คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #74 : Destinesia (74) บ้านริดเดิ้ล
Destinesia (74) บ้านริดเดิ้ล
ชาวบ้านในหมู่บ้านลิตเติ้ลแฮงเกิลตันทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่ามีบางสิ่งที่เป็นลางร้ายและน่าสยดสยองเกี่ยวข้องกับบ้านริดเดิ้ล ณ บ้านหลังนี้มีเหตุการณ์แปลกๆ และน่าขนลุกเกิดขึ้น
เมื่อห้าสิบปีที่แล้วซึ่งทำให้ชาวบ้านยังคงกล่าวขานกันมาถึงทุกวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่า ผู้อาวุโสนายและนางริดเดิ้ล รวมถึงทอม ลูกชายของพวกเขาถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้าน ซึ่งดูเหมือนว่าจะหวาดกลัวอะไรบางอย่างจนถึงขั้นเสียชีวิต
ชายชราที่เคยทำงานเป็นคนสวนของครอบครัวดังกล่าว เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการฆาตกรรมครอบครัวริดเดิ้ล และเขาเป็นผู้กล่าวอ้างว่า พบเห็นเด็กชายผมดำคนหนึ่งใกล้กับตัวบ้านก่อนเกิดเหตุ..
ไม่มีหลักฐานแน่ชัด เลยได้รับการปล่อยตัว เขาเชื่อว่าต้องเป็นเด็กชายคนที่เขาเห็นคืนนั้น เป็นฆาตกรอย่างไม่ต้องสงสัย .. … ทุกวันนี้ แฟรงก์ ไบรส์ ชายชราคนนี้ก็ยังคงอาศัยอยู่ใกล้บ้านริดเดิ้ลที่วังเวงไร้ผู้ย่างกาย..
ภายหลังบ้านนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีผู้อยู่อาศัยเป็นเวลานาน ตัวบ้านก็ทรุดโทรมลง..
จนกระทั่ง..
ชายชรายังคงทำกิจวัตรประจำวันของเขาเป็นปกติ .. และก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นแสงไฟสว่างมาจากบ้านที่ไร้คนอยู่ ของบ้านริดเดิ้ล .. ก่อนที่ชายชราที่ไม่ชอบขี้หน้าเด็กกร่างที่บุกรุกบ้านคนอื่น ทำให้เขาหุนหันออกจากบ้านไปทั้งที่ยังต้มน้ำไว้อยู่…
สวนที่เขารู้จักเป็นอย่างดีและแสงอันน้อยนิด .. จากที่ไกลๆ แม้สายตาคนแก่ไม่ดี แต่เขาก็เห็นเช่นในวันนั้น .. ท่ามกลางแสงไฟฉายที่สาดยาวไป .. ทางเข้าบ้านริดเดิ้ลที่ปกคลุมไปด้วยเศษใบไม้ใบหญ้า ..
ร่างโปร่งแสงที่กำลังหันหลังเดินเข้าไปในบ้านที่มืดมิด ทำให้ชายชราเร่งรีบตามร่างนั้นตรงไปที่ทางเข้าอย่างไม่รอช้า..
มันไม่ผิดแน่ๆ นั่นคือร่างที่เขาเคยเห็นก่อนที่ครอบครัวริดเดิ้ลจะถูกฆ่า…
เขาจะต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง ว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพหลอนรึเปล่า..
นอกจากเสียงเดินและเสียงกุญแจกระทบกันจากตัวแฟรงก์ กลับน่าแปลกที่ไม่มีแม้แต่เสียงเดินอื่นและเสียงประตูราวกับไม่มีคนเดินผ่านมา..
เศษหยากไย่ปกคลุมไปทั่วบ้านบ่งบอกความเก่าและเวลาที่ถูกทิ้งร้าง. เสียงไม้เอี๊ยดอ๊าดดังทุกครั้งที่ขาก้าวลง เสียงพูดคุยกังขึ้นจนชายชราย่องเข้าหาห้องที่ส่องสว่างเพียงห้องเดียว ..
มันสมควรเงียบ .. สมควรเป็นเสียงเด็ก .. แต่กลับเป็นเสียงสนทนาของชายหลายคนดังอยู่ภายในบ้าน …
“หรือเจ้าคิดว่า หน้าที่พยาบาลข้าเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายงั้นเชียวหรือ? ” เสียงตวาดดังขึ้นได้ยินแม้กระทั่งนอกห้อง .. ชายอ้วนท้วมก้มหัวลงให้กับร่างบางอย่างบนโซฟา ..
“โอ้ว เปล่าๆ เปล่าเลย นายท่าน ผมหมายความว่า บางทีเราอาจทำได้ โดยไม่ใช้เด็กคนนั้น .. ” มันควรจะดีกว่าถ้าไม่กลับไปยุ่งกับเด็กชายที่มีคนดูแลถ้วนหน้า ภายนอกหลับสนิทได้ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัด ..
มันน่าแปลกจนอดคิดไม่ได้...
“ไม่! เด็กนั่นคือทุกอย่าง จะทำโดยไม่มีมันไม่ได้ .. อาา เด็กนั่นเหมือนข้า มีบางอย่างแตกต่างจากข้า ข้าต้องการจะมัน.”
“ท่านจะได้สิ่งที่ต้องการ นายท่าน ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” เป็นเสียงนอบน้อมเคารพของอีกคนดังขึ้นด้วย ทำให้ร่างเกรี้ยวกราดพอใจลงพูดถึงแผนการอื่นต่อ..
“ก่อนอื่น ต้องรวบรวมพวกเรา ส่งสัญญาณให้รู้.. และ ตัวข้า เจ้าคือข้า .. คงไม่ทำให้ข้าผิดหวัง..”
เป็นบทสนทนาที่แปลกประหลาด ชายชราเพิ่งสังเกตบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเคลื่อนผ่านตัวเขาเข้าไปในห้อง .. ตัวเขาสะดุ้งมองสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ผ่านไป แต่กลับไม่รู้สึกตัวที่จะหนีเลยแม้แต่นิดเดียว ..
“นากินีบอกว่า ตาแก่มักเกิ้ลกำลังยืนอยู่ข้างนอกห้องนี้” ทันทีที่เสียงแหบแหลมบอกจบ ชายอ้วนภายในห้องพุ่งไปมองพลางแสยะยิ้มมองความตายที่กำลังมาถึงคนตรงหน้า .. “ถอยไปสิ หางหนอน ข้าจะได้ทำการต้อนรับแขกของเราอย่างเหมาะสม”
ไม่รู้ว่าคำว่ามักเกิ้ลคือสิ่งใด ชายชราก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว แม้แต่กับงูยักษ์ที่ส่งเสียงภายใน หรือแม้แต่ผู้บุกรุกตรงหน้า
โวลเดอมอร์ที่ถึงอ่อนแอ แต่ไม่ไร้พิษสง .. ไม่ชอบใจที่ถูกจับตามองจากอีกฝ่าย
คำสาปแสนง่ายดายเพื่อจะปิดปากเขาไม่ให้แพร่งพรายเรื่องออกไป..
“อะวาดา เคดาฟ-รา!!” เสียงสีเขียวพุ่งตรงไปที่ร่างของชายผู้โชคร้าย .. ก่อนที่จะหมดลมหายใจไปอย่างน่าเวทนา.. โดยที่มีนอกเหนือจากคนที่นั่น รู้เรื่องเข้าซะแล้ว…
เฮืออก..!
แฮรี่สะดุ้งตื่นพร้อมกับความเจ็บแปล๊บตรงรอยแผลเป็น ที่อยู่กับเขามาทั้งสองชีวิต .. เขาหอบหายใจเหงื่อแตกพลั่กกุมหน้าผากตัวเองเอาไว้อย่างอดไม่ได้ ..
ไม่ได้รู้สึกมานานแค่ไหนแล้วนะ.. สิบ?ยี่สิบ?สามสิบ? ให้ตายเถอะ ..
“แฮรี่ ๆ เธอเป็นอะไรรึเปล่า”
“เฮอร์ไมโอนี่? .. คือ . แค่ฝันร้ายนะ ..ฝัน..เลวร้ายที่สุดเลยล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนที่เรียกความสนใจเขากลับมา เธอทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย แต่แฮรี่ก็ทำเหมือนไม่ได้มีอะไรมากกว่าแค่ฝัน เธอจึงถอยกลับไปปลุกเพื่อนอีกคนที่กำลังนอนน้ำลายยืดอยู่..
แฮรี่ใจหาย .. ไม่ .. มันไม่ควรเป็นแบบนี้ . เหมือน ..เหมือนว่า เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกขีดไว้แล้ว … ไม่ชอบใจเลยสักนิด .. ทางเลือกเขากำหนดเองได้ ทำไมถึงต้องให้เขาถูกเลือก .. ถูกกำหนด .
พวกเขากำลังจะออกเดินทางสู่งานแข่งรอบชิงชนะเลิศของควิดดิชเวิลด์คัพที่แฮรี่ก็ได้รับคำเชิญชวนจากครอบครัววีสลีย์เช่นเคย
ตัวเขาออกจากบ้านเดอร์สลีย์ไปอาศัยอยู่ในบ้านเก่าของซีเรียสแล้ว ที่กริมโมลด์เพรสไม่ได้หรูหรามาก แต่ซีเรียสก็ยังใส่ใจเตรียมทุกอย่างให้เขาหมดทุกอย่าง ถึงควีเชอร์ เอลฟ์บ้านซีเรียสดูจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าไหร่ .. แต่ยังไงเขาก็สายเลือดพอตเตอร์ ควีเชอร์ก็ต้องเคารพเขานิดนึง..
เขาขอให้ซีเรียสไปตามหาสร้อยสลิธีรินที่ถูกขโมยไปเมื่อนานมาแล้วหรืออาจจะไม่นาน .. ถึงตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหนแล้ว แต่ควีเชอร์น่าจะตามจับคนร้ายได้ในไม่นาน
เขากังวลว่า ถ้าปล่อยให้ตกอยู่ในมือของโดโลเรสคนนั้น ที่เขาก็ไม่เคยได้เจอในโลกก่อน .. ก็ต้องบอกว่าพี่สาวคนดีของเขาน่าจะเกลียดป้าแกเข้าไส้ เลยจัดการส่งเรื่องให้พ่อบุญธรรมเขาทอม ส่งป้าเข้าคุกอัซคาบันไปตั้งแต่เนิ่นๆ
เขาก็เลยไม่มีวาสนาจะได้เจอป้าแกที่มีอยู่ในอีกความทรงจำเท่าไหร่ แต่มันก็เลวร้ายน่าดู ยิ่งถ้ามองในมุมมองของคนภายนอกแล้ว .. หมายถึง เขามองตัวเองที่อีกตวามทรงจำหนึ่ง .. ตัวเขาคนนั้นก็ผ่านอะไรมาตั้งเยอะ ความกดดันและภาระหน้าที่ก็มาก การเรียนในปีนั้นก็น่าหดหู่ เลวร้ายมาก ..
“เร็วเข้า แฮรี่! นายยังฝันกลางวันอยู่อีกหรอ?!” รอนร้องเรียกเขาเมื่อเห็นเขายืนเหม่อ .. สองแฝดคล้องคอเด็กชายที่ยังไม่สูงสักที ลากเขาให้เดินไปด้วยกัน ..
“ฝันร้ายรึไง งั้นครั้งหน้ามานอนห้องพวกเราก็ได้นะ นายตัวเล็กยังไงก็ไม่เบียดพวกเราหรอก” เฟร็ดเอ่ยหยอก หลังจากดูสีหน้าซีดๆของแฮรี่ แอบส่งสายตาให้แฝดตัวเองรับมุขต่อเพื่อชักชวนร่างเล็ก
“ถึงห้องพวกเราไม่กว้าง แต่ก็อบอุ่นนะ ถ้าสนใจยังไงก็บอกพวกเราได้” แฮรี่ที่ตอนแรกสติกระเจิงไปไหนต่อไหนไม่รู้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับ เขาจำได้ว่ามันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ไม่ใช่รึไงกัน ..?
พวกเขาเดินผ่านป่าในช่วงเช้ามืด .. รอนหาวหวอดแทบจะไม่ได้สนใจแฮรี่ที่คุยเล่นกับสองแฝด มีเฮอร์ไมโอนี่ตีหลังให้ตื่น พลางคุยเล่นกับจินนี่ที่ยังคงหันมามองแฮรี่เป็นระยะ แต่ไม่ได้เอ่ยปากช่วยแฮรี่ที่กำลังโดนสองแฝดแกล้ง..
“อาเธอร์! เกือบมาไม่ทันแล้ว” เสียงของชายอีกคนที่รออยู่ดังขึ้น
“นี่เอมอส ดิกกอรี่นะ ทุกคน.. เขาทำงานอยู่กับเฉันที่กระทรวงน่ะ ”พ่อรอนแนะนำตัวอีกฝ่ายให้กับพวกเขา ทักทายผู้ร่วมเดินทางที่กำลังส่งรอยยิ้มตอบกลับให้เด็กๆ จนร่างโปร่งของเด็กหนุ่มอีกคนกระโดดลงมาจากด้านบน
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่ส่งรอยยิ้มกระชากใจสาวๆได้เพียงในระยะเวลาอันสั้น เป็นคนท่แฮรี่ช่วยจากเหตุการณ์ผู้คุมวิญญาณบุกเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง..
“หนุ่มน้อยคนนี้คงจะเป็นเซดริก เดาถูกมั้ย?”
“ใช่ครับ” พวกเขาจับมือกันอย่างมีมิตรไมตรี .. ก่อนจะหันกลับไปสำรวจคนที่ตามมาด้านหลัง ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างที่เขาไม่คาดว่าจะอยู่ที่นี่ตรงหน้า .. แต่ก็ยังยิ้มหล่อได้เหมือนเดิม ..
เฮอร์ไมโอนี่กับจินนี่ส่งสายตาให้กันพลางยิ้มๆ .. ไม่ต้องเดาเลยว่า หนุ่มหล่อแบบนี้จะสร้างความประทับใจและสนใจจากหญิงสาวได้แค่ไหน ..
แต่ดูท่าแล้ว เขาจะไม่ได้สนใจพวกเธอ …
เพราะไปติดกับความน่ารักของใครสักคนเข้า…
ปีนี้เราว่าจะให้ฮาเร็มน้องเดินเรื่องแน่นอน
ไม่ใช่แค่ทำความรู้จักเหมือนที่แล้ว
เราให้เซดริกกับเดรโกเป็นตัวหลักช่วงนี้แน่
ใครเชียร์พี่เดรเรา เขาจะทำคะแนนปีเนี่ยแหละ
ปู่ทอมเนี่ย เราวางเรื่องให้พี่แกต่างออกไปแน่นอน
PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง
ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์
ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น