สวัสดีค่ะ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน
ห่างหายจากการเขียนบล็อกไปนาน
วันนี้กลับมาแล้ว
ในหัวเรื่อง สักครั้งแรกในชีวิต
ซึ่งจริงๆ ส่วนตัวก็อยากสักมานานแล้ว
สักใต้ร่มผ้า จุดที่สักไว้คือข้างหลังเหนือสะโพกขึ้นมาหน่อย
ก่อนจะสักก็ได้ไล่หาลายที่โดนใจในกูเกิ้ล หาร้าน
ปริ้นท์ลายที่ชอบออกมาระบายสี เพราะอยากสักแบบสี
และก่อนจะนัดช่างก็ได้ศึกษาวิธีดูแลรอยสัก
เราก็ได้นัดช่างไว้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 สักวันที่ 6
ซึ่งก็ได้มีการถามคนที่เคยสักกันว่ามันเจ็บมั้ย
ความรู้สึกเป็นยังไง จุดไหนเจ็บสุด
มันก็ดีที่ว่าจุดที่เราเลือกเจ็บน้อยหน่อย
ทีนี้พอผ่านวันเวลาทำใจไป 3 วัน เมื่อวานก็ถึงวันขึ้นเขียง
แว้นมอไซค์ หลงอยู่ในเชียงใหม่สักพัก 55+ ร้านหายากนิดนึง
แต่มีรีววิวว่าช่างมือเบามากกกก เราก็เลยอยากได้ร้านนี้
พอไปถึง ตัวสั่นจ้าาา สั่นเพราะตื่นเต้น แล้วก็สั่นเพราะไปถึงช้า 55+
ช่างก็เอาภาพที่เราจะสักไปก็อปปี้ลงกระดาษก็อป
แล้วก็เอามาลอกลายลงที่หลังเรา ให้เรานั่งรอ 5 นาที
พอรอเสร็จช่างก็ให้ขึ้นเขียง...
เข็มแรกที่ลง... ไม่รู้สึกเจ็บเลย 555+ แต่มันจั๊กจี๋
เอาตรงๆ เกือบหลุดหัวเราหลยรอบมาก จี้จนขนลุกขนชัน
แต่ปัญหาก็เข้ามา เมื่อช่างบอกว่า...
หนังเหนียวจัง สักไม่เข้า สีไม่ติดเลย...
ทำให้ช่างต้องกดมือหนักขึ้น แล้วก็มีการย้ำเส้นตรงที่ไม่ติด
ตรงนั้นแหละค่ะ ทีนี้เริ่มเจ็บ มันเจ็บแบบแสบๆอ่ะ เหมือนโดนไฟรน
สรุป เมื่อวานตั้งแต่บ่ายสองครึ่งถึงสี่โมงยี่สิบกว่าๆ
ได้แค่ร่างโครงไว้ ช่างบอกว่ารอบหน้ามาย้ำเส้นตรงที่ไม่ติดอีกที
ช่างจะลองเปลี่ยนเบอร์เข็ม เพราะเราหนังเหนียวจริงๆ 55+
นี่ขนาดไม่ได้เล่นของหนังยังเหนียวขนาดนี้นะเนี่ย 555+
หน้าช่างนี่เครียดมากเลยค่ะ ห้องก็ห้องแอร์ ไหงช่างเหงื่อแตก
ก็จ่ายตามระเบียบไป เสร็จแค่ร่างก็ 500 บาท
หน้าตาประมาณนี้ค่ะ
(ถ้าดาวมันดูเบี้ยวๆ ไม่ใช่เพราะเค้าทำเบี้ยวนะคะ เค้าลอกลายดาวกลับหัว 55+ แต่ก็สวยไปอีกแบบ)
นัดช่างไว้อีกทีวันที่ 30 เดือนนี้
ถ้าวันที่ 30 เสร็จทั้งหมดทั้งลงเส้นเพิ่มและก็สี
จะเอามารีวิวลงอีกทีนึงค่ะ
จริงๆ ถ้าหนังเราไม่เหนียวจนช่างต้องได้กดมือหนักๆ
ช่างมือเบามากจริงๆนะคะ คือไม่เจ็บเลยจริงๆ
ความรู้สึกประมาณมีคนเอาไม้จิ้มฟันหรือปากกาลูกลื่นมาจิ้มๆเรา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบล็อกเรานะคะ ^-^
ห่างหายจากการเขียนบล็อกไปนาน
วันนี้กลับมาแล้ว
ในหัวเรื่อง สักครั้งแรกในชีวิต
ซึ่งจริงๆ ส่วนตัวก็อยากสักมานานแล้ว
สักใต้ร่มผ้า จุดที่สักไว้คือข้างหลังเหนือสะโพกขึ้นมาหน่อย
ก่อนจะสักก็ได้ไล่หาลายที่โดนใจในกูเกิ้ล หาร้าน
ปริ้นท์ลายที่ชอบออกมาระบายสี เพราะอยากสักแบบสี
และก่อนจะนัดช่างก็ได้ศึกษาวิธีดูแลรอยสัก
เราก็ได้นัดช่างไว้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 สักวันที่ 6
ซึ่งก็ได้มีการถามคนที่เคยสักกันว่ามันเจ็บมั้ย
ความรู้สึกเป็นยังไง จุดไหนเจ็บสุด
มันก็ดีที่ว่าจุดที่เราเลือกเจ็บน้อยหน่อย
ทีนี้พอผ่านวันเวลาทำใจไป 3 วัน เมื่อวานก็ถึงวันขึ้นเขียง
แว้นมอไซค์ หลงอยู่ในเชียงใหม่สักพัก 55+ ร้านหายากนิดนึง
แต่มีรีววิวว่าช่างมือเบามากกกก เราก็เลยอยากได้ร้านนี้
พอไปถึง ตัวสั่นจ้าาา สั่นเพราะตื่นเต้น แล้วก็สั่นเพราะไปถึงช้า 55+
ช่างก็เอาภาพที่เราจะสักไปก็อปปี้ลงกระดาษก็อป
แล้วก็เอามาลอกลายลงที่หลังเรา ให้เรานั่งรอ 5 นาที
พอรอเสร็จช่างก็ให้ขึ้นเขียง...
เข็มแรกที่ลง... ไม่รู้สึกเจ็บเลย 555+ แต่มันจั๊กจี๋
เอาตรงๆ เกือบหลุดหัวเราหลยรอบมาก จี้จนขนลุกขนชัน
แต่ปัญหาก็เข้ามา เมื่อช่างบอกว่า...
หนังเหนียวจัง สักไม่เข้า สีไม่ติดเลย...
ทำให้ช่างต้องกดมือหนักขึ้น แล้วก็มีการย้ำเส้นตรงที่ไม่ติด
ตรงนั้นแหละค่ะ ทีนี้เริ่มเจ็บ มันเจ็บแบบแสบๆอ่ะ เหมือนโดนไฟรน
สรุป เมื่อวานตั้งแต่บ่ายสองครึ่งถึงสี่โมงยี่สิบกว่าๆ
ได้แค่ร่างโครงไว้ ช่างบอกว่ารอบหน้ามาย้ำเส้นตรงที่ไม่ติดอีกที
ช่างจะลองเปลี่ยนเบอร์เข็ม เพราะเราหนังเหนียวจริงๆ 55+
นี่ขนาดไม่ได้เล่นของหนังยังเหนียวขนาดนี้นะเนี่ย 555+
หน้าช่างนี่เครียดมากเลยค่ะ ห้องก็ห้องแอร์ ไหงช่างเหงื่อแตก
ก็จ่ายตามระเบียบไป เสร็จแค่ร่างก็ 500 บาท
หน้าตาประมาณนี้ค่ะ
(ถ้าดาวมันดูเบี้ยวๆ ไม่ใช่เพราะเค้าทำเบี้ยวนะคะ เค้าลอกลายดาวกลับหัว 55+ แต่ก็สวยไปอีกแบบ)
นัดช่างไว้อีกทีวันที่ 30 เดือนนี้
ถ้าวันที่ 30 เสร็จทั้งหมดทั้งลงเส้นเพิ่มและก็สี
จะเอามารีวิวลงอีกทีนึงค่ะ
จริงๆ ถ้าหนังเราไม่เหนียวจนช่างต้องได้กดมือหนักๆ
ช่างมือเบามากจริงๆนะคะ คือไม่เจ็บเลยจริงๆ
ความรู้สึกประมาณมีคนเอาไม้จิ้มฟันหรือปากกาลูกลื่นมาจิ้มๆเรา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบล็อกเรานะคะ ^-^
ความคิดเห็น