คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 12 เมื่อมีบางอย่าง
ตอนที่ 12
เมื่อมีบางอย่าง
..รักเพียงข้างเดียว..มันก็ไม่ต่างจากถือของเพียงมือเดียว..
...ทำได้ยู่แล้ว..ก็แค่อดทน..
..เพียงอดทน..ทุกสิ่งก็ไม่ต่างจากเดิม..และไม่สูญเสียอะไร..
......................................................
‘..เซ็ตโชมารุ..’
เสียงเพรียกหาดังเบาๆในใจชายหนุ่มผมเทา ชิคังลูบศีรษะของร่างบางเบาๆพลางผ่อนลมหายใจ
“ ข้าว่าเราไปหาอะไรกินกันดีกว่ามั้ย?..หิวรึเปล่า “ ชายหนุ่มตัดพูดไปเรื่องอาหาร ซึ่งเซ็ตโชมารุพยักหน้ารับ ถึงปากจะบ่นอุบอิบ
“ข้าไม่เห็นชอบเมืองนั้นซักนิด เดี๊ยวข้าไปก็โดนไล่กวดอีก” ร่างสูงหัวเราะก่อนจะเดินตามอสูรหนุ่มที่เดินนำหน้าไปก่อน
ทางเดินรอบตัวทั้งสองต่างเต็มไปด้วยสีสัน ตะเกียงดวงเล็กๆส่องแสงหลากสีต้อนรับวันมงคลอันแสนรื่นเริง ริบบิ้นต่างสีโรยระย้าเป็นสายราวกับสายรุ้ง มันช่างสวยงามกว่าที่ใดๆยิ่งกว่าที่เขาเห็น ดวงตาสีทองคู่งามมองไล่ซ้ายทีขวาทีอย่าสนใจ รอยยิ้มเล็กๆหายากปรากฏที่ใบหน้าหวานซึ่งมักจะเฉยชา ถึงมันจะเพียงเล็กๆน้อย แต่มันก็ไม่อาจรอดสายตาสีเทาของรางสูงไปได้
“ดูเจ้าชอบมันนะ ไหนบอกว่าไม่ชอบเมืองนี้ไงล่ะ “” ร่างบางสะดุ้งโหยง พลางหันน้าหนีแก้เก้อ
“ ก็..ก็ข้าไม่ชอบจริงๆนี่ “ ดวงตาสีทองพยายามบ่ายเบี่ยง ทว่าเมื่อสบกับนัยน์ตาสีเทาล้ำลึกก็ต้องยอมแพ้
“ ก็ได้ๆ ข้าชอบเมืองนี้” เซ็ตโชมารุพูด โครงหน้าติดสวยเหม่อองไปข้างหน้า
“ มันเป็นเมืองที่แปลก ทั้งที่มีอสูร แต่มนุษย์กลับไม่ได้รังเกียจ หรือแม้แต่ปีศาจก็ไม่ทำร้ายมนุษย์..จะเรียกว่าสงบสุขก็ได้น่ะนะ..” ชิคังลอบมองชายหนุ่มผู้มักจะเฉยชาและอมยิ้ม เขานำมือยีหัวร่างเล็กพลางหัวเราะเสียงดัง
“ ทำอะไรน่ะ! “ ร่างบางพูดอย่างไม่ชอบใจ และปัดมือหนาออกจากศีรษะตน คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันพลางจัดผมที่ยุ่งเพราะชายหนุ่มข้างตัวให้เข้าที่
ชิคังยิ้มน้อยๆ เขาชอบช่วงเวลานี้เหลือเกิน
..อยู่ด้วยกันเพียงสองคน ข้างกายมีกันและกัน..ได้เฝ้ามองท่าทางต่างๆที่หลากหลายสีหน้า
..ถึงเจ้าตัวจะไม่รู้ก็เถอะว่าเขารู้สึกอะไร..
ดวงตาสีเทาหม่นหมองลงชั่ววูบก่อนจะเปลี่ยนเป็นใสกระจ่างเช่นเดิม ..ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
เซ็ตโชมารุเดินนำหน้าด้วยใบหน้าที่เหมือนไม่สบอารมณ์หนัก ใบหน้าสวยหันมาทำตาดุใส่เขาทว่าเขากับเห็นว่ามันไม่น่ากลัวซักนิด..โดยเฉพาะหัวที่ดูยุ่งๆเหมือนพึ่งตื่นนอนนั้นก็น่ารักซะมากกว่า ร่างบางมองรอยยิ้มเล็กๆนั้นอย่างไม่สบอารมณ์ และสะบัดหน้าหนี ชิคังแทบหัวเราะพรืดกับท่าทีแบบนั้น แต่ต้องกลั้นไว้ ไม่งั้นอสูรหนุ่มต้องโกรธเขาหนักแน่
ชิคังเดินตามอย่างเงียบเชียบโดยมีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ พลางมองปลายเส้นผมสีเงินสวยที่สะบัดไปมาอย่างเพลิดเพลิน ก่อนหัวใจเขาจะกระตุกเมื่อสะดุดกับฝ่ามือเรียวงามที่วางแนบลำตัว เรียวนิ้วเรียวพอเหมาะมักจะมีไว้ปัดมือเขาเสมอ ..ถ้าเขาจับมันจะเป็นยังไงนะ??
หัวใจเขาเต้นรัวเมื่อยามที่เขาเอื้อมมือเข้าใกล้มือนั้นเรื่อยๆ ไม่รู้ร่างสูงกำลังคิดอย่างไรตอนนี้..เขาเพียงแค่เขยื้อนเข้าหาช้าๆ ทั้งที่ไม่นานแต่สำหรับเขา ราวกับนานแสนนาน
..อีกเพียงนิดเยว..ก็จะสามารกอบกุมมือนั้นไว้
..แต่เขากับชักมือกลับ
‘..การรวบรวมความกล้ามันช่างยากเหลือเกิน..’
ชิคังกำมือตนเองแน่นพลางถอนหายใจอย่างปลงตกกับความงี่เง่าของตัวเอง ..เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้งั้นเหรอ..เรานี่มัน
“ นี่ๆเจ้ามัวทำอะไรอยู่น่ะ?” เสียงๆหนึ่งดังเรียกสติและความคิด ชิคังมองร่างบางเบื้องหน้าอย่างงงงวยก่อนจะมองตัวเอง
‘..นี่เราหยุดเดินตั้งแต่เมื่อไหร่? ‘ ท่าทางร่างบางเรียกเขาเพราะเขาไม่ยอมเดินนี่เอง แต่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
“ เอ่อ..คือ..”
“ เอ้าไปกันได้แล้ว..ข้าหิวจะแย่” ไม่ทันได้คำตอบ เซ็ตโชมารุก็คว้ามือเขาและพาเดินกึ่งลากไปข้างหน้า
ร่างสูงได้แต่เงียบเพราะพูดไม่ออก ดวงตาสีเทาเบิกกว้างมองมือของตนเองซึ่งกำลังถูกดึงจากมือเล็ก หัวใจในอกเริ่มเต้นรัวราวกับกลองพร้อมใบหน้าคมคายที่ขึ้นสีเรื่อหากผู้เป็นต้นเหตุดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็น และเขาก็ไม่ปรารถนาจะให้ร่างบางรู้
..อย่าเลย..ขออย่าให้หัวใจนี้เต้นดังไปถึงเลย..
แม้ใจอยากจะบอก..แต่ก็กลัวที่จะสูญเสีย..ถ้าบอกไปเซ็ตโชมารุจะคิดยังไง??
..เขาไม่อยากที่จะคิดถึงมันเลย..
...แต่........
ริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มปราศจากความเศร้า ความอบอุ่นจากมือเล็กแผ่ซ่านไปทั่วแขน จนเขาไม่อยากที่จะให้มือนี้ปล่อย ดวงตาสีเทามองแผ่นหลังของผู้ครองหัวใจอย่างอ่อนโยน
..แล้วใครว่าแค่แอบรักมันจะมีแต่ทุกข์ล่ะ
ถึงมันจะสุขน้อยกว่ารักเอง..
แต่เขาก็สุขใจ..
“ นี่เขาเรียกว่าอะไรน่ะ? “ ร่างบางพูดไปดึงไป ขณะชี้มือที่นั่นที นี่ที
ชิคังมองเส้นยึกยือๆในจานพลางอมยิ้ม
“ ไส้เดือน ^-^ “
“ ....โกหก -_- “ ร่างบางพูดในทันที ซึ่งเขาก็รับมันด้วยสีหน้าที่เซ็ตโชมารุคิดว่ากวนโอ้ยเป็นที่สุด
‘..อุตส่าถามดีๆ..หมอนี่ ‘ เขาคิดอย่างหงุดหงิด ดวงหน้าเฉยชามุ่นลงขณะมองใบหน้าคมคายที่ยิ้มกว้าง
‘..ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนา!!~”
คิดเสร็จเขาก็ลากร่างสูงไปที่อื่นทันที....ทว่าวามกวนประสาทของชิคังเหมือนจะพึ่งเริ่มต้น
“ ชิ้นนี้มันคืออะไรน่ะ? “ ร่างบางกล่าว
“อุจจาระชุบน้ำผึ้ง “ เซ็ตโชมารุหันขวับไปจ้องดวงตาสีเทาเขม็ง หากผู้กำลังกวนประสาทกลับทำทีใสซื่อเสียนี่
“ นี่ล่ะ”
“ ส้มตำสุนัข ^-^ “
“ งั้นอันนี้ -_-“
“ ลูกตาตุ๊กแกดอง ^_^ “
“ พวกนี้ล่ะ -_- * “
“ ไส้กรอกลำไส้ใหญ่ ^-^”
“ ชิ้นนี้เล่า! -_-** “
“ หางแมวเปิบดิบ ^0^”
“ เจ้า >-< !!!!”
“ จ๋า~~~~~ \ ^o^ “ร่างสูงยกแขนขานรับอย่างอารมณ์ดีผิดปกติ ดวงตาสีทองมีแววขุ่นเคืองหนัก เซ็ตโชมารุเหมือนจะเอ่ยปากว่าอะไรเขาซักอย่างก่อนจะหุปสนิท พลางทำหน้างอก่อนจะเดินจ้ำๆอย่างอารมณ์เสีย
‘..โกรธแล้วสิ ‘ ชิคังคิด
ทางเซ็ตโชมารุที่กำลังเดินดุ่มๆด้วยอารมณ์หงุดหงิด ถึงแม้ใบหน้าหวานจะบอกบุญไม่รับก็ตาม หากกวงตาสีสวยและความงดงามก็ตรึงสายตาใครต่อใครได้อยางง่ายดาย หากความสวยงามนั้นก็เป็นอันตรายได้เช่นเดียวกัน
“ นี่หนุ่มน้อย ไหงทำหน้าแบบนั้นล่ะ หมดสวยกันพอดีสิ” น้ำเสียงแหบแห้งมุ่งร้ายดังมาจากมุมหนึ่งของเมือง เซ็ตโชมารุหันมองตามต้นสียงก็พบกับกลุ่มคน 5-6 คน ที่ดูไม่น่าไว้ใจ ดวงตาสีทองหรี่ลงอย่างระวัง
“ มีอะไร “ เขากล่าวเสียงเย็นชา หากกลุ่มคนพวกนั้นกลับหัวเราะ
“ พูดเสียงซะน่ากลัวเชียว ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ..พวกเราไม่ทำให้เจ็บหรอก “ ชายคนเดิมกล่าว ท่าทางผู้ชายคนนั้นคล้ายบอกอิมเมจอันธพาลอย่างชัดเจนจนไม่ต้องเดา ถึงปากจะพูดว่าไม่ทำอันตราย หากกลุ่มคนที่กำลังล้อมเขาอยู่กลับดูไม่น่าไว้ใจซักนิด
“ หลีกไป “ เซ็ตโชมารุเริ่มขึ้นเสียงเรื่อยๆแต่ไม่ได้สร้างความกลัวแก่ชายหนุ่มในนั้น
“ จุ๊ๆๆ อย่าดุสิ สวยๆแบบนี้ถ้าทำท่าทางอดอ้อนจะน่ารักกว่านะ “ ชายคนเดิมกล่าวอีกครั้งและแสยะยิ้หื่นกาม
“ บอกให้หลีกไงล่ะ! “ เขาผลักให้ชายร่างสูงใหญ่ออกพ้นทาง ทว่ากลับถูกคว้าข้อมือไว้แน่น
“ จะรีบไปไหนจ๊ะ คนสวย..อยู่เป็นเพื่อนพวกเราหน่อยไม่ได้รึไง “ ชายอีกคนหนึ่งเดินมาโอบเอวเขาอย่างถือวิสาสะ ร่างบางชักสีหน้า กรงเล็บแหลมคมกางออกยาว พร้อมดวงตาที่เป็นประกายสีแดงเลือดอันตราย แต่ทันใดนั้น!
ผั๊วะ!!
ร่างของชายคนหนึ่งปลิวกระเด็นกระแทกกับกำแพงท่ามกลางความตื่นตะลึงของพวก เซ็ตโชมารุมองอย่างแปลกใจก่อนจะชะงักเมื่อมีเสียงทุ้มคุ้นเคยเอ่ยจากทางด้านหลัง
“ เอามือของแกออกไป “ ดวงตาสีเลือดยามนี้กลับไหวกร้าวราวกับเพลิงโหมกระหน่ำ ร่างสูงกระชากคอเสื้อคนที่จับข้อมือเขาจนกระเด็นตามคนแรกไป พลางดึงตัวร่างบางไปไว้ด้านล่าง
ดวงตาที่มักจะแสดงความเจ้าเล่ห์และกวนประสาท ยามนี้กลับโกรธจัดจนอันธพาลทั้งหมดไม่กล้าเข้าไกล้ ราวกับมองแค่ดวงตาก็ไม่สามารถคำขยับตัวได้
“ ถ้าพวกแกไม่ไสหัวออกจากที่นี่ในสามวิ ข้าจะเชือดคอพวกเจ้าเรียงตัวซะ!!!” นาราคุตวาดก้อง
“ 1!! ..2!!..”
ยังไม่ทันนับจบ เหล่าอันธพาลก็หนีเตลิดแทบไม่ทัน ส่วนเซ็ตโชมารุที่อยู่เบื้องหลังยังกระพริบตาอย่างงุนงง
นาราคุหันขวับมาทางร่างบางอย่างโมโหก่อนจะพูดเสียงดัง
“ ใครใช้ให้เจ้าวิ่งหนีมาแบบนี้หา!!” อสูรหนุ่มสะดุ้ง และชักสีหน้า
‘. ก็เพราะใครกันล่ะ!! ..’
ร่างบางคิดดังๆในใจแต่ก็ปิดปากเงียบโดยไม่ยอมองหน้าครึ่งอสูรหนุ่มเบื้องหน้า ดวงตาสีเลือดชักก่อนจะหรี่ตาลง นาราคุมองเซ็ตโชมารุซักครู่ก่อนจะพูดขึ้น
“ หัดระวังตัวมากกว่านี้ไม่เป็นรึไง “ เมื่อร่างสูงกล่าวเหมือนจะตำหนิ
“ ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าช่วย ก็แค่พวกมนุษย์ คิดหรือว่าข้าจะโดนทำอะไรง่ายๆ” เซ็ตโชมารุพูดเสียงเย็นชาและตัดรอน หากนาราคุก็รู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้ว แค่มนุษย์เพียงคนสองคนคงทำอะไรร่างบางไม่ได้อยู่แล้ว
..แต่ใครจะกล้าบอกล่ะ..ว่าตัวมันไปเอง
ตอนนั้นที่เขาเห็นร่างบางถูกล้อมด้วยเจ้าพวกนั้นหัวใจก็เต้นระส่ำ แค่เห็นพวกอัธพาลนั้นมาแตะเนื้อต้องตัวเซ็ตโชมารุ เขาก็เดือดจัดจนแทบบ้าแล้ว ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นจนเห็นเจ้าอัธพาลคนหนึ่งล้มกระเด็นไปเพราะโดนเขาต่อย ก็เริ่มรู้สึกตัวว่าได้ทำอะไร
และก็รู้ว่าห่วงคนเบื้องหน้าขนาดไหน..ทั้งๆที่ไม่ควรจะห่วง..
“ เจ้ามาทำไม” ร่างบางกล่าวห้วนๆ แต่นั่นก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ นาราคุเดินไปข้างๆและของสองสิ่งขึ้นมา
“ ข้าได้ยินเจ้าบ่นหิว..ข้าก็เลย...”
“ เซ็ตโชมารุ!!” เสียงเรียกดังมาจากอีกทิศทางหนึ่ง ทั้งสองหันตามเสียงเรียกก็พบกับชิคังที่วิ่งมาอย่างร้อนรน
“ เป็นอะไรรึเปล่าน่ะ?” ชิคังถามอย่างเป็นห่วง เซ็ตโชมรุเลยตอบว่าตัวเองไม่เป็นไร ชายหนุ่มผมเทาจึงยิ้มอย่างโล่งอก
“ เอ้านี่..ข้าซื้อมาไห้.อาหารที่เจ้าชี้อันแรกไง เขาเรียกว่าสปาเก๊ตตี้ “ ชายหนุ่มยื่นจานอาหารที่กำลังร้อนฉุยมาตรงหน้าเขา
“ ไหนบอกว่าไส้เดือนไงล่ะ -_-“ คำเหน็บเพียงเรียกรอยยิ้มจากชิคัง ก่อนที่ดวงตาสีเทาจะสบกับนัยน์ตาสีเลือด
“ นาราคุเจ้าจะเอาด้วยไหม? “ หากนาราคุกลับส่ายหัว
“ ข้ามีแล้ว” พูดเสร็จก็ยกจานข้าวผัดขึ้น โดยไม่มีใครสังเกตถึงมืออีกข้างหนึ่งที่ซ่อนบางสิ่งไว้เบื้องหลัง
ดวงตาสีเลือดหม่นลงราวกับม่านแสง ถึงแม้อสูรหนุ่มจะสังเกตเห็นหากมันก็เพียงพริบตาจนคิดว่าตาฝาด เซ็ตโชมารุจึงจัดการลากชิคังเพื่อหาที่นั่งกินโดยมีนาราคุคอยมองตาม
สีทับทิมมองมือทั้งสองที่กอบกุมกันอย่างเงียบโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ก่อนนาราคุจะนำบางสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ข้างหลังออกมา
มันเป็นจานข้าวที่บรรจุข้าวผัดร้อนๆอมกรุ่นเช่นเดียวกับจานในมืออีกข้างหนึ่ง..จานที่ไม่ได้มีไว้สำหรับเขา..แต่มีไว้เพื่อคนๆหนึ่ง
ไม่ช้าจานอาหารก็ถูกทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดีพร้อมประกายแสงที่แปรเปลี่ยนเป็นเฉยชา
“ ใครเขาจะรับ..เจ้าโง่เอ๊ย..” นาราคุพูดอย่างเจ็บใจ
‘..ก็โดนเกลียดซะขนาดั้น..’
ไม่รู้ว่าทำไม..ใจที่เว้าวอน
..อยากพูดคำซักคำ..คำที่อยากเอ่ย
ข้าอยากพูดอะไรกัน..
...........................................................
เหอๆๆๆๆๆ เสร็จแล้วค่า สอบเสร็จก็รับาปั่นให้ทันที
ติชมด้วยนะคะ อย่าลืมเม้นต์+โหวตด้วยนะคะ
ไม่งั้นเดี๋ยวมีดองด้วย><
ความคิดเห็น