ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 5 น้ำแข็งที่ร้อนระอุ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18
      0
      3 ธ.ค. 60

    ตอนที่ 5 น้ำแข็งที่ร้อนระอุ


       "หน่วยลาดตระเวนของนักรบปีศาจทราบเรื่องแล้วครับ แต่ทางนรกปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย" 
       "งั้นหรือ" แล้วพวกมันต้องการอะไรกันแน่...หญิงสาวผมสีเงินในชุดเกราะรำพึง

        ชุดเกราะสีเงินด้านตัดด้วยสีเหลืองทองหม่นตามขอบทำให้ดูสวยงามและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น แม้ว่าแผ่นเกราะจะหนาและหนักมากอยู่แล้วก็ตาม 
         เงามืดของอาคารไม่อาจกลบผมสีเงินและวงแหวนสีเหลืองอ่อนเหนือศีรษะของเธอได้ทั้งหมด ดวงตาสีฟ้าเข้มแวววาวเป็นประกายแต่กลับแฝงด้วยความดุดัน

         "ในเมื่อนักรบปีศาจมาถึงแล้ว นางฟ้าตกสวรรค์ที่เหลือหายไปไหนกัน" ไม่มีคำตอบใดๆส่งถึงเธอ "เช่นนั้น เข้าจับกุมนางฟ้าตกสวรรค์องค์แรกให้ได้ก่อนรุ่งสาง" เธอออกคำสั่งแก่นักรบสวรรค์
         "รับทราบ" นักรบในชุดเกราะหนาที่ดูเทอะทะตอบรับก่อนจากไปอย่างรวดเร็ว

         ปีกสังเคราะห์ เป็นปีกที่เกิดจากเครื่องแปลงพลังงานวิญญาณปลดปล่อยอนุภาควิญญาณออกมาตามโครงปีก รูปลักษณ์คล้ายปีกนก แต่มันจะโปร่งแสงและมีละอองสีฟ้ารอบๆ 
         นักรบสวรรค์ที่ไม่ถึงกับเป็นนางฟ้าจะไม่มีปีกนกเป็นของตน ปีกสังเคราะห์จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเคลื่อนที่ให้ใกล้เคียงกับนางฟ้าทั้งทางบกและอากาศ
         เพียงไม่นานสัญญาณการต่อสู้ได้เริ่มขึ้น ปีศาจชั้นต่ำรูปลักษณ์คล้ายวานรมีเล็บแหลมคมส่งเสียงข่มขู่แล้วกระโจนเข้าใส่นักรบสวรรค์ 

         จุดที่นักรบสวรรค์ยึดเป็นแนวตั้งรับคือเขตรอยต่อระหว่างตัวเมืองกับเขตที่พักอาศัย ซึ่งมีโรงเรียนหลักของเขตที่เจ็ดตั้งอยู่ตรงกลาง รอยต่อดังกล่าวยึดเอาถนนรอบโรงเรียนเป็นหลักเนื่องจากมีอาณาบริเวณกว้างขวาง
         โรงเรียนนี้มีถนนล้อมรอบประตูทางเข้าสี่ ประตูทางเข้าหลักอยู่ทางทิศใต้ ทางตะวันออกติดกับถนนเรียบแม่น้ำซึ่งขนานคู่กับถนนทางทิศตะวันตก มีเพียงทิศตะวันออกเท่านั้นที่ไม่ติดกับตัวเมือง 

         "เก็บกวาดปีศาจชั้นต่ำแถวนี้ให้หมด " นักรบสวรรค์ถ่ายทอดคำสั่งออกไป
         "รูฟัส เจ้าเป็นแนวปะทะแรก อย่าประมาทเด็ดขาด"
         "ฟาเรนไฮต์ เจ้าอย่ากังวลเลย ข้าเคยต่อกรกับนักรบปีศาจมากมาย" นักรบหนุ่มตอบ

         รูฟัส นักรบหนุ่มในชุดเกราะแบบเดียวกับนักรบสวรรค์ทั่วไปที่แตกต่างคือผ้าคลุมสีน้ำเงินที่บ่งบอกฐานะที่สูงกว่านักรบทั่วไป หมวกเหล็กของเขาบดบังใบหน้าเสียส่วนใหญ่ จึงมีเพียงดวงตาของเขาที่เฉิดฉายออกมาเพราะเป็นสีฟ้าและส่องประกายในความมืดเช่นเดียวกับฟาเรนไฮต์นักรบสาว

         "เอาหล่ะ กองรบของข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นเอง" รูฟัสตอบพร้อมกับชักดาบขึ้นจากข้างเอวและเคาะไปที่โล่ของเขา
         "..."

         ฟาเรนไฮต์ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ ไม่ใช่เพราะเชื่อในคำพูดของรูฟัส แต่เพียงเธอมีเรื่องที่ต้องห่วงมากกว่านั้น
         เธอยกดาบของตนขึ้นอย่างไม่รีบร้อน ในตอนนั้นเองมือข้างหนึ่งก็แตะไปที่ไหล่ของฟาเรนไฮต์ 

         "ไม่ต้องกังวล วาเลนไทน์ไว้ใจได้ เธอไม่ปล่อยให้คาระต้องเป็นอะไรแน่" หญิงสาวผมสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาจากด้านหลัง "ส่วนเหตุผลก็อีกเรื่องหนึ่ง"
         "ข้าเข้าใจแล้ว โรไมน์ แต่นั่นคือภารกิจของข้า" ฟาเรนไฮต์ตอบก่อนที่จะออกก้าวเดินนำไป 

         โรไมน์ไม่ได้ตามไป เธอปล่อยฟาเรนไฮต์ไปอย่างนั้น "เจ้าไม่เคยเป็นเช่นนี้ นอกจากเป็นเรื่องของ เสียงสะท้อน"


         "รับนี่ไปซะ!" รูฟัสตวัดดาบของตน ร่างของปีศาจชั้นต่ำก็ขาดออกเป็นสองส่วนในทันที ขี้เถ้าของปีศาจตนนั้นฟุ้งหายไปในอากาศและแทนที่ด้วยแรงอัดจากระเบิดแทบจะทันที เขายกโล่ขึ้นป้องกันได้อย่างฉิวเฉียด

         แท่นยิงลูกศรของปีศาจหน้าประตูทางเข้าหลักยังคงยิงกระหน่ำลงมายังถนนทางทิศใต้ซึ่งมุ่งตรงไปสู่กลางเมืองเขตที่ึเจ็ด 
         ไม่เพียงแต่แท่นยิงดังกล่าวเท่านั้น ปืนของนักรบปีศาจก็ยิงได้เช่นเดียวกันกับแท่นยิงเพียงแต่ในจำนวนที่น้อยกว่ามากเท่านั้น

         เมื่อนักรบของรูฟัสจัดการกับปีศาจชั้นต่ำหมดก็กลับมารวมกันยังกลางถนน ตั้งโล่เป็นแถวเรียงกันหกตนเดินขึ้นไปทางประตูหลัก รูฟัสซึ่งอยู่ตรงกลางมองลอดผ่านช่องว่างระหว่างโล่เพื่อดูสถานการณ์
         แท่นยิงถูกบรรจุลูกศรขึ้นใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วหันเล็งมายังแนวโล่พวกเขา

         "ตอนนี้ล่ะ จู่โจมได้" รูฟัสออกคำสั่ง

         นักรบสวรรค์ที่ตั้งแนวโล่ต่างกระจายตัวออกในทันทีและใช้ปีกสังเคราะห์บินขึ้นเหนือจากพื้นประมาณสามเมตรแล้วบินเข้าจู่โจมนักรบปีศาจหน้าประตูทันที
         รูฟัสบินตรงเข้าใช้ดาบแทงนักรบปีศาจตนที่อยู่หน้าสุด แต่มันยังฝืนหมายจะใช้ดาบแทงสวนกลับ รูฟัสไหวตัวได้ทันเหวี่ยงร่างของมันออกไปจากตัวเขา 
         นักรบสวรรค์บางตนกลับลงสู่พื้นดินเพื่อต่อสู้ระยะประชิด หอกสงครามของนักรบสวรรค์มีใบมีดที่ปลายหอกทั้งสองด้าน โดยที่ด้านหนึ่งจะยาวเป็นปลายแหลมไปด้านหน้าเยอะกว่า ช่องว่างตรงกลางสามารถยิงอนุภาควิญญาณออกมาเพื่อสร้างแรงระเบิดตรงหน้าได้ พวกเขาจึงไม่รอช้าใช้หอกสงครามนี้สร้างแรงระเบิดตรงหน้าเพื่อเปิดทางให้มีพื้นที่ต่อสู้
         นักรบปีศาจถูกผลักกระเด็นออกไปด้วยแรงระเบิด ทำให้นักรบสวรรค์กลับมาตั้งหลักกลางแนวรับของนักรบปีศาจได้
         แท่นยิงไม่สามารถใช้ยิงได้เนื่องจากต้องจัดการกับนักรบของรูฟัส

         ฟาเรนไฮต์นำนักรบอีกกลุ่มหนึ่งเข้าสมทบตามหลัง โดยเน้นโจมตีพวกนักรบปีศาจที่อยู่รอบๆ โรไมน์ซึ่งอยู่หน่วยรบเดียวกับฟาเรนไฮต์คอยจัดการกับศัตรูในระยะไกลออกมาด้วยธนูและปืนของนักรบสวรรค์
         เธอกวัดแกว่งดาบที่มีขนาดใหญ่และยาวซึ่งไม่สมดุลกับร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว เมื่อเธอกำลังจะถูกโจมตี เธอจะโยกตัวหลบอย่างรวดเร็วและตอบโต้กลับแทบจะทันที นั่นทำให้เธอครองความได้เปรียบในการต่อสู้ระยะประชิด

         หน่วยของรูฟัสตั้งแนวโล่ป้องกันอยู่ที่ประตูโรงเรียนแล้ว นักรบปีศาจในโรงเรียนไม่สามารถผ่านแนวโล่ออกมาเสริมกำลังภายนอกได้ นักรบของฟาเรนไฮต์จึงต่อสู่ได้ง่ายขึ้น
         ในไม่ช้าหอกสงครามของนักรบปีศาจจึงถูกนำมาใช้ เพื่อต่อต้านแนวรับของนักรบสวรรค์อันแข็งแกร่ง 
         หอกสงครามถูกแทงเข้าปะทะกับโล่ของนักรบสวรรค์ตนหนึ่ง มันเจาะทะลุโล่เข้าไปได้ไม่มากนัก หัวหอกที่ทะลุโล่เข้าไปได้นั้นเปรียบได้ดั่งกระสุน มันพุ่งเข้าใส่นักรบสวรรค์ผู้ที่ถือโล่นั้นภายในพริบตาเดียว
         นักรบสวรรค์สำลักของเหลวสีแดงภายในลำคอและล้มลงฟุบไปกับพื้น แม้ว่าจะเป็นนักรบสวรรค์ตนเดียวที่ต้องสูญเสียไป ทว่าแนวโล่ของพวกเขาเกิดช่องว่างขึ้นแล้ว
         รูฟัสรีบบีบแนวโล่ของตนให้ชิดกันแทบจะทันที แต่ไม่ทันเสียแล้ว ปลายหอกพุ่งผ่านช่องว่างแนวโล่กำบังเข้าเสียบร่างนักรบสวรรค์อีกตน นักรบปีศาจตนที่แทงดึงหอกของตนคืนจากร่างนั้นแล้วปล่อยให้ร่างนั้นล้มลงไปที่พื้นตามแรงดึงดูด

         "ถอย!" รูฟัสสั่งนักรบที่เหลือของเขา

         ครั้งนี้เขาบีบแนวโล่ได้ทัน แต่เมื่อจำนวนลดลงแนวโล่ไม่สามารถขวางกั้นประตูได้อีก ทำให้นักรบปีศาจแทรกออกมาด้านข้างได้ รูฟัสจึงต้องถอยแนวโล่ของเขาออกมาก่อนที่จะถูกล้อมสังหาร

         ฟาเรนไฮต์ดึงดาบออกจากร่างของนักรบปีศาจตนหนึ่ง เธอเห็นว่าสถานการณ์กำลังแย่ลง จึงผละจากตำแหน่งของเธอเข้าหนุนแนวโล่ของรูฟัส

         "พลปืน ใช้แท่นยิงของพวกมัน!" ฟาเรนไฮต์ออกคำสั่งนักรบของเธอ

         นักรบสวรรค์ซึ่งเป็นพลปืนกับโรไมน์ช่วยกันหมุนแท่นยิงหันเข้าหาโรงเรียน ด้านหน้าแท่นยิงมีแนวโล่ของรูฟัสขวางกั้นวิถี แต่โรไมน์ทำการยิงในทันที
         ลูกศรพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่แนวโล่นั้นได้ย่อตัวคุกเข่า ทำให้ลูกศรพุ่งผ่านเหนือศีรษะของพวกเขาเข้าไปยังกลุ่มนักรบปีศาจ
         ลูกศรแทงเข้ากับร่างของนักรบปีศาจและระเบิดออกแทบจะพร้อมกัน เศษชิ้นส่วนของเกราะ อาวุธและร่างกายกระเด็นแยกออกจากกัน ของเหลวสีดำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
         ฟาเรนไฮน์ซึ่งใช้ดาบของเธอป้องกันแทนโล่ แต่ดาบของเธอนั้นมีลักษณะเฉพาะที่มีช่องว่างตรงกลางของใบดาบ ทำให้ปลายดาบของเธอแยกเป็นสองฝั่ง เลือดของนักรบปีศาจบางส่วนจึงลอดผ่านช่องดาบเข้าเปรอะเปื้อนใบหน้าของเธอ

         ทางเข้าโรงเรียนหลักเหลือนักรบปีศาจเพียงไม่กี่ตน แต่พวกมันยังเข้าต่อสู้จนถึงตนสุดท้าย

         "อะไรที่ทำให้พวกมันยอมแลกวิญญาณทุกดวงเพื่อสิ่งนั้น" รูฟัสกล่าว
         "ถ้ามันสำคัญ เราจะได้คำตอบในเร็วๆนี้" ฟาเรนไฮน์ตอบ

         "ฟีเวอร์"

         ฟาเรนไฮน์หันไปตามเสียงนั้น แต่กลับไม่มีใครที่มีทีท่าว่าใครจะกล่าวคำนั้นออกมา เธอจึงหันกลับมาสนใจกับภารกิจต่อ

         "ข้าจะต้องไปเจรจากับราชินีแห่งความมืด" เสียงชายคนหนึ่งกล่าว
         "ไม่ได้เด็ดขาด เธอจะสังหารนักรบที่เกิดจากแสงทุกคน" เสียงของฟาเรนไฮน์ดังขึ้น
         "มีเพียงข้าเท่านั้น ที่เธออาจจะยอมรับฟัง"
         "ไม่ ทาราลิม ห้าม...ไว้ด้วย" 

         ฟาเรนไฮต์หันกลับไปมองด้านหลังอีกครั้ง ปรากฎเพียงนักรบของเธอที่ตามมาสมทบเท่านั้น เธอจึงหันกลับมาที่โรงเรียน
         ภาพตรงหน้าของเธอกลับกลายเป็น นักรบสวรรค์ผู้มีแสงอันเจิดจรัสและส่องสว่างมากกว่าใคร ในมือของเขาถือหอกเล่มยาวพร้อมแทงมาที่ฟาเรนไฮต์ 

         "เจ้า กำลังถูกล่อลวง" นักรบตรงหน้าเธอแทงหอกมาในทันทีที่สิ้นเสียง

         ฟาเรนไฮต์ไม่ทันตั้งตัวจึงไม่สามารถหลบได้ทัน หอกจึงแทงทะลุร่างของเธออย่างแม่นยำ เธอรีบหลับตาหยีด้วยความหวาดกลัว ร่างกายแข็งเกร็งตอบสนองในทันที

         ชั่วครู่หนึ่งเธอค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด หอกเล่มนั้นยังคงเสียบคาร่างของเธอ แต่เมื่อฟาเรนไฮต์เดินถอยออกมากลับเป็นร่างของนักรบสวรรค์อีกตนหนึ่งที่ถูกหอกเสียบ
         เพียงเสี้ยววินาทีนั้น ความรู้สึกต่างๆถามโถมเข้ามาที่เธอดุจคลื่นน้ำขนาดใหญ่ที่รุนแรง ความรู้สึกตกใจ หวาดกลัว โกรธเกรี้ยว สับสน เสียใจ คิดถึงโหยหา ประดังเข้ามาพร้อมกัน 


         "ฟาเรนไฮต์!"

         ฟาเรนไฮต์ได้สติอีกครั้งหนึ่งจากเสียงเรียก เธอค่อยๆลืมตาขึ้นพบว่าตนเองกำลังเอนตัวนอนหนุนหน้าขาของโรไมน์

        "ฟาเรนไฮต์ เจ้าเป็นอะไรไป" โรไมน์เรียกชื่อเธออย่างวิตกกังวล
        "เกิดอะไรขึ้น โรไมน์ เธอเป็นอะไร" 

         ฟาเรนไฮต์ยันตัวเองขึ้น ทันทีที่ฝ่ามือของเธอสัมผัสกับพื้น เธอก็สะดุ้งในทันที

         เย็นเฉียบ! 

         เธอจึงมองไปรอบๆ ปรากฎว่าเธอกับเหล่านักรบยังคงอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน แต่กลับมีก้อนน้ำแข็งวางขวางระเกะระกะ พื้นกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งบางส่วน
         รูฟัสพยายามใช้ดาบของตนทุบน้ำแข็งที่ตรึงเท้าทั้งสองข้างของเขาไว้อย่างทุลักทุเล

         "ฟาเรนไฮต์ เป็นอะไรไหม" เขาถามขณะที่กระทุ้งน้ำแข็งไปด้วย

         "นี่เกิดอะไรขึ้น น้ำแข็งนี้มัน..." 
         "อึก! ฟาเรนไฮต์ตัวของเจ้า ร้อน!"
         
         ฟาเรนไฮต์รีบลุกขึ้นยืนทันทีที่โรไมน์แสดงท่าทีทรมาน เธอเองก็รู้สึกร้อนวูบวาบเช่นเดียวกัน ไอความเย็นจากน้ำแข็งรอบๆดูท่าจะไม่ช่วยเธอเลย

         ไอความร้อนได้เล็ดลอดออกตามช่องแผ่นเกราะของฟาเรนไฮต์ทำให้อากาศรอบๆตัวของเธอดูเหมือนจะสั่นไหวได้

         "น้ำแข็งนี่...พลังเวท ข้าทำอะไรลงไป"
         
         
             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×