ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MR. IM💋 (BNIOR FEAT. JACKJAE/MARKBAM)

    ลำดับตอนที่ #1 : MR. IM💋

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.75K
      511
      29 ก.ค. 63

     

     

     

    INTRO


     

              ณ คอนโด JJP ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองหลวงประเทศเกาหลีใต้ ภายในห้อง 2206 นั้นถูกจัดแต่งเป็นโทนมินิมอลของส่วนใหญ่ล้วนเป็นสีขาวมีสีอื่นแซมมาบ้างเล็กน้อย คอนโดนี้มีโซนที่ชัดเจนเช่นโซนครัว โซนห้องนั่งเล่นและโซนห้องนอนแบ่งไว้อย่างชัดเจน เสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังอยู่ภายในห้องนอนของเจ้าของห้องร่างเล็กกำลังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มหลับตาพริ้ม หลายวันที่ผ่านมานี้เจ้าของห้องคิดถึงเตียงนี้แทบตายระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ที่เสียบชาร์ตไว้ตรงโต๊ะที่วางโคมไฟแผดเสียงดังลั่นห้องทำให้เขาต้องสะลืมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยความรำคาญ ปาร์ค จินยองเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาดูก่อนจะถอนหายใจเมื่อคนที่โทรมานั้นคือหัวหน้าของเขานั่นเอง

              “สวัสดีครับ พี่เฮจอง”

              (น้องจินยองขา พี่คิดว่าหนูจะไม่รับแล้วซะอีกเพิ่งลงเครื่องมาเมื่อคืนนี่เนอะ) นา เฮจองเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ

    ก็รู้นี่ครับ แล้วจะโทรมาทำไมกัน

    ใช่ผมไม่ได้พูดคำนั้นไป ยังไม่อยากหางานใหม่ตอนนี้

              “ครับ พี่มีอะไรว่ามาเลย” จินยองพยายามใช้มือแหวกตาไม่ให้ปิด

              (คืองี้ค่ะน้องจินยอง ไฟล์ทที่จะออกตอน 10 โมงนี้แอร์ที่จะประจำไฟล์เกิดเหตุสุดวิสัยอะค่ะพี่อยากให้หนูมาแทนได้ไหมค่ะ คือคนอื่นพี่ก็ไม่รู้จะโทรหาใครแล้วเพราะถ้าเรื่องการบริการพี่ก็ต้องมอบให้น้องจินยองนี่แหละค่ะ)

              “ถ้าผมปฏิเสธล่ะครับ” จินยองลองเชิงถามหัวหน้าดู

              (พี่คงต้องตายแน่ๆ) ปลายสายบอกเสียงเจื่อน

              “ก็ได้ครับ”

              (น่ารักที่สุดเลยค่ะ ไฟล์ทนี้พิเศษค่ะของคุณอิม แจบอมเจ้าของสายการบินที่เราทำงานอยู่ค่ะ เป็นเครื่องบินส่วนตัวของคุณเขาดังนั้นพี่เลยเลือกจินยองให้เป็นคนดูแลเขาในไฟล์ทนี้)

    ถามเขาหรือยัง

    ยังไงก็ต้องไปสินะ

              หลังจากที่จินยองวางสายจากหัวหน้าก็เตรียมตัวจัดการความเรียบร้อยของตัวเองร่างบางยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าในสภาพชุดคลุมที่รุ่ยไหล่ลงมา มือเรียวค้นหาเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินอิม เขาหยิบเชิ้ตสีขาวมาสวมและกางเกงสีน้ำเงินเข้มจากนั้นจะจัดการผูกเนกไทอย่างเร่งรีบเพราะตอนนี้เกือบเก้าโมงและเขาต้องไปถึงสนามบินก่อน 10 โมงเพื่อเตรียมพร้อมไม่นานนักจินยองแต่งตัวเรียบร้อยเขาเช็คตัวเองอยู่หน้ากระจกจากนั้นจะลากกระเป๋าเดินออกจากคอนโด ร่างบางเดินไปเรียกแท็กซี่แล้วตรงไปยังสนามบินทันที

              รถแท็กซี่ขับไปทางสนามบินนานาชาติอินชอนเขาจอดตรงประตูทางเข้าจินยองลงจากรถเดินไปเปิดหลังรถเพื่อหยิบกระเป๋าโดยมีโชเฟอร์นั้นช่วยมือบางหยิบเงินค่าแท็กซี่เรียบร้อยก็เข้าไปในอาคารจินยองตรงไปยังที่เครื่องบินส่วนตัวของคุณอิมตอนนี้นักบินพร้อมประจำการเขารีบขึ้นไปจัดการความเรียบร้อยบนเครื่องไปที่แกลเลย์เพื่อเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารเมื่อทุกอย่างพร้อมเครื่องออกมารอรับที่รันเวย์ใกล้กับห้องรับรองผู้โดยสารขาออก

              ไม่นานนักรถกอล์ฟของสนามบินขับมาจอดตรงด้านหน้าลำเครื่องบินร่างสูงที่ก้าวออกมาจากรถกอล์ฟใบหน้าคมคายของชายหนุ่มบวกกับผิวขาวเขาสวมกรอบแว่นดำยืนอยู่พร้อมกับเลขาส่วนตัวเสื้อผ้าที่คนนั้นใส่ล้วนเป็นแบรนด์ดังทั้งสิ้นจากการประมาณค่าก็ไม่น่าต่ำกว่า 30 ล้านวอนอย่างแน่นอน ร่างสูงของมิสเตอร์อิมที่ส่วนใหญ่คนเรียกกันเดินขึ้นมาบนเครื่องจินยองนอบน้อมให้กับคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าว่าแต่ทำไมเขาถึงจ้องมองผมแบบนั้นกันล่ะ ริมฝีปากยักยิ้มอย่างพึงพอใจอะไรสักอย่างมันหมายความว่าอย่างไรกัน มิสเตอร์อิมเดินเข้าไปนั่งที่จินยองปิดประตูเครื่องบินซึ่งต้องใช้แรงมหาศาลในการดึง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจินยองก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้เขานั่งด้านหลังของเลขามิสเตอร์อิม เสียงของกัปตันประกาศว่าตอนนี้เครื่องกำลังจะเทคออฟขึ้นน่านฟ้าจินยองเตรียมรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย เสียงความกดอากาศต่ำที่ดังภายในหูจนกระทั่งสัญญาณเตือนว่าตอนนี้เราได้บินขึ้นน่านฟ้าเป็นที่เรียบร้อย

     

              จินยองปลดเข็มขัดนิรภัยจากนั้นจะไปประจำที่ห้องแกลเลย์เพื่อนำเข็นมาตามทางเดินเขาเดินไปหามิสเตอร์อิมที่นั่งอ่านเอกสารอะไรสักอย่างอยู่ในมือจินยองจึงถามเขาเป็นภาษาอังกฤษเพราะเคยได้ยินมาว่ามิสเตอร์นั้นพูดภาษาเกาหลีไม่คล่องนักเพื่อเป็นการเข้าใจง่ายเขาจึงใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารแทน

              “ขอประทานโทษนะครับไม่ทราบว่าท่านจะรับชาหรือกาแฟดีครับ” จินยองถามคนตรงหน้า

              มิสเตอร์อิมเงยหน้ามองเขาร่างหนาถอดแว่นกันแดดออกใบหน้าหล่อจ้องมองเขาไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าร่างสูงกระดิกนิ้วให้เขาเข้าไปใกล้ๆ

              “นาย ฉันอยากได้นาย”

              คำพูดเกี้ยวพาราสีของมิสเตอร์อิมทำเอาปาร์ค จินยองพนักงานต้อนรับหน้าเหวอทันที...ใช่ว่าจะไม่เคยโดนลูกเรือด้วยสารเต๊าะแต่นี่คนที่เต๊าะเขานั่นคือเจ้านายของเขาเอง OMG!!!!

              “อ่า...ถ้ามีอะไรที่ต้องการเพิ่มให้เรียกผมแล้วกันนะครับ” จินยองเดินลากแกลเลย์ไปหาเลขาของชายหนุ่มทันทีเขาชงกาแฟให้กับหล่อนพร้อมกับแซนด์วิชแฮมที่เขาอุ่นให้ยื่นมาตรงหน้าหล่อน

              ปาร์ค จินยองใช้เวลาบนเครื่องบินเกือบสิบชั่วโมงจนในที่สุดก็ถึงปลายทางสักทีเสียงกัปตันกำลังนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์

    โปรดทราบ เครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ เจเจ 109 ซึ่งเดินทางมาจาก เกาหลี ได้มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์แล้ว ขอบคุณค่ะ

              เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์อย่างนิ่มนวลจินยองที่หน้าบึ้งชวนหงุดหงิดเพราะตลอดที่อยู่บนเครื่องโดนเจ้านายของตัวเองตอดเล็กตอดน้อยจนจะบ้าแม้กระทั่งจับแก้วกาแฟยังใช้นิ้วมาแตะเขาอีก ขี้หลี! ขณะที่จินยองจะเข็นแกลเลย์เข้าไปเก็บที่นั่งที่มิสเตอร์อิมนั่งนั้นเกิดปัญหานั่นก็คือเข็มขัดมันกดไม่ติด

              “ช่วยฉันหน่อยได้หรือเปล่า” ร่างหนาชี้ไปที่เข็มขัดนิรภัยที่แกะออกไม่ได้ จินยองจึงช่วยเขาลองจับแล้วดึงเข็มขัดนิรภัยแต่ทว่าขณะที่ช่วยนั่นมิสเตอร์อิมนั้นเขาต้องก้มทำให้ใบหน้าของเขาและมิสเตอร์อยู่ห่างกันเพียงนิดเดียวจนกระทั่งจะเกิดความเดดแอร์เกิดขึ้นเมื่อเจ้านายหนุ่มทาบทามริมฝีปากเข้าไปเหมือนเป็นการจุ๊บด้วยสัญชาตญาณทำให้ร่างเล็กถอยหลังทันที

              “คุณทำอะไรของคุณเนี่ย”

              จินยองโกรธหน้าดำหน้าแดง มิสเตอร์ปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออกจากนั้นจะกระซิบที่ใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วยื่นนามบัตรใส่ในกระเป๋าเสื้อเขาก่อนจะเดินจากไป

     

              “หยาบคาย หยาบคายที่สุด!” ร่างเล็กรีบนำนามบัตรออกมาพร้อมขยำเดินไปทิ้งที่ถุงขยะทันที 

     

     

     


     

             

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×