ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] LES VACANCES. #BNIOR #JACKJAE #YUGMARK #MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #13 : 1 2 | Si tu m’aime. (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 955
      6
      26 ก.พ. 59



    12 | Si tu m’aime.

     

    14 เมษายน 20XX

     

    วันที่สามของทริปนี้เป็นอะไรที่อึดอัดอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    ภายในห้องนั่งเล่นที่ถูกเนรมิตเป็นห้องอาหารเนื่องจากจำนวนคนที่มากเกินกว่าที่โซนครัวของคอนโดจะรองรับได้ ทำให้ทุกคนต้องย้ายมานั่งกินมื้อเช้ารวมกันบนพื้นห้องหน้าโทรทัศน์แทน

    ทว่า การเริ่มต้นมื้อแรกของวันด้วยความเงียบทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจสำหรับทุกคน เพราะตั้งแต่เริ่มรับประทานมื้อเช้า ก็ยังไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาตั้งแต่ครั้งเดียว หากแต่ที่น่าอึดอัดใจไปกว่านั้น ก็คงจะไม่พ้นสีหน้ามึนตึงของบุคคลทั้งสี่คนอย่างจินยอง แจบอม ยองแจ รวมไปถึงแจ็คสันที่เป็นหัวหน้าทริปนี้

    และมาร์คก็ไม่ใช่คนที่จะทนเห็นบรรยากาศอันน่าเบื่อได้นานนัก และเมื่อนึกถึงตารางการท่องเที่ยวที่แจ็คสันจัดไว้ในวันนี้ ตามตารางระบุไว้ว่า พวกเขาจะต้องเดินทางไปยังพัทยาซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพออกไปไม่ไกลนัก มาร์คไม่ได้ห่วงเรื่องการเดินทางแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เขากำลังกังวลก็คงจะไม่พ้นบรรยากาศตึงเครียดตรงหน้าเสียมากกว่า ขืนเดินทางไปในสภาพนี้ มีหวังได้กร่อยกันยันจบทริปแน่ๆ

     

    ปาท่องโก๋อร่อยดีนะ…” แต่ก็นั่นล่ะ มาร์คก็ไม่ใช่คนพูดเก่งอะไรขนาดนั้น ประโยคสนทนาที่ฟังดูน่าขบขันจึงถูกส่งออกไปเพื่อทำลายความเงียบ

    ร้านนี้อมน้ำมันอ่ะและก็เดาได้ไม่ยากว่าใครจะเป็นคนขัดบทสนทนาของมาร์คในลักษณะแบบนี้

     

    มาร์คเหลือบตาไปมองรุ่นน้องตัวสูงที่เพิ่งมีคดีกับเขาไปเมื่อวาน แต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ไม่ได้มีท่าทีทุกข์ร้อนอะไรกับสายตาของมาร์ค เพราะเด็กหนุ่มยังคงฉีกปาท่องโก๋กินกับน้ำเต้าหู้อย่างสบายใจ แม้ว่ามาร์คอยากจะสวนกลับตามประสาคนปากไวเวลาเจอคนที่เขามีทิฐิอยู่ แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว ก็ทำให้มาร์คเลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำ อีกทั้งยังคงเก็บงำความสงสัยและความรู้สึกที่เริ่มตีรวนในใจของเขาเอาไว้

    ย้อนกลับไปเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่มาร์คได้เห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของยูคยอมโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบความคิดของมาร์คก็ทำงานอย่างหนักตั้งแต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา เริ่มตั้งแต่ตอนอาบน้ำ จนกระทั่งศีรษะของเขาแตะกับหมอนแล้วก็ตาม

     

    ภาพแฟนเพจที่ชื่อ mtuan93_photo ที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของยูคยอมยังคงติดตามาร์คอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดูจากชื่อแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นแฟนเพจของพวกช่างภาพหรือคนที่ชอบถ่ายรูป

    แต่ที่น่าขันปนน่าตกใจก็คงจะไม่พ้นเรื่องที่ว่า แฟนเพจดังกล่าวกลับเป็นพื้นที่บนโลกออนไลน์ของมาร์ค และที่สำคัญแฟนเพจนั้นนอกจากจะมีภาพถ่ายจากงานต่างๆที่เขาได้รับเชิญในฐานะสื่อมวลชนแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่มาร์คใช้แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวลงไปอีกด้วย และเผลอๆอาจจะมากกว่าที่เขาอัพเดทในเฟสบุ๊คส่วนตัวเสียด้วยกระมัง

     

    เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องโลกกลมมันมีอยู่จริง อะไรจะทำให้โลกที่กว้างขนาดที่เราไม่สามารถใช้ทั้งชีวิตเดินทางได้จนหมดเหวี่ยงให้คนสองคนที่โอกาสจะได้พบกันเป็นศูนย์มาเจอกัน แต่ถ้าจะต้องนับเรื่องของจินยองกับแจบอม และเรื่องของเขากับยูคยอมแล้ว ดูเหมือนว่าเขาคงต้องเปลี่ยนความคิดเสียแล้ว

     

    วันนี้พี่มาร์คดูอารมณ์ดีจังเลยนะครับเป็นแบมแบมที่ทักขึ้นมา เพราะปกติน้อยครั้งที่ตากล้องอินดี้คนนี้จะเป็นคนเริ่มเปิดวงสนทนา

    ปกติก็ขี้เกียจพูด แต่พี่ก็ดันไม่ชอบบรรยากาศอึมครึมแบบตอนนี้น่ะมาร์คว่าพลางกวาดสายตารอบวง ซึ่งสายตาของมาร์คก็ทำให้แจ็คสันที่กำลังนั่งดื่มกาแฟ จินยองที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ แจบอมที่ฉีกปาท่องโก๋กินอยู่เงียบๆ และยองแจที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ถึงกับมองมาที่มาร์คพร้อมกันทันที

    ขี้เกียจพูดแต่ไม่ชอบอะไรเงียบๆ ชีวิตพี่ดูย้อนแย้งจังและก็ไม่ต้องทายว่าใครจะเป็นคนที่พูดประโยคนี้ หากไม่ใช่คู่กรณีของเขาอย่าง...

    ไม่กวนประสาทฉันสักครั้งมันจะตายหรือยังไง ยูคยอม ?และมาร์คก็ไม่ใช่คนใจดีที่จะทนฟังเด็กโข่งที่กำลังกินมื้อเช้าอย่างสบายใจได้นานนัก

    กูว่าสิ่งที่น่าเบื่อกว่าความเงียบคือเวลาที่มึงสองคนเถียงกันนี่แหละว่ะแจ็คสันที่เงียบอยู่นานถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

    แล้วก็กูขอเปลี่ยนแผนนะ วันนี้ตามแพลนที่เราวางไว้คือจะไปพัทยา แล้วก็จะไปเล่นสงกรานต์ แต่อันนี้ตามแต่สมัครใจนะ ใครอยากไปก็ไป ใครไม่ไปก็นอนเฝ้าห้องไปแจ็คสันอธิบายแผนการเที่ยวสำหรับวันนี้ให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน

     

    ใช้เวลาบนโต๊ะอาหารมื้อเช้าเพียงไม่นาน ก่อนที่การออกเดินทางไปยังพัทยาจะเริ่มต้นขึ้น และเพียงไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกคนก็เดินทางมาถึงรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นบ้านบังกะโล ที่สำคัญคือเป็นที่พักที่ติดกับชายทะเล เมื่อมองออกไปนอกระเบียงเผยให้เห็นชายหาดสีขาวสะอาดตัดกับน้ำทะเลที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์ เป็นบรรยากาศที่สวยงามและเหมาะแก่การพักผ่อนสำหรับหลายๆคน ทำให้บรรยากาศมึนตึงในตอนแรกเริ่มผ่อนคลายลง

     

    ทะเล !” ยังไม่ทันที่จะจัดข้าวของ ยูคยอมที่กำลังอยู่ในวัยรักสนุกก็โยนสัมภาระทุกอย่างไว้หน้าประตูบ้านแล้ววิ่งลงไปกระโดดโลดเต้นบนหาดทราย เรียกเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูจากบรรดารุ่นพี่ได้เป็นอย่างดี

    มึงแม่งเด็กว่ะ อ่อน !” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่แจ็คสันก็เป็นคนถัดไปที่วิ่งตามไปกระโดดขี่หลังยูคยอมอยู่ดี

    รอผมด้วยสิ !” แบมแบมที่กำลังรื้อกระเป๋าเดินทางรีบทิ้งทุกอย่างแล้วลงไปร่วมวงกับแจ็คสันและยูคยอม

     

    ภาพของผู้ชายตัวทั้งสามคนที่กระโดดโลดเต้นกันอยู่บนชายหาดตกอยู่ในสายตาของผู้ชายอีกสี่คนที่ยืนมองอยู่ภายในบ้านผ่านทางหน้าต่างริมระเบียงที่ติดกับชายทะเล

     

    จินยอง…” มาร์คหันไปเรียกคนที่ยังไม่เปิดปากพูดอะไรเลยตั้งแต่เช้าวันนี้

    หืม ?คุณหมอหนุ่มที่ยืนท้าวคางมองบรรยากาศนอกบ้านหันมามองอย่างฉงน

    ฉันกะจะออกไปถ่ายรูปสักหน่อย อยากลองกล้องตัวใหม่ที่ซื้อมา ไปเป็นนายแบบให้หน่อยสิ

    อย่าเลย ฉันไม่เหมาะกับอะไรแบบนั้นหรอกจินยองปฏิเสธโดยที่ไม่คิดแม้แต่น้อย แต่จินยองก็ประมาณการณ์ไว้แล้วว่า สายตาของมาร์คต้วนกำลังบังคับเขาอยู่ชัดๆ

    ไปเถอะน่า นายดูดีจะตายตอนถ่ายรูปและจินยองก็ไม่ได้ทายผิดไปแม้แต่น้อย

    ทำไมไม่ลองพายองแจไปถ่ายแทนล่ะ ?คนที่กำลังถูกบังคับในตอนแรกเปลี่ยนเป้าหมายไปทางนักเขียนหนุ่มที่กำลังยืนซึมซับบรรยากาศอยู่ใกล้ๆกัน

    ผมเหรอครับ ?ยองแจแสดงสีหน้าเหวอพลางชี้นิ้วไปที่ตัวเองอย่างงงๆ

    ก็ดีเหมือนกันนะ มาเป็นนายแบบให้พี่หน่อยสิยองแจมาร์คเริ่มหันไปตะล่อมยองแจแทน

    แต่…” ยองแจยืนครุ่นคิดอย่างหนัก ด้วยความที่เขาเป็นมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังมาตลอด เวลาถูกชวนไปทำอะไรที่ต้องโชว์ตัวก็ค่อนข้างจะหนักใจเล็กน้อย แล้วยิ่งคนตรงหน้าที่กำลังมาขอร้องเขาก็เป็นถึงตากล้องชื่อดัง ซึ่งยองแจก็ไม่รู้ว่ามาร์คจะเอารูปของเขาไปทำอะไรหรือเปล่านี่สิ

    ถ้าเป็นนายแบบให้พี่ งานเขียนของยองแจรอบหน้าพี่จะออกแบบหน้าปกให้ฟรีๆเลย

    เอ่อ…”

    แถมด้วยโปสการ์ดรูปถ่ายเป็นของแถมให้คนอ่านด้วยนะบางทียองแจก็รู้สึกว่ามาร์คต้วนเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

    ก็ได้ครับ…” บอกเลยว่างานนี้ยองแจไม่ได้งกจริงๆนะ

    ว่าแต่จินยองกับแจบอมล่ะ จะลงไปเล่นที่ชายทะเลด้วยกันหรือเปล่า ?มาร์คย้อนกลับมาถามคนที่เงียบที่สุดอีกสองคนแบบไม่คาดหวังคำตอบมากนัก เพราะเขาเองก็พอจะเดาคำตอบของทั้งคู่ได้อยู่แล้ว

    ไม่ล่ะ ฉันขอนอนพักดีกว่า นานๆจะมีเวลาพักผ่อนทั้งทีและคำตอบของจินยองก็เป็นไปตามที่มาร์คคาดเดาเอาไว้ไม่ผิด

    นานๆมาต่างประเทศทั้งที ยังจะนอนอีกเหรอ ? แล้วนายล่ะ แจบอม ?

    ว่าจะไปผูกเปลนอนใกล้ๆทะเล ไปล่ะแจบอมตอบสั้นๆพร้อมหยิบเปลแขวนที่เป็นบริการเสริมของทางที่พักออกจากบ้านพักไปโดยไม่พูดอะไรต่อ เช่นเดียวกับจินยองที่เดินเข้าไปดื่มน้ำในโซนครัวแล้วแยกตัวเข้าห้องนอนไป

    บางทีผมก็อยากรู้ว่าสองคนนั้นเขาเคยคบกันได้ยังไง…” ยองแจที่มองคนสองคนแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทางพูดขึ้นด้วยความสงสัย

    ยองแจรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ ?แต่สิ่งที่มาร์คสนใจไม่ใช่คำถามของยองแจ กลับเป็นเรื่องราวระหว่างบุคคลโลกส่วนตัวสูงทั้งสองคนที่เพิ่งแยกย้ายกันไปต่างหาก

    พอดีเมื่อคืนมีเรื่องนิดหน่อยน่ะครับยองแจตอบกลับด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ซึ่งมาร์คเองก็ไม่ใช่คนที่อยากจะรู้หรือซักไซ้อะไรจากคนที่ไม่พร้อมจะเล่าให้เขาฟังเสียเท่าไหร่

    ว่าแต่ยองแจกับแจ็คสันล่ะ ตกลงยังไง ?แต่มาร์คก็คงไม่รู้ว่า คำถามของเขามันดันแทงใจดำคนที่ยืนอยู่ข้างๆเข้าเต็มๆ

    “…” ไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากปากของยองแจนอกจากสีหน้าที่พยายามปกปิดอารมณ์บางอย่างจนมาร์คสังเกตได้

    ช่างเถอะ ขอโทษทีที่ถามอะไรแปลกๆ ไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่า

     

    มาร์คตัดบทสนทนาด้วยการสะพายกล้องเดินออกไปจากบ้าน ทิ้งให้ยองแจยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจนมาร์คต้องหันหน้ากลับมาเรียกยองแจให้ออกไปที่ชายทะเล

    เสียงลั่นชัตเตอร์ของมาร์คที่ถ่ายทั้งภาพบรรยากาศของทะเล ทั้งยองแจที่ยืนโพสต์ท่าบ้าง ยืนเหม่อมองทะเลบ้าง รวมไปถึงแจ็คสัน ยูคยอม และแบมแบมที่เล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดกันอยู่ถูกบันทึกโดยช่างภาพชื่อดังที่กำลังสนุกสนานกับงานอดิเรกของตน และเมื่อเห็นว่ามีผู้มาใหม่ แบมแบมที่กำลังเล่นกับเพื่อนและรุ่นพี่ในตอนแรกจึงปลีกตัวออกมาหามาร์คแทน

     

    มาลองกล้องตัวใหม่เหรอครับ ?แบมแบมเริ่มชวนมาร์คที่ยืนถ่ายรูปเล่นคุยแทน

    อื้ม สนใจลองเล่นดูมั้ย ตัวนี้ภาพคมดีถึงจะเป็นประโยคคำถาม แต่มาร์คก็ถอดสายคล้องคอแล้วส่งกล้องให้แบมแบมเสียอย่างนั้น

    ไม่ดีมั้งครับ นี่กล้องตัวใหม่ของพี่เลยนะ ผมไม่กล้าเล่นหรอก กลัวมันพัง ผมไม่มีปัญญาชดใช้นะครับแบมแบมพูดพลางติดหัวเราะเล็กน้อย

    ไม่เป็นไรหรอก เพราะพี่ไว้ใจ พี่ถึงยอมให้แบมแบมลองเล่นดู

     

    และเพราะกล้องของมาร์คถูกยัดเข้ามาในมือของแบมแบม คนที่ได้รับมาก็ปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องยืนสำรวจกล้องอย่างระมัดระวัง และท่าทางที่ดูกล้าๆกลัวๆของแบมแบมก็ทำให้มาร์คหลุดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า

     

    ไอ้มาร์ค ! มาเล่นวอลเล่ย์บอลกันแต่บรรยากาศของมาร์คก็ถูกทำลายลงเมื่อแจ็คสันที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักกระโดดหยองๆพร้อมเรียกเขาให้ไปรวมวงเล่นด้วยกัน

    กูเล่นกีฬาไม่เป็น ขอบายว่ะ

    ไปเหอะ กูกับยูคยอมก็ใช่ว่าจะเล่นวอลเล่ย์บอลเป็น แต่หาอะไรทำแก้เบื่อ ป่ะ !”

    เดี๋ยวดิมึง แล้วกล้องกูล่ะ !?!”

    เออว่ะ…” เพราะอย่างไรถ้ามาร์คลงมาร่วมวงเล่นวอลเล่ย์บอลแล้ว แบมแบมก็คงต้องกลับไปเล่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นปัญหาต่อมาก็คือกล้องตัวใหม่ของมาร์คที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนดี ครั้นจะเอาไปเก็บบนบ้านมาร์คก็ขี้เกียจจะเดินไปเดินมา เผื่อว่าตนอยากจะถ่ายรูปหลังจากเล่นเสร็จอีก

    ฝากไว้ที่พี่แจบอมมั้ยล่ะครับ ?ยูคยอมเสนอความคิดเห็นพลางชี้ไปยังผู้ชายหน้าตาไม่เป็นมิตรที่กำลังยืนผูกเตียงอยู่แถวๆต้นไม้ริมชายฝั่ง

    แล้วแม่งนึกครึ้มอะไรมาผูกเปลนอนวะน่ะ ?แจ็คสันถือวิสาสะคว้ากล้องของมาร์คมาไว้ในมือแล้วหันไปมองแจบอมที่เตรียมจะทิ้งตัวลงนอนบนเปล

    กูหวังว่าแจบอมจะไม่พังกล้องของกูนะ

     

    มาร์คพูดติดตลกไปหนึ่งประโยค เพราะเขารู้ดีว่าแจบอมก็ดูไม่ค่อยจะชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่นัก ในขณะที่แจ็คสันก็เดินขึ้นไปบนฝั่งแล้วตรงไปหาเพื่อนสนิทอีกคนที่ล้มตัวลงนอนบนเปลไกลเรียบร้อยแล้ว คุยกันเพียงไม่กี่ประโยค แจ็คสันก็วิ่งลงมาที่ชายหาดอีกครั้งโดยทิ้งกล้องไว้กับแจบอม

     

    เอาล่ะ ตอนนี้มีอยู่ห้าคน ฉัน แบมแบม มาร์ค ยูคยอม แล้วก็เอ่อยองแจ…” แจ็คสันร่ายชื่อผู้เล่นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งไล่สายตาแล้วไปหยุดอยู่ที่เจ้าของชื่อสุดท้ายที่ทำให้แจ็คสันทิ้งจังหวะลากยาวอย่างไม่แน่ใจนัก

    เอ่อผมด้วยเหรอครับ ?ถึงกระนั้นยองแจก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมากับแจ็คสัน พร้อมกันกับที่สีหน้านิ่งเฉยของนักเขียนช่างเงียบที่ดูจะเหรอหราเมื่อตัวเองถูกลากเข้าไปในวงวอลเล่ย์บอลชายหาด

     

    และไอ้บรรยากาศอันน่าอึดอัดที่มาร์ครู้สึกไม่ชอบใจก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง

     

    แน่นอนสิ แต่ว่าเรามีกันห้าคน แล้วจะแบ่งทีมยังไงล่ะ ?มาร์คจึงเริ่มแก้สถานการณ์ด้วยการถามไถ่กติกา

    ฝั่งละสอง กรรมการหนึ่งคน ผลัดกัน ใครจะเป็นกรรมการ ?แจ็คสันเสนอ

    งั้นเดี๋ยวผมเป็นกรรมการให้ก็ได้ครับยองแจรีบออกตัวทันที เพราะกีฬาเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกับยองแจแม้แต่น้อย ดังนั้นไปนั่งนับคะแนนข้างสนามน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะกับเขาเสียมากกว่า

     

    ยองแจปลีกตัวมานั่งข้างสนาม รอผลการจับคู่เลือกทีมของสมาชิกอีกสี่คนที่เหลือ และการจับคู่ทีมก็ทำให้ยองแจถึงกับหลุดขำเมื่อแจ็คสันระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

    ผลการจับคู่เลือกทีมในครั้งนี้ แบมแบมได้อยู่กับแจ็คสัน ในขณะที่ยูคยอมต้องคู่กับมาร์ค ซึ่งยองแจก็พอจะเดาได้ว่าสาเหตุที่รุ่นพี่ตรงหน้ายืนหัวเราะคงเป็นเพราะคู่หลังที่ได้คู่กันกระมัง

     

    ผมไว้ใจพี่ได้ป่ะเนี่ย ?ยูคยอมที่ออกแนวจะรับไม่ค่อยได้กับผลการจับคู่หันไปถามเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่ไว้ใจ

    ฉันสอบตกวอลเล่ย์บอลตอนมอต้นตลอด โชคดีนะ…” มาร์คพูดอย่างเรียบเฉย

    มันดีตรงไหนเล่า !?!”

    ทีมกูชนะใสๆแน่นอน เห็นแบมแบมมันเงียบๆแบบนี้ อดีตรองแชมป์วอลเล่ย์บอลกีฬาสีตอนเกรด 12 เลยนะเว้ยแจ็คสันเยาะเย้ยพลางยกแขนไปกอดคอรุ่นน้องที่ยืนยิ้มอยู่

     

    และการแข่งขันวอลเล่ย์บอลชายหาดแบบไม่เป็นทางการก็เริ่มขึ้น โดยมียองแจยืนนับคะแนนอยู่ข้างสนาม แล้วก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ทีมของมาร์คกับยูคยอมเรียกได้ว่าแทบจะทะเลาะกันตลอดเวลา เถียงกันมากกว่าจำนวนลูกที่รับได้เสียด้วยซ้ำ ในขณะที่แบมแบมก็คอยเป็นคนทำคะแนนให้ฝั่งของตัวเองอยู่เรื่อยๆ จนคะแนนขึ้นนำห่างออกไปทุกที

     

    แล้วทำไมพี่ไม่วิ่งไปรับฝั่งนู้นล่ะ !?!”

    เฮ้ย ! มันก็ต้องช่วยกันวิ่งมั้ยล่ะ ใครบอกให้นายมาพาลฉัน คิมยูคยอม !”

    แล้วทำไมพี่ไม่เสิร์ฟให้มันดีๆล่ะ ตบกี่ทีก็ติดเน็ท ให้ตายเถอะ

     

    เสียงทะเลาะโหวกเหวกของคนที่ไม่ลงรอยกันแต่กลับต้องมาอยู่ทีมเดียวกันทำให้ยองแจที่นั่งมองอยู่ข้างสนามหลุดยิ้มออกมา แต่ยองแจก็สนใจสถานการณ์ภายในสนามได้ไม่นาน เมื่อลมทะเลและเสียงคลื่นเริ่มดึงความคิดของยองแจให้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรอบข้างแทน

    ลำดับเรื่องราวและตัวละครในจินตนาการของยองแจเริ่มปรากฏขึ้นมาในความคิดของคนตัวขาวที่นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติตามประสาคนรักความสงบและเสพติดกับความสวยงามที่จะทำให้ความคิดเริ่มพรั่งพรูเข้ามา จนกระทั่งลืมไปว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ขอบสนามกีฬาที่ถูกเนรมิตขึ้นมาโดยเพื่อนร่วมทริป และนั่นก็ทำให้ยองแจไม่ทันตั้งตัว

     

    ตุ้บ !

     

    โอ๊ย !”

    ยองแจ !!!!!”

     

    กว่าที่ยองแจจะรู้ตัวว่าตนเองปล่อยความคิดไปกับบรรยากาศรอบข้างนานแค่ไหน ก็เมื่อถูกลูกวอลเล่ย์บอลลอยเข้ามากระแทกบนใบหน้าเข้าอย่างจังจนตัวเองหงายหลังลงไปนอนกับพื้นทราย แสงอาทิตย์ที่แยงเข้ามาในดวงตาเพียงครู่เดียวถูกบดบังโดยลำตัวของใครบางคนที่ร้องเรียกชื่อของเขาพร้อมด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

     

    ฮยอง…”

    ยองแจ เจ็บตรงไหนรึเปล่า โอเคมั้ย ?

     

    และภาพตรงหน้าของยองแจก็ชัดเสียจนร่างกายของตัวเองเกร็งไปทั้งตัว เมื่อพบว่าคนที่วิ่งเข้ามาหาเขาเป็นคนแรกคือ

     

    แจ็คสันฮยอง !?!


    หลังจากที่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร สติและความนึกคิดของยองแจทุกอย่างหายไปในบัดดล มารู้ตัวอีกก็เมื่อตัวเองถูกดึงขึ้นมานั่งหลังจากนอนจมไปกับผืนทรายอยู่พักหนึ่ง พร้อมกับที่รุ่นพี่คนคุ้นเคยนั่งปัดทรายตามตัวยองแจให้พร้อมมองอย่างเป็นห่วง

     

     “ออกนอกหน้ามากวลีร้ายกาจแบบนี้แจ็คสันทายได้ไม่ยากเลยว่าหลุดออกมาจากปากของมาร์คต้วนอย่างแน่นอน

    พาพี่ยองแจกลับเข้าไปในบ้านดีมั้ยพี่ แดดร้อนๆ แถมเจ็บตัวอีก เดี๋ยวก็ไม่สบายพอดีถึงกระนั้นแบมแบมก็ออกความคิดเห็น และทุกคนนอกเหนือจากยองแจก็พยักหน้าเห็นด้วย

    ไม่เป็นไรหรอก ทุกคนเล่นกันไปเถอะครับ เดี๋ยวผมกลับเข้าบ้านเองดีกว่า

    เดี๋ยวพี่พาไป

     

    และบรรยากาศทุกอย่างก็เงียบกริบ มีเพียงสายตาสามคู่ของมาร์ค แบมแบม และยูคยอมมองกันไปมาเมื่อได้ยินว่าใครเป็นคนอาสาพายองแจกลับบ้าน ภาพที่แจ็คสันพยายามพยุงยองแจกับยองแจที่พยายามปฏิเสธจนกลายเป็นสงครามประสาทเล็กๆเรียกรอยยิ้มจากอีกสามคนได้เป็นอย่างดี

     

    ผมไม่เป็นไรจริงๆ พี่กลับไปเล่นเถอะ

    ไม่เอา

    อย่ามาง้องแง้งได้มั้ยล่ะ !?!” และนั่นก็ทำให้ยองแจรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างเขากับแจ็คสันมันเริ่มเหมือนในอดีตครั้งที่ทั้งคู่เรียนด้วยกันขึ้นทุกๆที

     

    และนั่นก็เป็นบรรยากาศที่เขาเกลียดเอาเสียมากๆ

     

    เพราะเขามันทำให้เขา ตกหลุมรักแจ็คสันแบบซ้ำๆ

     

    ทั้งๆที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้อีกต่อไป

     

    ไม่เลยแม้แต่น้อย

     

    แล้วพี่จะพยุงผมทำไม ผมโดนวอลเล่ย์อัดหน้า ไม่ใช่ขา

    จะให้พยุงหรือให้อุ้ม ?และนั่นก็ทำให้คนที่กำลังโวยวายเงียบลงไป

     

    แต่ใครจะรู้ว่าในใจของยองแจตอนนี้มันปั่นป่วนไปหมด แน่นอนว่าเขาเขินกับคำพูดประหลาดๆของแจ็คสันอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยองแจก็ไม่ใช่คนที่กล้าพอจะคิดทึกทักไปทั้งหมดว่าแจ็คสันคิดสิ่งเดียวกับที่ยองแจคิดมาตลอดสี่ปี แต่เหตุการณ์ระหว่างเขาสองคนเมื่อคืนมันกลับตอกย้ำให้ยองแจรู้สึกอยากจะเข้าข้างตัวเองอยู่ดี

     

    นั่งเฉยๆนะ เดี๋ยวไปหาน้ำแข็งมาประคบให้

    แต่…”

    อย่าดื้อ นั่งอยู่นั่นแหละ

     

    หลังจากกลับขึ้นมาบนบ้าน แจ็คสันก็ปล่อยยองแจลงบนโซฟา กำชับเพียงเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะออกมาพร้อมกับเจลเย็นที่ทางบ้านพักใส่ไว้ให้ในตู้เย็น

     

    พี่เลิกมองผมสักทีสิ !” คนตัวขาวที่นั่งประคบจมูกตัวเองหันมาแหวใส่รุ่นพี่คนสนิทที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าตนตลอดเวลา

     

    ยอมรับเลยว่ายองแจไม่ชินไม่ชินกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้

     

    นายก็เลิกทำเหมือนว่านายกำลังโกรธพี่สักทีสิ

    ผมไม่ได้โกรธ…” ถึงอย่างนั้นยองแจก็ตอบกลับด้วยเสียงแผ่วๆ

     

    และท่าทีของรุ่นน้องก็ทำให้แจ็คสันนิ่งไป ใบหน้าหล่อที่ดูร่าเริงตลอดเวลาในตอนนี้มีสีหน้าราวกับกำลังคิดไม่ตกเกี่ยวกับอะไรสักอย่าง และมันก็ดูผิดปกติจนเกินกว่าที่ยองแจจะมองข้าม

     

    วันนี้พี่ดูแปลกๆ ?ใช่ ยองแจรู้สึกว่าแบบนั้นจริงๆ

    คนที่แปลกมันยองแจต่างหากล่ะและแจ็คสันก็เถียงกลับทันทีอย่างไม่ยอมแพ้

    เฮ่อ แล้วแต่พี่ก็แล้วกัน ผมไม่…”

    นี่ ยองแจ

    ครับ ?

    เรื่องเมื่อคืน…”

    “…”

    ขอโทษนะ สิ้นสุดคำขอโทษสั้นๆ บรรยากาศแห่งความเงียบก็เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง

    เรื่องอะไร…” ยองแจถามทั้งๆที่เขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าแจ็คสันขอโทษเขาเรื่องอะไร

    เรื่องเมื่อคืน…”

    “…”

    แต่ที่พี่พูดทั้งหมดเมื่อคืนพี่ไม่ได้โกหกนะเว้ย !!” และแจ็คสันก็พูดต่อด้วยท่าทีที่เริ่มลนลาน พี่ก็ไม่รู้หรอกว่าพี่ชอบยองแจจริงๆหรือเปล่า ตแต่โคตรแคร์เลยจริงๆนะ อย่างตอนนี้ที่ยองแจเจ็บตัว พี่ก็ไม่ชอบสักนิด…”

    หึ…” เมื่อเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของอีกคน ยองแจก็อดที่จะกลั้นหัวเราะไม่ได้

    ไม่ต้องมาหัวเราะเลย เห็นพี่เป็นแบบนี้สนุกมากป่ะ !?!”

    พี่มันโง่เหมือนที่ทุกๆคนเขาพูดกันจริงๆนั่นแหละ

    ไม่ได้โง่นะ !”

    “…”

    ยองแจ…” หลังจากที่ต่อล้อต่อเถียงกันมาครู่หนึ่ง แจ็คสันก็หยุดบรรยากาศทุกอย่างด้วยการหันหน้าเข้าหารุ่นน้องตัวขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ แววตาขี้เล่นเริ่มทอประกายแห่งความจริงจังขึ้นมาจนอีกคนที่เผลอหันมาสบตาเป็นอันต้องนิ่งไป

    ครับ ?

    เออพี่อาจจะดูโง่ในสายตาของยองแจนะ แต่พี่เชื่อว่าความโง่ของพี่มันคือเรื่องจริง

    “…”

    สิ่งที่พี่เคยพูดกับยองแจ หรือสิ่งที่พี่กำลังจะพูดต่อไปนี้ พี่ขอให้ยองแจรู้ว่า ทุกอย่างมันคือเรื่องจริงที่พี่คิดว่าพี่คิดมาดีแล้วแจ็คสันนิ่งไปครู่หนึ่ง คือ…”

    “…” ยองแจที่นั่งฟังคู่สนทนาเริ่มรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง และหัวใจของเขาก็เริ่มทำงานหนักขึ้นมาเสียดื้อๆ

    ยองแจ…”

    “…”

    …”

    “...”

    ลองลองค…”

    “…”

     

    ละลองคบกับพี่ดูมั้ย ? ’

     

    ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ยองแจและแจ็คสันต้องเผชิญกับความเงียบที่เขามาแทรกระหว่างทั้งสองคน จากสายตาสองคู่ที่สบกันในตอนแรกก็ถูกเบือนหนีออกจากกัน หนึ่งคนที่นั่งมือไม้สั่นเพราะพูดออกไป กับอีกหนึ่งคนที่แม้ว่ากายจะนิ่งเพียงใด แต่หัวใจกลับสั่นเสียจนแทบจะหลุดออกมาจากร่างอยู่เนืองๆ

     

    พี่เมาแดดเหรอ ?ยองแจกลั้นใจถามออกไปทั้งที่ในใจมันช่างพองโตเสียเหลือเกิน

    นี่ทำใจนานมากกว่าจะพูด รู้ป่ะ ?

    ผมจำเป็นต้องรู้ ?

    ก็นั่นแหละ ! พี่รู้หรอกว่ายองแจชอบพี่ แล้วพี่ก็…”

    “…”

    ก็…”

    ก็… ?”

    ก็ไม่รู้หรอกว่าชอบมั้ย…” และคำตอบของแจ็คสันก็ทำให้ยองแจหลุบตาลงอย่างผิดหวังอีกครั้ง

    “…”

    แต่ตอนพูดออกไป หัวใจมันก็เต้นแรงจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว !”

     

    และท่าทางกระวนกระวายของแจ็คสันก็ทำให้ยองแจถึงกับกลั้นยิ้มไม่อยู่ ใบหน้าของทั้งคู่ที่แดงเรื่อเกินกว่าจะมีสาเหตุจากแสงแดดในเวลาบ่าย ยองแจค่อยๆเหลือบสายตาไปมองคนที่นั่งด้านข้างที่กำลังจ้องตนอยู่ด้วยแววตาจริงจัง

     

    พี่รอคำตอบอยู่นะ ให้ไว…” และแจ็คสันก็ตั้งท่าคะยั้นคะยอจะรอฟังคำตอบ

    “…”

    ตกลง หรือ ไม่… ?”

    ถ้าผมบอกว่า…”

    “…”

    ไม่…” ยองแจตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่กลับทำให้แจ็คสันใจหล่นวูบไปราวกับตกจากที่สูงก็ไม่ปาน

    ทำไ…”

    ผมจะไม่ตอบตกลง

    “…”

     

    ที่ผมไม่ตกลง เพราะพี่ต้องมาจีบผมก่อน

     

    ปล่อยให้คนอื่นเขาแอบรักตัวเองมาตั้งสี่ปี จู่ๆจะมาพูดขอเป็นแฟนแบบนี้ก็เห็นแก่ตัวเกินไปมั้ง

     

    ลองรับรู้ความรู้สึกของคนที่รอคอยดูบ้างก็แล้วกัน

     

    ถึงแม้จะฟังดูเหมือนคำตัดพ้อ แต่ความจริงที่ทำให้แจ็คสันรับรู้ว่ายองแจชอบตัวเองมาตลอดสี่ปีก็ทำให้แจ็คสันไม่ได้ใส่ใจคำต่อว่าของอีกฝ่าย อีกทั้งเมื่อเห็นรุ่นน้องตัวเล็กร้องไห้ออกมาแจ็คสันก็รับรู้ได้ว่า ทุกอย่างคือเรื่องจริง คำต่อว่าที่ว่าเห็นแก่ตัวของยองแจกลับทำให้แจ็คสันยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจจนไม่สามารถเก็บรอยยิ้มของตัวเองได้อีก สองแขนโอบกอดคนที่นั่งสะอึกสะอื้นอย่างเอ็นดู ฝ่ามือหนาลูบลงบนกลุ่มผมนุ่มเพื่อปลอบประโลม

     

    งั้นขอจีบก่อนก็ได้ตกลงแล้วนะ ?

    “…”

     

    ปั้ก !

     

    ไม่มีคำตอบใดๆจากยองแจนอกจากศีรษะกลมๆที่ซุกลงไปบนแผ่นอกของคนที่กำลังกอดตนอยู่พร้อมกับกำปั้นของมือเล็กๆที่ทุบลงไปบนไหล่ของแจ็คสันอย่างแรง ทั้งระบายความโกรธแค้นและความเขินอายไปพร้อมๆกัน

     

    ดูเหมือนฉันจะมาเห็นอะไรดีๆอีกแล้วสิ… ’

     

    และทุกอย่างก็ตกอยู่ในสายตาและตามมาด้วยเสียงล้อเลียนของมนุษย์อินดี้ที่ชื่อมาร์คต้วนอีกครั้ง

     

    …………………

     

    เวลาบ่ายแก่ๆ ตามตารางที่ทุกคนตกลงกันไว้ว่าจะไปเล่นสงกรานต์กันข้างนอกก็เป็นอันต้องล้มเลิกไป เพราะสภาพอากาศและร่างกายของแต่ละคนที่ไม่เอื้ออำนวย จึงได้ข้อตกลงใหม่กันว่าจะทำอาหารกินกันในบ้านพักและคุยสังสรรค์กันแทน

    เริ่มจากแบมแบมและยูคยอมซึ่งเป็นคนรับหน้าที่ไปจ่ายของที่ตลาดสด แจ็คสันกับจินยองที่รับหน้าที่ทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่สำหรับมื้อเย็นในวันนี้ ส่วนแจบอม ยองแจ และมาร์คจะรับหน้าที่เป็นคนทำอาหารมื้อนี้

    แบมแบมกับยูคยอมนั่งรถสองแถวมายังตลาดสด เนื่องจากเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ จึงยังไม่ค่อยมีคนมากนัก นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทั้งสองคนสามารถหาซื้อของได้ตามที่ต้องการ และก็เป็นอีกครั้งที่ยูคยอมได้รับความเอ็นดูจากเหล่าแม่ค้าจากการพูดภาษาไทยที่แบมแบมสอน จึงได้รับขนมมาเต็มไม้เต็มมือเสียจนคนรับได้แต่ยืนยิ้มแก้มปริ

    เช่นเดียวแจ็คสันและจินยองที่เป็นฝ่ายจัดสถานที่ โซฟาและโต๊ะที่วางกลางบ้านถูกเคลื่อนย้ายไปริมผนังเพื่อให้มีพื้นที่กว้างขึ้น ตลอดการทำงานแจ็คสันดูมีท่าทีนิ่งเงียบแต่สีหน้ากลับดูมีความสุขเสียจนจินยองสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็นั่นล่ะถ้าแจ็คสันไม่เล่า เขาก็จะไม่ถาม เพราะถือว่าที่มิตรภาพของพวกเขายั่งยืนได้ขนาดนี้ก็เพราะการมีช่องว่างระหว่างกันและกัน

    เมื่อได้ของสดกลับมาแล้ว มาร์ค ยองแจ และแจบอมที่ได้รับมอบหมายให้ทำอาหารเย็น และปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้นเมื่อพบว่า ทักษะการทำอาหารของทั้งสามคนนั้นไม่ได้ดีเด่อะไรแม้แต่น้อย อย่างมาก ก็แค่พอจะประทังชีวิตตัวเองได้

     

    ส่วนปากท้องของคนอื่นพวกเขาไม่รับประกันใดๆทั้งสิ้น

     

    ยองแจในฐานะที่นายดูพึ่งพาได้มากที่สุด คิดว่ามื้อนี้เราควรทำอะไรกินกันดี ?มาร์คหันมาถามยองแจในขณะที่กำลังรื้อเครื่องครัวจากตู้เก็บของ

    เอ่อ…” ยองแจนิ่งไปอีกครั้ง ดวงตาคู่เล็กมองวัตถุดิบที่มีเพื่อประเมินว่าเขาจะสามารถนำพวกมันมาปรุงอะไรได้บ้าง

    “…” และสถาปนิกหนุ่มอย่างแจบอมก็ได้แต่ยืนล้างเครื่องครัวเงียบๆ

     

    และการทำมื้อเย็นในวันนี้ก็เริ่มขึ้น เมื่อยองแจจัดการแบ่งหน้าที่ให้แจบอมล้างและหั่นผัก ส่วนมาร์คทำหน้าที่ชำแหละเนื้อสัตว์ทั้งหลาย ส่วนยองแจเป็นคนลงมือปรุงทุกอย่างโดยอาศัยข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตที่เปิดควบคู่กันไปด้วย

     

    แจบอม นายหั่นผักกาดไม่เป็นเหรอ ?มาร์คชะโงกหน้ามาดูแจบอมที่กำลังยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะเขากำลังทำให้ผักบนเขียงเละเทะไปหมด

    ก็ปกติซื้อกินนี่หว่า หั่นได้แค่นี้ก็บุญถมไปแล้ว

    “…”

    หึของนายดูดีมากมั้ง นั่นจะแกะเปลือกกุ้งหรือจะเอาเปลือกกุ้งไปต้มกิน ทำไมเนื้อมันถึงติดหัวติดหางแบบนั้น ?

    ยุ่ง !”

     

    และหลังจากนั้นมาร์คกับแจบอมก็ไม่มองหน้ากันอีก เมื่อได้ของทุกอย่างตามที่ต้องการ ยองแจก็จัดการปรุงอาหารตามคำแนะนำบนเว็บไซต์ที่เจ้าตัวยืนอ่านอยู่ตลอด โดยมีแจบอมและมาร์คยืนเป็นลูกมือคอยช่วยเหลือเป็นระยะๆ

    จนเวลาผ่านไป อาหารทุกอย่างก็เสร็จสมบูรณ์ พร้อมกันกับที่ฝ่ายจัดสถานที่และฝ่ายหาซื้อของจัดทุกอย่างไว้พร้อม ทั้งน้ำ ขนม และของอีกสารพัดที่อยู่ในถุง และแจบอมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่เขารู้สึกว่ามันไม่เข้าพวก

     

    นั่นอะไรน่ะ ?แจบอมว่าพลางบุ้ยหน้าไปทางวัตถุสีขาวหน้าตาแปลกประหลาดที่อยู่บนโซฟา

    ของเล่นชิ้นใหม่ กูได้มาจากเกาหลี พอดียังไม่มีโอกาสใช้สักทีเลยเอามาเล่นกับทุกคนที่นี่แทน

    เดี๋ยวนะพี่นั่นมัน เครื่องจับเท็จ ไม่ใช่เหรอ ?ยูคยอมถามต่อเมื่อเขาจำได้ว่ามันเป็นของที่เขาค่อนข้างคุ้นตาเพราะเห็นบ่อยๆจากรายการโทรทัศน์

    ก็ใช่ไง

    ฉันไม่เล่…”

    หยุดเลยจินยอง อย่าเอาเปรียบคนอื่นแจ็คสันชี้นิ้วสั่งเด็ดขาดทั้งที่เพื่อนสนิทของตัวเองยังพูดไม่ทันจบ

    นี่เหมารวมไปแล้วว่าพวกกูต้องเล่นว่างั้น ?มาร์คถาม

    ลองพี่แจ็คสันแกพูดมาขนาดนี้ก็คงหือไม่ได้แล้วล่ะครับแบมแบมตอบแทน

    โตจะตายอยู่แล้วยังจะ…” ยองแจบ่นอุบ

     

    แต่สุดท้ายทุกคนก็มานั่งรวมวงกินมื้อเย็นที่แม้ว่าจะไม่ได้อร่อยเลิศเลอแต่ก็พอจะทำให้ทุกคนประทังชีวิตไปได้อีกหนึ่งวัน น้ำอัดลมหลากสีเริ่มพร่องลงไปเรื่อยๆ ตามมาด้วยน้ำสีอำพันที่เริ่มเข้ามาแทนที่น้ำอัดลม

     

    ใครซื้อแอลกอฮอล์มา ?จินยองที่ปกติแทบจะไม่เปิดปากพูดถามขึ้นเมื่อเริ่มเห็นของที่ไม่เข้าท่า และยิ่งค้นถุงพลาสติกที่มีโซดาอีกหลายขวดก็ยิ่งทำให้จินยองเริ่มรู้สึกไม่ดี

    “…” และแบมแบมกับแจ็คสันก็รีบชี้ไปทางแจ็คสันทันที แต่ถึงกระนั้นแจ็คสันก็ทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วชงเหล้าส่งต่อให้ทั้งวงจนครบ

    ยูคยอมห้ามกินจินยองรีบคว้าแก้วเหล้าออกจากมือของยูคยอมที่ตั้งท่าจะดื่มทันที

    อ้าวทำไมล่ะฮะ ?ยูคยอมมองตามด้วยแววตาที่ออกจะเสียดายนิดๆ

    ใครจะกินก็กินไป แต่ยูคยอมฉันขอไว้คนนึงก็แล้วกัน น้องยังเรียนอยู่ ฉันไม่อยากให้น้องดูเป็นเด็กเหลวไหล

    ปกติเด็กมหาลัยเขาก็กินกันนะ คงมีแต่นายหรือเปล่าที่ไม่ได้กินน่ะ ?มาร์คเอ่ยถามอย่างฉงน เขาจำได้ว่าสมัยเรียนมหาลัยเขาก็เข้าร้านเหล้าออกจะบ่อยอยู่

    อย่าให้กูเผาเลยเหอะมาร์ค สมัยเรียนจินยองแม่งไปอยู่สามที่ มหาลัย หอพัก ร้านข้าวใต้หอ แค่นั้นจริงๆอดีตรูมเมทของจินยองว่าอย่างขบขัน แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนสนิทของเขาจะไม่ขำด้วย

    ตลกมากมั้ย ?จินยองถามเสียงแข็ง

    อ้าว โกรธว่ะเฮ้ย ขอโทษแจ็คสันสะกิดจินยองเป็นเชิงง้อ

    ไม่เป็นไรหรอกฮะ ถ้าพี่จินยองไม่ให้กินผมไม่กินก็ได้และยูคยอมก็ไม่ใช่เด็กดื้อหัวรั้น หนำซ้ำคนที่ขอร้องไว้ยังเป็นคนที่ยูคยอมแอบชื่นชมในความเก่งและสุขุม จึงไม่มีเหตุผลใดๆที่เขาจะต้องโยนความหวังดีของจินยองทิ้ง

    ว่าแล้วก็มาเล่นเกมกันเถอะแจ็คสันเริ่มเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการหยิบเครื่องจับเท็จที่เขานำมาขึ้นมาวางกลางวง

    มันช็อตจริงป่ะพี่ ?แบมแบมถามอย่างหวาดๆ

    จริงดิ ไม่งั้นจะเอามาเล่นเหรอ แต่ก็ไม่ได้ช็อตแรงหรอก พอให้ชาๆมือแจ็คสันอธิบาย

    กติกาคือ ใครคนนึงหมุนขวด ถ้าขวดหยุดที่ใคร คนหมุนมีสิทธิ์ถามคนที่ขวดชี้ไปหา ถ้าคนตอบโกหก ก็หนึ่งกรึ๊บเพียวๆ และงานนี้จินยองกับยูคยอมก็ไม่มีข้อยกเว้น

     

    แจ็คสันว่าพลางชูแก้วเหล้าช็อตเล็กขึ้นมาประกอบ อีกทั้งยังหันไปมองจินยองกับยูคยอมด้วย และเพียงเสี้ยววินาทีหนึ่งที่จินยองเริ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเชิงไม่พอใจเล็กๆกับข้อเสนอของแจ็คสัน แต่เขาเห็นว่านานๆที ก็คงจะไม่เป็นไร

     

    หรอกมั้ง… ?

     

    กูว่าแจบอมจะเล่นหรือไม่เล่นก็ไม่ต่างกันว่ะ แก้วที่เท่าไหร่แล้วน่ะ ?มาร์คหันไปถามแจบอมที่ยังคงนั่งจิบเหล้าอยู่เรื่อยๆ

    สี่

    นอกจากจะตายเพราะถุงลมโป่งพองแล้วยังจะตายเพราะตับแข็งด้วย ให้ตายเถอะ

    นั่นปาก ? มาร์คได้แต่หัวเราะหึหึอยู่ในคอที่สามารถปั่นหัวคนที่เริ่มกรึ่มๆได้ ก่อนที่ทุกคนจะหันมาสนใจกับเกมของแจ็คสัน

    ในฐานะที่ไอ้แจบอมมันเริ่มกรึ่มๆ และคาดว่าอีกไม่กี่นาทีมันคงจะน็อค ฉะนั้น กูจะให้สิทธิ์มึงหมุนขวดเป็นคนแรกก่อนที่มึงจะไม่ได้เล่น

    ปากหมากันทุกตัว…” แจบอมกระแทกแก้วเหล้าลงกับพื้น พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด แล้วจึงเริ่มหมุนขวด

     

    ขวดเปล่าที่หมุนอยู่นานเริ่มชะลอลง ทุกคนต่างลุ้นระทึกว่าขวดจะหมุนไปที่ใคร ยิ่งขวดหมุนช้าลงเท่าไหร่ ความตื่นเต้นก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ช้าลง... ช้าลงจนกระทั่งปากขวดไปหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งที่ทำให้แจบอมถึงกับกระตุกยิ้มออกมาอย่างยินดี เช่นเดียวกับที่ผู้โชคดีของตาแรกที่ชะงักไป

     

    สงสัยดูท่าทางจะไม่อยากเล่นมาก ขวดหยุดที่จินยองเฉยเลย ฮ่าๆแจ็คสันหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทเริ่มเปลี่ยนไป

    บันเทิง…” มาร์คหันไปสบตากับยองแจ

    เฮ่อและยองแจก็ได้ถอนหายใจ

    “…” ส่วนยูคยอมกับแบมแบมก็ได้แต่นั่งมองด้วยความอยากรู้

    แจบอม จะว่าไปกูก็เห็นมึงมองจินยองบ่อยๆนะ โอกาสของมึงมาแล้ว อยากถามอะไรถามเลย เบอร์ทงเบอร์โทร ไลน์อะไรก็ว่าไปแจ็คสันกระเซ้าอย่างชอบใจ ในขณะที่มาร์คกับยองแจแทบจะลมจับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

    ไม่จำเป็นแจบอมตอบ แต่สายตาของเขากลับจ้องคู่กรณีไม่วางตา และคนที่ถูกมองก็เริ่มอึดอัดกับสายตาที่ทิ่มแทงมายังตน

    อ้าวทำไมวะ ?และแจ็คสันที่เริ่มพูดมากมากขึ้นหลังจากที่ได้รับแอลกอฮอล์ไปประมาณหนึ่งก็เริ่มซอกแซกคำถามไม่หยุดจนยองแจต้องตีแขนไปหนึ่งที โอ๊ย ! ยองแจตีพี่ทำไมอ่ะ ?แจ็คสันบ่นเสียงอ้อแอ้

    นั่งเงียบๆไปเลยยองแจดุใส่ไปหนึ่งที แต่สายตากลับมองสถานการณ์อย่างลุ้นระทึก ยิ่งเมื่อคู่กรณีในตอนนี้เป็นสองบุคคลที่เงียบที่สุด แต่กลับมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจที่สุด ยิ่งทำให้ยองแจกับมาร์คแทบจะนั่งไม่ติด

    เอ๊ย ! เกือบลืม จินยองเอามือวางบนเครื่องด้วยแจ็คสันจัดแจงเอาเครื่องจับเท็จมาให้จินยองเสร็จสรรพ

    “…”

    ฉันมีสิทธิ์ถาม ทุกอย่าง เลยใช่ไหม ?แจบอมถามย้ำ และเมื่อแจ็คสันพยักหน้า แจบอมก็หันกลับมาสบตากับคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาที่ยังคงเก็บอาการนิ่งเฉยได้เป็นอย่างดี

     

    ก็เอาสิจินยอง

     

    มาดูกัน ว่านายจะนิ่งแบบนั้นได้อีกนานแค่ไหน ?







    กลับมาครบ 100% หลังจากหายหน้าหายตาไปนานพอสมควร
    งานเยอะ สอบแยะ มิดเทอมลนก้น ฮืออออออ
    แถมช่วงนี้ดันไม่สบายเพราะอากาศเปลี่ยนด้วย เลยยิ่งไปกันใหญ่เลย
    (ฉะนั้นทุกคนต้องรักษาสุขภาพกันดีๆนะคะ เข้าใจไหม !?!)

    ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีทุกๆคนในรอบปีใหม่ที่เพิ่งจะได้มาอัพอย่างเป็นทางการ
    ก็หวังว่าปีนี้เรื่องนี้คงจะจบสักที (เปิดมาจะครบปีแล้ว เย้ !)
    เรื่องรวมเล่มนี่คงต้องคิดอีกทีแล้วล่ะ หายหน้าหายตาไปนานขนาดนี้
    คนอ่านก็คงจะลืมๆกันไปบ้างแล้ว ; v ;)

    จริงๆเรื่องคอมเม้นท์เราพยายามจะไม่ซีเรียส
    แต่ก็แอบมีท้อใจเล็กๆเวลาที่เห็นว่าแท็กและคอมเม้นท์ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน
    เราแต่งเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกมีความสุขมากๆ
    และเราก็อยากให้ทุกคนมีความสุขไปกับการเดินทางกับเรา
    จริงๆไม่ได้กลัวเม้นน้อยเลย
    ที่กลัวคือ กลัวคนอ่านจะหายไปมากกว่า
    เราแค่อยากให้ทุกคนได้อ่าน ถึงแม้ว่าเราจะหายไปนาน แต่เราไม่เคยลืมจริงๆนะ
    เราเคยฝันว่าเราแต่งฟิคแล้วไม่มีคนอ่านด้วยล่ะ
    เราเลยกลัวๆ กลัวมากเลย หวังว่าทุกคนจะไม่ทิ้งเราไว้กลางทางกันนะคะ T___T

    สุดท้ายนี้ก็ยังคงขอยืนยันคำเดิมว่า ขอบคุณทุกคนที่เดินทางกลับเรามาตลอด
    ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
    แต่หวังว่าการเดินทางครั้งนี้จะอยู่ในความทรงจำที่ทำให้ทุกคนคิดถึงเมื่อมันจบลงแล้วด้วยนะคะ

    คิดถึง เหงา เศร้า
    มาเดินทางด้วยกันได้ในแฮชแท็ก





    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×