ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #51 : ตอนที่ 3 An Intern II.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11
      0
      18 ก.พ. 62

     ตอนที่ 3 An Intern II.


        เช้าตรู่ของวันใหม่ แสงอาทิตย์สาดส่องลอดผ่านช่องว่างระหว่างอาคาร เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเป็นเวลาเริ่มต้นของอีกวันหนึ่ง แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่พึ่งลืมตาขึ้นมองดูวันใหม่ ทว่าผู้คนบางส่วนต้องเริ่มกิจวัตรก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าตามหน้าที่ของแต่ละคน

         ในเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ SA บางส่วนต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาขึ้นรถไฟที่ชานชาลาให้ทัน ซึ่งมีภารกิจพิเศษที่เจ้าหน้าที่บางส่วนต้องออกนอกเขต

         คาระนั่งรอขบวนรถไฟที่สถานีรถไฟกลางของเขตที่เจ็ด เขาวางกระเป๋าเดินทางไว้ตรงหน้าเก้าอี้ที่เขานั่งแล้ววางขาพาดทับ กรงสัตว์เลี้ยงที่สามารถหิ้วได้วางไว้ที่ข้างกระเป๋าของเขา แมวสีดำตัวหนึ่งนอนขดตัวงีบหลับอยู่ภายใน

         ระหว่างรอเขาเปิดกระเป๋าเดินทางแล้วคว้าบัตรเจ้าหน้าที่ขึ้นมาคล้องเข้าที่คอ กระเป๋าเดินทางของเขาใช้เป้สนามสีดำ ซึ่งกองกำลังสำรองได้แจกให้แก่ผู้ที่เข้ารับการฝึกทุกคน 

         ช่วงหลังสงครามกองกำลังสำรองได้รับงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อให้จัดสวัสดิการจนเกือบเทียบเท่ากับทหารประจำการในเวลาที่เข้ารับการฝึก คาระเองก็เช่นกัน เขาได้นำอุปกรณ์มากมายที่ได้รับมาใช้ในการเดินทางครั้งนี้

         ที่ชานชาลามีคนมารอขบวนรถไฟไม่มากนัก และสองถึงสามคน คาระคาดว่าพวกเขาคือเจ้าหน้าที่ SA

         ปู๊น! 

         เสียงหวีดรถไฟดังขึ้นสั้นๆ ต่างจากเสียงของรถไฟทั่วไป เป็นสัญญานเตือนว่ารถไฟกำลังจะเข้าเทียบชานชาลา คาระลุกขึ้นแบกเป้ขึ้นบ่าและยกกรงขึ้นเดินไปยืนที่หลังเส้นสีเหลือง ผู้โดยสารอีกสองคนที่เขาคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็เช่นเดียวกัน

         ขบวนรถไฟที่ทันสมัยและมีขนาดใหญ่กว่าปกติเคลื่อนที่ช้าลง จนกระทั่งหยุดสนิทเมื่อเทียบชานชาลา เจ้าหน้าที่ SA ในชุดเกราะพร้อมอาวุธลงมาจากขบวนแล้วยืนประจำจุดรอบขบวนรถ เจ้าหน้าที่ทั้งสามที่สถานี รวมถึงคาระต้องยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนขึ้นขบวนรถไฟ

         เมื่อทั้งสามคนขึ้นรถไฟเรียบร้อย รถไฟจึงเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาอย่างช้าๆ เจ้าหน้าที่ติดอาวุธจึงขึ้นมาบนขบวนรถทีหลัง

         "คาระ ทางนี้" หญิงสาวสวมฮูดสีดำที่มีขอบเรืองแสงสีเขียวเรียกเขา 

         คาระจำเสียงและผมสีบลอนด์ทองของเธอได้ เขาจึงเดินไปวางสัมภาระไว้ในที่เก็บด้านบนของที่นั่ง

         ภายในขบวนรถไฟที่คาระขึ้น ทั้งสองด้านซ้ายขวาเป็นที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากัน กว้างขวางและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มากกว่าด้วย

         "อรุณสวัสดิ์ครับ คุณวาเลนไทน์" คาระนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอ "แล้วพี่คิระล่ะครับ"

         "ม้าว!"

         เจ้าแมวดำกระโดดหนีออกจากกรงเข้ามาซุกที่ด้านหลังของคาระ

         "ฮ่าๆๆ เลี้ยงแมวด้วยหรือนี่" คิระหัวเราะร่วน เขาแอบเปิดกรงเพื่อเล่นกับมัน

         "โธ่! อย่าแกล้งมันสิครับ" คาระรวบตัวแมวดำขึ้นมาอุ้ม มันยังคงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา

         วาเลนไทน์มองคาระด้วยความสงสัย 

         "ดูมันไม่ค่อยถูกกับพวกเราเท่าไรนะ...ไม่ชินกับคน" เธอกล่าว

         "ผมเจอมันที่หน้าบ้าน เมื่อสามวันก่อนครับ" คาระลูบตามตัวของมัน

         "สามวันก่อนงั้นหรือ" วาเลนไทน์ตั้งข้อสังเกต แววตาของเธอจ้องจับผิด

         คาระเริ่มกังวลต่อสายตาของเธอ 

         "อาจจะดีกว่านะที่กลัวคน จะได้ไม่รบกวนพวกเรา ช่วงที่อยู่ในห้องพัก" คิระกล่าวขัด ทำลายบรรยากาศดังกล่าว

         'สถานีต่อไป สถานีทิศใต้ของเขตที่เจ็ด'

         เสียงประกาศตามสายดังขึ้น เจ้าหน้าที่ SA ในชุดเกราะพร้อมรบก็หยิบอาวุธของพวกเขาไปยืนประจำที่ประตูทางขึ้นลงของรถไฟในทันที

         รถเคลื่อนที่เข้าจอดสนิทที่หน้าชานชาลา สถานีแห่งนี้มีเพียงชายหนุ่มสองคนเท่านั้นที่จะขึ้นขบวนของ SA เจ้าหน้าที่ด้านล่างนำพวกเขามายังตู้โดยสารที่คิระ วาเลนไทน์ และคาระโดยสารมา 

         "อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกคน" ไอน์กล่าวทักทาย พร้อมกับวางสัมภาระไว้เหนือที่นั่ง

         เซตเองก็ทำเช่นเดียวกัน เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อย เซตและไอน์ต่างพากันจับจ้องมาที่แมวดำที่ คาระพามาด้วย แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้สังเกตอย่างละเอียด วาเลนไทน์กลับเรียกตัวพวกเขาเสียก่อน

         "เซต ไอน์ อีกสักพักกว่าจะถึงบางกอกใหม่ ลองไปตรวจสอบอุปกรณ์ที่ต้องใช้ที่ตู้ข้างหน้าก่อน" วาเลนไทน์ลุกออกจากที่นั่ง

         "อะ...ครับ" พวกเขาทั้งสองตอบรับและเดินตามวาเลนไทน์ไป

         คิระเข้ามานั่งแทนที่วาเลนไทน์และเริ่มพูดคุยกับคาระหลังจากที่เธอพ้นออกจากตู้ขบวน

         "ช่วงนี้สบายดีหรือเปล่า" คิระเริ่มถาม

         "อา...ก็สบายดีครับ" คาระลูบไล้ตามตัวแมวดำ


         "ฟาเรนไฮต์..."


         ทันทีที่คิระกล่าวชื่อนั้นขึ้น ความคิดของคาระก็กลายเป็นสีขาวโพลน 

         "นักรบที่คุ้มกันเจ้าล่ะ เธอไม่ได้ขัดข้องใช่ไหม" คิระสังเกตได้ว่า คาระหยุดขยับมือเมื่อกล่าวถึงเธอ

         "ครับ ไม่ได้ขัดข้อง..." คาระก้มมองที่เจ้าแมวดำแล้วตอบคำถาม
     
         "จริงๆ แล้ว...เธอไม่อยู่แล้วครับ" คาระกล่าว "เธอรู้แล้วว่าผมไม่ใช่เอคโค่"


         แววตาของคาระให้คำตอบคิระแล้ว คิระที่ได้รับรู้นั้นไม่ได้ถามความรู้สึกของเขาออกไป

    ความเงียบขั้นกลางระหว่างบทสนทนาสักพักหนึ่ง


         "เอ่อ...ไม่เป็นอะไรครับ ผมค่อนข้างมั่นใจว่ารับมือกับปีศาจได้" คาระเริ่มทำลายความเงียบ

         "โอ้ จริงสิ เจ้าฝึกมาตลอดเลยนี" คิระพิงหลังกับพนักพิง 

         "แต่ว่านะ...รู้ไหม การต่อสู้ฆ่าฟันกัน มันเป็นสิ่งอาถรรพ์"

         "หืม หมายความว่ายังไงครับ"

         "ถ้าหากมีคนจะฆ่าเจ้า เจ้าจะรู้สึกอย่างไร" คิระถามโดยต้องการแค่ให้คาระคิดตาม

         "หากเจ้าจะต้องป้องกันตนเอง จากผู้ที่จะฆ่าเจ้า เจ้าจะรู้สึกอย่างไร แน่นอน ว่าเจ้าต้องพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้ง"

         คาระนั่งฟังอย่างตั้งใจ

         "สัมผัสจากด้ามดาบถึงผิวหนัง เลือด กระดูก อวัยวะภายในที่ถูกเชือดเฉือน แววตาของเขาจะแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด ความเกลียดชัง และพวกเขาจะสาปแช่งเจ้า พร้อมจะรับความกดดันดังกล่าวไหม ทุกคืนก่อนนอน จิตสำนึกจะตั้งคำถามต่อตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าที่ทำลงไปมันถูกต้องไหม แม้จะเป็นการป้องกันตัวก็ตาม"

         คิระหยิบมีดของเขาเล่มหนึ่งขึ้นมา 

         "น้ำหนักของอาวุธชิ้นนี้ ไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่เมื่อมันสังหารใครก็ตาม น้ำหนักของมีดเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่มือแล้ว แต่มันกลับเหมือนหล่นทับลงมา ต้องใช้ร่างกายทั้งหมดแบกมัน"

         "ผมจะแบกรับมันเอง หากจำเป็น" คาระกล่าวอย่างจริงจัง น้ำเสียงของเขาแสดงความรู้สึกบางอย่างที่คิระคุ้นเคย

         "ขอเตือน เจ้าไม่ควร..."

         ครืด

         ประตูระหว่างตู้โดยสารเปิดออก วาเลนไทน์ก้าวเข้ามาเป็นคนแรก ตามด้วยไอน์และเซต

         "เรียบร้อยดี ไม่ขาดตกบกพร่อง" วาเลนไทน์กล่าวให้ทุกคนได้ยิน "อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงจะถึงที่หมาย มาแบ่งหน้าที่กันให้เรียบร้อยก่อนเถอะ"

         คิระ วาเลนไทน์ คาระ เซต และไอน์มานั่งรวมที่เดียวกัน โดยวาเลนไทน์รับหน้าที่ชี้แจงรายละเอียดข้อมูล

         "หน้าที่ในบางกอกใหม่และเก่าคือ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนางฟ้าตกสวรรค์ให้มากที่สุด รวมถึงกองกำลังไททันด้วย เพราะฉะนั้นมันมีความเสี่ยงสูงพอควร"

         "ไททันมีส่วนในเรื่องนี้ด้วยหรอครับ" คาระสงสัย

         "ใช่ รายละเอียดจะเล่าให้ฟังทีหลัง" วาเลนไทน์ตอบ "การรวบรวมข่าวจะแตกต่างจากหน่วยข่าวกรองของกลาโหม SA จะเน้นไปที่สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์หรือมนุษย์ก็ได้ เราต้องรวบรวมข่าวให้มากที่สุด เพื่อจะหามาตราการป้องกันหรือตอบโต้"

         คาระตาโตแล้วหันไปมองที่เซตและไอน์ เขานึกไม่ถึงว่าเพื่อนๆ ของเขาจะต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ และก็รู้สึกแปลกใจในเวลาเดียวกันที่พวกเขาทั้งสองกลับไม่มีท่าทีใดๆ เป็นพิเศษ

         "ในพื้นที่มีศัตรูไหม" เซตถามบ้าง

         "แน่นอน มี แต่ไม่สามารถระบุตัวตน สถานที่ได้อย่างแน่ชัด"

         "แล้วมีหน่วยงานอื่นที่ทำงานร่วมกับเราไหมครับ" ไอน์ยกมือขึ้นระดับเดียวกับใบหน้าแล้วถาม

         "เจ้าหน้าที่จากศูนย์ประสานงาน บุคคลากรมีความหลากหลายมาก ถ้าเจอกันก็อย่าไปขวางทางพวกเขา เลี่ยงออกมา"

         "แล้วขอบเขตการใช้กำลัง" เซตถามต่อ

         "ไม่อนุญาต..." คิระกล่าวตอบแทน "เว้นแต่ จำเป็นและห้ามใช้กับมนุษย์"

         คาระยิ่งได้ฟังก็ยิ่งประหลาดใจที่ เซตกล่าวถึงการใช้กำลัง และไม่ได้ใช้กับมนุษย์

         "เมื่อถึงที่หมาย เราจะกำหนดพื้นที่และรายละเอียดอีกครั้ง แต่เรื่องที่เร่งด่วนกว่านั้น" วาเลนไทน์มองมายังเด็กใหม่ทั้งสามคน "มีเรื่องที่อยากคุยกันสินะ ขอตัวก่อน"

         วาเลนไทน์และคิระลุกออกจากที่นั่ง และย้ายไปยังอีกตู้โดยสารหนึ่งโดยทิ้งเด็กใหม่ทั้งสามไว้ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้ายามประจำแต่ละตู้ยืนประจำตำแหน่งนิ่ง ไม่ไปไหน อยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินบทสนทนา

         คาระมองไปมาระหว่างเซตและไอน์

         "เอ่อ...จะเริ่มยังไงดี" ไอน์เป็นคนเริ่ม "เราสองคนสามารถมองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น..."

         "โอ้! เหมือนกันเลย" คาระกล่าวด้วยความตื่นเต้น "น่าจะบอกกันก่อนนะ จะได้ไม่รู้สึกแปลกแยก"

         "เรื่องแบบนี้มันพูดยากอยู่นะ" เซตกล่าว

         "งั้นภายในห้องเรา ก็มีสามคนแล้วสิที่มีสัมผัสพิเศษ"

         "สาม หรอ" เซตทวนคำ

         "ใช่ รูทเองก็ด้วย"

         เซตและไอน์จดจำข้อมูลที่คาระบอกกล่าว รูท เซตเองก็พึ่งจะรู้ในตอนนี้

         "น่ายินดี อย่างน้อยเราก็เข้าใจกันได้" ไอน์ดันแว่นให้เข้าที่

         ทั้งสามต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างสนุกสนาน เรื่องราวของพวกเขาถ่ายทอดให้กันและกัน ทว่าเซตและไอน์เลือกส่วนที่จะถ่ายทอดให้ฟังเท่าที่พวกเขาคิดว่าเพียงพอเท่านั้น ต่างจากคาระที่ไม่ได้มีความหวาดระแวงต่อเพื่อนของเขา จึงเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นข้อมูลใหม่ให้เซตและไอน์ได้ฟัง ยกเว้นเรื่องที่เขาถูกสงสัยว่าเป็นเอคโค่และฟาเรนไฮต์



         เวลาผ่านไปพักหนึ่ง เสียงประกาศแจ้งเตือนก็ดังขึ้น เตือนให้พวกเขารู้ว่าจะถึงเมืองบางกอกใหม่แล้ว วาเลนไทน์และคิระกลับมาที่ตู้โดยสารเดิมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะถึงที่หมาย

         เพียงไม่นานหลังจากประกาศ รถไฟเปลี่ยนเส้นทางไม่ได้เข้าสถานีบางกอกใหม่ แต่กลับมุ่งไปที่โรงซ่อมบำรุงที่ห่างจากสถานีบางกอกใหม่ประมาณห้านาที

         ขบวนรถไฟของ SA เข้าไปภายในโรงซ่อมบำรุงและจอดให้เจ้าหน้าที่ได้ลง เจ้าหน้าที่หลายสิบคนพร้อมสัมภาระลงมาจากขบวนรถไฟ เดินเท้าออกไปยังบริเวณหน้าโรงซ่อมบำรุง ระหว่างทางบนขบวนรถไฟของพวกเขาได้แสดงให้เห็นภายในตู้ขบวนต่างๆ ที่ไม่มีผู้โดยสาร ชุด ES หลายชุดที่บรรจุอยู่ภายในตู้หนึ่ง ได้ถูกนำออกมาเพื่อเตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน อีกตู้หนึ่งบรรทุกยานเกราะติดป้อมปืนที่เหมือนกับที่ใช้ในค่ำคืนที่ยาวนาน

         "โอ้ เริ่มรู้สึกกังวลแล้วสิ" ไอน์กล่าว

         เมื่อพวกเขาออกมาที่หน้าโรงซ่อมบำรุง เจ้าหน้าที่ต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตนเอง บางคนก็จับกลุ่มแยกกันไป บางคนก็เดินทางเพียงลำพัง

         "พวกเขาต้องทำงานคนละพื้นที่เพื่อให้ครอบคลุม และไม่สะดุดตา" คิระอธิบาย "พวกเราต้องขึ้นรถไฟฟ้า ไปยังรอยต่อระหว่างบางกอกใหม่และเก่า"


         จากสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่แถบชานเมืองเข้าสู่ตัวเมือง แต่ละสถานีที่ผ่านไป บ้านเมืองค่อยๆ เปลี่ยนบรรยากาศไปทีละน้อย ยิ่งเข้าใกล้ตัวเมือง อาคารสูงก็เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น ตึกสูงหลายตึกอยู่ในระหว่างก่อสร้าง สังเกตเห็นได้ง่ายเพราะจะมีแท่งเสาเหล็กสูงต่อขึ้นจากตัวอาคารขึ้นไปอีกเพื่อใช้ยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก

         และที่สะดุดพวกเขาเป็นอย่างมากก็คือ แต่ละสถานีจะมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเพิ่มมากขึ้นจนผิดสังเกต นั่นอาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตที่เจ็ดและแปด รวมถึงการยิงปะทะในเขตศูนย์กลางอำนาจอย่างเขตที่สาม และล่าสุดคือการลอบสังหารสมาชิก ส.ส.ฝ่ายค้านกับการหายตัวไปของ รมต.กระทรวงมหาดไทย

         ผู้คนให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกันในช่วงนี้ จนเริ่มมีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ทั้งที่น่าเชื่อถือและที่เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้น เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวของรัฐบาลคงจะต้องเจองานหนักไปอีกพักใหญ่ในการควบคุมข่าวลือ

         ภายนอกที่ว่ามีปัญหาหนักต้องจัดการแล้ว ทว่าภายในรัฐสภากลับร้อนระอุมากกว่า เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ กระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ฝ่ายค้านใช้ประเด็นดังกล่าวในการโจมตี รวมถึงผู้คนที่สนับสนุน โทรทัศน์ที่ติดตั้งตามที่สาธารณะมีแต่ข่าวที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งที่เริ่มก่อตัวขึ้นจากภายใน 

         "รายต่อไปที่จะโดนคงเป็นผู้ปกครองของแต่ละเขต" คิระกล่าว 

         "อีกไม่นานคงจะมีคนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการแบ่งเขต ที่สหประชาชาติเสนอแนะ เพื่อกำจัดผู้ปกครองให้พ้นทางออกไป" วาเลนไทน์ให้ความเห็น

         "จริงสิ แม่สาวอดีตหน่วยข่าวกรอง ได้กลับมาทำงานถนัดแล้วสิ" คิระยื่นหน้าไปใกล้วาเลนไทน์และกระซิบบอก "อุ้ก!" คิระหดตัวลงเนื่องจากถูกกระแทกอย่างแรงที่ท้องด้วยศอกของวาเลนไทน์


         เมื่อถึงสถานีสุดท้ายของบางกอกใหม่ วาเลนไทน์นำกลุ่มของเธอไปที่ห้องพักซึ่งเป็นอพาร์ทเมนท์หลังหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากแนวกันน้ำ ซึ่งเลยแนวกันออกไปจะเป็นเมืองหลวงเก่า

         อาคารห้องชุดดังกล่าวมีความสูงสิบชั้น สร้างด้วยคอนกรีต ที่ชั้นแรกจะเป็นโถงที่ใช้รับรองผู้ที่มาเช่าห้องพัก และเป็นร้านกาแฟอีกส่วนหนึ่ง 

         วาเลนไทน์เดินเข้าไปในส่วนของโถงรับรอง ที่เคาน์เตอร์มีหญิงวัยกลางคนหนึ่งเป็นผู้ให้บริการ

         "อ้าว คุณวาเลนไทน์ ดีใจที่ได้พบคุณอีกนะคะ" หญิงวัยกลางคนกล่าวทักทายเสียงหวาน

         "คุณผู้ดูแล ครั้งนี้ ข้าต้องขอใช้ห้องที่มีพื้นที่มากขึ้น เรามากันห้าคน" วาเลนไทน์บอกความต้องการของเธอ

         "โอ้ ชั้นที่เก้าว่างอยู่พอดีค่ะ" ผู้ดูแลยื่นกุญแจให้วาเลนไทน์ "ไม่นึกเลยว่าจะได้พบคุณอีก หลังจากสงคราม มาทำงานหรือคะ"

         "ใช่ แต่ข้าเปลี่ยนงานแล้วนะ"

         "ค่ะ ถ้าต้องการใช้ห้องใต้ดิน ช่วยแจ้งล่วงหน้าด้วยนะคะ ตอนนี้ผู้เช่ารายอื่นใช้งานค่อนข้างบ่อย"

         "อ่า ข้าเข้าใจล่ะ สถานการณ์ตอนนี้ ก็คงเป็นแบบนี้ล่ะ ขอตัวนะ"

         "มีอะไรให้รับใช้ก็ติดต่อมานะคะ" หญิงวัยกลางคนผู้ดูแลโค้งศีรษะลงเล็กน้อย

         วาเลนไทน์นำกลุ่มของเธอขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นเก้า เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก พวกเขาพบว่ามีประตูห้องตรงหน้าเพียงประตูเดียวเท่านั้น

         "หืม ประตูสองชั้นหรือ" คิระสงสัย

         "ใช่ เสริมเหล็กหนาสองชั้น" คำตอบของวาเลนไทน์ทำเอาชายหนุ่มที่ตามเธอมาถึงกับเกิดอาการงง

         เมื่อวาเลนไทน์ไขกุญแจที่รูกุญแจตรงกำแพงข้างประตูห้อง แผ่นฝาโลหะที่กลมกลืนกับผนังก็เปิดออกเผยให้เห็นแผงปุ่มกดที่มีเลขศูนย์ถึงเก้า เธอกดรหัสอย่างรวดเร็ว ประตูเปิดออกเผยให้เห็นภายใน

         "ว้าว เราใช้งานได้ทั้งหมดเลยหรือครับ" ไอน์ถาม

         "ใช่"

         ภายในแบ่งออกเป็นส่วนๆ ส่วนที่พักประกอบด้วยห้องนอนรวมหนึ่งห้อง ห้องส่วนตัวอีกสองห้อง ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องครัว กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของชั้น อีกส่วนหนึ่งจะเป็นห้องอเนกประสงค์สองห้อง และห้องฝึกซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์นิรภัยและอาวุธซ้อมทุกรูปแบบ ซึ่งชั้นนี้อยู่อาศัยได้ถึงสิบคน มันจึงมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับพวกเขา

         "เอาล่ะ ภารกิจในวันแรก ทำความสะอาดที่นี่ทุกซอกทุกมุม อีกสิบนาทีจะจับเวลา มีผลต่อรายงานที่ข้าจะเขียนนะ" วาเลนไทน์ชี้แจง "คิระ มาทางนี้"

         "อะ ข้าไม่ต้องทำแฮะ" คิระหันมายิ้มเยาะคาระและเพื่อนๆ

         "เจ้าต้องจัดการให้ห้องอเนกประสงค์พร้อมใช้งานภายในหนึ่งชั่วโมง"

         "เอ๋ ใครจะไปทำทันกัน ข้าไม่มีเวทมนตร์ประเภทนั้น..."

         "เริ่มจับเวลา" วาเลนไทน์เข้าไปในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งแล้วปิดประตูในทันที

         เหล่าชายหนุ่มไม่มีโอกาสได้โต้แย้งหรือตั้งคำถามใดๆ อีก คาระเป็นคนแรกที่เริ่มเคลื่อนไหวตามคำสั่งของวาเลนไทน์ เพื่อให้เสร็จทันเวลาพวกเขาจึงเริ่มทำความสะอาดที่ห้องอเนกประสงค์ก่อน คิระเองก็ต้องช่วยทำความสะอาดในส่วนนี้

         "คุณวาเลนไทน์ดูคุ้นเคยกับงานแบบนี้นะครับ คุ้นเคยกับที่นี่ด้วย" คาระตั้งประเด็นสนทนาระหว่างทำความสะอาด

         "เธอเคยอยู่หน่วยข่าวกรอง อาจจะเคยอาศัยอยู่ที่นี่" คิระตอบ

         "ผู้ดูแลข้างล่างนั้นรู้จักเธออยู่แล้วด้วยสิ" ไอน์เสริม

         "ฉันสนใจห้องใต้ดินมากกว่า มันคือห้องอะไร" เซตกล่าว

         "เราคงจะได้คำตอบ อีกไม่นานหรอก" คิระกล่าวขณะต่อสายไฟ


         หลังจากทำความสะอาดห้องอเนกประสงค์ทั้งสองห้องเรียบร้อยแล้ว คิระก็เริ่มจัดการเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนให้เข้าที่ในทันที เหล่าชายหนุ่มที่เหลือเลือกที่จะทำความสะอาดในส่วนที่พักก่อน

         ห้องนอนรวม มีเตียงสองชั้นทำจากไม้เนื้อแข็ง เรียงกันถึงสามแถว รวมเป็นหกเตียง ภายในมีตู้เสื้อผ้าส่วนตัวและโต๊ะทำงานเท่ากับจำนวนเตียง ตรงข้ามห้องนอนรวมคือ ห้องนอนส่วนตัวสองห้องซึ่งเป็นของคิระและวาเลนไทน์ ห้องที่กั้นระหว่างส่วนห้องฝึกกับส่วนที่พักอาศัยเป็นห้องที่มีเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ และมีห้องสุขาและห้องอาบน้ำอยู่ในส่วนนี้

         ที่สุดทางเดินในส่วนที่พักคือห้องครัวที่มีอุปกรณ์เครื่องครัวพร้อมใช้เชื่อมต่อกับระเบียงที่ทอดยาวผ่านหลังห้องนอนรวมจนถึงกำแพงของห้องอาบน้ำ ที่สุดทางเดินอีกด้านหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่นรวมกับห้องรับแขก เป็นห้องแรกที่จะเห็นเมื่อเปิดประตูเข้ามา 



         เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง วาเลนไทน์ออกจากห้องส่วนตัวในชุดลำลอง เธอเข้ามาตรวจสอบในห้องอเนกประสงค์เป็นอันดับแรก สายตาของเธอกวาดมองรอบๆ อย่างรวดเร็ว

         ห้องหนึ่งมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์มากมายจัดเรียงกัน ราวกับอยู่ในห้องบัญชาการของหน่วยทหาร อีกห้องหนึ่งถูกจัดให้เมือนกับห้องประชุม ที่มีกระดานไว้เขียนข้อความและติดข้อมูลที่จำเป็น

         "เสร็จทันตามกำหนดครับ ท่านหญิง" คิระยืนรายงานหน้าห้อง

         วาเลนไทน์ไม่ได้สนใจเขา เธอตรงไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งและเริ่มใช้งานในทันที

         "เอ๋ มีเรื่องที่จะพูดไม่ใช่หรือไง" คิระทักท้วง

         "SA มาส่งของได้ไวดีนี่" เธอกล่าว

         "โธ่" คิระทำหน้าบูดบึ้ง ก่อนที่จะไปช่วยงานส่วนอื่น

         วาเลนไทน์เหลือบมองไล่หลังของเขา

          "ฮิๆ" 

         เธอหลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนกลับมาสนใจงานของเธอต่อ


         หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่าชายหนุ่มดูจะมีความสนใจห้องฝึกเป็นพิเศษ เนื่องจากมันเต็มไปด้วยอาวุธที่ใช้ในการฝึกซ้อม พวกเขานำมันออกมาเล่น ทั้งดาบ มีด พลอง หอก  และอาวุธชนิดอื่นมากมาย

         คาระเลือกดาบมือเดียวที่คุ้นเคยขึ้นมาควงเล่น 

         "ขอดูผลการฝึกหน่อย" คิระเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดาบคู่ที่ทำจากไม้

         "เอาเลยหรอครับ" คาระถามเพื่อความแน่ใจ

         ไอน์และเซตหลบเข้าชิดผนังในทันที คิระถีบส่งตัวเองพุ่งเข้าหาคาระใช้ดาบเข้ากระแทก ปัก! คาระรับไว้ได้ทัน แต่ก็ต้องเสียหลักจากการพุ่งชน คิระไม่ได้ฟันหรือแทง เขาแค่ตั้งดาบไว้เฉยๆ แล้วพุ่งเข้ามา

         "แม้จะเป็นการฝึก แต่ต้องใส่ความจริงจังเข้าไปด้วยเสมอ" คิระเงื้อดาบอีกมือขึ้นฟันเฉียง

         คาระผละตัวถอยออกจากรัศมีของดาบ และพุ่งตัวสวนเข้าไปแทงดาบตอบโต้ในทันที เพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนปลายดาบจะถึงตัว คิระเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยเท่านั้น คาระก็แทงพลาดเลยตัวคิระไป แรงที่พุ่งตัวมาหมายจะแทงของคาระ ส่งตัวเขากระแทกเข้ากับท่อนแขนของคิระอย่างแรง พลั่ก!

         "อึก" ใบหน้าของคาระกระแทกท่อนแขนที่คิระตั้งกันไว้เฉยๆ 

         ศีรษะของคาระกระเทือน เสียงวิ้งๆ อื้ออึงไปหมด ร่างของเขาล้มลงโดยที่ไม่รู้ตัว

         "สงบใจลงก่อน การต่อสู้ต้องใช้สติและสมาธิ อย่าหวั่นไหวต่อคู่ต่อสู้ตรงหน้า" คิระอธิบาย "พร้อมแล้วก็ลองใหม่"

         คาระยันตัวลุกขึ้นและปรับลมหายใจ ดาบคู่ของคิระยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างจริงจังแม้แต่น้อย   คาระคิดว่า บางทีถ้านั่นเป็นปีกของฟาเรนไฮต์ การโจมตี รูปแบบอาจจะคล้ายกัน

         วูบ

         ปัก!! ปัก!

         คิระเข้าฟันสองครั้งที่คาระ ทว่าคาระรับได้ทัน มือของเขามันขยับไปเอง

         "เหวอ!" คาระตกใจการโจมตีที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

         "มีใครแจ้งเตือนก่อนจะฆ่าอีกฝ่ายบ้างไหม" คิระออกแรงกดดาบเพิ่มขึ้น "ผมจะฆ่าคุณแล้วนะ"

         คาระที่เริ่มรับน้ำหนักไม่ไหว เบี่ยงตัวหลบออกมา ลากดาบลงต่ำแล้วฟันเฉียงขึ้น ทว่ากลับฟันไม่โดนเพราะคิระหลบได้ ในตอนนั้นเองภาพของฟาเรนไฮต์ที่ใช้ปีกของเธอตวัดมาข้างตัวก็เข้ามาอยู่ในหัว คาระจึงก้มตัวหลบจริงๆ วูบ

         ใบดาบฟาดผ่านเหนือศีรษะของคาระไปอย่างฉิวเฉียด

         คิระทึ่งในการตอบสนองของคาระในจังหวะนั้น เพราะเขาตั้งใจฟันให้โดนคาระอย่างจริงจัง 

         แต่ด้วยฝีมือที่ต่างชั้นกัน คิระก็ฟันซ้ำทันทีอย่างรวดเร็ว คาระรับได้เพียงไม่กี่ดาบก็พลาดท่าถูกปลายดาบจ่อที่ลำคอ อีกดาบหนึ่งวางพาดอยู่บนบ่า

         "อืม ก็พอเอาตัวรอดได้บ้างล่ะนะ" คิระกล่าวก่อนลดดาบลง

         ทั้งสองโค้งคำนับให้แก่กัน

         "ไอน์ ถึงตาของเจ้าแล้ว ให้ใช้เวทได้ ถ้าไม่ทำลายข้าวของแถวนี้นะ"

         ไอน์ก้าวเดินออกไปสลับตำแหน่งกับคาระ เขาล้วงสิ่งของในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วก็สวมเข้าไปที่นิ้วมือข้างขวา มันคือแหวนเงินวงหนึ่ง คาระเห็นดังนั้นก็ต้องตะลึง แต่ก็ต้องเก็บอาการอย่างรวดเร็ว

         ไอน์ก้าวถอยห่างจากคิระพร้อมกับร่ายเวทไปด้วย ไม่ทันที่ไอน์จะได้ปล่อยพลังเวท คิระก็เข้าถึงตัวของไอน์เสียแล้ว

         "ทักษะป้องกันตัวทางกายภาพก็สำคัญนะ แล้วก็ต้องฝึกเวทที่ไม่ต้องร่ายด้วย" คิระกล่าว "เอาล่ะ คนสุดท้าย" คิระหันมาทางเซต

         เซตก้าวเข้ามายืนประจัญหน้ากับคิระ เขาไม่รีรอใดๆ พุ่งเข้าใกล้ตัวคิระและปล่อยหมัดตรงออกไปอย่างรุนแรง คิระใช้ดาบปัดมือเซตออกไป

         "ใจร้อนจังนะ" คิระกล่าว

         "ฉันไม่แจ้งเตือนก่อนจะฆ่าใครหรอก" เซตย้อนคำพูดของคิระ

         เซตยังโจมตีระยะประชิดอย่างต่อเนื่อง คิระเองก็เบี่ยงตัวหลบและปัดป้องได้ทุกครั้ง เพียงเสี้ยววินาทีที่เซตระดมยิงหมัดเข้ามา คิระเตะไปที่ข้อพับขาด้านในของเซตจนเสียหลักคุกเข่าลงกับพื้น เซตจะลุกขึ้นไปโจมตี ทว่า ดาบของคิระก็วางพาดที่หลังคอเรียบร้อยแล้ว

         "เจ้าเน้นโจมตีที่ส่วนบนมากเกินไป ส่วนล่างเจ้าไม่ได้ใช้งานเลย" คิระอธิบายจุดอ่อน

         "ชิ" เซตรู้สึกเจ็บใจที่ไม่สามารถต่อกรกับคิระได้


         "หมดเวลาเล่นแล้ว ไปจัดการธุระส่วนตัว แล้วมาที่ห้องวอร์รูม"

          วาเลนไทน์ยืนหน้าประตูแล้วทิ้งข้อความไว้ก่อนเดินจากไป


         "คุณแม่ มาตามแล้ว ไปเถอะ ล้างตัวให้เรียบร้อย" คิระกล่าว

         ไอน์และเซตปฏิบัติตามในทันที แต่คาระกลับดูเหม่อลอย คิระเห็นดังนั้นจึงเรียกคาระอีกหนหนึ่ง

         "คาระ"

         "ค...ครับ" เขารู้สึกตัวและเดินตามเซตและไอน์ออกไป

         คิระรู้สึกเอะใจกับท่าทีของคาระ แต่ก็ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เขาลังเลที่จะถามตรงๆ เพราะคาระไม่พร้อมที่จะคุยในเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน 

         เขาวาดดาบไปมาในอากาศพร้อมกับคิดถึงเรื่องของคาระ

         "จิตใจ ต่อต้านอะไรอยู่นะ" คิระรำพึง




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×