ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #44 : ตอนที่ 12 On mission

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12
      0
      18 ธ.ค. 61

    ตอนที่ 12 On mission


         ตูม!!

         แสงสว่างจากเปลวเพลิงรูปดอกเห็ดสว่างวาบไปทั่วพื้นที่ กลุ่มชายในชุดสูทสีดำต่างก้มตัวหลบเข้าที่กำบัง บ้างก็ล้มตัวลงกับพื้น สนามหญ้ากลายเป็นหลุมกว้าง ยังไม่ทันที่ทุกคนจะหายงุนงง 

         ตึง!! 

         รถหุ้มเกราะขนาดใหญ่ของทหารสามคันวิ่งชนประตูเหล็กพังเข้ามาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เข้ามาจอดในพื้นที่สนามหญ้า ส่วนด้านหน้าของคฤหาสน์ซึ่งจั้งอยู่ทางเหนือของเขตที่แปด 

         หน่วยเฉพาะกิจ Bravo 6 ในชุดสีดำกรูลงมาจากท้ายรถและเข้าคุมพื้นที่ในทันที ชายในชุดสูทหลายคนยังไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้เนื่องจากแรงระเบิดเมื่อสักครู่ คนที่ลุกขึ้นมาก่อนก็กลับลงมานอนกองกับพื้นอีกครั้งด้วยพานท้ายปืน

         "ทีม รปภ. เจ็ดคนที่ด้านหน้าเคลีย" เสียงพูดผ่านวิทยุ

         หัวหน้าทีม Bravo 6 นำทีมบุกเข้าตัวคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว โดยการพังประตูหน้าเข้าไป ทีมย่อยอีกสองทีมกระจายกำลังไปด้านข้างและด้านหลัง

         กรี๊ด!!

         เหล่าแม่บ้านหญิงสาวต่างตกใจกลัวที่มีคนถือปืนหลายคนบุกเข้ามาด้วยท่าทางคุกคาม หน่วยเฉพาะกิจไม่ได้ใส่ใจพวกเธอมากนัก พวกเขามุ่งหาตัวใครบางคนในคฤหาสน์แห่งนี้

         "เฮ้!! พวกคุณอจะบุกเข้ามาแบบนี้ไม่ได้นะ ไหนหมายค้น..." ชายคนหนึ่งในชุดสูทเนียบต่อว่า

         พลั่ก!!  

         ชายคนดังกล่าวถูกผลักอย่างแรงไปที่โซฟา

         "นี่คดีความมั่นคงเว้ย! ถ้าคิดว่าเราทำผิดก็ไปร้องเรียนกับกลาโหม" หัวหน้าทีมกล่าว "แต่ก่อนหน้านั้น ไอฟิโอเร่มันอยู่ที่ไหน"

         "ท...ที่บริษัท" ชายดังกล่าวเสียงสั่น

         "ถ้าแกเป็นทนายที่ดี แกควรบอกพวก รปภ.ให้ทำตามกฎหมายไม่ใช่ฝ่าฝืน ที่ระเบิดลงหัวพวกมันก็เพราะมันถือไรเฟิลจู่โจมซึ่งยามปกติห้ามใช้ ถ้าแกเตือนมันสักนิดก็ไม่ต้องรุนแรงขนาดนี้ พวกแกฝ่าฝืนกฎหมายเอง จะเรียกร้องอะไรได้"

         "หัวหน้า ไม่มีร่องรอยของเป้าหมาย และไม่พบพวกไททันครับ" ลูกทีมกล่าวผ่านวิทยุ

         "ช่างมัน ทีม Charlie ถึงไหนแล้วหล่ะ" หัวหน้าทีมถาม

         "กำลังเริ่มปฏิบัติการครับ"

         "พวกเราไปสบทบกับทีม Charlie ปล่อยที่นี่ให้ทหารราบจัดการ" หัวหน้าทีมออกคำสั่ง "ทั้งหมดรวมตัวขึ้นรถ"

         "ทราบ ทีมโคล่าจะนำทางให้"

         ทีมบราโว่ทุกคนเคลื่อนที่กลับไปยังรถหุ้มเกราะ

         "โรงงานแปรรูปไม้ ทางตะวันตก ห่างออกไปสิบกิโลเมตร เหอะ ฟอกเงินชัดๆ" ลูกทีมรายงานข้อมูล

         เมื่อทุกคนรวมตัวขึ้นรถหุ้มเกราะเรียบร้อยแล้ว รถบรรทุกของทหารเขตที่แปดจำนวนห้าคันบรรทุกทหารราบเต็มอัตราเข้ามายังพื้นที่หน้าคฤหาสน์เพื่อคุมพื้นที่เอาไว้ก่อน รถหุ้มเกราะสามคันจึงขับออกจากคฤหาสน์มุ่งออกสู่ถนนเลี่ยงเมืองตรงไปยังโรงงานนอกตัวเมืองทันที เพื่อสมทบกับทีมชาลีซังเป็นหน่วยรบะเศษของเขตที่แปด

         "โคล่า ส่งภาพโดรน เหนือเขตโรงงานมาให้ด้วย" หัวหน้าทีมสั่ง

         "รับทราบ กำลังทำการเชื่มต่อ"

         "ทหารเข้าคุมอู่ซ่อมรถแล้ว พวกมันเองก็คงรู้ตัวกันแล้วนะครับ" ลูกทีมกล่าว

         "มันรู้ตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนแล้ว" ลูกทีมอีกคนเสริม "สังหรณ์ใจกับทีม Charlie ชะมัด"

         "ภาพขึ้นแล้ว" ลูกทีมคนหนึ่งกล่าวพร้อมชี้ไปที่หน้าจอภายในรถหุ้มเกราะ "โว้ว เห็นเหมือนกันไหม"

         "โครตเงียบ" 

             หัวหน้าทีมกล่าว



    ณ โรงงานแปรรูปไม้ ในเวลาเดียวกัน

         หน่วยรบพิเศษของทหารเขตที่แปด ในนามของ ทีม Charlie จำนวนสิบห้าคน ประจำจุดตามแนวชายป่าใกล้กับเขตโรงงาน หนึ่งคนพลซุ่มยิงขึ้นไปยังเนินเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงงาน ที่ตรงนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วบริเวณเขตโรงงานเกือบทั้งหมด อีกสิบสี่คนที่เหลือกระจายกำลังเข้าประชิดรั้วของโรงงานและผ่านเข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

         พื้นที่กว้างส่วนใหญ่ของโรงงานจะมีท่อนซุงจำนวนมากเรียงรายอยู่ด้านนอก และโกดังเก็บไม้หลายโรง ส่วนแปรรูปไม้จะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน

         เหนือศีรษะขึ้นไปหลายร้อยฟุต โดรน FOX 3 ทำหน้าที่สนับสนุนทีมชาลีได้อย่างดีเยี่ยม ในโรงงานเงียบมากผิดปกติ ถึงแม้ว่าจะมียามติดอาวุธอยู่สี่ถึงห้าคนก็ตาม แต่พวกเขาไม่มีท่าทีระมัดระวังใดๆ 

         ฟิ้ว! ตูม!!

         แสงสว่างวาบบนท้องฟ้า ดึงความสนใจของทุกคนในพื้นที่

         "FOX 3 ล่วงแล้ว ย้ำ FOX 3 ล่วงแล้ว"

         ปังๆๆๆๆๆๆ!!! 

         เสียงปืนดังมาจากประตูทางเข้าด้านหน้าของโรงงาน รถยนต์แล่นเข้ามาจอดหน้าทางเข้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับกองกำลังติดอาวุธอีกหลายสิบคน พวกเขาพุ่งเป้ามาที่ทีมชาลี กระสุนพุ่งเข้าปะทะลูกทีมคนหนึ่งจนล้มลง 

         "อึก" เขากลิ้งตัวหลบเข้าที่กำบัง พร้อมสูดอากาศหายใจเฮือกใหญ่ "เข้าเกราะๆ" เขากล่าว 

         ยามสี่คนของโรงงานวิ่งออกมาดูสถานการณ์โดยไม่ระวัง ทีมชาลียิงใส่พวกเขาล้มลงทั้งสี่คนอย่างรวดเร็ว กองกำลังติดอาวุธยิงถล่มพวกเขาอย่างหนัก ไม่นานนัก อาวุธหนักก็ถูกนำมาใช้

         ฟิ้ว! ตูม!! 

         ควันสีขาววิ่งตามหลังลูกจรวดสีส้มเป็นทางยาว เมื่อปะทะกับท่อนซุง มันก็ระเบิดทันที ทีมชาลีพุ่งตัวกระโดดหลบไปอีกกำบังหนึ่งอย่างไม่คิดชีวิต ลูกทีมอีกคนหนึ่งใช้เครื่องยิงลูกระเบิดที่ติดอยู่ใต้ปืนไรเฟิลของเขายิงลูกระเบิดออกไปเป็นวิถีโค้ง ย้อยลงกลางกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ จนต้องหลบไปคนละทิศละทาง เปิดโอกาสให้ทีมชาลียิงตอบโต้ได้

         พลซุ่มยิงมองเห็นมุมกว้าง เขาจึงลั่นไกสังหารกองกำลังติดอาวุธที่อยู่ในตำแหน่งยิงกดทีมชาลีได้ ทำให้พวกเขาไม่ถูกโอบล้อม

         "ถอยกลับไปรวมตัวที่ ส่วนแปรรูป" หัวหน้าทีมออกคำสั่ง "แบ่งห้าคนไปล่าตัว ฟิโอเร่ มาให้ได้"

         "ทราบ เหลือให้ยิงบ้างหล่ะ"

         "คงไม่ทันหรอก"

         ลูกทีมคนหนึ่งตั้งปืนกลเบาบนท่อนซุงแล้วกราดยิงด้วยกระสุนจำนวนมหาศาลเพื่อเปิดทางให้ทีมล่าถอย

         "RPG! ที่ประตู" สิ้นเสียงของการชี้เป้า กระสุนจากพลซุ่มยิงก็ทะลุร่างของกองกำลังติดอาวุธซึ่งถือเครื่องยิงจรวดนั้น

         นิ้วมือของเขาเหนี่ยวไกพอดีกับที่ถูกยิง ลูกจรวดจึงพุ่งไปตกยังฝ่ายเดียวกัน ตูม! พวกเขา สองถึงสามคนถูกแรงระเบิดลอยกระเด็นไปไกล

         "หัวหน้า มีปัญหาแล้ว..." ก่อนที่พลซุ่มยิงจะรายงานเสร็จ 

         ที่หน้าประตูทางเข้า ปรากฏกองกำลังติดอาวุธที่สวมหมวกเหล็กแบบครอบทั้งศีรษะสีดำ มีหน้ากากปิดบังใบหน้า ชุดเกราะดูล้ำสมัยสีดำ อักษรย่อตัว 'T' อันเป็นเอกลักษณ์ พวกเขาวิ่งเข้ามาในจุดปะทะ ความตึงเครียดในพื้นที่รบก็ทวีมากขึ้น พวกเขาต่างจากกลุ่มติดอาวุธทั่วไป พวกเขาได้รับการฝึกอย่างดี อาวุธที่ทันสมัย ทหารทุกคนต่างรู้จักพวกเขา 'ไททัน'

         "แจ้งหน่วยเหนือ ตรวจพบพวกไททัน" หัวหน้าทีมออกคำสั่ง 

         ฟิ้วๆ!! 

         กระสุนเฉียดศีรษะของลูกทีมชาลีไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร ความแม่นยำต่างจากกองกำลังติดอาวุธทั่วไป การเคลื่อนที่เข้ากำบังแล้วยิงตอบโต้ทำได้ยากลำบาก ปืนกลเบาใช้กระสุนส่องวิถี ทุกๆ ห้านัดจะมีกระสุนแสงสีส้มพุ่งเป็นเส้นตรงเข้าเป้าที่เขายิง

         ทว่าเหล่าทหารของไททันก็มิอาจจะปิดช่องโหว่ได้มิด พลซุ่มยิงของชาลีมองเห็นช่องโหว่นั้น และเขาลั่นไกสังหารได้อย่างทันท่วงที หมวกเหล็กของไททันปลิวกระเด็นออกจากศีรษะของทหารไททัน ร่างเขาล้มแน่นิ่งลงกับพื้น เลือดไหลท่วมพื้นรอบร่างของเขา

         ฝั่งไททันมีอำนาจการยิงที่ลดลง จึงเปลี่ยนเป็นการเข้าปะทะระยะใกล้ขึ้นระหว่างที่กำบังต่อที่กำบัง ซึ่งแน่นอนว่าทำการควานหาตำแหน่งของพลซุ่มยิงไปด้วย

         เมื่อพลซุ่มยิงเห็นดังนั้น เขาจึงรีบเปลี่ยนตำแหน่งในทันที ระหว่างนี้ทีมชาลีเบื้องล่างจะต้องรับมือโดยปราศจากความช่วยเหลือจากมุมสูง



         เมื่อภาพจากโดรน FOX 3 ดับลง ทีม Bravo 6 จึงเริ่มเตรียมอาวุธให้พร้อมใช้งาน

         "เหยียบให้มิดเลย" หัวหน้าทีมขยับตัวไปบอกพลขับ "ขึ้นแท่นปืนกลได้เลย" เขาหันมาออกคำสั่งกับลูกทีมที่หลังรถต่อ

         ลูกทีมจากทั้งสามคันแทรกตัวผ่านช่องหลังคารถขึ้นสู่แท่นปืนกลซึ่งมีเกราะกำบังและกระจกกันกระสุนรอบแท่น

         "FOX 2 ล่วงหน้าไปก่อน อีกสิบนาทีเราจะถึงที่หมาย"

         "โคล่า รับทราบ"



         ทีมชาลีห้าคนซึ่งเป็นทีมไล่ล่า พวกเขาเคลื่อนที่ไปยังด้านข้างของโรงงานซึ่งเป็นพื้นที่ของบริษัท มีอาคารสำนักงานห้าชั้นเพียงหลังเดียวเท่านั้น ไททันบางส่วนเคลื่อนที่เข้ามาขัดขวางทีมชาลี แต่พวกเขาก็หลบเลี่ยงจนเข้ามาในอาคารได้

         "ตั้งระเบิดสกัดทางขึ้นไว้ เราจะตรึงมันไว้ที่ชั้นแรก" ทีมชาลีคนหนึ่งกล่าว "อีกสองคนตามหาเป้าหมายต่อ"

         "ทราบ"

         ทีมชาลีสามคนวางแนวป้องกั้นที่ระเบียงชั้นสองซึ่งมองลงมาจะเป็นส่วนรับรองชั้นหนึ่ง ผนังและประตูด้านหน้าเป็นกระจกทั้งหมด หากใครคิดจะเข้ามาพวกเขาต้องเห็น

         "พวกมันจะบุกมาแบบไหน"

         "อาจจะยิงถล่มเข้ามาเลยก็ได้"

         เพียงไม่นาน ทีมชาลีก็ตรวจพบการเคลื่อนไหวภายนอกของอาคาร  ปังๆๆๆ! ไททันยิงกระจกให้แตก แล้วเดินเรียงแถวเข้ามา แต่ละคนมีโล่กันกระสุนที่ดูมีน้ำหนักเบากว่าที่กองทัพมีใช้ พวกเขาเดินเข้ามาโดยมีโล่ดังกล่าวกันกระสุนจากทีมชาลีที่ยิงกดลงมา เมื่อเข้าที่กำบังภายในอาคารโล่ดังกล่าวก็หดเข้าไปยังปลอกแขนในชุดเกราะของไททัน และเริ่มยิงตอบโต้ทีมชาลี

         "มันไปเอาชุดแบบนี้มาจากไหนวะ" ลูกทีมชาลีหัวเสีย

         ไททันรุกคืบเข้ามาถึงบันไดทางขึ้น 
         
         ตูม!! 

         ทุ่นระเบิดแบบเคลย์มอร์ทำงานตรงทางขึ้นบันได มันระเบิดยิงลูกเหล็กเล็กๆ ออกไปด้านหน้าโดนพวกไททันบาดเจ็บสาหัสหลายราย ทีมชาลีโยนลูกระเบิดมือลงมาซ้ำยังกลุ่มไททันตามหลังแนวกำบัง ตูม ร่างส่วนใหญ่แน่นิ่งไปแล้ว แม้จะโดนระเบิดซ้ำก็ตาม 

    กระสุนส่องวิถีเรืองแสงสีส้มเป็นเส้นตรง พุ่งเฉี่ยวเฉียดไปมาระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง

         ด้วยจำนวนทหารไททันที่มีมากกว่า อำนาจการยิงจึงมากกว่าด้วย ทีมชาลีทั้งสามคนจึงต้องล่าถอยเข้าไปภายในอาคาร รบกันในพื้นที่จำกัด 

         ตึม!! 

         ระเบิดเคลย์มอร์อีกตัวหนึ่งซึ่งตั้งไว้ที่บันไดทางขึ้นอีกด้านหนึ่งทำงาน เสียงส้นรองเท้าที่ดังกระทบพื้นไล่หลังพวกเขามาอย่างว่องไว 

         "ไปที่บันได!" 

         ทีมชาลีกระโดดใช้ตัวดันบานประตูเข้าไปยังห้องบันได ฟิ้ว! กระสุนวิ่งตรงแฉลบกับบานประตูโลหะเฉี่ยวหน้าทีมชาลีคนหนึ่งไม่มาก พวกเขาวิ่งขึ้นบันไดวนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

         "เจอตัวเป้าหมายไหม"

         "ปฏิเสธ เป้าหมายไม่อยู่ที่นี่"

         "ให้ตายสิ ขึ้นชั้นบนเลย เราจะรั้งพวกมันที่ชั้นสี่"



         ตึง   ตึง   ตึง

         ร่างอันใหญ่โตของเกราะเหล็กขนาดใหญ่ปรากฏกายขึ้นหน้าประตูทางเข้า เท้าของมันก้าวเดินอย่างหนักแน่น ปืนมินิกันเลื่อนจากแผ่นหลังของมันลงมาที่ใต้แขนขวา ลำกล้องปืนหมุนเป็นวงเสียงดัง วี้ด ก่อนที่กระสุนจะถูกยิงออกมา 

         "ระวัง ES ของไททัน!" หัวหน้าทีมเตือน

         กระสุนไล่กวาดจากทางซ้ายไปทางขวาจำนวนหลายร้อยนัด กดหัวทีมชาลีไว้จนไม่สามารถตอบโต้ได้

         ฟิ้ว! แกร๊ง!

         กระสุน .50 Caliber พุงเข้าที่ใบหน้าของ ES ร่างของมันเซไปเล็กน้อย แกร๊ง! กระสุนอีกนัดพุ่งตรงเข้าที่เดิม ทว่ามันก็ไม่สามารถเจาะเกราะ ES ได้

         ฟู่ว! 

         ลูกจรวดพุ่งตรงออกจากเครื่องยิงจรวดขนาดเล็กบนชุด ES ไปยังตำแหน่งของพลซุ่มยิงในฉับพลัน ลูกจรวพุงตรงทะยานขึ้นท้องฟ้าก่อนจะโค้งลงเข้าสู่เป้าหมาย

         พลซุ่มยิงทีมชาลีรีบลุกขึ้นยกปืนไรเฟิลของเขาแล้วออกตัววิ่งในทันที 

         บรึม!! 

         แรงระเบิดอัดร่างพลซุ่มยิงกระเด็นไปข้างหน้าหลายเมตร แต่ก็ไม่ถึงกับบาดเจ็บมากนัก เนื่องจากเขาหลบออกมาก่อน

         เสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ค่อยๆ ดังขึ้นและเข้ามาใกล้ ไม่ทันที่ไททันจะสังเกตเห็นได้ทัน  รถหุ้มเกราะพุ่งชนชุด ES เข้าอย่างจัง ตูม!

         ปังๆๆๆๆๆ! กระสุนปืนกลยิงซ้ำเข้าไปที่ร่างชุดเกราะที่กลิ้งเกลือกขึ้นมายังกระโปรงหน้ารถ รถหุ้มเกราะที่ตามหลังมา สาดกระสุนปืนกลยิงกดพวกไททันเอาไว้ เพื่อชิงความได้เปรียบ

         ฟิ้ว!  

         ลูกจรวดพุ่งปะทะเข้าที่รถหุ้มเกราะคันหนึ่ง ตูม! มันเอียงไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนเสียหลักพุ่งชนเข้ากับกองท่อนซุง

         "คุ้มกันคันที่เสียหาย ที่เหลือขับไล่พวกมันออกไป" หัวหน้าทีม Bravo 6 สั่งการ

         แท่นปืนกลทั้งสองระดมยิงอัดไปยังกำบังฝั่งไททัน เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้งยิงลูกระเบิดออกไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังทำความเสียหายหลังที่กำบัง

         กระสุนวิ่งโฉบเฉี่ยวไปมาอย่างดุเดือด พวกเขาต้องก้มลงต่ำเมื่อเคลื่อนที่ 

         ภายในรถหุ้มเกราะที่เสียหาย ทีมเฉพาะกิจที่ยังมีสติเปิดประตูหลังรถออกมา เลือดไหลอาบใบหน้าของเขา แต่เขาก็ยังช่วยทีมยิงสกัดพวกไททันต่อ

         "Bravo 6  Little Bird กำลังถึงคุณในหนึ่งนาที ชี้เป้าให้เราด้วย" เสียงพูดจากวิทยุแจ้งเข้ามายังหัวหน้าทีม

         "รับทราบ เราจะชี้เป้าให้" ลูกทีมอีกคนหนึ่งโยนระเบิดควันสีเหลืองไปยังฝั่งของไททัน "ยิงถล่มเหนือควันสีเหลืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ"

         "ทราบ พร้อมทำการยิง" สิ้นเสียงตอบรับ เสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์แหวกอากาศมาแต่ไกลดัง พั่บๆ และใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

         Little Bird เป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก แบบ AH-6 ติดปืนมินิกันสองฝั่งและเครื่องยิงจรวดวิถีโค้ง Little Bird ลำแรกที่มาถึงกราดยิงด้วยมินิกันเหนือควันสีเหลืองเป็นแนวยาวขึ้นไป ลำที่บินตามมาปล่อยจรวดวิถีโค้งลงสู่พื้นที่เป้าหมายระเบิดเป็นแนวเช่นกัน 

         แสงระเบิดสว่างวาบไปทั่วบริเวณ ตามด้วยเสียงกึกก้องดังระงมไปทั่ว เหล่าหน่วยรบพิเศษแสดงความสะใจปนโกรธแค้น แนวระเบิดส่องแสงไล่ไปทีละลูกราวกับพลุที่จัดแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต เหล่าไททันต่างล่าถอยอย่างเสียท่า

         "เย่! ให้มันได้อย่างนี้สิ" 

         "มาสิวะ กล้ามากที่เข้ามาท้าทายในราชอาณาจักร" ลูกทีมไล่ยิงไททันที่อยู่นอกแนวการยิงของ Little Bird

         ด้วยความที่ เป็น ฮ. ขนาดเล็กและคล่องตัวสูง ลูกจรวด RPG ไม่สามารถยิงโดนได้ง่าย ฮ.ลำแรกบินหลบอย่างคล่องแคล่ว ลูกจรวดวิถีโค้งยิงสวนกลับทำลายเป้าหมายจนสิ้นซาก เมื่อพวกไททันฝ่าฝืนที่จะสู้ต่อ ทีมเฉพาะกิจและรบพิเศษจึงไม่อาจจับเชลยได้ พวกไททันถูกสังหารเรียบ



    ณ อาคารบริษัทข้างโรงงานแปรรูปไม้ 

         ไททันนำกำลังตามทีมชาลี้นมายังชั้นที่สี่ ตลอดทางมีการยิงปะทะประปราย ที่ชั้นนี้เองที่ชาลี ตรึงไททันไว้ที่ทางเดินกลางอาคาร

         "มันขึ้นมาเจ็ดคน" ทีมชาลีคนหนึ่งรายงาน

         "ทราบ เข้าที่กำบังไว้"

         ทีมชาลีสองคนที่ขึ้นมาก่อนโรยตัวด้วยเชือกจากชั้นห้า ลงสู่ชั้นสี่ เขาทั้งสองถีบบานกระจกยันตัวออกจากอาคาร ใช้แรงเหวี่ยงจากเชือกและน้ำหนักตัวกะจังหวะให้ตรงกับบานกระจกชั้นสี่ เมื่อเชือกกระตุกกลับก็เหวี่ยงร่างทั้งสองเข้าปะทะกับกระจก ทว่าก่อนที่จะปะทะ ทั้งสองใช้เท้ายันไปข้างหน้าและกราดยิงทะลุกระจกเข้าไปในทางเดินกลาง ปังๆๆๆๆๆๆ! 

     เพล้ง!! ปังๆๆๆๆๆ!

         ไททันที่ไม่ทันระวังก็ถูกโจมตีจากข้างหลัง ทั้งเจ็ดคนล้มลงกองกับพื้น ทีมชาลีทั้งสองคลายเชือกออก คนที่เหลือจึงเข้าตรวจสอบร่างของไททันที่ล้มกองนั้นทันที

         ไททันคนหนึ่งยังมีลมหายใจ ทว่าก็รวยรินมากแล้ว

         "ฮ..ฮ..ฮ่าๆๆ "

         "ขำบ้าไรวะ" ชาลีคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เอาปืนจ่อไปที่ศีรษะ

         "พวกมนุษย์...ดิ้นรนไป...ก็เปล่าประโยชน์ แค่ก!" เสียงลอดผ่านจากใต้หน้ากาก "นางจะปราณีเฉพาะผู้สวามิภักษ์เท่านั้น ฮ..ฮ่าๆๆ ฮ.."

         ปัง!! 

         ร่างนั้นแน่นิ่งไปในทันที หน้ากากเป็นรูทะลุเข้าไปด้านใน

         "จะได้ไม่ทรมาน"

         ซ่า ซ่า  เสียงคลื่นวิทยุแทรกเข้ามา

         "ทางฝั่งบริษัทเป็นไงบ้าง ได้ตัวเป้าหมายไหม"

         "ปฏิเสธ เงียบกริบ ไม่มีใครอยู่ที่นี่"
         
         "มีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่"

         "ไม่มีครับ เราจะกลับไปรวมตัว"

         "ทราบแล้ว"


         ทางด้านโรงงาน ฮ.Little Bird ลงจอดและนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บหนักใส่เปลและนำขึ้น ฮ.ไปก่อน คนที่บาดเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจต่อไปได้ จะนั่งบนแท่นที่ยื่นออกมาข้างลำในลักษณะห้อยขา มีราวให้จับอยู่เหนือศีรษะ ซึ่งหน่วยรบพิเศษคุ้นเคยกับมันอย่างดี เพราะสามารถเข้าออกพื้นที่ได้รวดเร็วและสะดวก แลกกับความตื่นเต้นเร้าใจในระหว่างที่ ฮ.บินอย่างโลดโผน

         "เอาไงกับรถหุ้มเกราะนี่ดีครับ" ลูกทีม Bravo 6 กล่าว

         "ทิ้งไว้นี่แหละ" หัวหน้าทีมกล่าว "อีกไม่นานเราน่าจะได้ตำแหน่งของฟิโอเร่มาแล้ว ระหว่างนี้เตรียมตัวให้พร้อม"

         "ครับ"

         "ทาง Charlie ไปด้วยหรือไม่ครับ" เสียงชายถามขึ้นจากด้านหลังของหัวหน้าทีม Charlie

         พุ่มหญ้าที่พูดได้แถมยังถือปืนไรเฟิลยาวยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา

         "นึกว่าจะโดนระเบิดไปสะแล้ว ดีใจที่ไม่เป็นไร" หัวหน้าทีมชาลีกล่าว "เรารอรับคำสั่งจากหน่วยเหนือเขตที่แปดเท่านั้น"

         "พลซุ่มยิงหลักสูตรนานสะด้วย เสียไปอีกคงจะแย่" หัวหน้าทีม Bravo 6 กล่าวเสริม

         "เราฝึกมาเพื่อไม่ให้สูญเสียอยู่แล้วครับ" เขากล่าวด้วยท่าทีผ่อนคลาย



         โดรน FOX 2 บินกลับเข้าเขตตัวเมืองอีกครั้ง หนนี้เข้าสู่ส่วนที่มีสีสันของเมือง บริษัทองฟิโรคือตึกที่สูงที่สุดอยู่ใจกลางเมืองล้อมรอบไปด้วยตึกสูงอื่นๆ ที่มีรูปทรงล้ำสมัย 

         โดรนจับภาพรถยน์คันหนึ่งได้ บนถนนเส้นหนึ่งมุ่งหน้าสู่กลางเมือง ทว่ารถยนต์คันนั้นกลับแวะเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าซึ่งกำลังปิดให้บริการ

         "ยืนยัน รถยนต์ส่วนตัวของฟิโอเร่ กำลังยืนยันใบหน้า" โคล่ารายงาน

         ชายในรถของฟิโอเร่ก้าวลงมาจากรถสามคน และคนที่ก้าวออกมาจากที่นั่งด้านหลังดูมีความสำคัญเป็นพิเศษ 

         "กำลังประมวลผลใบหน้า...ยืนยัน มีส่วนเหมือนร้อยละละแปดสิบ มีความเห็นให้ปฏิบัติการได้" โคล่าให้ความเห็น

         "ทราบ จะยืนยันคำสั่งอนุญาตอีกครั้ง" หญิงสาวกล่าวผ่านไมโครโฟน แล้วหันมาทางชายผู้ซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่ง "ท่านนิลกาฬคะ รอยืนยันคำสั่งค่ะ"

         นิลกาฬเริ่มออกคำสั่งในทันที "เริ่มปฏิบัติการต่อได้" เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ "ย้ายให้ทีม Charlie ขึ้นตรงกับศูนย์ประสานงาน"

         "รับทราบค่ะ จะยืนยันคำสั่ง และแจ้งไปยังเขตทหารประจำเขตที่แปด"

         "อ้อ จริงสิ เอาหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการสูงสุดรอได้เลย" นิลกาฬหันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ซึ่งวุ่นกับการคัดลอกข้อมูล

         "ครับ จะรีบทำการคัดลอกหลักฐานครับ ใช้เวลาปนะมาณ สามสิบนาที" เจ้าหน้าที่ตอบ

         นิลกาฬเหลือบมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้งหนึ่ง 



         ฮ.Little Bird ชุดที่สองมาถึงยังโรงงานแปรรูปไม้เพื่อนำไปยังพื้นที่เป้าหมายต่อไป ซึ่งมีทีม Bravo 6 จำนวนสิบสองคน ทีม Charlie จำนวนสิบคน รวมทั้งหมดยี่สิบสองคน ใช้ ฮ.ห้าลำ

         ลูกทีม Bravo 6 คนหนึ่งถอดปืนกลออกจากแท่นปืนบนรถหุ้มเกราะแล้วนำขึ้น ฮ.ไปด้วย คนอื่นๆ ที่เหลือซึ่งบาดเจ็บแต่ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ รอที่โรงงานเพื่อประสานกับทหารราบที่จะเข้ามาสมทบ

         ฮ.ขึ้นบินอีกครั้งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเขาจะทำภารกิจต่อเนื่องและมีเวลาพักอันน้อยนิด ทว่าพวกเขาก็มุ่งสนใจต่อภารกิจโดยมิได้ปริปากบ่นแต่อย่างใด ราวกับพวกเขาเป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ปฏิบัติภายใต้คำสั่งกว้างๆ วิธีการเป็นของพวกเขา อาวุธต่างๆ ไหลท่วมมาให้พวกเขาเพื่อสนองต่อภารกิจไม่ว่าจะยากสักเพียงใด

         เพียงไม่นาน ฝูง ฮ. ได้เข้าสู่เขตเมืองตรงไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งปิดให้บริการแล้ว 

         ฮ.ลงจอดห่างออกไปประมาณสามร้อยเมตร ทีม Bravo 6 และ Charlie เคลื่อที่เข้าปิดล้อมรอบห้าง ทั้งภาคพื้นและทางหลังคา

         "เราจะหาทางเข้าไปยังภายใน จัดการกล้องวงจรให้ด้วย" หัวหน้าทีม Bravo 6 ร้องขอ

         "รับทราบ โคล่าได้กล้องเรียบร้อย" ทีมโคล่าซึ่งยังคงอยู่ที่โรงแรมสนับสนุนทีม Bravo 6 "ยืนยัน เป้าหมายยังอยู่ภายในอาคาร"

         "ขอให้ไม่มีทางใต้ดินแล้วกัน"

         "เราจะดูผังอาคารให้"

         หน่วยเฉพาะกิจและรบพิเศษต่างเข้าไปในอาคารด้วยวิธีต่างๆ กระจกด้านหน้าของห้างถูกเจาะเป็นช่องแล้วนำแผ่นกระจกออกไปวางอย่างแผ่วเบา ประตูเหล็กด้านหลังทางทีมโคล่าเปิดให้ ส่วนบนหลังคานั้น ช่องประตูทางขึ้นไม่ได้ล็อกไว้

         เมื่อทั้งหมดอยู่ภายในอาคารแล้ว ก็ไล่เคลียพื้นที่ทีละส่วนเพื่อหาตัวเป้าหมาย

         "Charlie พบเป้าหมายแล้ว มีพวกอีกห้าคน"

         "ทราบ เราจะตามขึ้นไป"

         เป้าหมายของพวกเขาอยู่ที่ห้องประชุมด้านหลังของห้าง ซึ่งแบ่งแยกออกจากส่วนที่บริการลูกค้า เป้าหมายหรือฟิโอเร่ เขาสวมสูทโดยไม่ผูกเนกไท ผมย้อมเป็นสีทองหม่นเสยผมไปข้างหลังสไตล์มาเฟีย

         "แกจะไม่รู้ได้ไง" ฟิโอเร่กระชากคอเสื้อของชายอีกคนหนึ่งที่ดูมีอายุซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน

         "ฉันไม่รู้จริงๆ ตั้งแต่เมื่อคืนยังติดต่อคุณ ฟิโร ไม่ได้เลย หน่วยรักษาความปลอดภัยก็ไม่ให้เข้าพบ" ชายที่ถูกกระชากเสื้อกล่าว

         "ทั้งที่แกเป็นคนจ้างพวกมันมาทำเรื่องแบบนี้เนียนะ" ฟิโอเร่ถีบตัวของชายดังกล่าวจนเก้าอี้พุ่งพาร่างของเขาไปกระแทกกำแพง

         ฟิโอเร่ ชักปืนพกขึ้นเล็งไปที่ชายดังกล่าว ทีม Charlie ได้ทำการอัดวิดีโอไว้ทั้งหมดพร้อมถ่ายทอดสดไปยังห้องสั่งการและทีมโคล่า

         "เป้าหมายชักปืนออกมาแล้ว จะให้เข้าจับเลยไหม" หัวหน้าทีมชาลีถาม

         "รอก่อน" หัวหน้าทีมบราโว่กล่าว

         ฟิโอเร่เดินเข้าไปเอาปืนจ่อที่ศีรษะของชายที่ถูกถีบ

         "นั่นมันเงินร่วมทุนของฉันด้วย"

         "ฉันเป็นแค่ฝ่ายการเงิน ฉันส่งเช็คให้ยัยเลขาฯ นั่นไปตามคำสั่งเท่านั้น ฉันไม่รู้จริงๆ"

         "หึ" ฟิโอเร่ แสยะยิ้ม

         "เข้าเลย!"

         กริ๊ก 

         บรึม!! 

         ระเบิดปะทุออกส่องแสงสว่างวาบพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังอัดไปทั่วห้อง จนคนในห้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ชายหลายคนพุ่งกรูเข้าไปในห้อง จับรวบตัวทุกคนภายในห้อง บางคนก็โดนจับทุ่มอย่างรุนแรง

         "นี่เจ้าหน้าที่ทหาร วางอาวุธลง!"

         ฟิโอเร่ถูกชาลีคนหนึ่งจับกดลงที่พื้นอย่างแรง ปืนในมือหลุดกระเด็น

         "อ้าก!" ฟิโอเร่ร้อง "รู้ไหม ฉันเป็นใคร พวกแกทำแบบนี้ไม่ได้นะ"

         "ไม่ต้องห่วง พ่อแก จะตามมาในไม่ช้า" หัวหน้าทีมชาลีกล่าว "คลุมหัวแล้วนำตัวออกไป"

         "อย่านะ...อาอะเอย" ทีมชาลีใช้เส้นเคเบิ้ลมัดข้อมือและใช้เทปกาวปิดปากแล้วคลุมด้วยถุงผ้าสีดำ

         พลั่ก!

         "อื้อ!" ทีมชาลีพาตัวฟิโอเร่เดินชนขอบประตู

         "โทษ"

         "เราได้ตัวเป้าหมายแล้ว" หัวหน้าทีมบราโว่รายงาน "เหลือแค่ฟิโรเท่านั้น"

         "รายงานจากสาย ฟิโรอยู่ในตึกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว" โคล่ากล่าว "มีกำลังคุ้มกันประมาณ สองกองร้อยเห็นจะได้"

         "ขอ Fairy 01 สนับสนุนด้วย"

         "ทราบ ทำการร้องขอแล้ว เราจะส่งข้อมูลต่างๆ ให้ ใช้เวลาประมาณ  ยี่สิบนาที" โคล่ากล่าว


    "ได้ ระหว่างนั้นคือเวลาพัก เมื่อได้ข้อมูลแล้วเราจะวางแผน และเริ่มปฏิบัติการหลังจากนั้น" หัวหน้าทีมบราโว่วางปืนไรเฟิลลงที่โต๊ะ "ราตรีสวัสดิ์ โคล่า"


    "เราจะติดต่อไปใหม่พร้อมข้อมูล ราตรีสวัสดิ์ Bravo และ Charlie เลิกกัน"






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×