ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ] Beside ฝากหัวใจไว้เคียงข้างคุณ YOOSU YUNJAE

    ลำดับตอนที่ #3 : Part 2 กุหลาบเคลือบช็อคโกแลต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 114
      0
      14 ก.พ. 57

    Part 2 กุหลาบเคลือบช็อคโกแลต

    .............................................................

     

    ชายหนุ่มวัย 35 เดินตรงมาที่โซฟาข้างลูกชายตัวแสบที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่นาน มือแกร่งยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยปากถามทุกข์สุขจากอีกฝ่ายซึ่งนั่งเล่นที่โซฟาอยู่ก่อนหน้าแล้ว

     

     

    “เรียนเป็นไงบ้างจุนซู... แล้วคุณย่าสบายดีหรือเปล่า”

     

     

    “ก็ดีครับ แต่คุณย่าโหดครับ โหดกว่าคุณป๊าอีก”จุนซูตอบพร้อมกับทำหน้ามุ่ย

     

     

    “ฮ่าๆๆ กับเราน่ะยังน้อย ป๊าโดนเยอะกว่านี้อีก”ร่างสูงยกมือลูบผมลูกชายเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ

     

     

    “ไม่น้อยนะครับป๊า ชีวิตที่นู่นของผมน่ะเหมือนโรงเรียนประจำเลย เลิกเรียนก็ต้องรีบกลับบ้าน วันๆเหมือนโดนขังอยู่แต่ที่บ้าน ขนาดจะซื้อหนังสือเรียนยังต้องให้คุณย่าไปด้วยเลย”คนน่ารักบ่นยาว แก้มใสพองลมอย่างน่ารัก

     

     

    “คุณย่าเขากลัวเราหนีเที่ยวน่ะสิ ป๊าทำบ่อยจนคุณย่าเขาห่วงว่าเราจะเสียคนแบบป๊า ฮ่าๆๆ”ยุนโฮระเบิดหัวเราะเสียงดังทิ้งท้าย

     

     

    “แล้วตอนนี้ล่ะ คุณป๊าไม่คิดจะมีใครซักคนบ้างเหรอ”ดวงตาเรียวหันไปมองหน้าผู้เป็นบิดาของตนพร้อมกับคำถาม ซึ่งคนฟังถึงกับขมวดคิ้วขุ่นอย่างสงสัย

     

     

    “เราอยากมีแม่เลี้ยงหรือไงจุนซู”

     

     

    “ไม่เชิงครับ ผมแค่คิดว่าถ้าป๊าอยู่แต่กับงานแบบนี้กลัวจะเป็นโรคเครียดน่ะสิครับ”

     

    มือเล็กค่อยๆวางลงบนหลังมือของยุนโฮ

     

    ความเป็นห่วงจากลูกชายที่น่ารักถูกถ่ายทอดผ่านสัมผัสนี้ทีละน้อย

     

    “ป๊าแข็งแรงแบบนี้ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ที่สำคัญงานที่บริษัทป๊าก็ไม่ได้ทำอะไรหนักซักหน่อย นั่งเซ็นต์เอกสารอย่างเดียว”

     

     

    “งั้นให้ผมไปช่วยไหมครับ ^^”จุนซูพูดขึ้น แต่ก็ไม่พ้นที่จะโดนคุณป๊าสุดหล่อดุเข้าให้

     

     

    “ไม่ต้องมาหาเรื่องไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเลยนะ!

     

     

    “คุณป๊ารู้ทันตลอดอ่ะ ทีแจจุงไม่เรียนยังไม่เป็นไรเลย”ร่างเล็กขยับตัวออกห่างจากยุนโฮก่อนจะทิ้งแผ่นหลังไปพิงกับโซฟาอีกด้าน

     

     

    ...ชีวิตของเขาเมื่อไหร่จะพ้นจากการถูกบังคับให้ทำโน่นทำนี่เสียที...

     

     

    “นี่เราไปหาเจ้าเด็กนั่นมาเหรอจุนซู โดนแจจุงยุยงอะไรผิดๆมาอีกแล้วใช่ไหม”น้ำเสียงของชายหนุ่มเริ่มแสดงอาการความไม่พอใจขึ้นมา

     

    ยิ่งได้ยินชื่อนั้นยิ่งโมโห ทั้งๆที่10ปีผ่านมาแล้ว

     

    แต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องที่เจ้าเด็กนั่นทำไว้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

     

     

    “ผมไปหาคุณหมอแล้วก็บังเอิญได้เจอแจจุงน่ะครับป๊า แต่แจจุงเขายากจนเขาเลยไม่มีเงินเรียนน่ะครับ ไม่ได้ยุยงซะหน่อย”จุนซูรีบแก้ตัวให้เพื่อน เพราะดูท่าทางคุณป๊าเขาจะโมโหแจจุงขึ้นมาอีกแล้ว

     

     

    “เพื่อนไม่ดีแบบนั้นปกป้องกันเข้าไป เมื่อไหร่จะเลิกคบเพื่อนแบบนี้ซักที”ยุนโฮพูดอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำเอาจุนซูเองก็หมดความอดทนอีกเหมือนกัน

     

     

    “คุณป๊า!! จุนซูโตพอที่จะแยกแยะได้แล้วนะครับ”

     

     

    “แต่เด็กนั่นร้ายกว่าที่เราคิดเยอะ”ยุนโฮยังคงยืนยันคำเดิมตามความคิดของเขา

     

     

    และนั่นก็ทำให้ลูกชายถามย้อนกลับมาเข้าให้

     

    “ร้ายยังไงครับ ไหนคุณป๊าลองบอกผมหน่อยสิครับ”

     

     

    “เอ่อ...ร้ายแบบที่ยุยงไม่ให้เราเรียนหนังสือไงจุนซู เดี๋ยวนี้กล้าย้อนป๊าแล้วเหรอ”

     

     

    “เปล่าซักหน่อย ก็คุณป๊ามั่ว! จุนซูบอกแล้วไงว่าแจจุงไม่ได้ยุ! จุนซูไม่คุยกับคุณป๊าแล้ว!”จุนซูทำท่าจะลุกหนีถ้าไม่เพราะลุงชอนเจคนขับรถของบ้านเดินเข้ามาพร้อมกับหนุ่มน้อยที่เป็นหัวเรื่องสำคัญของการที่เขาเถียงกับป๊าตลอดเวลา

     

     

    “คุณหนูครับ คุณแจจุงมาหา...”

     

     

    “อ่า....แจจุงมาแล้ว ไวกว่าที่คิดเลย”

     

     

    “พอดีเราปิดร้านก่อนเวลากำหนดน่ะ เพราะเราอยากจะมาช่วยจุนซูจัดงาน”แจจุงตอบแล้ววาดยิ้มบางๆบนริมฝีปาก

     

     

    “งานอะไรกัน”เสียงทุ้มถามขึ้นก่อนที่จะจุนซูขยับตัวหันกลับไปมอง ซึ่งนั่นก็ทำให้แจจุงกับยุนโฮได้พบหน้ากันแบบเป็นทางการ

     

     

    “งานปาร์ตี้ต้อนรับจุนซูเองแหละคุณป๊า แขกที่พามาก็มีแค่แจจุงกับคุณหมอ คงไม่วุ่นวายรบกวนคุณป๊าหรอก”ร่างเล็กรีบตอบก่อนที่เพื่อนรักของเขาจะโดนหาว่าเป็นคนต้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีก

     

     

    “สวัสดีครับคุณอา”แจจุงก้มหัวทักทาย ขณะที่ยุนโฮเอาแต่จ้องใบหน้าของผู้มาใหม่ไม่ละ แจจุงเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ เปลี่ยนจนเขาจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

    ไม่ว่าจะเป็นดวงตากลมโตที่ยังคงแสดงความหวาดกลัวเรื่องอดีตจนนัยน์ตาสวยสั่นระริก  

     

    สีผมประกายทองพร้อมกับทรงผมซอยสั้นโชว์คอขาวระหงส์  

     

    จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากสีแดงสดทำเอาคนมองใจสั่นได้ดีเชียวนัก

     

    ทั้งหมดนั่นไม่น่าเชื่อว่าจะถูกจัดสรรมาบนใบหน้าของหนุ่มน้อยคนนี้ได้ราวกับเป็นสตรีเพศ

     

    ...แค่เพียงได้พบเธอก็หวั่นไหว...
    ...แค่เพียงสบสายตาก็ปักใจ...
    ...หลงรักเพียงแรกเจอ...
    ...แล้วเธอล่ะเป็นไหม...
    ...ช่วยเปิดใจให้รู้ที...
    ...ไม่เคยจะรักใครเร็วอย่างนี้...
    ...ไม่เคยมีผู้ใดมากี่ปี...
    ...แต่ฉันก็แพ้เธอแล้วไงล่ะทีนี้...
    ...เธอจะรักฉันหรือเปล่าไม่รู้...

     

    แปะ!! เสียงปรบมือดังขึ้นตรงหน้ายุนโฮ ทำเอาชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์คนตกหลุมรัก และผู้ตบมือคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจากลูกชายตัวแสบของเขา

     

    “คุณป๊าจ้องแจจุงนานไปแล้วนะ รับทักทายก็ไม่รับ คิดจะฆ่าแจจุงอยู่หรือไง ผมไม่ยอมหรอกนะ!!!”จุนซูพูดดักทางเมื่อเห็นว่าคุณป๊าจ้องเพื่อนของเขาราวกับจะจับเขมือบเข้าท้องได้อยู่แล้ว

     

     

    “คิดอะไรไปใหญ่แล้วนะเรา ป๊าไม่ฆ่าแจจุงหรอก”ยุนโฮรีบตอบพร้อมกับเขกหัวลูกชายที่คิดอะไรไม่เข้าท่า

     

    ...จะฆ่าแจจุงได้ยังไงออกจะสวยขนาดนี้...

     

    ...แต่ถ้าอยากจะฆ่า...

     

    ...ขอฆ่าบนเตียงดีกว่า...

     

     

     

    “เอ่อ...จุนซู เราเตรียมอุปกรณ์ทำคุกกี้กับเค้กมาด้วยนะ เราอยากให้จุนซูได้ชิมสูตรของร้านเราล่ะ”แจจุงชูถุงพลาสติกใส่ที่ใส่วัตถุดิบมาพร้อมที่จะโชว์ฝีมือ

     

     

    “แจจุงเอามาเยอะแยะแบบนี้ เดี๋ยวร้านก็ขาดทุนหรอก”จุนซูบ่นอีกฝ่าย ยิ่งเห็นเพื่อนเขาไม่ค่อยมีเงิน เขาก็ไม่อยากจะให้เพื่อนเดือดร้อน อุปกรณ์ที่เตรียมมานี่ก็น่าจะขายได้เงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

     

     

    “ไม่เป็นไร ถือว่าเราให้เป็นของขวัญต้อนรับกลับโซลนะ”คนสวยยิ้มหวาน

     

    แต่ใครจะรู้ว่ารอยยิ้มนั้นไม่เพียงแค่สายตาจุนซูที่มองเห็นมัน

     

    แต่ยังมีสายตาจากยุนโฮอีกคนที่มองทุกการกระทำและฟังทุกคำพูดของเด็กหน้าหวานคนนี้

     

     

    “ทำอะไรกันอยู่คร้าบบบบ”เสียงของคุณหมอหนุ่มดังมาแต่ไกล และทันทีที่ได้ยินจุนซูก็ผละออกจากแจจุงไปหาต้นเสียงทันที

     

     

    “คุณหมอมาแล้ว~~~”จุนซูโผเข้ากอดก่อนจะจุ๊บปากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

     

    “ก็มาแล้วน่ะสิครับ ใจมันเรียกร้องหาคนน่ารักไง ^^”ยูชอนหยิกแก้มใสเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

     

    และการกระทำของทั้งคู่หากคนที่ไม่รู้จักมาพบเห็นก็คงมองว่าเป็นคู่รักที่หวานกันจนมดแห่มาขึ้นยกรัง

     

     

    แต่ทว่ายุนโฮกลับดึงเจ้าลูกชายตัวดีกลับมายืนข้างๆเพื่อถามให้แน่ชัด

     

     

    “เมื่อกี้ทำอะไรลงไปน่ะจุนซู”

     

     

    “ก็จุ๊บกับคุณหมอไงครับ”ร่างเล็กยิ้มตาหยีโดยไม่รับรู้ถึงรังสีความโกรธจากผู้เป็นพ่อที่กำลังแผ่มาช้าๆ

     

     

    “เราโตแล้วนะ ทำแบบนั้นได้ยังไง คนอื่นเขาจะมองว่าไม่ดีนะรู้ตัวไหม”ยุนโฮดุ ทำให้จุนซูถึงกับหน้าซีด แม้แต่ริมฝีปากที่จะเอ่ยแก้ตัวยังถึงกับพูดไม่ออกราวกับน้ำท่วมปาก

     

    “นี่ไอ้คุณชายชอง! ทำซีเรียสไปได้ ถ้าเขามองไม่ดี ฉันจะรับผิดชอบลูกแกเอง”มือแกร่งวางบนไหล่เพื่อนรักพร้อมกับแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ยุนโฮกลับปัดมือเพื่อนออกจากไหล่ตัวเองอย่างไม่ไยดี

     

     

    “ไม่ต้องมารับผิดชอบลูกชายของฉัน เพราะฉันไม่มีวันยกลูกชายของฉันให้เป็นเมียแก!

     

    “โห....ไอ้ชอง นี่ฉันยังดีไม่พออีกหรือไง อาชีพฉันก็เป็นตั้งนายแพทย์เลยนะเว้ย”ยูชอนยืดอกเต็มความภาคภูมิกับอาชีพอันเป็นเลิศของตัวเอง

     

    “เออ อาชีพแกมันก็ดี แต่นิสัยไม่ดีพอ”ยุนโฮตอบ

     

    “ทำไมวะ ก็แค่ชอบไปเที่ยวกลางคืนหิ้วสาวกลับมาบางครั้งบางคราวเนี่ยนะ”คุณหมอหนุ่มกลับมายืนในท่าทางปกติพร้อมกับหันไปมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ

    “นั่นแหละ เพราะลูกชายของฉันบริสุทธิ์เกินกว่าจะเป็นคู่ชีวิตกับเพลย์บอยอย่างแกไอ้หมอปาร์ค เป็นแค่หมอประจำตัวจุนซูก็พอแล้วแกอ่ะ!

     

    “เออๆๆๆ เป็นแค่หมอก็ได้”ยูชอนยุติบทสนทนาก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่โซฟา แต่ก็ยังไม่วายมือไวคว้ามือจุนซูมาจุ๊บเบาๆ

    “ว่าแต่ปาร์ตี้วันนี้จุนซูเตรียมอะไรไว้ให้คุณหมอบ้างครับ”

     

    เพี๊ยะ! ยุนโฮตีมือคุณหมอจอมกะล่อนเข้าเต็มแรง ทำให้จุนซูที่กำลังจะอ้าปากตอบรีบปิดปากแทบไม่ทัน

     

    “โอ๊ยยยยย เจ็บนะเว้ย”ยูชอนโวยวายพร้อมกับสะบัดมือรัว

     

     

    ...ไอ้เพื่อนบ้าแรงมันก็ยังกับหมี...ตีมาได้ไม่ยั้งมือเลย...

     

    “มือไวไม่เลิกนะแก...”ยุนโฮพูด

     

     

    “ก็ฉันแค่จะถามจุนซูเฉยๆ”เสียงทุ้มเอ่ยแก้ตัว แต่ก็โดนย้อนเข้าให้ในทันที

    “ถามเฉยๆก็ไม่ต้องเอามือมาจับก็ได้”

     

    “โอเค ฉันจะยอมแกไอ้คุณชายชอง”ร่างสูงเอนหลังพิงกับโซฟา

     

    เพื่อนเขานี่มันหวงลูกชายอย่างกับหวงลูกสาวเลย

     

    ให้ตายเถอะ แล้วแบบนี้จะเป็นลูกเขยได้ยังไง คิดแล้วกลุ้ม

     

    “ว่าแต่จุนซูจะทำอะไรให้คุณหมอทานครับ”คุณหมอหนุ่มหันกลับมาย้อนถาม

     

     

    “คือจุนซูอยากกินสุกี้เลยว่าจะชวนคุณหมอไปซื้อวัตถุดิบที่ห้างน่ะครับ”ร่างเล็กยิ้มหวาน ยิ้มหวานอีกแล้ว ถ้าอยู่โรงพยาบาล คงจะโดนคุณหมอจับมาทำสัญญาให้หายชื่นใจ

     

     

    “ได้เลย”ยูชอนรีบลุกขึ้นยืน เมื่อเขาได้พบทางที่จะอยู่กับจุนซูแบบสองต่อสองแล้ว แต่ก็ไม่พ้นมารผจญที่ส่งเสียงขึ้นมา

     

     

    “ป๊าจะไปด้วยจุนซู!

    “คุณป๊า...”จุนซูทำหน้าตกใจก่อนจะเขย่งเท้ากระซิบที่หูอีกฝ่าย

     

    “ถ้าคุณป๊าไปกับผมแล้วทิ้งแจจุงไว้ที่บ้านคนเดียว คุณป๊าไม่กลัวแจจุงจะขโมยของบ้านเราหรอครับ”ร่างเล็กสร้างเรื่องมายุยงบิดาตนเอง จากนั้นหันไปมองแจจุงด้วยแววตาละห้อย

     

    ...ขอโทษที่แกล้งใส่ร้ายนายนะเพื่อนรัก...แต่เพราะฉันจำเป็นจริงๆ...

     

    “แล้วถ้าไอ้หมอมันทำอะไรไม่ดีกับจุนซูล่ะ ป๊าจะทำยังไง”ยุนโฮหันมาตอบด้วยน้ำเสียงกระซิบเหมือนกัน

     

     

    “ผมไปห้างนะครับ มันเป็นที่สาธารณะคนพลุกพล่าน เขาไม่กล้าทำอะไรหรอกครับ”ดวงตาใสยิ้มตาหยี เมื่อรู้สึกได้ว่าป๊าเขาเริ่มที่จะลังเลกับเหตุการณ์ที่เขาสร้างขึ้นมา

     

     

    ยุนโฮพยักหน้ารับเป็นสัญญาณอนุญาตให้กับลูกชาย แม้นัยน์ตาจะห่วงจุนซูจากไอ้เพื่อนรักเพลย์บอยก็ตาม แต่ถ้าเจ้าเด็กนั่นมันขโมยของขึ้นมา เขาก็เดือดร้อนอีก

     

     

    “เอาล่ะ ฉันจะอยู่ที่บ้านก็ได้... อยู่เป็นเพื่อนแจจุง”ร่างสูงพูดขึ้นโดยเน้นเสียงในเหตุผลสุดท้ายพร้อมกับหันไปมองร่างเล็กตาโตที่ถึงกับสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงสถานการณ์ไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นมาทันที

     

     

    “แล้วคุณป๊าก็ห้ามรังแกแจจุงนะครับ ไม่งั้นจุนซูจัดการคุณป๊าแน่!”จุนซูทำหน้ามุ่ยเอาเรื่องเหมือนแมวขู่

     

    “ป๊าไม่ทำหรอกน่า...”ยุนโฮลากเสียง นี่ไอ้ลูกชายเขาจะหวงเพื่อนคนสวยไปถึงไหนกัน

     

     

    “งั้นเราไปกันเถอะครับ”คุณหมอหนุ่มรีบจูงจุนซูออกไปโดยไม่รีรอเพราะกลัวว่าเจ้าหมีบ้าเพื่อนรักจะเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วจะพากันแย่ไปเสียหมด

     

     

     

    ยุนโฮและแจจุงยืนมองคุณหมอกับคนไข้จนลับสายตาก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยขึ้น

    “ผมขอตัวไปทำคุกกี้นะครับ”

     

     

    “เชิญ!”เสียงทุ้มเอ่ยตอบห้วนๆ แต่ก็ก้าวเท้าตามร่างบางเข้าไปในห้องครัว

     

    “คุณอาตามผมมาทำไมครับ”แจจุงเอ่ยถาม

     

    “ฉันไม่ไว้ใจนาย”วาจาเฉือดเชือนดูถูกเอ่ยแบบชนิดที่ตรงสุดๆกับคนสวย

     

    แจจุงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะที่ลงมือทำคุกกี้ด้วยวัตถุดิบที่เตรียมมา

     

     

    ระหว่างที่กำลังทำก็ไม่พ้นที่จะโดนเจ้าของบ้านพูดจาดูถูกดูแคลนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ...

     

     

    “นายคงไม่เอาของเหลือจากร้านมาทำให้ลูกฉันหรอกนะ”

     

     

    “วัตถุดิบของนายจะราคาซักเท่าไหร่กันเชียว”

     

     

    “ทำออกมารสชาติจะแย่ซักแค่ไหน”

     

     

    “คนอย่างนายไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ได้นะ”

     

     

    “ไปก็อปปี้สูตรการทำจากใครเค้ามา”

     

     

    “สภาพคุกกี้นายให้ฟรี ฉันยังไม่อยากได้เลย”                        

     

     

    “แล้วนั่นใส่อะไรลงไป ... นายคงไม่ใส่ยาพิษให้ลูกฉันกินหรอกนะ”ยุนโฮพูดกดดันคนสวยไปเรื่อยจนในที่สุดมันก็ได้ผลในประโยคสุดท้าย เมื่อแจจุงถึงกับวางมือจากการจับสิ่งของทุกอย่างแล้วหันมาเผชิญหน้า

     

     

    “จุนซูเป็นเพื่อนของผม ถ้าผมจะใส่ยาพิษลงไป ผมสู้ใส่ให้คุณอาคนเดียวเสียดีกว่า”

     

     

    “แจจุง นี่นาย!!”มือแกร่งชี้หน้าคนสวยอย่างเอาเรื่องด้วยความโมโห แต่แววตาที่เคยกลัวของแจจุงซึ่งตอนนี้กลับจ้องมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชาจนบรรยากาศเหมือนตกอยู่ในขั้วโลก เพราะหมีหล่อเริ่มรู้สึกหนาวเมื่อถูกเพื่อนลูกชายเอาจริงเอาจังขึ้นมาบ้าง

     

     

    “คุณอาไม่พอใจอะไรผมนักหนาหรอครับ ถึงได้พูดจาดูถูกผมนัก”ริมฝีปากสวยต่อบทสนทนาที่ทำเอาหมีถึงกับอ้าปากค้าง

     

    “ฉัน...ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ไว้ใจนาย”ร่างสูงพูดอย่างติดขัด แถมยังรู้สึกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากลำบาก

     

    ...นั่นสิ...เขาจะไม่ไว้ใจอะไรแจจุงนักหนากันนะ...

     

     

    “ทำไมครับ เพียงเพราะผมมันจน เพราะผมมันเด็กกำพร้า ไม่ใช่ลูกคุณหนูคุณนายใช่ไหมครับ”แจจุงมองอีกคนด้วยแววตาตัดพ้อ

     

    ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่ได้อยากอยู่ในสภาพที่พูดไปเท่าไหร่นักหรอก

     

    “ใช่!!!”ยุนโฮตอบแบบขอไปที เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาไม่พอใจแจจุง นอกเสียจากเรื่องวันนั้นที่เขาไม่อยากจะรื้อฟื้นมันขึ้นมา เดี๋ยวจะหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ปัญหาไร้สาระจากเด็กอายุ 8 ขวบวันนั้นทำเขามีอคติได้จนถึงทุกวันนี้ จะว่าไปเขานี่มันไร้สาระสิ้นดี

     

     

    “ผมไม่คิดเลยนะครับว่าคุณอาจะมองคนที่ฐานะมากกว่าที่จิตใจ โชคดีนะครับที่จุนซูน่าจะได้เลือดแม่ของเขามามากกว่าเลือดคนชั้นสูงแต่ดูถูกคนอื่นอย่างคุณ”คำพูดของแจจุงจุดประกายไฟความโกรธในตัวของยุนโฮได้เป็นอย่างดี สองมือแกร่งดันแผ่นหลังบางจนติดกับตู้เย็น

     

     

     

    “นายจะพูดมากเกินไปแล้วนะ นายคิดว่านายกำลังพูดอยู่กับใคร ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของนายนะแจจุง!!!

    แจจุงพยายามขืนตัวออกจากการจับกุมของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่สำเร็จเลยได้แต่ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้

     

     

    “ผมก็ไม่ใช่เด็กรับใช้ที่จะมายืนให้คุณดูถูกนะครับ”

     

     

    “ฉันคงต้องสั่งสอนนายให้รู้สำนึกว่านายไม่ควรพูดจาแบบนี้กับฉัน”ยุนโฮเอ่ยก่อนที่จะทาบทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบาง จูบนี้คือการลงโทษเด็กดื้อที่เถียงคำไม่ตกฟากอย่างแจจุง ร่างสูงบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างไร้ความปราณี แต่ทำตามอารมณ์ร้อนได้เพียงไม่นานนัก ชายหนุ่มก็ถูกคนสวยผลักออกเต็มแรง

     

     

    “คุณทำบ้าอะไร!”แจจุงใช้หลังมือถูปากตัวเอง สมองของร่างบางตอนนี้รู้สึกขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออก การจู่โจมที่ช่วงชิงเฟิร์สคิสของเขาไปด้วยอารมณ์ความโมโห ทำเอาเขาใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก

     

     

    “สั่งสอนเด็กดื้ออย่างนายไง คราวหลังถ้ากล้าเถียงกล้าย้อนฉันอีก ฉันจะจูบให้นายขาดใจตายเลยดีไหม”ยุนโฮยกนิ้วโป้งขึ้นเช็ดปากตัวเองอย่างลวกๆพร้อมกับแววตาแบดบอยแบบพระเอกในนิยายแนวตบจูบ สัญชาตญาณการล่าเหยื่อเหมือนจะกลับมาที่ตัวเขาอีกครั้งตั้งแต่วันนี้ที่ได้พบกับแจจุง

     

    ...เด็กดื้อปากร้าย...

     

     

    “คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนผม เพราะคุณไม่ใช่เจ้าชีวิตของผม”พูดจบแจจุงก็รีบยกมือปิดปากแน่น ใบหน้าคมแสยะยิ้มเพียงเล็กน้อยเหมือนเห็นปฏิกิริยาความดื้อที่ซ่อนความกลัว ...จะกล้าก็กล้าให้มันตลอดนะคิมแจจุง...

     

    “เด็กปากดีอย่างนาย ฉันจะเป็นเจ้าชีวิตกำหนดทางเดินของนายให้ได้ คอยดู!!”ยุนโฮพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินย้อนออกไป หลังจากที่แผ่นหลังแกร่งผ่านพ้นประตูไปได้เพียงเสี้ยววินาที แจจุงก็ถึงกับทรุดลงนั่งที่หน้าตู้เย็น หยาดเหงื่อไหลไปทั่วใบหน้าหวาน ทั้งๆที่อากาศในบ้านออกจะเย็นสบาย

     

     

     

    ตุ้บ! เสียงกระเป๋าเดินทางถูกทิ้งลงกับพื้น ขณะที่หญิงวัยกลางคนวิ่งตรงเข้ามาประคองคนสวย

     

     

    “ตายแล้ว... คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

     

     

    “ผมไม่เป็นไรครับ”แจจุงตอบพร้อมกับพยายามพิจารณาใบหน้าคุ้นเคยของคนตรงหน้า คิ้วสวยขมวดเข้าหากันครู่หนึ่งก่อนจะทำตาโตเมื่อนึกขึ้นได้

     

     

    “ป้ามินอาใช่ไหมครับ”เสียงหวานเอ่ยถาม

     

     

    ถ้าจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้เป็นทั้งแม่บ้านและพี่เลี้ยงของจุนซู เขาเคยเจอบ่อยๆทั้งตอนที่ไปรับจุนซูที่โรงเรียนและตอนที่มาเที่ยวที่บ้านจุนซูเมื่อวัยเด็ก

     

     

    “ใช่แล้วค่ะ แล้วนี่.....คุณแจจุงใช่ไหมคะ โตเป็นหนุ่มหล่อแล้วป้าจำไม่ได้เลย”มินอาหัวเราะแห้งๆ

     

     

    “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แล้วทำไมป้า...”ร่างบางชี้มือไปยังกระเป๋าเดินทาง

     

     

    “อ๋อ... ป้าลาพักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาน่ะค่ะ แล้วคุณแจจุงมาเที่ยวบ้านคุณยุนโฮแบบนี้แสดงว่าคุณหนูจุนซูของป้ากลับมาแล้วใช่ไหมค่ะเนี่ย”

     

     

    “ใช่แล้วครับ วันนี้เราจะมีปาร์ตี้เล็กๆต้อนรับจุนซูด้วยล่ะครับ”คนสวยระบายยิ้มบางๆบนริมฝีปาก

     

     

     

     

     

    ............................................................................

     

     

     

     

          ที่ห้างสรรพสินค้าซูเปอร์มาเก็ตชื่อดังกลางกรุงโซล ยูชอนเดินเข็นรถเข็นตามจุนซูต้อยๆ ขณะที่คนน่ารักเดินเลือกผักและเนื้อสัตว์อย่างสบายใจ

     

     

    “จุนซูครับ คุณหมอว่านะ สถานการณ์แบบนี้เหมือนเราเป็นคู่รักกันเลยเนอะ”ยูชอนเอ่ยปากเปิดบทสนทนาหลังจากที่ปล่อยให้เงียบมานาน

     

     

    “คู่รักอะไรกันครับ ไม่เหมือนซักหน่อย”แก้มใสซับสีแดงระเรื่อ ถึงจะปฏิเสธออกไปในใจอยากจะกรีดร้องดังๆกับคำพูดของคุณหมอปากหวาน

     

     

    “ฮ่าๆๆ ก็จุนซูเป็นคุณแม่ แล้วคุณหมอก็เป็นคุณพ่อ วันนี้เรากำลังจะทำอาหารให้ลูกๆที่น่ารักของเราไงครับ”มือแกร่งปล่อยรถเข็นให้จอดทิ้งไว้ก่อนจะพาร่างกายมาเดินเคียงข้างจุนซู

     

     

    “คุณหมอเพ้อใหญ่แล้วนะครับ”จุนซูทำแก้มป่อง และเมื่อยูชอนเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มใสพองลมนั่นไปฟอดใหญ่ท่ามกลางสายตาของคนบริเวณนั้นที่มองทั้งคู่เป็นตาเดียว

     

     

    “คุณหมอไม่ได้เพ้อนะครับ แต่แก้มจุนซูหอมจัง...”

     

     

    “คุณหมอทำอะไรครับคนมองเต็มเลยเห็นไหม เดี๋ยวผมฟ้องป๊าซะหรอก”คนน่ารักทำหน้ามุ่ย

     

     

    “แล้วแต่สิครับ ถ้าจุนซูฟ้องไป คุณหมอก็แค่จะได้เจอจุนซูน้อยลงหรืออาจจะไม่ได้เจอเลย”ยูชอนพูดขึ้นพร้อมกับแสดงแววตาเศร้าให้สมบทบาท และก็เป็นไปตามคาดเมื่อคนน่ารักตกหลุมพรางของนายพรานตัวร้ายได้อย่างง่ายดาย

     

     

    “อ่า...ผมไม่ฟ้องหรอกครับ เพราะผมน่ะอยากเจอคุณหมอทุกๆวันเลย”

     

     

    “ทุกวันสำหรับคุณหมอมันไม่พอหรอกนะ อยากเจอทุกวินาทีที่หายใจเลยมากกว่า”ร่างสูงจุ๊บปากอีกฝ่ายเบาๆ ริมฝีปากหนาของคุณหมอหนุ่มเปรียบดั่งพู่กันชั้นดี เพราะเพียงแค่แต้มเบาๆเพียงจุดเดียวก็เรียกสีแดงกระจายทั่วใบหน้าน่ารักได้อย่างง่ายดาย

     

     

    “คุณหมอเพลย์บอยปากหวาน มุขจีบสาวแบบนี้ใช้มากี่คนแล้วครับ”จุนซูพูดขึ้น เมื่อนึกถึงคำพูดของป๊าและตัวของคุณหมอที่เคยพูดเองกับปากว่าหิ้วสาวกับบ้านตอนไปเที่ยวแทบทุกครั้ง

     

     

    “มุขของคุณหมอจีบสาวมาแล้วกี่คนก็ไม่รู้ แต่มุขที่เล่นไปเมื่อซักครู่ใช้จีบจุนซูแค่คนเดียว”ดวงตาคมขยิบตาทิ้งท้าย ทำเอาคนถูกหยอดถึงกับยิ้มไม่หุบ

     

     

    “คุณหมอบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว...”ร่างเล็กเดินหนีไปแผนกขายเครื่องดื่มด้านในก่อนจะปะทะเข้ากับร่างสูงที่ยืนอยู่แล้วก่อนหน้า

     

     

    “โอ๊ะ ขอโทษครับ”

     

     

    “จุนซู!!!”เสียงทักทายดังขึ้น ขณะที่ใบหน้าใสก็ระบายยิ้มออกมา

     

     

    “รุ่นพี่ชางมิน!!!”คนตัวเล็กกระโดดกอดคนตัวสูงอย่างแนบแน่นก่อนที่คนตัวสูงจะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข โดยที่ทั้งคู่กำลังอยู่ในสายตาของคุณหมอหนุ่มที่เพิ่งเข็นรถตามมา

     

     

    ...ไอ้หน้าหล่อนี่มันเป็นใครกัน...ยูชอนได้แต่คิด

     

     

    สีหน้าของชายหนุ่มเริ่มบอกบุญไม่รับเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมกันเกินเหตุของจุนซูกับไอ้ผู้ชายคนนั้น

     

    ......................................................................

     

    [โปรดติดตามตอนต่อไป]

     

    ห่างหายจากเรื่องนี้ไปนานเหมือนกัน อยากบอกว่าแต่งไปเขินไป ยูซูหวานกันรับวันวาเลนไทน์เลยจริงๆ แต่อุปสรรคชิ้นใหญ่ก็บังเกิดซะแล้วววววว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×