คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : ผู้หญิงที่น่าเบื่อ
ตอนที่ 1 : ผู้หญิงที่น่าเบื่อ
“อย่าทำฉันเลย...ยอมแพ้แล้วๆ!” ชายหน้าตี๋ผิวขาวร้องโวยวายเมื่อโดน เจ จับทุ่มลงไปนอนจุกกับพื้น สองมือโบกไหวไปมาในอากาศเพื่อปรามไม่ให้เขาเข้ามาซ้ำ
“อะไรวะ...ยังไม่ถึงครึ่งนาทีแกก็ยอมแพ้แล้วเหรอ ไม่สนุกเลย...พับผ่าสิ!” ซาตานหนุ่มสบถอย่างหงุดหงิดใจ
ยังใช้แรงไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนร้อยเลยด้วยซ้ำ!
“เออ...ไอ้บ้าพลัง ฉันไม่ได้กระดูกเหล็กเหมือนท่านหัวหน้าแก๊ง DeviL-DragoN นี่!” ล็อตเต้ เพื่อนร่วมห้องคนสนิทแขวะเจที่ยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“เฮอะ...ฉันไปสู้กับเคดีกว่า” พูดจบเขาก็เดินไปหาเพื่อนชายซึ่งกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมสาวๆมากหน้าหลายตา
“เค...มาสู้กัน”
เจกระโดดเข้ามากลางวงล้อมจนสาวๆหลายคนสะดุ้งตกใจ
“ได้สิ” เจ้าตัวตอบรับ หากแต่พวกผู้หญิงกลับดึงรั้งเอาไว้
“เคอยู่คุยกับพวกเราก่อนเถอะ”
“นั่นสิ...ไม่เห็นต้องไปบ้าจี้สู้กับเจเลย เกิดหน้าหล่อๆเป็นแผลขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ” คำพูดของพวกเธอทำเอาซาตานหนุ่มขมวดคิ้วพันกันยุ่ง
“นี่...คุณผู้หญิงขอรับ พวกกระผมแค่สู้กันเล่นๆไม่ได้ไปทำศึกสงครามสักหน่อย”
สาวๆหัวเราะครืน...ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูเปรี้ยวกว่าทุกคนลุกขึ้นยืนพลางเอานิ้วชี้จิ้มบนแผ่นอกกว้างๆของเจอย่างยั่วยวน ( กวนประสาท )
“แหม...ก็เหมือนกันล่ะ ใครๆก็รู้ว่าเจเถื่อนจะตาย!”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็อยากออกแรงสักหน่อย” เคตัดบทพลางดึงมือเจออกไปราวกับต้องการยุติไม่ให้เพื่อนชายคนสนิทถกเถียงกับผู้หญิงอย่างสุภาพบุรุษ หากแต่ความจริงเขารำคาญพวกหล่อนจนแทบกระอักเลือดตายอยู่แล้ว!
ทั้งคู่เตรียมพร้อมอยู่บนเบาะที่ใช้ซ้อมยูโดเพราะสาวๆขอร้องเพื่อกันอุบัติเหตุซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หลายคนทั้งชายและหญิงต่างจับจ้องคู่นี้เพราะรู้ดีว่ากินกันไม่ลง ต่างคนต่างเก่งกาจในเรื่องการต่อสู้จึงได้ตำแหน่งหัวหน้าแก๊งทั้งสองคน
“เริ่ม!”
ทันทีที่ล็อตเต้ซึ่งอาสาเป็นกรรมการเอ่ยเสียงดัง เจก็พุ่งตัวเข้าซัดหมัดใส่เคทันทีท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายของสาวๆ
หมับบ!!!
เคตั้งรับทันท่วงทีพลางกำข้อมือของเพื่อนชายไว้แน่น เจเลยใช้มืออีกข้างซัดหมัดซ้ำแต่ไม่ได้ทำให้เทพบุตรหนุ่มเป็นอะไรเพราะตั้งรับไว้ด้วยการกำข้อมือของเจทั้งสองข้างพร้อมเหยียดยิ้ม
“นายจะล้มฉันยังไงเจ อยากเห็นสาวๆพวกนั้นกระทืบนายใจแทบขาด!” น้ำเสียงยั่วยุแบบที่ไม่มีใครเคยได้ยินนอกเสียจากเพื่อนสนิทอย่างเจ
“แบบนี้ไงไอ้เพื่อนรัก!”
เจหมุนตัวอย่างรวดเร็วพลางดันร่างเคลงไปกระแทกกับพื้นเบาะเสียงดัง
ตึงงง!!!
แน่นอนว่าสาวๆส่งเสียงวี้ดว้าย ถ้าไม่กลัวลูกหลงพวกเธอคงแห่กันเข้ามาแยกเคออกไปแล้วเป็นแน่ แต่ทว่า...เทพบุตรหนุ่มไม่ยอมแพ้ยกเท้าเตะพร้อมพลิกตัวกลับจนเจกระเด็น ก่อนปรี่เข้าไปหมายคร่อมทับเพื่อนรักให้หมดหนทางต่อสู้แต่ซาตานหนุ่มไวพอกวาดเท้าเตะขาเคจนล้มแล้วปรี่จะเข้าซ้ำ
กริ๊งงงงงงงงง...
เสียงออดหมดคาบพักเที่ยงดังขึ้นเสียก่อน ทำให้ทั้งคู่หยุดชะงักก่อนแยกจากกันเพื่อรีบไปเข้าห้องเรียน นั่นคือ...เกรด 12 ห้อง 1 แห่ง โรงเรียนนานาชาติเซเลพาเทีย โรงเรียนเอกชนสุดหรูของกรุงเทพมหานคร
“คงไปเล่นต่อยตีกันอีกแล้วสิท่าเสื้อผ้าถึงได้ยับยู่ยี่แบบนั้น เฮ้อ...ฉันล่ะกลุ้มใจกับพวกเธอจริงๆ เป็นประธานนักเรียนกับรองประธานนักเรียนเสียเปล่า” อาจารย์กานต์รวีที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ถอนหายใจเมื่อเห็นสองหนุ่มเดินเข้ามาให้ห้องเรียนด้วยสภาพไม่เรียบร้อยสักเท่าไร
เจดูเหมือนไม่สนใจที่จะวุ่นวายกับชุดตัวเองพลางรีบไปนั่งยังโต๊ะประจำ หากแต่เคกลับตรวจเช็คความเรียบร้อยของเสื้อสูทนักเรียนสีเทาให้เข้าที่เข้าทางแล้วจัดเนคไทสีแดงให้เรียบร้อยก่อนตรงไปนั่งข้างเพื่อนชายคนสนิท
พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนสนิทที่เรียกว่ารู้จักกันดีมาตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งแม่ของเจเป็นน้องสาวพ่อของเค ทว่า...พ่อของเคเป็นอริกับพ่อของเจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีปัญหาอะไรกันเพราะสองครอบครัวกลับสมานฉันท์กันได้ด้วยความรักนั่นเอง
เจเกิดก่อนเคเพียงไม่กี่เดือนทำให้ทั้งคู่คลุกคลีเพราะถูกเลี้ยงดูมาด้วยกันเนื่องจากสองครอบครัวสร้างบ้านติดกันเป็นครอบครัวใหญ่ทำให้ลูกพี่ลูกน้องคู่นี้สนิทสนมจนเหมือนพี่น้องและเพื่อนสนิทก็ไม่ปาน
“ออดไม่น่าดังก่อนเลย ไม่งั้นฉันอาจล้มนายได้” เจพูดอย่างเสียดายทำให้เคหัวเราะเบาๆขณะเตรียมตัวกลับบ้าน
“นายนี่มันบ้าพลังจริงๆ หัดทำตัวเป็นหนุ่มมาดขรึมแบบฉันบ้างสิสาวๆจะได้หันมาสวามิภักดิ์” เคพูดพลางสวมหมวกกันน็อกก่อนขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ของตนเอง
“เฮอะ...ไม่เอาหรอก นายก็รู้ว่าฉันรำคาญผู้หญิงจะ อ๊ะ...ไว้เจอกันที่บ้านนะ”
เมื่อสวมหมวกกันน็อกเสร็จเจก็ขี่รถออกไปจากตรงนั้นทันที
“ฉันก็รำคาญไม่ต่างจากนายหรอก!” เคพึมพำเบาๆในหมวกกันน็อคพลางขี่มอเตอร์ไซค์ตามเพื่อนชายไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งคู่พากันแข่งซิ่งบนท้องถนนอย่างไม่กลัวอันตรายซ้ำยังไม่สนใจตำรวจที่คอยดักจับด้วยการเลี้ยวลัดเลาะตรอกซอกซอยอย่างสำราญใจไปจนถึงบ้าน
“สนุกเป็นบ้า...นายเห็นหน้าลุงจ่าที่สี่แยกหรือเปล่า อย่างเหวอเลย...ฮ่าๆๆ” เจหัวเราะร่วนอย่างเบิกบานใจที่ได้แกล้งตำรวจแก่ๆคนหนึ่งที่คอยดูแลความเรียบร้อยตรงสี่แยกไฟแดง
“ขำไปเถอะ...ถ้าเขาเอาเรื่องไปฟ้องลุงเฟย์ นายจะขำไม่ออก” เคตอบพร้อมรอยยิ้ม เพราะลุงเฟย์เป็นพี่ชายของแม่เขาที่มีศักดิ์เป็นถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะท้าทายอำนาจกฎหมายเพราะนอกจากแข่งมอเตอร์ไซค์และแอบวิวาทก็ไม่เคยสร้างเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงอะไรเลย
“กลับมาแล้วเหรอลูก” เสียงหญิงสูงวัยคนหนึ่งเอ่ยดังขึ้นเมื่อเห็นลูกชายกลับมาถึงบ้าน เจไม่รอช้าเข้าไปกอดผู้เป็นมารดาไว้อย่างประจบประแจงเหมือนเด็กๆ ก่อนโดนผู้อาวุโสอีกคนลากคอแยกออกมา
“น้อยๆหน่อยไอ้ตัวแสบ...นั่นเมียตู”
“โห...นั่นก็แม่ผมนะคุณพ่อ อ๊ะๆ...เดี๋ยวน้อยหน้า ป๊ะป๊า...ไอเลิฟยู ขอตังค์ด้วย”
เจทำท่าจะกระโดดกอดแต่โดนผู้เป็นพ่อกระโดดเตะยันออกไปทำให้เคหัวเราะเบาๆกับครอบครัวอลเวง
“เจ...เดี๋ยวฉันเข้าบ้านก่อนนะ คุณพ่อจี คุณแม่ครีม สวัสดีครับ”
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนยกมือรับไหว้หลานชายที่เอ็นดูเหมือนลูกแท้ๆซึ่งเดินแยกเข้าบ้านตัวเองไป สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มของเคแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยทันทีเมื่อย่างเท้าก้าวเข้าบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอลูก...อ๊ะ...ทำไมสูทยับแบบนั้นล่ะคงไม่ได้ไปต่อยตีกับใครอีกใช่มั้ย?” ผู้เป็นแม่ซักไซ้ทันทีนั่นทำให้เคถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายพลางตอบกลับไป
“เปล่าครับ...แค่เล่นกับเจ”
“งั้นก็แล้วไป...อย่าให้แม่รู้นะว่าลูกไปต่อยตีวิวาทกับใครหรือคิดตั้งแก๊งอันธพาล!”
“ครับ” เคตอบรับอย่างไม่สนใจอะไรมากมายพลางสะพายกระเป๋าเข้าห้องนอนของตัวเอง เขาเบื่อ...เบื่อเหลือเกิน...เบื่อกฎเกณฑ์ของบ้านที่มารดาตั้งไว้อย่างเข้มงวด
ห้ามทะเลาะเบาะแว้งต่อยตีมีเรื่องกับใคร...
ห้ามไปยุ่งเกี่ยวหรือตั้งแก๊งอันธพาลอย่างเด็ดขาด...
ทั้งที่สมัยก่อนแม่เขาไม่เคยเข้มงวดกวดขันอะไรขนาดนี้แท้ๆ อย่างมากแค่ตักเตือนนิดๆหน่อยๆเหมือนกับแม่ของเจ...
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขาตายไปเมื่อห้าปีก่อน...ชีวิตคงดีกว่านี้...
เช้าวันเสาร์เป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนชื่นชอบไม่เว้นแม้แต่เคซึ่งเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงพลางกอดหมอนข้างอย่างสบายใจ ถ้าไม่ติดว่าผู้เป็นมารดาเรียกขัดเสียก่อนคงดีกว่านี้...
“เคตื่นหรือยังลูก...เจมาหาน่ะ!”
“เดี๋ยวผมตื่นแล้วจะไปหาเอง...ตอนนี้ให้เจกลับไปก่อนได้มั้ยครับ?” เทพบุตรหนุ่มตะโกนบอก หากแต่เสียงตอบรับกลับต่างไปจากเดิม
“ไม่ได้เว้ย...ลุกเดี๋ยวนี้เลย!!!” เจโวยวายพลางฉุดข้อมือเพื่อนสนิทให้ลุกจากเตียง เจ้าของห้องไม่ยอมแพ้ยื้อยุดฉุดกระชากกลับมาจนเจแทบถลาลงไปนอนทับตามแรงง่วงของเค
“นี่มันวันเสาร์นะ...นายจะรีบไปไหน?” เขาถามพลางหลับตากอดหมอนข้าง
“วันนี้มีแข่งรถตอนเที่ยงนะ ลืมไปแล้วหรือไง?”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้น...ผู้กำลังหลุดเข้าสู่ห้วงนิทราก็ตาสว่างพลางลุกขึ้นนั่ง
“บอกคุณแม่หรือยัง?” ดูเหมือนเคจะห่วงเรื่องนี้ที่สุด แน่นอนว่าคนเป็นเพื่อนสนิทอย่างเจมีหรือจะไม่รู้
“บอกคุณแม่เฟิร์นให้แล้ว ว่า...นายจะไปเที่ยวห้างฯกับฉัน รับรองว่าเรื่องแข่งรถไม่มีหลุด” ซาตานหนุ่มตอบเคที่พยักหน้าน้อยๆอย่างวางใจพลางลุกจากเตียงนอนทันทีเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว
แข่งรถทั้งที...จะพลาดได้ไง!
เสียงเครื่องยนต์ดังฮึมฮัมไปทั่วหน้าทางเข้าโกดังคอนเทนเนอร์ร้างที่บัดนี้ไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว เพราะมันกลายเป็นแหล่งชุมนุมของกลุ่มคนที่นิยมชมชอบแก๊งเก่าอย่าง D@rK-DeviL และ Evil-Dragon จนมาสวามิภักดิ์ DeviL-DragoN ซึ่งมีหัวหน้าแก๊งเป็นถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของอดีตสองหัวหน้าแก๊ง
“เจมาแล้ว กรี๊ดดดด!!!”
“เคน่ารักที่สุดเลย!!!” เหล่าสก๊อยเกิร์ลวี้ดว้ายเสียงดังให้กับสองหนุ่มที่เพิ่งขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงท่ามกลางเสียงเฮของผู้ชายนับร้อย
“ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ” ล็อตเต้ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งบ่นอุบ
“ก็ไอ้เคน่ะสิไม่รู้จะห่วงหล่อไปไหน กว่าจะอาบน้ำ ไดร์ผม เซตผม แต่งตัว อะไรไม่รู้ห่าเหวเต็มไปหมด” เจหันไปแขวะเพื่อนชายคนสนิททันที
“แหม...นายก็หัดแต่งตัวหรือทำผมเผ้าให้มันเป็นผู้เป็นคนหน่อยสิ จะได้แบ่งสาวๆจากฉันไปบ้าง!” เคหัวเราะเบาๆพลางขยี้ผมทรงรังนกของเจอย่างอารมณ์ดีและหมายความอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเบื่อผู้หญิงรายล้อมเอามากๆแต่ติดที่ต้องสร้างภาพลักษณ์เนื่องจากผู้เป็นมารดาไม่อยากให้เขาทำตัวเหมือนกุ๊ยอันธพาลข้างถนนเลยกลายเป็นคุณชายเทพบุตรสุดหล่อเนี้ยบทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ
ต่างจากเจที่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ อยากแต่งตัวหรือพูดจาโหวกเหวกก็ไม่มีใครว่า จะมีแต่เรื่องแก๊งอันธพาลที่เพิ่งก่อตั้งได้ครึ่งปีนั่นล่ะซึ่งต้องปิดบังเอาไว้ไม่ให้คนในครอบครัวรู้ ถึงอย่างนั้นเคก็แอบคิดว่าคุณพ่อจีคงรู้อยู่ดีตามสัญชาติญาณหัวหน้าแก๊งเก่า
“วันนี้แก๊งไหนจะมาแข่งด้วยน่ะ?” เจถามล็อตเต้ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“แก๊งแมงมุมลาย”
ซาตานหนุ่มหันไปตามทิศที่ล็อตเต้ชี้ก็พบกับอีกกลุ่มซึ่งมีราวยี่สิบกว่าคน แม้จำนวนน้อยกว่าแต่พวกนั้นหาได้สะทกสะท้านซ้ำยังยืดอกเหมือนอยากอวดความสามารถซะเต็มประดา
“จุดอ่อนล่ะครับ?” คราวนี้เคเป็นคนถามเสียเอง เพราะเขาละเอียดรอบคอบกว่าเจที่มุทะลุ ทำให้ล็อตเต้รีบเปิดสมุดบันทึกประวัติแก๊งต่างๆในมือรายงานหัวหน้าของตน
“จุดอ่อนไม่มี แต่จุดเด่นคงเป็นเรื่องชอบโกงไม่ซ้ำแบบ”
“เจ...วันนี้ฉันจะลงแข่งเอง” เคอาสา
“อะไรว้า...แบบนี้ฉันก็ไม่ได้ออกแรงและออกโรงน่ะสิ” เจโวยวายทันที
“นายตามเกมพวกนี้ไม่ทันแน่ๆ ถ้าอยากให้แก๊งเราชนะ...วันนี้ให้ฉันลุยเถอะ”
“ก็ได้”
เจยักไหล่อย่างจำยอม เพราะเป็นข้อตกลงที่วางไว้อยู่แล้ว ว่า...ถ้ามีการแข่งขันเขาจะรับผิดชอบการท้าประลองอย่างซึ่งๆหน้า แต่ถ้ามีลับลมคมในเคจะจัดการเอง
“พวกมันอาจตุกติกหรือมีลูกเล่นอะไรแปลกๆ” ล็อตเต้กระซิบข้างหูเคพลางเดินออกไป
“ระวังอย่าให้บาดเจ็บ ฉันจะขี่ตามหลังนายไป...เข้าใจมั้ย?”
“อืม” เคตอบรับเพื่อนชายคนสนิทแล้วเตรียมแข่งขัน
ข้างๆนั้น คือ มอเตอร์ไซค์สี่สูบสีม่วงแปร๊ดของหัวหน้าแก๊งแมงมุมลาย ซึ่งเป็นชายหนุ่มโกรกผมสีขาวโพลน เจาะคิ้ว และ ปากโดยใส่ห่วงเงินเอาไว้
“ถ้าฉันชนะขอเงินใช้สักห้าหมื่นละกัน”
“ได้ครับ” เคตอบตกลงอย่างไม่คิดอะไรมาก
"แต่ถ้าแกชนะก็เอาแฟนฉันไปได้เลย” มันพูดพลางโบ้ยไปทางหญิงสาวท่าทางเปรี้ยวจี้ด ย้อมผมสีส้ม สวมเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนขาสั้นคืบเดียวซึ่งกอดเอวซ้อนท้ายอยู่
“ไม่เป็นไรครับ!” เคปฏิเสธทันทีเมื่อเห็นข้อแลกเปลี่ยน แต่ดูเหมือนเธอคนนั้นจะยินยอมพร้อมใจโดยการยักคิ้วหลิ่วตาให้ทั้งที่ยังไม่เริ่มแข่งด้วยซ้ำ
“ออกสตาร์ทตั้งแต่ตรงนี้ แล้วไปเลี้ยวโค้งตรงโน้นก่อนวนกลับมาที่เดิม ใครมาถึงก่อนก็ชนะ! เอาล่ะ...เตรียมตัว...ไป!!!” ทันทีที่ล็อตเต้พูดจบเคก็บิดมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที
เทพบุตรหนุ่มเร่งความเร็วเพื่อนำฝ่ายตรงข้ามที่ดูเหมือนต้องการเบียดเขาจนจำใจต้องลดจังหวะเพื่อออกห่างทำให้มันรีบเร่งเครื่องนำไปได้
เดี๋ยวจะแซงให้ดู!...เคคำรามในใจอย่างขุ่นเคือง
ทันทีที่ถึงทางโค้งเขาก็บิดเครื่องเพื่อตามประกบ ทว่า...สายตาเหลือบไปพบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งข้ามถนนตัดหน้าพอดี
“บ้าเอ้ย!!!” เคสบถลั่นก่อนหักมอเตอร์ไซค์หลบไปอีกทาง
เอี้ยดดดดดดดดดดด!!!
เขาบังคับรถไม่ได้เมื่อมันถลาออกข้างทางพลางทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าชนต้นไม้ใหญ่ด้วยความเร็วสูง แต่เคมีสติมากพอที่จะกระโดดหนี
โครมมมม!!!
มอเตอร์ไซค์คันใหญ่พุ่งชนเข้ากับต้นไม้จนพังยับเยิน
“ไอ้เค!” เจร้องเรียกพลางจอดมอเตอร์ไซค์ทันทีเมื่อถึงที่เกิดเหตุ พลางปรี่เข้าไปช่วยเพื่อนชายที่พยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากคูน้ำมานอนแผ่หลาบนพื้นดิน
“เป็นยังไงบ้างวะ?” เจถามด้วยความร้อนรนช่วยพยุงร่างเคให้ลุกขึ้นนั่ง
“ไม่เป็นไร” แม้จะบอกแบบนั้นแต่เจ้าตัวกลับรู้สึกเคล็ดขัดยอกพอสมควร แต่ไม่ทันได้ดูว่าตัวเองเป็นอะไรบ้างเจก็ตรวจตราให้เสร็จสรรพแล้ว
“มีแผลถลอกนิดหน่อย แต่ไม่มีเลือดตกยางออก...ไม่งั้นคุณแม่เฟิร์นเล่นงานฉันตายแน่ๆ”
เคยิ้มเหยียดนิดๆอย่างนึกขำเพราะรู้ดีว่าเจก็กลัวความเคร่งครัดของผู้เป็นมารดาเขาไม่น้อยกว่ากัน
“ตกใจหมดเลยไอ้บ้าเอ้ย...แข่งเป็นสิบๆครั้งไม่เห็นเคยเกิดอุบัติเหตุ” คำพูดของเพื่อนชายทำให้เคฉุกคิดขึ้นได้พลางหันไปมองหญิงสาวตัวต้นเหตุซึ่งยืนอยู่ริมฟุตบาท
“ยัยนั่น!!!”
เคกัดฟันกรอดพลางขยับลุกขึ้นโดยมีเจประคองไว้ ก่อนจะรีบรุดเข้าไปหาเธอโดยเร็ว
“นี่...รู้มั้ยว่ามันอันตราย มัวแต่เอ๋อทะเล่อทะล่าแบบนี้ได้ยังไง!”
มาดเทพบุตรหายไปเพราะความโกรธ ทำเอาเจสะดุ้งนิดๆไม่คิดว่าเคจะหลุดออกมาต่อหน้าคนอื่นทั้งทีปกติมีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ว่าเพื่อนชายนิสัยยังไง
“ขอโทษนะคะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เธอตอบกลับมาด้วยใบหน้าเนียนใส นัยน์ตากลมโต ผมที่ดำยาวสลวยนั้นเข้ากับเสื้อผ้าเรียบร้อยแต่ดูเฉี่ยวมีสไตล์ ถ้าเป็นยามปกติลุคส์นี้คงต้องตาต้องใจชายหนุ่มหลายคน แต่ไม่ใช่เคที่เกลียดผู้หญิงเป็นทุนเดิมซ้ำยังโกรธจัด
เพราะยัยนี่...ทำให้เขาแพ้แก๊งแมงมุมลาย ถ้าเธอไม่โผล่มาเขาคงชนะไปแล้ว อ๊ะ...หรือว่า...
“เธอเป็นพวกมันใช่มั้ย...ยัยนกต่อ!” เคบีบแขนหญิงสาวคนนั้นจนเธอตกใจ
“คุณพูดอะไรน่ะ ฉันไม่รู้เรื่องนะคะ”
“เฮ้ย...เคใจเย็นๆ มันอาจไม่ใช่อย่างที่นายคิดก็ได้” เจพยายามปราม
“ฉันไม่ได้เป็นนกต่ออะไรนั่นจริงๆนะคะ แค่ข้ามถนนมาซื้อน้ำเพราะที่เรียนพิเศษฝั่งโน้นมันไม่มีอะไรขายเท่านั้นเองค่ะ” เธอพยายามอธิบาย
“อย่ามาโกหก!!! คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ เพราะผู้หญิงอย่างเธอ...” เคระเบิดอย่างอัดอั้นแต่ต้องชะงักเมื่อเรื่องในอดีตมันหวนกลับมาจนเขาไม่อยากพูดถึง
“ใจเย็นๆ...มันแค่เป็นอุบัติเหตุเท่านั้นล่ะ นายไม่เป็นอะไร เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว รีบกลับไปที่แก๊งเถอะถ้าหายไปนานไอ้พวกนั้นจะเอาเราไปพูดให้เสียหายได้นะ” คำพูดของเจดึงสติเคให้กลับมา เขาจำยอมไปซ้อนท้ายเพื่อนชายโดยละทิ้งมอเตอร์ไซค์คันเก่าอย่างไม่ไยดี ถึงกระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันมาจ้องมองผู้หญิงเจ้าปัญหาอย่างอาฆาตจนเธอสะดุ้ง
ฝากไว้ก่อนเถอะ...ยัยตัวแสบ!!!
ความคิดเห็น