ที่ 20,995 ดอลลาร์ โตโยต้า C-HR นั้นไม่ถูก แต่ราคาถูกกว่าเดิม 1,505 ดอลลาร์ ระดับเริ่มต้นสำหรับรุ่นปี 2019 คือ LE และที่น่าสนใจคือ XLE Premium 2018 ถูกยกเลิกแล้ว
ลูกค้าที่เลือก C-HR LE จะได้รับระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 8.0 นิ้ว, Apple CarPlay, ไฟ LED สำหรับวิ่งกลางวัน, กระจกบังลมแบบอะคูสติก, ระบบปรับอากาศแบบสองโซน, กระจกไฟฟ้าและตัวล็อคตลอดจนกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติและ 4, จอแสดงข้อมูลหลายขนาด 2 นิ้ว สิ่งที่ไม่ดีเป็นพิเศษเกี่ยวกับ LE คือล้อเหล็กซึ่งสูง 17 นิ้วและมีฝาปิดพลาสติกที่ดูไม่เหมือนโลหะผสม
ในระดับนี้เช่นกัน C-HR ติดตั้งเซ็นเซอร์ความปลอดภัยของโตโยต้าเป็นมาตรฐาน แพ็คเกจช่วยเหลือผู้ขับขี่ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่ด้วยเรดาร์แบบไดนามิกพร้อมระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยวไฟสูงอัตโนมัติและระบบป้องกันคนเดินถนนก่อนเกิดการชน XLE มีราคาอยู่ที่ 23,030 ดอลลาร์บวกค่าธรรมเนียมปลายทาง 1,095 ดอลลาร์ ตกแต่งภายในด้วยสีดำเปียโนแบล็คปุ่มกดสตาร์ทกระจกพับอัตโนมัติพร้อมไฟแอ่งหนังที่พวงมาลัยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วและสปอตมอนิเตอร์ คำเตือนการจราจรข้ามหลังคนตาบอด
ที่ปลายอีกด้านหนึ่งของสเปกตรัม Limited ทำหน้าที่เป็นส่วนตั้งค่าระดับไฮเอนด์สำหรับครอสโอเวอร์ซับคอมแพ็ค เน้นหน้าต่างโครเมียม, สีดำเปียโนสำหรับเสา B, ที่ปัดน้ำฝนพร้อมเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน, Entune 3.0 Audio Plus - ฉันชอบ C-HR Limited มากยกเว้น GPS นี่เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมแม้ว่า Toyota จะเรียกเก็บเงินล่วงหน้า 26,050 ดอลลาร์
ในขณะที่ยุโรปชอบ C-HR ที่รองรับไฮบริด แต่สหรัฐฯติดอยู่กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร หน่วยดูดสี่สูบพัฒนา 144 แรงม้า (146 แรงม้า) และแรงบิด 139 ปอนด์ฟุต (188 นิวตันเมตร) และส่งภาพทั้งหมดไปยังล้อหน้าผ่านระบบส่งกำลังแบบแปรผัน
เช่นเคย C-HR ไม่มี Android Auto เนื่องจากโตโยต้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับเทคโนโลยีมิเรอร์สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ในด้านบวกผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นได้ประกาศว่ารุ่นปี 2020 จะมีคุณสมบัตินี้ภายในสิ้นปีนี้ แผ่นป้ายชื่อแรกที่ Android Auto ได้รับในสหรัฐฯ ได้แก่ Sequoia, Tundra, Tacoma และ 4Runner
ความคิดเห็น