จากหนังสือ เที่ยวสนุกเมืองอีสานสกลนคร
สุรเชษฐ์ งิ้วพรหม ผู้แต่ง
จังหวัดสกลนครตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีขนาดใหญ่อันดับที่ 19 ของ ประเทศ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอารยธรรมและประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปี พบแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์จำนวน 83 แห่งมีอายุประมาณ 600 ปี ก่อนพุทธกาลถึงพุทธศตวรรษที่ 8 มีเทือกเขาภูพานเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำหลายสายที่ไหลลงสู่หนองหานแล้วไหลเชื่อมต่อไปถึงแม่น้ำโขง ยังความอุดมสมบูรณ์ให้แอ่งสกลนครตลอดมา
จากหลักฐานที่ค้นพบทางโบราณคดีดังกล่าวพิจารณาได้ว่ามีการตั้งชุมชน ทำมาหากินของผู้คนมาแต่โบราณครั้งยุควัฒนธรรมบ้านเชียง ยุคสมัยสัมฤทธิ์ ยุคเหล็ก ยุคทวารวดี ยุคลพบุรี ยุคล้านช้าง จนเข้าสู่การปกครองของกรุงรัตนโกสินทร์ มีการเปลี่ยนชื่อเมืองมาหลายครั้ง ยุคอาณาจักรขอมมีชื่อว่า “เมืองหนองหานหลวง” ยุคอาณาจักรล้านช้าง เปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองเชียงใหม่หนองหาน” และในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 1 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองสกลทวาปี” ครั้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ปี พ.ศ. 2381 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองสกลนคร” และเป็นจังหวัดสกลนครจนถึงปัจจุบัน
คนสกนครมีเรื่องเล่าและตำนานมากมาย รู้จักกันทั่วไปคือตำนานพญานาคผาแดงนางไอ่ที่หนองหาน สกลนครมีชนเผ่าพื้นเมือง 6 กลุ่ม มีคนไทยเชื้อสายจีนและคนไทยเชื้อสายเวียดนามอาศัยอยู่ร่วมกันมาจนมีวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น งานนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุม, งานประเพณีแข่งเรือ-แห่ปราสาทผึ้ง ช่วงเทศกาลออกพรรษา, งานเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส, งานบุญพระเวส-เซิ้งผีตาโขน, เทศกาลโส้รำลึก, งานภูไทวาริชภูมิ
นอกจากนี้ สกลนครยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ การเมืองเกี่ยวกับเสรีไทยและคอมมิวนิสต์ เป็นจังหวัดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ในการสร้างพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เพื่อไว้แปรพระราชฐานแห่งเดียวในภาคอีสาน
สกลนคร ยังถูกขนานนามว่าเป็นเมืองพุทธศาสนา พระธาตุ 5 แห่ง แหล่งอารยธรรม 3,000 ปี เป็นเมืองแห่ง 4 ธรรมคือ อารยธรรม ธรรมชาติ ธรรมะและวัฒนธรรม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างเดินทางมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
หากพูดถึงของกินของฝาก เมืองนี้ก็มีของดีไม่แพ้จังหวัดอื่นเช่นกัน เนื้อโคขุนโพนยางคำ สุดยอดโคเนื้อระดับประเทศ และที่มาแรงสุดก็คือ ของดี 3 ดำ สุดยอดของดีจากศูนย์ศึกษาภูพาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบไปด้วย โคดำ หรือโคจิมะ (โคพันธุ์ดีของญี่ปุ่น+โคพันธุ์พื้นเมือง), ไก่ดำ สุดยอดไก่ดำต้มสมุนไพรจีน และหมูดำ หมูที่กินเนื้อแล้วจะได้รสชาติแบบเต็มๆคำ และยังมีข้าวฮาง ข้าวสีทองที่มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการ ไก่ย่างพังโคน น้ำหมากเม่าและไวน์เม่า และของฝากยอดฮิตได้แก่ ผ้าย้อมคราม สุดยอดครามระดับโลก หรือจะเป็นเซรามิก งานฝีมือของชาวบ้านศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขามเป็นต้น
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงสิ่งเล็กๆเท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่น่าสนใจที่รอให้ท่านผู้อ่านทุกคนได้มีมีโอกาสมาร่วมค้นหาและมาเที่ยวจังหวัดสกลนคร เมืองที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณจะต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
หนองหานแล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศไทย มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของชาวสกลนคร เรื่องราวที่เป็นตำนานกล่าวขานกันมานานคู่กับหนองหานและเมืองสกลนครคือ ตำนานผาแดงนางไอ่กับตำนานพญานาค สัตว์ในตำนานที่ศรัทธาในพุทธศาสนา เรื่องราวกล่าวถึงการแย่งชิงตัวนางไอ่คำ ระหว่างท้าวผาแดง (ลูกเจ้าเมือง) กับท้าวพังคีเจ้าชายพญานาค จนเกิดการต่อสู้ไล่ล่าทำให้แผ่นดินสะเทือน ยุบตัวลงเกิดเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ (หนองหานหลวง) เกาะแก่ง และทางน้ำไหล(ลำน้ำก่ำ) ซึ่งจะไหลไปยังแม่น้ำโขงนั่นเอง
ความคิดเห็น