เซียนจอมเวทย์ Deva Wizard
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ แฟนตาซี Tags : ยังไม่มี
ผู้แต่ง : ท่านโซ
My.iD :
https://my.dek-d.com/TanSoSoDa/writer/
ตอนที่ 67 : การฆ่าครั้งแรก (รีไรท์)
เมื่อเหลือบมองไปยังชายชราคนอื่นๆ เมอร์ลินก็ไม่เห็นความแตกต่างจากพวกเขาเหล่านั้น ชายชราทั้งสี่คนนี้ล้วนมีระดับพลังเวทย์ที่อยู่ในขอบเขตนักเวทย์ 5 วงเวทย์ด้วยกันทั้งสิ้น
ชายชราร่างกำยำสูดหายใจลึกและมองเมอร์ลินด้วยสายตาดุดัน
ชายชรารู้สึกว่าเด็กน้อยคนนี้ได้สร้างความกดดันแก่เขาไม่น้อย
เด็กคนนี้คือเป็นความสำเร็จของตระกูลเซอร์เตส แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมเอิร์ลเซอร์เตสถึงได้ตัดสินใจแบบนี้
เมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาก็ไม่กล้าที่จะไม่ปฏิบัติตาม ทั้งหมดก็ให้ถือว่าเป็นโชคร้ายของเด็กคนนี้
เมอร์ลินอมยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า
"สายเลือดครึ่งหนึ่งของข้านั้นคือเซอร์เตส ทำไมข้าถึงเดินเข้าบ้านตนเองไม่ได้" เขายังคงมีอารมณ์ที่เยือกเย็นและนิ่งสงบ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กในวัยนี้จะทำได้ กลิ่นอายของเขานั้นมีพลังสูงส่งยิ่งกว่าผู้สูงวัยทั้งหลาย
หนึ่งในพ่อบ้านที่อยู่ด้านหลังระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและเอ่ยแทรก
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ตั้งแต่ที่เจ้าเกิดมา มีสักครั้งหรือที่เจ้าถูกปรนนิบัติเป็นคนของตระกูลเซอร์เตส ยิ่งสถานะในตอนนี้แล้วด้วยแม่ของเจ้าถูกเนรเทศออกจากปราสาท นั่นก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีว่าตระกูลเซอร์เตสนั้นไม่ต้อนรับพวกเจ้าสองแม่ลูก" น้ำเสียงของหัวหน้าพ่อบ้านคนนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
เขานั้นไม่ได้มีเกรงกลัวในตัวของเด็กน้อย
เป็นสมาชิกกลุ่มเหยี่ยวแล้วอย่างไร ยังไงเสียเด็กที่อยู่เบื้องหน้านี้ก็เป็นเพียงนักเวทย์ผู้หนึ่ง
สี่หัวหน้าพ่อบ้านนั้นเป็นนักเวทย์ชราที่อยู่ในขอบเขต 5 วงเวทย์เป็นเวลานาน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ต่อสู้หรือขอบเขตของพลัง พวกเขาย่อมเหนือกว่าเด็กน้อยที่เป็นนักเวทย์รุ่นใหม่
วงเวทย์ทั้ง 5 ของเมอร์ลินไม่มีทางแกร่งไปกว่า 5 วงเวทย์ของพวกเขาอย่างแน่นอน
"พวกเจ้านั้นช่างเป็นตาแก่ที่ดื้อดาน เจ้ากล้าที่จะพูดเรื่องของแม่ข้า เห็นทีวันนี้ข้าคงต้องลงมือสั่งสอนขี้ข้าที่เลี้ยงไม่เชื่องเสียแล้ว" เมอร์ลินมองไปที่ชายชราทั้งสี่และเอ่ย
เมอร์ลินใช้มือสัมผัสไปที่แหวนเวทย์ของเขา ไม้พลองธรรมดาก็พลันปรากฏอยู่ในมือเขา
สำหรับชายแก่เหล่านี้เขาไม่จำเป็นต้องใช้ลองกินุส
ทันทีที่ไม้พลองอยู่ในมือของเมอร์ลิน โดยรอบของไม้พลองนั้นก็ห่อหุ้มด้วยพลังเวทย์ลม
ไม้พลองนั้นปรากฏลมหมุนอยู่โดยรอบ จนทำให้อากาศโดยรอบนั้นถูกผลักออกไป
สี่หัวหน้าพ่อบ้านนั้นปรากฏสีหน้าไม่สู้ดี เมื่อเมอร์ลินเรียกอาวุธของเขาออกมา
แม้ว่าพวกเขาจะตรวจสอบแล้วว่านั่นคือไม้พลองธรรมดาอันหนึ่ง แต่พลังเวทย์ลมที่ปรากฏโดยรอบนั้นต้องทำให้พวกเขาถึงกับต้องขมวดคิ้ว
โดยปกติแล้วการใช้พลังเวทย์เคลือบอาวุธนั้นมีใช้อย่างแพร่หลาย มันสามารถพบได้ทั่วไป แต่การเคลือบพลังเวทย์โดยที่เกิดธาตุประจำตัวควบแน่นนั้นหาได้ยาก
มันมักจะพบกับผู้มีที่พลังเวทย์ตั้งแต่นักรบเวทย์ขึ้นไปเท่านั้น
แต่ทว่าพวกเขาได้ตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้วว่าเมอร์ลินนั้นเป็นเพียงนักเวทย์ 5 วงเวทย์อย่างแน่นอน
การที่เขาสามารถควบแน่นพลังธาตุให้ก่อเกิดรูปร่างได้แบบนี้จึงทำให้พวกเขาไม่รักษาสีหน้าเอาไว้ได้
"เจ้าต้องการที่จะขัดขืน" หัวพ่อบ้านร่างกำยำพูดออกมาอย่างขึงขัง
ทันใดนั้นเองร่างของหัวหน้าพ่อบ้านทั้งสามคนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีเมอร์ลิน
หัวหน้าพ่อบ้านที่ผอมแห้งนั้นกระโดดขึ้นไปด้านบนและยิงเหรียญจำนวนหนึ่งออกมา
เหรียญเหล่านี้เป็นเหรียญธรรมดา แต่มันกลับเต็มไปด้วยพลังเวทย์ธาตุลมห่อหุ้มไว้
เวทย์ธาตุลมนั้นช่วยเสริมพลังโจมตีเมื่อมันถูกยิงออกมา
ปัง! ปัง! ปัง!
เหรียญเหล่านั้นจึงเคลื่อนที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก มันรวดเร็วเสียยิ่งกว่าลูกศรดอกหนึ่งที่ถูกยิงออกมาอย่างเต็มแรงด้วยซ้ำ
เมอร์ลินขมวดคิ้วย่นเข้าหากัน ความเร็วของเหรียญนั้นไม่ธรรมดา มันสามารถคุกคามเขาได้
ส่วนปลายของไม้พลองถูกมือข้างหนึ่งหนึ่งของเมอร์ลินบังคับชี้มันออกไปยังทิศทางของเหรียญอย่างรวดเร็ว
ปัง ปัง ปัง!
ปลายของไม้พลองนั้นปะทะกับเหรียญจำนวนหนึ่งอย่างรุนแรงและแม่นยำ
เหรียญหนึ่งที่หล่นลงมาถูกเมอร์ลินบังคับมันให้ลอยมาอยู่ในมือ
เมอร์ลินทำการโต้กลับอย่างรวดเร็ว
เหรียญที่ถูกในมือนั้นถูกพลังธาตุลมอันเข้มข้นเคลือบเอาไว้ ไม่เท่านั้นมันยังแฝงไปด้วยพลังธาตุมืดอีกด้วย
เมอร์ลินใช้ธาตุลมเพื่อเสริมความรวดเร็วและใช้ธาตุมืดเพื่อเสริมด้านความรุนแรง
ปัง!
เหรียญนั้นถูกยิงออกไปอย่างรุนแรงด้วยมือของเมอร์ลิน เหรียญถูกยิงไปปรากฏอยู่ในรูปแบบของคลื่นพลังที่ทะลุทะลวง
หัวหน้าพ่อบ้านร่างผอมนั้นรับรู้ถึงอันตราย เขารีบทำการหลบหลีกโจมตีนี้ทันที
แต่น่าเสียดายที่การยิงเหรียญของเมอร์ลินนั้นไม่ใช่การยิงธรรมดา เหรียญนั้นถูกเคลือบด้วยพลังของเมอร์ลิน และมันก็ถูกควบคุมโดยเมอร์ลิน
มือเล็กของเมอร์ลินนั้นสะบัดเล็กน้อย
เหรียญอันน่ากลัวนั้นก็หักเหไปในทิศทางที่เมอร์ลินต้องการ
หัวหน้าพ่อบ้านร่างผอมจึงไม่อาจหลีกหนีอำนาจของเมอร์ลินได้พ้น
ปัง!
เหรียญอันทรงพลังนั้นปะทะเข้ากับแผ่นหลังของหัวหน้าพ่อบ้านร่างผอม
เหรียญนั้นสามารถทะลวงร่างของหัวหน้าพ่อบ้านร่างผอมได้ แต่เมอร์ลินได้ยับยั้งพลังของเขาเอาไว้
ผลจากธาตุความมืดนั้นทำให้หัวหน้าพ่อบ้านบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนไม่สามารถขยับตัวได้ เขานั้นหมดสภาพในการต่อสู้ในทันที
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที
เมื่อหัวหน้าพ่อบ้านคนอื่นๆ รู้สึกตัว ร่างของหัวหน้าพ่อบ้านร่างผอมนั้นก็ล่วงลงมาอย่างสิ้นสภาพแล้ว
หลายคนมองการกระทำของเมอร์ลินด้วยความตื่นตะลึงและอ้าปากค้าง
หัวหน้าพ่อบ้านอีกสองคนที่พุ่งตัวออกไปเมื่อครู่ คนหนึ่งมีรูปร่างกำยำและอีกคนมีรูปร่างสูงเพรียว
ตอนนี้พวกเขาทั้งสองได้ร่ายเวทย์ของพวกเขาเสร็จสิ้นแล้ว สองหัวหน้าพ่อบ้านปลดปล่อยพลังเวทย์ออกมาอย่างเกรี้ยวกราด คนหนึ่งมีพลังเวทย์ธาตุดินและอีกคนหนึ่งธาตุน้ำแข็ง
พวกเขาระเบิดพลังเวทย์อันหนาแน่นออกมาข่มขวัญเมอร์ลิน
เสียงหึ่งๆ ของวงเวทย์บ่มเพาะดังออกมาอย่างดุร้าย
แขนของหัวหน้าพ่อบ้านร่างใหญ่นั้นถูกย้อมไปด้วยเปลวเพลิง พลังเวทย์ของเขานั้นเผาผลาญอากาศจนร้อนระอุ
ส่วนหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงอีกคนหนึ่งขาของเขานั้นถูกน้ำแข็งเกาะกุม ส่วนขาของเขาได้กลายเป็นน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์ ไอเย็นแผ่ออกมาจนอากาศนั้นหนาวเย็น
พวกเขาทั้งสองยังไม่ใช่นักรบเวทย์จึงทำให้การร่ายเวทย์นั้นเชื่องช้า แผนของพวกเขาคือหัวหน้าพ่อบ้านร่างผอมที่ใช้เวทย์ธาตุลมนั้นโจมตีก่อนเพื่อถ่วงเวลาในการร่ายเวทย์
แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หน้าพ่อบ้านร่างผอมนั้นถูกจัดการอย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะร่ายเวทย์แล้วเสร็จ
เมอร์ลินลงมืออย่างโหดร้ายและจัดการทุกอย่างได้รวดเร็วเกินไป
มิหนำซ้ำเขายังรอให้เหล่าชายชราร่ายเวทย์จนเสร็จ ราวกับว่าต้องการเหยียดหยาม
ดวงตาสีน้ำเงินของเด็กน้อยนั้นสร้างแรงกดดันและความเยือกเย็นให้แก่ชายชราทั้งสอง
“อย่าดูถูกพวกเราให้มากนัก” หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงตะโกนออกมาอย่างรุนแรง
ร่างทั้งสองของสองหัวหน้าพ่อบ้านหายไปจากตรงนั้นทันที
ในหลายวันที่ผ่านมานั้นเมอร์ลินได้ตัดสินใจหยุดการบ่มเพาะพลังปราณเซียนและเริ่มที่จะบ่มเพาะพลังเวทย์ เมื่อผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มา เขานั้นรู้ว่าฝีมือของตนเองนั้นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตเขานั้นปลอดภัย
ขอบเขตก่อลำต้นและขอบเขตนักเวทย์นั้นยังไม่เพียงพอสำหรับเขา มันยังมีคนเก่งอีกมากที่สามารถทำอันตรายเขาได้ เขาจึงเริ่มทำการบ่มเพาะพลังเวทย์อย่างจริงจัง
ภายในขอบเขต 5 วงเวทย์บ่มเพาะสีเทานั้นคือจุดสูงสุดของขั้นนักเวทย์ เขายังขาดพลังเวทย์อีกจำนวนหนึ่งและความเข้าใจในเวทมนต์เพื่อทะลวงสู่ดินแดนของนักรบเวทย์
หลังจากที่ได้ทำการบ่มเพาะวงเวทย์เสร็จสิ้น เมอร์ลินจึงเลือกที่จะทำความเข้าใจในเวทมนต์ของตนเองแขนงหนึ่ง
เขาเลือกที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนต์ธาตุลม ภายในหนังสือที่เขาคัดลอกมาและภายในดวงตาเลเมเกทันนั้นมีเรื่องราวที่กล่าวถึงเวทมนต์ธาตุลมอยู่มาก
เมอร์ลินนั้นมีวัตถุดิบที่ดีอยู่แล้ว สิ่งที่เขายังขาดอยู่ก็คือความเข้าใจ
หลายวันมานี้ตลอดทางการเดินทางของเขา เขาจึงได้ใช้สมาธิส่วนหนึ่งจดจ่ออยู่กับการทำความเข้าใจในเวทมนต์ธาตุลม และมันก็เป็นเรื่องดีที่เขาสามารถสร้างความเข้าใจในเวทมนต์ธาตุลมได้มากขึ้น
จนเมอร์ลินรู้สึกถึงบางอย่างกำลังเติบโตอยู่ในจักรวาลหัวใจของเขา ลักษณะของมันเหมือนต้นอ่อนต้นหนึ่งที่เขาสัมผัสได้อย่างเบาบาง
พลังของดวงตาเลเมเกทันนั้นได้เพิ่มประสาทสัมผัสจับการรับรู้ภายนอกของเขาได้ไวขึ้น
ทันทีที่สองหัวหน้าพ่อบ้านโจมตีเข้ามาพร้อมกัน เมอร์ลินก็รับรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนนั้นจู่โจมกันมาคนละด้าน
เมอร์ลินทำการควงไม้พลองที่เต็มไปด้วยธาตุลมและกระแทกมันลงที่พื้นดินอย่างรุนแรง
ปัง!
ดวงตาสีน้ำเงินของเมอร์ลินส่องประกายเย็นวาบออกมา
ไม้พลองเมื่อสัมผัสกับพื้นดินนั้นมันได้สร้างคลื่นแรงกดดันที่รุนแรง คลื่นพลังนั้นแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง และภายใต้คลื่นพลังนั้นก็ได้สร้างใบมีดสายลมที่หมุนเกลียวพุ่งออกมารอบทิศทาง
ซูม!
สองหัวหน้าพ่อบ้านถูกคลื่นกระแทกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวจนถอยแล้วถอยอีก
เอื้อก!
จนในที่สุดร่างของสองหัวหน้าพ่อบ้านนั้นก็กระเด็นออกไปคนละทิศละทาง ไม่เท่านั้นคมมีดสายลมยังสร้างบาดแผลทั่วร่างให้แก่พวกเขา
“มันจะไม่จบเพียงเท่านี้” หัวหน้าพ่อบ้านร่างกำยำพูดออกมาอย่างกัดฟัน
เขายันตัวลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาเมอร์ลินอีกครั้งหนึ่ง
หัวหน้าพ่อบ้านร่างกำยำชกกำปั้นที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงของเขาออกไป พลังเปลวเพลิงนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มันกระทั่งสามารถหลอมละลายเหล็กทั้งแท่งได้
เดิมทีหัวหน้าพ่อบ้านร่างกำยำนั้นรับผิดชอบเรื่องการตีอาวุธให้กับตระกูลเซอร์เตสอยู่แล้ว พลังธาตุไฟของเขาจึงได้แข็งแกร่งและยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
ตูม!
เมอร์ลินขยับร่างกายของเขาเพียงเล็กน้อย เขาใช้ปลายไม้พลองของเขาสะกัดกำปั้นที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงนั้นได้อย่างแม่นยำ ไม่จบเพียงเท่านั้นเขาได้ทำการบิดหมุนไม้พลองของเขา และนั้นก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
สายลมที่ล้อมรอบไม้พลองนั้นถูกเมอร์ลินควบคุมให้ไปอยู่เพียงจุดเดียว
ส่วนปลายของไม้พลองนั้นจึงเต็มไปด้วยพลังของธาตุลมอันแข็งแกร่ง บวกด้วยพลังขีดจำกัดทางสายเลือดของเมอร์ลินแล้วก็ทำให้พลังธาตุลมนั้นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ซูม!
เมอร์ลินสร้างพายุที่รุนแรงไว้ที่ส่วนปลายของไม้พลอง เมื่อมันปะทะกับกำปั้นเพลิงของหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูง นั่นจึงทำให้เปลวเพลิงนั้นย้อนกลับ
พลังเพลิงถูกหลอมรวมกับพลังลม พลังเพลิงที่ย้อนกลับไปนั้นจึงแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่าทวี
เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมอร์ลินใช้พลังของศัตรูทำร้ายศัตรู
เปลวเพลิงได้ถูกชักนำให้ย้อนกลับไปหาเจ้าของ และปัญหาที่เพิ่มขึ้นคือเปลวเพลิงนั้นดันมีความร้อนที่เพิ่มมากกว่าเดิมหลายเท่า
อ๊าก!
หัวหน้าพ่อบ้านร่างใหญ่ถูกเปลวเพลิงโจมตีย้อนกลับ ร่างของเขานั้นถูกเผาจนบางส่วนเป็นสีดำ เขานั้นดิ้นทุรนทุรายไปกับพื้นและหมดสภาพการต่อสู้ในที่สุด
ทันใดนั้นเองหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงนั้นก็ได้โจมตีเมอร์ลินทีเผลอ เขาลอบเข้ามายังด้านหลังของเมอร์ลินและใช้ขาน้ำแข็งของเขาถีบเมอร์ลินเข้าไปเต็มแรง
ปัง!
เมอร์ลินนั้นเสียการทรงตัวและก้าวออกไปด้านหน้าหลายก้าว แผ่นหลังของเขานั้นถูกน้ำแข็งเกาะกุม
หากเป็นคนอื่นน้ำแข็งนี้อาจทำให้เขาคนนั้นเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าลงและหากเป็นผู้อ่อนแอเขาคนนั้นอาจจะทำให้ถูกน้ำแข็งเกาะกุมจนหยุดการเคลื่อนไหว
แต่เหตุการณ์เหล่านั้นล้วนใช้ไม่ได้กับเมอร์ลิน เด็กน้อยทำการระเบิดพลังธาตุมืดออกมา คุณสมบัติที่แข็งแกร่งของธาตุมืดนั้นคือการดูดกลืน น้ำแข็งเหล่านี้จึงถูกพลังธาตุมืดดูดกลืนจะสลายไปในพริบตา
เมอร์ลินพลิกตัวกลับและหันไปมองหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงด้วยสายตาที่เย็นเยือก
สายตาของเด็กน้อยนั้นถึงกับทำให้หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงหยุดชะงัก วูบหนึ่งของความรู้สึกนั้นทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว
“ผู้ที่ลอบทำร้ายข้านั้นจะต้องรู้สึกเสียใจกับการกระทำนั้น” เมอร์ลินมองและเอ่ยอย่างเย็นชา
คำพูดของเด็กน้อยนั้นทำให้หัวใจของหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงนั้นถึงกับสั่นสะท้าน
พริบตาร่างของเมอร์ลินก็หายไปจากสายตาของหัวหน้าพ่อบ้าน
หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงนั้นรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของอากาศที่อยู่ด้านข้าง
ทันใดนั้นเองร่างของเมอร์ลินก็ปรากฏ ไม้พลองที่อยู่ในมือนั้นโจมตีเข้าใส่หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงทันที
ปัง ปัง ปัง!
หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงนั้นพลิกตัวและใช้ขาของเขารับทุกการโจมตีของเมอร์ลิน
แต่ทุกครั้งที่ขาน้ำแข็งของเขาปะทะกับไม้พลองนั้นทำให้เขาถึงกับสั่นสะท้าน
เมื่อสังเกตดูให้ดี หัวหน้าพ่อบ้านก็พบว่าขาน้ำแข็งของเขานั้นเกิดรอยแตกร้าว เขาจึงจัดสินใจถอยกลับในทันที
เมอร์ลินจงใจให้หัวหน้าพ่อบ้านนั้นล่าถอย เขามองอย่างเย็นชาและเอ่ยออกมาช้าๆ ว่า
“ข้าจะทำลายขานั้นทิ้งซะ”
หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงเมื่อได้ยินก็ถึงกับรักษาสีหน้าเอาไว้ไม่ได้ เขานั้นรวบรวมความกล้าเอ่ยออกไป
“เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เจ้านั้นคือความด่างพร้อยของตระกูลเซอร์เตส หากวันนั้นท่านวิชเชอร์ไม่เอ่ยปากห้ามไว้ เจ้าและแม่แพศย่าของเจ้าคงไม่รอดมาถึงวันนี้”
เมอร์ลินถึงกับขมวดคิ้วย่นเมื่อได้ยินคำพูดนี้
วิชเชอร์คือผู้เป็นบิดาของร่างนี้
ในถ้อยคำที่กล่าวออกมานั้นแฝงความนัยน์บางอย่าง เหตุใดวิชเชอร์จึงต้องเอ่ยปากห้าม และเหตุใดหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงถึงเรียกเมย์ว่าแพศย่า
“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร” เมอร์ลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
หัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงนั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและมองไปที่เมอร์ลินอย่างจริงจัง สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความคับแค้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ต่อให้ตายเจ้าก็ไม่มีวันได้รู้ เจ้าขยะที่น่าสมเพศ”
จบคำหัวหน้าพ่อบ้านร่างสูงก็ระเบิดพลังของมาอย่างบ้าคลั่ง พลังเวทย์ของเขานั้นเพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมาก พลังนี้เกินขอบเขตของนักเวทย์และมันกำลังเพิ่มขึ้นในขอบเขตนักรบเวทย์
“คาร์ก นั่นเจ้าคิดจะทำบ้าอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
เมอร์เร่ที่เงียบอยู่นานได้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ตกใจ
การกระทำของคาร์กนั้นเมื่อมองให้ดีจะเห็นว่าเขานั้นกำลังทำสิ่งที่บ้าเป็นอย่างมาก
ภายในจักรวาลหัวใจของชายชราร่างสูงนั้นกำลังเผาผลาญวงเวทย์บ่มเพาะทั้งห้าของตนเอง
คาร์กกำลังทำในสิ่งที่บ้าคลั่ง เขาเผาผลาญวงเวทย์บ่มเพาะของตนเองเพื่อเพิ่มพูนพลังเวทย์
เมื่อวงเวทย์บ่มเพาะถูกทำลาย จักรวาลหัวใจก็จะล่มสลาย วงจรหัวใจของเขาก็จะดับสิ้น
เขากำลังทำการฆ่าตัวตาย
สายตาของคาร์กนั้นมองเมอร์ลินด้วยความเกลียดชัง ส่วนหนึ่งในความลับนั้นทำให้เขานั้นมีความแค้นกับสองแม่ลูกนี้เป็นอย่างมาก
หากเมย์ไม่ได้อยู่ในความดูแลของอาเธอร์ วันที่เธอก้าวออกจากปราสาทไปเธออาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็เป็นได้
คาร์กสะสมความแค้นของตัวเองไว้นับหลายปี และมันกำลังจะปะทุขึ้นในวันนี้
พลังของคาร์กเพิ่มขึ้นกะทันหันจนอากาศโดยรอบเกิดรอยแตกร้าว วงเวทย์บ่มเพาะของเขาถูกเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง เขานั้นพร้อมที่จะตายไปกับเมอร์ลิน
“เมอร์เร่ ยังไงวันนี้ข้าจะปลดปล่อยความแค้นของข้า หากปล่อยให้เด็กคนนี้เติบโตต่อไป โอกาสของข้าจะไม่มีอีกแล้ว”
“ตายไปซะ”
ซูม!
รอบตัวของคาร์กปรากฏน้ำแข็งรูปวงแหวนจำนวนมาก อากาศนั้นกระเพื่อมเป็นละลอกคลื่นด้วยพลังของเขา
คาร์กพุ่งตัวปล่อยลูกเตะของเขาออกไป รอบตัวของเขาปรากฏวงแหวนน้ำแข็งรวมกันจะเป็นเกล็ดน้ำแข็งอันมหึมา มันคือรูปแบบการโจมตีของขอบเขตนักรบเวทย์
คาร์กทุ่มหมดตัวกับการโจมตีนี้ของเขา
เมอร์ลินส่ายหน้าช้าๆ และยกยิ้มที่มุมปาก
“เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป”
เมอร์ลินสะบัดมือผ่านอากาศ และเล็งไปที่คาร์ก
บอลเวทย์ธาตุลมและธาตุมืดหลอมรวมกันปรากฏข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ด้วยความเข้าใจและสำนึกรู้ของเขานั้นทำให้การใช้เวทมนต์ของเขานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
บอลเวทย์ทั้งสองนั้นกลายเป็นก้อนพลังสายฟ้าสีดำอย่างสมบูรณ์
มันถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ปัง!
ทันทีที่การโจมตีของทั้งสองปะทะกันก็เกิดการระเบิดของพลังอย่างรุนแรง
สายลมอันไร้รูปรอย พัดผันผวนอย่างบ้าคลั่ง
การปะทะนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก เมื่อภาพของฝุ่นควันจางหาย ร่างของคาร์กก็กลายเป็นกองเศษเนื้อกองหนึ่ง
นี่คือการฆ่าคนครั้งแรกของเมอร์ลินนับตั้งแต่มาเยือนโลกแห่งนี้
ในอดีตเขานั้นคุ้นชินกับการฆ่า การฆ่าในครั้งนี้จึงไม่นับเป็นอันใดเลยสำหรับเขา
สายตาของเด็กน้อยยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา
เขาสามารถเป็นคนสบายๆ ในยามที่อารมณ์ดี และเขาสามารถเป็นคนดุร้ายได้ในยามที่มีคนหันคมดาบเข้าหาเขา
การด่าเมย์ว่าแพศย่านั้นเป็นคำที่รุนแรง นี่คือผลลัพธ์ของคนที่กล้าที่จะยั่วยุอารมณ์ของเขา
แม้เขาจะยังไม่รู้เบื้องลึกในถ้อยคำของคาร์ก แต่มันก็ไม่ยากที่จะสืบหาความจริง
อย่างน้อยๆ คนหนึ่งที่รู้ความจริงและตอบคำถามของเขาได้ดีที่สุดก็คือคนใกล้ตัวของเขา เขาสามารถถามหาความจริงจากเมย์ได้ มันไม่จำเป็นเลยที่จะเปลืองน้ำลายไปกับคนเหล่านี้
เมอร์ลินเริ่มที่จะก้าวเดินต่อไป แต่ทันใดนั้นเองชายชราที่ยืนดูเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นจนจบก็ได้นำตัวออกมาขวางเขาไม่ให้เดินได้ต่อไป
เมอร์ลินหยุดเดินและมองเมอร์เร่ด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เมอร์เร่” เด็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
หากเป็นคนอื่นที่ได้ฟังคงต้องรู้สึกสั่นสะท้านกับน้ำเสียงนี้ แต่มันกลับไม่ใช่ชายชราคนนี้
เมอร์เร่มองตรงไปที่เมอร์ลินด้วยสายตาที่หนักแน่นและจริงจัง
Thank you
แพศยา ว้อยยยยยยย อ่านละหงุดหงิด
มาต่อไวๆน้้้้าาาาาา
คือ แค่โดนแย่งหรือขโมยแหวนไป ก็จบกันแล้วนะ เหมือนจะดูดีที่ให้เงินแม่ไว้ใช้ แต่ในความเป็นจริงนี่ไม่ต่างจากให้พกระเบิดเวลา
ย่อหน้า 22: ค่ามีเงิน = ข้ามีเงิน
ย่อหน้า 27: จับมือของวันสัน = จับมือของวินสัน
ย่อหน้า 34: อยู่อย่างสุข = อยู่อย่างมีความสุข
ย่อหน้า 40: ของแม่ของตน = แทนแม่ของตน
ย่อหน้า 45: ต้องกับไป = ต้องกลับไป
-ขอบคุณท่านโซ-
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 สิงหาคม 2559 / 18:59