ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #108 : บทที่หนึ่งร้อย -- Hangover

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.07K
      2
      7 เม.ย. 55

    บทที่หนึ่งร้อย

     

                    เปิดเทอมมาได้สองเดือนแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงสอบของทั้งเขาและพี่สน และรุ่นพี่ดูเหมือนจะหนักมากกว่า เพราะฝ่ายนั้นเครียดมากถึงขนาดนั่งอ่านหนังสืออย่างตั้งอกตั้งใจแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเตรียมตัวนานเป็นสัปดาห์ และในที่สุดการสอบที่แสนยากเย็นก็ผ่านพ้นไปสักที ทุกคนยิ้มออกมาได้เพราะความเหน็ดเหนื่อยได้สิ้นสุดลง

    เป็นธรรมเนียมที่หลังสอบเสร็จก็ต้องมีฉลองบ้างเป็นธรรมดา พี่สนเคยบอกว่าจะไปฉลองที่ผับกับกลุ่มเพื่อนสนิท ส่วนเขาว่าจะไปนั่งกินเบาๆที่หลังมอกับจัมโบ้ แพรและเพื่อนคนอื่นอีกสองสามคน แต่ตอนนี้ต้องกลับมาห้องพักกับรุ่นพี่ก่อน เพราะนัดเจอกันกับเพื่อนก็ประมาณสองทุ่ม

     

                    “ พี่สน...ให้ณัฐไปมั้ย ? ” เขานัดกับเพื่อนแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้บอกพี่สนเลยน่ะสิ

                    “ ไปร้านไหน ? ”

                    “ ร้านเดิมนั่นแหละ ที่พี่สนเคยพาไปกินหลังมออ่ะ ”

                    “ ไปกับใครบ้าง ? ” เหมือนพี่สนเป็นพ่อของเขาเลยแฮะ ถามเยอะจังเลย

                    “ จัมโบ้ แพร แต่เห็นแพรบอกว่าจะชวนเพื่อนอีกสองสามคนไปด้วย ”

                    รุ่นพี่นั่งกอดอกครุ่นคิด  “ .................................... ” 

                    “ นะ ๆ ๆ พี่สนก็จะไปผับกับพวกพี่กฤตไม่ใช่เหรอ ? ณัฐก็ไปกับเพื่อนไง ”

                    “ เป็นห่วงอ่ะ ” ในที่สุดฝ่ายนั้นก็พูดออกมา ได้ยินแบบนี้แล้ว...ลึกๆก็รู้สึกดีอยู่เหมือนกันนะ

                    “ ณัฐจะดูแลตัวเองครับ ขากลับแพรจะขับรถมาส่ง ” ร่างเพรียวยิ้มแป้นซบไหล่อีกฝ่าย

                    “ ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวพี่ไปรับเอง ”

    “ แต่พี่สนเลิกดึกกว่าไม่ใช่เหรอ ? ” เพราะร้านเหล้าเลิกหกทุ่ม แต่ผับจะปิดตีสองนี่นา

                    “ พี่จะกลับมาก่อน จะมารับณัฐเอง ”

                    “ แต่พี่สนก็จะสนุกไม่เต็มที่นะ ”

                    “ ถึงพี่อยู่นาน พี่ก็ไม่มีกะใจอยู่หรอก เพราะเป็นห่วงณัฐ ”

                    “ อืมม...ถ้างั้นก็ได้ ”

    ไม่ทันตั้งตัวรุ่นพี่ก็เข้ามาโอบกอดเขาเอาไว้ “ ห้ามให้คนอื่นมาจีบรู้ไหม ? ”

    ร่างเพรียวยิ้มกวน “ ห้ามได้ด้วยเหรอ ? .........ล้อเล่น !! ไม่มีใครมาจีบหรอกน่า ”

    “ ห้ามคุย ห้ามให้เบอร์ ถ้าคนอื่นถามก็บอกไปเลยว่ามีแฟนแล้ว ห้ามให้คนอื่นโดนตัว เข้าห้องน้ำก็ชวนจัมโบ้ไปด้วยนะ ”

    “ ขนาดนั้นเลยเหรอ ?!!

    “ แล้วทำได้หรือเปล่าล่ะ ? ”

                    “ จะพยายามนะ ”

                    “ โทรไปก็รับทุกครั้งด้วย ”

                    “ ค้าบบบ ”

                    ร่างเพรียวกะพริบตาปริบๆ “ หมดยัง ? ”

                    “ ก็...หมดแล้วมั้ง ”

                    “ งั้นณัฐอาบน้ำนะ ” เขาเด้งตัวลุกไปอาบน้ำทันที

                    พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ รุ่นพี่ก็เปลี่ยนไปอาบบ้าง วันนี้พี่สนแต่งตัวดูดีมากเลย อดที่จะรู้สึกหวงไม่ได้...ดีไม่ดีตอนไปเที่ยวมีสาวแท้สาวเทียมมาเกาะแกะแหงมๆ          

    “ พี่สน ? ”

    “ หืออ ”

    “ หกทุ่มให้มารับณัฐทันทีเลยนะ ”

    เขานั่งอยู่บนเตียงเพราะแต่งตัวเสร็จแล้ว ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาหา ได้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้แล้วอยากซุกหน้าเข้าไปตรงแผ่นอกแล้วสูดดมให้ชื่นใจ

    “ ได้...แต่ณัฐอย่ากินเยอะนะ ถ้าจะให้ดีก็ห้ามเมาด้วย  งั้นพี่ขอเบอร์แพร กับจัมโบ้ไว้หน่อย ”

                    เขาทำหน้างง แต่ก็ให้เบอร์เพื่อนสนิททั้งสองแต่โดยดี

                    “ งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ”

                    แล้วเราก็ออกเดินทางออกมาจากหอ ไม่นานก็มาถึงร้านเหล้าหลังมอ รุ่นพี่เดินมาส่งถึงโต๊ะ ทักทายกับเพื่อนของเขาและพูดฝากฝังกันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะกระซิบบอกลาแล้วเดินออกจากร้านไป

                    “ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่สนจะปล่อยให้ณัฐมาน่ะ ” แพรรีบบอกทันที ตอนนี้ในโต๊ะมีทั้งแพร จัมโบ้ และยังมีอ้อกับนิดที่มากับแพร แถมยังมีไอ้แป๊ะที่มากับจัมโบ้อีกด้วย ท่าทางคืนนี้น่าจะสนุกไม่น้อย

                    “ อืมม ก็พี่เค้าไปผับกับพวกพี่กฤต คงไปฉลองกันตามประสากลุ่มเพื่อนนั่นแหละ ”  เขาบอก

                    “ เฮ้ย !! เราก็มาฉลองกันตามประสากลุ่มเพื่อนเราบ้างไง ไม่ต้องห่วง ” จัมโบ้พูดพร้อมกับเอาแก้วเปล่ามาชงเหล้าให้เขาเสียยกใหญ่

                    “ หวัดดี อ้อ...นิด...แป๊ะ ” เขาเอ่ยทักทายเพื่อน แล้วจึงมองไปทั่วร้าน ตอนนี้ก็มีกลุ่มเพื่อนคณะของเขาที่ไม่ได้สนิทอยู่หลายกลุ่มเหมือนกัน เพราะว่าวันนี้เป็นวันสอบเสร็จสินะ

                    “ ณัฐกับพี่สนนี่เหมาะสมกันดีนะ ” อยู่ดีๆอ้อก็พูดขึ้น ยิ้มหวานมาให้เขา แพรที่นั่งข้างกันตีแขนเธอเบาๆหนึ่งที

                    “ ไม่ใช่เหมาะสมธรรมดานะแก...เหมาะสมมากกกก ” แล้วสามสาวก็หัวเราะคิกคักอย่างพอใจ

                    ถ้าให้เขาลองเดานะ นี่เป็นกลุ่มเพื่อน สาววาย ของเธอหรือเปล่าเนี่ย ? เห็นมองเขาตาเป็นมันเชียว เขาได้แต่ส่งยิ้มกลับคืน เพราะไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร

                    “ แกกินข้าวมายัง ? ” จัมโบ้ถาม

                    “ ยังอ่ะ หิวพอดีเลย ”

                    “ งั้นไปซื้ออะไรข้างหน้ามากินกันมั้ย ? ”

                    “ อืมม เอาดิ ”

                    เขากับจัมโบ้เลยออกมาหน้าร้าน มีรถเข็นขายลูกชิ้นทอด ปลาหมึกย่าง และขนมขบเคี้ยวสำหรับกับแกล้มหลายอย่างจอดเรียงรายหลายคัน เขาเลือกซื้อไปทั้งหมดอย่างละนิดละหน่อย เพื่อนคนอื่นจะได้กินด้วย เดินถือมาเต็มไม้เต็มมือผ่านหลายโต๊ะเดินกลับมาที่นั่งเหมือนเดิม เพื่อนคนอื่นดีใจกันใหญ่แล้วก็ลงมือกินกันทันที

                    นั่งกินเหล้ากันไปพลาง พูดคุยไปพลาง ไม่ทันได้ตั้งตัว อยู่ดีๆเขาก็ถูกสะกิดทางด้านหลัง หันไปมองจึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่โต๊ะใกล้กันยื่นแก้วขึ้นมาเพื่อขอชนด้วย เขาหันไปมองหน้าเพื่อน ไอ้ตัวอ้วนยักไหล่ เขาจึงยกแก้วขึ้นมาชนด้วยตามมารยาท พอหันกลับมาเพื่อนคนอื่นจ้องเขาเสียยกใหญ่

                    “ มาแค่แป๊บเดียว ก็ถูกขอชนแก้ว เสน่ห์แรงนะเนี่ย ”  แพรเอ่ยแซว

                   นี่เขาดึงดูดผู้ชายด้วยกันขนาดนั้นเลยเหรอ ? ทำไมไม่มีผู้หญิงมาขอชนแก้วบ้างล่ะ ควรจะเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ?

                    “ ทำไมไม่เป็นผู้หญิงล่ะแพร ณัฐเหมือนเกย์ขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” เขากระซิบถามแพรให้ได้ยินกันแค่สองคน เพราะเขาถูกนั่งขนาบข้างด้วยแพรกับจัมโบ้เลยน่ะสิ

                    “ คือณัฐก็เป็นผู้ชายน่ะแหละ แต่เป็นผู้ชายน่ารักน่ะ ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายด้วยกันจะชอบ ” เธอกระซิบคืน

                    “ แบบนี้ไม่ดีเลยเนอะ ”

                    “ ไม่ดีตรงไหน ? ” เธอแย้งทันที เขาลืมไปว่ากำลังพูดอยู่กับผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าชอบเรื่อง ชายรักชาย นี่นา

                    “ เฮ้อ...เปล่าหรอก ”

                   

    ขวดเหล้าเริ่มพร่องลงเรื่อยๆตามเวลา จัมโบ้รับหน้าที่ชงเหล้าให้เขาไม่ได้ขาด เพราะเขาชงไม่เป็นนั่นเอง เรื่องคนข้างหลังที่มาขอชนแก้วเขานึกว่าจะไม่มีอะไรอีกแล้ว แต่ดันคิดผิด เพราะไม่นานเขาก็ถูกสะกิดหลังอีกครั้งน่ะสิ

                    “ น้องครับ ๆ ”

                    เขาหันหน้าไปมอง ชายคนนั้นเริ่มหน้าแดงเพราะฤทธิ์สุรา สงสัยจะเมาแล้วมั้ง

                    “ พี่ขอเบอร์น้องหน่อยได้มั้ยครับ ? ” ไม่พูดเปล่าแต่ยกมือถือขึ้นมาเตรียมพร้อมสำหรับการกดเบอร์

                    เขาเองก็เริ่มมึนนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ได้เมานี่นา

                    “ ขอโทษครับ...ผมมีแฟนแล้ว ” เขาบอกออกไปตามตรง ได้ยินเสียงแพรสบถอย่างพอใจอยู่ด้านข้าง

                    “ แกล้งบอกว่ามีแฟนแล้ว เพราะไม่อยากให้เบอร์พี่รึเปล่าครับเนี่ย ? ” พูดแล้วยังส่งสายตาเยิ้มมาให้อีกแน่ะ

                    “ พี่คะ ! เพื่อนหนูหน้าตาดีขนาดนี้ ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่จะมีแฟนแล้ว ” อยู่ดีๆแพรก็แย้งขึ้นมาทันที

                    “ นั่นสินะ น้องน่ารักมากเลย...เสียดายจัง ”

                    เขาหันหลังกลับมาทันที เพราะไม่อยากจะใส่ใจ ฝ่ายนั้นคงเมามากแล้วนั่นแหละ คุยต่อก็มีแต่จะต่อความยาวสาวความยืดกันเปล่าๆ แล้วเราก็กินกันต่อไป อยู่ดีๆก็รู้สึกปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น

                    “ เฮ้ย ! จัมโบ้ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ”  เขาบอกเพื่อนตัวอ้วน

                    “ เออ กูก็ปวดพอดี งั้นไปด้วย ”

                    แล้วเราก็ไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางก็ทักทายกับเพื่อนคนอื่นไปด้วย พอเดินเข้ามาถึงห้องน้ำ ก็บังเอิญเห็นใครคนหนึ่งเข้าซะก่อน เพราะเป็นวันสอบเสร็จสินะ

                    “ อ้าว ! น้องแมท ” 

                    “ พี่ณัฐ...พี่จัมโบ้ มาร้านนี้เหมือนกันเหรอครับ ? ” ฝ่ายนั้นยิ้มกว้างทักทาย

                    “ ก็สอบเสร็จทั้งทีนี่นา ก็เลยมากับพวกเพื่อนน่ะ ” 

                    “ แล้วพี่สนไม่มาด้วยเหรอครับ ? ”

                    “ อ๋อ... ” เขาแอบลอบมองฝ่ายนั้นนิดนึง น้องแมทก็ไม่ได้มีท่าทีแปลกอะไรนี่นา สงสัยทำใจได้แล้วมั้ง

                    “ พี่สนไปผับในเมืองกับกลุ่มเพื่อนน่ะ ”

                    “ แล้วนี่พี่ณัฐเมายัง ? ”

                    “ ยัง...แค่มึนๆเอง ”

                    “ งั้นเดี๋ยวผมไปขอชนแก้วด้วยนะ ”

                    “ ได้ๆ พี่เข้าห้องน้ำก่อนนะ ปวดฉี่มาก ” เขาทิ้งท้ายแค่นั้น แล้วเดินเข้าห้องน้ำทันที ไอ้จัมโบ้ที่ทำหน้าครุ่นคิดตั้งแต่เมื่อกี้ก็ถามขึ้นมา

                    “ แล้วน้องแมทยังชอบมึงอยู่หรือเปล่า ? ”

                    ทำไมจัมโบ้ถึงรู้เรื่องนี้น่ะเหรอ ? เพราะหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เพื่อนทั้งสองก็พยายามคะยั้นคะยอถามว่าทำไมเขากับพี่สนถึงกลับกันก่อนโดยไม่บอกสักคำ เขายิ่งโกหกไม่ค่อยเป็น สุดท้ายจึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแต่โดยดี  พอได้ยินดังนั้นแพรก็ตบมือดังฉาดเพราะเธอบอกว่า...สงสัยมาตั้งนานแล้วว่าน้องแมทอาจจะชอบเขาอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่กล้าบอกเขาเท่านั้นเอง

                    “ ก็คงตัดใจแล้วมั้ง เมื่อกี้ก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรนี่นา แถมยังถามถึงพี่สนด้วย ”

                    “ เฮ้อ...ทำไม ผู้ชายชอบกันถึงมีเยอะจังวะ กูล่ะดูไม่ออกจริงๆว่าน้องเค้าเป็น... ”

                    เขาส่ายหัว  “ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ...กูเองยังไม่เข้าใจเลย ”

                    ทำภารกิจเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกเหมือนจะเดินสวนกับผู้ชายที่ขอเบอร์เขาซะด้วยสิ ฝ่ายนั้นส่งยิ้มหวานมาให้ แต่เขาไม่สนใจรีบก้าวเท้าเดินกลับโต๊ะตัวเองทันที

                    เพื่อนๆในโต๊ะเริ่มคุยจ้อหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน สงสัยเริ่มเมากันแล้ว ไอ้จัมโบ้เองก็รินเหล้าให้เขาสม่ำเสมอไม่ได้ขาด ทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ ถ้ากินต่ออีกนิดเดียวมีหวังเมาแน่ๆ ไม่เป็นไร...อีกแปบเดียวก็จะหกทุ่มแล้ว เดี๋ยวพี่สนก็มารับ

     

                    ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น เขาหยิบออกมาดูทันที แล้วก็เป็นดังคาด เพราะว่า...สุดที่รัก...โทรมานั่นเอง เขารีบกดรับสายทันที

                    “ ฮัลโหลลล ”

                    “ เมายังครับ ? ” เสียงจากปลายสายค่อนข้างเงียบ สงสัยรุ่นพี่ออกมาโทรข้างนอกผับมั้ง

                    “ ยางง...นิดหน่อยเอง ”

                    “ แต่เสียงเหมือนเมาเลยนะ ”

                    “ ก็มึนนิดหน่อยย แต่ยังไม่ได้เมานี่นา ”

                    “ แล้วเพื่อนเมากันยังครับ ? ”

                    “ ก็เมาแล้วมั้ง ”

                    “ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าเนี่ย ? ” รุ่นพี่แกล้งถามเสียงดุ

                    “ ไม่มีร้อกกก...เออช่ายย  แต่มีคนมาขอเบอร์คนนึงอ่า ”

                    “ แล้วให้มั้ยครับ ? ”

                    “ ให้ได้งายยย ล่ะ ”

                    “ ถ้างั้นอีกสักหน่อย พี่ไปรับนะ ”

                    “ ค้าบบบ ”

                    “ ดูแลตัวเองด้วยนะ ”

                    “ ค้าบบบ ”

                    วางสายจากรุ่นพี่ เพื่อนก็ส่งยิ้มแซวกันยกใหญ่ แล้วเขาก็ยกดื่มอีกแก้วรวดเดียวจนหมด  พึ่งสังเกตว่าเก้าอี้ด้านข้างว่าง สงสัยไอ้จัมโบ้ไปโต๊ะเพื่อนกลุ่มอื่นแล้วมั้ง

                    “ พี่ณัฐ ”

                    เอ๋...ใครเรียกนะ ? ร่างเพรียวหันไปพยายามปรับสายตามอง

                    “ น้องแมททท ”

                    ฝ่ายนั้นนั่งลงข้างกัน ยกแก้วขอชนด้วย มีเหรอที่จะปฏิเสธ...น้องรหัสทั้งคนนี่นา

                    “ เย้ ชนแก้ว !

                    “ พี่ณัฐเมาแล้วเหรอเนี่ย ? ”

                    “ นิดหน่อยยยยย เองน่า ”

                    เขายกดื่ม กินกับแกล้มไปพลาง รู้สึกว่าคนด้านข้างเอาแต่นั่งจ้องเขาอยู่อย่างนั้น ไม่พูดคุยอะไรต่อเลย

                    “ มองพี่ทำมายยย ? ”

                    ฝ่ายนั้นยิ้มแล้วเกาหัวแก้เก้อ  “ ก็...พี่ณัฐตอนเมาน่ารักมากเลยนี่นา ”

                    “ ไม่ด้ายยยย ๆ ห้ามมอง....พี่สนไม่ให้มองน้า ”  ร่างเพรียวยกนิ้วชี้ส่ายไปมา

                    “ แค่มองก็ไม่ได้เหรอครับ ? ”

                    “ ก้ออ...ได้นิดหน่อยม้างง ”

                    “ แล้วผมยังจะทำอะไรได้บ้างเนี่ย ? ” ฝ่ายนั้นตีหน้าเศร้า ถึงเขาจะเริ่มเมาแล้ว แต่ก็พอรู้ว่าน้องแมทหมายถึงอะไร

                    เขายิ้มแล้วตบไหล่อีกฝ่าย  “ ขอโทษน้า ”

                    “ พี่สนดีกับพี่ณัฐมั้ย ? ”

                    “ ดีสิ...ดีที่สุดในโลกเลยยยย ”  เราสนทนากันโดยไม่สนว่าจะมีเพื่อนในโต๊ะจะให้ความสนใจหรือไม่

                    “ ผมอิจฉานะ...ที่พี่เค้าได้เป็นคนครอบครองพี่ณัฐอ่ะ ”

    “ แมททท.... ”

    สงสัยน้องแมทจะเมาแล้วเหมือนกัน ถึงพูดอะไรออกมาตรงๆแบบนี้...เขามองสบตาอีกฝ่ายพลันรู้สึกสงสาร ที่คิดว่าน้องคงตัดใจจากเขาไปแล้ว...เขาคงคิดผิด ไม่อยากให้น้องแมทเป็นแบบนี้เลย ไม่อยากให้ต้องมาเสียใจเพราะเขาอีก เจ็บตอนนี้ก็ยังดีกว่าเจ็บแล้วเจ็บอีก เพราะยังไงก็ไม่มีหวังอะไรอยู่แล้ว

     

    “ ขอโทษนะแมทท...พี่เป็นได้แค่พี่รหัสของแมทเท่านั้นแหละ ลืมพี่ซะเถอะน้า ”

     

                    ฝ่ายนั้นหน้าเศร้าขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มบาง

                    “ นั่นสินะ ขอโทษนะครับ ”

     

                    เขาพยายามพูดคุยให้เป็นไปตามปกติ แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมซะแล้ว พอคุยกันได้นิดหน่อย ฝ่ายนั้นจึงขอลาแล้วเดินกลับโต๊ะตัวเองไป

    “ น้องเค้าน่าสงสารนะเนี่ย ” เสียงหวานของแพรกระซิบบอก

                    “ อืมม แล้วจะให้ณัฐทำไงล่ะ ? ” บทสนทนาเมื่อครู่ทำเอาเขาเริ่มจะสร่างเมาขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

                    “ ณัฐไม่ต้องทำอะไรหรอก แบบนี้แหละดีแล้ว ” เธอเอื้อมมาจับมือเขาใต้โต๊ะเพื่อปลอบประโลม

                    ทันใดนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เขาหยิบออกมาอย่างยากลำบาก ปรับสายตามองให้แม่น จึงรู้ว่า...สุดที่รัก...โทรมาอีกแล้ว

                    “ ฮัลโหลลลล ”

                    “ เมาแล้วใช่มั้ยเนี่ย ? ”

                    “ เมาแล้วววว...เมื่อไหร่ที่รักจะมาร้าบบบอ่ะ ”

                    “ มาถึงแล้ว เดี๋ยวเข้าไปหา ”

                    “ อ้าวว ? ” แล้วฝ่ายนั้นก็ตัดสายไป ยังไม่ทันได้บอกเลยว่านั่งตรงไหนอ่ะ แล้วจะเดินมาถูกโต๊ะมั้ยเนี่ย ?!!  ว่าแล้วก็กระดกเหล้าเข้าปากอีกรอบ ดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว...เขาไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด

     

                    ไม่นานก็รู้สึกถึงร่างใครบางคนมายืนทางด้านหลังเพราะเพื่อนของเขาเอ่ยทักทาย แล้วฝ่ายนั้นก็นั่งลงข้างกัน...เขาหันหน้าไปมอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร

                    “ พี่โสนนน ” เขาคว้ากอดเอวรุ่นพี่ทันที ไม่แคร์สายตาเพื่อนๆเลยด้วยซ้ำ รู้สึกถึงสัมผัสบนศีรษะที่ถูกลูบเบาๆ

                    “ เมาจนได้นะเรา ”

                    “ ก็มาวววแล้วน่ะสิ ”

                    แสงไฟในร้านเริ่มส่องแสงจนทั่วเมื่อเป็นเวลาใกล้จะปิดร้านแล้ว คนเริ่มเดินทะยอยออกพลางสนทนาหาที่ไปต่อ ส่วนเขาคงต้องกลับห้องพักกับพี่สนน่ะแหละ

                    “ กลับกันยัง ? ” รุ่นพี่ถาม เขาปรือตาขึ้นมามอง

                    “ กลับๆๆ ป่ะๆ ”

                    “ แพร...อ้อ...นิด...กลับก่อนน้า อ้าว...แล้วจัมโบ้ กับแป๊ะล่า ? ”

                    “ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแพรบอกให้ ”

                    “ ฝากลาหน่อยน้า...งั้นณัฐกลับก่อนน้า ”

                    เขายิ้มแล้วจึงลุกขึ้นยืน รุ่นพี่รีบลุกมาประคองทันทีเพราะเขาเริ่มจะเดินเซแล้ว พอเดินออกมาจนถึงนอกร้านแล้วก็เจอน้องแมทเข้าพอดี

                    “ น้องแมททท...พี่กลับก่อนน้า ” เขาบอกพร้อมกับโบกมือให้ด้วย ฝ่ายนั้นก็ยกยิ้มมาให้และโบกมือกลับมาเช่นกัน

                    รุ่นพี่พาเดินประคองมาจนถึงรถ ฝ่ายนั้นก็ถาม

                    “ น้องแมทมาด้วยเหรอ ? ทำไมไม่บอกพี่ ”

                    “ พึ่งเห็นตอนดึกๆ ว่ามานี่นา ”

                    “ แล้วมาทำอะไรณัฐหรือเปล่า ? ”

                    “ เปล่า...ไม่ได้ทามม แค่คุยกันเฉยยย ๆ ”

                    “ คุยอะไรกันบ้าง ? ” ฝ่ายนั้นสตาร์ทรถ แล้วออกตัวทันที

                    “ ก็คุยไปเรื่อยยย ไม่มีอะไรหรอกกก ”

                    “ ณัฐ...อย่าตอบแบบนี้ บอกพี่สิครับ ว่าคุยอะไรกัน ”

                    ร่างเพรียวหน้าง้ำ แต่ก็เข้าไปพิงซบอีกฝ่าย 

    “ เดี๋ยวนึกก่อนน้า...อ้อ  นึกออกแล้ววว น้องเค้าถามว่า...เมายางง ? พี่สนไม่มาด้วยเหรออออ ? แล้วก็...พี่สนดีกับณัฐหรือป่าวว ? ปามานนี้แหละมั้ง 

    “ แล้วณัฐตอบว่าไง ? ”

    “ ก็บอกว่า...พี่สนดีที่สุดในโลกกกกกก ” ไม่พูดเปล่าแต่ยืดตัวไปหอมแก้มฝ่ายนั้นด้วย

    “ คุยกันแปบเดียวเองงง...ไม่มีอะไรจริงๆน้า พี่สนนน ”

    “ อืมม...พี่เชื่อก็ได้ ”

    พอได้ยินแบบนั้นแล้วเขาก็สบายใจ นอนพิงซบไหล่รุ่นพี่ไปตลอดทาง แต่เพราะฤทธิ์สุราตอนนี้ทำให้เขารู้สึกง่วงงุนเหลือเกิน จึงผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว...

     

    ตื่นมาอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงนุ่มเสียแล้ว รู้สึกเหมือนมีใครกำลังถอดกางเกงยีนส์ออกจากตัวให้อย่างยากลำบาก เขายกเอวขึ้นเล็กน้อย ผ้าหนาก็ถูกดึงให้หลุดออก ร่างเพรียวงึมงำในลำคออย่างขัดใจเมื่อมีคนรบกวนการนอน แล้วทันใดนั้นก็รู้สึกว่าริมฝีปากถูกทาบทับจากริมฝีปากอ่อนนิ่มของใครบางคน พร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอลล์บางเบา เขาเผยอปากรับตามสัญชาติญาณ สองลิ้นกระหวัดเกี่ยวกันจนทำให้รู้สึกวาบหวาม ถ้าไม่รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างจุกในลำคอเสียก่อน...

    เขาผละริมฝีปากออกทันที เพราะรู้สึกพะอืดพะอมในลำคออย่างบอกไม่ถูก แล้วทันใดนั้นเอง !!

    อุ๊บ...!!!! ของเหลวท้นออกมาอยู่ในปากแล้ว เขาผลักรุ่นพี่แล้วรีบวิ่งออกมาจนถึงห้องน้ำได้ในที่สุด ก่อนที่จะปล่อยทุกอย่างลงอ่างล้างหน้าทันที 

     

    อ้วกกกกกกกกก !!!!

     

    ทั้งอาหารและของเหลวปริมาณมากที่พึ่งกินเข้าไปไหลออกมาจนหมด ณัฐเจ็บแสบลำคอจนน้ำหูน้ำตาไหล รุ่นพี่วิ่งตามเข้ามาลูบหลังให้เสียยกใหญ่ อ้วกออกจนหมดแล้วก็ล้างหน้าล้างปากให้สะอาด ฝ่ายนั้นหยิบผ้าขนหนูตามออกมาเช็ดให้ด้วย พึ่งจะเคยกินเหล้าจนอ้วกก็วันนี้นี่แหละ...ทรมานชะมัด

    ทั้งที่ท่อนล่างเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว แต่ณัฐก็เดินโซซัดโซเซเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงทันที ปล่อยให้อีกฝ่ายได้แต่เดินตามด้วยความเป็นห่วง

    “ ณัฐ...เป็นไงบ้าง ? ”

    เขาไม่ตอบได้แต่ส่งเสียงอือออในลำคอโดยไม่รู้ตัว สนส่ายหัวอย่างอ่อนแรง แล้วเดินหายออกจากห้องนอน ก่อนที่จะกลับเข้ามาพร้อมกะละมังใบเล็กและผ้าขนหนูในมือ

    สนบิดผ้าขนหนูจนหมาดแล้วเช็ดหน้าให้คนรักอย่างทะนุถนอม ฝ่ายนั้นส่ายหน้าหนีเล็กน้อยก่อนที่จะหลับสนิทไปอีกครั้ง เขาไล้เรื่อยเช็ดตามซอกคอ ปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดและเช็ดตามแผ่นอกขาวเนียนนั้น สังเกตเห็นรอยรักจางๆบนตัวอีกฝ่ายที่เขาฝากไว้เมื่อหลายวันก่อนแล้วอดที่จะยิ้มน้อยๆไม่ได้ 

    ร่างสูงถอดเสื้อผ้าและกางเกงในของคนตัวเล็กออกให้พ้นจากตัว แล้วค้นชุดนอนในตู้มาสวมใส่ให้ ณัฐยังคงนอนหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เขาจึงได้แต่แอบลอบถอนใจ

     

    เฮ้อ...วันนี้อดเลยเรา

     

    เขาจึงเปลี่ยนไปอาบน้ำให้สบายตัวแล้วเข้ามานอนกอดร่างเล็กไว้ ก่อนที่จะหลับไปอย่างรวดเร็ว

     

    *************************

     

                    ณัฐตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นคนรักแล้ว รู้สึกปวดหัวหนักเสียจนไม่อยากลุกจากเตียง จึงได้แต่นอนต่ออยู่อย่างนั้นจนเกือบเที่ยงพี่สนก็กลับเข้ามาในห้อง ฝ่ายนั้นมานั่งข้างกันบนเตียง เขาปรือตาขึ้นมองอย่างยากลำบาก

                    “ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ ฮึ ? ”

                    “ พี่สน...ณัฐ...ปวดหัว...รู้สึกพะอืดพะอมด้วย ”

                    ฝ่ายนั้นหัวเราะทันที  “ ฮ่ะ ๆ ๆ แฮงค์สินะ ”

                    อาการแฮงค์เป็นอย่างนี้นี่เองเหรอ ? ทรมานชะมัด ตอนนี้รู้สึกอยากอ้วกขึ้นมาอีกแล้วน่ะสิ

                    “ ลุกไหวมั้ยเนี่ย ? ”

                    เขาพยักหน้า แล้วพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง รุ่นพี่เข้ามาช่วยประคองด้วย

                    “ พี่สน...ทรมานอ่ะ ”

                    “ งั้นลุกไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ซื้ออาหารร้อนๆมาให้กิน จะได้รู้สึกดีขึ้นนะ ”

                    “ อื้ออ ”

                    เขายันตัวลุกขึ้นยืนหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังปวดหัวแทบระเบิด แล้วรุ่นพี่ก็เดินออกจากห้องเพื่อไปซื้ออาหารมาให้ แต่พอแปรงฟันก็รู้สึกพะอืดพะอมหนักขึ้นจนอ้วกไปอีกหนึ่งรอบ พออาบน้ำเสร็จก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย แต่งตัวเสร็จพี่สนก็กลับเข้ามาในห้องพอดี

                    “ ซื้อข้าวต้มใส่ไข่ ใส่หมูเยอะๆ อย่างที่ชอบมาให้นะ แล้วก็ซื้อผลไม้มาด้วย ”

                    รุ่นพี่เดินเข้าไปในครัวแล้วจัดการเทใส่ถ้วยให้ก่อนที่จะเดินถือมาวางไว้หน้าทีวี เพราะหิวจัดเขาจึงจัดการกินข้าวต้มถ้วยนั้นทันที พี่สนเทน้ำแก้วใหญ่ให้ด้วย

                    “ กินน้ำเยอะๆด้วยนะ จะได้หายแฮงค์เร็วขึ้น ”

                    พี่สนไม่กิน แต่กลับนั่งเท้าคางมองเขาอยู่อย่างนั้น

                    “ มองอะไร ? ”

                    “ มองคนเมาแล้วแฮงค์...ตลกดี ”

                    “ ไม่ต้องเลย ”

    เขาหน้ามุ่ย แล้วกินข้าวต้มต่อทันที ข้าวต้มร้อนๆ...กินแล้วรู้สึกดีขึ้นจริงๆด้วย จะดีกว่านี้ถ้าได้กินอะไรเผ็ดๆด้วยนะเนี่ย !!

                    “ แล้วเมื่อคืนพี่สนเป็นไงบ้าง ? ” เขาถามรุ่นพี่กลับ

                    “ เป็นไง...อะไรเหรอ ” ฝ่ายนั้นยกยิ้มถามกวน

                    “ ก็...สนุกหรือเปล่า ? ”

                    “ อืมม ก็สนุกดี ”

                    เขาตักข้าวต้มกินต่อ แต่ยังรู้สึกค้างคา พี่สนแกล้งกวนเขาเล่นไม่ยอมตอบหรือเปล่าเนี่ย ?

                    “ มีคนมายุ่งด้วยหรือเปล่า ? ” เขาถามสิ่งที่อยากรู้ทันที ลอบมองฝ่ายนั้นเห็นแอบยิ้มตลกเขาด้วย

                    “ ก็มีบ้าง...เป็นธรรมดา ”

                    ร่างเพรียวคิ้วขมวดมุ่น  “ ธรรมดา...ยังไง ? ”

                    “ ก็มีมาคุยด้วย...มองๆ...ขอเบอร์อะไรประมาณนี้แหละ แต่ก็บอกไปหมดว่ามีแฟนแล้ว แบบนี้...โอเคมั้ยครับ ? ”    ท้ายประโยคเหมือนจะถามเขามากกว่า

                    “ อืมม ก็ดี ”

                   

                    กินจนหมดแล้วรุ่นพี่ก็ถือถ้วยออกไปล้างให้ ปกติหน้าที่พวกนี้เป็นของเขามากกว่า แต่วันนี้พี่สนใจดีทำให้ทุกอย่างเลย  เพราะยังรู้สึกเพลียๆอยู่เขาก็เลยทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอีกครั้ง

                    “ กินยาแก้ปวดหรือยัง ? ”

                    “ ยัง ”

                    “ กินน้ำเยอะๆยัง ? ” เสียงฝ่ายนั้นตะโกนถามอยู่ในครัว

                    “ กินแล้ว ” ที่จริงเมื่อกี้เขากินไปแก้วเดียวเอง แต่ขี้เกียจลุกขึ้นไปกินอีกรอบนี่นา

                    “ ไม่ต้องเลย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ กินยาก่อน แล้วก็กินน้ำอีกหลายๆแก้วด้วย ” รุ่นพี่เดินมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แล้วดึงร่างของเขาให้ลุกขึ้นนั่งทันที เขาทำหน้าง้ำใส่เล็กน้อย แต่ก็ยอมกินยาและน้ำเยอะๆอย่างที่ฝ่ายนั้นบอกแต่โดยดี กินได้แค่สองแก้วก็รู้สึกจุกจึงพอก่อน

                    “ กินแล้วก็นั่งก่อน อย่าพึ่งนอน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อนนะ ”

                    วันนี้พี่สนออกคำสั่งเขาเยอะจังแฮะ เห็นว่าตอนนี้ยังรู้สึกพะอืดพะอมอยู่หรอกน่า ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำแล้ว ไหนๆก็ไม่ให้นอน เขาจึงลุกขึ้นมานั่งหลับทั้งอย่างนั้นเลย จนรู้สึกว่าโซฟาทางด้านข้างยวบลง จึงลืมตาขึ้นมอง เห็นรุ่นพี่เปลี่ยนเป็นชุดลำลองธรรมดาเสียแล้ว

                    “ ต่อไปก็อย่ากินเยอะแบบนี้ล่ะ แฮงค์ข้ามวันเลยเนี่ย ”

                    “ ขี้บ่นอ่ะ ”

                    รุ่นพี่ไม่ตอบ แต่เปลี่ยนไปนั่งทำงานบนโต๊ะคอมพ์แทน ไม่นานเขาก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยเพลีย จนรู้สึกว่าร่างถูกอุ้มไว้ในอ้อมกอดของใครบางคนและสัมผัสถึงเตียงหนานุ่ม รุ่นพี่กระชับผ้าห่มคลุมให้ ก่อนที่จะแทรกตัวเข้ามานอนกอดเขาเอาไว้อย่างนั้น แล้วเราก็หลับไปทั้งสองคน

     

    *****************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×