คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : XV_ศิษย์น้อยของข้าเอง
THE WHITE RABBIT
XV
"ขออภัยที่ข้ามารบกวนท่านเวลานี้
ดูเหมือนท่าน... จะยุ่งมาก" ข้านั่งลงตรงข้ามกับมาคุส
บนโต๊ะของเขามีกองหนังสือมากมายเต็มไปหมด ข้าไม่สมควรมารบกวนเขาเวลานี้เลย
"ก็ค่อนข้างยุ่งล่ะนะ
ข้าพึ่งรับศิษย์มาคนนึง ข้าอยากเเนะนำศิษย์น้อยของข้าผู้นี้ให้ท่านรู้จักจริงๆ
องค์ราชา" มาคุสตอบ
เเต่ข้าเคยได้ยินว่าท่านหมอหลวงผู้นี้ไม่คิดรับศิษย์นี่...
"จริงหรือ
เช่นนั้นข้าอยากก็เห็นเขา..."
ปึง!!
เสียงอะไรบางอย่างดังขัดคำพูดของราชา
เมื่อหันไปที่ต้นเสียงก็เห็นประตูบานหนึ่งในบ้านของมาคุสที่มีฝุ่นคลุ้งออกมาตามซอกประตู
"นั่นเสียงอะไรน่ะ"เอกอนเอ่ยถามก่อน
อัศวินที่ตามข้ามาก็มองไปทางประตูพร้อมมือที่จับด้ามดาบคู่กาย
อัศวินพวกนี้นี่ก็จริงๆเลย เเค่นี้ไม่เห็นต้องระวังขนาดนั้นเลยก็ได้
"อ้อ
คงจะเป็นศิษย์น้อยของข้าเอง.... ไวซาน เกิดอะไรขึ้นน่ะ" มาคุสตะโกนเรียกชื่อลูกศิษย์ของเขาซึ่งน่าจะอยู่หลังบานประตู
"อ่า....เอ่อ.... ผมทำหนังสือร่วงน่ะครับ" เสียงตอบกลับดังมาจากหลังบานประตู
เป็นเสียงของเด็กหนุ่มที่ฟังดูตกอกตกใจ
"เจ้านี่ไม่รู้จักระวังเลยน้า
เดี๋ยวข้าช่วยเก็บ..."
"ไม่เป็นไรหรอกครับ!!! ของเเค่นี้ผมเก็บเองได้
ผมกลัวว่าจะรบกวนเวลาของอาจารย์กับเเขกซะเปล่า"คนหลังประตูตอบกลับมาอย่างรีบร้อน
"จะอย่างนั้นก็ได้..."มาคุสเออออไปตามศิษย์
เเล้วกลับมาสนทนากับเเขกตนเองเช่นเดิม "เเล้วท่านล่ะมาหาข้าถึงที่นี่มีเรื่องอะไรหรือ"
"อย่างที่ท่านทราบ
วันนี้ข้ามีประลองกับแฟนเทียส
ที่ป่าปีศาจข้าอยากให้ท่านไปเป็นประจักษ์พยานในการประลองนี้ด้วย"
"ท่านหมายถึง... จะให้ข้าไปดูงานประลองหรือ?" มาคุสเอียงคออย่างข้องใจ
เป็นจังหวะเดียวกับเสียงโครมอีกครั้งหลังบานประตูห้องหนังสือของเขา
"เอ่อ... ใช่
เเต่ถ้ามันรบกวนเวลาของท่าน..."
"โอ้ยย ไม่ๆ
ไม่เลย ข้าต้องไปอยู่เเล้ว เเหมท่านมาหาข้าถึงบ้านเช่นนี้จะปฏิเสธได้อย่างไร
ท่านเตรียมตัวประลองเถอะ เดี๋ยวข้า...เดี๋ยวข้ากับศิษย์ของข้าจะตามไป" มาคุสตอบรับง่ายดาย
ยังไงซะพาเจ้าศิษย์น้อยไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกคงดีกว่าเรียนจากหนังสือล่ะนะ
"ขอบคุณท่านมากที่สละเวลา" เมื่อมาคุสตอบรับคำเชิญ
ไมโครก็ยิ้มออก เขากับอัศวินองครักษ์ที่ตามมาอีกขโยงก็ทยอยออกไปจากบ้านคนเเคระเฒ่า
เเละเมื่อตัวปัญหาออกไปแล้ว
ผมก็ได้เวลาเปิดตัวซะที.... เฮ้อ......
"เจ้าคงได้ยินเเล้วใช่ไหม" มาคุสถามเมื่อผมเดินออกมา
เขาคงหมายถึงที่ไมโครชวนให้ไปงานประลอง
"ครับ" เเน่นอนก็เงี่ยหูฟังอยู่ตั้งนาน
" เอาล่ะวางหนังสือไว้ตรงนี้สิ
เเล้วก็เตรียมตัวไปกันได้เเล้ว "
ฮะ!! จะไปจริงดิ!!
ผมวางหนังสือไว้ตรงที่มาคุสบอก
ผมมองเงาตัวเองในกระจกที่อยู่ไกล้ๆตรงนั้น
ตอนนี้ผมไม่หลือเค้าเดิมของคนที่ชื่อเอริคเลยก็จริง เเต่ผมก็ยังเป็นผมอยู่ดี เป็นคนที่ร่ายเวทย์ฝังไว้ที่หลังไมโคร
เเละเเน่นอนว่าเจ้านั่นต้องรู้ตัวเเน่
ถ้าผมอยู่ไกล้ ถึงผมจะมั่นใจในเวทย์ของเวซานมากเเค่ไหน
เเต่ก็ยะงอดกังวลไม่ได้อยู่ดี
"ราชาเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกันนะ
เวทย์ข้าก็ไม่มีปัญหานี่..." ระหว่างนั้นมาคุสก็ง่วนอยู่กับเวทย์ลวงตาของตัวเองที่ใช้บังบ้านตนไว้
ผมรู้ดีอยู่เเล้วว่าบ้านของเขามีเวทย์ลวงตา
ถ้ามาคุสไม่พามาเองก็คงมาถึงบ้านเขาไม่ได้ ...เเล้วไมโครเข้ามาได้ยังไง?
ผมเดินออกไปนอกบ้านคู่กับมาคุส
ตรงหน้าผมคือบาเรียบางๆที่เเทบมองไม่เห็น สิ่งนี้ทำให้คนที่อยู่ข้างนอกมองบ้านมาคุสเป็นเเค่กำเเพงผุๆเท่านั้น
"คนที่สามารถเข้ามาได้ก็มีเพียงเจ้าเวซานนั่นล่ะ
ส่วนราชาข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นเวทย์ด้วยซํ้าไป"
อืมๆ
ก็เคยได้ยินอยู่ว่าไมโครใช้เวทย์ไม่เป็น...
ฮะ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้บอกว่าไงนะ ?!
"วะ...เวซาน
ผ่านเวทย์ลวงตาของท่านมาได้เหรอครับ?"
"ใช่เเล้ว
ข้าก็ยังข้องใจอยู่เลย ข้าก็คิดอยู่เเล้วว่าเจ้าตัวดีนั่นไม่ใช่คนธรรมดา
บางทีอาจไม่ใช่คน..." จากนั้นมาคุสก็พล่ามทฤษฎีว่าด้วยความเป็นไปได้ของเวซานซึ่งผมไม่ได้ฟัง...
เวซานเป็นคนเดียวที่สามารถผ่านเวทย์ลวงตาไม่ธรรมดาของมาคุสได้
.... ก็เห็นๆกันอยู่เเล้วว่าใครเป็นคนพาไมโครเข้ามา
ไอ้เจ้าบ้านั่นนนนนนน!!!
"เอ่อ...ศิษย์น้อยเจ้าเป็นอะไรรึเปล่า" มาคุสถามเมื่อเห็นผมอยู่ก็กุมขมับ
เเต่คำพูดของมาคุสก็ยิ่งทำให้ผมเครียดไปอีก.... ศิษย์น้อยเนี่ยนะ?!
"ผมไม่เป็นไรหรอก
ท่านไปเตรียมตัวเถอะ" ผมบอกปัดเเล้วยืนสงบสติอยู่เงียบๆ
ฝีมือเจ้าเวซานเเน่ๆ
คิดอะไรอยู่กันน้า ไม่สิเจ้านั่นอาจจะคิดถูกก็ได้...
ผมยืนเหม่อมองไปบนท้องฟ้าสีขาวโพลนยามเหมันต์
... ดูเหมือนหิมะจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเช้าลมไม่เเรงขนาดนี้นี่นา
"พายุกำลังมา" มาคุสที่มายืนข้างๆผมตั้งเเต่เมื่อไรไม่รู้
พูดขึ้น พร้อมยื่นเสื้อคลุมสีนํ้าตาลมาให้ "อากาศไม่เป็นใจเอาซะเลย" มาคุสพึมพำกับตัวเอง
เเล้วกระชับเสื้อคลุมชุดเล็กของตน ก่อนจะดึงฮู้ดขึ้นมาคลุมหัวกันหิมะที่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ผมสวมเสื้อคลุมขนสัตว์ที่ไม่ค่อยจะช่วยให้อุ่นขึ้นสักเท่าไร
ทันใดนั้นเองผืนหิมะใต้เท้าพลันส่องเเสงสีฟ้าซึ่งเป็นสีประจำเวทย์ของมาคุส
สีของอักขระเวทย์เเต่ละคนจะไม่เหมือนกันนั่นดูเป็นเรื่องที่เเปลก เเต่มันก็ดูเป็นเอกลักษณ์ดี
อย่างของมาคุสเป็นสีฟ้า ของบักกี้เป็นสีชมพูเกือบเเดง ส่วนของผมเป็นสีขาว
"ไปละนะ" มาคุสให้สัญญาน
ก่อนที่วงเวทย์ของเขาจะเปล่งประกายเจิดจ้า เเละสถานที่ที่ผมยืนอยู่ก็เปลี่ยนไป...
เวซานยืนนิ่งท่ามกลางหิมะที่โปรยลงมาอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยจนบรรยากาศโดยรอบเป็นสีขาวโพลนกระทั่งนํ้าตกสูงที่อยู่ตรงหน้าเขายังเป็นนํ้าเเข็งทั้งสาย
เวซานมองตามสายนํ้านั้นในใจพลางคิดทบทวนอดีตที่เกิดขึ้น
ไม่ผิดเเน่ ที่นี่
ตอนที่กลับมาโลกนี้กับเอริค...
ป่าปีศาจ
เเละที่นี่ก็มีปีศาจชุกชุมสมชื่อ ทั้งๆที่ไม่ใช่เเดนปีศาจเเท้ๆ
เเต่ป่าปีศาจก็ใช่ว่าจะอันตรายเสมอไป ไม่เช่นนั้น
องค์ราชาคงไม่เลือกที่นี่เป็นสถานที่ประลองหรอก ...
"เเล้วไวซานล่ะเขาไม่มาด้วยหรือ" แฟนเทียสที่พึ่งจิ้มปีศาจต้นไม้ที่พยายามงับเขาไปเป็นมื้อเที่ยง
เอ่ยถามขึ้นมา
"ไม่ทราบสิขอรับ
คงเเล้วเเต่เขาจะเลือกล่ะ"
"งั้นเหรอ" เเฟนเทียสเช็ดดาบที่เปื้อนเลือดเขียวๆของเจ้าปีศาจต้นไม้เล่น
ก่อนจะพูดต่อ "ที่นี่ปีศาจเยอะจริงๆเลยนะ
ถึงจะมีเเต่พวกชั้นตํ่าก็เถอะ" เเฟนเทียสบ่น
เเละไม่มีท่าทีจะเลิกเพราะเขามารอที่นี่เกือบชั่วโมงนึงเเล้ว
"เเล้วเมื่อไรเจ้านั่นจะมานะ
ให้เเขกบ้านเเขกเมืองรอนานเเบบนี้ได้ยังไง" นั่นไงไม่ยอมหยุดจริงๆด้วย
เขาเปล่าให้คุณรอซะหน่อย
คุณมาก่อนเวลาเองไม่ใช่เหรอ...
"มาเเล้วขอรับ" เวซานยืนนิ่งก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้แฟนเทียสต้องหันซ้ายทีขวาที
เมื่อไม่เห็นมีใครนอกจากอัศวินของเขา เเฟนเทียสก็เตรียมจะเอาเรื่องคนหลอกดาว
เเต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร สัญชาตญาณของเขาก็เตือนให้รู้ถึงอันตรายเสียก่อน...
เคร้งง!!
เสียงเหล็กปะทะกังวาลไปทำลายความเงียบของป่า
ไมโครที่โผล่มาตั้งเเต่เมื่อไรไม่รู้ หันดาบเข้าตัวเเฟนเทียส
ซึ่งเจ้าชายน้อยก็ไม่ทำให้เสียใจหันดาบตนเข้ารับอย่างทันท่วงที
"กลัวข้านักหรือไงถึงได้ใช้วิธีลอบกัดเเบบนี้" เเฟนเทียสจับดาบตนเเน่น
เเต่เขาก็รู้สึกถึงกำลังที่มากกว่าจากราชาองค์นี้
"ข้าเเค่อยากรู้ว่าเเค่องค์ชายน้อยอย่างท่านจะมีปัญญารับมือข้าหรือเปล่าเท่านั้นเอง" ไมโครไม่สะทกสะท้านกับคำด่าเจ็บเเสบนั่น
เเต่ตอกกลับไปอย่างเจ็บเเสบไม่เเพ้กัน
ดาบทั้งสองผละออกจากกัน
เป็นจังหวะที่เวซานเห็นบุคคลที่อยู่หลังไมโคร ถึงใบหน้าของทั้งสองจะถูกปิดไว้เเต่ไม่ผิดเเน่
... ร่างหนึ่งเตี้ยอย่างคนเเคระ
ร่างหนึ่งสูงเพรียวลม ไวซานกับมาคุสนั่นเอง
ฝีมือมาคุสสินะเวทย์เคลื่อนย้ายที่เเม่นยำนั่น
อัศวินทั้งขโยงของฝ่ายโพราซอนเเละเอริคาซีถอยห่างจากระยะการต่อสู้
ถึงเเม้ฝ่ายโพราซอนจะไม่พอใจที่ราชาของอีกฝ่ายใช้วิธีลอบกัดเช่นนี้
เเต่ก็ทำได้เพียงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาจิกกัดเท่านั้น
ยกเว้นเเต่เพียงผู้เดียว...
จีนอสอัศวินคู่กายของเเฟนเทียสคอยปกป้องอยู่หลังเจ้านายตนเสมอเเต่เเค่ห่างสายตาไปพักเดียว
ก็เกือบโดนเจ้าราชานั่นจ้วงเอาเสียเเล้ว เช่นนั้นครั้งนี้ข้าก็ขอไม่พลาดอีก
ดาบของจีนอสปัดป้องดาบของเอกอนที่พยายามลอบเเทงข้างหลังได้อย่างทันท่วงที
ก่อนที่อัศวินร่างใหญ่ดั่งหินผาอย่างจีนอสจะรุกไล่เอกอนที่เพรียวลมกว่าอย่างเห็นได้ชัดออกห่างจากนายตน
องครักษ์ทั้งสองเปิดฉากเดือดตั้งเเต่เริ่มเเรก
มีเพียงเหล่าเจ้านายทั้งสองที่ยังมองหน้ากันนิ่งไม่คิดจะบุกสักที
" หึ... อย่าทำปากดีไปหน่อยเลยราชา
เจ้าคงกลัวชื่อของนักรบเเห่งโพราซอนจนถึงได้ใช้วิธีไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้"
" ใครกันที่กลัว
ไม่ใช่ท่านพ่อของท่านหรอกหรือ ที่ไม่กล้าเเม้เเต่จะมาเหยียบอาณาจักรข้า "
...ดูเหมือนทั้งสองคนยังไม่คิดประดาบเเต่อยากประลองฝีปากกันก่อน
เเต่ก็ถือว่าดีที่สุดเเล้วที่ไมโครไม่ได้หันมาสนใจศิษย์ใหม่ของมาคุสอย่างผม
หลังจากวาร์ปออกมาจากบ้านมาคุส
ผมก็มาโผล่ที่วังหลวง มาคุสเสนอเเผนลอบกัดเด็ดๆให้
ซึ่งไมโครก็ยอมรับโดยไม่สนใจศักดิ์ศรีราชาเเม้เเต่น้อย
สุดท้ายผมเลยโดนวาร์ปอีกรอบมาที่นี่พร้อมเหล่าอัศวิน
เวทย์ของมาคุสเเม่นยำจนน่าทึ่ง ถึงผมจะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายระยะไกลเช่นนี้ได้เเต่ก็คงไม่สามารถมาส่งใครมาถึงนี่ได้ตรงกบาลของอีกคนเป๊ะๆเเน่
จะว่าไป... เมื่อกี้เห็นเจ้าเวซานอยู่นี่นา
หายไปไหนเเล้วฟะ ไวชะมัดยาด
"ศิษย์น้อยเมื่อครู่ข้าว่าข้าเห็นพี่เจ้านะ
เจ้าเห็นรึเปล่า"
นั่นไง... ว่าเเล้วว่ามาคุสต้องเห็น
ถามได้ตรงใจผมจริงๆครับท่านอาจารย์
"ไม่นี่ขอรับ" ผมโกหกไป
เจ้าเวซานคงไม่อยากให้มาคุสรู้หรอกว่าตัวเองอยู่นี่
เเถมยังอยู่ฝ่ายตรงข้ามซะด้วยสิ...
เคร้งง!!
เสียงโลหะปะทะกันดังสนั่น
เรียกสมาธิของผมให้จดจ่ออยู่ที่การประลองทั้งไมโครเเละแฟนเทียสเริ่มเอาจริงกันเเล้ว
ฝีมือทั้งสองคนสูสีกันเลยทีเดียวเชียว
การปะทะที่หนักหน่วงขึ้นทำให้ผมเริ่มลุ้นว่าใครจะชนะ
....เเต่ผมก็เป็นองครักษ์คนนึงของไมโครนี่นา
จะอยู่เฉยๆคงไม่ได้ งานนี้ขอเเจมด้วยเเล้วกัน
รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นกลางใบหน้าของไวซาน
ทำเอามาคุสเเอบสะดุ้ง ไม่ทันได้สังเกตท่าทางของแฟนเทียสที่ดูเเปลกไป
เจ้าชายหัวเเดงการเคลื่อนไหวช้าลง พยายามป้องกันดาบของไมโครทุกๆดาบ
เขามั่นใจว่าดาบราชาองค์นี้ยังไม่เคยโดนเนื้อเขาสักนิด
เเต่ทุกๆครั้งที่เขาพยายามสร้างเเผลให้ฝ่ายตรงข้าม เเผลนั้นกลับย้อนมาโดนตัวเขาเองอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"ท่านเล่นตลกอะไรเนี่ย" เเฟนเทียสขึ้นเสียงถาม
ก่อนจะถีบตัวถอยห่างจากระยะดาบของไมโคร ฝ่ายราชาเองก็ดูเเปลกใจเช่นกัน
เเต่ไม่ใช่เเปลกใจในคำพูดของแฟนเทียส
เเต่เป็นเสียงกระซิบเบาๆจนเหมือนเขาจะหูฝาดไปเอง
เสียงที่เขาเคยได้ยินเพียงครั้งเดียวจนเกือบจะลืมเลือน ...
'ผมจะช่วยนายเอง'
เจ้าอยู่ที่นี่หรือ เอริค?
อีกด้านในเขตเมืองหลวง
พบกับตัวละครที่(เกือบ)ถูกลืมเลือน
"ไปไหนกันหมดนะ..." ไทปัสเปิดเข้ามาในห้องพักของไวซานกับเวซานพี่น้องหัวขาวที่เขาพึ่งเจอได้วันเดียว
เเล้วทั้งสองคนนั้นก็หายไปซะเฉยๆไม่บอกไม่กล่าวกันซักคำ ทำเอาไทปัสที่อุสส่า
เผื่อเเผ่มื้อเช้ายกถาดอาหารมาให้ ตรงยืนเก้ออยู่ตรงนั้นเสียก่อน
"รึว่าจะหนีไปจับเจ้าผีดิบกันเเค่สองคน" ไทปัสพึมพำกับตัวเอง
"เเน่ๆเลย
เจ้าสองตัวนั่น!!"
ไทปัสเเทบจะเขวี้ยงจานอาหารทิ้งถ้าไม่นึกขึ้นได้ซะก่อนว่าอาหารจานนี้มันขูดรีดเงินเก็บเขาไปเท่าไร
"...เเต่ไม่อยู่ก็ดีเหมือนกันเเฮะ" ไทปัสยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะวางถาดอาหารลง
เเล้วกวาดตามองไปรอบห้องจนไปสะดุดกับเป้ใบหนึ่งซึ่งถ้าเขาจำไม่ผิดน่าจะเป็นเป้ของเวซาน
ดูท่าเเล้วเจ้าของเป้ท่านนี้คงไม่คิดจะระวังตัวเท่าไรถึงได้วางไว้โต้งๆไม่เเคร์สายตาหัวขโมยน้อยอย่างไทปัสเอาซะเลย
"เฮ้.... เวซานฉันขอดูเป้นายหน่อยนะ" ไทปัสขออย่างมีมารยาทเเต่มันคงจะมีมารยาทมากกว่านี้ถ้าเจ้าของชื่ออยู่ด้วย
"อ้อ
ดูได้เหรอ ขอบใจมากน้า~" หัวขโมยน้อยเข้าโหมดพูดเองเออเอง
ความหน้าด้านระดับไทปัสซะอย่างใครมันจะไปเทียบได้
"หุหุหุ" เจ้าหัวขโมยน้อยทำหน้าเจ้าเล่ห์เเล้วมุ่งไปที่เป้าหมายของตัวเองก่อนจะค้นของในนั้นออกมาอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวสารพัดถูกโยนออกมากองๆไว้กับพื้น
ถ้าไทปัสดูดีๆคงจะเห็นชุดสีดำตัวน้อยของเจ้ากระต่ายบักกี้อยู่ด้วย
"เจ้าขี้เหนียวนั่นเอาเงินเก็บไว้กับตัวงั้นเหรอเนี่ย" ไทปัสบ่นเมื่อไม่เจอเหรียญสักเเดงเดียว
"ไม่สิ๊
มันน่าจะมีของมีค่าบ้างล่ะน้า" เจ้าหัวขโมยน้อยเเทบจะเอาหัวมุดเข้าไปในถุงผ้า
จนมือคลำสะเปะสะปะไปเจอกล่องไม้เเข็งๆที่อยู่ก้นกระเป๋า
"อะไรเนี่ย" ไทปัสหยิบมันขึ้นมา
กล่องไม้ขนาดเท่าฝ่ามือดูเก่าเเก่เเต่ความสวยงามคงลายไม้ยังคงอยู่
เเละด้วยความอยากรู้อยากเห็นไทปัสจึงถือวิสาสะเปิดมันออกมา
ภายในกล่องเป็นวัตถุทรงกลมเเบน มีสายโซ่ห้อยคล้องมันไว้
ไทปัสนึกได้ทันทีเมื่อเห็นมัน
"...นาฬิกาพก" หัวขโมยน้อยเอ่ยด้วยความเเปลกใจ
พลางหันซ้ายเเลขวาตามสัญชาติญานเมื่อเเน่ใจว่าไม่มีใครอยู่จึงค่อยๆบรรจงหยิบมันขึ้นมา
นาฬิกาหกเรือนนี้ทำจากเงิน มันยังดูใหม่กริ๊กทั้งๆที่น่าจะผ่านกาลเวลามานานเเล้ว
ไทปัสดูจากลวดลายที่สลักบนนาฬิกาเเล้วมั่นใจว่ามันไม่ใช่ศิลปะยุคนี้เเน่
ไทปัสเอานาฬิกาพกวางลงที่เดิม
ถึงจะสวยเเต่ก็ไม่ได้ดูมีราคาซักเท่าไร แถมมันพังเเล้วซะด้วย เข็มไม่กระดิกเลย
ระหว่างที่เอานาฬิกาพกวางที่เดิม
ไทปัสก็บังเอิญเห็นกระดาษเเผ่นนึงที่วางอยู่ก้นกล่อง
เป็นกระดาษสีชาที่ไกล้จะย่อยสลายไปตามกาลเวลาเเล้ว เเต่ดูเหมือนเจ้าของจะดูเเลรักษามันอย่างดีทั้งเจ้ากระดาษเเผ่นนี้กับนาฬิกาพกถึงได้ไม่มีฝุ่นเกาะเลย
เเละตามนิสัยไทปัสจัดการสอใส่เกือกทันใด
หยิบกระดาษออกมาก่อนจะเปิดดู
เเต่บนกระดาษเเผ่นนั้นไม่ใช่ตัวหนังสือหรือรหัสลับเเต่อย่างใด เเต่เป็น.... รูปผู้หญิง?
"ใครเนี่ยสวยเเฮะ....อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นมันมีความรักกับเขาด้วย" ไทปัสพิจารณารูปวาดอย่างสนอกสนใจ
เป็นรูปของหญิงสาวที่มีใบหน้าอันออ่นโยน ดวงตาคมสวย เเละรอยยิ้มที่ชวนเคลิบเคลิ้ม
ต้องยอมรับในฝีมือคนวาดจริงๆ
ที่สามารถคงความสวยงามของหญิงท่านนี้ไว้ได้เเม้กระดาษที่ใช้วาดจะเก่าเข้าขั้นเก็บไว้พิพิธภัณฑ์ได้เเล้ว
ไทปัสเก็บนาฬิกากับรูปวาดเข้าที่เดิมให้เรียบร้อย
ถ้าเวซานเก็บดีขนาดนี้คงเป็นของสำคัญจริงๆ...
"กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!!"
ไทปัสสะดุ้งเฮือกกับเสียงกรี๊ดลั่นปานเห็นฟ้าถล่ม
ที่ดังอยู่ด้านนอก
"อะไรฟะนั่น
กรี๊ดอย่างกะตึกถล่ม..."
ครืนนน.... โครม!!!
โอเค... เหมือนมันจะถล่มจริงๆเเฮะ
ไทปัสโกยอ้าวไม่คิดชีวิตออกจากห้องไปทันที
เมื่อรู้สึกได้ถึงเเรงสั่นสะเทือนเเละรอยเเตกที่กระจายเป็นใยเเมงมุมในห้องที่เขาอยู่
สัญชาติญานบอกเขาให้วิ่งออกมานอกตึกที่อยู่ ก่อนที่มันจะพังลงมา....
โครมมมม!!!!
เเล้วมันก็พังลงมาจริงๆ
"กรี๊ดดดดด
ปีศาจ!!!"
หญิงที่วิ่งออกมาเหมือนกับเขาชี้ไปที่มุมนึงของตึกปรากฏร่างปีศาจครึ่งมนุษย์ครึ่งค้างคาวที่ตัวประมาณเด็กเล็กๆดวงตาสีเเดงกลมโตเท่าไข่ห่านกระพริบปริบๆไปมาดูน่ารัก
เขี้ยวน้อยๆงอกออกมาที่มุมปาก
เเต่มันจะดูน่ารักมากถ้ามันไม่กำลังฉีกกินเนื้อของผู้หญิงคนนึงอยู่
เเละ....มันจะดูน่ารักว่านี้
ถ้าไม่มากันเป็นร้อยตัว!!!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น