ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 8 Part of the days.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 17
      0
      9 ส.ค. 61

    ตอนที่ 8 Part of the days.



         "Bravo 6 และหน่วยรบพิเศษ เริ่มปฏิบัติการแล้วครับ คาดว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะกระจ่างชัด" นิลกาฬกล่าวขณะร่วมรับประทานอาหารกับหญิงสาวผู้ติดตามและผู้ปกครองทั้งสามเขต ภายในร้านอาหารที่เรียบหรูแห่งหนึ่งของเขตที่สาม

         ร้านอาหารดังกล่าวห่างจากส่วนราชการประมาณสามกิโลเมตร ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นข้าราชการและบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคน บางคนยังคงสวมเครื่องแบบประจำหน่วยงาน ซึ่งพวกเขาอาจกำลังปฏิบัติภารกิจหรือมีธุระที่ต้องร่วมมื้อค่ำนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับเขตนี้ ทว่าคืนนี้ นิลกาฬไม่อยากให้สะดุดตามากนัก เขาจึงเลือกชุดสูทและจองโต๊ะในมุมที่เขาเจาะจงโดยเฉพาะ

         "พวกเราก็หวังเข่นนั้น" ใบหน้าอันอ่อนหวานของเกรบยิ้มเล็กน้อย "เพราะอะไร...ถึงได้ทราบว่าเราทำงานด้านนี้"

         นิลกาฬหยุดช้อนซุปไว้กลางอากาศก่อนถึงริมฝีปากของเขา "ต้องขออภัยด้วยครับ หลังก่อตั้งสำนักงานได้ไม่นาน เราจะต้องประเมินทุกภัยคุกคาม แม้ว่าจะเป็นหน่วยงานของเราเอง"

         "ต้องขอโทษด้วยที่ใจร้อนไป" เกรบกล่าวก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหารต่อ
         
         "ไม่หรอกครับ ทางเราต่างหาก" นิลกาฬซดซุปแล้วกล่าวต่อ "อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจจับรังสีเฉพาะของ SA ทำให้เรารับรู้ตัวตนของพวกเขา แม้ว่าจะมีบางรหัสสีที่เรายังไม่เข้าใจ เราทราบมาแค่นั้น"

         หญิงสาวผู้ติดตามเกรบรับประทานอาหารอย่างเงียบๆ เสียงของสายฝนที่กระทบบานกระจกของร้านคอยบรรเลงคู่กับบทเพลงที่ออกจากลำโพงผสานกันอย่างลงตัว แสงไฟสีส้มอ่อนปรับบรรยากาศภายในร้านให้ดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น เสียงพูดคุยเบาๆ ภายในร้านราวกับเสียงกระซิบนั้นช่วยเสริมไม่ให้วังเวง รสชาติของอาหารเป็นที่ถูกปาก การบริการก็ดีเยี่ยม ทำให้เธอหลงใหล ปล่อยใจไปกับบรรยากาศนั้นจนแสดงออกทางสีหน้า

         "ผมขอถามเกี่ยวกับศัตรูของเราตอนนี้ได้ไหมครับ" นิลกาฬเปิดประเด็น

         เกรบหยุดการเคลื่อนไหวแล้วจ้องมองๆปที่นัยน์ตาฝ่ายตรงข้ามเพือประเมินสภาพจิตใจ ทว่าเขานึกได้ว่านิลกาฬซึ่งเป็นทหารนั้นถูกฝึกมาให้รับมือกับจิตใจพอสมควรจึงไม่กังขาในการให้ข้อมูล "เผ่าพันธุ์ที่มีพลังเวทมนต์ เข้าถึงพลังของธรรมชาติ และคุ้นเคยกับโลกแห่งความตาย"

         นิลกาฬตั้งใจฟังอย่างมาก มากเสียจนกระทั้งเขานั่งนิ่งไม่ไหวติง เกรบรับรู้ได้ว่าเขาพยายามไม่แสดงอาการหวั่นไหวออกมา

         "ร...เรามีวิธีรับมือหรือไม่ครับ" เมื่อเริ่มบทสนทนาต่อ บรรยากาศภายในร้านดูเย็นเยือก เสียงต่างๆ โดยรอบเริ่มเงียบหายไป

         "ถ้าหมายถึงอาวุธแล้วหล่ะก็..." เกรบเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ "หากพวกเขาก้าวข้ามมาที่โลกแห่งนี้ อาวุธของเราจะตอบโต้พวกเขาได้"
         "งั้นผมค่อยโล่ง..."

         "ทว่า มนุษย์นั้นมีส่วนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสองฝั่ง นั่นคือ วิญญาณ" เกรบแทรกขึ้น ตัดความหวังของนิลกาฬอย่างไม่ใยดี แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรืออาการที่ผิดหวังแต่อย่างใด คำพูดนั้นแสดงให้เห็นว่า มนุษย์จะถูกโจมตีจากอีกฝั่งของเขตแดนได้อย่างไร "แต่นั่นก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อมนุษย์มากนัก เพราะส่วนหนึ่งพวกเขาเลือกที่จะปล่อยให้ถูกครอบงำ" เกรบเสริม

         "เราทำได้แค่ป้องกันหรือครับ"
         "ในตอนนี้ แค่ป้องกันก็เต็มกลืนแล้ว พวกเรายังไม่พร้อม"  เกรบวางช้อนลง "แล้ว...เรื่องจัดตั้งศูนย์สั่งการเฉพาะ ฝ่ายทหารยอมง่ายๆ เลยหรือ" เกรบจงใจเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้นิลกาฬเครียดเกินไปในการทำความเข้าใจในเรื่องที่ยาก

         "เอ่อ...เพราะเราได้ข่าวมาบ้างครับ เหตุผลหลักคือ ทุกภารกิจของ SA เกี่ยวข้องกับผู้มีอิธิพลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ผมจึงโน้มน้าวมาทางนี้ครับ"
         "เหตุผลรองหล่ะ" 

         "..." นิลกาฬมีสีหน้าลำบากใจกว่ามากในข้อนี้ "อ..เอ่อ...ขออภัยด้วยครับ ต้องบอกตามตรงว่า เราปรารถนาวิทยาการครับ"

         เกรบยิ้มที่มุมปาก แววตาไร้ซึ่งความผิดหวังใดๆ ราวกับเขารู้คำตอบนั้นอยู่แล้ว

         "นั่นคือสิ่งที่ผลักดันให้มนุษย์พิเศษ ผลไม้แห่งปัญญานำพามาถึงจุดนี้"

         นิลกาฬคิ้วขมวดเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เกรบกล่าวถึง แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป


         มื้อค่ำของพวกเขาดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น โดยการอารักขาของหน่วยรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบ ทว่าผู้คนส่วนมากกลับมองออกเพราะพวกเขาใช้รูปแบบที่คุ้นเคย ร่างกายกำยำสวมชุดสูทสีดำ สายวิทยุที่ที่มองเห็นเด่นชัด 

         ภายนอกอาคาร หน่วยรักษาความปลอดภัยยืนหลบฝนในที่ร่มคอยตรวจตราสิ่งผิดปกติเท่าที่สามารถจะทำได้ แต่นั่นก็ไม่อาจเพียงพอต่อศัตรูของพวกเขา

         "ตรวจสอบจำนวนคนด้วย" หัววหน้าชุดรักษาความปลอดภัยพูดผ่านวิทยุ

         "หน้าร้านครบครับ ห้าคน"
         "หลังร้านครบ...เดี๋ยวนะ" ทุกคนในหน่วยได้ยินเหมือนกันทั้งหมด "มีสิ่งผิดปกติ...อ๊ะ!...."

         หัวหน้าชุดหน้าเครียดชี้ไปที่ลูกน้องสองคน พวกเขาวิ่งฝ่าฝนไปยังด้านหลังในทันที ตอนนี้ด้านหน้าร้านเหลือเพียงสามคน สิ่งผิดปกติที่ไม่ได้รับรายงานจากหลังร้านดึงความสนใจของพวกเขาไป 

         ชายในชุดกันฝนสีขาวขุ่นเดินเข้าประชิดหนึ่งคนในหน่วยโดยที่เขาไม่ทันระวังตัว ชายในชุดกันฝนนั้นล็อกคอเขาแล้วใช้มีดแทงปักลงที่หน้าอกอย่างแรงสามครั้ง เสียงที่ลอดผ่านลำคอของเขาออกมานั้นถูกเสียงสายฝนกลบไปจนสิ้น ชายในชุดกันฝนรอจนร่างนั้นแน่นิ่งแล้วทิ้งร่างไร้ชีวิตลงกองกับพื้นที่ชื้นแฉะและมุ่งหน้าตรงไปยังเป้าหมายอีกคนในทันที ซึ่งอยู่ภายใต้ชายคาที่อยู่ถัดไป

         ปุปุ! ปุ! 
         
         ชายในชุดกันฝนถูกยิงจากข้างหลังเข้าที่ลำตัวสองนัด และเข้าที่ศีรษะในนัดสุดท้าย ร่างในชุดกันฝนล้มลงกับพื้นก่อนจะเข้าใต้ชายคาเป้าหมาย 

         พนักงานรักษาความปลอดภัยรู้สึกตัวถึงเสียงร่างกระแทกพื้นจึงหันไปตามเสียง ผู้ที่เป็นคนยิงชายในชุดกันฝนคือพนักงานรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบอย่างแท้จริง เขาใส่ชุดพลเรือนทั่วไป เว้นแต่ปืนพกที่ใส่กระบอกเก็บเสียงนั้น ที่ผิดปรกติอย่างมาก
         เขารีบตรวจสอบรอบตัวว่า เหลือภัยคุกคามหรือไม่ ทว่ารอบตัวเขามีแต่สายฝน

         "ระวังตัวมากกว่านี้หน่อย" พนักงานรักษาความปลอดภัยในชุดพลเรือนตรวจชีพจรของผู้ที่ถูกมีดแทง ชายผู้เป็นเป้าหมายพยักหน้ารับ

         "อันตรายระดับสีส้ม รายงานสถานการณ์หลังร้านด้วย" หัวหน้าชุดออกคำสั่ง

         ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมายังหัวหน้าชุด

         "กลับเข้าไปในร้าน พาตัว VIP ไปยังที่ปลอดภัย" หัวหน้าชุดกล่าว
         "ครับ" พนักงานทั้งสองกลับเข้าไปในร้านอาหารทันที

         บรรยากาศภายนอกนั้น แม้จะมีเสียงฝนพรำอยู่ไม่ขาดสาย ทว่านั่นกลับเป็นเสียงเดียวที่สร้างความกดดันเช่นกัน เมื่อไร้เสียงตอบรับจากลูกน้องของเขา



         โต๊ะที่อยู่ด้านหน้าของโต๊ะที่นิลกาฬจอง ชายและหญิงลูกค้าลุกขึ้นจากโต๊ะและตรงเข้าไปยังโต๊ะของนิลกาฬ ฝ่ายชายเดินเข้าไปที่ด้านหลังของนิลกาฬ กระซิบบางอย่างที่ข้างหู

         ตึง! หัวหน้าชุดผลักบานประตูเข้ามาในร้านอย่างแรง ลูกค้าทุกคนในร้านต่างหันไปมองในทันที หัวหน้าบริกรต้องเข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยอย่างเร่งรีบเพื่อรักษาบรรยากาศภายในร้านไว้ไม่ให้รบกวนลูกค้าคนอื่น

         หน่วยรักษาความปลอดภัยพยุงตัวเกรบให้ลุกขึ้นเพื่อเข้าไปยังหลังร้าน ผู้ติดตามสาวและนิลกาฬตามไปอย่างติดๆ


         พรึบ! แสงไฟในร้านดับลงอย่างฉับพลัน ลูกค้าในร้านต่างเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ ความมืดเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ

         "เกิดอะไรขึ้น ไฟช่วงตึกค่อยๆ ไล่ดับเป็นส่วนๆ " พนักงานขับรถถามเข้ามายังหัวหน้าชุด

         "ไม่รู้ว่าศัตรูมีจำนวนเท่าไร เตรียมปืนกลมือท้ายรถให้ด้วย" หัวหน้าชุด และลูกน้องอีกสองคน ยืนสกัดทางเข้าออกด้านหน้าของร้าน 
         "ทราบ จากจุดนี้ ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว" พนักงานขับรถรายงาน

         กลุ่มของเกรบเมื่อสายตาปรับให้คุ้นเคยกับความมืด จึงเลือกเคลื่อนที่ผ่านทางห้องครัวเพื่อออกไปยังประตูหลัง พ่อครัวและบริกรต่างพยายามตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างชุลมุน แสงไฟฉายสาดส่องสะเปะสะปะ ไฟสำรองในร้านเองก็ไม่สามารถใช้ได้

         กรีด! กรีด! เสียงปีกแมลงเสียดสีกันในอากาศ ดวงไฟสีเหลืองอันน่าสยดสยองส่องแสงวูบวาบอย่างเฉื่อยๆ นั่นไม่ใช่แสงของหลอดไฟ เจ้าของดวงไฟนั่นใช้ร่างของพ่อครัวกำบังใบหน้าของมัน ที่ท้องของพ่อครัวมีบางอย่างเสียบทะลุออกมาคล้ายใบมีดขนาดใหญ่ที่มีฟันเลื่อยแหลมคม ของเหลวสีแดงไหลหยดลงพื้นห้องครัวเจิ่งนอง

         "สมุนรับใช้ของ เกลซี" เกรบกล่าวด้วยเสียงแผ่ว

         ตั๊กแตนตำข้าวร่างยักษ์ สูงเกือบเท่าเพดานห้องครัว ลำตัวของมันมีแสงวูบวาบ รูปร่างน่าสยดสยอง มันขบเขี้ยวเข้าหากันและเพื่อเป็นสัญญาณของการล่าเหยื่อ มันเหวี่ยงร่างพ่อครัวอัดกระแทกเข้ากับกำแพง และกรีดร้องด้วยเสียงแหลมสูง ก๊าซ!

         ทั้งพ่อครัวและบริกรหวาดกลัวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนกรูวิ่งออกจากห้องครัว คนที่รั้งท้ายถูกขาหน้าของมันที่มีลักษณะเป็นตะขอขนาดใหญ่แทงหรือฟันจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้องครัว 

         หน่วยรักษาความปลอดภัยใช้ปืนพกระดมยิงไปที่มันหลายนัด ทว่าผิวกายมันกลับไม่สะทกสะท้าน

         เหล่าพ่อครัวและบริกรที่วิ่งออกมายังหน้าร้าน พวกเขารีบเบียดตัวเองผ่านหน่วยรักษาความปลอดภัยออกไปยังภายนอก ปังปัง! ปังปัง! เสียงปืนดังขึ้นจากห้องครัวสลับกับเสียงกรีดร้อง

    กรี๊ด! ผู้คนต่างพากันแตกตื่นและกรูวิ่งออกจากร้าน 

         ลูกค้าชายบางส่วนในร้านซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เสียส่วนใหญ่ไม่ได้แตกตื่นวิ่งออกไป ทว่ากลับชักอาวุธปืนของตนซึ่งซุกซ่อนไว้ตามส่วนต่างๆ ขึ้นมา

    "เกิดอะไรขึ้นด้านหลัง" ชายคนหนึ่งถาม

         เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทหารเปิดไฟฉายจากปืนพกแล้วเดินเข้าไปทางครัว หน่วยรักษาความปลอดภัยของเกรบเองก็ฝ่าคลื่นมนุษย์ที่วิ่งสวนออกไป ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะหนีออกจากที่แห่งนี้ 

         พ่อครัวสองคนวิ่งออกมาจากห้องครัวหน้าตาตื่น คนหนึ่งหน่วยรักษาความปลอดภัยคว้าตัวไว้ได้ จึงสอบถามเชิงข่มขู่ด้วยปืน

         "ข้างในเกิดบ้าอะไรกัน" 
         "ต..ต...ตั๊กแตน...ยั.." ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หน่วยรักษาความปลอดภัยของเกรบก็ผลักนิลกาฬออกมาด้านนอกพร้อมกับผู้ติดตามหญิงสาว  

         ก๊าซ! ของเหลวสีเขียวสว่างพุ่งปะทะประตูทางเข้าครัว สาดกระเซ็นออกภายนอกบางส่วน กลิ่นและแก๊สที่ลอยออกมาจากของเหลวทำให้ทุกคนในร้านยกมือขึ้นปิดจมูก 

         "แค่กๆ  เกรบหล่ะ เขาอยู่ในนั้นหรือเปล่า" หน่วยรักษาความปลอดภัยด้านนอกร้องถาม
         "ยังอยู่ด้านใน แค่กๆ" นิลกาฬกล่าวพร้อมถอยห่างจากของเหลวนั้น

         หน่วยรักษาความปลอดภัยพยายามจะเข้าไปในครัว ทันทีที่พื้นรองเท้าสัมผัสของเหลว เสียง ซ่า ก็ดังขึ้นราวกับบางอย่างกำลังถูกละลาย กลุ่มควันลอยขึ้นจากใต้พื้นรองเท้า เขารีบยกเท้าหนีในทันที พื้นรองเท้าคอมแบทที่เสริมพื้นด้วยแผ่นเหล็กถูกกัดกร่อนแหว่งหายไป

         "โธ่เว้ย!" เขาสบถอย่างโมโห
         "ไปประตูหลัง ระวังตัวด้วย" หัวหน้าชุดสั่งการด้วยเสียงแข็ง หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งสามคนรีบวิ่งออกจากประตูหน้าร้านอย่างเร่งรีบ


         ภายในครัว เกรบและหญิงสาวพนักงานรักษาความปลอดภัยพยามหลบหลีกการโจมตีและตอบโต้ด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ซึ่งดูจะไม่ได้ผลมากนัก ทว่าก็ก่อกวนได้บ้าง

         "อ่า แม็กสุดท้ายแล้ว" หญิงสาวกล่าวและบรรจุมันใส่ปืนแล้วขึ้นลำยิงอย่างต่อเนื่องโดยเล็งที่ดวงตาของมัน

         ขาหน้าของมันแทงพุ่งเป้าไปที่เธอ แต่เธอก็หลบได้ทัน ก๊าซ! ตั๊กแตนยักษ์พ่นของเหลวสีเขียวไล่หลังเธอไปอย่างติดๆ 

         ปังๆๆ! แชะ! ปืนของเธอกระสุนหมดแล้ว เธอจึงขว้างปืนใส่มัน แล้วคว้ามีดในครัวพุ่งตรงเข้าไปแทงข้างลำตัวมัน ฉึก! มีดสามารถแทงเข้าข้างลำตัวของมันได้ ขาหน้าที่เหมือนใบมีดฟาดสวนกลับ ทำให้ร่างหญิงสาวปลิวลอยไปกระแทกกับกำแพงห้องและหล่นมากองกับพื้น มันจึงหันกลับมาสนใจที่เกรบ

         เกรบยืนสงบนิ่งสบตาอันกลมมนของมันอย่างไม่หวั่นเกรง ในเสี้ยววินาทีนั้น เกรบตัดสินใจเผชิญหน้าต่อมัน

         วูบ

         แสงสีขาวส่องสว่างวาบจนตั๊กแตนยักษ์ต้องยกขาหน้าขึ้นบัง เกรบยกมือขึ้นมาข้างหน้า

         "จงกลับไป ในที่ของเจ้า กลับไปหานายของเจ้า กลับสู่ห้วงลึกของขุมนรก" ตาของเกรบกลายเป็นสีฟ้าขาวส่องสว่าง 

         ก๊าซ! ทว่ามันก็ยังไม่ลดละที่จะสังหารเขา ขาหน้าของมันแทงเข้าไปที่ตัวเขา ทันทีที่เข้าใกล้ ร่างของมันก็ลุกไหม้โดยเปลวไฟสีฟ้าน้ำเงิน 

         ก๊าซ! มันถอยห่างจากเกรบและพยายามตะเกียกตะกายออกจากครัวอย่างทรมาน ขาหน้าของมันถูกเผาไหม้จนขาดออกจากร่าง ไฟดังกล่าวยังคงลุกท่วมตัว จนกระตัวของมันออกมายังตรอกหลังร้าน หยาดฝนช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากเปลวไฟสีน้ำเงินได้บ้าง

         พรึบ ฟู่! ร่างของมันลุกไหม้อีกครั้งด้วยเปลวเพลิงสีส้มแดงสว่างไสว เกรบกลับสู่ร่างของมนุษย์และวิ่งตามมันออกมา ร่างของตั๊กแตนยักษ์ล้มกองกับพื้นเรียบร้อย เพลิงที่ลุกไหม้เผาผลาญซากของมันจนกลายเป็นเถ้าลอยสลายไปในอากาศที่ชื้นแฉะ

         เกรบหันมองไปยังผู้ใช้เวทไฟนั้น เขารับรู้ได้ว่านั่นเป็นพลังของนักรบสวรรค์  ร่างหญิงสาวที่ดูสูงสง่า เกราะที่เข้ารูปกับกล้ามเนื้อที่ดูได้สัดส่วนของนักรบหญิง ผมสีฟ้าเข้มที่รวบและผูกเปียไว้ที่ด้านหลัง ผ้าคลุมสีแดงที่พลิ้วไหวตามสายลมราวกับสายฝนไม่ได้แตะต้องเธอแม้แต่น้อย

         "เซลซิลี" เกรบกล่าวชื่อเธอ

         "เกเบรียล..." เธอมีท่าทีประหลาดใจที่ได้พบเขา

         หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งสามวิ่งผ่านร่างหญิงสาวนักรบราวกับเธอไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

         "ท่านเกรบ ปลอดภัยไหมครับ" พวกเขาตรงเข้ามาหาเกรบ 

         "อ..อา..ปลอดภัย" เขายังคงจ้องมองไปที่เซลซิลีที่ยืนท่ามกลางสายฝนไม่ต่างจากพวกเขา
         "จะพา VIP กลับเดี๋ยวนี้" พนักงานรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบแจ้งผ่านวิทยุ

         พวกเขาสองคนพยุงเกรบกลับเข้าไปในครัว พนักงานรักษาความปลอดภัยหญิงสาวได้สติก็พยุงร่างตนเองขึ้นพร้อมกับสบัดศีรษะไล่อาการมึนงง

         "อา ให้ตายสิ มีใครแจ้งไหมว่าต้องเจอแบบนี้" เธอบ่นกับหัวหน้าชุด "เฮ้ ขอซองกระสุนหน่อย ของฉันหมดแล้ว" 
         "ไปเอาปืนกลมือจากท้ายรถได้เลย ปืนพกคงเอาไม่อยู่" พนักงานอีกคนเข้ามาดูอาการเธอ

         ภายในร้านอาหารเริ่มมีเสียงอื้ออึงอีกครั้ง แสงสีน้ำเงินสลับสีแดงส่องวิบวับไปทั่วบริเวณแต่ไร้ซึ่งเสียงสัญญาณใดๆ 

         ทุกคนที่ยังมีชีวิตเดินออกมาจากห้องครัว ของเหลวสีเขียวที่เป็นกรดแห้งกรังจนเหนียวติดพื้นและไม่กัดกร่อน ลูกค้าคนที่เหลือคือนิลกาฬ ผู้ติดตามสาว และหน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งห้าคน 

         หน่วย SWAT ของตำรวจเดินเร็วเรียงแถวเข้ามาภายในร้านพร้อมอาวุธครบมือและตรงไปยังห้องครัวในทันที ทว่าพบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีศัตรูอยู่ในร้านอีก

         เกรบและคนอื่นออกมาจากร้านและเดินลัดเลาะผ่านเครื่องกั้นของตำรวจเพื่อไปยังขบวนรถของพวกเขา

         ตำรวจเข้าควบคุมพื้นที่ ลูกค้าหลายคนห่มผ้าห่มสีเงินเงาซึ่งเคลือบอะลูมิเนียมเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายทั้งยังกันสายฝนได้ บางคนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจากรถพยาบาล พื้นที่โดยรอบไม่ได้ใช้เสียงมากนัก ทั้งเจ้าหน้าที่และคนอื่นๆ ต่างรู้ขั้นตอนปฏิบัติเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขตที่สามนี้

         หน่วยรักษาความปลอดภัยของเกรบและนิลกาฬนำพวกเขาขึ้นรถและขับออกไปอย่างเร่งรีบ นิลกาฬใช้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหน่วยงานของเขาด้วยท่าทีร้อนรน

         "ควบคุมทุกอย่างในที่เกิดเหตุ ร้านอาหาร บริเวณสี่แยกถนนเส้นที่สามตัดกับเส้นที่เจ็ด ให้ทางกรมตำรวจโอนคดีมาให้เรา" เมื่อกล่าวจบเขาตัดสายโดยทันที

         รถขนาดเจ็ดที่นั่งสองคันวิ่งตามกันไปตามถนนยามค่ำคืน โดยคันแรกมีพนักงานรักษาความปลอดภัยสามคน คันที่สองมีบุคคลสำคัญทั้งสาม พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคน พลขับอีกหนึ่งคน โดยหัวหน้าชุดอยู่คันที่สองร่วมกับบุคคลสำคัญ

         พนักงานที่นั่งด้านหลังใส่ซองกระสุนเข้าปืนกลมือแบบ UMP 45 

         "หัวหน้าครับ ที่เราต้องเฝ้าระวังมีอะไรบ้างครับ ผมเริ่มระแวงไปหมดแล้ว" เขาพูดพลางสอดส่องผ่านกระจกท้ายรถ
         "ทุกอย่างที่เข้าใกล้" หัวหน้าชุดเองก็สอดส่องรอบคันรถ 

         "จัดการพวกมือสังหารรับจ้าง นอกเหนือจากนั้นเราจะรับมือเอง" นิลกาฬแทรก
         "รับทราบครับ ตอนนี้มีแขกมาพอดี รถหนึ่งคันมาจากด้านหลังและมาเร็วด้วย"

         หลังจากที่รถขับไปตามเส้นทางได้ไม่นาน

         ตูม! รถคันหน้าชนเข้ากับรถกระบะที่ขับเข้ามาขวาง
         
         เอี๊ยด! ทุกคนในรถคันหลังเสียหลักไปด้านหน้าก่อนถูกดึงกลับอย่างแรงไปข้างหลัง  ปังปังปัง! ปังๆๆๆ! กลุ่มชายชุดดำสวมหมวกเหล็กแบบปิดหน้า ดวงตามีแสงสีแดงส้ม ระดมยิงใส่รถคันหน้าอย่างหนักหน่วง

         "ไปซ้าย! ไปซ้าย!" พนักงานในรถคันหน้าพูดผ่านวิทยุบอกพลขับคันหลัง "เราจะถ่วงเวลาให้บางส่วน" กระสุนปะทะเข้ากระจกคันหน้ารอบทิศทางจนกระจกร้าวแตกไปทั้งบาน แต่กระสุนก็ไม่สามารถเจาะเข้ามาได้

         พลขับคันหลังแทรกตัวผ่านมุมกำแพงเลี้ยวซ้ายหลบออกไป รถที่ตามมาขับบดตามมาอย่างรวดเร็ว ชายชุดดำโผล่ตัวออกมาจากช่องหน้าต่างใช้ปืนไรเฟิลยิงใส่รถของเกรบ กระสุนปะทะเข้าที่กระจกหลังสองถึงสามนัด

         "ขับเข้าเขตส่วนราชการ เร็วเข้า!" หัวหน้าชุดสั่ง

         พลขับ ซึ่งเป็นผู้ที่ขับรถให้เกรบตั้งแต่เข้ามาที่เขตสาม เหยียบคันเร่งจมลงอย่างแรง ทว่าคันที่ไล่ตามมาก็เพิ่มความเร็วขึ้นด้วย

         ตุบ ชายในผ้าคลุมที่ขาดรุ่งริ่งกระโดดลงที่หลังคารถที่กำลังไล่ล่าตาม แสงไฟตามถนนส่องภายใต้ฮูดของเขาเป็นช่วงๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน ไต่ เลื้อยไปมารอบๆ ใบหน้า เบ้าตากลวงโบ๋ดำมืด

         "โอ้ ตายหล่ะ" พนักงานที่นั่งด้านหลังหน้าซีดเผือดในทันที "หัวหน้าเห็นแบบที่ผมเห็นไหม"

         หัวหน้าชุดมองไปที่กระจกมองข้างเพื่อส่องดูด้านหลัง "...บ้าไปแล้ว" ฟิ้ว! กระจกมองข้างถูกยิงจนหลุดออกจากตัวรถ

         แม้ว่าความเร็วของรถจะเกินร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว ทว่าปีศาจซึ่งยืนบนหลังคารถก็ยืนได้อย่างมั่นคง ผ้าคลุมที่สะบัดไปด้านหลังดูน่าขนลุกราวกับปีกของแมลง มันยื่นแขนออกมาข้างหน้า แขนของมันเริ่มสลายตามแรงลมกลายเป็นฝุ่น แต่ฝุ่นนั้นกลับตรงมาที่รถข้างหน้า เมื่อมันเข้ามาใกล้ขึ้น เสียงหึ่งๆ ของมันก็ดังขึ้น มันคือฝูงแมลงวันจำนวนมหาศาลบินมาเกาะท้ายรถจนกระทั่งบดบังกระจกหลังมิด

         "ว้าย!" หญิงสาวผู้ติดตามก้มหน้าหนีอย่างหวาดกลัว ไม่ว่าการลอบสังหารด้วยมีด ปืน หรือระเบิด เธอก็เคยเผชิญมาแล้ว แต่ด้วยจำนวนแมลงวันครั้งนี้ เป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าสยดสยองสำหรับหญิงสาว

         "สงบนิ่งไว้ อย่าให้มันทำให้เจ้าหวาดกลัว" เกรบกล่าว 

         พนักงานด้านหลังเบียดตัวชิดกับเบาะนั่ง พยายามอยู่ให้ไกลจากกระจก "มันกำลังละลายกระจก"

         ฝูงแมลงวันที่เกาะกระจกอยู่นั้น เริ่มทำให้กระจกหลอมละลายด้วยกรดของพวกมันแบบเดียวกับตั๊กแตนยักษ์

         "ไอพวกนักฆ่ามันจะรู้ไหมว่า บนรถมันมีตัวอะไรอยู่" นิลกาฬกล่าวเสียงเบา

         ตึง! หลังคารถยุบตัวลงมาเล็กน้อย พรึบ ฟู่! เปลวไฟอันร้อนระอุเผาผลาญฝูงแมลงจากด้านนอกจนลามเข้ามาถึงบานกระจก แมลงวันถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าสลายไปกลางสายฝน

         "อะไรกันวะเนีย" หัวหน้าชุดสบถ

         เกรบเหลือบเห็นขนนกสีขาวขนาดใหญ่ที่หน้าต่างด้านข้าง มันร้อยเรียงต่อกันอย่างแข็งแรง นั่นคือปีกของนางฟ้า 


         'มันหมายตาท่านไว้ คำสั่งจากนายของมัน' เสียงของเธอสื่อผ่านกระแสจิตมายังเกรบ 
         
         'ท่านยังมีมลทิน เรื่องแมมมอน'

         "หึ" เกรบเผยรอยยิ้ม

         ปีศาจด้านหลังดูประหลาดใจที่นักรบสวรรค์ลงมาขัดขวาง แขนข้างหนึ่งของมันหายไปและมีเปลวไฟลุกไหม้หัวไหล่ เซลซิลีกระโดดพุ่งตัวไปยังปีศาจ ผ้าคลุมสีแดงและปีกขนนกสีขาวสว่างขนาดใหญ่คือภาพสุดท้ายที่เกรบได้เห็น
          คมหอกสีเงินพุ่งแหวกสายฝนอย่างเฉียบคมเข้าที่ร่างของปีศาจจนกระเด็นตกจากหลังคารถไปพร้อมกับนักรบสวรรค์

         ชายชุดดำที่ไล่ยิงรถของเกรบดูตื่นตระหนกที่ปีศาจตกจากหลังคารถไป พนักงานด้านหลังที่เห็นดังนั้นจึงเปิดประตูท้ายรถและกราดยิงไปยังคนขับ ปังๆๆๆๆๆๆๆ! กระจกทะลุเป็นรูพรุน เลือดของขับพุ่งติดกระจกด้านหน้า รถดังกล่าวขับเฉชนเข้ารั้วกั้นข้างทางและหยุดนิ่งไป

         ไม่มีใครตามพวกเขามาอีก เสียงไซเรนของรถตำรวจเริ่มดังระงมไปทั่วพื้นที่ที่พวกเขาขับผ่านมา ประชาชนแถบนั้นคงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบแล้ว

         ไม่กี่นาที รถของเกรบก็ขับผ่านเข้าสู่ส่วนราชการ ซึ่งทางเข้ามีทหารติดอาวุธหนักด้านหน้าคุ้มกันตลอดเวลา



         อีกด้านหนึ่ง รถของหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ถูกระดมยิงอย่างหนัก ภายในรถมีสามคน 

         พนักงานหญิงแง้มประตูรถออกไปเมื่อได้จังหวะและปิดกลับมาอย่างรวดเร็ว

         "เตรียมรับแรงกระแทก" เธอเตือนคนอื่น

         ตูม! ระเบิดมือที่เธอโยนออกไปทำงาน เปิดโอกาสให้พวกเขาโต้กลับ

         เธอถีบประตูรถให้เปิดออกแล้วยิงคนที่อยู่ในแนวปืนทันที ปังๆๆๆ! จากนั้นจึงลงจากรถแล้วยิงคนที่อยู่ด้านหลังคันรถอีกสองคน เธอยิงแม่นราวจับวางและรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด

         พนักงานชายอีกหนึ่งคนเปิดประตูข้างรถแล้วลงไปยิงคนที่เหลือบริเวณหน้าคันรถ ชายอีกคนหนึ่งเข้าตรวจสอบคนที่ถูกยิงซ้ำอีกครั้ง ปังๆ! เขายิงนักฆ่าคนหนึ่งที่พยายามชักปืนพกขึ้นยิง

         หญิงสาวเองก็เข้าตรวจสอบศพ เธอใช้เท้าเขี่ยหมวกเหล็กที่มีหน้ากากกันกระสุนของมันให้อยู่ในมุมที่ต้องแสง สัญลักษณ์เล็กๆ บนหน้ากากคล้ายอักษร 'T' ปรากฏขึ้น

         "หมวกของพวกไททัน" เธอกล่าว

         "พวกมันมีบัตรแสดงตัวไหม" ชายเพื่อนของเธอถาม

         เธอเริ่มลงมือค้นตัวศพ จากเสื้อกั๊ก เสื้อเกราะ ไปจนถึงกระเป๋าเสื้อ 

         "เจอแล้ว" เธอชูการ์ดสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้น "องค์กรทหารรับจ้าง ไททัน"


         "ทีม Romeo 9-0  เรียกกรมตำรวจ...แจ้งเหตุยิงปะทะกลุ่มติดอาวุธที่...เจ้าหน้าที่กรุณาแสดงตัวให้เด่นชัด ไม่อย่างนั้น เราจะยิง เปลี่ยน" ชายพนักงานรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบรายงานโดยวิทยุสื่อสารภายในรถที่มีสภาพพังยับเยินจากกระสุนจำนวนมาก

         "ขอมอบรางวัลไหวพริบดีเยี่ยมให้ ทีม Juliet 9-0 เลย เกือบจะออกไปแลกกระสุนกับพวกมันแล้ว" ชายอีกคนกล่าว

    "เคยมีครั้งไหน ทีม Romeo ทำผลงานได้ดีกว่า Juliet บ้างไหม" หญิงสาวเย้ย

    "Zero-one ไง" ชายนอกเครื่องแบบหน่วยรักษาความปลอดภัยกล่าว

         ทั้งสามไม่ได้กล่าวอะไรต่อ พวกเขาวางแนวป้องกันรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ท่ามกลางสายฝนยามค่ำคืนซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุดในเร็วๆ นี้ 

         ภายในเขตที่ปลอดภัยมากที่สุดได้ถูกท้าทายโดยขุมกำลังที่ล่มสลายไปแล้ว และพลังอำนาจที่เหนือความเข้าใจของพวกเขา






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×