ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 2 Mid Night

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 33
      0
      14 มิ.ย. 60

    ตอนที่ 2 Mid Night

     

                “ไม่จริง มันเป็นไปได้ยังไง” คาระเสียงแหบแห้ง

                ยานเกราะลาดตระเวนเคลื่อนที่อีกครั้งหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าสู่แนวปะทะที่กำลังสำรองถอยกลับมา คิระเดินเข้ามาใกล้คาระ

                “ข้าขอโทษจริงๆคาระ มีหลายๆสิ่งที่ข้าอยากบอก” คิระโอบกอดคาระด้วยความคิดถึง “แต่ไว้หลังจากนี้เถอะนะ” คิระผละตัวออกมาแล้วขยี้ศีรษะของคาระ

                คาระที่กำลังสับสนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แล้วน้อมรับคำมั่นของคิระ

                “หลังจากนี้ผมคงต้องถามหลายๆเรื่องเหมือนกัน”

                “เอาหล่ะ พี่น้อง ข้าว่าเราไม่มีเวลามากนะ” วาเลนไทน์แทรก

                “นั่นสินะ รูท ธารา เรามาเปลี่ยนแผนกัน” คิระเรียก

     

     

                หน่วยย่อยของSAที่แยกออกจากหน่วยของธาราเคลื่อนที่ไปตามถนนเล็กๆที่ขนานกันถนนเส้นหลัก 07 หัวหน้าหน่วยย่อยวิ่งเหยาะๆนำหน้า เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นข้างหูเป็นสัญญาณให้หยุดเคลื่อนที่

                “เลี้ยวขวาที่แยกข้างหน้า ก็จะเข้าประสานกับหน่วยหลัก เตรียมตัวให้พร้อม เราไม่รู้ว่าศัตรูมีกี่คน”

                “รับทราบครับ”

                07เคลื่อนที่นำหน่วยอีกครั้ง คนอื่นๆวิ่งตาม ระหว่างทางเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหยุดยืนนิ่ง คนอื่นๆในหน่วยจึงต้องหยุดการเคลื่อนที่ตาม

                “โอ้ เวรละ” เจ้าหน้าที่ที่หยุดนิ่งอุทาน ร่างของเขาถูกผลักให้ล้มลงกับพื้นอย่างแรง เสียงเกราะเหล็กกระแทกกับพื้นส่งเสียงกังวานไปทั่วทั้งถนน

                “เจ้าหน้าที่ทุกคน เปิดนัยน์ตาเทวทูตเดี๋ยวนี้เลย”

                เจ้าหน้าที่ที่ถูกผลักล้มลงกับพื้นพยามใช้มือป้องกันใบหน้าของเขาจากบางสิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ทุกคนเปิดนัยน์ตาเทวทูตแล้วสิ่งแรกที่พวกเขาสัมผัสได้คือ เสียงกรีดร้องที่อัดกระแทกเข้ามาผ่านวิทยุสื่อสาร

                “โอ้ย” เจ้าหน้าที่ต่างเอามือปิดหูแต่ไม่สามารถทำได้เพราะติดหมวกเหล็ก บางคนถอดหมวกเหล็กของตนเองออก

                สิ่งที่ผลักให้เจ้าหน้าที่ล้มลงคือหญิงสาวร่างสีดำกำลังทุบตีเจ้าหน้าที่ด้วยความบ้าคลั่ง เธอกรีดร้องด้วยความอาฆาตแค้น เจ้าหน้าที่คนอื่นที่อยู่ใกล้กันกระโจนเข้าจับร่างของเธอและลากออกจากเจ้าหน้าที่ที่ล้มลง เธอพยายามขัดขืนอย่างสุดแรง เจ้าหน้าที่คนที่ลากเธอออกมาใช้ปืนพกสั้นยิงเธอหลายนัด ควันสีฟ้าระเบิดออกจากปากลำกล้องปืนหลายครั้งตามจำนวนกระสุนที่ยิงออกมา เธอหยุดขัดขืนและแน่นิ่งไปก่อนที่จะสลายไปในอากาศ

                “เอาล่ะ เด็กใหม่ทำตามที่ฝึกมาซะ” เจ้าหน้าที่รหัส07สั่งการอีกครั้ง

                เจ้าหน้าที่คนอื่นๆยังคงหวาดวิตกกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นแต่ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเองต่อตามที่ได้รับการฝึกมา เจ้าหน้าที่ที่ถูกโจมตีหมดสติไปหน้ากากกระจกมีรอยร้าวจนเกือบจะแตก เกราะเหล็กที่อกบิดเบี้ยวผิดรูปไปจากเดิมมาก เพื่อนของเขาเข้ามาตรวจสอบอาการ

                “นี่ 07 เรียก 0007วิทยุหาหน่วยหลัก

                “นี่คือ 00” ธาราตอบรับทางวิทยุ

                “หน่วยย่อยถูก วิญญาณเร่ร่อนหนึ่งตนโจมตี จัดการเรียบร้อย แต่ไม่สามารถปฏิบัติการต่อไปได้”

                “รับทราบ กลับมารวมพลที่จุดล่าถอย”

                “รับทราบ เลิกกัน” 07ปิดวิทยุของตนเอง

              07 เจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์มากที่สุด มองดูลูกน้องของตนเองที่กำลังหวาดวิตกและทำอะไรไม่ถูก เมื่อสบตากับเจ้าหน้าที่ผู้ที่ใช้ปืนสั้นสลายวิญญาณซึ่งเป็นเพื่อนของเขา เจ้าหน้าที่คนนั้นส่ายหน้าอย่างช้าๆ บ่งบอกว่าหน่วยของเขาไม่ไหวแล้ว ไม่ใช่เรื่องของร่างกาย แต่เป็นจิตใจของพวกเขาเอง

                “แค่วิญญาณเร่ร่อนที่คลั่ง นี่ยังไม่ใช่นักรบด้วยซ้ำ” เสียงของเขาแผ่วเบา

     

     

                “ไหนบอกว่าทหารจะเข้ามาไม่ใช่รึไง” คาระหัวเสีย

                “ไม่ใช่ทหารแล้วครับ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว” ธาราพยายามทำให้คาระใจเย็น

                “จะไม่มีใครเข้ามาช่วยเราเลยหรอ”

                “ที่เข้ามาจะเป็นหน่วยทหารของSA” คิระแทรก

                “หืม มีอาวุธเคมีเข้ามาเกี่ยวด้วยหรือนี่” คาระสงสัย

                “อ่า ก็อาจจะมี ล่ะ มั้ง ครับ” ธาราลังเลที่จะตอบ

                ลูกจรวดพุ่งตกมาหลังยานเกราะลาดตระเวนซึ่งศัตรูพยายามยิงยานเกราะนี้แต่ไม่โดน คาระ คนอื่นๆนอกจากเจ้าหน้าที่SA และธาราก้มตัวหลบตามเสียงระเบิด ตามด้วยเสียงปืนสามนิ้วจากยานเกราะ กระสุนจากปืนนี้สามารถยิงทะลุกำแพงที่หนาตามปกติได้จึงทำให้มีความได้เปรียบในการสังหารมากขึ้น

              “ศัตรูเริ่มรวมกลุ่มกันอีกครั้งแล้ว อีกไม่นานปืนสามนิ้วจะรับมือไม่ไหวนะครับ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรายงาน

                “เอาหล่ะ วาเลนไทน์ รูท คาระ ตามข้ามา เราจะไปที่โรงเรียนหลักของเขตนี้” คิระชี้ตัวเรียงตามลำดับ

                “เดี๋ยว นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ” ธาราขัด

                “นั่นมันศูนย์กลางของปัญหาเลยนะคะ” รูทเองก็ทัดทานเช่นกัน

                “ในเขตนี้ยังมีพลเรือนอยู่ หากไม่รีบจบปัญหา พวกเขาจะได้รับผลกระทบในเร็วๆนี้แน่ ทหารก็เป็นฝ่ายสนับสนุนแทนแล้ว นั่นหมายความว่า ผู้ปกครองของเขตนี้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปแล้ว” คิระอธิบาย

                “แล้วไม่อพยพคนออกหรอ” คาระสงสัย

                “เริ่มอพยพแล้วครับ แต่เป็นไปอย่างเงียบเชียบที่สุด โดยเริ่มจากรอบนอก” ธาราอธิบายเสริม

                “เราเสียวลาพอแล้วไปกันเร็วเข้า” คิระออกนำหน้าคนอื่นๆมุ่งตรงเข้าซอยเล็กๆซอยหนึ่งของถนนเส้นนั้น

                รูทแตะหลังคาระบอกโดยนัยว่าให้คาระไปได้แล้ว คาระเข้าใจความหมายนั้นดีจึงเริ่มออกเดินตามคิระ วาเลนไทน์ที่ตามมาหลังสุดหันกลับมามองธารา เขาผงกหัวให้เธอก่อนที่จะกลับไปสั่งการผู้ใต้บัญชาของเขา

                “เจ้าหน้าที่SA ได้เวลาติดดาบแล้ว อีกสามนาทีเข้ายึดพื้นที่คืนให้ได้ไวที่สุด” ธาราออกคำสั่ง

                “รับทราบ!” เจ้าหน้าที่ทุกนายขานรับ

                ฝ่ายตรงข้ามยังคงยิงปืนกลและลูกระเบิดมาเป็นระยะเพื่อขัดขวางหน่วยของธารา แต่ตอนนี้หน่วยของเขายังคงครองความได้เปรียบเนื่องจากรถลาดตระเวนที่มีปืนอันทรงพลังและแม่นยำในการสังหารสามารถข่มขวัญและลดจำนวนศัตรูได้ในคราวเดียวกัน

              หน่วยเจ้าหน้าที่ที่นำโดย07กลับมารวมกลุ่มที่จุดเดิมอีกครั้งแต่คราวนี้ต้องพยุงร่างที่ไร้สติของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งกลับมา เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในหน่วยนี้ต่างมีท่าทางเหนื่อยอิดโรย

                ธารารีบวิ่งมาดูอาการด้วยความเป็นห่วง เขาพยายามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่นั้นต่างไม่อยู่ในสภาพที่จะสามารถสื่อสารโต้ตอบได้ มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่เคยร่วมงานกับ07เท่านั้นที่ยังดูสบายดีคงเหลือเพียงความเครียดเล็กน้อยที่แสดงออกมาบนใบหน้า

                “ขอออกความเห็นครับ”07ขออนุญาต

                “ว่ามา”

                “พวกเค้าไม่พร้อมสำหรับนัยน์ตาเทวทูต มันทำให้เห็นมากเกินไป หมายถึงพวกเขาเข้าไปอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเขตแดน พวกวิญญาณ ปีศาจมันเข้าถึงตัวพวกเขาได้ไวกว่าที่พวกเขาจะเตรียมใจครับ”

                “แต่หากเราไม่มีสิ่งนี้ก็คงรับมือพวกมันไม่ได้แน่ แย่จริงเลย”

                “ผมจะนำคนที่พร้อม สนับสนุนแนวหน้าต่อไปครับ ขอคำสั่งด้วยครับ”

                “อืม เอาตามนี้ก่อน ไปได้” ธาราสั่งอนุญาต

                เจ้าหน้าที่SAบางคนนำโดย07ตรวจสอบอาวุธประจำกายของตนเองก่อนไปรวมพลบริเวณทางแยกหลักอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาเหล่านี้ถูกฝึกมาให้รับสภาพที่มีภาวการณ์กดดันสูง พวกเขาจึงปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมีวินัย แม้ว่าในใจของพวกเขาอยากจะยอมแพ้ก็ตาม

                ‘SAหน่วยที่12 กำลังตรึงกำลังทางทิศเหนือห่างจากกลางเมือง เขตที่7 สามกิโลเมตรเสียงดังกล่าวออกมาจากวิทยุที่เหน็บไว้ข้างเข็มขัด ‘SAหน่วยที่9 ดันข้าศึกจากทิศใต้ไปทางตะวันตก ข้าศึกถอยเริ่มถอยร่นออกไปแล้ว ธาราหยิบวิทยุของตัวเองขึ้นมาแล้วกดปุ่มส่งสัญญาณ

                “SAหน่วยที่13 ตั้งรับข้าศึกที่ย่านการค้าพร้อมดันข้าศึกไปทางตะวันตก เมื่อหน่วยที่9ใกล้ถึงย่านการค้าให้แจ้งมาด้วย เพื่อจะได้ประสานกำลัง จำกัดแนวรบไว้” ธารารายงานและออกคำสั่งกลับแจ้งให้หน่วยอื่นทราบ

                เจ้าหน้าที่นายหนึ่งส่งสัญญาณให้ธาราได้รับทราบโดยชี้ไปที่ข้อมือของตัวเองบ่งบอกว่าได้เวลาที่นัดกันไว้แล้ว ธาราเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าตอบรับ เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งยกเครื่องยิงลูกระเบิดขึ้นเล็งไปบนท้องฟ้าแล้วลูกระเบิดขนาดสี่สิบมิลลิเมตรก็พุ่งทะยานออกไปสองลูกและโค้งลงปะทะกับบางอย่างที่ฝั่งของศัตรูระเบิดออก สะเก็ดไฟและแรงอัดอากาศระเบิดขึ้นและกระจายไปอย่างรวดเร็ว

                ทางฝั่งศัตรูเกิดความวุ่นวายมากขึ้นเพราะมีคนที่บาดเจ็บและล้มตายทำให้อำนาจการยิงลดลง ปืนกลเบาก็ไม่สามารถหาจังหวะขึ้นยิงได้ พลปืนได้แต่ก้มลงให้รถยนต์ที่จอดนิ่งอยู่ช่วยกำบังให้ แต่เขาไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากล้องจับความร้อนของยานเกราะลาดตระเวนได้มองเห็นเขาตลอดเวลา ป้อมปืนหมุนไปทางเขาและส่งกระสุนออกไป เสียงของปืนสามนิ้วที่เป็นเอกลักษณ์ได้เตือนเขาถึงความตาย เสี้ยววินาทีต่อมากระสุนปะทะเข้ากับด้านหนึ่งของรถยนต์และพุ่งผ่านร่างกายของเขาไป แล้วสติของเขาก็ดับวูบไป

                ป้อมปืนของยานเกราะหันไปทางเป้าหมายต่อไปในทันทีแล้วลั่นกระสุนไปอีกหนึ่งนัด นัดต่อมาปืนสามนิ้วเพียงแค่ปรับองศาเล็กน้อยก่อนที่จะทำการยิง เจ้าหน้าที่SAแนวหน้าจัดแถวเป็นหน้ากระดานประทับปืนขึ้นบ่าแล้วกราดยิงไปข้างหน้าเป็นจังหวะ เมื่อแถวหน้าเริ่มเดินก็ปรับรูปขบวนเล็กน้อยเป็นสามเหลี่ยมชี้ไปด้านหน้า ฝ่ายศัตรูยิงตอบโต้มาบ้างกระสุนปะทะเข้าที่เกราะส่วนแขนของเจ้าหน้าที่และมันก็กระดอนออกไป

                “FOX 11 นี่00 ติดตามข้าศึกต่อไปด้วย” ธาราสั่งการผ่านวิทยุและมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด

                ‘FOX 11 ทราบแล้ว ทำการติดตามข้าศึก โดรนรูปแบบเครื่องบินขนาดเล็กบินนำไปทางทิศตะวันตก

                “Bravo 6 นี่00 ข้าศึกถอยร่นไปทางทิศตะวันตกเพื่อเข้าไปยังเขตห้า สกัดไว้ด้วย”

                “Bravo 6 รับทราบ” ธาราลดวิทยุลงก่อนที่จะถอนหายใจ “พวกกรรมการSAจะทำอะรกันแน่นะ” ธารามองดูนาฬิกาข้อมืออีกครั้งอย่างร้อนใจ เขาได้แต่ฟังรายงานจากวิทยุสื่อสารเพียงอย่างเดียวเพื่อที่จะประเมินสถานการณ์และตัดสินใจได้รวดเร็วที่สุด

              “ศัตรูเหลือรอดชีวิตสองรายครับ” เสียงรายงานดึงธาราออกจากความคิดของตน

                “เอาตัวมาขึ้นรถลำเลียง เจ้าหน้าที่14เป็นต้นไปกับยานเกราะลาดตระเวนเตรียมตัวประสานกำลังกับหน่วยที่9

                “รับทราบ!

                เจ้าหน้าที่SAนำตัวเชลยสองคนกลับมาที่รถลำเลียงซึ่งธารายืนรออยู่แล้ว 07ผลักเชลยคนหนึ่งมาข้างหน้าและกดไหล่ให้คุกเข่าลง เชลยยังคงมีท่าทีขัดขืนอยู่บ้าง

                “ES Lock07สั่งล็อคชุดเกราะของเขาเอง ดวงไฟสีฟ้าตามชุดเกราะดับลง  07จึงชกเข้าที่หน้าของเชลยคนนั้น หน้าของเชลยสะบัดไปตามแรง เลือดค่อยๆไหลออกจากปากของเขาหยดลงที่พื้น

                ธารายังคงยืนนิ่งมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่พูดอะไร เชลยสบถคำด่าออกมา 07เงื้อมือของเขาอีกครั้ง

                “เดี๋ยวก่อน” ธาราหยุดไว้ “คุณมาทำอะไรที่นี่” ธาราถามเชลย

                “...” เชลยเงยหน้าขึ้นมองธาราแล้วยิ้มทั้งที่เลือดยังคาอยู่ที่ริมฝีปาก

                “มัดตัวไว้แล้วจับมันนอนหงาย 09ลากถังน้ำกับผ้าขนหนูมานี่” ธาราสั่งอย่างราบเรียบ

                “เฮ้ พวกแกไม่มีสิทธิทรมานเชลยหรือผู้ร้ายนะตามรัฐธรรมนูญ...”เชลยค้าน

                “07 รายงานการปฏิบัติหน้าที่” ธาราสั่ง

                “SAปะทะกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายบริเวณย่านการค้าเขตที่เจ็ด ศัตรูตายหมด เจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อยครับ” 07รายงานตามคำสั่ง

                “ศัตรูไม่มีใครรอดชีวิต จึงไม่มีเชลย” ธาราตอบ “จับมันนอนหงายเดี๋ยวนี้”

                เชลยทั้งสองหน้าเปลี่ยนสีในทันทีเมื่อธาราออกคำสั่งอย่างจริงจัง

                “เอาหล่ะฉากนี้อาจจะรุนแรงเกินไปหน่อย แต่รับรองได้ว่าเราจะได้ความจริง” ธาราแสยะยิ้ม

               

               

                “ท่านครับ น้ำมันน้อยไปหรือเปล่าครับ” 07ถามธาราขณะที่ยังคงเทน้ำจากขวดลงไป

                “เราไม่ได้จะทำให้เขาจมน้ำ แต่ทำให้รู้สึกเหมือนจมน้ำ แค่นั้น” ธาราตอบ

                “งั้นที่คนแรกหมดสติไปล่ะครับ กลัวว่าจะจมน้ำตายเอาสินะครับ”

                “ก็ คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะ อะ! พอก่อน”

                07หยุดเทน้ำแล้วดึงผ้าออกจากใบหน้าเชลย

                “พอแล้ว พอแล้ว แค่ก แค่ก” เชลยพยายามสูดอากาศหายใจ “บอกแล้วๆ เฮ้อ” เขาสูดอากาศอีกครั้ง     “กันฉันไว้เป็นพยานและคุ้มกันอย่างดี ที่สุด”

                “ได้สิ” ธาราตอบ

                เมื่อเชลยบอกชื่อคนที่สั่งพวกเขา ธาราและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในบริเวณนั้นต่างพากันงุนงง

                หน่วยที่9กำลังจะถึงย่านการค้า ไม่พบศัตรูในบริเวณนี้ หน่วยที่9กำลัง…’ เสียงวิทยุดังแทรกเข้ามาแต่ไม่ได้ดึงให้ธราและเจ้าหน้าที่คนอื่นหายจากอาการงุนงง

                “ทราบแล้ว หน่วยที่13 จะเข้าสมทบ ขานรหัสด้วยหากไม่แน่ใจ” ธาราตอบกลับไปทั้งที่ยังติดใจกับชื่อที่ตนเองได้ยิน “เอาล่ะตามที่นัดกัน 14เป็นต้นไป สมทบกับหน่วยที่9 ที่เหลือนำเชลยกลับกองบัญชาการ” ธาราสลัดคำถามต่างๆออกไปและเริ่มสั่งการอีกครั้ง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×