ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 八
กระทั่งเช้าวันที่สี่ เมื่อชั้นก่อปราณทะลุสู่ขั้นหนึ่งในช่วงกลาง เว่ยเซียวจึงได้เรียนรู้ถึงคำกล่าวที่ว่า… วันเวลาแห่งความสุขมักผ่านพ้นไปเร็วเสมอ
ตึงๆๆๆ!
เสียงฝีเท้ามากมายกรูกันมาทางนี้อีกแล้ว เฮ้อ... มาทำอะไรกันอีกเนี่ย ปล่อยให้นางอยู่อย่างสงบบ้างไม่ได้เลยหรือ
เว่ยเซียวเอือมระอาคร้านจะเล่นเป็นเพื่อนพวกนาง เช่นนั้นจึงปีนข้ามหน้าต่างไปหลบซ่อนข้างหลังเรือนพร้อมเงี่ยหูฟังสถานการณ์เงียบๆ
ปัง!
ประตูไม้แดงเก่าโทรมที่มิได้ลงดาลกั้น ถูกผู้มาเยือนกระแทกเปิดโดยง่ายดาย
“นังคนไร้ค่า! …หืม มันหายไปไหนกัน?” เสียงแก่นแก้วของเด็กสาววัยสิบสี่เอ่ยถามคนด้านหลังด้วยไม่เข้าใจ
นางผู้นี้ก็คือเว่ยจิ่นจี๋ เกิดปีเดียวกันแต่ช้ากว่าเว่ยเซียวสองเดือน คุณหนูสี่ผู้ถูกพี่ชายพี่สาวร่วมสายเลือดและมารดาให้ท้ายจนเสียนิสัย มักระบายอารมณ์โดยเฆี่ยนตีบ่าวรับใช้จนถึงแก่ความตายเสมอ
...หนึ่งในคนที่ต้องตกตายด้วยน้ำมือของนางก็คือบ่าวรับใช้ไป๋หลานผู้นั้น
ก่อนจะนึกถึงความเป็นไปได้ข้อหนึ่ง “หรือว่า… มันจะหลบหนีออกจากจวนไปแล้ว!”
ดวงตาของเว่ยจิ่นจี๋สาดประกายคมกล้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น ริมฝีปากนางเผยรอยยิ้มเหี้ยม “มันกล้าลอบออกจากจวนโดยไม่ขออนุญาตท่านพ่องั้นรึ? ดี! หลังจากมันกลับมาข้าจะลงมือสั่งสอนแทนท่านพ่อเอง”
เว่ยซูเม่ยผู้ขลาดกลัวโผล่ศีรษะออกมาจากหลังของแฝดผู้พี่ กระพริบตามองห้องนอนเก่าโทรมที่ว่างเปล่า “พี่สี่… เรือนของนังนั่นโสโครกนัก… เกรงว่าหากรั้งอยู่นานกว่านี้… อาจทำให้ท่านแปดเปื้อนได้นะเจ้าคะ”
เว่ยจิ่นจี๋เหลือบมองน้องหกด้วยหางตา ใบหน้าโอหังเชิดขึ้นเล็กน้อย “ฮึ! ก็จริงอย่างที่เจ้าว่า เช่นนั้นพวกเราไปฟ้องท่านพ่อกันเถอะ ข้ากำลังคิดจะไปพบองค์รัชทายาทอยู่พอดี”
“นั่นสิเจ้าคะ ไม่มีผู้ใดเหมาะสมกับองค์รัชทายาทมากไปกว่าพี่สี่อีกแล้ว… หากมิใช่เพราะนังนั่นมีพระราชทานหมั้นหมายกับพระองค์อยู่ก่อน…” เว่ยซูเม่ยสบโอกาสก็เติมเชื้อเพลิงโดยไม่ลังเล ความพินาศของนังเว่ยเซียวสำหรับนางนับเป็นเรื่องน่ายินดีหาใดเปรียบ
แก้แค้นที่วันนั้นมันหักหน้านางต่อหน้าท่านพ่อและบ่าวรับใช้ …ยืมมือพี่สี่จัดการได้คงไม่เลว
เว่ยซูลี่ลอบยกนิ้วให้น้องสาวฝาแฝด รีบเอ่ยสมทบทันที “จริงด้วยพี่สี่ ท่านต้องจัดการมันให้พ้นทางนะเจ้าคะ”
หากได้เว่ยจิ่นจี๋เป็นผู้ลงมือแล้ว …อย่าว่าแต่ท่านพ่อจะไม่คิดเอาผิดนาง นังสารเลวนั่นสุดท้ายไม่ตายก็ต้องพิการ อยู่ไม่ได้… ตายก็ไม่ได้!
เมื่อเอ่ยถึงพระราชทานหมั้นหมายระหว่างองค์รัชทายาทกับเว่ยเซียว ใบหน้างามที่ฉายแววดื้อรั้นพลันไม่น่าดูขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ามือขาวกำหมัดแน่น
เว่ยจิ่นจี๋ข่มกลั้นโทสะ พยายามนึกย้อนถึงสัญญาที่ท่านพ่อให้ไว้กับตน “ไม่ต้องห่วง… ท่านพ่อรับปากข้าแล้วว่าจะออกหน้าพูดกับองค์รัชทายาท เปลี่ยนแปลงสัญญาหมั้นหมายครั้งนี้ให้ข้า”
อีกทั้งองค์รัชทายาทก็มีท่าทีพึงใจในตัวนางอยู่ไม่น้อย เขาจะต้องไม่ปฏิเสธท่านพ่ออย่างแน่นอน
เว่ยจิ่นจี๋ผู้ลุ่มหลงในรักปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วยิ่ง นางจูงมือสองแฝดหันหลังเดินออกไปอย่างกระตือรือร้น “พวกเราไปเถอะ รีบไปหาท่านพ่อกัน!”
หาท่านพ่อ? นางจะไปให้ท่าองค์รัชทายาทไม่ใช่หรืออย่างไร
เว่ยเซียวที่ยืนสังเกตการณ์เงียบๆมาตลอดลอบถอนใจสมเพช เป็นเด็กเป็นเล็กก็หัดวิ่งตามก้นผู้ชายเสียแล้ว… น่าไม่อาย น่าไม่อาย…
เห็นคนทั้งสามกำลังข้ามพ้นธรณีประตูจากไปโดยไร้รอยขีดข่วน เว่ยเซียวรีบอ้อมไปด้านข้างเรือน เลือกจุดดงป่าไผ่หนาตาเพื่อใช้อำพรางตน
จากนั้น ฝ่ามือขาวเนียนผายไปทางคนทั้งสาม สร้างเพลิงสีชาดลูกเล็กขึ้นมา เป้าหมายคือชายกระโปรงสีชมพูของเว่ยจิ่นจี๋
น้องสาวจะไปหาองค์รัชทายาทไม่ใช่หรือ แต่งตัวเช่นนี้ไม่งามนัก… แต่ไม่ต้องห่วง พี่สาวจะช่วยเจ้าแปลงโฉมเอง
พรึ่บ!
เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นโดยไร้ซึ่งทิศทางลม ณ ที่ตั้งเรือนรกร้างเปลี่ยวผู้คน
ขณะเว่ยจิ่นจี๋ก้าวนำไปด้วยใบหน้าบานแป้นดุจฝาโอ่ง พลันสูดดมได้กลิ่นไหม้บางเบาลอยมาแตะปลายจมูก
นางชะงักฝีเท้า เริ่มหันมองไปรอบๆ ยังไม่สำนึกว่าเรื่องเลวร้ายบางอย่างได้เกิดขึ้นกับตน “ใครเผาอะไรรึ”
ต่างจากคุณหนูฝาแฝดทั้งสองด้านหลังที่บัดนี้หน้าถอดสีไปเรียบร้อย ดวงตาพวกนางเพ่งมองชายกระโปรงสีชมพูของพี่สี่… ที่กำลังติดไฟลุกไหม้!
“พะ… พี่สี่…” เว่ยซูเม่ยอ้ำอึ้งไม่กล้าพูด ทำได้เพียงคว้าไหล่ของเว่ยจิ่นจี๋เอาไว้
เว่ยจิ่นจี๋ขมวดคิ้วหันไปมองน้องหก “น้องสาว เจ้ารั้งข้าทำไม?”
เว่ยซูเม่ยสะดุ้งตกใจ ส่ายหน้าเป็นพัลวัน คำพูดสักคำยามนี้ก็ไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะเอ่ย
เห็นเปลวเพลิงดุจสีโลหิตเริ่มลามไหม้ขึ้นไปถึงกระโปรงส่วนข้อเท้าของเว่ยจิ่นจี๋ เว่ยซูลี่หลับตาแน่นปี๋ ยอมกัดฟันตะโกนออกมาในที่สุด “พี่สี่ ไฟ… มีไฟไหม้… กำลังไหม้ชายกระโปรงของท่าน!!”
เว่ยจิ่นจี๋ทวนคำพูดน้องสาวพร้อมก้มมองชายกระโปรงของตน ก่อนจะเห็นว่าเปลวเพลิงสีชาดกำลังลุกไหม้ไต่ขึ้นมาอย่างช้าๆ “ไฟไหม้กระโปรงของข้า? ไฟไหม้… ฟะ... กรี๊ด!!”
หลังจากนั้น ปฏิกิริยาของนางคือแผดร้องสุดเสียง มือไม้พันกันสะเปะสะปะ กระโดดโหยงเหยงด้วยท่าทางประหนึ่งลูกนกที่พร้อมออกบิน
“กรี๊ดด!”
คุณหนูฝาแฝดทั้งสองสะดุ้งตกใจเสียงโหยหวนของเว่ยจิ่นจี๋ อดไม่ได้ที่จะหวีดตามไปด้วย กระทำราวกับเป็นอาภรณ์ของพวกนางเสียเองที่กำลังติดไฟ
“หยุดโวยวายแล้วมาช่วยข้าดับไฟก่อนเร็ว!” เว่ยจิ่นจี๋ทั้งหวาดกลัวทั้งกรุ่นโกรธ มือสองข้างจับจีบกระโปรงสะบัดพลางออกคำสั่งไปพลาง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น