แด่แม่... ผู้อยู่ในหัวใจนิรันดร์ - แด่แม่... ผู้อยู่ในหัวใจนิรันดร์ นิยาย แด่แม่... ผู้อยู่ในหัวใจนิรันดร์ : Dek-D.com - Writer

    แด่แม่... ผู้อยู่ในหัวใจนิรันดร์

    สงกรานต์ปีใด ก็ไม่สุขใจเท่าตอนแม่อยู่

    ผู้เข้าชมรวม

    270

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    270

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 เม.ย. 61 / 15:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    แด่แม่ผู้อยู่ในหัวใจนิรันดร์

     

     

    คุณเคยทำเหมือนฉันไหม...

    เลิกงานกลับบ้านแทบไม่เคยสนใจสมาชิกในบ้าน ไม่สนใจรอยยิ้มและเสียงเอ่ยถามด้วยความห่วงใยว่า ทำงานเหนื่อยไหมลูก? กินข้าวมาหรือยัง? และมักจะทำกิริยากระฟึดกระฟัดตอบไปว่า อย่าถามมากได้ไหมคนทำงานมาเหนื่อยๆ...


    หรือบางที เลิกงาน ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลียแทบตาย แต่แทนที่จะรีบกลับบ้านไปพักผ่อน กลับไปเที่ยวกลางคืนต่อกับเพื่อนๆ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกดื่น กลับถึงบ้านเจอใครคนหนึ่งนั่งสัปหงกรออยู่และเอ่ยถามอย่างห่วงใย คุณกลับต่อว่าท่านด้วยความรำคาญ...


    และเคยบ้างไหม บางครั้งคุณตื่นสายแล้วลนลาน  หน้าตาบูดบึ้ง อารมณ์เสีย คนผู้แสนดีคนหนึ่งต้มบะหมี่ใส่ไข่หอมฉุยไว้ให้ ก็ไม่กิน แถมทำอารมณ์เสียใส่อีก เพราะพานเรื่องที่จะไปทำงานไม่ทัน...


    นานเท่าไหร่แล้วที่คุณละเลยที่จะเหลียวมองสายตาห่วงใยของคนคนหนึ่งใบบ้าน... นานแค่ไหนแล้วที่คุณปล่อยเสียงเอ่ยถามอย่างห่วงใยของคนคนหนึ่งให้ผ่านหูไปเฉย ๆ อย่างไม่ไยดี ขณะเดียวกันคุณกลับหูผึ่งและตั้งอกตั้งใจฟังดาราที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ในทีวี...


    กี่ครั้งกี่หนแล้วที่คุณเอาเงินเดือนไปเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นเพื่อนๆ หรือนั่งจิบคาปูชิโน่ในร้านกาแฟหรูแถมให้ทิปพนักงานเสิร์ฟทำเท่ให้เพื่อนปลื้ม แต่กลับซื้อก๋วยเตี๋ยวถุงละสามสิบบาทมาฝากคนคนหนึ่งที่รอคอยการกลับมาของคุณอยู่ที่บ้าน... เคยนับดูบ้างไหมว่ากี่หนที่คุณตวาดคนที่เคยดูดขี้มูกให้คุณเมื่อตอนเด็กตอนที่คุณยังสั่งขี้มูกเองไม่เป็น...


    เคยมีใครเตือนคุณไหมว่าคนเราจะไม่อยู่ค้ำฟ้า... เคยมีใครบอกคุณไหมว่าเราควรดูแลถนอมความรักของพ่อแม่ให้มากๆ เพราะท่านมีแต่จะแก่ลงทุกวัน... บางทีเสียงบอกเสียงเตือนนั้นมันอาจจะเบาจนคุณไม่ได้ยิน... เหมือนที่ฉันเองก็ไม่ได้ยิน


    คงเพราะอย่างนี้เอง... ฉันจึงไม่ได้ระวัง ฉันใช้ชีวิตอย่างประมาท ฉันปล่อยให้วันเวลาสูญไปอย่างไม่เห็นคุณค่า ราวกับว่าพรุ่งนี้เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า วันทั้งวันก็จะเป็นของฉัน ทุกสรรพสิ่งจะอยู่ในกำมือฉัน


    ทว่าฉันยังไม่รู้ความจริง... ความจริงสี่ประการที่เคยฟังคุณครูสอนในวิชาพระพุทธศาสนาเมื่อตอนเด็ก มันอาจนานมากจนฉันลืมไปแล้ว... ความจริงที่ว่า ทุกสรรพสิ่งต้องมีเกิด แก่ เจ็บ และตาย...


    ฉันเฝ้าวิงวอนต่อฟ้า วิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รั้งชีวิตนั้นเอาไว้ แต่ไม่สำเร็จ... ลมหายใจสุดท้ายหมดลงและถึงแม้ฉันจะเฝ้าร่ำไห้รำพัน น้ำตาแทบจะกลายเป็นสายเลือด ก็มิอาจเรียกลมหายใจนั้นกลับคืนมาได้เลย ฉันทำได้เพียงเฝ้ามองร่างผู้เป็นที่รักนอนแน่นิ่งที่เหลืออยู่เท่านั้น... 


    ฉันเศร้าโศกกับความสูญเสีย และรู้สึกผิดที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องในอดีต ฉันหมดแรง หมดกำลังใจจะใช้ชีวิตต่อ ฉันอยากจบชีวิตตัวเองเพื่อชดใช้ความผิด


    ตลอดเจ็ดคืนของงานศพ ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายเนื่องจากต้องจัดงานอย่างทุลักทุเลเพราะไม่เคยประสพกับครอบครัวตัวเอง แต่ช่วงเวลาเจ็ดวันนั้นฉันกลับได้คิดทบทวนถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา... ฉันพบว่าแม่ของฉันช่างประเสริฐ แม่อ่อนโยน เอื้ออารี รักสัตว์ รักเพื่อนบ้าน รักญาติและที่ไม่ใช้ญาติ... แม่เป็นเพียงคนแก่หัวโบราณที่การศึกษาน้อย ขี้บ่น และชอบทำกับข้าวพื้นๆ ทั้งๆ ที่ลูกชอบกินอาหารหรูๆ นอกบ้าน 


    ตลอดเจ็ดวันของการจัดงานของแม่ ฉันพบบางสิ่งที่ตลอดสามสิบกว่าปีไม่เคยพบ นั่นคือความเชื่อมั่นที่มีต่อคำสอนของพระศาสดา ฉันพิจารณาดูผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นเจ้านาย  แม้แต่เศรษฐีที่มีเงินมากมาย หรือ คนใหญ่คนโตมีอำนาจ มีบารมีล้นฟ้า ทุกคนล้วนต้องประสพพบเจอกับความจริงสี่ประการนี้... ความจริงสี่ประการทำให้ฉันไม่ประมาทอีกต่อไป ฉันไม่กลัวความเจ็บ ความตาย ฉันหันมากลัวบาป และฉันก็คิดเสมอว่าจุดหมายปลายทางชีวิตคือการทำความดี เพราะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันทำได้เพื่ออุทิศแด่แม่ผู้ประเสริฐของฉัน ฉันเห็นคุณค่าของทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นมดตัวเล็กๆ หรือแม้แต่กิ้งกือหน้าตาน่าเกลียด พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีชีวิต มีบุญกรรมติดตัวมาต่างๆ กัน ฉันเองมีบุญมากมายแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมาเป็นคน ได้เกิดมามีแม่ผู้ประเสริฐ 


    ฉันรู้คุณค่าของทุกวินาทีมากขึ้น ฉันไม่ปล่อยเวลาให้สูญไปกับการนั่งจิบคาปูชิโน่ในร้านกาแฟหรูอีกต่อไป ... และฉันจะพึงระลึกอยู่เสมอว่าหากคืนนี้ฉันหลับตาลงแล้วพรุ่งนี้ฉันไม่มีโอกาสลืมตาขึ้นมาพบกับพระอาทิตย์ยามเช้าของวันใหม่อีก ฉันก็แน่ใจได้ว่าฉันมีเสบียงเพียงพอแล้วสำหรับนำติดตัวไปด้วย... 


    หากวันนี้ คุณได้ยินเสียงเตือนเบาๆ นี้ของฉันแล้ว คุณลองทำตัวเองให้ช้าลง มองสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ คุณให้นานขึ้น สนใจคำพูด และตั้งอกตั้งใจฟังเสียงของคนคนนั้นที่รักคุณสุดหัวใจ เพราะเมื่อวันหนึ่งเมื่อคุณได้มีวันได้ยินเสียงท่านแล้ว คุณจะได้ไม่นึกย้อนมาเสียดายทีหลัง

    ............................................................. 

     

    ด้วยรัก

    ลูกของแม่

     


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×