ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #34 : Destinesia (34) ด้ายเส้นสุดท้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.54K
      674
      21 พ.ค. 61

    Destinesia (34) ด้ายเส้นสุดท้าย


    แฮรี่อยากจะถอนหายใจเป็นหลายรอบกับเรื่องตรงหน้า เขาควรจะแสดงตัวเป็นว่าที่ทายาทสลิธีริน หรือควรเผยฝีมือจัดการงูตรงหน้านี้ดี หรือวิ่งถอยไปหาให้อีกฝ่ายจัดการให้ดี .. แต่ก็…


    “ให้ผมจัดการมันเอง”


    ไม่ดีกว่ามั้งฮะ ผมเกรงใจสุดๆเลย…


    แต่เหมือนจะไม่ทันซะแล้ว…


    ล็อกฮาร์ทที่พยายามจะกู้หน้าคืนจากการโดนสเนปฟาดหน้าไม่เป็นท่า ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หลุดจากน้ำแข็งบนพื้นมายืนตั้งท่า วาดไม้กายสิทธิ์ทั้งที่ถนัดแค่คาถาเดียว.. แฮรี่ที่เหมือนจะห้ามไม่ทัน และคงห้ามยังไงก็ไม่ได้ ...


    รู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เห็นอสรพิษสีดำตัวนั้นลอยขึ้นฟ้า จนคนทั้งโถงมองตามมันอย่างอึ้งทึ่ง งูจงอางตัวใหญ่ที่ดูยังไงก็มีพิษแน่ๆ ถูกสบัดขึ้นฟ้าจนขู่เสียงฟ่อ แล้วตกลงมานอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น ก่อนจะคอยๆแผ่แม่เบี้ยออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว


    คนที่ใกล้มันที่สุดก็คือนักเรียนข้างเวทีและแฮรี่ที่รู้ตำแหน่งมันจะตกอยู่แล้ว กลายเป็นหนึ่งในสองเป้าหมายแทน … คนอื่นเริ่มหน้าซีดมองงูมีพิษเบื้องหน้า ต่างถอยออกจากตำแหน่ง กลายเป็นกระตุ้นความหงุดหงิดให้มันเพิ่มไปอีก …


    แฮรี่ที่ไม่อยากโชว์ออฟเหมือนล็อกฮาร์ท แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลัวงูตรงหน้าสักหน่อย อยู่กับพวกนี้มาตั้งหลายสิบปี จะให้เขากลัวงูน้อยตรงหน้า ก็ดูจะเสียเชิงไปหน่อย …


    “ถอยออกมา พอตเตอร์ ฉันจะจัดการมันเอง” เซเวอร์รัสเริ่มเดินเข้ามาหาผ่านมัลฟอยที่ยืนนิ่งเพราะไม่กล้าก้าวขาเนื่องจากเป็นตัวตนเหตุ เด็กชายหรี่ตาแต่ไม่ละสายตาไปจากงูตรงหน้า


    ถ้าเขาถอย เป้าหมายจะเปลี่ยนไปทางจัสตินที่กำลังจะก้าวถอยหลัง อย่างน้อยเขาอยู่ตรงนี้ จะให้คนเจ็บต่อหน้าทั้งที่มีโอกาสช่วย คงจะแย่ไม่น้อย .. เฮ้อออออ . แต่เขาก็ไม่อยากเอาตัวเองไปเป็นจุดสนใจเลย


    “พวกนายก้าวถอยช้าๆ ฉันจะล่อมันเอง” แฮรี่บอกลอยๆ แต่คนอื่นก็รับรู้ได้ เด็กชายเรียกความสนใจกับงูตรงหน้าให้สนใจเขาโดยการเริ่มรุกล้ำเข้าไปใกล้ อสรพิษแผ่แม่เบี้ยจับจ้องแฮรี่ไม่วางตา และเตรียมตัวฉกเด็กชาย…


    ร่างสูงที่ได้ยินร่างเล็กพูดก็อยากจะกลั้นด่าเด็กชายที่อยากทำตัวเป็นฮีโร่ รับบทช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ห่วงตัวเอง … สเนปจับไม้กายสิทธิ์แน่นรอโอกาส..


    ฉับพลันเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากในสายตาคนรอบข้าง …


    แฮรี่ที่เหมือนกลั้นอะไรไม่ได้ ก็เริ่มยกมือปิดปากตัวเอง จังหวะเดียวกับที่ร่างสูงแทบจะกระชากเด็กชายออกจากตำแหน่งที่งูกระโจนใส่ เพราะเห็นการเคลื่อนไหว …


    ร่างเล็กที่ไร้น้ำหนักในสายตาของเซเวอร์รัสถูกโอบอย่างรวดเร็ว และไม่รอช้าที่จะร่ายคาถาเสกไฟเผาไหม้อสรพิษที่คิดจะฝังเขี้ยวเด็กชายในอ้อมแขนที่ไม่ทันตั้งตัว ..


    แน่นอนว่า เป็นเด็กชายเองที่ตกใจกับการกระทำของร่างสูงไม่น้อย .. มองร่างของงูที่มอดไหม้เป็นผุยผงในั่วพริบตา แต่ก็มีเพียงใบหน้าที่เบิกตากว้างเป็นการแสดงความตกใจใหเ้ห็นเท่านั้น แม้จะเคยเห็นมาแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังไม่ได้ตั้งตัวอยู่ดี…


    “เจ้าเด็กจอมยุ่ง ทำอะไรไม่คิด” สเนปยังคงเอ่ยเสียงเย็นเหมือนปกติ ถ้าไม่ติดว่าในระยะประชิดแบบนี้ แฮรี่ก็คงอยากจะแก้ตัวอยู่หรอก .. เด็กชายก้มหน้างุดในอ้อมแขนอีกฝ่าย เป็นภาพที่น่าอึดอัดไม่น้อย และร่างสูงก็เริ่มรับรู้สายตาคนรอบข้างดี …


    พรึ่บ..


    “เหวออ ศาตราจารย์สเนป!” เหมือนร่างกายแทบปลิว แฮรี่ที่ตะกี้ง่วงตาปริบๆ ถึงกลับตื่นเลยทีเดียว แฮรี่ที่ตอนนี้มองเห็นพื้นน้ำแข็งบนโต๊ะที่ตัวเองทำจากมุมมองนี้ ความอับอายถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนกให้กับการกระทำอันคาดเดาไม่ได้ของอีกฝ่าย


    “คุณพอตเตอร์ดูจะอาการไม่สู้ดี ฉันจะพาเขาไปก่อน หวังว่าจะไม่มีนักเรียนคนไหนก่อเรื่องอีก” สเนปปรายตามองคนรอบห้องอย่างจับผิดกลายๆ บางคนที่ขนลุกจากสายตาคมกริบของศาตราจารย์ปรุงยาที่ไม่ได้มีดีแค่ปรุงยา ดูจะไม่อยากขัดใจร่างสูงแม้แต่น้อย


    “คุณมัลฟอยด้วย ตามฉันมา”


    คำพูดสุดท้ายที่ออกจากปากร่างสูงคือคำสั่ง มัลฟอยที่มีความผิดติดหลังเมื่อกี้ ก็ไม่อิดออด แต่จะดีกว่านี้ ถ้าพ่อทูนหัวเขาไม่อยู่ในสภาพที่แบกพอตเตอร์ขึ้นบ่า ปล่อยร่างเล็กโวยวายบนไหล่ตัวเอง..


    “เดี๋ยวสิ ผมเดินเองได้นะ ปล่อยผมลงเถอะ” เสียงหวานโวยวายไปตามทางเดิน โดยที่คนโดนบ่นก็ไม่สะทกสะท้านใดใด พลางเดินย้ำออกนอกห้องของตัวเองผ่านสายตานักเรียนที่มองตามอย่างไม่ขาดสาย


    หลายคนทำหน้าตาไม่ถูก มองดูเด็กชายหน้าหวานที่ถูกแบกไปอย่างไม่อาจเอ่ยปากช่วยอะไรได้ … แม้แต่สลิธีรินบางคนถึงกลับไม่รู้จะสมน้ำหน้าพ่อคนดังดีรึเปล่า เพราะเหมือนได้รับการดูแลดีกว่าพวกเขาเสียอีก …


    “มัลฟอยช่วยด้วย! บอกพ่อนายให้วางฉันลง!!” เสียงเด็กชายยังคงดังแว่วมาให้ได้ยิน ได้แต่ไว้อาลัยให้เด็กชายกริฟฟินดอร์ที่ถูกสองงูลากไปแล้ว …


    เดรโกก็ได้แต่ส่ายหน้ามองแฮรี่ที่พยายามโยกหน้าข้ามหลังไปพูดอ้อนพ่อทูนหัวเขาด้วยเสียงแหลมเล็กของตัวเอง แต่ก็เห็นด้วยกับการกระทำของร่างสูงไม่น้อย และเหมือนว่าเซเวอร์รัสจะรู้อาการและนิสัยของเด็กชายที่จะหาวิธีบ่ายเบี่ยงหาเรื่องใส่ตัวเป็นแน่…


    “โธ่! ผมสัญญาจะเป็นเด็กดี แอร่ก! มัลฟอยช่วยด้วย!!” ร่างสูงคงอยากโยนเด็กชายทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ลง


    ร่างสูงที่ตอนนี้หน้าทะมึนตึงยิ่งกว่าอะไรดี กำลังหอบร่างเด็กชายกลับหอใต้ดินของตัวเอง โยนร่างเด็กชายกระแทกไหล่ตัวเองจนแฮรี่ร้องจนแทบกัดลิ้น พลางเรียกร้องความช่วยเหลือจากคนด้านหลัง ที่ดูจะเมินเสียงเขาไม่ต่างอะไรจากเซเวอร์รัสเลย


    บางทีสเนปก็ถามตัวเองว่า เขาจะเอาตัวเองมายุ่งกับเจ้าเด็กนี้ทำไม … บางครั้งเขาก็หงุดหงิดกับการกระทำของเด็กชายพอตเตอร์ ที่ดูจะหาเรื่องใส่ตัวได้ตลอดเวลา ชอบเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง และไม่ยอมดูแลตัวเอง


    สงสัยคำพูดของเขาจะไม่ได้เข้าหูเด็กชายเลยแม้แต่น้อย …


    รอบนี้ยังคิดจะรับมือกับงูมีพิษอีก .. ไม่รู้ใช้สมองส่วนไหนคิด หรือไม่มีสมองก็ไม่รู้…


    แฮรี่เงียบลงในในเวลาไม่กี่นาที หลังจากที่ดูท่าว่าจะไม่มีทางหนีพ้นสองอสรพิษตรงหน้าแล้ว …


    “ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง พอตเตอร์ ไร้สมองจริงๆ ..แทนที่จะถอยหนีแต่กลับเอาตัวเข้าหาเนี่ยนะ พ่อนักบุญจริงๆ” คำด่าเดิมเขากลับมาอีกแล้ว แฮรี่แทบจะถลึงตามองคนปากมากด้านหลังสเนป


    “นายนั้นแหละ ทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่นายรึไงที่เสกมันแทบเข้าหน้าฉัน” แฮรี่กอดอกแม้จะอยู่บนบ่าสเนป ร่างสูงที่แบกเด็กชายก็ฟังเงียบๆไม่ได้ขัดการทะเลาะกันของเด็กๆ แต่ก็ดีที่มีคนต่อว่าเด็กชายแทนเขาแล้ว …


    สองคนนี้คงสนิทกันจริงๆนั้นแหละ …


    “ก็แทนที่จะหนีตั้งแต่แรก ดันทำตัวเป็นฮีโร่ ช่วยล่ออสรพิษที่เตรียมจะฉกนายเนี่ยนะ” เชื่อเขาเลย เดรโกไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่าร่างเล็กตรงหน้า ยิ่งดวงตาดื้อร้นที่ดูจะยืนยันความคิดเดิมของตัวเอง ไม่ว่ายังไงก็ยังคงจะทำตามแบบเดิม เขาก็ไร้คำพูดจริงๆ..


    “เรื่องอะไรฉันจะให้คนเจ็บตัวต่อหน้าฉันกัน? หาว! ถ้าฉันช่วยได้ฉันก็จะช่วย ” เด็กชายเริ่มจะขยี้ตาจากการง่วงเหงาหาวนอน เดรโกตีมือพอตเตอร์ออกจากตาตัวเอง แต่แฮรี่ก็ดูจะไม่ได้โกรธเคืองอะไรท่าทีแบบนั้น …


    ทั้งเดรโกและเซเวอร์รัสต่างเงียบเสียงลง เด็กชายที่เริ่มโคลงเคลงตามการเดิน ความง่วงคือสิ่งที่แฮรี่ชินมาหลายสิบปี แต่ก็ไม่เคยชนะมันได้เลย นอกจากจะมีงานมาวางกองตรงหน้า หรือเรื่องสำคัญจริงๆ แต่ก็หลับคากองงานสม่ำเสมอ..


    แฮรี่ก็ไม่แน่ใจว่า การคุยกับทอมทุกสามวันจนดึกดื้นมันคือเรื่องสำคัญรึเปล่า


    เพราะก็คุยเพลินๆจนลืมเวลาทุกที .. ยังดีที่เหมือนทอมจะรู้เวลา หยอดมุขตลกร้ายนั้นตอนที่เขาเริ่มง่วง ..และต้องปิดสมุดหนีไปซะได้. พ่อบุญธรรมเขา คงมีสัมผัสพิเศษในการรับรู้ว่าเกินเวลานอนเขาละมั้ง …


    ไม่นานร่างเล็กก็เข้าสู่นิทราไปแม้จะบนไหล่ของร่างสูงที่เริ่มรู้ถึงน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงไหล่ รอยยิ้มเบาบางเผยขึ้นแทบจะมองไม่เห็นให้กับสภาพของเด็กชาย และเดรโกก็แค่นเสียงหัวเราะเบาๆให้กับร่างเล็กเช่นกัน…


    สองร่างเข้าสู่ห้องทำงานใต้ดินของศาตราจารย์ปรุงยาที่มีภาระบนไหล่… เสียงลมหายใจแผ่วๆอย่างสบายอกสบายใจ เหมือนกับว่าโลกนี้ไม่มีเรื่องโหดร้ายจะมาหวั่นไหวและสั่นคลอนการหลับไหลของเด็กชายได้เลย …


    ใบหน้าหวานหลับตาพริ้ม ปิดดวงตาสดใสน่าหลงใหลไปแล้ว แต่ก็ทำให้คนอื่นเอ็นดูไม่น้อย …


    “คุณให้ผมตามมาทำไมหรอครับ เซเวอร์รัส?” เมื่ออยู่กันแค่สองคน และหนึ่งเด็กชายก็หลับอยู่บนเตียง เดรโกมองพ่อทูนหัวตัวเองที่ลูบผมนุ่มลื่นของอีกคนอย่างเอ็นดูไม่น้อย คงจะเชื่อยากในการกระทำของอีกฝ่าย ถ้าเขาไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเอง


    เซเวอร์รัสชะงักมือกลับมาอย่างลืมตัว .. เด็กชายที่อยู่ในความคิดของร่างสูงขดตัวเข้าในผ้าห่มภายในห้อง ที่เหมือนจะกลายเป็นห้องของเด็กชายชั่วคราว ก่อนจะมองกลับมาหาลูกทูนหัวตัวเอง ..


    “เธอกับพอตเตอร์สนิทกัน?” เหมือนเป็นคำถามที่คล้ายกัน ที่เคยถามแฮรี่แล้ว เดรโกก็ชะงักกับคำถามไปเสี้ยววินาที ลอบมองร่างสูงตรงหน้า เพื่อหาความหมายในคำถาม และตอบให้ตรงความต้องการของเซเวอร์รัส


    แต่ก็…


    มันอ่านยาก จนเดรโกคาดเดาความคิดพ่อทูนหัวตัวเองไม่ออก .. จะบอกว่าแค่แกล้งถามก็ไม่ใช่ มันมีอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น จนเขาบอกไม่ถูก .. ดวงตาสีซีดครุ่นคิดในคำถาม พลางมองบุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึงภายในห้อง ..


    การกระทำเมื่อกี้ไม่ใช่แค่อะไรที่ธรรมดาแน่ๆ เดรโกรู้ดี พ่อทูนหัวเขาจะห่วงพอตเตอร์เพราะแค่เอ็นดูจริงนะหรอ .. แต่เพราะอะไรละ กับนักเรียนกริฟฟินดอร์เนี่ยนะ? เพราะความโด่งดังของพอตเตอร์?


    เดรโกไม่โง่ถึงขนาดที่คิดว่าเรื่องแค่นั้นจะเรียกความสนใจของสเนปได้..


    และเขาไม่มีสิทธิถามเป็นแน่…


    แต่ว่า…


    เดรโกยังไม่ได้ตอบคำถาม และเซเวอร์รัสก็พอจะใจเย็นให้เด็กชายครุ่นคิดไป ผมสีบลอนด์สว่างเคลื่อนผ่านร่างสูงเพื่อเข้าหาเด็กชายที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ..


    มือที่ขาวซีดแม้จะยังไม่มีอะไรเหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด .. เอื้อมไปลูบตาผมสีอีกาเหมือนกับที่ร่างสูงทำไม่มีผิด .. ดวงตาสีซีดที่เหมือนจะหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้ว หันกลับมามองพ่อทูนหัวที่มองเขาไม่วางตา .. หมายถึงมองมือเขาที่วางอยู่บนผมพอตเตอร์ไม่วางตา…


    “ผมว่าคุณก็มองออก ว่าเราไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ ” คำตอบแรกเหมือนกับที่พอตเตอร์เคยเล่า จนสเนปขมวดคิ้วไม่ชอบใจเท่าไหร่ .. แต่เดรโกก็หลบตาเขาในวินาทีต่อมา เพื่อมองหน้าคนหลับ ..


    “สำหรับผม พอตเตอร์น่ารำคาญ ทำอะไรไม่เคยเจียมตัว ชอบทำอะไรสิ้นคิด ทั้งที่บางทีหมอนี้ก็ฉลาดเป็นกรด แม้จะเป็นเพียงแค่ในเรื่องโง่ๆก็ตาม ” สามในสี่คือคำด่าตรงๆ แม้เจ้าตัวจะไม่รับฟัง น้ำเสียงเดรโกไม่ได้ดูถูกมากเท่าปกติ เหมือนแค่บอกเล่าเรื่องราวมากกว่า


    “....” สเนปยังคงเงียบ ประโยคยังถูกกล่าวไม่จบ เหมือนกับตอนที่เขาฟังพอตเตอร์พูดมากไม่มีผิด .. แต่ครั้งนี้มันมีอะไรมากกว่า แค่คำว่าสนิทสนม และเซเวอร์รัสรับรู้ได้ เหมือนความรู้สึกบางอย่างมันไม่ชอบใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ .. มันคืออะไรกันนะ


    “ทั้งยังต้องให้ผมมาคอยตามดูแลอีก ถ้าละสายตาไปจากพอตเตอร์แค่ไม่กี่นาที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จะต้องเกี่ยวกับพอตเตอร์เป็นแน่” น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเหนื่อยอ่อนใจ พลางขยี้ผมสีดำจนแฮรี่บ่นงึมงำไม่เป็นเสียง จนยกผ้าห่มคลุมตัวเองไปแล้ว …


    เดรโกหัวเราะกับตัวเอง พลางหันกลับมามองร่างสูงที่ได้ชื่อว่าพ่อทูนหัวตัวเอง..


    “และผมรู้ตัวเองดี และรู้ดีกว่าใคร.. ไอพอตเตอร์อาจจะไม่ใช่เพื่อน ...” มันแข็งกร้าวราวกับประกาศศึกกลายๆ สายตาที่พ่อทูนหัวมีให้พอตเตอร์ ก็คงไม่ต่างอะไรจากเขาเท่าไหร่…


    ถึงเซเวอร์รัสจะปิดมันยังไง มันก็ไม่มิดเลยสักนิด .. และอย่างพ่อทูนหัวเขา จะมีสักกี่เรื่อง ที่จะทำให้สนใจคนอื่น ยิ่งกับคนที่เด็ดขาดอย่างอีกฝ่ายด้วยแล้ว ..


    เขาก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ออก ..


    งั้นก็พูดดักเลย ง่ายดี .. นั้นก็แค่ที่เดรโกคิด แต่สำหรับผู้ใหญ่หลายคน แค่เด็กคนหนึ่งขู่ทั้งที่ห้ามอะไรไม่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรเท่าไหร่ เด็กอายุแค่นี้มองออกง่ายอยู่แล้ว ..


    “.....” แต่เดรโกคงไม่รู้เลยว่า ทุกคำพูดที่เอ่ยออกมา มันกระทบร่างสูงให้สั่นไหวแค่ไหน และเหมือนเป็นตัวช่วยที่ทำให้เขาเข้าใจความต้องการตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม...


    และประโยคต่อมาก็เหมือนประโยคสุดท้ายที่รั้งความคิดของสเนปเอาไว้ ...


    “แต่ผมจะให้มันเป็นมากกว่านั้น”







    พี่เดรเรางานดี ทำไมพอเป็นพี่เดรเราแต่งออกง่ายๆ

    กับป๋าหรือปู่เราเนี่ย จัดการยากมาก .. หาบทให้ก็ยาก

    แต่เอาเถอะ เราพาพี่เดรเป็นตัวกระตุ้นเรียบร้อย

    พี่เดรอาจจะรู้ใจตัวเองนะ แต่ยังไม่เท่าไหร่

    เพราะไม่ได้ใกล้กันขนาดนั้นนี้เนอะ

    ประมาณว่า มีไว้ก็ดี ขาดก็ได้ …


    สำหรับป๋าเริ่มต้นเฟทสอง ที่ต้องเริ่มเข้าหาน้องละ

    กับปู่ทอมเราก็ยังไม่เท่าไหร่นะ เพราะพี่แกแค่สนุกนั้นแหละ



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×