เซียนจอมเวทย์ Deva Wizard
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ แฟนตาซี Tags : ยังไม่มี
ผู้แต่ง : ท่านโซ
My.iD :
https://my.dek-d.com/TanSoSoDa/writer/
ตอนที่ 240 : ภาค 3.2 ตอนที่ 78
หลังจากที่เมอร์ลินออกมาจากอาคารสาขานักแก้ไข เขานั้นไม่รู้เลยว่าได้สร้างความโกลาหลให้กับสาขานักแก้ไขของศูนย์ฝึกเมไจแดนตะวันออกเป็นอย่างมาก
โทสะของวอลอร์ดไวท์ทีธนั้นราวกับคลื่นสึนามิ มันพร้อมที่จะถล่มคนรอบข้างได้ทุกเมื่อ
วอลอร์ดไวท์ทีธคือผู้ใด?
เขาคือเมไจนักแก้ไขระดับตำนาน มีเพียงไม่กี่ตัวตนเท่านั้นที่จะก้าวไปถึงระดับตำนาน
มิหนำซ้ำเขายังเป็นหนึ่งในสภา 108 ประตูแดนเทพ มีอำนาจห่างจากวอลอร์ดประจำแดนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หากวอลอร์ดประจำแดนสามารถออกคำสั่งให้เมืองต่างๆ ที่อยู่ใต้อาณัติให้ทำสิ่งใดก็ได้ วอลอร์ดไวท์ทีธก็มีอำนาจในการสั่งให้สาขานักแก้ไขของศูนย์ฝึกเมไจทั้งสี่ทิศให้ทำสิ่งใดก็ได้เช่นเดียวกัน
วอลอร์ดไวท์ทีธคือหนึ่งในตัวตนที่อยู่สูงสุดของเมไจนักแก้ไข ด้วยอำนาจของเขาแม้แต่วอลอร์ดประจำแดนทั้งสี่ทิศก็ยังต้องเกรงใจ
เมื่อเห็นคลื่นโทสะของวอลอร์ดไวท์ทีธแล้ว หัวหน้าสาขานักแก้ไขศูนย์ฝึกแดนตะวันออกก็แทบจะเข่าอ่อนอยู่ตรงนั้น
แม้เขาจะเป็นวอลอร์ดเช่นเดียวกัน แต่เขาก็เป็นแค่เมไจระดับกษัตริย์เท่านั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเมไจระดับตำนานอย่างไวท์ทีธได้
วอลอร์ดไวท์ทีธสั่งลงโทษสาขานักแก้ไขศูนย์ฝึกแดนตะวันออกโดยการสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปฝึกฝนที่มิตินักแก้ไขเป็นเวลาครึ่งปี
โทษนี้ไม่อาจทำให้หัวหน้าสาขาแดนตะวันออกทรงตัวได้อีกต่อไป
การลงโทษนี้ถือว่ารุนแรงเป็นอย่างมาก มันอาจทำให้เมไจนักแก้ไขแดนตะวันออกมีการบ่มเพาะที่ช้าลงมากกว่าแดนอื่นๆ นั่นอาจทำให้เมไจนักแก้ไขแดนตะวันออกเกิดวิกฤตถูกจัดอันดับให้รั้งท้ายของทั้งสี่แดนก็เป็นได้
หัวหน้าสาขาทั้งสามแดนที่เหลือถอนหายใจรู้สึกโล่งอก ไม่เท่านั้นพวกเขาก็ยังรู้สึกยิ้มกระหยิ่มในใจ ความตกต่ำของแดนตะวันออกนั้นทำให้พวกเขามีความสุข
ควรรู้ไว้ว่าในทุกๆ ปีศูนย์ฝึกเมไจแต่ละแดนจะมีการแข่งขันประจำปีเพื่อเป็นการกระชับมิตรในแต่ละแดน แต่แท้ที่จริงแล้วทุกคนนั้นรู้ดีว่าการแข่งขันนี้มีไว้เพื่อแสดงศักยภาพของศูนย์ฝึกแต่ละแดน
การแข่งและจัดอันดับนี้นับว่าเป็นศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่
ไม่เท่านั้นมันยังมีผลต่อผลงานของหัวหน้าสาขาของแต่ละแดนอีกด้วย
อย่างเช่นวอลอร์ดไวท์ทีธเอง ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นหัวหน้าศูนย์ฝึกเมไจแดนเหนือเช่นกัน ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นเมไจนักแก้ไขระดับตำนาน และเป็นส่วนหนึ่งของสภา 108 แดนเทพ
วอลอร์ดไวท์ทีธได้ประกาศออกมาว่าเมื่อเขาเสร็จภารกิจทางนี้แล้วจะเดินทางไปศูนย์ฝึกเมไจแดนตะวันออกด้วยตนเอง เรื่องนี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนรอบข้างเป็นอย่างมาก
เด็กคนนี้เป็นใครกันแน่?
ทำไมวอลอร์ดไวท์ทีธถึงได้ต้องการตัวเขาขนาดนี้?
ศูนย์ฝึกเมไจแดนตะวันออก
เมอร์ลินตัดสินใจเดินออกมาจากอาคารสาขานักแก้ไข ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีความสนใจในสาขานักแก้ไขมากมายนัก
เมอร์ลินเพียงแค่อยากที่จะลองเข้ามาศึกษาในสาขานักแก้ไขเท่านั้น แท้จริงแล้วจุดประสงค์ของเขายังคงเดิม เขาต้องการที่จะเข้าสาขานักปรุงยา
แม้ว่าสาขานักแก้ไขจะมีโอกาสที่จะได้คะแนนศักดิ์สิทธิ์มากกว่า แต่สาขานักปรุงยานั้นเป็นสาขาโดยตรงที่จะทำให้เขาศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับสมุนไพรและการเล่นแร่แปรธาตุไปพร้อมๆ กันได้
ในคราแรกเมอร์ลินตั้งใจที่จะมาศึกษาในสาขานักแก้ไขเพียงสามเดือนแรกเท่านั้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ถึงจะไม่สามารถเข้าสาขานักแก้ไขได้ก็ไม่เป็นไร
เมอร์ลินจึงมุ่งหน้าตรงไปยังอาคารของสาขานักปรุงยาทันที
สาขานักปรุงยาคือสาขาที่อยู่ในสภาวะเสื่อมโทรม หลังจากวัฒนาการของวิถีอักขระพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก หลายๆ สาขาล้วนพัฒนาการป้องกันพิษและการรักษาขึ้นอย่างยิ่งยวด ทำให้การปรุงยานั้นตกต่ำลง
เมื่อมีวิถีอักขระที่สามารถฟื้นฟูได้ ทำให้ความสำคัญของการปรุงยาลดน้อยลง
บนเส้นทางถนนที่จะไปยังอาคารปรุงยา แม้ไม่ได้ชำรุดทรุดโทรมแต่ก็ดูหมองหม่นเป็นอย่างมาก
ในที่สุดเมอร์ลินก็มาถึงด้านหน้าของอาคารปรุงยา
เขาไม่พบคนเลยซักคน อาคารนี้ราวกับอาคารร้าง มันแตกต่างจากสาขาอื่นๆ เป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วสาขาการปรุงยาไม่ใช่สาขาเดียวที่รกร้างเช่นนี้ ยังมีศาสตร์อักขระอีกหลายแขนงที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
ปัง!
เมอร์ลินเปิดประตูของอาคารออก
เป็นอย่างที่เขาคิด ที่นี่ราวกับอาคารร้าง เขาไม่เห็นแม้แต่ผู้คุมกฎของที่นี่
"ที่นี่คืออาคารของสาขานักปรุงยาจริงๆ หรือ?"
เมอร์ลินตรวจสอบแผนที่ที่ตนได้รับมาจากเลโอนาดให้แน่ใจอีกครั้ง
"ไม่ผิด ที่นี่คืออาคารปรุงยา แล้วผู้คนหายไปไหนกันหมด"
เมอร์ลินก้าวเข้าไปในอาคารนักปรุงยาและกวาดสายตาไปรอบๆ
อาคารแห่งนี้นั้นเหมือนกับอาคารของปราสาททั่วไป แม้ว่าสาขานักปรุงยาจะเป็นสาขาที่ไม่ได้รับความนิยมมาเนิ่นนาน แต่ทว่าอาคารแห่งนี้กลับสะอาดเอี่ยมอ่อง คงมีแต่ความอ้างว้างเท่านั้นที่ทำให้ที่นี่ดูเหมือนอาคารร้าง
เมอร์ลินนั้นไม่รู้ว่าในดินแดนแห่งนี้มีวิถีอักขระวิถีหนึ่งที่ชื่อว่า "วิถีอักขระคืนสภาพ" แม้ว่าวิถีอักขระนี้จะเป็นวิถีของสาขานักก่อสร้าง แต่เมไจหลายๆ คนก็มักจะฝึกฝนอักขระวิถีนี้
นั่นเป็นเพราะมันคือวิถีอักขระที่สามารถช่วยให้สิ่งของหรือพื้นที่สามารถคืนสภาพกลับมาดังเดิม มันคล้ายกับศาสตร์ของเวทมนต์ชั้นสูงศาสตร์หนึ่งที่สามารถทำให้ห้องที่เคยรกกลับมาสะอาดได้ สิ่งของที่เคยเสียหายสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ดังเดิม
วิถีอักขระวิถีนี้ไม่ว่าจะเป็นเมไจสาขาไหนก็ล้วนมีไว้ติดตัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ดังนั้นแล้วต่อให้ที่นี่ถึงจะมีคนอาศัยอยู่น้อย แต่มันก็ไม่ทรุดโทรมเลยแม้แต่น้อย
"มีใครอยู่บ้าง?" เสียงของเด็กน้อยตะโกนออกไป
เมอร์ลินตะโกนแบบนั้นอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีผู้ใดเอ่ยตอบกลับมา เขาจึงถือวิสาสะเดินไปรอบอาคารนักปรุงยาเพื่อสำรวจ
"แปลกมากที่ที่นี่ไม่มีคนอยู่?"
เมอร์ลินก้าวไปเรื่อยๆ อย่างสงสัย เขาเดินสำรวจผ่านแต่ละห้องอย่างใจเย็น
"ที่นี่ไม่มีแม้กระทั่งกลิ่นของสมุนไพร ที่นี่คือสาขานักปรุงยาจริงๆ หรือ?"
ภายในใจของเมอร์ลินเกิดความสงสัยขึ้นมากมาย เขายังคงเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนถึงประตูที่น่าสงสัยห้องหนึ่ง
"น่าแปลก ประตูบานนี้ดูธรรมดายิ่ง แต่มันกลับมีกลิ่นอายที่แปลกประหลาดเจืออยู่เล็กๆ"
เอี้ยดดดด
มือน้อยบิดลูกบิดประตูและผลักออกไป เสียงของบานประตูดูธรรมดายิ่ง เมื่อเขาเปิดประตูบานนั้นเข้าไปก็พบแต่ความว่างเปล่า
"ไม่สิ ต้องไม่ใช่แบบนี้ ภายในห้องนี้มันไม่มีกลิ่นอายลึกลับแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย"
เมอร์ลินเดินกลับไปสำรวจที่บานประตูอีกครั้งหนึ่ง
"ประตูบานนี้มีกลิ่นอายลึกลับเจืออยู่จริงๆ ด้วย"
เมอร์ลินปิดบานประตูและพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ในตอนนั้นเองเขาก็ทดลองนำพลังอักขระไปกระตุ้นประตูดู
เวิง!
ทันทีที่พลังอักขระของเมอร์ลิน ประตูก็เกิดแรงสะท้อนเป็นระลอกคลื่นวงเล็กๆ ออกมา
"ประตูบานนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย"
เมอร์ลินทดลองส่งพลังอักขระออกไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มันยังคงเป็นเหมือนเดิมที่แตกต่างก็คือเขาสามารถเห็นเสี้ยวหนึ่งของอักขระที่กำกับอยู่บนบานประตู
"ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง"
มุมปากของเด็กน้อยถูกยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
เวิง! เวิง! เวิง!
เมอร์ลินทดลองใส่พลังอักขระเข้าไปในบานประตูครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเขาทำซ้ำๆ หลายรอบ ดวงตาเลเมเกทันก็ค่อยๆ จดจำลายละเอียดของวิถีอักขระที่กำกับอยู่บนบานประตู
เวิง!
ครั้งสุดท้าย ในที่สุดเขาก็สามารถจดจำวิถีอักขระได้ทั้งหมด
"นี่คือวิถีอักขระขั้นสูงของเมไจนักก่อสร้าง ไม่แน่ว่าประตูบานนี้อาจจะสามารถเปิดไปยังอีกฟากหนึ่งที่มีความสำคัญของอาคารสาขาปรุงยาแห่งนี้"
ไม่รอช้าเมอร์ลินนั่งลงและปิดตา วิเคราะห์วิถีอักขระที่จดจำมา
เขาทำการสังเกตรายละเอียดครั้งแล้วครั้งเล่า
เมอร์ลินนั้นมีพื้นฐานของวิถีอักขระของนักก่อสร้างมาบ้างเล็กน้อย แต่ทว่าเขากลับมีคุณสมบัติของเมไจนักแก้ไขอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
เขาใช้เวลาไปถึงครึ่งวัน
ในที่สุดเด็กน้อยก็ลืมตาขึ้นมา
ดวงตาของเมอร์ลินเปล่งประกายปรากฏความเข้าใจบางอย่าง
"มาลองดูกัน"
เมอร์ลินวาดมือกลางอากาศ ผนึกวิถีอักขระให้ก่อรูป อักขระเวทย์หลั่งไหลออกมาเป็นเส้นสาย
เมื่อเขาสะบัดมือออกไปครั้งหนึ่ง
ปัง!
อักขระวิถีหนึ่งก็พุ่งเข้าสู่บานประตู
หากเมไจนักก่อสร้างมาเห็นการกระทำของเมอร์ลิน พวกเขานั้นจะต้องกระอักเลือดออกมาอย่างอิจฉาตาร้อน ไม่เว้นแม้แต่เมไจนักแก้ไข น้อยนักที่จะมีเมไจสามารถแทรกวิถีอักขระอื่นเข้าไปในวิถีอักขระที่คงรูปอยู่ก่อนเดิมนี้ได้
วูบ!
วิถีอักขระของเมอร์ลินเคลื่อนไหวภายในบานประตูราวกับมีชีวิต วิถีอักขระที่ไล่เรียงเป็นเส้นสายนั้นราวกับมังกรตัวหนึ่งที่แหวกว่ายอยู่กลางเวหา
มือน้อยเคลื่อนไหวไปมาอย่างคล่องแคล่ว
วิถีอักขระที่กำกับอยู่บนบานประตูส่องแสงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
ทุกๆ ครั้งทื่มือนั้นเคลื่อนที่ วิถีอักขระเส้นนั้นก็จะเคลื่อนผ่านอย่างใจนึก
พุซึ! พุซึ! พุซึ!
ดวงตาที่แหลมคมจดจ้องอย่างไม่คลาดสายตา ทันทีที่วิถีอักขระของเมอร์ลินเส้นนั้นทะลวงผ่านวิถีอักขระเดิม วิถีอักขระเหล่านั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ขณะ
เมอร์ลินทำอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา
ในที่สุด
ปัง!
วิถีอักขระบนบานประตูถูกวิถีอักขระของเมอร์ลินกระตุ้น
วิถีอักขระของเมอร์ลินเป็นดั่งมาสเตอร์คีย์ที่สามารถไขออกได้ทุกประตู การกระทำของเขานั้นราวกับโจรน้อย
ทันทีที่วิถีอักขระบนบานประตูถูกกระตุ้น กลไขของวิถีอักขระก็เริ่มทำงาน
บานประตูปรากฏวงเวทย์ที่แข็งแกร่งวงหนึ่ง ทันทีที่วงเวทย์หมุนรูปร่างของประตูก็เกิดการเปลี่ยน
ฉับ! ฉับ! ฉับ!
บานประตูถูกพลังอักขระทำให้บิดเบือน บานประตูพลันแยกออกจากกันจนเป็นชิ้นส่วนราวกับจิ๊กซอ เคลื่อนไหวต่อกันไปเรื่อยๆ
ฮวง!
ในตอนนั้นเอง ประตูบานกันก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นทรงกลมและเผยพลังที่แท้จริงออกมา
"กลิ่นอายนี้! นี่มันกลิ่นอายของสมุนไพร"
เมอร์ลินรู้สึกถึงกลิ่นอายของสมุนไพรที่เข้มข้น แน่นอนว่าเขาคือคนหนึ่งที่อยู่กับสมุนไพรมาเนินนาน น้ำยาที่ขายในร้านเสื้อคลุมสีฟ้านับล้านขวด ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเขาที่ปรุงขึ้นมา
ไม่รอช้าเมอร์ลินรีบเปิดประตูบานนั้นออกทันที
เอี๊ยดดดด
เสียงของประตูดังขึ้นอย่างมีมนต์ขลัง
เมื่อเมอร์ลินได้เห็นอีกด้านหนึ่งของบานประตู เขาก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ภาพที่เขาเห็นคือทุ่งสมุนไพรที่ทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา
"สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่หาได้ยากในดินแดนมนุษย์"
กลิ่นของสมุนไพรตลบอบอวลไปทั่ว
ที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยภูเขานับสิบๆ ลูก แต่ละลูกล้วนมีสมุนไพรหลากชนิดขึ้นเรียงรายราวกับเป็นต้นหญ้า
แม้แต่เมอร์ลินเองก็ยังไม่เคยเห็นสวนสมุนไพรที่กว้างใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
"สมแล้วที่เป็นสวนสมุนไพรของสาขานักปรุงยา"
เมอร์ลินมองสวนสมุนไพรแห่งนี้ด้วยแววตาที่เป็นประกาย
และในตอนนั้นเอง
"กลิ่นอายนี้มัน!"
จู่ๆ เมอร์ลินก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่น่าสนใจ
สายตาที่แหลมคมมองตรงไปยังภูเขาลูกที่สูงที่สุด
บนภูเขาลูกนั้นปรากฏกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา บนยอดเขาปรากฏแสงหลากสีสัน มีสะพานสายรุ้งทอดผ่านราวกับภาพชวนฝัน
ไม่รอช้าเมอร์ลินรีบมุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาลูกนั้นในทันที
ด้วยอำนาจของต้นไม้ร้อยปีธาตุลม ร่างของเมอร์ลินทะยานขึ้นไปบนอากาศและสามารถเหาะเหินไปยังภูเขาลูกนั้นได้
ทันทีที่เมอร์ลินมาถึง ดวงตาของเขาก็พลันเบิกกว้าง
สิ่งที่พบเห็นนั้นสร้างความตกตะลึงให้กับเขาเป็นอย่างมาก
"นี่มัน ..."
ภาพที่เมอร์ลินเห็นก็คือยอดเขาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเซียน
บนยอดเขาแห่งนี้ล้วนปลูกไปด้วยสมุนไพรเซียนสิบกว่าชนิด ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดากระจายออกไปทั้งยอดเขา
เมอร์ลินที่ศึกษาคัมภีร์หมื่นนักปรุงยาสิบแสนสมุนไพรมาแล้ว
ไม่ว่าเขาจะมองไปทางไหน เขาก็สามารถบอกชื่อของสมุนไพรต้นนั้นๆ ได้ทั้งสิ้น
"นั้นมันต้นลิ้นมังกร สรรพคุณบำรุงร่างกายสามารถใช้เสริมประสิทธิภาพในการบ่มเพาะกายาศักดิ์สิทธิ์ได้"
"ต้นขนหนูทิพย์ ต้นโสมพันหน้า ต้นรากหงษ์เพลิง ต้นเก้าอสรพิษ ต้นลิงหูทิพย์ สมุนไพรแต่ละต้นล้วนเป็นสมุนไพรเซียนที่มีสรรพคุณที่ดี"
เมอร์ลินมองสมุนไพรที่ปลูกอยู่รอบๆ อย่างตื่นเต้น
เขาได้เดินสำรวจยอดเขาลูกนี้ไปรอบๆ แต่ละที่ล้วนเต็มไปด้วยสมุนไพรเซียน
เมื่อสำรวจเสร็จจนทั่ว
ร่างเล็กก็เผยใบหน้าที่ผิดหวัง
"น่าเสียดายที่สมุนไพรเซียนเหล่านี้มีแค่สิบกว่าชนิด และในพวกมันก็ไม่มีสมุนไพรที่สามารถรักษาต้นกำเนิดพลังปราณเซียนได้"
ร่างเล็กงอตัวอย่างผิดหวัง เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ในตอนนั้นเอง
บนอากาศก็ปรากฏพลังที่ราวกับจะสามารถเขย่าท้องฟ้าได้
ปัง! ปัง! ปัง!
"ผู้ใดกัน บังอาจบุกรุกสวนสมุนไพรของสาขานักปรุงยา" เสียงคำรามแผดออกมาอย่างกึกก้อง
แรงกดดันมหาศาลที่ราวกับภูเขาลูกใหญ่กำลังกดทับลงมาสร้างความกดขี่ให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เมื่อเมอร์ลินมองออกไปยังต้นกำเนิดของเสียง
บนท้องฟ้าก็ปรากฏชายชราผู้ที่หนึ่งที่สวมชุดคลุมสีเทา ปลดปล่อยพลังอักขระขั้นสีเขียวออกมาอย่างดุร้าย
ปัง!
ร่างของชายชราดูเหมือนว่าจะสามารถจับพิกัดของผู้บุกรุกได้
เพียงเวลาแค่ไม่กี่วินาทีร่างในชุดคลุมสีเทาก็ปรากฏลอยอยู่เหนือศีรษะของเมอร์ลิน
ควรรู้ไว้ว่าผู้ที่ถือครองพลังอักขระขั้นสีเขียวนั้นมีฐานะเป็นผู้คุมกฏ และผู้คุมกฏของดินแดนแห่งนี้นั้นมีพลังไม่ต่างจากขอบเขตมหาจอมเวทย์เลยแม้แต่น้อย
เมอร์ลินเงยหน้าขึ้นมองชายชรา
เมื่อเขาให้ใบหน้าของชายชราคนนั้น ดวงตาดวงนั้นก็พลันเบิกโพรง อารมณ์ในดวงตาปรากฏความตกใจอย่างยิ่งยวด
"นั่นมัน ... ผู้ใช้อักขระพเนจรคนนั้น เขาคือผู้ใช้อักขระขั้นสีเขียวที่แอบไปทำการสำรวจยังดินแดนมนุษย์!"
.....................................................................
16 ความคิดเห็น