คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 4 12.7 mm
ตอนที่ 4 12.7 mm
“ค่อยๆเดินมาทางนี้ คาระ” หญิงสาวผมสีบอร์นทองเรียกคาระ
คาระได้แต่ยืนนิ่งในท่าเตรียมต่อสู้และหันมองกลับไปมาระหว่างหญิงสาวที่ให้เรียกเธอว่า
วาเลนไทน์ กับปีศาจในร่างหญิงสาวที่มีกรงเล็บอันน่าสยดสยองทั้งสองข้าง
ความน่าไว้วางใจตกไปอยู่ที่ วาเลนไทน์ เพียงแต่ติดอยู่สิ่งหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้
คาระ ลังเล
“เมื่อกี้ คุณพูดถึงพี่ของผมงั้นหรอ
คิระ น่ะ” คาระถามโดยที่ยังไม่ขยับไปไหน
“ใช่ คิระ
ให้ฉันมารับตัวนายไปหาเขาน่ะ”
“เป็นไปไม่ได้ คุณโกหก
ผมจะไม่ไปไหนกับคุณ” คาระเริ่มหันปลายดาบมาที่ วาเลนไทน์
“เสียใจด้วยนะ คาระเลือกฉันล่ะ เมี้ยว
ฮิๆๆๆ” เธอใช้หลังมือที่มีกรงเล็บนั่นขึ้นบังปาก
“หยุดนะ ไม่ไปกับใครทั้งนั้นล่ะ
วาเลนไทน์ พี่ของฉันน่ะ...”
ก่อนที่คาระจะพูดจบประโยค
วาเลนไทน์ถอดผ้าคลุมออกอย่างรวดเร็วแล้วโยนมาตรงกลางระหว่างคาระกับปีศาจตนนั้น คาระมองตามผ้าคลุมนั้น
เขาคิดผิด ผ้าคลุมนั้นไม่ได้อยู่ตรงกลางระหว่างเขากับปีศาจ แต่มันปะทะเข้ากับร่างกายของปีศาจเข้าเต็มๆและมันบังหน้าของปีศาจที่กระโจนข้ามเตียงเข้าหาคาระ
ร่างของปีศาจถูกกระแทกออกจากเส้นทางเดิมอย่างแรงไปด้านข้างอัดเข้ากับกำแพงตามด้วยกระสุนนับไม่ถ้วน
“คาระ ถอยออกไป” วาเลนไทน์พุ่งตัวเข้ามาที่ปีศาจและใช้ปืนของเธอยิงเข้าใส่ระยะประชิด
คาระหมอบตัวลงกับพื้นและคลานออกจากรัศมีการต่อสู้
ปีศาจใช้กรงเล็บแทงออกมาจากผ้าคลุมหมายให้เสียบทะลุวาเลนไทน์
แต่เธอหลบทันและถอยออกมาตั้งหลัก ปีศาจตนนั้นฉีกผ้าคลุมออกเป็นสองส่วนแล้วปล่อยทิ้งไว้บนพื้น
คาระออกจากห้องนอนของเขาและลงไปยังชั้นล่างของบ้านอย่างลุกลน
“โธ่ เอ้ย ”
คาระใช้หลังมือปาดเหงื่อออกจากหน้าผากขณะที่วิ่งผ่านห้องนั่งเล่นไปยังประตูหน้าอย่างรวดเร็ว
เสียงปืนของวาเลนไทน์ดังขึ้นอีกหลายครั้ง เมื่อคาระออกเปิดประตูออกมาจากตัวบ้าน
แสงไฟสาดส่องมาที่ใบหน้าของคาระจนเขาต้องใช้มือขึ้นบังแสงนั้น
“นี่เธอ เกิดอะไรขึ้น
เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงผู้ชายถาม
แสงนั้นเลื่อนลงไปที่ลำตัวของคาระทำให้สามารถปรับสายตาได้
แสงนั้นมาจากไฟฉายของผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างบ้านของคาระนั่นเอง
คาระไม่ได้ตอบคำถามนั้นและมองไปรอบๆด้วยความงุนงง
“ใจเย็นก่อน วางมีดลง”
ชายคนนั้นยกมือขึ้นทำท่าทางให้ใจเย็น
คาระไม่ได้สนใจที่ชายคนนั้น
บริเวณนั้นสว่างขึ้นมากเนื่องจากไฟตามบ้านที่อยู่ใกล้ๆสว่างจนลอดผ่านหน้าต่างออกมาภายนอก
คาระหันมาที่ชายเพื่อนบ้านและมองไปยังดาบที่ตัวเองถืออยู่ เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด
แต่คราวนี้มาจากที่ไกลออกไป ชายเพื่อนบ้านหลบเข้าหลังกำแพงรั้วบ้านฝั่งตรงข้าม
ทันใดนั้นไฟทุกดวงดับลง
ทำให้บริเวณนั้นกลับมามืดอีกครั้งหนึ่ง เสียงปืนจากห้องของคาระดังขึ้นอีกและมีแสงไฟสว่างวาบออกมา
คาระพิงตัวกับประตูบ้านและก้มตัวลงด้วยความหวาดกลัว
“ไฟมาดับอะไรตอนนี้เนีย”
คาระพูดด้วยเสียงที่สั่น
นอกจากเสียงปืน
เสียงการต่อสู้ที่มาจากห้องของคาระและเสียงปืนจากที่ไกลออกไป
ตอนนั้นเองเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นก้องไปทั่วเขต
ตามมาด้วยเสียงประกาศภาวะฉุกเฉินจากเสาเครื่องกระจายเสียง
‘ ประกาศภาวะฉุกเฉิน
ระดับ2 ประกาศภาวะฉุกเฉิน ระดับ2
เนื่องจากเขตที่6 และบางส่วนของเขตที่7 เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
เราจึงต้องดำเนินการตัดไฟ ขอให้ทุกท่านอยู่แต่ภายในบ้านและออกห่างจากหน้าต่าง... ’
เสียงประกาศวนซ้ำไปมา
ชายเพื่อนบ้านของคาระรีบวิ่งกลับไปที่บ้านของตนเอง
“เธอน่ะ กลับเข้าบ้านก่อนเถอะ”
ชายคนนั้นตะโกนบอกคาระและเดินเข้าบ้านอย่างลุกลน
ถ้าเข้าไปได้ก็ดีน่ะสิ
ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คาระยังคงยืนอยู่ที่เดิมในความมืดมิดที่มีเพียงแสงของดวงจันทร์ให้แสงสว่าง
ทันใดนั้นประตูกระจกของห้องนอนแตกกระเด็นข้ามรั้วระเบียงตกมาที่สวนหน้าบ้านสิ่งที่ตกลงมาพร้อมกันคือร่างของปีศาจ
“อา ฉันโกรธจริงๆแล้วล่ะเมี้ยว”
ปีศาจตนนั้นยันตัวเองขึ้นแล้วหันมาที่คาระ “เจ้าน่ะ สิ่งที่ตัดสินใจไปมันถูกจริงๆหรอเมี้ยว
ต้องการจริงๆหรอเมี้ยว”
“เงียบเถอะน่ะ
เขามีอิสระที่จะตัดสินใจ” วาเลนไทน์ยืนที่ระเบียงเล็งปืนไปที่ปีศาจ
“นางฟ้าหรือซาตานจะก้าวก่ายการตัดสินใจไม่ได้”
วาเลนไทน์กระโดดลงจากระเบียงมายืนขวางระหว่างคาระกับปีศาจ “เขามีอิสระมากที่สุดแล้ว”
“อิสระงั้นหรอเมี้ยว แบบนั้นจะดีจริงๆหรอเมี้ยว” ปีศาจตนนั้นยืนขึ้น
“ตัดสินใจที่จะต้องถูกผูกมัด
เพื่อไขว่คว้าสิ่งที่ตนเองไม่รู้ว่าคืออะไรงั้นหรอเมี้ยว
เพื่อสิ่งที่ตนเองไม่ได้ต้องการงั้นหรอเมี้ยว” แสงสีแดงสองดวงสว่างขึ้นบนใบหน้าของปีศาจกลายเป็นดวงตา
“โอกาสสุดท้ายเมี้ยว ครั้งหน้าจะเป็นการใช้ความรุนแรง ขอถามครั้งสุท้ายเมี้ยว
พวกเราจะให้ทุกสิ่งแก่เจ้าเพื่อไขว่คว้าสิ่งที่เจ้าต้องการ
จะมากับพวกเรามั้ยล่ะเมี้ยว คาระ”
คาระได้แต่งุนงงกับคำเสนอนั้น “อิสระ
ผมไม่เข้าใจ พวกคุณพูดถึงอะไรกัน ทำไมจะต้องเป็นผม”
“ตอนนี้เธออาจจะไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น
ขอร้องล่ะ ไปพบกับ คิระ อีกสักครั้ง” วาเลนไทน์พูดโดยยังคงเล็งปืนไปที่ปีศาจ
“ไม่ คุณโกหก พี่ของผมน่ะ ตายไปแล้ว” คาระพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
วาเลนไทน์หันมาหาคาระด้วยสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้พูดอะไรออกไป
“เวลามีจำกัดนะเมี้ยว”
ปีศาจกระโจนเข้าหาวาเลนไทน์ในจังหวะนั้น
กระสุนเข้าปะทะกับร่างของปีศาจทันทีที่เสียงปืนกลดังขึ้น
ทำให้ปีศาจกระเด็นออกไป กระสุนยังคงพุ่งออกจากปากกระบอกปืนอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าจะหยุดลง
วาเลนไทน์วิ่งเข้าหาคาระเปิดประตูบ้านและผลักเขาเข้าไปในบ้านจากนั้นก็ปิดประตูทันที
คาระระหงายหลังลงกระแทกกับพื้น
“อย่าพึ่งออกมาล่ะ”
วาเลนไทน์ตะโกนบอกหลังบานประตู
เสียงปืนหยุดลง
แทนที่ด้วยเสียงของวาเลนไทน์กำลังพูดอะไรบางอย่าง คาระได้ยินไม่ชัดจึงไม่ได้สนใจ
เขายันตัวเองขึ้นยืนและเปิดประตูเพื่อดูเหตการณ์ที่เกิดขึ้น
“ปลอดภัยแล้วเจ้าหนุ่ม”
วาเลนไทน์เดินสวนเข้ามาและผ่านตัวคาระไป
หญิงสาวอีกคนหนึ่งที่เดินตามหลังเธอมานั้นทำให้คาระประหลาดใจ
“ปีศาจนั่น หนีไปแล้ว
ไม่นึกเลยจริงๆว่าวันนี้จะได้เจอกันอีก” เธอใช้นิ้วดันแว่นให้เข้าที่
ขมับข้างขวาเธอผูกเปียไว้เพียงข้างเดียวเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
“เอ๋ รูท เธอมาทำอะไรที่นี่”
“แค่มาทำหน้าที่ของฉันน่ะ
อย่าห่วงเลย” เธอเดินผ่านคาระเข้าไปในบ้าน
คาระยืนนิ่งไปครู่หนึ่งด้วยความงุนงง
“เฮ้ คาระ มีตะเกียงไฟฟ้าบ้างมั้ย
ไม่อยากใช้ไฟฉายเท่าไหร่” วาเลนไทน์ส่งเสียงมาจากห้องครัว
คาระได้สติก่อนที่จะปิดประตู
เขาเดินมานั่งบนเก้าอี้นวมที่ห้องนั่งเล่นและวางดาบไว้ที่หน้าตักของตนเอง
ในขณะที่รูทไล่ปิดผ้าม่านทุกผืนในบ้าน คาระสังเกตเห็นที่ข้อมือของรูทมีกำไลวงใหญ่คล้องอยู่
แม้จะอยู่ในความมืดแต่แสงอันน้อยนิดของดวงจันทร์ยังทำให้พอที่จะเห็นได้ลางๆ
“เอ่อ รูท ที่แขนของเธอน่ะ...”
คาระยังไม่ทันที่จะถาม รูทก็ชิงบอกเสียก่อน
“นี่น่ะหรอ นายอยากเห็นสินะ
รอสักครู่” เธอจับไปที่กำไลนั้น
“แบบนี้ก็ โรแมนติก ไม่น้อยเลยล่ะ”
วาเลนไทน์เดินมาโดยถือเทียนที่จุดไฟแล้วมาสองเล่ม
ภายในห้องมีแสงสว่างมากขึ้นทำให้มองเห็นสีสันของสิ่งต่างๆมากขึ้น
วาเลนไทน์นั่งลงที่โซฟาและยืดขาออกมาข้างหน้า รูทยังคงจับที่กำไลจากนั้นเธอและมองมาที่คาระ
“Firefly” ทันทีที่รูทพูดจบ
กำไลนั้นขยายตัวและยืดออกราวกับว่ามันจะกลืนกินแขนของเธอ
มันยืดเลยออกมาจากมือก่อตัวเป็นรูปทรงกระบอกและก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้น เมื่อกำไลที่กลายเป็นของเหลวหนืดหยุดนิ่งก็กลายเป็นปืนกลหนักที่มีสามลำกล้องปืนยาวติดอยู่กับแกนตรงกลางซึ่งเชื่อมต่อกับแขนของรูท
“โอ้
เธอไปเอาของแบบนั้นมาจากไหนกันเนีย ไม่สิ
นี่เธอยิงไอปีศาจตัวเมื่อกี้ด้วยเจ้านี่หรอ” คาระประหลาดใจ
“Firefly น่ะเป็นอาวุธที่ ท่านคิระให้ฉันมาโดยแลกกับการทำงานให้น่ะ”
รูทพูดในขณะที่มองสิ่งนั้น
“คิระ พี่ของฉันน่ะหรอ”
รูทนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งและหันไปมองวาเลนไทน์
วาเลนไทน์พยักหน้าให้กับรูท รูทจึงหันกลับมาที่คาระ
“ใช่ คิระ พี่ของนายให้ฉันมา” รูทกดปุ่มที่ตัวปืนนั้นก่อนที่ปืนจะกลายเป็นของเหลวหนืดอีกครั้งและหดกลับมาเป็นกำไล
“ที่สำคัญ เขายังไม่ตาย”
“นี่เธอ ” คาระขึ้นเสียง
“ฉันได้รับผืนธงชาติด้วยตัวเองเลยนะ เป็นไปไม่ได้ที่พี่ของฉันจะมีชีวิตอยู่”
“เธอเห็นศพคิระด้วยตาของเธอเองมั้ยล่ะ”
วาเลนไทน์พูดสวนทันที
“...” คาระสะอึกในทันที
ที่วาเลนไทน์พูดมันทำให้คาระฉุกคิด “ไม่ ผมไม่เห็น”
“เฮ้อ
บางทีฉันก็สงสัยสิ่งที่คิระเชื่อนะว่า
มนุษย์จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมากกว่าพวกต้นกำเนิด ฉันยังไม่เห็นเลย”
วาเลนไทน์ถอนหายใจ
รูทนั่งลงข้างวาเลนไทน์และยืดขาออกเช่นเดียวกับวาเลนไทน์
ทันใดนั้นวาเลนไทน์ก็หยิบปืนขึ้นเล็งไปยังหน้าต่างที่ถูกปิดด้วยผ้าม่าน
ทำให้รูทและคาระตกใจไปตามกัน
“มีคนเฝ้ามองเรามาสักพักแล้ว”
วาเลนไทน์พูดด้วยเสียงแผ่วเบาขณะที่เธอยังคงนั่งในท่าเดิม “อย่าตื่นตระหนก
เดี๋ยยวมันจะรู้ตัว”
“คุณก็พูดง่ายน่ะสิ”
คาระหลี่เสียงตัวเองลงเช่นกัน
“อยู่ถัดไปอีกซอยหนึ่ง
ไม่มีท่าทีคุกคาม แค่สังเกตการณ์” วาเลนไทน์ยังไม่ลดปืนลง
“ปีศาจมันกลับมาหรอ” คาระถาม
“ไม่ใช่แตกต่างออกไป
แต่ฉันสัมผัสได้ว่ามีพลังปีศาจ” วาเลนไทน์ชักปืนอีกกระบอกหนึ่งขึ้นมา “อ๊ะ
หนีไปแล้ว” เธอลดปืนลง
คาระและรูทที่มีอาการเกร็งเริ่มผ่อนคลายลง
ทันใดนั้นรูทก็เหมือนจะนึกอะไรออกขึ้นมาจึงลุกพรวดขึ้น ทำให้คาระตกใจอีกครั้ง
“เราอยู่ที่นี่ไม่ได้
หลังจากที่ยิงปืนเสียงดังขนาดนั้น เจ้าหน้าที่คงจะต้องมาที่นี่แน่ๆ” รูทอธิบาย
“ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง เฮ้อ” คาระโล่งใจ
“เกรงว่าจะมีทหารตามาด้วยน่ะสิ
และเราที่มีอาวุธติดตัวคงจะพูดกันยากหน่อย” วาเลนไทน์พูดขึ้น
“เอ๋
ก็อธิบายให้ฟังก็คงยอมฟังกันน่ะแหละ”
“เจ้าหน้าที่ก็ต้องสอบสวนพวกเรา
ใช้เวลาหลายชั่วโมง อาจจะสงสัยเราเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบขึ้นด้วย อย่าลืมว่าตอนนี้
ฉุกเฉินระดับ2นะ” รูทอธิบาย
“แต่...”
“อธิบายกับ เจ้าหน้าที่ว่า
มีปีศาจบุกเข้ามา พวกเราเลยแจกกระสุนปืนกลหนัก 12.7 มิลลิเมตร ที่เป็นอาวุธสงครามให้มันกินน่ะหรอ” วาเลนไทน์เสริม
ครั้งนี้คาระเห็นด้วยที่จะต้องยอมหนีออกจากที่นี่ชั่วคราว
คาระจึงเปลี่ยนชุดและเอาของใส่กระเป๋าเป้เท่าทีจำเป็นรวมถึงดาบที่ฟาเรนไฮต์ให้ไว้ไปด้วย
“เราจะไปที่ไหนกันล่ะ” คาระถาม
“เขตที่ห้า” รูทตอบ
“ที่พักของพวกเราน่ะ” วาเลนไทน์เสริม
“อ้อ ระหว่างทางอย่าพลัดหลงกันซะก่อนล่ะ ตอนนี้เธอคงจะรับมือกับพวกปีศาจไม่ไหว”
วาเลนไทน์หันมาบอกกับคาระขณะที่มือจับลูกบิดประตู
“ถ้าปีศาจชั้นต่ำล่ะก็
ผมพอสู้ได้อยู่นะ”
“ปีศาจชั้นต่ำสามสี่ตัวที่รุมเข้ามาหานายพร้อมกัน
โดยที่มีเล็บแหลมและฟันที่คมกริบพุ่งเข้าหานายเป็นอย่างแรกน่ะหรอ”
รูทบรรยายให้คาระเห็นภาพ
“อีกอย่าง” วาเลนไทน์ยิ้มมุมปาก
“นักรบปีศาจข้ามเขตแดนมาที่นี่แล้ว"
คาระหน้าซีดในทันทีเมื่อนึกถึงครั้งแรกที่พบกับพวกปีศาจ
ฟาเรนไฮต์เคยบอกเขาว่า ‘หนึ่งในสองตนนั้น เป็นนักรบปีศาจ
มันต่างจากพวกชั้นต่ำมาก พวกมันมีพลังทัดเทียมนักรบสวรรค์’ ก่อนที่เขาจะโดนเธอสกัดขาล้มลงกับพื้น
เมื่อคาระนึกถึงก็ทำให้หลุดยิ้มออกมาทำให้วาเลนไทน์และรูทสงสัย
“คิดถึงอะไรอยู่งั้นหรอ” วาเลนไทน์ถาม
ทำให้คาระสะดุ้งหลุดออกจากเหตุการณ์ในอดีต
“เอ่อ เปล่าครับ” คาระหน้าแดงด้วยความเขิน
“เอาล่ะไปกันเถอะ” วาเลนไทน์เปิดประตูแล้วเดินนำออกไป
ตามด้วยคาระและรูทปิดท้าย
ภายนอกนั้นยังคงมืดเหมือนเดิม เสียงเตือนยังคงดังวนซ้ำไปมาอย่างนั้น
เสียงปืนจากที่ห่างไกลยังคงดังต่อเนื่อง
ถนนเล็กๆที่ผ่านหน้าบ้านคาระถูกเงาของตัวบ้านบังแสงดวงจันทร์เป็นระยะ
ทั้งสามเดินไปตามถนนอย่างเงียบเชียบ
เมื่อผ่านบางบ้านก็มีเสียงสนัขเห่าและผ้าม่านที่มีแสงสลัวลอดผ่านได้แง้มออกเป็นช่องเล็กๆ
“นี่ คุณวาเลนไทน์ ผมขอถามอะไรได้มั้ย” คาระพูดด้วยเสียงที่เบา
“ได้สิ”
วาเลนไทนตอบขณะที่เธอชะเง้อข้ามพุ่มไม้ข้างทางเพื่อดูสิ่งที่อยู่ถัดออกไป
“ทำไม ผมถึงมองเห็น ฟาเรน.. นางฟ้ากับพวกปีศาจได้ล่ะ
แล้วพวกคุณก็เห็นมันด้วย”
“รูท ฝากตอบคาระทีและคอยตรงนี้ก่อน ข้าจะนำไปดูทางแยกข้างหน้าก่อน”
“รับทราบ” รูทตอบ ก่อนที่จะยืนพิงกำแพง “โลกมนุษย์
กับโลกอีกฝั่งจะมีเขตแดนกั้นอยู่ การก้าวข้ามมาจะต้องใช้พลังเวทที่สูง
เมื่อข้ามมาแล้วใช่ว่ามนุษย์ทั่วไปจะมองเห็น คนที่มองเห็นจะต้องมีสัมผัสพิเศษ
แต่นั่นก็มีคนแบบนั้นอยู่มากมาย”
“แล้วพวกเราที่สามารถจับต้องได้ล่ะ” คาระถาม
“ในกรณีของพวกเราที่จับต้องกันและกันได้ นั่นหมายถึง
เขตแดนของตัวเราพังลง เพราะว่า
เราเคยก้าวผ่านเขตแดนและกลับมาได้หรือเคยเฉียดตายน่ะแหละ”
“หา รูทเธอเคยเฉียดตายมางั้นหรอ” คาระหลุดอุทานเสียงดัง
“ชู่ว เบาๆ ใจเย็นก่อน ยังไม่ได้บอกอีกเหตุผลเลย”
รูทใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากตัวเอง
“ขอโทษ”
“อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ...”
“เฮ้ พวกเธอ ตามมาเร็วเข้า” วาเลนไทน์เรียกแล้วโบกมือให้ไปหา
“แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ”
“โอย บอกเลยไม่ได้หรอ” คาระหัวเสีย
“มันไม่สำคัญเท่าเอาวิญญาณให้รอดจากคืนนี้หรอก”
รูทดันตัวให้คาระเดินไป
“เอ๋ ไม่ใช่เอา ชีวิตให้รอด หรอกหรอ” คาระเริ่มออกเดินโดยที่ยังหันกลับมาพูดกับรูท
“พวกมันไม่สนว่านายจะมีชีวิตหรือไม่หรอก”
“จริงด้วยแฮะ”
“ทั้งสองคนเร็วเข้า” วาเลนไทน์เร่ง
ทั้งสามคนเดินมาถึงถนนที่กว้างขึ้นรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้
ถนนนี้ทอดยาวจากตะวันตกของเขตไปจนสุดเขตทางตะวันออก
สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของต่างๆซึ่งตอนนี้ได้มีประตูเหล็กปิดกั้นทางเข้าร้านและบานกระจกที่ใช้จัดแสดงสินค้า
“เราจะลัดเลาะตามถนนนี้เส้นนี้ไปทางตะวันตก”
วาเลนไทน์หันมาบอกกับทั้งสองคนด้วยเสียงที่เบามากๆ
“เส้นนี้มันต้องเข้าใกล้กับโรงเรียนของพวกเราไม่ใช่หรือคะ”
รูทถาม
“มีอะไรที่โรงเรียนเรางั้นหรอ”
คาระสงสัย
“นี่
นายจำสิ่งที่พวกเราทำไว้ไม่ได้หรือไง”
“อ่า แย่ล่ะ
แล้วสถานการณ์เป็นยังไงต่อ มีใครรู้มั้ย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ไปต่อเถอะ
อีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว” วาเลนไทน์แทรก
“ยาวนานชะมัด”
เสียงปืนเงียบหายไปสักพักหนึ่ง
จุดที่ทั้งสามคนอยู่สามารถมองเห็นอาคารเรียนของโรงเรียนได้
บริเวณอาคารที่มีช่องโหว่ขนาดใหญ่จากแรงระเบิดถูกพันระโยงระยางด้วยแถบพลาสติกสีเหลืองซึ่งมีคำว่า
KEEP OUT อยู่เต็มไปหมด
“ดูไม่ได้เลยแฮะ” คาระกล่าว
“น่าจะดีใจนะ นายน่ะ
โรงเรียนหยุดชั่วคราวไปพักใหญ่” รูทอมยิ้ม
“เพิ่มความระมัดระวังด้วย
โรงเรียนอยู่ในเขตของปีศาจแล้ว” วาเลนไทน์เกล่าวเตือน
“ไอตัวที่เกราะเหล็กเป็นหนามนั่นน่ะหรอ”
คาระถาม
“อืม” รูทพยักหน้า
ทันใดนั้นเองมีกลุ่มนักรบในชุดเกราะเหล็กถือสิ่งของคล้ายกับปืนวิ่งเป็นแถวตัดผ่านถนนจากซอยข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งซึ่งเป็นทางเล็กๆลัดไปที่โรงเรียน
วาเลนไทน์รีบดันตัวทั้งสองคนเข้าไปในส่วนโค้งของร้านค้าหนึ่งเพื่อให้มุมตึกบังพวกเขาไว้
คาระอดไม่ได้ที่จะชะโงกออกไปดู เมื่อนักรบวิ่งถึงอีกข้างหนึ่งของถนน ซอยที่กลุ่มนักรบวิ่งออกมา
มีนักรบอีกตนหนึ่งออกจากซอยนั้นตามมา
แต่ครั้งนี้นักรบตนนั้นลอยตัวจากพื้นสูงจากระดับหลังคารถยนต์เล็กน้อยบินตัดผ่านถนนไป
คาระประหลาดใจในสิ่งที่เขาเห็น แต่ที่เขาให้ความสนใจคือปีกของนักรบนั้นเป็นเพียงโครงโลหะและมีละอองสีฟ้าคล้ายไอพ่นรูปร่างคล้ายกับปีก
ปีกนั้นทำให้คาระรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นนักรบของสวรรค์ นักรบตนนั้นหันมาที่คาระ
ภายใต้หมวกเหล็กที่ปิดบังใบหน้าเป็นส่วนใหญ่ไม่สามารถเห็นดวงตาได้
แต่คาระรับรู้ได้ทันทีว่าเขาจ้องมองมา ทำให้คาระตกใจสุดขีดจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตัวแข็งทื่อ
“เจ้าบ้า”
วาเลนไทน์ดึงตัวคาระกลับมาในทันที “อยากตายรึไง”
“อ..อะ ผมขอโทษ
แต่นั่นนักรบสวรค์นะครับ” คาระเสียงสั่น
“ระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อย คาระ
ฉันต้องพานายไปพบคิระก่อน” วาเลนไทน์หยิบปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม “ขอล่ะ
ข้ายังไม่อยากเพิ่มศัตรู”
วาเลนไทน์พุ่งตัวออกไปและเล็งปืนไปที่ที่นักรบตนนั้นมองคาระ
เธอพร้อมจะเหนี่ยวไกปืนในทันที แต่ตรงนั้นกลับว่างเปล่า
ไม่มีวี่แววว่าเคยมีใครอยู่ตรงนั้นมาก่อน
วาเลนไทน์เก็บปืนเข้าซองและถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งใจ
“ครั้งนี้พระเจ้าอยู่ข้างเธอนะ คาระ”
ณ บ้านของคาระ ร่องรอยการต่อสู้
รอยกระสุน เศษกระจกที่สะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับ
ปลอกกระสุนที่หล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นหน้าบ้าน
เธอยืนอยู่บนกำแพงรั้วมองดูสิ่งที่เหลือทิ้งไว้จากการต่อสู้
จากนั้นก็กระโดดลงมาที่กองกระสุน ปลอกกระสุนนัดหนึ่งลอยขึ้นมาตรงหน้าของเธอ
เธอคว้ามันไว้และจ้องมองมันอย่างพิจารณา
“ปลอกปืนกลหนัก มนุษย์หรือ”
เธอเสยผมสีเงินของเธอ “มีพลังวิญาณ”
เธอกำปลอกกระสุนไว้แน่น
และเดินตรงไปที่ประตูบ้าน ปีกขนนกของเธอหดหายไปที่แผ่นหลัง เธอดีดปลอกกระสุนนั้นทิ้งไปและกำมือที่ภายในเต็มไปด้วยความโกรธแน่นจนมือของเธอสั่น
รอบๆตัวเธอเริ่มถูกเยือกแข็ง อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นติดลบ
น้ำแข็งที่เย็นยะเยือกกำลังขยายวงกว้างออกจากตัวของเธอ
“ข้าขอโทษนะ คาระ”
ฟาเรนไฮต์หันกลับมาทางหน้าบ้าน
นักรบที่ติดตามเธอมาต่างก็สะดุ้งเมื่อได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอ
ตอนนี้เธอมีสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จโดยเร็ว
“ข้าจะจบการรบนี้ให้ไวที่สุด”
เธอหันกลับไปมองห้องนอนของคาระและหันกลับมา “มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนของเขตนี้
เคลื่อนที่”
ความคิดเห็น