ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - ( e x o f i c ) - A D M I SS I O N - ( c h a n b a e k ) -

    ลำดับตอนที่ #1 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - f i r s t o f a l l

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.19K
      13
      5 ต.ค. 56

            

          

     

    Title : Admission at Heart

    Auther : แซมซมูเอล

     
     
     


     

    ประกาศรายชื่อนักเรียนที่

    มีสิทธิ์เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2013

     

                ตึกตึก.. ตึกตึก.. ตึกตึก..

                “กูไม่อยากรู้แล้วอะมึง..”

                < เร็วๆ ดิมึง กูลุ้น คนอื่นเขามีที่เรียนหมดแล้ว เหลือมึงเนี่ยที่ไม่มีที่เรียน >

                เซฮุนกรอกเสียงเร่งเร้าผมอย่างดุๆ ในสาย ก็แน่ล่ะครับ.. เพื่อนในกลุ่มผมมีที่เรียนกันหมดแล้ว พวกมันติดกันตั้งแต่ตอนสอบรอบแรก เหลือผมเป็นติ่งอยู่คนเดียว สอบมาสามล้านที่แล้ว (เวอร์) แต่ก็ยังไม่ติดสักมหาลัย ก็ผมไม่ได้เกิดมาฉลาดนี่ คณะที่อยากเรียนดันไม่ได้เข้ากันง่ายๆ

     

                “ไม่ติดหรอกมึง กูว่าไม่ต้องดูหรอก กูไม่อยากรู้อะไรที่มันทำร้ายตัวเอง... กู...”

                < เดี๋ยวกูดูให้มึงเอง >

                “ไม่เอา! กูอยากดูด้วยตาตัวเอง

                ได้ยังไง ผมต้องเป็นคนที่รู้คนแรกดิ ผมเป็นคนสอบ - -+

                < ก็เมื่อกี้มึงบอกไม่อยากดู >

                ก็ตอนนี้กูอยากดูแล้วไง ผมได้แต่คิดในใจเพราะถ้าพูดไปเดี๋ยวมันด่า (_ _)

     

                คลิก!

                ผมกวาดสายตาไล่หาชื่อตัวเองอยากร้อนรน อยากจะหูหนวกตาบอดตอนนี้ซะจริง ๆ มันจะลุ้นอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ ขี้จะหลุดออกมาอยู่แล้ว...

                < มึงดูยังวะ >

                “มึง...”

                < อะไร >

                “กู...”

                < อะไรของมึง ติดหรือไม่ติด ไอ้เหี้ยมึงทำกูลุ้นจนขี้จะหลุดออกมาอยู่แล้ว >

                “มึงเป็นเหมือนกูเลย

                < เป็นอะไร >

                “ลุ้นจนขี้จะหลุด

                < พ่อง สรุปติดไม่ติด >

                 ผมเชื่อว่าถ้าเซฮุนอยู่ตรงนี้มันอาจจะตีนยันหน้าผมแล้ว ฟังจากน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์ของมัน ดีนะที่นี่เป็นแค่การโฟนอินระบบเสียงเท่านั้น ถ้ามันเป็นแบบ 5D ผมคงไม่รอดจากอุ้งตีนของมัน

                “...”

                < มึงโอเคนะ >

     

     

     

     

                กูติดแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”

                ทุกคนครับ แบคฮยอนคนนี้มีที่เรียนแล้วครับ YYOYY

     

     

     

     

                หลังจากผลสอบประกาศ ตามบอร์ดการศึกษาก็ครึกครื้นขึ้นมาทันตา มีทั้งร้องไห้ผ่านตัวหนังสือโอดครวญไม่มีที่เรียน กับร้องไห้ดีใจได้ที่เรียนที่ต้องการและก็มีรุ่นพี่จากแต่ละมหาลัยแต่ละคณะมารอลากน้องเข้ากลุ่ม Facebook!

                ตอนนี้ผมเองก็อยู่ในกลุ่มแล้วเรียบร้อยเซฮุนเป็นคนลากผมเข้าเอง ก็เลยเร็วหน่อย เพราะผมติดมหาวิทยาลัยเดียวกับมัน คณะเดียวกับมัน แค่คนละภาค1เท่านั้นเอง        

                  ผมอัพเดทสถานศึกษาเป็นคณะและมหาวิทยาลัยที่ผมได้แล้วเรียบร้อยด้วยความเห่อจัด โพสต์ชื่อบอกในกลุ่มอีกต่างหาก จริง ๆ ไม่ค่อยอยากจะเสนอหน้าเท่าไหร่หรอกครับ เห็นคนอื่นเขาทำกันเลยอยากทำบ้างเท่านั้นเอง  -.-

     

    ผมแบคฮยอนวิศวะภาคโยธาครับ xD’

     

                ใส่อีโมลงไปด้วยเพื่อความเฟรนลี่ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเก๊กขรึม

                มีคนแอดเฟรนด์มาาาาาาาาาาาาาาา!

                ไวเหนือแสง พึ่งโพสต์เมื่อกี้เองนะ นี่เขานอนเฝ้าเฟสกลุ่มเลยหรือเปล่านะ

     

    Friend requests : Engineering ParkChanyeol

     

                ผมกดรับอย่างไม่ใส่ใจอะไรเท่าไหร่ ปกติผมไม่รับแอดเฟสคนที่ไม่รู้จัก แต่นี่มันเป็นการเริ่มต้นชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ผมควรจะทำความรู้จักกับคนเอาไว้เยอะ ๆ เวลาทำงานจะได้ไม่ลำบาก มีคนนู่นคนนี้ให้เกาะ พี่ชายผมสอนมา

     

    Notifications :

    Engineering ParkChanyeol posted on your timeline.

    สวัสดีครับน้องแบคฮยอน ภาคโยธาใช่ไหมครับ ^^’

             

    Engineering ParkChanyeol : น้องๆ

     

                ผมที่กำลังจะเมนต์ตอบต้องกด Backspace ค้างยาว ๆ เพราะไม่ต้องตอบแล้วล่ะครับ เพราะพี่เขารีบจัดทักแชทมาแล้ว

     

     

    Pecopong Bohyun : ครับพี่ (_ _)

    Engineering ParkChanyeol : น้องภาคโยใช่ป่ะครับ

    Pecopong Bohyun : ใช่ครับพี่

    Engineering ParkChanyeol : ดีมาก เย้ๆๆ เจอน้องแล้ว วู้ววว!

     

                พี่ดูดีใจจังเลยนะครับ ดูดีใจกว่าผมที่สอบติดซะอีก.. <<คิด    ในใจ

     

    Pecopong Bohyun:เปิดเทอมอย่าลืมพาผมไปเลี้ยงนะพี่ 55555.

    Engineering ParkChanyeol เอิ่มม ยังไม่ให้เจอหน้าก็จะให้เลี้ยงซะละ ไปขอพี่รหัสน้องนู่นครับ ว่าแต่น้องดริ๊งค์รึเปล่าครับ

    Pecopong Bohyun : เรื่องดริ๊งค์นี่ขอหนักๆ ครับ

     

                คุยเรื่องนี้ค่อยถูกคอกันหน่อย <<คิดในใจอีกแล้ว

     

    Engineering ParkChanyeol : เยี่ยม แบบนี้เราคงได้เจอกันบ่อย 555555

    Pecopong Bohyun : จัดหนักๆ นะพี่!

    Engineering ParkChanyeol : ไม่ต้องห่วง หนักแน่ครับ จำทางกลับบ้านไม่ได้แน่

    Pecopong Bohyun : ทางกลับบ้านไม่เคยจำอยู่แล้วพี่ กินไหนนอนนั่น

    Engineering ParkChanyeol : 55555555555 ชื่อเฟสเรานี่อ่านว่าอะไร

    Pecopong Bohyun : เพโคปองโบยอนครับพี่

    Engineering ParkChanyeol : มันคืออะไร

    Pecopong Bohyun : โบยอนคือชื่อผมที่พี่ชายชอบเรียก มันเพี้ยนมาจากนามสกุลผมด้วยครับ เหมือนเอาชื่อกับนามสกุลมารวมกัน ส่วนเพโคปองคือ..

    Engineering ParkChanyeol : คือ?

    Pecopong Bohyun : ดาวของชาวโลกในเรื่องเคโรโระอะครับ (- -);

    Engineering ParkChanyeol : 55555555555555555

    Pecopong Bohyun : ขำยาวไปป่ะครับ =_=

     

                มันแปลกหรอครับที่เด็กที่อยากเรียนวิศวะอย่างผมจะชอบการ์ตูนเรื่องเคโรโระ มันแปลกมากหรอครับ TOT  ก็คนมันชอบมาตั้งแต่เด็ก ท่านพ่อกับหม่อมแม่ของผมชอบซื้อแต่การ์ตูนเรื่องนี้มาให้ดู วันเกิดเกือบทุกปีพี่อี้ฟาน (พี่ชายผู้เป็นที่รักของผม) ก็ชอบซื้อของขวัญเป็นตุ๊กตาเอยโมเดลเอยมาให้ และตุ๊กตาและโมเดลที่ว่านั่นมันก็คือชาวดาวเคโรนหรือขบวนกบเคโรโระนั่นเอง

     

    Engineering ParkChanyeol : เจอกันที่มอนะครับน้องอย่าเพิ่งหนีไปดาวเคโรนก่อน อยู่เพโคปองเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะครับ พี่ไปนอนละ ฝันดีครับ<3

    Pecopong Bohyun : ฝันดีครับพี่ -_-

    _________________________________________________________

    เคโรน = ดาวของชาวเคโระ

    เพโคปอง = ดาวโลก

               

    ผมว่าผมไม่น่าอธิบายเลย แต่จริง ๆ ผมคงจะไม่อาย (ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำ) ถ้าพี่เขาไม่ขำยาวขนาดนั้น แต่จะว่าไปถ้าพี่เขาไม่เคยดู เขาก็คงไม่รู้จักดาวเคโรนหรอกจริงไหม โด่วววววว!

     

    Pecopong Bohyun : เอ้ย พี่ชื่ออะไร ยังไม่ได้บอกผมเลย

    Engineering ParkChanyeol : ปาร์คชานยอลครับ เคโระ! 

     

                ใครก็ได้ส่งยานมารับผมไปดาวเคโรนที OTL

     

     

     

                7 days later.

     

              วันสอบสัมภาษณ์

     

              ทำไมพี่อี้ฟานต้องลองเส้นทางใหม่วันนี้ด้วย TTOTT

     

                ตอนนี้ผมกำลังหลงทางครับ หาทางไปมหาวิทยาลัยไม่เจอ ปกติบ้านของผมอยู่ในเมือง กลางโซลเลยแหละครับ แต่มหาวิทยาลัยที่ผมสอบติดดันอยู่ชานเมือง ตอนนี้ผมคิดว่าขับไปเรื่อย ๆ บางทีเราอาจจะถึงมกโพเลยก็ได้

     

                “เพื่อนพี่บอกว่ามาทางนี้มันใกล้กว่า ไม่น่าลองเลยว่ะ พี่ว่า      โบยอนลงไปโบกรถแถวนี้จ้างเขาไปส่งดีกว่าไหม

                “ไม่เป็นไรหรอกพี่ เรายังมีเวลาเหลือ” ...อีกตั้ง 10 นาที OTL

     

                ตอนนี้จิตใจผมกระวนกระวายมาก ผมต้องไปลงทะเบียนให้ทันภายในสิบนาทีนี้ ในขณะที่ตอนนี้พี่อี้ฟานและตัวผมยังไม่รู้เลยว่าเราอยู่ตรงส่วนไหนของเกาหลีใต้

     

                “พี่ ๆ นั่นไงป้ายมหาลัย ชิดซ้ายพี่ ๆ จะเลยทางเข้าแล้ว ๆๆๆ

     

                เสียงแตรดังระงมประหนึ่งระบบเซอร์ราวน์เมื่อพี่อี้ฟานหักพวงมาลัยชิดซ้ายแบบไม่สนหน้าอินหน้าพรหม โชคดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ และผมก็มาถึงตึกคณะแล้ว

    ผมกระโดดลงจากรถแบบหอบเอกสารพะรุงพะรังมาก โดดลงไปอย่างไม่รู้ทิศทาง แล้วเขาลงทะเบียนกันตรงไหนวะครับ

     

    พี่ครับ ๆผมรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปกระชากแขนพี่คนหนึ่งที่เดินผ่านมา ใช้คำว่ากระชากคงจะถูกต้องแล้วเพราะดูเหมือนผมจะดึงพี่เขาแรงเกินไปจนพี่เขาแทบจะเซมาชนผม

    ครับน้อง

    ผมต้องไปลงทะเบียนสอบสัมภาษณ์น่ะครับ ห้องลงทะเบียนมันอยู่ตรงไหนหรอ

    ภาคโยธาใช่ไหม

     

    รู้ได้ไง หน้าผมมันบ่งบอกขนาดนั้นเลยหรอว่าต้องเป็นเด็ก    ภาคโยธา..

     

    ครับ

    มาทางนี้ครับน้อง

    เหมือนสวรรค์จะยังเมตตาผม ให้ผมได้มีโอกาสสอบสัมภาษณ์ ถ้าผมไม่ได้สอบผมคงต้องพลาดชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยรัฐบาลแน่ ๆ เพราะผมคงสอบไม่ติดที่ไหนแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่เจอรุ่นพี่ใจดีพาผมมาส่งถึงห้องสอบสัมภาษณ์ (ก้มลงกราบเบญจางคประดิษฐ์)

     

     

     

     

     

     

     

     

    อ้าวพี่ ยืนทำอะไรอะครับ

    ผมร้องถามเมื่อเดินออกมาเจอรุ่นพี่ผู้ใจดีคนนั้นอยู่พิงกำแพงอยู่หน้าห้องสอบสัมภาษณ์ หรือพี่เขาจะรอผม คงไม่หรอกมั้ง จะใจดีอะไรขนาดนั้น

    สัมภาษณ์เสร็จแล้วเหรอ เป็นไง

     

    นอกจากจะไม่ตอบคำถามผมแล้วยังมีหน้ามาถามผมกลับอีกนะครับ -*-

     

    ก็ดีครับ

    ป่ะ ลงไปข้างล่างกัน

     

    หรือพี่เขาจะรอผมจริง ๆ -O-

     

    ผมเดินตามพี่เขาเข้าลิฟต์ลงมาข้างล่างอย่างเงียบ ๆ งง ๆ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่ใช่สิ ไม่กล้าจะพูดอะไรมากกว่า พอเจอคนใจดีด้วยผมทำตัวไม่ถูกทุกที

     

    แบคฮยอนใช่ไหม

    ครับ?”

    เราน่ะชื่อแบคฮยอนใช่ไหม

    พี่รู้ได้ไง!”

     

    นอกจากจะรู้ว่าผมเป็นเด็กภาคโยธาแล้ว ยังรู้อีกว่าผมชื่ออะไร ผมคิดว่า...

    มันอาจจะมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้

     

    จำพี่ไม่ได้จริงดิ

     

    พอโดนตั้งคำถามผมเลยจ้องหน้าพี่เขาเพื่อหาคำตอบ

    เดี๋ยวนะ..

     

     หน้าตาแบบนี้... ไม่คุ้น...

     

     แต่รุ่นพี่ที่ผมรู้จักมีแค่... 

     

     

    พี่ชานยอล?”

    ช่ายยยยยยยพี่เขาตอบแบบล่างเสียงยาว ๆ ฟังแล้วคันรูหูแปลก ๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ...

     

    ทำไมรูปในเฟสกับตัวจริงมันต่างกันจังวะครับ!!

     

     

     ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเข้าไปดูรูปในเฟสพี่เขา ผมไปสำรวจมาแล้วเรียบร้อย ไปสแกนมาแล้วว่าหน้าตาพี่เขาอยู่ในเกณฑ์ไหน ซึ่งตามหลักการแล้ว พี่เขาควรจะมีหน้าตาอยู่ในเกณฑ์พอดูได้ ไม่ใช่หล่อมหากาฬแบบนี้ครับ

     

    ตัวจริงกับในรูปพี่ไม่เหมือนกันนะ

    นั่นเป็นรูปสมัยเด็ก ๆ ไงน้อง

     

    สมัยเด็กพี่หน้าตาโคตรเห่ยเลยครับ - _-

     

     แต่ทำไมโตมาแล้วหล่อแบบนี้ว้า... ยิ่งดูยิ่งหล่อ

    พี่ควรจะถ่ายรูปตอนนี้อัพลงเฟสบ้างนะ ตอนนี้ผมมั่นใจว่าคนเกาหลีใต้เกินล้านคนคิดว่าพี่เป็นไอ้หน้าเห่ยที่ทำตัวเกรียน ๆ บนเฟสบุ๊ค

     

    เอ้อ เขียนนี่ให้พี่หน่อย  

      

     

     

     พี่ชานยอลยื่นกระดาษที่ยับยู่ยี่เป็นกระดาษเช็ดขี้มาให้ผม

    หัวกระดาษเขียนว่า..

     

    ชื่อ-นามสกุล / ชื่อเล่น / ที่อยู่ / เบอร์ / e-mail

    อาหารที่แพ้ / โรคประจำตัว

     

    แล้วก็มีชื่อเบอร์ที่อยู่ของคนอื่นเขียนเรียงลงมาเต็มไปหมด

     

    เอาไปทำอะไรอะพี่

    ผมทาบกระดาษกับกำแพงหน้าลิฟต์เมื่อลงมาถึงชั้นล่างก่อนจะเขียนบรรจงลายมือลงไปอย่างขยุกขยุย (สาบานว่าบรรจงแล้วครับ)

    เอาไว้ทำกิจกรรมรับน้องน่ะ

     

     อ่อ

     

    อ่า.. ตรงโรคประจำตัวนี่ผมเขียนว่าเป็นโรคหัวใจอ่อนแอได้ไหม (-//////-)

     

     พี่เขาชะเง้อดูที่ผมเขียน แก้มเราอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซ็นเอง...

     

     พี่จะรู้อะไรบ้างไหม ว่าผม..ชอบผู้ชาย (_ _); 

     

     

     

     ครับ.. นั่นแหละครับ.... ผมชอบผู้ชาย ผมคือหนุ่มวาย

     

     ตอนนี้ใจผมเต้นเป็นจังหวะสามช่าแล้วล่ะ TTvTT 

      

     ไม่ได้.. ผมจะแสดงอาการให้เขาเห็นไม่ได้ ถ้าเขารู้ว่าผม         เป็นเกย์..

     

     พี่เขาอาจจะ.. กลัว... OTL  

      

    สะ.. เสร็จแล้วครับ  

      

    ผมยื่นให้พี่เขาพร้อมกับก้าวถอยห่างมาสามก้าว ต้องรักษาระยะห่างไว้ ไม่งั้นเส้นสติผมอาจจะขาด เผลอพูดจาแปลก ๆ ออกไป 

     

    แพ้ผัก?”

    พี่ชานยอลตั้งคำถามหลังจากอ่าน  สิ่งที่ผมเขียนลงไปในกระดาษแผ่นนั้น

    ครับ

    แพ้ยังไงพี่เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ผมอยากจะถอยออกไปอีกอยู่หรอก แต่เขาคงสงสัยแน่ว่าผมจะถอยไปทำไม

     

    มันขม (_ _)”

     

    พอได้ยินคำตอบจากผมพี่ชานยอลก็ปล่อยก๊ากลั่น ก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่ถือกระดาษมาขยี้หัวผมแรง ๆ เหมือนคนที่สนิทสนมกันมาสิบยี่สิบปี

     

     

     อย่าทำแบบนี้สิครับ ผมยิ่งหวั่นไหวอยู่..

     

     

     แค่เดินมาส่งแล้วรับกลับผมก็ประทับใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นรุ่นพี่ที่แอดเฟสมาคุยด้วยคนแรกอีก ยิ่งโจมตีจิตใจผมเข้าไปใหญ่  

     

    ตอนนี้ใจผมเต้นเป็นจังหวะแทงโก้แล้วล่ะครับ...

     

    พี่อี้ฟานช่วยมาลากผมออกไปจากตรงนี้ที T__T   

       

     

     

    TBC.

     

     

    THE★ FARRY


         

            
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×