ตอนที่ 23 : ๖ สินสอดยาวเหยียด
นางเพียงแค่กล่าวถามด้วยความสงสัย ไม่เห็นต้องกล่าวเสียงเข้มดุเช่นนั้นตอบกลับมาด้วยเลย
ข้าเห็นเสื้อคลุมถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าต้องใส่ชุดอิสตรีเข้าทำพิธี อย่างน้อยชุดคลุมสีดำตัวนี้พอดูได้อยู่บ้าง
“คุณชายเยี่ยเปาลองสวมดูก่อนขอรับ” พ่อบ้านหมิงกล่าวเสียงนิ่ง
“ต้องลองสวมอีก” ข้ากล่าวถามปนรำคาญเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
"......"
“ไม่สวมดูแล้วจะรู้หรือรึว่ามันพอดีตัวท่านหรือไม่” พ่อบ้านหมิงกล่าวเสียงดังฉะฉานดังลั่นห้องรับแขก มองคุณชายเยี่ยอย่างนึกดูแคลนในใจ เขาช่างเป็นเด็กหนุ่มที่ดูมิเอาการเสียจริง!
“อาเปา เจ้าก็รีบสวมเถิด…” ฮูหยินเหลี่ยงที่ตกใจเสียงพ่อบ้านหมิง ลนลานให้บุตรชายสวมเสื้อคลุมอย่างเร็ว
พ่อบ้านหมิงที่มองเด็กหนุ่มตรงหน้าสำรวจอย่างครบถ้วนแล้ว ก็พึงพอใจอยู่มาก ถึงแม้จะดูไม่เอาการ แต่ใบหน้ารูปงามใช้ได้ รูปร่างสูงใหญ่พอเหมาะ พอดี ไม่แห้งผอม หรือเจ้าเนื้อจนเกินไป ทุกส่วนของเขาอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน
“ดูแล้วพอดิบพอดี….เช่นนี้ข้าขอตัวกลับก่อน และอีกสองวันคุณหนูใหญ่จะมาส่งมอบสินสอดด้วยตนเองขอรับ” พ่อบ้านหมิงกล่าวเสียงเข้ม ก้มหัวเล็กน้อยหมุนกายกลับเดินออกจากห้องไปทันที
สิบสองวันก่อนวันวิวาห์ณ คฤหาสน์ตระกูลไป๋
พอถึงวันนัดหมายส่งมอบสินสอด พ่อบ้านหมิงเดินตรงไปเรือนหลิ่งของคุณหนูใหญ่ตั้งแต่ยามเหมา ไปปลุกนางเพื่อจะไปส่งมอบสินสอดทั้งหมดด้วยตนเอง
“ข้าต้องไปด้วยตนเองหรือพ่อบ้านหมิง” ไป๋มี่อิงกล่าวขึ้นอย่างงัวเงีย เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้ายามอิ๋น
นี่นางนอนไปได้ครึ่งชั่วยามเอง ก็ต้องตื่นขึ้นมาเสียก่อน
“ใช่ขอรับ…คุณหนูรีบเตรียมตัวไปอาบน้ำ ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เถิด” พ่อบ้านหมิงกล่าวเสียงอ่อน ปนเอ็นดูเด็กสาวที่นั่งเปิดปากห้าววอดออกมาไม่หยุด
ไป๋มี่อิงเดินอย่างอิดโรยโซเซไปห้องอาบน้ำ เมื่อคืนนางอยู่กินงานเลี้ยงกับตระกูลไป๋สายรองที่โรงเตี๊ยมไป๋ซือ พวกเขาเดินทางมาร่วมงานวิวาห์จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ นางติดลมอยู่เสียนาน กว่าจะกลับคฤหาสน์ก็ยามโฉ่วใกล้ยามอิ๋นแล้ว
“วันนี้คุณหนูจะสวมชุดสีไหนดีเจ้าคะ?” เสี่ยวเมิ่งกล่าวถาม
“หืม สีดำเหมือนเดิมข้าขอผ้าพันคอขนสัตว์สีน้ำตาลเข้ม และหมวกขนสัตว์ที่เข้าคู่กับมันมาด้วยนะเสี่ยวเมิ่ง” นางกล่าวบอก
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไป๋มี่อิงก็เดินออกมาหาพ่อบ้านหมิงด้านหน้าคฤหาสน์
“คุณหนูจะนั่งรถม้า หรือจะควบม้าไปเองขอรับ” พ่อบ้านหมิงกล่าวเสียงอ่อนเช่นเดิม
“ข้าควบม้าดีกว่า…พ่อบ้านหมิงก็นั่งรถม้าไปเถิด อากาศด้านนอกยามเช้าหนาวนัก” ไป๋มี่อิงกล่าว
เพราะยามอู่นางต้องไปต้อนรับผู้นำตระกูลหม่าที่ประตูเมืองหลวงด้วยตนเอง ตระกูลหม่าเป็นหนึ่งในสิบตระกูลมหาอำนาจที่จะเดินทางมาร่วมงานแต่งครานี้ เช่นนั้นแล้วการที่นางเอาม้าไปเองจะสะดวกมากกว่า
ด้านนอกยามนี้มีขบวนสินสอดยาวเหยียด เกือบสุดอีกด้านของเมืองหลวง ใช้ผู้คนในการขนของครานี้เกือบห้าร้อยคน เพราะเตียงไม้หนึ่งหลังใช้คนแบกถึงยี่สิบคน
และไม่ต้องกล่าวถึงหีบใบใหญ่ของตระกูลไป๋ ก็ใหญ่เกิดขนาดชาวบ้านมาสามเท่าตัว ส่วนหีบใบเล็กนั่นคือขนาดใหญ่ของชาวบ้านทั่วไป
ชาวบ้านที่มายืนมุงดูต่างลือไปทั่ว เพียงชั่วพริบตาข่าวก็กระฉ่อนไปทั่วเมืองหลวง ตระกูลไป๋ที่ว่าร่ำรวยอยู่แล้ว ได้ทำเรื่องเหนือการคาดหมายขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าคลังเก็บทรัพย์สินพวกเขา จะใหญ่เท่าท้องพระคลังของวังหลวงหรือไม่
“พวกเจ้าดู!! ...คุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋ควบม้าอยู่หน้าขบวน”เสียงผู้คนดังขึ้น
ภาพยามนี้ที่พวกเขาได้ยลโฉม ตรึงตราสลักใจนั้น คือภาพสตรีที่สวมใส่อาภรณ์ผ้าไหมสีดำสนิทแวววาว ด้านบนคลุมทับด้วยผ้าพันคอขนสัตว์สีน้ำตาลเข้ม ศีรษะสวมใส่หมวกขนสัตว์สีน้ำตาลเข้มเข้าคู่กันกับผ้าพันคอของนางด้วยเช่นกัน
อีกทั้งหมวกยังมีหางจิ้งจอกขนฟูห้อยอยู่ด้านหลังสะบัดคลอเบาๆ ตามแรงการขยับกายของนาง
ทุกอย่างที่นางสวมใส่ช่วยขับเน้นดวงหน้าได้รูปให้กระจ่างชัดขึ้น ไม่ต้องเอ่ยถึงรูปโฉมของนางก็งามล้ำเป็นหนึ่งอยู่แล้ว และรวมกับท่าทางที่สงบนิ่งยิ่งชวนให้สง่างามมากขึ้น
ดวงตาสีดำนุ่มลึกกำลังทอดมองทางไปเบื้องหน้านั้น ไม่มีแวววูบไหวใดๆ ประกายออกมาให้เห็น… ช่างเป็นภาพหาดูยากยิ่ง ที่สตรีให้ความรู้สึกสง่าผ่าเผย องอาจดุจบุรุษเยี่ยงนี้
อย่าถามว่าใครเป็นฮูหยินรองตอบเลยกุเองค่ะ! จะตบกับอืมม..พระเอกปะ? เยี่ยเปา หรือนางเอก? ช่างมัน! เอาเป้นว่ากุนี้เเหละเมียรอง! จะตบเเย่งตพแหน่งเมียหลวง!
นางเอกโคตร coolอ่ะ
ปลื้มปลื้ม
สนุกมาก พลอตแตกต่าง ชายแต่งเข้าบ้านหญิง ดีๆๆๆ
ขอฮาเร็มนะคะ
ไรท์แต่งสนุก ชอบมากก
นึกถึงเรื่องราชบุตรเขยเจ้าสำราญ นางเอกเป็นแม่ทัพ(ใครๆก็คิดว่านางเอกเป็นชาย) พระเอกเป็นองค์หญิง (ถูกเลี้ยงเป็นผญมาตลอด)
ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านทั้งสองเรื่องเลย =3