ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 5 น้ำแข็งที่ร้อนระอุ
ตอนที่ 5 น้ำแข็งที่ร้อนระอุ
"หน่วยลาดตระเวนของนักรบปีศาจทราบเรื่องแล้วครับ แต่ทางนรกปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย"
"งั้นหรือ" แล้วพวกมันต้องการอะไรกันแน่...หญิงสาวผมสีเงินในชุดเกราะรำพึง
ชุดเกราะสีเงินด้านตัดด้วยสีเหลืองทองหม่นตามขอบทำให้ดูสวยงามและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น แม้ว่าแผ่นเกราะจะหนาและหนักมากอยู่แล้วก็ตาม
เงามืดของอาคารไม่อาจกลบผมสีเงินและวงแหวนสีเหลืองอ่อนเหนือศีรษะของเธอได้ทั้งหมด ดวงตาสีฟ้าเข้มแวววาวเป็นประกายแต่กลับแฝงด้วยความดุดัน
"ในเมื่อนักรบปีศาจมาถึงแล้ว นางฟ้าตกสวรรค์ที่เหลือหายไปไหนกัน" ไม่มีคำตอบใดๆส่งถึงเธอ "เช่นนั้น เข้าจับกุมนางฟ้าตกสวรรค์องค์แรกให้ได้ก่อนรุ่งสาง" เธอออกคำสั่งแก่นักรบสวรรค์
"รับทราบ" นักรบในชุดเกราะหนาที่ดูเทอะทะตอบรับก่อนจากไปอย่างรวดเร็ว
ปีกสังเคราะห์ เป็นปีกที่เกิดจากเครื่องแปลงพลังงานวิญญาณปลดปล่อยอนุภาควิญญาณออกมาตามโครงปีก รูปลักษณ์คล้ายปีกนก แต่มันจะโปร่งแสงและมีละอองสีฟ้ารอบๆ
นักรบสวรรค์ที่ไม่ถึงกับเป็นนางฟ้าจะไม่มีปีกนกเป็นของตน ปีกสังเคราะห์จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเคลื่อนที่ให้ใกล้เคียงกับนางฟ้าทั้งทางบกและอากาศ
เพียงไม่นานสัญญาณการต่อสู้ได้เริ่มขึ้น ปีศาจชั้นต่ำรูปลักษณ์คล้ายวานรมีเล็บแหลมคมส่งเสียงข่มขู่แล้วกระโจนเข้าใส่นักรบสวรรค์
จุดที่นักรบสวรรค์ยึดเป็นแนวตั้งรับคือเขตรอยต่อระหว่างตัวเมืองกับเขตที่พักอาศัย ซึ่งมีโรงเรียนหลักของเขตที่เจ็ดตั้งอยู่ตรงกลาง รอยต่อดังกล่าวยึดเอาถนนรอบโรงเรียนเป็นหลักเนื่องจากมีอาณาบริเวณกว้างขวาง
โรงเรียนนี้มีถนนล้อมรอบประตูทางเข้าสี่ ประตูทางเข้าหลักอยู่ทางทิศใต้ ทางตะวันออกติดกับถนนเรียบแม่น้ำซึ่งขนานคู่กับถนนทางทิศตะวันตก มีเพียงทิศตะวันออกเท่านั้นที่ไม่ติดกับตัวเมือง
"เก็บกวาดปีศาจชั้นต่ำแถวนี้ให้หมด " นักรบสวรรค์ถ่ายทอดคำสั่งออกไป
"รูฟัส เจ้าเป็นแนวปะทะแรก อย่าประมาทเด็ดขาด"
"ฟาเรนไฮต์ เจ้าอย่ากังวลเลย ข้าเคยต่อกรกับนักรบปีศาจมากมาย" นักรบหนุ่มตอบ
รูฟัส นักรบหนุ่มในชุดเกราะแบบเดียวกับนักรบสวรรค์ทั่วไปที่แตกต่างคือผ้าคลุมสีน้ำเงินที่บ่งบอกฐานะที่สูงกว่านักรบทั่วไป หมวกเหล็กของเขาบดบังใบหน้าเสียส่วนใหญ่ จึงมีเพียงดวงตาของเขาที่เฉิดฉายออกมาเพราะเป็นสีฟ้าและส่องประกายในความมืดเช่นเดียวกับฟาเรนไฮต์นักรบสาว
"เอาหล่ะ กองรบของข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นเอง" รูฟัสตอบพร้อมกับชักดาบขึ้นจากข้างเอวและเคาะไปที่โล่ของเขา
"..."
ฟาเรนไฮต์ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ ไม่ใช่เพราะเชื่อในคำพูดของรูฟัส แต่เพียงเธอมีเรื่องที่ต้องห่วงมากกว่านั้น
เธอยกดาบของตนขึ้นอย่างไม่รีบร้อน ในตอนนั้นเองมือข้างหนึ่งก็แตะไปที่ไหล่ของฟาเรนไฮต์
"ไม่ต้องกังวล วาเลนไทน์ไว้ใจได้ เธอไม่ปล่อยให้คาระต้องเป็นอะไรแน่" หญิงสาวผมสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาจากด้านหลัง "ส่วนเหตุผลก็อีกเรื่องหนึ่ง"
"ข้าเข้าใจแล้ว โรไมน์ แต่นั่นคือภารกิจของข้า" ฟาเรนไฮต์ตอบก่อนที่จะออกก้าวเดินนำไป
โรไมน์ไม่ได้ตามไป เธอปล่อยฟาเรนไฮต์ไปอย่างนั้น "เจ้าไม่เคยเป็นเช่นนี้ นอกจากเป็นเรื่องของ เสียงสะท้อน"
"รับนี่ไปซะ!" รูฟัสตวัดดาบของตน ร่างของปีศาจชั้นต่ำก็ขาดออกเป็นสองส่วนในทันที ขี้เถ้าของปีศาจตนนั้นฟุ้งหายไปในอากาศและแทนที่ด้วยแรงอัดจากระเบิดแทบจะทันที เขายกโล่ขึ้นป้องกันได้อย่างฉิวเฉียด
แท่นยิงลูกศรของปีศาจหน้าประตูทางเข้าหลักยังคงยิงกระหน่ำลงมายังถนนทางทิศใต้ซึ่งมุ่งตรงไปสู่กลางเมืองเขตที่ึเจ็ด
ไม่เพียงแต่แท่นยิงดังกล่าวเท่านั้น ปืนของนักรบปีศาจก็ยิงได้เช่นเดียวกันกับแท่นยิงเพียงแต่ในจำนวนที่น้อยกว่ามากเท่านั้น
เมื่อนักรบของรูฟัสจัดการกับปีศาจชั้นต่ำหมดก็กลับมารวมกันยังกลางถนน ตั้งโล่เป็นแถวเรียงกันหกตนเดินขึ้นไปทางประตูหลัก รูฟัสซึ่งอยู่ตรงกลางมองลอดผ่านช่องว่างระหว่างโล่เพื่อดูสถานการณ์
แท่นยิงถูกบรรจุลูกศรขึ้นใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วหันเล็งมายังแนวโล่พวกเขา
"ตอนนี้ล่ะ จู่โจมได้" รูฟัสออกคำสั่ง
นักรบสวรรค์ที่ตั้งแนวโล่ต่างกระจายตัวออกในทันทีและใช้ปีกสังเคราะห์บินขึ้นเหนือจากพื้นประมาณสามเมตรแล้วบินเข้าจู่โจมนักรบปีศาจหน้าประตูทันที
รูฟัสบินตรงเข้าใช้ดาบแทงนักรบปีศาจตนที่อยู่หน้าสุด แต่มันยังฝืนหมายจะใช้ดาบแทงสวนกลับ รูฟัสไหวตัวได้ทันเหวี่ยงร่างของมันออกไปจากตัวเขา
นักรบสวรรค์บางตนกลับลงสู่พื้นดินเพื่อต่อสู้ระยะประชิด หอกสงครามของนักรบสวรรค์มีใบมีดที่ปลายหอกทั้งสองด้าน โดยที่ด้านหนึ่งจะยาวเป็นปลายแหลมไปด้านหน้าเยอะกว่า ช่องว่างตรงกลางสามารถยิงอนุภาควิญญาณออกมาเพื่อสร้างแรงระเบิดตรงหน้าได้ พวกเขาจึงไม่รอช้าใช้หอกสงครามนี้สร้างแรงระเบิดตรงหน้าเพื่อเปิดทางให้มีพื้นที่ต่อสู้
นักรบปีศาจถูกผลักกระเด็นออกไปด้วยแรงระเบิด ทำให้นักรบสวรรค์กลับมาตั้งหลักกลางแนวรับของนักรบปีศาจได้
แท่นยิงไม่สามารถใช้ยิงได้เนื่องจากต้องจัดการกับนักรบของรูฟัส
ฟาเรนไฮต์นำนักรบอีกกลุ่มหนึ่งเข้าสมทบตามหลัง โดยเน้นโจมตีพวกนักรบปีศาจที่อยู่รอบๆ โรไมน์ซึ่งอยู่หน่วยรบเดียวกับฟาเรนไฮต์คอยจัดการกับศัตรูในระยะไกลออกมาด้วยธนูและปืนของนักรบสวรรค์
เธอกวัดแกว่งดาบที่มีขนาดใหญ่และยาวซึ่งไม่สมดุลกับร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว เมื่อเธอกำลังจะถูกโจมตี เธอจะโยกตัวหลบอย่างรวดเร็วและตอบโต้กลับแทบจะทันที นั่นทำให้เธอครองความได้เปรียบในการต่อสู้ระยะประชิด
หน่วยของรูฟัสตั้งแนวโล่ป้องกันอยู่ที่ประตูโรงเรียนแล้ว นักรบปีศาจในโรงเรียนไม่สามารถผ่านแนวโล่ออกมาเสริมกำลังภายนอกได้ นักรบของฟาเรนไฮต์จึงต่อสู่ได้ง่ายขึ้น
ในไม่ช้าหอกสงครามของนักรบปีศาจจึงถูกนำมาใช้ เพื่อต่อต้านแนวรับของนักรบสวรรค์อันแข็งแกร่ง
หอกสงครามถูกแทงเข้าปะทะกับโล่ของนักรบสวรรค์ตนหนึ่ง มันเจาะทะลุโล่เข้าไปได้ไม่มากนัก หัวหอกที่ทะลุโล่เข้าไปได้นั้นเปรียบได้ดั่งกระสุน มันพุ่งเข้าใส่นักรบสวรรค์ผู้ที่ถือโล่นั้นภายในพริบตาเดียว
นักรบสวรรค์สำลักของเหลวสีแดงภายในลำคอและล้มลงฟุบไปกับพื้น แม้ว่าจะเป็นนักรบสวรรค์ตนเดียวที่ต้องสูญเสียไป ทว่าแนวโล่ของพวกเขาเกิดช่องว่างขึ้นแล้ว
รูฟัสรีบบีบแนวโล่ของตนให้ชิดกันแทบจะทันที แต่ไม่ทันเสียแล้ว ปลายหอกพุ่งผ่านช่องว่างแนวโล่กำบังเข้าเสียบร่างนักรบสวรรค์อีกตน นักรบปีศาจตนที่แทงดึงหอกของตนคืนจากร่างนั้นแล้วปล่อยให้ร่างนั้นล้มลงไปที่พื้นตามแรงดึงดูด
"ถอย!" รูฟัสสั่งนักรบที่เหลือของเขา
ครั้งนี้เขาบีบแนวโล่ได้ทัน แต่เมื่อจำนวนลดลงแนวโล่ไม่สามารถขวางกั้นประตูได้อีก ทำให้นักรบปีศาจแทรกออกมาด้านข้างได้ รูฟัสจึงต้องถอยแนวโล่ของเขาออกมาก่อนที่จะถูกล้อมสังหาร
ฟาเรนไฮต์ดึงดาบออกจากร่างของนักรบปีศาจตนหนึ่ง เธอเห็นว่าสถานการณ์กำลังแย่ลง จึงผละจากตำแหน่งของเธอเข้าหนุนแนวโล่ของรูฟัส
"พลปืน ใช้แท่นยิงของพวกมัน!" ฟาเรนไฮต์ออกคำสั่งนักรบของเธอ
นักรบสวรรค์ซึ่งเป็นพลปืนกับโรไมน์ช่วยกันหมุนแท่นยิงหันเข้าหาโรงเรียน ด้านหน้าแท่นยิงมีแนวโล่ของรูฟัสขวางกั้นวิถี แต่โรไมน์ทำการยิงในทันที
ลูกศรพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่แนวโล่นั้นได้ย่อตัวคุกเข่า ทำให้ลูกศรพุ่งผ่านเหนือศีรษะของพวกเขาเข้าไปยังกลุ่มนักรบปีศาจ
ลูกศรแทงเข้ากับร่างของนักรบปีศาจและระเบิดออกแทบจะพร้อมกัน เศษชิ้นส่วนของเกราะ อาวุธและร่างกายกระเด็นแยกออกจากกัน ของเหลวสีดำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
ฟาเรนไฮน์ซึ่งใช้ดาบของเธอป้องกันแทนโล่ แต่ดาบของเธอนั้นมีลักษณะเฉพาะที่มีช่องว่างตรงกลางของใบดาบ ทำให้ปลายดาบของเธอแยกเป็นสองฝั่ง เลือดของนักรบปีศาจบางส่วนจึงลอดผ่านช่องดาบเข้าเปรอะเปื้อนใบหน้าของเธอ
ทางเข้าโรงเรียนหลักเหลือนักรบปีศาจเพียงไม่กี่ตน แต่พวกมันยังเข้าต่อสู้จนถึงตนสุดท้าย
"อะไรที่ทำให้พวกมันยอมแลกวิญญาณทุกดวงเพื่อสิ่งนั้น" รูฟัสกล่าว
"ถ้ามันสำคัญ เราจะได้คำตอบในเร็วๆนี้" ฟาเรนไฮน์ตอบ
"ฟีเวอร์"
ฟาเรนไฮน์หันไปตามเสียงนั้น แต่กลับไม่มีใครที่มีทีท่าว่าใครจะกล่าวคำนั้นออกมา เธอจึงหันกลับมาสนใจกับภารกิจต่อ
"ข้าจะต้องไปเจรจากับราชินีแห่งความมืด" เสียงชายคนหนึ่งกล่าว
"ไม่ได้เด็ดขาด เธอจะสังหารนักรบที่เกิดจากแสงทุกคน" เสียงของฟาเรนไฮน์ดังขึ้น
"มีเพียงข้าเท่านั้น ที่เธออาจจะยอมรับฟัง"
"ไม่ ทาราลิม ห้าม...ไว้ด้วย"
ฟาเรนไฮต์หันกลับไปมองด้านหลังอีกครั้ง ปรากฎเพียงนักรบของเธอที่ตามมาสมทบเท่านั้น เธอจึงหันกลับมาที่โรงเรียน
ภาพตรงหน้าของเธอกลับกลายเป็น นักรบสวรรค์ผู้มีแสงอันเจิดจรัสและส่องสว่างมากกว่าใคร ในมือของเขาถือหอกเล่มยาวพร้อมแทงมาที่ฟาเรนไฮต์
"เจ้า กำลังถูกล่อลวง" นักรบตรงหน้าเธอแทงหอกมาในทันทีที่สิ้นเสียง
ฟาเรนไฮต์ไม่ทันตั้งตัวจึงไม่สามารถหลบได้ทัน หอกจึงแทงทะลุร่างของเธออย่างแม่นยำ เธอรีบหลับตาหยีด้วยความหวาดกลัว ร่างกายแข็งเกร็งตอบสนองในทันที
ชั่วครู่หนึ่งเธอค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด หอกเล่มนั้นยังคงเสียบคาร่างของเธอ แต่เมื่อฟาเรนไฮต์เดินถอยออกมากลับเป็นร่างของนักรบสวรรค์อีกตนหนึ่งที่ถูกหอกเสียบ
เพียงเสี้ยววินาทีนั้น ความรู้สึกต่างๆถามโถมเข้ามาที่เธอดุจคลื่นน้ำขนาดใหญ่ที่รุนแรง ความรู้สึกตกใจ หวาดกลัว โกรธเกรี้ยว สับสน เสียใจ คิดถึงโหยหา ประดังเข้ามาพร้อมกัน
"ฟาเรนไฮต์!"
ฟาเรนไฮต์ได้สติอีกครั้งหนึ่งจากเสียงเรียก เธอค่อยๆลืมตาขึ้นพบว่าตนเองกำลังเอนตัวนอนหนุนหน้าขาของโรไมน์
"ฟาเรนไฮต์ เจ้าเป็นอะไรไป" โรไมน์เรียกชื่อเธออย่างวิตกกังวล
"เกิดอะไรขึ้น โรไมน์ เธอเป็นอะไร"
ฟาเรนไฮต์ยันตัวเองขึ้น ทันทีที่ฝ่ามือของเธอสัมผัสกับพื้น เธอก็สะดุ้งในทันที
เย็นเฉียบ!
เธอจึงมองไปรอบๆ ปรากฎว่าเธอกับเหล่านักรบยังคงอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน แต่กลับมีก้อนน้ำแข็งวางขวางระเกะระกะ พื้นกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งบางส่วน
รูฟัสพยายามใช้ดาบของตนทุบน้ำแข็งที่ตรึงเท้าทั้งสองข้างของเขาไว้อย่างทุลักทุเล
"ฟาเรนไฮต์ เป็นอะไรไหม" เขาถามขณะที่กระทุ้งน้ำแข็งไปด้วย
"นี่เกิดอะไรขึ้น น้ำแข็งนี้มัน..."
"อึก! ฟาเรนไฮต์ตัวของเจ้า ร้อน!"
ฟาเรนไฮต์รีบลุกขึ้นยืนทันทีที่โรไมน์แสดงท่าทีทรมาน เธอเองก็รู้สึกร้อนวูบวาบเช่นเดียวกัน ไอความเย็นจากน้ำแข็งรอบๆดูท่าจะไม่ช่วยเธอเลย
ไอความร้อนได้เล็ดลอดออกตามช่องแผ่นเกราะของฟาเรนไฮต์ทำให้อากาศรอบๆตัวของเธอดูเหมือนจะสั่นไหวได้
"น้ำแข็งนี่...พลังเวท ข้าทำอะไรลงไป"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น