ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #74 : ตอนที่ 10 °Fahrenheit

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      21 เม.ย. 63

    เวลาแห่งความสงบสุขในหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวที่กำลังเดินไล่ดูชื่อหนังสือบนชั้นวางพลันรู้สึกตัวขึ้น ก็อยู่ท่ามกลางหนังสือมากมายบนชั้นวาง ภายในอาคารที่ค่อนข้างเงียบ

    เธอมองไปรอบตัวอย่างร้อนรน ราวกับกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง จนกระทั่งมีเด็กหนุ่มถือหนังสือเล่มใหญ่เดินมาในช่องทางเดินระหว่างชั้นวางหนังสือที่หญิงสาวยืนอยู่

     

    "ฟาเรนไฮต์ สนใจเรื่องนี้ไหม" เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียงที่เบากว่าปกติ

     

    ทันทีที่เธอเห็นเขา ท่าทีของเธอสงบลงมาก

     

    "อืม สนใจ ขอลองอ่านได้ไหม"

     

    เด็กหนุ่มยื่นหนังสือในมือให้แก่ฟาเรนไฮต์ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไป

     

    "เดี๋ยว คาระ"

     

    เขาหันกลับมารอรับฟัง

     

    "...ข้าเอาเล่มนี้ล่ะ มันมีรายละเอียดมากกว่าภาพยนต์ที่เราพึ่งดูไปใช่หรือไม่"

    "ใช่ ไม่รู้ว่าจะชอบแบบไหนมากกว่ากันนะ" คาระชี้มือข้ามระเบียงลงไปยังด้านล่าง "ช่องจ่ายเงินอยู่ชั้นล่าง ไปกันเถอะ"

    "..." เธอลังเลที่จะซื้อหนังสือเล่มดังกล่าว

    "ฉันจะซื้อให้เป็นของขวัญก็แล้วกัน"

     

    คาระลืมไปเสียสนิทว่านางฟ้าไม่ได้ใช้เงินเป็นการแลกเปลี่ยน

     

     

     

    ดาดฟ้าอาคารฝั่งตรงข้ามกับร้านขายหนังสือที่มีความสูงไล่เลี่ยกันถูกยึดไว้โดยกลุ่มนักรบปีศาจที่ลาดตระเวนพื้นที่แถบนั้น พวกมันเฝ้าจับตาดูเด็กหนุ่มและนางฟ้าผมเงินโดยไม่ให้ลับสายตา

    เหล่านักรบปีศาจบางส่วนรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมาเฝ้ามองทั้งสองแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

     

    "จะมีประโยชน์อันใดที่ข้าจะต้องคอยเฝ้ามองพวกมัน" นักรบปีศาจตนหนึ่งบ่น

    "ทำตามคำสั่งไป เมี้ยว อย่าถามมาก เจ้าจะรู้คำตอบเอง เมี้ยว" ปีศาจที่มีรูปลักษณ์ครึ่งมนุษย์ครึ่งแมวกล่าวขณะลับคมกรงเล็บ

    "นี่ นั่นใช่เพื่อนของเจ้าหรือไม่ สไวน์" นักรบปีศาจหันมาถามปีศาจมนุษย์แมว

     

    สไวน์กระโจนเกาะที่ขอบระเบียงจ้องมองลงไปยังบริเวณหน้าอาคารห้องสมุุด สายตาอันแหลมคมเพ่งมองไปที่หญิงสาวในชุดเดรสสีขาว

    ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ทยอยเดินออกจากห้องสมุด เธอเดินขึ้นบันไดสวนทางผู้คน ชายกระโปรงและเส้นผมพลิ้วไหวไปตามสายลมสะท้อนแสงสีส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดิน

     

    "รุ่นน้อง เมี้ยว" สไวน์กล่าวตอบเสียงแข็ง "บี มาทำอะไรกันนะ เมี้ยว"

     

    อาคารร้านขายหนังสือแบบสมัยใหม่มีขนาดเล็กกว่าอาคารห้องสมุดซึ่งอยู่ด้านหลัง ประดับด้วยบานกระจกเสียส่วนใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าบนพื้นที่ยกระดับสูง

    ใกล้ถึงเวลาปิดร้านแล้ว ผู้คนบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด ไฟจากอาคารสว่างขึ้นตามเวลาที่ได้ตั้งไว้

    บีหยุดยืนที่หน้าประตูร้านหนังสือ พอดีกับที่ลูกค้าสองคนสุดท้ายออกจากร้าน พวกเขาโดดเด่นสะดุดตาเหล่านักรบปีศาจ จนเหล่านักรบต่างมายืนที่ขอบระเบียงฝั่งเดียวกัน

     

    "ฟาเรนไฮต์" บีเรียกชื่อหญิงสาวที่พึ่งเดินออกจากประตู และหันไปสบสายตากับชายหนุ่มที่ออกมาพร้อมกัน "คาระ"

    "บี...มาเดินเล่นแถวนี้เหรอ"

     

    บีไม่ได้ตอบทันที เธอมองกลับไปที่ฟาเรนไฮต์อีกครั้ง สายตาและท่าทางของเธอดูสงบต่างจากบีที่คาระคุ้นเคย

     

    "ใช่จ้ะ เมือวานนี้มีหลายเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น"

    "เซตน่าจะออกจากกองพยาบาลแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง" คาระกล่าว

    "ไหนๆ ก็ได้เจอกันแล้ว ขอเวลาส่วนตัวสักครู่ได้ไหมจ๊ะ"

    "ตอนนี้คง..."

    "หมายถึง ฟาเรนไฮต์ จ้ะ"

     

    บีกล่าวเสียงใส คาระพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินลงบันไดหน้าอาคารลงไปยังลานด้านล่าง

     

    "วันนี้เธอดูน่ารักมากเลยนะ" บีกล่าวชม

    "เจ้าเองเช่นกัน" ฟาเรนไฮต์เหลือบมองคาระที่อยู่ห่างออกไป

    "เธอกลับมาทำไม ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี นักรบสวรรค์ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับเราอีก"

     

    บีตัดเข้าสู่สิ่งที่เธอต้องการบอกทันที

     

    "ข้ามาหาคำตอบนั้นเช่นกัน" ฟาเรนไฮต์ตอบเสียงเรียบ

    "ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายขึ้นงั้นหรือ" บีเสียงแข็ง

    "ที่เจ้าเห็นว่าสงบ ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้น..."

    "เธอทำให้คาระต้องเจ็บปวด"

     

    ฟาเรนไฮต์ไม่ได้กล่าวตอบอะไร

     

    "คืนนี้ ฉันขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะติดต่อกับคาระ สัญญาไหม"

     

    บียื่นมือออกไปครึ่งทางระหว่างเธอและฟาเรนไฮต์

     

    "ใช่ เขาต้องเจ็บปวดและทรมานเพราะข้า...แต่ต่อจากนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นอีก"

     

    ฟาเรนไฮต์เอื้อมมือออกไปวางบนมือของบี เป็นการบอกปัดคำเสนอสัญญานั้นก่อนจะผละตัวจากบีเดินลงบันไดไปหาคาระ

     

    "เธอยินดีจะทิ้งพลังทั้งหมดเพื่ออยู่ข้างเขาในฐานะมนุษย์งั้นหรือ" บีถามไล่หลัง

     

    ฟาเรนไฮต์หยุดก้าวต่อ และหันหน้ามองข้ามไหล่กลับไปที่ผู้ถาม

     

    "ใช่ ข้ายินดี"

     

    ก๊อง! ก๊อง!

     

    เสียงระฆังจากหอนาฬิกาดังก้องกังวานไปทั่วย่านการค้า

    ฟาเรนไฮต์เดินต่อไปหาคาระ เขาหันมาโบกมือให้บี และบีทำได้เพียงฝืนยิ้มตอบเท่านั้น

     

     

    "ข้าไม่เห็นเลยว่ามนุษย์จะไม่ถูกครอบงำ พวกมันอ่อนแอ เปราะบาง"

     

    นักรบปีศาจที่เฝ้ามองพวกเขากล่าว

     

    "เจ้าประมาทพวกเขามากเกินไป เมี้ยว"

     

    สไวน์กลับลงมายืนที่พื้นดาดฟ้า ก่อนที่จะออกคำสั่งต่อนักรบปีศาจ

     

    "เกลซี นางฟ้าตกสวรรค์ อยู่ที่นี่ บนโลกนี้ เมี้ยว เราต้องจับนางกลับไปยังนรก"

    "งั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ ข้าอยากจะละเลงเลือดลงบนดาบของข้า"

    "ระหว่างทางก่อนจะถึงตัวเกลซี เจ้าคิดว่าจะเป็นเลือดของผู้ใดกันล่ะ เมี้ยว"

     

     

    เด็กหนุ่มสองคนเดินออกจากกองพยาบาลของสำนักงาน SA ก็พบเข้ากับหญิงสาวในชุดกาวน์ที่ดูเหนื่อยหน่าย

     

    "คุณราตรีหายดีแล้วหรือครับ"

    "อืม เซต ไอน์ เดินทางกลับดีๆ ล่ะ ช่วงนี้ SA ต้องทำงานหนักมาก"

    "ไว้หลังจากปีใหม่ผมจะพาเซตมาให้วิจัยนะครับ"

     

    ไอน์กล่าวโดยไม่สนใจสายตาของเซต

     

    "ขอบใจมากนะ ร่างกายของพวกเธอ...น่าสนใจมาก"

    "ใครบอกว่าจะให้" เซตค้านทันควัน

    "หลังจากนี้คงไม่ได้เจอกันอีก ขอบอกล่วงหน้าก็แล้วกัน..." ราตรีฉีกยิ้มเล็กน้อย

     

    "Merry Christmas and Happy New Year."

    "เช่นกันครับ Merry Christmas"

     

    เด็กหนุ่มทั้งสองกล่าวลา พวกเขาออกจากสำนักงานที่ค่อนข้างสงบกว่าทุกครั้ง เป็นเพราะใกล้เทศกาล ปัญหาเรื่องต่างๆ จึงเว้นช่วงออกไปพักหนึ่ง

    ตามอาคารต่างๆ ประดับไฟหลากสีระยิบระยับ ในปีนี้ผู้คนดูตื่นเต้นกับเทศกาล และความหนาวเย็นที่เขตร้อนไม่มีวันที่จะได้พบราวกับนี่คือ ปาฏิหาริย์

     

    "บรรยากาศเป็นใจทั้งที ไหงต้องมาเดินเล่นในเมืองกับเพื่อนชายด้วยนะ" ไอน์บ่น

    "พูดอย่างกับฉันอยาก" เซตกล่าว

    "มีสาวที่อยากชวนมาด้วยสินะ"

    "ไม่เคยคิดมาก่อน"

    "จริงเหรอ"

    "..."

     

    "คำขอในคืนศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความปรารถนาอันบริสุทธิ์ มันจะเป็นจริงนะ"

    "...ขอให้จริงเถอะ"

     

     

    คาระนั่งตรงข้ามกับฟาเรนไฮต์ โดยมีโต๊ะอาหารกั้นระหว่างกลาง ในร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและดูอบอุ่น

    เขาพยายามถามเรื่องที่ฟาเรนไฮต์คุยกับบีหลายครั้ง ทว่าเธอกลับบ่ายเบี่ยงได้ทุกครั้งจนกระทั่งมื้อค่ำของทั้งสองถูกทานจนหมด

     

    "เธอกินเข้าไปเยอะขนาดนั้นได้ยังไงนะ" คาระถามหลังจากมองดูจานที่ว่างเปล่าหลายใบ

    "ข้าเป็นนักรบนะ หากไม่ใช้พลังเวทช่วย มีเพียงพลังกายภาพคงไม่ต่างจากมนุษย์"

     

    คาระได้เห็นดวงตาสีน้ำเงินที่ดูสดใสอีกครั้งหนึ่ง หากเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอดูมีชีวิตชีวา ไม่เยือกเย็นจนน่าขนลุกเหมือนแต่ก่อน

     

    "เธอดูต่างออกไปหลังจากที่คุยกับบี"

    "..."

     

    ฟาเรนไฮต์ไม่ตอบ คาระที่นึกขึ้นได้ว่าตนเองถามมากเกินไปก็รีบหยุด

     

    "ขอโทษที่เซ้าซี้..."

    "บีทำให้ข้าเห็นมองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น..."

     

    ฟาเรนไฮต์ใช้นิ้วลูบไล้หยดน้ำที่ข้างแก้ว

     

    "...ทำให้ข้าเห็นเป้าหมายที่ชัดขึ้น และอาจเป็นจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของข้า"

    "เธอจะรู้ได้ยังไง"

    "เมื่อขาดมันไป และเกือบเสียไปตลอดกาล"

     

    คาระเป็นฝ่ายหน้าแดงเรื่อ สายตาที่ฟาเรนไฮต์มองมานั้นไม่ใช่สายตาของนักรบสวรรค์หรือนางฟ้าผู้มีเมตตาแต่อย่างใด

    มันคือสายตาของหญิงสาวที่ส่งความรู้สึก ความมุ่งหมายบางอย่างที่ไม่อาจใช้เหตุผลคาดคิดได้

     

    "...เธอทำให้ฉันรู้สึก...แปลกนะ"

    "หืม...งั้นหรือ"

     

    เมื่อเธอเอะใจ สายตาอันใสซื่อของเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมที่เขาคุ้นเคย ทว่าคาระกลับไม่มั่นใจเสียแล้วว่าเธอจงใจทำหรือเปล่า

     

     

    "มีช่วงหนึ่งที่ข้าคิดว่าเธอไม่ใช่นางฟ้านะ..." นักรบปีศาจตนหนึ่งหันมาบอกสไวน์

    ทว่าสไวน์กลับนั่งเกาะที่ระเบียงอีกฝั่ง หางของเธอตวัดไปมาอย่างรุนแรงจนนักรบปีศาจไม่กล้าเข้าใกล้

     

    "นี่ยังเป็นภารกิจรักษาความปลอดภัยใช่หรือไม่"

    "ใช่ ครึ่งหนึ่ง"

    "พอได้แล้ว เมี้ยว" สไวน์ลุกขึ้นยืนบนขอบระเบียง "คืนนี้ไม่น่ามีปัญหา พวกเจ้ากลับไปลาดตระเวนได้แล้ว เมี้ยว"

    "ให้มันได้อย่างนี้สิ"

     

    เหล่านักรบปีศาจโผบินออกไปในทันที เหลือเพียงสไวน์เท่านั้นที่ยังคงอยู่บนดาดฟ้า

     

    "ม้าว!"

     

    ระหว่างทางเดินกลับบ้านของคาระ ในทางเล็กๆ ที่รถยนต์สามารถผ่านได้เพียงครั้งละหนึ่งคัน

    คาระและฟาเรนไฮต์หัวเราะเย้าหยอกตั้งแต่ลงจากรถโดยสารประจำทางจนกระทั่งเข้ามาในซอยที่มีแสงไฟเป็นระยะ

     

    "จริงหรือที่เจ้าสู้กับคิระโดยคิดถึงการโจมตีของข้า ฮิๆๆ"

    "จริงๆ นะ พี่เขาใช้สองมือก็จริง แต่โจมตีเร็วมาก ถ้าคิดว่าเป็นปีกของเธอ ฉันก็ทุ่มแรงหลบมากขึ้นไง"

    "อ่า..."

    "หืม...เป็นอะไรเหรอ"

    "ข้าเพียงคิดว่า ข้าต้องสอนเจ้าให้ต่อสู้ในอากาศบ้างแล้ว"

    "ฉันยังไม่ได้ตอบแทนอะไรเลย"

     

    ฟาเรนไฮต์ส่ายหน้า

     

    "วันนี้ก็มากเพียงพอแล้ว ได้รู้จักเรื่องราวที่มนุษย์สร้างสรรค์"

    "หืม...ชอบมากขนาดนั้นเลยเหรอเนีย"

    "อืม โดยเฉพาะฉากที่เต้นรำโดยมีเสียงดนตรีเบาๆ บรรเลง"

    "อยากลองทำไหม"

     

    ฟาเรนไฮต์หยุดก้าวเดินในทันที คาระที่เดินเลยออกไปหันกลับมา

    หญิงสาวที่อยู่ภายใต้แสงไฟดูตะลึงไม่น้อยกับคำถามนั้น เด็กหนุ่มก้าวเดินเข้าไปใกล้เธอภายใต้แสงไฟนั้น

     

    "ขออนุญาตนะครับ"

     

    คาระยื่นมือออกไปเพื่อขอเธอเต้นรำ

     

    "ค่ะ"

     

    ฟาเรนไฮต์วางมือบนฝ่ามือของคาระ ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าสู่ท่าเต้นรำ

    คาระเป็นฝ่ายก้าวเท้านำ ฟาเรนไฮต์ที่ยังตื่นเต้นก้าวเท้าตามไม่ทันจึงติดๆ ขัดๆ บ้างในช่วงแรก

    สายลมที่เย็นเฉียบพัดโชยมาทำให้ร่างของทั้งสองกระชับเข้าหากันยิ่งขึ้น

     

    "ฟาเรนไฮต์"

    "คะ"

     

    คำตอบรับนั้นทำให้คาระเขินไม่น้อย

     

    "ตัวของเธออุ่นขึ้นมากเลย"

    "เจ้าก็เช่นกัน"

     

    ฟาเรนไฮต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ และวางคางไว้บนบ่าของคาระ

    จากมือที่จับในท่าเต้นรำ กลับกลายเป็นการโอบกอด

     

    "ข้าอยากจะ..."

     

     

    พรึบ!

     

    แสงไฟดับวูบลง ความมืดปกคลุมไปทั่วทั้งเขต บรรยากาศชวนให้นึกถึงค่ำคืนที่ยาวนาน

    ไฟฉุกเฉินทำงานหลังจากที่ไฟดับทันทีเพียงไม่กี่วินาที ไม่มีประกาศแจ้งเตือน หรือแจ้งภาวะฉุกเฉินใดๆ

     

    "อะไรอีกล่ะเนีย"

     

     

     

     

     

     

    เลือดสีดำสาดกระเซ็นไปเลอะเปรอะเปื้อนผนัง ดาบสีเงินถูกดึงออกจากร่างของนักรบปีศาจ ร่างของมันล้มลงกองกับพื้น

     

    "07 ถอยกลับออกไปก่อน แขนนายมีแผล"

    "เล็กน้อยหน่า"

     

    เกราะเหล็กที่แขนของเจ้าหน้าที่ SA หมายเลข 07 เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและเลือดสีแดงคล้ำ

     

    "เจ้าหน้าที่ระดับสูงมาถึงแล้ว ถอนตัวเถอะ"

    "...งั้นตกลง พวกเราไปไกลกว่านี้ไม่ได้ด้วย เจ็บใจจริงๆ"

     

    หมวกเกราะมีแสงสีฟ้าบริเวณหน้ากากหันกลับมายังเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

     

    "มันจะยึดโรงจ่ายไฟฟ้าไปทำไมวะ"

     

    รถหุ้มเกราะติดปืนวิ่งเข้ามาภายในบริเวณโรงไฟฟ้า ปืนกลกราดยิงนักรบปีศาจบนอาคารเพื่อกดไม่ให้เคลื่อนที่สะดวก

    ทันทีที่ประตูรถเปิดออก หญิงสาวผมสีบลอนด์ในชุดเดรสหนังสีดำ กลิ้งลงมาและใช้ปืนพกในมือทั้งสองข้างยิงสังหารนักรบปีศาจที่ใกล้ที่สุด

     

    "คิระ จัดการเลย" เธอให้สัญญาณ

    "รับทราบ ท่านหญิง"

     

    คมหอกโผล่ออกมาจากเงามืดทุกซอกทุกมุมทิ่มแทงนักรบปีศาจที่อยู่ภายในเงาและกลืนกินหายไปในความมืดทั้งหมด

     

    "วาเลนไทน์ มีทั้งข่าวดีและร้าย"

    "ข่าวดีก่อน"

    "เกลซีไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเจ้าหน้าที่โดนสังหารหมู่แน่"

    "ข่าวร้ายล่ะ"

    "เพราะเกลซีไม่ได้อยู่ที่นี่ไงล่ะ"

     

     

     

     

    ตอนที่ 10°Fahrenheit

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×