คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #104 : บทที่เก้าสิบหก -- งอน
บทที่เก้าสิบหก
ระหว่างนั่งในรถกันแค่สองคน ความเงียบก็เข้าปกคลุมได้ยินเพียงเสียงล้อรถที่กำลังบดถนนไปเรื่อยๆ บรรยากาศช่างน่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก รุ่นพี่เอาแต่ตีหน้าเครียด ถามอะไรไปก็ไม่ตอบ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยจริงๆ
แล้วทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพี่สนโกรธเรื่องอะไร ?
“ พี่สน ? ” ลองเรียกไปอีกรอบ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนฝ่ายนั้นเบาๆ
“ ........................................ ”
ยังนิ่งเหมือนเดิม...งั้น ลองแบบนี้ล่ะ
จุ๊บ !
ร่างเพรียวยืดตัวไปหอมแก้มคนรักเบาๆ ฝ่ายนั้นเหมือนตาโตขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม เขาได้แต่แอบอมยิ้ม แล้วเปลี่ยนไปซบไหล่อีกฝ่ายที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจ
“ พี่สน ? หายโกรธน้า...นะ นะ นะ ”
“ ง่ายไปหรือเปล่า ? ” นั่นเป็นประโยคแรกที่รุ่นพี่เอ่ยออกมาตั้งแต่ออกมาจากคณะ
ร่างเพรียวแก้มป่อง “ แล้วจะให้ทำไงล่ะ ? ”
“ วันนี้ณัฐทำพี่งอนไปสามครั้ง รู้ไหมว่าเรื่องอะไร ? ”
“ หา อะไรนะ ? สามครั้งเลยเหรอ ?! ” เขาอุทาน
“ ใช่ สามครั้ง ”
แล้วตอนไหนบ้างล่ะเนี่ย ? ร่างเพรียวเกาหัวงงๆ
“ แล้วรู้ไหมว่าเพราะเรื่องอะไร ? ”
แอบลอบมองหน้ารุ่นพี่แวบหนึ่ง ก่อนที่จะทายออกไป...ก็พอจะรู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องอะไร ?
“ ก็...เรื่องน้องรหัสณัฐเหรอ ? ”
“ ใช่...พี่ถามจริงๆเหอะ น้องรหัสณัฐนี่เคยมีท่าทีจีบณัฐมาก่อนหรือเปล่า ? ” รุ่นพี่ถามอีกครั้ง
“ นึกดูให้ดีๆก่อนนะ...ค่อยตอบ ”
“ ก็.... ”
ท่าทีจีบงั้นเหรอ ? ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยรู้สึกหรอก คิดเพียงแค่ว่าน้องแมทคงเป็นคนนิสัยแบบนั้นอยู่แล้ว พูดคุยเก่ง เฮฮา ชอบเอาอกเอาใจ มนุษยสัมพันธ์ดีเกินไปเท่านั้นเอง
แต่พอ...ได้ฟังน้องแมทร้องเพลงในวันนี้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าสายตานั้น...ที่มองมาที่เขาแวบหนึ่ง...ไม่ใช่แค่มองผ่านๆหรือมองแค่พี่รหัสคนหนึ่ง...แต่เหมือนมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่
แต่ความรู้สึกของเขาไม่อยากจะคิดแบบนั้น...ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยจริงๆ
“ ท่าทีจีบ...ชัดเจน ไม่มีหรอก แต่บางครั้งก็มีอะไรแปลกๆ...อยู่เหมือนกัน ” เขาพยายามเค้นคำพูด
“ อย่างเช่น...ครั้งแรกที่เจอกัน น้องเค้าก็มีท่าทางเหมือนกับ...ดีใจมาก...ที่มีณัฐเป็นพี่รหัส ชอบพูดชอบคุยกับณัฐมากกว่าคนอื่น...แต่มันก็แค่นั้นเองอ่ะ ”
“ แล้วที่ชอบส่งข้อความมาบ่อยๆอีกล่ะ ? ” รุ่นพี่เสริมให้
เพราะหลายครั้งที่น้องแมทจะส่งข้อความมาเวลาที่เขากำลังอยู่กับรุ่นพี่ ก็เลยไม่พลาดที่จะได้อ่านด้วยกัน รุ่นพี่ก็รู้เรื่องนี้ด้วย...แต่ข้อความส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีคำหวานอะไรเด่นชัดนะ มากสุดแค่...ฝันดีนะครับพี่รหัส เท่านั้นเอง
“ ก็...ไม่รู้เหมือนกันสิ ” เขาตอบเสียงแผ่ว
“ ต่อไปนี้ก็รู้ไว้ซะนะ โดนมันร้องเพลงจีบเข้าไปแล้ว เมื่อกี้นี้ไง แถมยังร้องต่อหน้าพี่ที่เป็นแฟนณัฐอีกด้วยนะ เฮอะ ! พูดขึ้นมาแล้วมันหงุดหงิดอีกรอบ ”
“ พี่สนอ่ะ... ” เขาไม่รู้จะเถียงอะไรจึงเข้าไปซบไหล่ฝ่ายนั้นอีกครั้ง เพราะเขาเองก็รู้สึกเหมือนกัน เพียงแต่ไม่อยากจะคิดมากเท่านั้นเอง
“ ก่อนหน้านี้พี่ก็แค่สงสัยว่าใช่หรือเปล่า ก็เลยรอสังเกตดูเฉยๆ แต่พอวันนี้แหละ ชัดเลย ! ”
“ จริงแน่เหรอ ? น้องมันอาจจะร้องเพลงให้...ใครสักคนในรุ่นที่มันแอบชอบก็ได้นะ ” เขาแอบถาม
รถขับเข้ามาถึงบริเวณลานจอดรถของร้านเหล้า รุ่นพี่เลี้ยวเข้าจอดทันที ปิดเครื่องยนต์ แล้วหันหน้ามาทางเขา มองด้วยแววตาจริงจัง
“ ณัฐ...อย่าทำเป็นไม่สนใจ...อย่าปล่อยให้พี่ต้องทนเห็นคนอื่นจีบแฟนตัวเองต่อหน้าต่อตาแบบนี้เลย มันเหมือนกับว่า...พี่ทำอะไรไม่ได้ ทั้งๆที่ณัฐเป็นของพี่ เป็นของพี่แค่คนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์ ”
“ ณัฐควรจะสังเกตคนรอบข้างมากกว่านี้ ที่พี่หึง ไม่ได้หึงแบบมั่วๆ มันต้องมีเหตุผลสิ แล้วไอ้น้องแมทอะไรเนี่ย พี่ก็สังเกตมานานแล้ว น้องรหัสอะไรทำไมต้องโทรหา ทำไมต้องส่งข้อความมาบ่อยๆ ทำไมต้องสนใจณัฐมากกว่าปกติ แล้วทำไมต้องเลือกเพลงที่มีความหมายอย่างนั้นมาร้องในวันงานเฟรชชี่ไนท์...แล้วทำไมต้องมองมาทางณัฐตรงท่อนนั้นด้วย ”
รุ่นพี่พูดซะยืดยาว จนเขารู้สึกว่าตัวหดลีบเล็กลงเรื่อยๆ
“ ได้ฟังเนื้อหาของเพลงบ้างหรือเปล่าเนี่ย ? หรือมองแต่หน้ามันอย่างเดียว ”
“ ก็...ฟังอยู่ ”
ฟังน่ะมันก็ฟังอยู่หรอก แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังขนาดนั้นนี่นา...ก็ฟังทันบ้างบางประโยค รู้แต่ว่าเป็นเพลงแอบรัก...แต่ไม่ควรรัก...แค่อยากบอกให้เธอรู้ไว้ ประมาณนี้แหละมั้ง ?
“ ต่อไปนี้ณัฐรู้นะ...ว่าควรจะต้องทำยังไง อย่าปล่อยให้พี่ต้องจัดการ เพราะนั่นก็เป็นน้องรหัสของณัฐเอง ”
ร่างเพรียวคิ้วขมวดพยักหน้าหงึกๆ ร่างสูงเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ จึงขยี้หัวเบาๆ
“ ป่ะ ลงไปได้แล้ว ”
“ เดี๋ยวก่อนพี่สน ! ”
“ อะไรเหรอ ? ”
“ ที่พี่สนบอกว่า...งอนสามเรื่อง เรื่องอะไรบ้างเหรอ ? ”
ฝ่ายนั้นยิ้ม “ จะมีแฟนคนไหนที่บอกว่า...กำลังงอนเรื่องอะไรเหมือนพี่บ้างไหมเนี่ย ? ”
“ ก็...ณัฐรู้แค่สองเรื่องนี่นา เรื่องแรกพี่สนงอนที่ณัฐหายไปตอนที่เล่นกีตาร์ สงสัยโกรธที่ณัฐไปพาน้องแมทมา แล้วอีกครั้งก็ตอนที่น้องแมทร้องเพลง แล้วอีกเรื่องหนึ่งล่ะ ? ”
“ ณัฐแนะนำตัวพี่ กับน้องรหัสว่าเป็นอะไรล่ะ ? ”
เท่านั้นแหละ เขาก็รู้ทันทีเลย...ก็เขาแนะนำว่าพี่สนเป็นแค่รุ่นพี่ปีสี่...
“ ณัฐขอโทษ...ก็...ไม่ทันตั้งตัวนี่นา ”
“ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากหรอก เพราะถ้าณัฐพร้อม เดี๋ยวณัฐก็กล้าบอกคนอื่นเอง ”
“ พี่สนอ่ะ... ”
รู้สึกผิดจังเลย ก็เขาไม่กล้าบอกตรงๆนี่นา แต่ถ้าคนอื่นมาถาม เขาก็กล้าบอกตามตรงไม่มีปิดบังแน่นอน แต่ถ้าให้บอกเองแบบนี้...มันเขินอ่ะ
“ พี่ถึงบอกไง ว่าต่อไปนี้...ณัฐก็รู้ว่าควรทำยังไง ”
ร่างสูงกดล็อครถเรียบร้อย หันมามองเห็นแต่ร่างเพรียวยืนทำหน้าหงอยมองตาปริบๆเหมือนเดิม ร่างสูงจึงยื่นมือออกมาให้อีกฝ่ายจับ แล้วลูบหัวปลอบประโลมด้วยมืออีกข้าง พร้อมกับจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน
“ ณัฐไม่ได้ผิดหรอกครับ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกนะ ป่ะ ไปกินเหล้ากันดีกว่า ฮ่ะ ๆ ”
แล้วร่างเพรียวก็หลุดยิ้มออกมาในที่สุด ทุบอกอีกฝ่ายแก้เก้อ
ร่างทั้งสองเดินเข้ามาในร้านเหล้าทั้งที่มือยังกุมกันไว้แน่น เสียงดนตรีเล่นสดดังทั่วร้าน ผู้คนหนาแน่นนั่งเต็มเกือบทุกโต๊ะเพราะวันนี้เป็นคืนวันศุกร์ พี่สนเดินจูงมือเขาผ่านทางเดินแคบๆเบียดผู้คนเล็กน้อย ตรงไปยังโต๊ะหนึ่งทางด้านในที่กลุ่มเพื่อนนั่งจองกันไว้แล้ว
“ เห้ยย มา ๆ ” พอพี่นนท์เห็นพวกเขาก็รีบกวักมือเรียกทันที
เขานั่งเก้าอี้ว่างข้างพี่สนและพี่นนท์ เครื่องดื่มน้ำแข็งพร้อมเพรียงบนโต๊ะหมดแล้ว พี่สนจัดการคีบน้ำแข็งใส่แก้วของเขา
“ ณัฐจะกินอะไร ? ”
เขามองบนโต๊ะ ก็มันมีแต่เหล้า ให้กินอะไรล่ะ ?
“ ก็...กินเหมือนพี่สนแหละ ”
ฝ่ายนั้นยิ้มแล้วส่ายหัวน้อยๆ บรรจงเทเหล้าบางๆผสมกับโซดาและน้ำ ชงให้เข้ากันแล้วยื่นมาให้ ก่อนที่จะชงให้ตัวเองบ้าง แต่ปริมาณเหล้าช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
บทสนทนาของกลุ่มรุ่นพี่ในตอนนี้ก็ไม่พ้นจากเรื่องการเรียน ต่างคนต่างเล่าสู่กันฟังว่าเรียนวิชานั้นเป็นยังไงบ้าง อาจารย์คนไหนควรเข้าใกล้ไม่ควรเข้าใกล้ และเรื่องเพื่อนในกลุ่มคนไหนที่ทำเรื่องเปิ่นๆก็เอามาเม้าท์เป็นเรื่องสนุกปากได้อย่างง่ายดาย อย่างเช่นตอนนี้พี่ปอร์เช่ก็กำลังเล่าอย่างออกรส
“ เออ ตอนนั้นกลุ่มพวกกูมาสายกันเว้ย แล้วทีนี้ พออาจารย์มาถึงก็ปิดประตูล็อคห้องเลย เพื่อนคนอื่นก็เลยเข้ามาไม่ได้ ”
“ เหลือไอ้ต้อม กับ แฟง มันเดินอ้อมมาทางไหนไม่รู้ เดินเข้ามาในห้องหน้าตาเฉยเลย แล้วยืนทำเนียน อาจารย์หันไปมองก็รู้แล้วแหละว่ามันเข้ามากันแล้ว อาจารย์ก็เลยถามพวกมัน แล้วทีนี้ตอบไม่ได้กันทั้งสองคนเลย สักพักอาจารย์ก็มองหน้าพวกมัน...ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยนะ ทำหน้าเย้ยหยันนิดหนึ่ง แล้วถามว่า พวกเธอลืมเอาอะไรมาหรือเปล่า ? ”
“ ไอ้ต้อมมันก็มองตัวเองเว้ย แล้วทีนี้มันสังเกตว่าคอมันอ่ะ ไม่มี steth (หูฟัง) ห้อยคอเหมือนคนอื่น มันก็เลยตอบออกไปว่า steth ครับ แบบ...หน้าซื่อๆเลยนะมึง ”
เพื่อนทุกคนนั่งฟังอีกฝ่ายเล่าอย่างตั้งใจ รวมทั้งเขาด้วย
“ เท่านั้นแหละ อาจารย์ตอบกลับมาว่า ‘ไม่ใช่ steth ’....เธอลืมเอา ‘สมอง’ ! มาต่างหาก แถมตะคอกด้วยนะมึง กูทั้งจะเครียด ทั้งอยากจะหัวเราะ แม่งงง อาจารย์แอบเล่นมุกด้วยว่ะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง อาจารย์คนเดียวกันเนี่ยแหละ คราวนี้อ่ะแฟง ตอนนั้นอาจารย์ก็บ่นๆด่าๆอะไรมันสักอย่าง แล้วเหมือนมันไม่ค่อยฟังเว้ย อาจารย์ก็เลยถาม... ‘แล้วนี่รู้มั๊ย ฉันพูดภาษาอะไรอยู่ฮึ ? ทำไมถึงฟังไม่รู้เรื่อง ? ’ แฟงมันก็ทำหน้างงเว้ย แล้วมันก็ตอบออกมาแบบงงๆน่ะแหละว่า... ‘ภาษาไทยกลางค่ะ’ ”
“ เฮ้ย ! ถ้าเป็นมึงๆจะตอบ ‘ภาษาไทยกลางมั้ยวะ ?’ โคตรกวนเลยว่ะ ฮ่ะ ๆ ๆ กูก็แอบหลุดหัวเราะออกมาเลย อาจารย์ค่อยตอบกลับมันว่า...ฉันคุยกับเธอเป็น ‘ภาษาคนย่ะ’ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
“ กูเล่าบ้าง ! ตอนนี้กูอ่ะอยู่เมด แต่ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก เป็นเรื่องของชมพู่ ” พี่นนท์เริ่มเล่าเรื่องบ้าง พี่นนท์ก็อยู่บล็อกเดียวกับพี่สน เพียงแต่อยู่คนละกลุ่มย่อย จึงไม่ได้เรียนด้วยกันตลอดเวลา
“ ก็แบบ เราก็พึ่งขึ้นปีสี่ใช่มั้ย ? อะไรๆก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แล้วทีนี้...ต้องดูเคสของตัวเองทุกวัน ชมพู่มันดูชาร์ต(ข้อมูลคนไข้)แล้วบอกกับพี่ว่าคนไข้ของมันน่ะ..มีไข้ทุกวัน..บอกเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ พี่ก็เชื่อสิทีนี้ ปรากฏว่า...มันดูเส้น body temp (อุณหภูมิกาย) สลับกับเส้น Pulse rate (อัตราการเต้นของชีพจร) คือมันต้องดูเส้นล่างไง คนไข้เลยมีไข้สูงลอยทุกวันเลย แม่งงงง คิดได้ไงวะ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
“ เออ กูได้ข่าวว่าพี่อ๊อฟ ชอบมึงนิสน ” พี่นนท์หันมาเปลี่ยนเรื่องพูดทันทีโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนคนอื่นจึงหันมามองหน้าเขาสลับกับรุ่นพี่
“ พี่อ๊อฟไหนวะ ? ” พี่กฤตถาม
“ พี่อ๊อฟ...พี่ dent’ med ปี 1 ที่ท่าทางออกสาวๆหน่อยน่ะ ชอบจิกๆน้องน่ะมึง ” พี่นนท์อธิบายซะเห็นภาพเลย
“ เออ กูกับพี่เค้าเคยอยู่กลุ่มเดียวกัน แล้วมึงได้ข่าวมาจากไหน ? ” พี่สนเป็นฝ่ายพูด
“ ก็แค่ได้ยินมา แต่กูก็ไม่แปลกใจหรอกนะ เพราะตอนนี้พี่เค้าก็อยู่กลุ่มเดียวกะกู แล้วท่าทางเหมือนจะชอบไอ้เต้ซะด้วย ”
“ เออ ไอ้เต้มันก็หล่อของมันแต่ไหนแต่ไร ”
“ แต่สงสารเพื่อนว่ะ ไอ้เต้มันไม่ค่อยกล้าปฏิเสธคนซะด้วย พี่เค้าเลยเล่นใหญ่ ”
“ เห้ย ! ”
“ ไม่ใช่ หมายถึง ยิ่งชอบหยอดไปกันใหญ่ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ เออ ตอนอยู่กลุ่มเดียวกันกับกู แล้วกูแม่งโคตรอึดอัดเลยว่ะ ถามไอ้กฤตดู...มันก็เคยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ไม่แคร์ด้วยว่าจะมีแฟนหรือเปล่า กูเห็นว่าเป็นพี่หรอกก็เลยต้องเกรงใจ ” พี่สนพูด
“ แล้วน้องณัฐรู้เรื่องนี้รึเปล่าเนี่ย ? ไม่ใช่พวกพี่มาทำให้ทะเลาะกันหรอกนะ ” พี่นนท์ถาม
“ อ๋อ รู้ครับ พี่สนเล่าให้ฟัง ” หันไปมองเห็นแต่ฝ่ายนั้นยักคิ้วให้เพื่อน ประมาณว่า...กูกะแฟนไม่มีความลับต่อกันเว้ยยย
“ เล่าให้ฟังหมดรึเปล่า ? ” พี่เม้งถามหน้ากวน
“ อ้าวไอ้เชี่ยเม้ง ! ไอ้นี่ ยุให้ครอบครัวเค้าแตกแยก ” พี่สนพูด เขาได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
สักพักนึง สังเกตเห็นพี่ปอร์เช่หยิบโทรศัพท์มาคุยและเดินออกไปนอกร้าน ไม่นานก็เดินกลับเข้ามา พี่สนจึงถามขึ้นทันที
“ เฮ้ยย ปอร์เช่ ได้ข่าวว่ามึงมีแฟนใหม่แล้วนี่หว่า ? เป็นใครวะ ”
อีกฝ่ายยิ้มบอกอย่างภูมิใจ “ น้องทันตะ ปี 3...ชื่อน้องฝ้าย ”
“ เห้ย...น้องคนนี้ดังนี่หว่า ไอ้นี่ ร้ายมากก ไปจีบมาได้ไงวะ ? ”
“ ของอย่างนี้มันอยู่ที่หน้าตาและฝีมือว่ะ ฮ่ะ ๆ ”
“ เออ ! อย่าให้เลิกกันเร็วละกัน ”
“ อ้าว ไอ้นี่ แช่งกู ”
“ เดี๋ยวนี้คณะเราชอบเป็นแฟนกับรุ่นน้อง เภสัช ทันตะอะไรอย่างนี้เนอะ กูเห็นหลายคู่แล้วนะเนี่ย ”
กินกันไปพูดคุยเรื่องไร้สาระกันไป เหล้าในขวดพร่องลงเรื่อยๆจนหมด รุ่นพี่ก็สั่งเบียร์มากินอีกสำหรับคนที่ยังอยากกินต่อ แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะมึนหัวแล้วด้วย
“ โอ้ยยย...กินเหล้าผสมเบียร์ พรุ่งนี้เราทุกคนยังต้องไปราวด์ 7 โมงกันนะเว้ย ” ได้ยินแต่เสียงของรุ่นพี่คนไหนสักคนพูด เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจนักเพราะเริ่มจะหนักหัวแล้วนะเนี่ย
“ ก็รีบกินให้หมด จะได้รีบกลับกันไง ฮ่ะ ๆ ”
“ พี่โสนนนนนนนนน ” เสียงของเขาเอง เอ๊ะ ! ทำไมถึงได้เปล่งเสียงได้ยากอย่างนี้นะ
รู้สึกถึงสัมผัสมือแกร่งโอบไหล่เขาไว้ให้แนบชิดตัว เขาแหงนมองเห็นแต่อีกฝ่ายกำลังยิ้มให้ สายตาของเขาเริ่มพร่าเลือนจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์แล้ว
“ เมาแล้วเหรอ ? ” เสียงนุ่มทุ้มถามขึ้น
เขาพยักหน้าเบาๆ ปล่อยร่างให้อยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายอย่างไม่ต้องอายสายตาใครอีกต่อไปแล้ว
“ อยากกลับมั้ย ? ”
“ รอ...กลับ...พร้อม...กานนน...นา...แหละ ”
ร่างเพรียวรู้สึกว่าถูกจูบบริเวณหน้าผาก หลังจากนั้นรุ่นพี่คนอื่นก็ส่งเสียงแซวเสียยกใหญ่
“ โอ้โห จูบไม่อายเพื่อนอายฝูงเลยเว้ยเห้ย ”
ร่างสูงยิ้มมุมปาก “ พวกมึงต้องทนนะ คนเค้ารักกันว่ะ ”
“ ณัฐ...ปวด...ฉิ้ง...ฉ่องงงง ” เขาบอกออกมาทันที ไม่สนใจรุ่นพี่คนอื่นแล้วด้วย
“ งั้นพี่พาไปห้องน้ำนะ ”
“ อื้อออ ”
ร่างสูงเดินจูงคนรักพาไปห้องน้ำ ผ่านสายตาหลายคู่ที่มองมาที่เราและเลื่อนลงมองมือที่กำลังกุมกันไว้อย่างไม่ปิดบัง เขาก็เดินต่ออย่างไม่ใคร่จะสนใจนัก จนมาถึงห้องน้ำชาย...
“ ยืนไหวมั้ยเนี่ย ? ”
“ ม่ายยยย ”
“ งั้นเข้าห้องน้ำดีกว่านะ ”
“ อ้าววว...พี่โสนนน...เข้า...มา...ไม ? ” ร่างเล็กถามทั้งที่ยืนไม่ค่อยจะมั่นคง พออยู่ใต้แสงไฟถึงเห็นว่าใบหน้าเป็นสีชมพูระเรื่อ...น่ามองสุดๆเลย
ร่างสูงปิดประตูและกดล็อคทันที เพราะกลัวอีกฝ่ายจะหกล้มหัวคะมำเป็นผีเฝ้าห้องน้ำไปซะก่อน เขาจึงตัดสินใจเข้ามาด้วย ข้างนอกคนไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่เป็นไรหรอก
“ ฉี่เร็วเข้า ”
“ ไม่...อาววว...อยู่ด้วยกานน...ฉี่...ไม่...ออกกก ”
สนส่ายหัว “ เมาแล้วยังจะอายอีกนะ มานี่มา ”
เขาจัดการรูดซิปถอดกางเกงในให้อีกฝ่ายทันที โดยไร้การปัดป้องใดๆจากร่างเพรียว หลังฉี่เสร็จ เขาก็จัดการใส่กางเกงให้เรียบร้อย แล้วพาออกมาจากห้องน้ำ พอออกมาก็เห็นคนหันมามองพวกเราประมาณสองสามคน เขาก็ยิ้มๆสักเล็กน้อย ก่อนที่จะพาอีกฝ่ายไปล้างมือทันที
“ เอามือมานี่มา ล้างให้ ”
“ เอา...สบู่...ด้วยยยย ”
“ อืม นี่ไง ใส่ให้แล้ว ” ล้างจนสะอาด เช็ดให้เรียบร้อย ก็ประคองอีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำได้เสียที
แต่พอกลับมานั่งถึงโต๊ะเท่านั้นแหละ
“ พี่โสนนนนนน ? ”
“ อะไรครับ ? อยากได้อะไรอีก ”
ร่างเพรียวเข้ามากอดแขนเขาไว้ ส่งสายตาอ้อน...ใบหน้าสีชมพู ริมฝีปากเล็กสีแดงก่ำ ดวงตาปรือปรอย เฮ้อ...อย่างนี้นี่มันยั่วกันชัดๆ...ณัฐเอ้ยณัฐ !
“ ณัฐ...อยาก...กีนนน...ปลา...หมึกกก ”
ปลาหมึกย่างขายอยู่หน้าร้านเหล้า เดินไปแป๊บเดียวก็ถึง เขาหันหน้าไปมองเพื่อน ประมาณว่า...มึงไปซื้อปลาหมึกให้กูหน่อย และเพื่อนที่แสนดีก็ส่งสายตาตอบกลับมาว่า...มึงก็ไปซื้อเองดิ นั่นแฟนมึง เขาก็เลยต้องจำยอม
“ อยากกินจริงเหรอ ? ” ถามอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
“ ค้าบบบ...อยากกีน...น้า...ที่รัก...ซื้อ...ให้...กีนน...หน่อยยย ”
โห...คราวนี้มีคำว่าที่รักด้วย ไม่หาซื้อไม่ได้แล้ว...ปลาหมึกจ๋า เจ้าอยู่ไหน ?
“ งั้นเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ อยู่กับเพื่อนพี่ที่นี่ก่อนนะครับ ”
“ เฮ้ย ! พวกมึง ฝากดูแลณัฐด้วย ” เขาบอกเพื่อนในกลุ่มที่ตอนนี้ก็เริ่มเมาบ้างไม่เมาบ้างเหมือนกัน
“ ได้ เดี๋ยวดูแลให้เป็นอย่างดี ” ไอ้เม้งบอกแล้วแกล้งเอื้อมมือจะมากอดแทน เขาจึงดึงมือเพื่อนออกทันที
“ ห้ามแตะด้วย กูหวง ”
“ เออน่า เดี๋ยวดูให้ ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม มึงพอใจยัง ? แม่งง ปลาหมึกน่ะซื้อมาเยอะๆด้วย กูจะกินด้วย ”
“ พี่โสนนน...รีบ..มา..น้า ” เขาโบกมือให้รุ่นพี่ เมื่อฝ่ายนั้นเดินไป ไม่นานเขาก็ถูกกลุ่มเพื่อนพี่สนมองด้วยสายตาแปลกๆทันที...ทำไมต้องมองแบบยิ้มๆด้วยนะ ?
“ น้องณัฐครับ ? ” เสียงพี่เม้งนี่นา
“ ค้าบบบบบ ”
“ เมาแล้วเหรอ ? ”
“ อืมม...มาวววว...แล้วววว ”
“ น้องณัฐครับ...ไอ้สนมันเคยทำมิดีมิร้าย น้องณัฐบ้างหรือเปล่า ? ”
ทำมิดีมิร้ายเหรอ ? ไม่เคยหรอก
“ ม่ายยยย...พี่โสนเป็นคนดี...พี่โสนน...น่าร้ากกกก ”
“ เห้ย ! เม้ง มึงถามได้อ้อมค้อมมากเลยว่ะ ต้องถามแบบนี้ ” อันนี้เสียงใครไม่รู้...พี่เก่งมั้ง
“ น้องณัฐครับ ? ”
“ ค้าบบบบบ ”
“ ไอ้สนกับน้องณัฐ คบกันถึงขั้นไหนแล้วเหรอ ? ”
“ ขั้นหนายยยย ? อะไร ”
“ แบบ เคย...แสดงความรัก ลึกซึ้ง อะไรอย่างนี้บ้างมั้ย ? ” ฝ่ายนั้นทำมือประกอบด้วย
“ พี่เก่งงง...ลา...มกกกก อ่า ” แอบหลอกถามงั้นเหรอ ? ไม่บอกหรอก
“ พวกมึงถามได้เกรียนว่ะ ! ” เอ๊ะ ! เสียงคุ้นๆ...เย้ ! พี่สนมาแล้ว อยากกินปลาหมึกๆ
“ โอ้ย พวกกูก็ถามนิดหน่อยเอง ”
“ แล้วทำไมไม่ถามกู ? ”
“ ถามมึงมันจะไปมันส์อะไรวะ ต้องถามน้องณัฐสิ เอ๊ะ ! งั้นถามมึงก็ได้ ”
“ เออ ถามกูได้ แต่กูจะตอบมั้ยน่ะอีกเรื่องนึง ”
“ แต่พวกกูก็เดาได้ละกัน ฮ่ะ ๆ ”
ร่างสูงส่ายหัว หยิบปลาหมึกให้คนรักกิน กินไปกินมาคนข้างกายของเขา...ดันหลับไปแล้วซะงั้น เขาจึงประคองกอดไว้แน่น แล้วนั่งกินเบียร์ต่อกับเพื่อน
“ เห้ย ถามจริงเหอะ พวกมึงคบกันมานานเป็นปีแล้ว...โคตรนานเลยนะเว้ย ถ้าเทียบกับคนก่อนๆที่มึงเคยคบมา คนนี้ใช่เลยเหรอวะ ? ” เม้งถามหน้าจริงจัง คนอื่นก็เลยให้ความสนใจด้วย ที่จริงตอนนี้ทุกคนก็เริ่มเมากันหมดแล้วแหละ รวมทั้งเขาด้วย แต่ก็ยังพอมีสติอยู่
ร่างสูงกระดกเบียร์เข้าปาก ก่อนที่จะเผยยิ้ม
“ อืมม...คนนี้อ่ะ ใช่สุดแล้ว ”
“ สรุปมึงเป็นเกย์จริงเหรอวะเนี่ย ? จนตอนนี้กูก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะ ”
“ กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ผู้ชายคนอื่นกูก็ไม่สนใจนะ กูชอบณัฐแค่คนเดียว ”
“ อืม กูพอจะเข้าใจความรู้สึกมึงนะ....นิดๆ ” กฤตบอก เขาจึงยิ้มให้เพื่อน
“ กูก็อธิบายไม่ถูกว่ะ คือ มันเป็นความรู้สึกที่...เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนแน่ใจแล้วว่าคนนี้อ่ะ...ใช่ ! ”
“ อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข อยากทำให้เค้ามีความสุข อยากเห็นเค้ายิ้ม อยากปกป้องดูแล อยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่มีอะไรต้องกลัว แม้แต่คนบอกว่าพวกเราเป็นเกย์กูก็ไม่สน ถ้ากูขาดณัฐไป... ” เขามองร่างในอ้อมกอด
“ กูต้อง...อยู่ไม่ได้แน่เลยว่ะ ”
ไม่มีเสียงล้อเลียนจากเพื่อนเหมือนอย่างทุกครั้ง บางคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ บางคนยกแก้วขึ้นมาขอชนด้วยจากใจจริง
“ อืมม กูเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วว่ะ ”
“ กูเข้าใจความรู้สึกมึงนะ พอเราเจอคนที่ใช่ ความรู้สึกมันจะบอกเอง ” ปอร์เช่กล่าว
ร่างสูงยิ้ม “ อืมม ขอบใจพวกมึงว่ะ ที่เข้าใจ ”
“ เฮ้ย ! ยังไงเราก็เพื่อนกัน ไม่เข้าใจเพื่อน จะไปเข้าใจหมาที่ไหนวะ ” กฤตบอก
“ งั้นพวกเราชนแก้ววว !! ”
พอเบียร์หมดและร้านกำลังจะปิด พวกเราทุกคนก็ถึงเวลาแยกย้ายกลับกันได้เสียที เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นไปราวน์คนไข้กันแต่เช้า เขาร่ำลากับเพื่อนที่หน้าร้านก่อนที่จะประคองร่างเพรียวมาจนถึงรถ
“ กลับ...แล้ว...เหรอออออ ” อยู่ดีๆร่างเพรียวก็ลืมตาแป๋วขึ้นมา เมื่อเขาจัดร่างให้นอนบนเบาะด้านข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว
“ อ้าว นึกว่าเมาหลับแล้ว ”
“ ตื่น...แล้วววว ”
เขาสตาร์ทรถออกตัวทันที “ เมาแอ๋เลยนะเรา ? ”
“ พี่โสน...ไม่...มาวว...เหรอ ? ”
“ เมาสิ ”
“ ณัฐ...ก็...มาวว...เหมือน...กานน ”
“ เมาก็นอนไปเลย ”
“ ไม่...นอนนน...พรุ่งนี้...วานน...เสาร์... ”
ร่างสูงอุ้มอีกฝ่ายมาจนถึงห้องพัก วางร่างเพรียวบนโซฟาอย่างเบามือ จัดการเปิดไฟเปิดแอร์ให้เรียบร้อย แต่ร่างนั้นกลับลุกขึ้นมานั่งแล้วเดินเซมาหา
“ พี่โสนนนน ”
“ อะไรครับ ? ”
“ อืมม...อาบน้ามม...อาบบ...ด้วยกานนน...นะ ”
ร่างสูงยิ้มมุมปาก “ นี่กำลังยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ย ฮึ ? ”
“ ป่าววว ๆ ไม่...ยั่วว ” ไม่พูดเปล่ายังยกนิ้วชี้มาปิดปากเขาไว้อีกต่างหาก
“ อาบ...น้ามม...กานน มา ๆ ”
แบบนี้แถวบ้านเขาเรียกยั่วชัดๆ...เพราะมือเรียวเล็กนั่นกำลังพยายามถอดเสื้อให้เขาแล้วน่ะสิ เขาจึงยกแขนขึ้นให้เสื้อถูกถอดได้อย่างง่ายดาย และจัดการถอดเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายเช่นกัน จนตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ เห็นอย่างนี้แล้วมันอดไม่ได้จริงๆ เขาจึงโน้มตัวเข้าไปประทับริมฝีปากแล้วมอบจูบดูดดื่มให้สักหน่อย มือประคองท้ายทอย อีกข้างกอดเอวร่างเพรียวไว้แน่นให้ร่างเราได้แนบชิดติดกัน จนได้ยินเสียงครางในลำคอของอีกฝ่ายเบาๆ
“ อื้อออ ”
“ อาบน้ำกันเถอะ ”
“ ณัฐ...ร้ากก...พี่...สน...น้า ”
อยู่ดีๆร่างเพรียวก็บอกรัก ฝ่ายนั้นเผยยิ้ม ส่งสายตาหวานเยิ้ม ทั้งที่ใบหน้าสีชมพูระเรื่อและริมฝีปากแดงก่ำเพราะถูกบดเบียดเมื่อครู่...นี่เขาจะอดทนได้จนอาบน้ำเสร็จหรือเปล่าเนี่ย ?
“ ครับ...พี่ก็รักณัฐมากเหมือนกัน ”
เขาพยายามอาบน้ำให้เสร็จเร็วกว่าทุกครั้ง นุ่งผ้าเช็ดตัวเพียงครึ่งท่อนออกมาจากห้องน้ำด้วยกันทั้งคู่ เหมือนณัฐจะสร่างเมาขึ้นแล้วจริงๆ เพราะอย่างน้อยก็สามารถเดินได้เอง ฝ่ายนั้นเดินเข้าไปในห้องนอน พยายามง่วนกับการหาชุดนอนมาใส่ เขาจึงแอบย่องไปด้านหลังแล้วอุ้มร่างนั้นขึ้นมาในอ้อมกอด ย้ายร่างวางลงบนเตียงนอนทันที อีกฝ่ายท่าทางตกใจเล็กน้อย
“ ณัฐ...พี่ทนไม่ไหวแล้ว ” มือแกร่งลูบไล้ไปตามดวงหน้าขาวเนียน แก้มสีชมพูระเรื่อเพราะฤทธิ์สุรา ดวงตากลมโตจ้องมองมาทางเขา ริมฝีปากเผยอน้อยๆนี้ช่างยั่วยวนนัก
**********************************
ความคิดเห็น