ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #30 : Destinesia (30) เหตุผลตลกร้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.32K
      645
      10 พ.ค. 61

    Destinesia (30) เหตุผลตลกร้าย


    “กระจอก พอตเตอร์ ซีกเกอร์ที่ไหนปล่อยให้ตัวเองโดนลูกบลัดเจอร์ชนจนหัวแตกแบบนี้” เสียงเยาะเย้ยถากถางนั้นยังคงเหมือนเดิม แฮรี่นอนเดี้ยงในห้องพยาบาลสภาพเดิมเป๊ะ แต่มัลฟอยนั้นไม่ได้จุกจนเดี้ยงแบบเขา..


    ต้องบอกว่าหมอนี้นั่งกลางสนามตาปริบๆต่างหาก..


    “ฉันแค่แขนหัก หัวแตกนั้นมันปีที่แล้ว ถ้านายจะหาเรื่องฉันก็ออกไปเลย” แฮรี่บ่นไล่ เดรโกหัวเราะชอบใจในความโชคร้ายของร่างเล็กบนเตียงที่สภาพไม่ต่างจากปีที่แล้ว เพราะปีนี้ใส่เฝือกแขนแม้จะชนะสลิธีรินก็ตาม..


    ที่จริงแฮรี่ก็ควรจะพูดล้อเลียนอีกฝ่ายที่นั่งสำออยอยู่กับพื้นสนามทั้งทีไม่มีบาดแผลอะไรเลย แต่จะกลายเป็นว่าเขาพาลแบบเด็กๆซะมากกว่า


    ห้องพยาบาลในยามค่ำคืน กลับมีร่างของเด็กชายหัวแผลและแขนที่พันผ้าเอาไว้นอนเบื่ออยู่ในห้อง เหมือนกลับเจอฉากเดิมซ้ำๆ คำพูดซ้ำๆ เห็นมันผ่านตามาครั้งหนึ่ง แต่กลับเหมือนจำได้ขึ้นใจ นัยน์ตาสีมรกตหลุบต่ำลงอย่างครุ่นคิด พลางฟังเสียงเย็นยะเยือกตามมาทางสายลม..


    “ฆ่า ฆ่า ได้เวลาฆ่า”


    ฟุ่บ!


    การเคลื่อนไหวปรากฏขึ้นข้างเตียง ร่างของเอลฟ์ตาสีเดียวกับตัวเขากำลังจ้องมองเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่มีความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดอยู่มากกว่า.. ด๊อบบี้จ้องมองเด็กชายที่ไร้คลื่นอารมณ์ แต่รอยยิ้มบางเผยขึ้น สมชื่อเด็กชายเสียที..


    “สวัสดี แฮรี่ แฮรี่ผิดคำพูดด๊อบบี้ แฮรี่บอกจะไม่มาฮอกวอตส์” ด๊อบบี้เอ่ยด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ พลางก้มหน้าก้มตาซ่อนสายตาคลอน้ำที่เกิดขึ้น แฮรี่ส่ายหน้า ก่อนจะแก้ข้อสงสัยและข้อกังขาให้กับเอลฟ์ตัวเล็ก


    “ด๊อบบี้ตามผมอยู่ คุณก็ต้องเห็นไม่ใช่หรอ ผมนั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนพาผมมาฮอกวอตส์เอง ด๊อบบี้น่าจะรับรู้แล้วว่า ไม่ว่าทำยังไงก็ห้ามผมมาที่นี้ไม่ได้หรอก”


    แฮรี่ใช้เหตุผลเข้าแก้ไข ด๊อบบี้แม้จะพยักหน้า เพราะเป็นอย่างที่แฮรี่บอกจริงๆ และเอลฟ์ตัวน้อยก็รู้สึกผิดในทันที ที่แฮรี่เข้าใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ และเขายังทำร้ายแฮรี่อีก..


    “ด๊อบบี้คิดว่าคุณควรกลับบ้าน แต่ด๊อบบี้เข้าใจแล้วว่ามันคงไม่ได้ผล แม้ด๊อบบี้จะทำให้คุณเจ็บตัวก็ตาม ยกโทษให้ด๊อบบี้ แฮรี่ พอตเตอร์” ด๊อบบี้เอ่ยสารภาพผิดทุกอย่าง เอลฟ์รับใช้ตระกูลมัลฟอยอย่างด๊อบบี้ ไม่เคยคุยกับใครด้วยเหตุผลมาก่อน นอกจากบังคับขู่เข็ญให้ต้องทำ มันเป็นการรับมือที่ดีที่สุดเท่าที่แฮรี่ทำได้


    “คุณกลับไปเถอะ ไม่งั้นคุณจะเดือดร้อนซะเปล่าๆ ถ้าควรอยากให้ผมปลอดภัย ผมจะเรียกหาด๊อบบี้เพื่อขอความช่วยเหลือเอง ทำให้ผมได้มั้ย?” แฮรี่เอ่ยเสียงเบาอย่างเด็กน้อย มองเอลฟ์ด้วยสายตาขอบคุณในความเป็นห่วง ด๊อบบี้พยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะคงไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว..


    “ด๊อบบี้เข้าใจ ด๊อบบี้จะมาเมื่อแฮรี่เรียกหา ขอให้แฮรี่ปลอดภัย”


    เรื่องดูจะง่ายไปเลยเมื่อไม่ได้คุยด้วยอารมณ์และใช้ความเข้าใจเข้าหา ด๊อบบี้โค้งให้เด็กชาย ก่อนจะดีดนิ้วหายตัวไป รอคอยการเรียกหาของเด็กชายผู้รอดชีวิต ซึ่งจะเป็นคนเปลี่ยนวิถีชีวิตเยี่ยงสัตว์ของเอลฟ์อย่างพวกเขา ให้เปลี่ยนไป..


    เหยื่อรายแรกของลิสยังคงเป็นเช่นเดิม แฮรี่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า คนที่อยู่ตรงข้างเตียงเขา ก็ต้องเป็นเด็กปีหนึ่งที่คอยเที่ยวตามไล่ถ่ายภาพเขาราวกับเขาเป็นนายแบบ ร่างเล็กหลับไปพร้อมกับลมหายใจเฮือกใหญ่ ไม่กี่วันก็ถอดเฝือกที่แขนออกได้


    เสียงลมหายใจเข้าออกดังสม่ำเสมอในไม่นาน ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ร่างเล็กก็กล้าหลับในทุกพื้นที่และทุกสถานการณ์ได้ไม่ยาก .. เหมือนเด็กน้อยที่หลับภายใต้บ้านแสนปลอดภัยที่ไม่มีใครจะล่วงล้ำได้ ..


    ประตูห้องพยาบาลเปิดออกพร้อมร่างสีดำราวกับค้างคาวสีทมิฬยามค่ำคืน ร่างสูงเยื้องย่างเข้าหาร่างที่นอนสลบไสลด้วยใบหน้าอมยิ้มไม่เปลี่ยน.. ปากเล็กงึมงำไปมากับตัวเองจนผู้มาใหม่ส่ายหัวให้กับตัวเอง ..


    มือหนาลูบไปกับผมสีอีกาซอยสั้นที่ลู่ไปตามใบหน้าหวาน รอยแผลรูปสายฟ้ายังคงอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยน มันสามารถเล่าย้อนอดีตได้ในชั่วอึดใจ ,, ดวงตาที่ถูกปิดลงไม่ได้ทำให้ร่างเล็กดูน่าสนใจน้อยลงเลย .. และพอไร้การป้องกันแบบนี้ ก็ทำให้ร่างสูงไม่ชอบใจ..


    เด็กนี้ปล่อยให้คนอื่นเข้าถึงตัวได้ง่ายแค่ไหนกันนะ ..


    ดวงตาสีดำเหลือบมองแขนที่พันคอรั้งต้นคอไว้ ได้แต่กั้นด่าเด็กชายในใจในความไม่ระมัดระวังตัวเอง .. ผ้าขาวสะอาดตาแต่กลับให้ความรู้สึกแปลก . ร่างสูงขมวดคิ้วกับตัวเอง ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนยกไม้เรียกบางอย่างออกมา ..


    ปลายแหลมจุ่มน้ำเคลือบสี ลากผ่านผ้าขาวไม่กี่วินาที รอยดำบางอย่างปรากฏขึ้นที่เนื้อผ้าตรงข้อแขนเด็กชาย แต่ก็เด่นชัดบนผ้าเนื้อขาวสะอาดตา .. ไม่นานร่างสูงก็ออกไปอย่างเงียบเฉียบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในห้อง..


    แฮรี่ตื่นเช้ามาเพราะเสียงหัวเราะบางอย่าง .. สามสลิธีรินที่ดูจะตื่นเข้ามาเพื่อเยาะเย้ยเขาโดยเฉพาะ กำลังทำบางอย่างกับผ้าพันแขนเขา .. แฮรี่ยกแขนตัวเองดูตาปริบๆ ตัวหนังสือสีดำเป็นประโยคเริ่มกระจายอยู่ทั่วผ้า


    หันหน้าตัวต้นเหตุที่กำลังถือปากกาขนนกที่หยดน้ำหมึก หัวเราะอย่างชอบใจ..


    “พ่อพอตเตอร์ตื่นซะแล้ว .. ฉันยังเขียนอวยพรนายไม่เสร็จเลยนะ” เดรโกเอ่ยขำ มองหน้างุนงงของร่างเล็กที่เริ่มจับใจความได้ ไม่รู้จะยิ้มหรือหัวเราะยังไงดี แต่ก็ยื่นแขนให้เดรโกเขียนตามสบาย..


    “เต็มที่เลย มัลฟอย ยังไงฉันก็คงถอดมันออกวันนี้อยู่แล้ว ” เขาไม่เห็นจำได้เลยว่าในอดีตไอหัวซีดตรงหน้าเขาแกล้งเขาแบบนี้ด้วยหรอ หรือเพราะเขาสนิทกับอีกฝ่ายพอควร? หรือเพราะอีกฝ่ายไม่ได้นอนเดี้ยงแบบเดียวกับเขา ..


    เดรโกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด จรดปลายปากกาลงกับแขนเด็กชายอีกครั้ง ลายมือหวัดๆบ่งบอกนิสัยของเจ้าตัว ปรากฏขึ้นกลางผ้าขาวที่ปิดยังไงก็ไม่มิด ..


    “ภูมิใจซะ พอตเตอร์ คิดว่าฉันจะอวยพรนายแบบนี้รึไง” เดรโกเขียนเสร็จ ก่อนวางปากกาจุ่มไว้กับขวดหมึกที่หัวเตียงเหมือนเดิม สองสมุนหัวเราะร่าที่เห็นประโยคที่เดรโกเขียน ..


    แฮรี่ก้มมองแขนตัวเอง พยายามอ่านตัวหนังสือกลับหัวที่อีกฝ่ายเขียน แล้วอ่านออกเสียงดังๆให้คนตรงหน้าได้ยิน โดยมีเดรโกยิ้มมุมปากอย่างสนุก ขนาดคนเขียนยังมีความพยายามเขียนผ้ายับๆให้เป็นประโยคแล้ว งั้นเขาก็จะพยายามอ่านลายมือไก่จิกของอีกฝ่ายให้ออก..


    “เป็นหนักกว่านี้ ฉันจะเป็นเจ้าภาพงานออกค่าโลงให้นาย - เดรโก มัลฟอย ...ขอบคุณมากมัลฟอย นายกลัวคนอื่นเขาไม่รู้รึไง ว่านายใจดีขนาดนี้” แฮรี่แค่นยิ้มพลางพ่นลมหายใจ เหลือบมองหน้าอีกฝ่ายอย่างขอความเห็น ได้ใบหน้าตายด้านประจำตัวอย่างไม่รู้สึกรู้สาส่งกลับมา ยักไหล่ส่งมาให้อีกด้วย ..


    แต่ถามว่าอีกฝ่ายทำได้จริงอย่างที่พูดมั้ย … แฮรี่ว่าได้แน่นอน ..


    “หึ ก็อย่าให้มีวันที่ฉันใจดีละกัน” เขาก็ว่างั้น…


    หลังจากกลั้นแกล้งเขาเสร็จ เพื่อนกริฟฟินดอร์เขาก็เข้ามาตามระเบียบ พอเห็นรอยเปื้อนที่ผ้าเขา ก็ขยับเข้ามาอ่านกันใหญ่ เฟร็ดกับจอร์จเริ่มเป็นตัวตั้งตัวตีในการคะยั้นคะยอเพื่อนคนอื่นให้เขียนอวยพรแฮรี่ด้วย ..


    กลายเป็นเรื่องสนุกละทีเนี่ย.. เด็กชายนั่งนิ่งปล่อยให้แขนตัวเองเป็นกระดาษอวยพร ปล่อยเพื่อนสิงห์ตรงหน้า หาพื้นที่เขียนให้เขาอย่างจริงจัง? รอนที่อ่านคำอวยพรของเดรโก แทบจะขีดฆ่าทิ้ง แต่แฮรี่ห้ามไว้ บอกว่าจะให้มันเป็นเครื่องเตือนใจ ว่าเขาไม่เป็นอย่างที่เดรโกพูดแน่..


    “นี้เลย .. ‘ได้ข่าวว่าแขนหักว่าเจ็บแล้ว แต่หักห้ามใจตัวเองนี้เจ็บกว่า’ ฮ่ะๆๆๆ เป็นไง หายเจ็บเลยมั้ย แฮรี่” เฟร็ดที่ตบไหล่เขา พลางดึงจอร์จมาดูด้วย เสียงหัวเราะดังคลอภายในห้อง จนมาดามพรอมพรีย์ต้องออกมาโวยวายให้เงียบเสียง


    แฮรี่แกะผ้าออกอย่างกลั้นรอยยิ้ม คลี่ผ้าออกให้กว้างขึ้น เพื่ออ่านคำอวยพร?หลากหลายรูปแบบที่ขึ้นกระจายกันตรงส่วนหนึ่งของผ้า ก็เป็นส่วนแขนเขานั้นแหละ ..


    ของเดรโกคงดูเด่นที่สุดเพราะอยู่กลางผ้า รายล้อมไปด้วยคำอวยพรจากเพื่อนสนิทเขา ที่พยายามจะหาที่ให้ตัวเองมีที่เขียนมากกว่าเดรโก แต่คงติดผ้ายับจนขยับไม่ได้นั้นแหละ .. เลยต้องเขียนประโยคยาวๆบนและใต้ประโยคของคุณชายแทน


    ‘หายไวไวนะ แฮรี่ พอไม่มีนายแล้ว ฉันก็ถูกพี่ชายตัวเองแกล้งแทนนายแล้วเนี่ย’ นี้ขนาดยังไม่ถึงวันเองนะ .. จำได้ว่าตอนพิธีคัดสรรยังเคืองเขาที่แย่งความสนใจพี่ตัวเองอยู่เลยนะ


    ‘บ้านฉันก็เป็นหมอนะ แต่อวยพรให้นายไม่ต้องมาต่อเติมฟันที่บ้านฉันเลย’ เอิ่มม.. เขาคิดสภาพตัวเองออกเลยว่า วันหนึ่งเขาอาจจะฟันหักหรือแตก เพื่อไปขอใช้บริการที่บ้านเพื่อนสาวก็ได้ ..

    ‘เดรโกหัวเสีย คงไม่ใช่เพราะแพ้อย่างเดียว’ นี้คงแครบไม่ก็กอยส์ เขียนอยู่หลบมุมไปสักหน่อย แต่ก็พออ่านออก.


    ‘เราได้ยินคำด่านายไม่ต่ำกว่าสามรอบต่อวัน’ นี้ก็คงกอยส์ไม่ก็แครบ ประโยคของสองคนดูจะสั้นกว่ามาก และไม่ได้พูดอวยพรหรืออาการของเขาแต่อย่างใด จนแฮรี่ก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ


    เหมือนจะหมดแล้ว แต่หางตาก็ไปสังเกตที่ ตัวอักษรเล็กๆอีกด้านหนึ่ง ไม่สังเกตดีดี มันคงไม่น่าสนใจให้อ่าน และก็หาที่ที่สังเกตยากๆ เทียบกับประโยคของเดรโก


    ถ้าดูจากตำแหน่ง คงเป็นข้อมือเขาเป็นแน่ .. ลายมือคุ้นตาปรากฏให้เห็น แฮรี่กระพริบตาปริบๆ มองประโยคที่ไม่ใช่ประโยค มันคงเป็นคำด่ามากกว่าจะเป็นคำอวยพร ..


    ‘เจียมตัวซะบ้าง เด็กอวดดี’


    มันสั้นและเล็กกว่าทุกประโยคที่อ่านมา แต่มันรู้สึกได้ถึงคำดูถูก ตำหนิ..และย้ำเตือน เพียงแค่คำออกเสียงไม่กี่คำ .. เสียงลุ่มลึกที่ราบเรียบลอยมาตามสายลมอย่างว่าง่าย ทำให้นึกถึงคำพูดย้ำคิดย้ำทำของอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องคิด.. ต้องบอกว่ามันนึกขึ้นมาเองซะมากกว่า..


    ให้เขาเลิกหาเรื่องใส่ตัวบ้างแหละ . ให้เขาเลิกอวดดีและหันกลับมามองตัวเองซะ ..


    เขาก็ดันเป็นคนบอกอีกฝ่ายให้ดูแลตัวเอง ไม่ให้ประมาทจนตัวเองบาดเจ็บอีก .. แล้วนี้อะไร เขาดันเป็นคนที่เจ็บตัวซะเองให้อีกฝ่ายมาตามดูแลห่างๆอีกแล้ว ..


    บางทีแฮรี่ก็คิดไกลไปว่า …


    ถ้าเดรโกออกค่าโลงให้เขา .. งั้นเซเวอร์รัสคงออกค่าดอกไม้ให้เขานั้นแหละ …


    อ่าาา ฮือออ ... เขาคิดอะไรเนี่ยยย..


    แฮรี่โน้มหน้าลงเอาผ้าตรงหน้ายกปิดหน้า .. ถูหน้าไปกับประโยคเบื้องหน้าที่หลากหลาย และก็มีหลายความรู้สึกเกิดขึ้นกับร่างเล็กที่ดูจะคิดมากกับตัวเองอีกแล้ว ..


    ทำไมเขาหาเหตุผลกับการกระทำสองคนนี้ไม่ได้เลย …


    ใครจะออกค่างานให้ศัตรูตัวเองกันถ้าเกลียดกันขนาดนั้น


    ใครจะยอมมาหาเขาทั้งที่ไม่ถูกกันเพียงเพื่อจะเยาะเย้ยเขา


    ใครจะพูดดักไม่ให้เขาคิดสร้างเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวอีกกัน..


    นอกจากสองคนนั้น..


    เขาว่าเขาโตพอจะคิดอะไรเป็นแล้วนะ…


    และเขาว่าเขาก็ผ่านอะไรมาจนไม่โง่แล้วนะ..


    โธ่.. พี่ฮะ ด่าผมทีว่าผมคิดไปเองอีกแล้ว







    ตอนหน้าจะไปเก็บป๋าทอมแล้ว

    ให้น้องเขาสับสนกับตัวเองไปก่อน555

    เราคิดหาเรื่องแกล้งทอมอยู่ เลยคิดนานไปหน่อย...อิอิ


    เรากะว่า จะให้แฮรี่เจอทอมก่อนการประลองเวทย์ค่ะ

    ไม่งั้นจะหาเรื่องทอม? ให้สมเหตุสมผลไม่ได้ 55555

    ให้เจอป๋าทอมนานๆหน่อย เรื่องจะได้สนุก



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ


    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×