ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #54 : ตอนที่ 6 An Intern V.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14
      0
      24 ต.ค. 61

    แกร๊ก!  ครืด

         บานประตูเหล็กเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ ด้วยน้ำหนักที่มหาศาลของมัน เซต เด็กหนุ่มร่างกายสูง หุ่นแบบนักกีฬาก้าวเข้ามาในห้องเป็นคนแรก ตามด้วยไอน์และวาเลนไทน์ตามลำดับ

         "หึๆๆ ย้ายข้างกันแล้วหรอ เมี้ยว" 

         หญิงสาวในชุดเดรสที่ขาดวิ่นถูกพันธนาการตรึงไว้กับเตียงโลหะ เธอกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนล้า

         "ไม่ใช่อย่างนั้น เราแค่ต้องปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ แต่เป้าหมายยังคงเดิม" ไอน์กล่าว

         "ข้าไม่อยากพูดกับพวกคนทรยศ เมี้ยว"

    ตึง!

         ประตูเหล็กปิดสนิท กลไกทำงานล็อกประตูอย่างแน่นหนา

         "เปล่าประโยชน์ ข้าต้องกักขังเธอไว้ จนกว่าเราจะเสร็จสิ้นธุระที่นี่" วาเลนไทน์กล่าวตัดบท 

         วาเลนไทน์เห็นว่าการโน้มน้าวสไวน์เป็นการเสียเวลา เซตเดินเข้าไปใกล้สไวน์ แต่เขาไม่ได้สนใจที่เธอ ราวกับครุ่นคิดบางสื่งบางอย่าง

         "สไวน์" เซตเอ่ยชื่อเธอ "เราถูกผูกมัดด้วยสัญญา แต่เป้าหมายของพวกเขาและเราไม่ได้ขัดแย้งกันเสียทีเดียว..."

         "แม้แต่เจ้าก็ด้วยหรือ เมี้ยว เสียทีที่ข้าเข้าร่วมกับเจ้า" สไวน์กระชากสายโซ่อย่างแรง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลุดออกมาได้

         "อย่างน้อยก็ยังช่วยเหลือคาระได้โดยตรงนะ" ไอน์ช่วยโน้มน้าว

         "กรร!" สไวน์ส่งเสียงขู่ในลำคออย่างเกรี้ยวกราด "ช่วยงั้นหรือ พวกเจ้าจะรู้อะไร"

         "พอแล้ว เปล่าประโยชน์ พวกเจ้าออกไปก่อน" 

         วาเลนไทน์ขัดก่อนที่จะกันเซตและไอน์ออกไปจากห้อง

         "เดี๋ยว เรามีเรื่องต้อง..." ไอน์กล่าวแทรกผ่านช่องประตู

    ตึง! บานประตูเหล็กปิดลงอีกครั้ง

         วาเลนไทน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่

         "เฮ้อ บอกข้ามาสิ เกิดอะไรขึ้นกับคาระ"

         "ปล่อยข้าไปสิ เมี้ยว" 

         "นั่นเป็นสิ่งที่ข้าจะไม่ทำ" วาเลนไทน์เดินเข้ามาใกล้แล้วปลดโซ่ตรวนให้แก่สไวน์ "ข้าทำได้แค่กักขังเจ้าที่นี่ ข้าผ่อนผันให้ได้เท่านี้"

         สไวน์รีบกระโจนลงจากเตียง ทว่าด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือน้อยเต็มทีจากการต่อสู้กับวาเลนไทน์ เธอไม่เหลือแรงพอที่จะยืนทรงตัวอยู่ได้ ร่างของเธอล้มลงนอนกับพื้นในทันที

         "ช่วยเหลือตัวเองก็แล้วกัน ข้ายังต้องอยู่ที่นี่อีกพักใหญ่" 

         วาเลนไทน์ทิ้งสไวน์ไว้ในห้อง เธอมั่นใจว่าสไวน์จะไม่ขัดขืนเธออีกและไม่สามารถออกมาจากห้องได้อย่างแน่นอน วาเลนไทน์จึงออกจากห้องไปโดยไม่ลังเล

         "อ่า! ม้าว!" สไวน์ร้องอย่างหงุดหงิด


         เมื่อวาเลนไทน์ขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน กลับมาที่ชั้นสอง ห้องพยาบาล เซตและไอน์ต่างมารอเธอที่แห่งนี้พร้อมกับดูอาการของคาระไปด้วย ระหว่างรอคิระกลับมา เธอได้ให้เด็กหนุ่มทั้งสองเล่าเหตุการณ์โดยละเอียด ทั้งสองก็เล่าให้เธอฟัง และเธอก็จำเป็นต้องตัดสินใจการปฏิบัติงานต่อจากนี้ 

         "ข้ามีเรื่องที่สำคัญต้องขอคำยืนยันจากเจ้าทั้งสอง" วาเลนไทน์นั่งพิงหลังกับเก้าอี้ 

         "คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวคาระเองแล้ว คาระควรปฏิบัติงานภาคสนามต่อไปหรือไม่"

         "หืม อะไรนะครับ" ไอน์ถามในทันที

         วาเลนไทน์ไม่ถามซ้ำ เพราะเซตและไอน์ต่างได้ยินชัดเจนและเข้าใจดีถึงคำถาม และเธอก็เงียบรอคำตอบเป็นการยืนยันคำถาม

         เซตที่ยืนกอดอกพิงกำแพงตัดสินใจลงไปแล้ว คำตอบแสดงชัดต่อสีหน้า เขาไม่มีท่าทีต่อต้านเธอเหมือนครั้งที่ผ่านมา

         "เวทมนตร์สายฟ้าโจมตีเข้าที่คาระโดยตรง เขาไม่สามารถป้องกันตนเองจากมนตราใดๆ ได้เลย เพราะฉะนั้น..." ไอน์อธิบายเหตุผลไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นรับรู้ แต่เป็นตัวเขาเอง "งานนี้อันตรายเกินไปสำหรับคาระครับ แม้ผมจะต่อสู้ได้แย่ แต่ผมสามารถรับมือกับการโจมตีได้ดี"

         "อืม ทีนี้ก็เหลือความเห็นของคิระ" วาเลนไทน์หันออกไปยังหน้าห้อง "ว่าไง"

         เซตและไอน์หันตามไป ทว่ากลับไม่มีใครยืนอยู่ที่หน้าห้องเลย

         "..."

         "...คาระมีความมุ่งมั่น เขาพยายามอย่างมากในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เขาต้องเผชิญ..."

         คิระที่ยืนฟังการสนทนาอยู่ด้านนอกออกจากมุมลับตาก้าวเข้ามาในห้อง

         "เขาเป็นมนุษย์ที่ต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่เขาไม่ได้ต้องการ..." 

         เซตและไอน์ต่างหลบหน้าจากคิระ เพราะพวกเขารู้ตัวดีว่าเป็นผู้ที่นำให้คาระพบกับปีศาจ

         "...เส้นทางนี้มิอาจเดินกลับได้ การจะผลักไสให้เขาออกไปข้างทาง ทั้งที่เขากำลังพยายามเดินตามเป็นเรื่องที่...เฮ้อ"

         คิระหย่อนตัวลงนั่งลงบนเตียงข้างคาระ

         "ในฐานะที่เป็นพี่ชาย มีความเห็น ไม่อนุญาตให้คาระออกปฏิบัติงานภาคสนามอีก"



         เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า พยาบาลสาวนำอาหารมาให้คาระรับประทาน

         "ทานมื้อเย็นก่อนนะคะ หากรู้สึกดีแล้วค่อยกลับห้องพักก็ได้ค่ะ"

         คาระไม่ได้ตอบรับ เขาเอาแต่ยืนเท้าแขนกับขอบหน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก

         เมื่อเธอเห็นดังนั้น จึงปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวอีกพักหนึ่งและกลับไปทำหน้าที่ในส่วนของเธอต่อ

         ในระหว่างการขอความคิดเห็นเมื่อไม่นานนี้ คาระรับรู้ได้ทุกคำพูด เขาเพียงแค่ไม่สามารถตอบสนองได้เพียงเท่านั้น มันเป็นจริงดั่งที่คิระกล่าว มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ทั้งๆ ที่คาระพยายามอย่างมากในการพิสูจน์ตนเองว่าสามารถเดินบนเส้นทางนี้ได้

         แม้ว่าตัวเขาจะสามารถสนับสนุนด้วยวิธีอื่นได้ก็ตาม แต่เขาจะไม่ได้ยืนเคียงข้างเพื่อนๆ ของเขาอีกต่อไป

         และภายในใจลึกๆ ของเขามันบอกว่า เขาไม่มีทางอื่นใดเอื้อมถึงผู้ที่เขาอยากยืนเคียงข้างได้แล้ว หากถามว่ามีวิธีอื่นอีกหรือไม่ที่จะผลักดันให้คาระข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ นั่นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความรู้อีกมาก

         "บางที...คุณราตรีอาจจะมีข้อมูลให้บ้างก็ได้น้า" 

         คาระเผลอพูดเปล่งเสียงออกไป แล้วเขาก็ต้องรีบเอามือปิดปากในทันทีเพราะนึกได้ว่าอาจมีใครได้ยินเข้า

         สุดท้ายแล้วความกังวลในใจก็ยังคงอยู่ในใจของเขาต่อไป 


         
         วันต่อมา คิระ เซตและไอน์ออกปฏิบัติงานภาคสนามร่วมกับไผ่อีกครั้ง คาระและวาเลนไทน์อยู่ภายในห้องวอร์รูมจัดการข้อมูลที่ได้รับนำไปวิเคราะห์

         เจ้าหน้าที่ SA และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ประสานงานต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา เพื่อไม่ให้พลาดในจุดสำคัญ

         เกิดเหตุยิงปะทะกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติในพื้นที่แห่งนี้ อาวุธปืนจำนวนมหาศาลอยู่ในมือของผู้คนจำนนมากหลังสงคราม แต่ก็ยังไม่เจอสิ่งที่พวกเขาตามหา

         รายงานที่เข้ามาถึงมือคาระมีหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นก็มีข้อมูลที่ทำให้เขาสนในใจ 

         "คุณวาเลนไทน์ครับ มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ SA ระดับสูงเข้ามาครับ" คาระรายงาน

         "เรื่องอะไร สรุปคร่าวๆ ให้หน่อย"

         "พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเก่า ริมทะเล นักรบสวรรค์ปะทะกับนักรบปีศาจ นักรบปีศาจประมาณสิบตนถูกสังหารทั้งหมด ครับ"

         "หืม นานๆ ทีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะรายงานมานะ" วาเลนไทน์เดินไปดูเอกสารในมือของคาระ "ส่งตรงถึงพวกเราเท่านั้น โอ้ น่าสนใจ"

         วาเลนไทน์คว้าเอกสารจากมือของคาระไปอ่านต่อทั้งหมด คาระได้แต่วิเคราะห์ข้อมูลต่อไป แต่ในใจกลับคิดถึงแต่รายงานฉบับนั้น

         เวลาทำงานส่วนใหญ่ใช้ไปกับกองข้อมูลจำนวนมหาศาล เมื่อถึงช่วงบ่าย มีข่าวรายงานว่าเกิดเหตุยิงปะทะกันในหลายพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุไว้ได้ทั้งหมด 

         คาระและวาเลนไทน์ต่างให้ความสนใจข่าวดังกล่าว ซึ่งจำนวนการเกิดเหตุมันไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะให้น้ำหนักไปทางการล้างแค้นของกลุ่มมาเฟียก็ตาม

         "วันนี้ทำได้ดี พอเท่านี้ก่อน ไปพักก่อนเถิด" วาเลนไทน์กล่าวกับคาระ

         "ครับ"

         "ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนข้าจะโทรตาม"

         วาเลนไทน์เดินหายเข้าไปในห้องทำงานอีกห้องหนึ่ง ซึ่งส่วนนี้เหล่าเด็กหนุ่มไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป คาระจึงลงไปเดินเล่นข้างนอกอพาร์ทเมนท์

         แม้ว่าคาระจะสะสางงานไปได้มาก แต่เขาก็ไม่รู้สึกพอใจมากนัก เขาอยากออกไปปฏิบัติงานภาคสนามมากกว่า ซึ่งนั่นไม่สามารถทำได้

         "เอ๋..." คาระล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและพบบางอย่าง

         เมื่อเขานำมันออกมา มันคือเศษกระดาษที่พับไว้ เขาคลี่มันออกดูก็พบข้อความประโยคหนึ่ง เขานึกออกในทันทีว่านักรบสวรรค์ที่ข้ามเขตแดนมาให้ไว้

         "ท่อง เมื่อต้องการเรียก"

         คาระลังเลว่าจะเรียกหรือไม่ เธอเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ SA เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ดังนั้น บางทีเธออาจจะเป็นผู้ที่อยู่ในรายงานก็เป็นได้ คาระจึงไม่ลังเลอีก

         "Veni Gelzie Hic Veni"

         คาระสังเกตรอบๆตัวเขา ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากเดิมและไม่มีใครมาหาเขา คาระจึงอ่านข้อความดังกล่าวอีกหนหนึ่ง

        "Veni Gelzi..."

         "Shhhh..." 

         นิ้วมืออันอ่อนนุ่มสัมผัสที่ริมฝีปากของคาระโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว คาระตกใจมากจนจิตใจของเขาผงะถอยหลังออกไป ทว่าร่างกายของเขากลับแข็งทื่อ

         "ข้ามาแล้ว" 

         นางฟ้าผู้มีดวงตาสีส้มสว่างรากฏกายตรงหน้าคาระ

         เธอสวมชุดเดรสทางการเหมือนกับคนปกติทั่วไปผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วขึ้นลงช้าๆ ตามแรงลมอ่อนๆ เธอดึงมือกลับไป แต่สายตาไม่ละไปจากดวงตาของคาระ

         "โอ้ เจ้ามีเรื่องที่กลุ้มใจงั้นหรือ" เธอเริ่มบทสนทนาขึ้นก่อน

         "เอ่อ...ใช่ครับ นิดหน่อย"

         "แล้ว คำตอบรับล่ะ ปฏิเสธหรือไม่"

         "เอ่อ...เรื่องนั้น..."

         เธอละสายตาออกจากคาระแล้วควานหาบางอย่างจากกระเป๋าสะพายของเธอ

         "ข้ามีบางอย่างจะให้" เธอยื่นมือมาให้คาระ

         คาระเองก็ยื่นมือไปรับเช่นกัน 

         "ทว่าสิ่งนี้มีจำกัด ข้าให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภาคสนามเพื่อให้พวกเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" เธอคลายมือทิ้งขวดน้ำยาสีฟ้าสดใสบางอย่างให้ "แต่ข้าจะให้เจ้าไว้ ในกรณีจำเป็น ดื่มมัน"

         "มันมีผลแบบไหนครับ" คาระรับมันมาพิจารณาใกล้ๆ 

         "สำหรับข้าไม่มีประโยชน์อันใด แต่สำหรับเจ้า พลังของนางฟ้าจะสถิตอยู่ที่ตัวเจ้า เจ้าจะได้พลังจากสิ่งต่างๆ นอกเหนือเขตแดนของเจ้า"

         "เขตแดนหรอครับ"

         "ใช่" 

         ตาของคาระเปล่งประกาย อยากรู้อยากเห็นเมื่อเขาได้ยินคำว่าเขตแดน 

         "ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น" เธอกล่าวกำชับ "ข้าหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้า ข้ายังคงรอรับคำตอบจากเจ้าเสมอนะ"

          เธอดูท่าทีของคาระอีกครั้ง ทว่าเขาก็ยังคงลังเล เธอจึงหันหลังกลับและเริ่มร่ายคาถาบางอย่าง

         "ข้าขอตัวก่อน"

         "ตกลงครับ"

         เธอหยุดร่ายคาถาในทันทีและชายตามองมาที่เด็กหนุ่มที่มีท่าทีมุ่งมั่น

         "เจ้า..."

         "ตกลงครับ ผมยินดีจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณ"

         "โฮ่" เธอเดินกลับมาที่ตรงหน้าคาระ "ถ้าอย่างนั้น จำข้อความเรียกข้าให้ขึ้นใจล่ะ"

         "จำได้แล้วครับ"

         "และที่สำคัญที่สุด ทั้งหมดระหว่างข้ากับเจ้า คือความลับนะ"

         คาระได้ยินดังนั้นก็ฉายแววกังวลเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบรับ

         "ครับ"


         เมื่อถึงเวลาเย็น คาระกลับมาที่ห้องพักเพื่อทำธุระส่วนตัว ทว่าคิระ เซตและไอน์ยังไม่กลับมา เขาจึงถามวาเลนไทน์ที่ยังคงอยู่ในห้องทำงาน

         "ติดภารกิจต่อเนื่อง" นั่นคือสิ่งที่วาเลนไทน์ให้คำตอบ "อย่าลืมเขียนบันทึกประจำวันล่ะ"

         บันทึกประจำวันนั่นคือสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในการทำงาน บันทึกเหตุการณ์สำคัญของวัน คำสั่งที่ได้รับ

         ในช่วงที่ผ่านมาคาระต้องอยู่หน้าข้อมูลมากมายและส่วนใหญ่ข้อเท็จจริงที่ถูกนำเสนอมักจะไม่ตรงกัน ในโลกอินเทอร์เน็ตมักมีการไหลของข้อมูลที่รวดเร็วมาก จนทำให้การทำงานของคาระเป็นไปอย่างยากลำบาก ต่างจากวาเลนไทน์ที่เธอดูสบายไม่เคร่งเครียด

         "เราวิเคราะห์ข้อมูล อย่าใส่อารมณ์ความรู้สึกลงไปมากนัก" วาเลนไทน์กล่าวเมื่อเธอเห็นคาระเริ่มเครียด "พักก่อนเถิด ช่วงแรกๆ ข้าเองก็เป็น"

         คาระละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นทำให้สมองเขาได้พักไปด้วย

         "เอ่อ คุณวาเลนไทน์ แมวของผม..."

         "ยังสบายดี เพียงแต่อาจจะไม่มีวิวให้ดูมากนัก"

         "ทำไมต้องขังมันไว้ด้วยครับ ทั้งที่..."

         "อีกไม่นานข้าก็จะคืนมันให้เจ้า ข้ารับรอง"

         คาระรู้ดีว่านั่นเป็นการตัดบท เขาจึงไม่ถามต่ออีกและคำถามในใจของเขาก็ไม่ได้รับคำตอบ 


         ช่วงค่ำก่อนเปลี่ยนเข้าสู่วันใหม่ คาระได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว เขตเมืองเก่ากว่าครึ่งได้ประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดง ทหารและเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์และเข้าตรวจค้นหลายจุด มีการยิงปะทะหลายครั้ง 

         วาเลนไทน์ยกถ้วยกาแฟอุ่นๆ ขึ้นดื่มพรางดูข่าวในทีวีไปด้วย เธอทราบข้อมูลเหล่านั้นก่อนหน้านี้แล้วหลายชั่วโมงจากที่คิระรายงานให้เธอทราบ เธอเองก็อยากช่วยงานภาคสนามบ้าง ทว่าด้านของคาระนั้นมีหลายสิ่งที่วาเลนไทน์ต้องจัดการเช่นกันและสำคัญมากพอกัน


         หลังจากที่ประกาศเขตพื้นที่สีแดงออกไปไม่นาน คิระและเจ้าหน้าที่อีกหลายคนเริ่มทำการตรวจค้นอาคารสำนักงานเก่าแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตเมืองเก่า ร่างของทหารไททันสามถึงสี่คนนอนกองกับพื้นโดยมีเลือดอุ่นๆ ไหลออกมาจากร่างดังกล่าว

         เจ้าหน้าที่ SA ตรวจร่างเหล่านั้นซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะใส่กระบอกเก็บเสียงที่ปลายลำกล้องและยิงซ้ำอีกร่างละสองนัด

         ไอน์ที่นั่งพักอยู่มุมหนึ่งของห้องเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน ต่างจากเซตที่ดูมีแรงเหลือเฟือและกำังสำรวจอาคารพร้อมคิระ

         เมื่อพวกเขาขึ้นสู่โถงชั้นสอง ที่ตรงกลางมีร่างของชายคนหนึ่งถูกมัดแขนขานอนกองกับพื้น เซตและคิระจึงรีบวิ่งเข้าไปดู

         ร่างของชายดังกล่าวเสียชีวิตก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว และที่น่าสนใจคือชุดที่เขาใส่ในวาระสุดท้าย

         "เครื่องแบบของ SA" คิระกล่าว

         เซตไม่รอช้าทำการสำรวจร่างของชายผู้เสียชีวิตอย่างระมัดระวัง

         "อย่าดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นการทำลายหลักฐาน"

         "ไม่เคยคิดว่าจะเป็นคำพูดของคนที่คุยกับวิญญาณได้" เซตกล่าว 

         แต่แล้วเซตก็เกิดเอะใจขึ้นมา

         "ปกติแล้ว SA พกบัตรติดตัวตลอดไหม"

         "ใช่พกติดตัวตลอด" คิระตอบ

         "น่าแปลก ที่เขาไม่มีบัตร"

         "โอ้"

         เจ้าหน้าที่ที่เหลือตามขึ้นมายังโถงชั้นสองและจัดการพื้นที่ตามหน้าที่ของแต่ละคน เจ้าหน้าที่ติดอาวุธของ SA นำกำลังบางส่วนขึ้นสำรวจชั้นต่อไปในทันที เพราะพวกเขามีหน้าที่แค่กำจัดศัตรูให้พ้นทางเท่านั้น

         "รีบยืนยันตัวบุคคลให้ได้ และส่งข้อมูลให้ข้าเร็วที่สุด" คิระบอกกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่กำลังตรวจสอบศพ

         "ส่งข้อมูลไปให้ฐานข้อมูลแล้วครับ รอผลสักครู่" เจ้าหน้าที่ตอบ

         ในจังหวะนั้นเอง เซตสังเกตเห็นอะไรบางอย่างจากศพของชายดังกล่าว เขาจึงรีบเข้าไปดึงเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้ออกห่าง

         "ถอยออกมา!

         ร่างของชายที่นอนแน่นิ่งไร้ชีวิต ลืมตาขึ้น ในดวงตามีแต่สีขาวโพลนไร้ซึ่งตาดำ มันกระโจนเข้ากัดที่ขาของเจ้าหน้าที่ซึ่งเซตได้ลากตัวเขาออกมา

         "อ้าก!

         หลังจากนั้นมันก็กระชากให้เชือกที่มัดร่างขาดออก และคว้าที่ขาของเจ้าหน้าที่ พละกำลังมหาศาลที่ผิดกับมนุษย์สามารถยื้อร่างเจ้าหน้าที่ซึ่งเซตกำลังดึงตัวออกมาไว้ได้

         เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็พากันตกใจที่ศพกลับมาขยับอีกครั้ง เซตไม่สามารถนำตัวเจ้าหน้าที่ออกห่างได้แม้จะดึงสุดความสามารถแล้วก็ตาม

         คิระรีบรุดเข้ามาแล้วแทงร่างกายที่ไร้ซึ่งชีวิตด้วยหอกสีดำและเหยียบร่างมันตรึงไว้กับที่ ทันใดนั้นเซตก็สามารถดึงตัวเจ้าหน้าที่หลุดออกจากการจับของมันจนเซล้มหงานหลังไป


         "นี่มันบ้าอะไรอีก" เซตกล่าวพร้อมกับพยุงตัวเจ้าหน้าที่ขึ้น

         "ร่างนี้มีปีศาจสิง วิญญาณของชายคนนี้ไม่อยู่แล้ว" คิระอธิบายและดึงหอกออกก่อนที่หอกจะสลายหายไป

         "ผมจะไม่กลายเป็นผีดิบใช่ไหม" เจ้าหน้าที่ถาม

         เซตและคิระหันมองหน้ากันก่อนที่ตจะหลุดขำเล็กน้อย

         'มีเหตุยิงปะทะกันที่พื้นที่สีแดงที่สี่ ขอให้เจ้าหน้าที่ใกล้เคียงส่งกำลังเสริมมาด้วย'

         เสียงจากวิทยุเรียกขอกำลังเสริมเข้ามา เจ้าหน้าที่ SA บางส่วนในอาคารจึงเริ่มเก็บข้าวของและออกเดินทางต่อ

         "คืนนี้ ตัวใหญ่ไม่โผล่หางออกมาหรอก กลับที่พักกันก่อนเถอะ" คิระกล่าว


         ช่วงเช้ามืด คิระ เซตและไอน์มาถึงแนวกันน้ำระหว่างเขตเมืองเก่าและใหม่ 

         ไอน์มีท่าทีอ่อนล้ามากที่สุด เนื่องจากร่างกายของเขาไม่แข็งแรงเท่ากับอีกสองคน เขาเดินไปตามทางแม้ว่าเขาจะหลับตาทั้งสองข้าง

         ในเช้านี้ผู้คนมากมายแบกสัมภาระส่วนตัวขึ้นจากเรือและรถที่ยกสูงข้ามแนวกันน้ำมาที่เมืองใหม่ เจ้าหน้าที่รัฐรอรับพวกเขาและนำพวกเขาแยกย้ายไปตามส่วนต่างๆ ของเมือง

         "พวกเขามาจากไหนกัน" เซตที่มองดูเหตุการณ์ดังกล่าวถาม

         "เขตพื้นที่สีแดง มันไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว" คิระตอบ "หาอะไรรองท้องก่อนเถอะ"

         ทั้งสามจึงไปที่ร้านอาหารที่เปิดในตอนเช้า ไอน์นั่งฟุบลงกับโต๊ะและก็หลับไปทั้งแบบนั้น มันเป็นช่วงเช้าตรู่ที่เหนื่อยหน่าย เวลารอบตัวราวกับช้าลง

         ระหว่างที่รออาหารอยู่นั้น ขบวนรถหุ้มเกราะของทหารเรือวิ่งผ่านหน้าร้านไปอย่างรวดเร็ว การขับและความเร็วบ่งบอกให้รู้ว่ามีเรื่องเร่งด่วนเกิดขึ้น ทว่ามันกลับเกิดขึ้นในเขตเมืองใหม่

    กริ๊ง!

         คิระหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความจากวาเลนไทน์ สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปในทันที

         "เฮ้ สาวๆ ขอโทษที่ขัดจังหวะ แต่เราต้องไปกันต่อแล้ว" เขาลุกจากเก้าอี้

         "เกิดอะไรขึ้นหรือครับ" ไอน์ถามเสียงอ่อย

         "คาระไม่ได้อยู่ที่ห้อง และมีเหตุจับตัวประกันที่ย่านการค้า"

         "เกี่ยวกันหรือ" เซตถาม

         "โธ่ ให้ตายสิ" ไอน์ฟุบลงกับโต๊ะอีกครั้งและลุกขึ้นยืนทีหลัง 

         คิระยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้พนักงานของร้านอาหาร ก่อนที่ทั้งสามจะเร่งรีบออกจากร้านไป

    ตอนที่ 6 An Intern V.






         วาเลนไทน์ลงมายังห้องใต้ดินอีกครั้ง ก่อนที่จะถึงห้องที่ขังสไวน์ ประตูอีกห้องหนึ่งเปิดออก

         "เหลือแค่หลักฐานมัดตัวที่จะออกหมายจับอีกคนได้" เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าว

         "ขอย้ำว่าหลักฐานที่ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย" เด็กหนุ่มอีกคนเสริม

         "บอกให้ Juliet ไปเอามาได้ไหม เราต้องมาติดอยู่ที่นี่เพราะพวกนักการเมืองบางคน"

         เด็กหนุ่มทั้งสองเดินสวนกับวาเลนไทน์ไปที่ลิฟต์ วาเลนไทน์จำข้อความสำคัญในบทสนทนาได้ ทว่าตอนนี้เธอมีเรื่องที่ต้องจัดการ

         ประตูเหล็กขนาดใหญ่เปิดออก เสียงของกลไกยังทำงานเป็นปกติ ภายในห้องมืดสนิท เธอจึงชักปืนพกขึ้นมาถือที่ข้างใบหน้าแล้วสับคันโยกเพื่อเปิดไฟภายในห้อง

         ภายในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ในนั้นแม้แต่คนเดียว วาเลนไทน์สำรวจภายในทุกซอกทุกมุมอย่างรวดเร็ว ทว่าก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นใด เธอจึงเก็บปืนพกกลับเข้าซอง

    "เจ้าแมวบ้านี่ ชิ!"




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×