ้าหนุ่ม” วาเลนไทน์เดินสวนเข้ามาและผ่านตัวคาระไป หญิงสาวอีกคนหนึ่งที่เดินตามหลังเธอมานั้นทำให้คาระประหลาดใจ

     

                “ปีศาจนั่น หนีไปแล้ว ไม่นึกเลยจริงๆว่าวันนี้จะได้เจอกันอีก” เธอใช้นิ้วดันแว่นให้เข้าที่ ขมับข้างขวาเธอผูกเปียไว้เพียงข้างเดียวเป็นเอกลักษณ์ของเธอ


                “เอ๋ รูท เธอมาทำอะไรที่นี่”

                “แค่มาทำหน้าที่ของฉันน่ะ อย่าห่วงเลย” เธอเดินผ่านคาระเข้าไปในบ้าน

     

                คาระยืนนิ่งไปครู่หนึ่งด้วยความงุนงง

     

                “เฮ้ คาระ มีตะเกียงไฟฟ้าบ้างมั้ย ไม่อยากใช้ไฟฉายเท่าไหร่” วาเลนไทน์ส่งเสียงมาจากห้องครัว

     

                คาระได้สติก่อนที่จะปิดประตู เขาเดินมานั่งบนเก้าอี้นวมที่ห้องนั่งเล่นและวางดาบไว้ที่หน้าตักของตนเอง ในขณะที่รูทไล่ปิดผ้าม่านทุกผืนในบ้าน คาระสังเกตเห็นที่ข้อมือของรูทมีกำไลวงใหญ่คล้องอยู่ แม้จะอยู่ในความมืดแต่แสงอันน้อยนิดของดวงจันทร์ยังทำให้พอที่จะเห็นได้ลางๆ

               

                “เอ่อ รูท ที่แขนของเธอน่ะ...” คาระยังไม่ทันที่จะถาม รูทก็ชิงบอกเสียก่อน

                “นี่น่ะหรอ นายอยากเห็นสินะ รอสักครู่” เธอจับไปที่กำไลนั้น

                “แบบนี้ก็ โรแมนติก ไม่น้อยเลยล่ะ” วาเลนไทน์เดินมาโดยถือเทียนที่จุดไฟแล้วมาสองเล่ม

     

                ภายในห้องมีแสงสว่างมากขึ้นทำให้มองเห็นสีสันของสิ่งต่างๆมากขึ้น วาเลนไทน์นั่งลงที่โซฟาและยืดขาออกมาข้างหน้า รูทยังคงจับที่กำไลจากนั้นเธอและมองมาที่คาระ

     

                “Firefly” ทันทีที่รูทพูดจบ กำไลนั้นขยายตัวและยืดออกราวกับว่ามันจะกลืนกินแขนของเธอ มันยืดเลยออกมาจากมือก่อตัวเป็นรูปทรงกระบอกและก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้น เมื่อกำไลที่กลายเป็นของเหลวหนืดหยุดนิ่งก็กลายเป็นปืนกลหนักที่มีสามลำกล้องปืนยาวติดอยู่กับแกนตรงกลางซึ่งเชื่อมต่อกับแขนของรูท

     

                “โอ้ เธอไปเอาของแบบนั้นมาจากไหนกันเนีย ไม่สิ นี่เธอยิงไอปีศาจตัวเมื่อกี้ด้วยเจ้านี่หรอ” คาระประหลาดใจ

                “Firefly น่ะเป็นอาวุธที่ ท่านคิระให้ฉันมาโดยแลกกับการทำงานให้น่ะ” รูทพูดในขณะที่มองสิ่งนั้น

                “คิระ พี่ของฉันน่ะหรอ”

               

                รูทนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งและหันไปมองวาเลนไทน์ วาเลนไทน์พยักหน้าให้กับรูท รูทจึงหันกลับมาที่คาระ

     

                “ใช่ คิระ พี่ของนายให้ฉันมา” รูทกดปุ่มที่ตัวปืนนั้นก่อนที่ปืนจะกลายเป็นของเหลวหนืดอีกครั้งและหดกลับมาเป็นกำไล “ที่สำคัญ เขายังไม่ตาย”

                “นี่เธอ ” คาระขึ้นเสียง “ฉันได้รับผืนธงชาติด้วยตัวเองเลยนะ เป็นไปไม่ได้ที่พี่ของฉันจะมีชีวิตอยู่”

                “เธอเห็นศพคิระด้วยตาของเธอเองมั้ยล่ะ” วาเลนไทน์พูดสวนทันที

                “...” คาระสะอึกในทันที ที่วาเลนไทน์พูดมันทำให้คาระฉุกคิด “ไม่ ผมไม่เห็น”

                “เฮ้อ บางทีฉันก็สงสัยสิ่งที่คิระเชื่อนะว่า มนุษย์จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมากกว่าพวกต้นกำเนิด ฉันยังไม่เห็นเลย” วาเลนไทน์ถอนหายใจ

     

                รูทนั่งลงข้างวาเลนไทน์และยืดขาออกเช่นเดียวกับวาเลนไทน์ ทันใดนั้นวาเลนไทน์ก็หยิบปืนขึ้นเล็งไปยังหน้าต่างที่ถูกปิดด้วยผ้าม่าน ทำให้รูทและคาระตกใจไปตามกัน

     

                “มีคนเฝ้ามองเรามาสักพักแล้ว” วาเลนไทน์พูดด้วยเสียงแผ่วเบาขณะที่เธอยังคงนั่งในท่าเดิม “อย่าตื่นตระหนก เดี๋ยยวมันจะรู้ตัว”

                “คุณก็พูดง่ายน่ะสิ” คาระหลี่เสียงตัวเองลงเช่นกัน

                “อยู่ถัดไปอีกซอยหนึ่ง ไม่มีท่าทีคุกคาม แค่สังเกตการณ์” วาเลนไทน์ยังไม่ลดปืนลง

                “ปีศาจมันกลับมาหรอ” คาระถาม

                “ไม่ใช่แตกต่างออกไป แต่ฉันสัมผัสได้ว่ามีพลังปีศาจ” วาเลนไทน์ชักปืนอีกกระบอกหนึ่งขึ้นมา “อ๊ะ หนีไปแล้ว” เธอลดปืนลง

               

                คาระและรูทที่มีอาการเกร็งเริ่มผ่อนคลายลง ทันใดนั้นรูทก็เหมือนจะนึกอะไรออกขึ้นมาจึงลุกพรวดขึ้น ทำให้คาระตกใจอีกครั้ง

     

                “เราอยู่ที่นี่ไม่ได้ หลังจากที่ยิงปืนเสียงดังขนาดนั้น เจ้าหน้าที่คงจะต้องมาที่นี่แน่ๆ” รูทอธิบาย

                “ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง เฮ้อ” คาระโล่งใจ

                “เกรงว่าจะมีทหารตามาด้วยน่ะสิ และเราที่มีอาวุธติดตัวคงจะพูดกันยากหน่อย” วาเลนไทน์พูดขึ้น

                “เอ๋ ก็อธิบายให้ฟังก็คงยอมฟังกันน่ะแหละ”

                “เจ้าหน้าที่ก็ต้องสอบสวนพวกเรา ใช้เวลาหลายชั่วโมง อาจจะสงสัยเราเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบขึ้นด้วย อย่าลืมว่าตอนนี้ ฉุกเฉินระดับ2นะ” รูทอธิบาย

                “แต่...”

                “อธิบายกับ เจ้าหน้าที่ว่า มีปีศาจบุกเข้ามา พวกเราเลยแจกกระสุนปืนกลหนัก 12.7 มิลลิเมตร ที่เป็นอาวุธสงครามให้มันกินน่ะหรอ” วาเลนไทน์เสริม

     

                ครั้งนี้คาระเห็นด้วยที่จะต้องยอมหนีออกจากที่นี่ชั่วคราว คาระจึงเปลี่ยนชุดและเอาของใส่กระเป๋าเป้เท่าทีจำเป็นรวมถึงดาบที่ฟาเรนไฮต์ให้ไว้ไปด้วย

     

                “เราจะไปที่ไหนกันล่ะ” คาระถาม

                “เขตที่ห้า” รูทตอบ

                “ที่พักของพวกเราน่ะ” วาเลนไทน์เสริม “อ้อ ระหว่างทางอย่าพลัดหลงกันซะก่อนล่ะ ตอนนี้เธอคงจะรับมือกับพวกปีศาจไม่ไหว” วาเลนไทน์หันมาบอกกับคาระขณะที่มือจับลูกบิดประตู

                “ถ้าปีศาจชั้นต่ำล่ะก็ ผมพอสู้ได้อยู่นะ”

                “ปีศาจชั้นต่ำสามสี่ตัวที่รุมเข้ามาหานายพร้อมกัน โดยที่มีเล็บแหลมและฟันที่คมกริบพุ่งเข้าหานายเป็นอย่างแรกน่ะหรอ” รูทบรรยายให้คาระเห็นภาพ

                “อีกอย่าง” วาเลนไทน์ยิ้มมุมปาก “นักรบปีศาจข้ามเขตแดนมาที่นี่แล้ว"

     

    คาระหน้าซีดในทันทีเมื่อนึกถึงครั้งแรกที่พบกับพวกปีศาจ ฟาเรนไฮต์เคยบอกเขาว่า หนึ่งในสองตนนั้น เป็นนักรบปีศาจ มันต่างจากพวกชั้นต่ำมาก พวกมันมีพลังทัดเทียมนักรบสวรรค์ ก่อนที่เขาจะโดนเธอสกัดขาล้มลงกับพื้น เมื่อคาระนึกถึงก็ทำให้หลุดยิ้มออกมาทำให้วาเลนไทน์และรูทสงสัย

     

    “คิดถึงอะไรอยู่งั้นหรอ” วาเลนไทน์ถาม ทำให้คาระสะดุ้งหลุดออกจากเหตุการณ์ในอดีต

    “เอ่อ เปล่าครับ” คาระหน้าแดงด้วยความเขิน

    “เอาล่ะไปกันเถอะ” วาเลนไทน์เปิดประตูแล้วเดินนำออกไป ตามด้วยคาระและรูทปิดท้าย

     

    ภายนอกนั้นยังคงมืดเหมือนเดิม เสียงเตือนยังคงดังวนซ้ำไปมาอย่างนั้น เสียงปืนจากที่ห่างไกลยังคงดังต่อเนื่อง ถนนเล็กๆที่ผ่านหน้าบ้านคาระถูกเงาของตัวบ้านบังแสงดวงจันทร์เป็นระยะ ทั้งสามเดินไปตามถนนอย่างเงียบเชียบ เมื่อผ่านบางบ้านก็มีเสียงสนัขเห่าและผ้าม่านที่มีแสงสลัวลอดผ่านได้แง้มออกเป็นช่องเล็กๆ

     

    “นี่ คุณวาเลนไทน์ ผมขอถามอะไรได้มั้ย” คาระพูดด้วยเสียงที่เบา

    “ได้สิ” วาเลนไทนตอบขณะที่เธอชะเง้อข้ามพุ่มไม้ข้างทางเพื่อดูสิ่งที่อยู่ถัดออกไป

    “ทำไม ผมถึงมองเห็น ฟาเรน.. นางฟ้ากับพวกปีศาจได้ล่ะ แล้วพวกคุณก็เห็นมันด้วย”

    “รูท ฝากตอบคาระทีและคอยตรงนี้ก่อน ข้าจะนำไปดูทางแยกข้างหน้าก่อน”

    “รับทราบ” รูทตอบ ก่อนที่จะยืนพิงกำแพง “โลกมนุษย์ กับโลกอีกฝั่งจะมีเขตแดนกั้นอยู่ การก้าวข้ามมาจะต้องใช้พลังเวทที่สูง เมื่อข้ามมาแล้วใช่ว่ามนุษย์ทั่วไปจะมองเห็น คนที่มองเห็นจะต้องมีสัมผัสพิเศษ แต่นั่นก็มีคนแบบนั้นอยู่มากมาย”

    “แล้วพวกเราที่สามารถจับต้องได้ล่ะ” คาระถาม

    “ในกรณีของพวกเราที่จับต้องกันและกันได้ นั่นหมายถึง เขตแดนของตัวเราพังลง เพราะว่า เราเคยก้าวผ่านเขตแดนและกลับมาได้หรือเคยเฉียดตายน่ะแหละ”

    “หา รูทเธอเคยเฉียดตายมางั้นหรอ” คาระหลุดอุทานเสียงดัง

    “ชู่ว เบาๆ ใจเย็นก่อน ยังไม่ได้บอกอีกเหตุผลเลย” รูทใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากตัวเอง

    “ขอโทษ”

    “อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ...”

    “เฮ้ พวกเธอ ตามมาเร็วเข้า” วาเลนไทน์เรียกแล้วโบกมือให้ไปหา

    “แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ”

    “โอย บอกเลยไม่ได้หรอ” คาระหัวเสีย

    “มันไม่สำคัญเท่าเอาวิญญาณให้รอดจากคืนนี้หรอก” รูทดันตัวให้คาระเดินไป

    “เอ๋ ไม่ใช่เอา ชีวิตให้รอด หรอกหรอ” คาระเริ่มออกเดินโดยที่ยังหันกลับมาพูดกับรูท

    “พวกมันไม่สนว่านายจะมีชีวิตหรือไม่หรอก”

    “จริงด้วยแฮะ”

    “ทั้งสองคนเร็วเข้า” วาเลนไทน์เร่ง

     

              ทั้งสามคนเดินมาถึงถนนที่กว้างขึ้นรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้ ถนนนี้ทอดยาวจากตะวันตกของเขตไปจนสุดเขตทางตะวันออก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของต่างๆซึ่งตอนนี้ได้มีประตูเหล็กปิดกั้นทางเข้าร้านและบานกระจกที่ใช้จัดแสดงสินค้า

     

                “เราจะลัดเลาะตามถนนนี้เส้นนี้ไปทางตะวันตก” วาเลนไทน์หันมาบอกกับทั้งสองคนด้วยเสียงที่เบามากๆ

                “เส้นนี้มันต้องเข้าใกล้กับโรงเรียนของพวกเราไม่ใช่หรือคะ” รูทถาม

                “มีอะไรที่โรงเรียนเรางั้นหรอ” คาระสงสัย

                “นี่ นายจำสิ่งที่พวกเราทำไว้ไม่ได้หรือไง”

                “อ่า แย่ล่ะ แล้วสถานการณ์เป็นยังไงต่อ มีใครรู้มั้ย”

                “ไม่ต้องห่วงหรอก ไปต่อเถอะ อีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว” วาเลนไทน์แทรก

                “ยาวนานชะมัด”

     

                เสียงปืนเงียบหายไปสักพักหนึ่ง จุดที่ทั้งสามคนอยู่สามารถมองเห็นอาคารเรียนของโรงเรียนได้ บริเวณอาคารที่มีช่องโหว่ขนาดใหญ่จากแรงระเบิดถูกพันระโยงระยางด้วยแถบพลาสติกสีเหลืองซึ่งมีคำว่า KEEP OUT อยู่เต็มไปหมด


                “ดูไม่ได้เลยแฮะ” คาระกล่าว

                “น่าจะดีใจนะ นายน่ะ โรงเรียนหยุดชั่วคราวไปพักใหญ่” รูทอมยิ้ม

                “เพิ่มความระมัดระวังด้วย โรงเรียนอยู่ในเขตของปีศาจแล้ว” วาเลนไทน์เกล่าวเตือน

                “ไอตัวที่เกราะเหล็กเป็นหนามนั่นน่ะหรอ” คาระถาม

                “อืม” รูทพยักหน้า

     

                ทันใดนั้นเองมีกลุ่มนักรบในชุดเกราะเหล็กถือสิ่งของคล้ายกับปืนวิ่งเป็นแถวตัดผ่านถนนจากซอยข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งซึ่งเป็นทางเล็กๆลัดไปที่โรงเรียน วาเลนไทน์รีบดันตัวทั้งสองคนเข้าไปในส่วนโค้งของร้านค้าหนึ่งเพื่อให้มุมตึกบังพวกเขาไว้ คาระอดไม่ได้ที่จะชะโงกออกไปดู เมื่อนักรบวิ่งถึงอีกข้างหนึ่งของถนน ซอยที่กลุ่มนักรบวิ่งออกมา มีนักรบอีกตนหนึ่งออกจากซอยนั้นตามมา แต่ครั้งนี้นักรบตนนั้นลอยตัวจากพื้นสูงจากระดับหลังคารถยนต์เล็กน้อยบินตัดผ่านถนนไป คาระประหลาดใจในสิ่งที่เขาเห็น แต่ที่เขาให้ความสนใจคือปีกของนักรบนั้นเป็นเพียงโครงโลหะและมีละอองสีฟ้าคล้ายไอพ่นรูปร่างคล้ายกับปีก ปีกนั้นทำให้คาระรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นนักรบของสวรรค์ นักรบตนนั้นหันมาที่คาระ ภายใต้หมวกเหล็กที่ปิดบังใบหน้าเป็นส่วนใหญ่ไม่สามารถเห็นดวงตาได้ แต่คาระรับรู้ได้ทันทีว่าเขาจ้องมองมา ทำให้คาระตกใจสุดขีดจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตัวแข็งทื่อ

     

                “เจ้าบ้า” วาเลนไทน์ดึงตัวคาระกลับมาในทันที “อยากตายรึไง”

                “อ..อะ ผมขอโทษ แต่นั่นนักรบสวรค์นะครับ” คาระเสียงสั่น

                “ระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อย คาระ ฉันต้องพานายไปพบคิระก่อน” วาเลนไทน์หยิบปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม “ขอล่ะ ข้ายังไม่อยากเพิ่มศัตรู”

     

                วาเลนไทน์พุ่งตัวออกไปและเล็งปืนไปที่ที่นักรบตนนั้นมองคาระ เธอพร้อมจะเหนี่ยวไกปืนในทันที แต่ตรงนั้นกลับว่างเปล่า ไม่มีวี่แววว่าเคยมีใครอยู่ตรงนั้นมาก่อน วาเลนไทน์เก็บปืนเข้าซองและถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งใจ

     

                “ครั้งนี้พระเจ้าอยู่ข้างเธอนะ คาระ”

     

     

                ณ บ้านของคาระ ร่องรอยการต่อสู้ รอยกระสุน เศษกระจกที่สะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับ ปลอกกระสุนที่หล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นหน้าบ้าน เธอยืนอยู่บนกำแพงรั้วมองดูสิ่งที่เหลือทิ้งไว้จากการต่อสู้ จากนั้นก็กระโดดลงมาที่กองกระสุน ปลอกกระสุนนัดหนึ่งลอยขึ้นมาตรงหน้าของเธอ เธอคว้ามันไว้และจ้องมองมันอย่างพิจารณา

     

                “ปลอกปืนกลหนัก มนุษย์หรือ” เธอเสยผมสีเงินของเธอ “มีพลังวิญาณ”

     

                เธอกำปลอกกระสุนไว้แน่น และเดินตรงไปที่ประตูบ้าน ปีกขนนกของเธอหดหายไปที่แผ่นหลัง เธอดีดปลอกกระสุนนั้นทิ้งไปและกำมือที่ภายในเต็มไปด้วยความโกรธแน่นจนมือของเธอสั่น รอบๆตัวเธอเริ่มถูกเยือกแข็ง อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นติดลบ น้ำแข็งที่เย็นยะเยือกกำลังขยายวงกว้างออกจากตัวของเธอ

     

                “ข้าขอโทษนะ คาระ”

     

                ฟาเรนไฮต์หันกลับมาทางหน้าบ้าน นักรบที่ติดตามเธอมาต่างก็สะดุ้งเมื่อได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอ ตอนนี้เธอมีสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จโดยเร็ว

     

                “ข้าจะจบการรบนี้ให้ไวที่สุด” เธอหันกลับไปมองห้องนอนของคาระและหันกลับมา “มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนของเขตนี้ เคลื่อนที่”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×