ลำดับตอนที่ #24
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : 二 十 四
เกรงว่าจะมีก็แต่เด็กสาวนางนี้กระมังที่ไม่เคยออกไปเปิดหูเปิดตา รับรู้ถึงชื่อเสียงอันน่ากริ่นเกรงของหยินอ๋อง... เทพสังหารจอมล้างบางผู้นั้น
และทั่วทั้งใต้หล้า... คงมีเพียงนางที่ชะตาชีพสุดย่ำแย่เกินพรรณนา จู่ๆก็เดินไปเตะตาอ๋องปีศาจด้วยฐานะสมบัติฆ่าเวลาเข้า
องครักษ์เงาผู้นำของมาส่งมอบตามคำสั่งลอบคิดในใจ ไม่นานค่อยเลือนหายจากจุดยืนดุจภูตวิญญาณ
เว่ยเซียวโยนสมบัติเงื่อนไขไว้ในห้วงมิติลับก่อนล้มตัวลงนอนเพื่อหลับตาพักผ่อน
อันที่จริง... มีเรื่องหนึ่งซึ่งเว่ยเซียวยังไม่รู้ สมบัติเงื่อนไขทั้งห้าที่เพิ่งส่งถึงมือนางเมื่อครู่นั้น... ไม่ใช่สมบัติเงื่อนไขธรรมดาที่ซื้อหาได้ทั่วไป ...หากแต่เป็นสมบัติเงื่อนไขระดับสูง
ชนชั้นกลางมักแลกเปลี่ยนเสาะหาเพียงสมบัติเงื่อนไขระดับกลางเพื่อใช้เลื่อนขั้น แม้นต้องเผชิญความล้มเหลวถึงเจ็ดส่วน ก็ยังนับเป็นหนทางที่ผู้ฝึกปราณชั้นก่อปราณทั่วไปเอื้อมคว้าถึง
แต่... เทพสังหารแห่งแคว้นเป่ยเจิ้งผู้นี้ กล้ามอบสมบัติเงื่อนไขระดับสูงให้เด็กสาวใช้สอยอย่างสิ้นเปลือง เขาผลักดันนางโดยไม่นึกเสียดาย
ส่วนนี้จะขอเกริ่นอธิบายสักเล็กน้อย สมบัติเงื่อนไขในการเลื่อนขั้นของผู้ฝึกปราณนั้นมีมากมายหลายพันชนิด ทั้งมีความแตกต่าง
สมบัติเงื่อนไขระดับกลาง… แม้ยังดีที่ไม่ลดขั้นผู้ฝึกปราณยามล้มเหลว ทว่าโอกาสฝ่าด่านคือสามในเจ็ดส่วน อัตราสำเร็จเตี้ยกว่าสมบัติเงื่อนไขระดับต่ำเสียอีก ช่างน้อยนิดน่าใจหาย
มีเพียงสมบัติเงื่อนไขระดับสูง… ที่ให้เกณฑ์สำเร็จเต็มสิบส่วนในการฝึกฝนของผู้ฝึกปราณช่วงต้น อย่างไรก็ตาม... อัตราความสำเร็จจะลดหลั่นลงเมื่อก้าวสู่ขอบเขตปราณนภา แต่ก็เรียกว่าแทบไม่มีหนทางความล้มเหลวรออยู่ ไม่ลดระดับของผู้ฝึกปราณ ฝ่าด่านราวเหินขึ้นบันได ง่ายดายยิ่งนัก
เว่ยเซียว เด็กสาวผู้พกพาพรสวรรค์สัตว์ประหลาด เพียงสี่วันหลังได้รับสมบัติเงื่อนไขระดับสูงจากฟู่เหวินหยาง การฝึกฝนของนางก็รุดหน้ารวดเร็วเสมือนย่างก้าวผ่านภูผา
ฟู่ว…
กลางฝ่ามือที่ตั้งทำสมาธิปรากฏให้เห็น ‘ต้นน้ำค้างหยก’ สมบัติเงื่อนไขระดับสูง ค่อยๆซึมซาบผสานรวมกับผิวเนื้อผ่องใสดุจใยไหม
กระทั่งเว่ยจิ่นจี๋ผู้ถูกขนานนามว่าอัจฉริยะน้อยแห่งจวนแม่ทัพบูรพา ยังตรากตรำเป็นเวลากว่าเจ็ดปีถึงก้าวสู่ชั้นก่อปราณขั้นสามตอนปลาย กระนั้นนางก็ต้องหยุดชะงักชนกำแพง ...ไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้
ซ้ำร้าย... เทพแห่งหายนะยังกลั่นแกล้งเว่ยจิ่นจี๋ต่อไปไม่จบสิ้น นางล้มเหลวในการเลื่อนสู่ชั้นก่อปราณขั้นสี่มาแล้วถึงเจ็ดครั้ง
อย่างไรสิ่งที่น่ายินดีกลับไม่ได้มีเพียงเท่านั้น หากความสำเร็จในการฝึกฝนพลังปราณยังช่วยส่งให้เพลิงสีชาดขั้นกำเนิดของเว่ยเซียวแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย
ตอนนี้เว่ยเซียวจึงมีเวลาพักผ่อนและเริ่มร่างแผนการในอนาคตขึ้นอีกลำดับ
ก๊อกๆ
เสียงเคาะเป็นจังหวะดังขึ้นหลังบานประตูไม้แดงที่บ่าวรับใช้นำมาตอกติดใหม่ นำพาเว่ยเซียวให้หลุดจากภวังค์
เจี่ยเอ๋อเปิดประตูพร้อมถือถาดอาหารเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “วันนี้สายลมเย็นสบาย บ่าวจึงตระเตรียมข้าวต้มสมุนไพรให้คุณหนูเจ้าค่ะ”
นัยน์ตาหม่นแสงนิ่งสงบ “หากเสร็จธุระตรงนี้แล้วเจ้าก็ไปพักผ่อนเสียเถิด”
แม้ในอดีตเว่ยเซียวเคยดำรงตำแหน่งเงาสองหน้า ทว่ากับบ่าวผู้จงรักภักดีเช่นนี้ ก็คงไม่ถึงขั้นต้องเสแสร้งตบตา... เพียงสร้างเกราะกำบังเว้นระยะห่างก็พอแล้ว
เว่ยเซียวไม่ยอมมอบความวางใจเต็มสิบส่วนให้สาวใช้เจี่ยเอ๋อ แต่ก็หาได้นึกระแวงนางทุกฝีก้าว
“เจ้าค่ะคุณหนู”
เจี่ยเอ๋อเองก็ตระหนักดี คุณหนูสามผู้นี้แม้เปลือกนอกนุ่มนวลสุขุม ภายในกลับลึกล้ำสุดจะหยั่งและทั่วทั้งใต้หล้า... คงมีเพียงนางที่ชะตาชีพสุดย่ำแย่เกินพรรณนา จู่ๆก็เดินไปเตะตาอ๋องปีศาจด้วยฐานะสมบัติฆ่าเวลาเข้า
องครักษ์เงาผู้นำของมาส่งมอบตามคำสั่งลอบคิดในใจ ไม่นานค่อยเลือนหายจากจุดยืนดุจภูตวิญญาณ
เว่ยเซียวโยนสมบัติเงื่อนไขไว้ในห้วงมิติลับก่อนล้มตัวลงนอนเพื่อหลับตาพักผ่อน
หลังอ่านวิธีใช้จนจำได้ขึ้นใจ เด็กสาวพลันรู้สึกปลอดโปร่งโล่งกาย นี่ดูเหมือน... หนทางฝึกฝนของนางคงจะไม่ขัดข้องไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียว
อันที่จริง... มีเรื่องหนึ่งซึ่งเว่ยเซียวยังไม่รู้ สมบัติเงื่อนไขทั้งห้าที่เพิ่งส่งถึงมือนางเมื่อครู่นั้น... ไม่ใช่สมบัติเงื่อนไขธรรมดาที่ซื้อหาได้ทั่วไป ...หากแต่เป็นสมบัติเงื่อนไขระดับสูง
ชนชั้นกลางมักแลกเปลี่ยนเสาะหาเพียงสมบัติเงื่อนไขระดับกลางเพื่อใช้เลื่อนขั้น แม้นต้องเผชิญความล้มเหลวถึงเจ็ดส่วน ก็ยังนับเป็นหนทางที่ผู้ฝึกปราณชั้นก่อปราณทั่วไปเอื้อมคว้าถึง
แต่... เทพสังหารแห่งแคว้นเป่ยเจิ้งผู้นี้ กล้ามอบสมบัติเงื่อนไขระดับสูงให้เด็กสาวใช้สอยอย่างสิ้นเปลือง เขาผลักดันนางโดยไม่นึกเสียดาย
ส่วนนี้จะขอเกริ่นอธิบายสักเล็กน้อย สมบัติเงื่อนไขในการเลื่อนขั้นของผู้ฝึกปราณนั้นมีมากมายหลายพันชนิด ทั้งมีความแตกต่าง
สมบัติเงื่อนไขระดับต่ำ... มีโอกาสสำเร็จแค่ห้าในสิบส่วน ซ้ำหากควบคุมลมปราณไม่ดีจนธาตุไฟเข้าแทรก ระดับปราณของคนผู้นั้นยังต้องลดถอยไปหนึ่งขั้น ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่จึงไม่นิยมเสี่ยงใช้สมบัติเงื่อนไขระดับต่ำ
สมบัติเงื่อนไขระดับกลาง… แม้ยังดีที่ไม่ลดขั้นผู้ฝึกปราณยามล้มเหลว ทว่าโอกาสฝ่าด่านคือสามในเจ็ดส่วน อัตราสำเร็จเตี้ยกว่าสมบัติเงื่อนไขระดับต่ำเสียอีก ช่างน้อยนิดน่าใจหาย
มีเพียงสมบัติเงื่อนไขระดับสูง… ที่ให้เกณฑ์สำเร็จเต็มสิบส่วนในการฝึกฝนของผู้ฝึกปราณช่วงต้น อย่างไรก็ตาม... อัตราความสำเร็จจะลดหลั่นลงเมื่อก้าวสู่ขอบเขตปราณนภา แต่ก็เรียกว่าแทบไม่มีหนทางความล้มเหลวรออยู่ ไม่ลดระดับของผู้ฝึกปราณ ฝ่าด่านราวเหินขึ้นบันได ง่ายดายยิ่งนัก
อนึ่ง... สมบัติเงื่อนไขระดับต่ำและกลางใช้ได้ในชั้นปราณช่วงต้นเท่านั้น หากเป็นผู้ฝึกปราณระดับสูงเหนือชั้นปราณนภา จำต้องเฟ้นหาเพียงสมบัติเงื่อนไขระดับสูง ซึ่งพบเจอได้ยากยิ่งกว่างมเหรียญใต้ผืนสมุทร
โลกหล้านี้จึงสามารถนับหัวผู้แข็งแกร่งด้วยมือเดียว
เว่ยเซียว เด็กสาวผู้พกพาพรสวรรค์สัตว์ประหลาด เพียงสี่วันหลังได้รับสมบัติเงื่อนไขระดับสูงจากฟู่เหวินหยาง การฝึกฝนของนางก็รุดหน้ารวดเร็วเสมือนย่างก้าวผ่านภูผา
ฟู่ว…
กลางฝ่ามือที่ตั้งทำสมาธิปรากฏให้เห็น ‘ต้นน้ำค้างหยก’ สมบัติเงื่อนไขระดับสูง ค่อยๆซึมซาบผสานรวมกับผิวเนื้อผ่องใสดุจใยไหม
ดวงตาหม่นแสงลืมขึ้นเชื่องช้า มุมปากเจือยิ้มบาง บรรยากาศคล้ายเซียนผู้เริ่มจุติใหม่
จากชั้นก่อปราณขั้นหนึ่งช่วงกลาง หลังประสานมุกมรกต สมบัติเงื่อนไขสำหรับฝ่าขั้นหนึ่งไปขั้นสอง รวมต้นน้ำค้างหยกเมื่อครู่ ...บัดนี้เว่ยเซียวจึงได้เลื่อนเป็นผู้ฝึกปราณชั้นก่อปราณขั้นสามในช่วงต้นแล้ว
กระทั่งเว่ยจิ่นจี๋ผู้ถูกขนานนามว่าอัจฉริยะน้อยแห่งจวนแม่ทัพบูรพา ยังตรากตรำเป็นเวลากว่าเจ็ดปีถึงก้าวสู่ชั้นก่อปราณขั้นสามตอนปลาย กระนั้นนางก็ต้องหยุดชะงักชนกำแพง ...ไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้
นั่นเพราะอะไร? เพราะเว่ยจิ่นจี๋และเว่ยหลางเฟ้นหาได้เพียงสมบัติเงื่อนไขระดับกลาง
ซ้ำร้าย... เทพแห่งหายนะยังกลั่นแกล้งเว่ยจิ่นจี๋ต่อไปไม่จบสิ้น นางล้มเหลวในการเลื่อนสู่ชั้นก่อปราณขั้นสี่มาแล้วถึงเจ็ดครั้ง
อย่างไรสิ่งที่น่ายินดีกลับไม่ได้มีเพียงเท่านั้น หากความสำเร็จในการฝึกฝนพลังปราณยังช่วยส่งให้เพลิงสีชาดขั้นกำเนิดของเว่ยเซียวแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย
ตอนนี้เว่ยเซียวจึงมีเวลาพักผ่อนและเริ่มร่างแผนการในอนาคตขึ้นอีกลำดับ
จากความทรงจำของคุณหนูสามคนก่อน ...กล่าวว่าโลกใบนี้มีสายอาชีพที่เรียกว่า ‘นักหลอม’
นักหลอมแตกเป็นสามแขนงแยกย่อย ประชากรนักหลอมอาวุธจะพบเห็นได้มากที่สุด รองลงมาคือนักหลอมโอสถ ส่วนตัวตนนักหลอมจิตบรรพกาลได้สาบสูญหายไปสิ้น
เว่ยเซียวจำต้องสร้างอาวุธคู่กายเพื่อปลดวิชาเพลิงสมุทร กระบวนท่าลำดับสองแห่งศาสตร์ลับเพลิงวิญญาณ นางจึงอยากเดินบนเส้นทางนักหลอมอาวุธ เพราะเท่าที่รู้มา... ประเภทอาวุธซึ่งปรากฏบนจักรวรรดิช่างอิ่นได้ถูกกำหนดไว้ด้วยกันแปดชนิด
และหนึ่งในนั้นคืออาวุธชนิดพู่กันขนเตียว... เป้าหมายหลักของนาง
พู่กันประทับฟ้า... อาวุธที่นายเหนือหัวเคยมอบแก่เว่ยเซียวในชาติก่อนได้ถูกทำลายทิ้งระหว่างภารกิจสำคัญ ยังผลให้การฝึกของนางช่วงนั้นชะงักติดขัด ไม่อาจนำพาเพลิงสมุทรเดินหน้าเพื่อปลดประตูเรียนรู้ศาสตร์เพลิงทมิฬต่อไปได้
เว่ยเซียวจึงอยากค้นหาหรือสร้างพู่กันด้ามใหม่ด้วยประการฉะนี้ ขอแค่ได้อาวุธประเภทพู่กันมาถือครอง แม้เป็นของชั้นเลวก็เพียงพอให้นางใช้ฝึกฝนแล้ว
ก๊อกๆ
เสียงเคาะเป็นจังหวะดังขึ้นหลังบานประตูไม้แดงที่บ่าวรับใช้นำมาตอกติดใหม่ นำพาเว่ยเซียวให้หลุดจากภวังค์
ปากเล็กเอ่ยอนุญาตเสียงเรียบ “เข้ามาเถอะ”
เจี่ยเอ๋อเปิดประตูพร้อมถือถาดอาหารเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “วันนี้สายลมเย็นสบาย บ่าวจึงตระเตรียมข้าวต้มสมุนไพรให้คุณหนูเจ้าค่ะ”
นัยน์ตาหม่นแสงนิ่งสงบ “หากเสร็จธุระตรงนี้แล้วเจ้าก็ไปพักผ่อนเสียเถิด”
แม้ในอดีตเว่ยเซียวเคยดำรงตำแหน่งเงาสองหน้า ทว่ากับบ่าวผู้จงรักภักดีเช่นนี้ ก็คงไม่ถึงขั้นต้องเสแสร้งตบตา... เพียงสร้างเกราะกำบังเว้นระยะห่างก็พอแล้ว
เว่ยเซียวไม่ยอมมอบความวางใจเต็มสิบส่วนให้สาวใช้เจี่ยเอ๋อ แต่ก็หาได้นึกระแวงนางทุกฝีก้าว
“เจ้าค่ะคุณหนู”
ตัวตนของคุณหนูสามคล้ายมีม่านหมอกบางๆขวางกั้นไว้ มิว่าผู้ใดย่อมไม่อาจฝืนทำลายโดยง่าย
เจี่ยเอ๋อจึงเพียงก้มศีรษะแสดงความเคารพก่อนถอยหลังออกไปอย่างเงียบเชียบ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณที่ติดตามและชื่นชอบนะคะ เราอาจจะไม่ค่อยได้ตอบคอมเมนต์ แต่ก็ตามอ่านอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ ดีใจจริงๆที่นักอ่านหลายท่านค่อนข้างจะมีการตอบรับที่ดี ฉะนั้นเราจะพยายามแต่งออกมาให้ดีนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น