ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #41 : บทที่สามสิบเก้า -- ไปเที่ยว 2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.56K
      39
      5 ก.ย. 52

    บทที่สามสิบเก้า


     


                      “ ไม่ได้ !!  ”  อยู่ดีๆก็มีเสียงหนึ่งตะโกนมาช่วยชีวิต

                      เขาหันไปมอง ก็เห็น ‘พี่สน’ เดินมาจนถึงตัวเขาเสียแล้ว


     

                     “ ขอโทษนะ...อยากได้เบอร์ไปทำไมเหรอ...? ”  พี่สนพูดกับชายคนนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย


     
                      อีกฝ่ายมองหน้ารุ่นพี่แบบไม่สบอารมณ์  แล้วก็เอ่ยคำพูดหนึ่งออกมา
     
                      “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย..? ” 


     

                      พี่สนคว้ามือของเขาไปกุมไว้ทันที

                      “ เกี่ยวแน่...เพราะคนที่มึงกำลังขอเบอร์อยู่...เป็นแฟนกู !! ”  รุ่นพี่พูดเสียงเข้มแน่วแน่จนทำให้เขาตกใจ

     

                       นี่ขึ้นมึง...ขึ้นกู...กันเลยเหรอ...?
     
                       แล้วเรื่องเป็นแฟนกันจะไปบอกเขาทำไม..!!! 


     

                       อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็จ้องหน้าพี่สนเขม็ง  เหลือบมองมาที่เขาแวบหนึ่ง  และสบถในลำคอเล็กน้อยก่อนที่จะยอมเดินจากไปแต่โดยดี

     
                       ...เฮ้อ...ตกใจหมด...นึกว่าจะมีเรื่องอะไรซะอีก...


     

                        เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นเดินลับไปไกลแล้ว   รุ่นพี่ก็หันมามองเขาทันที

     
                        “ เป็นอะไรมั้ย..? ”   ฝ่ายนั้นเปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนโยน จนเขาตั้งตัวเกือบไม่ทัน


     

                        “ หือ..?  ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ”

     
                       เขากำลังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่...จึงยังไม่ค่อยมีสติสักเท่าไหร่


                       “ เมื่อกี้...ทำไมพี่ต้องพูดไม่เพราะกับเขาด้วยล่ะ..? ”  เขาถามพี่สนออกไป

     
     

                       “ ก็มันบังอาจมาจับมือณัฐ ”  พี่สนตอบตามตรง

     

                       ได้ยินดังนั้นเขาก็เลื่อนสายตาลงไปมองพื้นดินแทน
     
                       “ เค้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ”

     


                       “ ไม่ได้ตั้งใจเหรอ..?  มันมองณัฐจนแทบจะกินอยู่แล้วเนี่ยนะ ”
     
     

                       ทั้งสายตานั้น  ทั้งมือที่พยายามมาแตะต้องเขานั้น  อันที่จริง...เขาก็รู้สึกตะหงิดๆใจอยู่เหมือนกัน  เพียงแต่ไม่อยากจะคิดมาก...เพราะมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้

                       แต่เขาก็รู้สึกดีใจ...ที่พี่สนมาช่วยไว้  เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน


     

                       เขาจ้องมองพี่สนสักพักใหญ่ๆ...แต่อยู่ดีๆก็เผลอหลุดยิ้มออกมา  แล้วแกว่งแขนที่เราจับมือกันส่ายไปมาเบาๆ
     

                       “ พี่สนหึงเหรอ..? ”  เขาเอียงหน้าถาม

     
     

                       รุ่นพี่หันมามองหน้าเขาด้วยสีหน้าแบบเดิม


                       “ ก็หึงน่ะสิ..ถามได้ !! ”

     

                       เขาได้ยินดังนั้นก็หุบยิ้มแล้วหลุบตาต่ำ  ไม่นึกว่าพี่สนจะตอบตรงขนาดนั้น  เขาแค่อยากลองถามประโยคเดิมที่พี่สนเคยถามเขาเหมือนเมื่อก่อนแค่นั้นเอง

                       ก็ถ้าเป็นเขา  คงจะตอบกลับไปว่า...ไม่ได้หึงสักหน่อย...อะไรประมาณนั้น    แต่เขาลืมไปว่าพี่สนคงไม่ใช่


     

                       “ ต่อไปนี้อย่าอยู่ห่างพี่นะ...เข้าใจมั้ย..? ”

     

                       เขามองอีกฝ่าย...แล้วผงกหัวเบาๆเป็นคำตอบ

                       ...รู้สึกอุ่นใจจัง...ที่ได้ยินพี่สนพูดแบบนี้...


     
                       รุ่นพี่ถอนหายใจออกมาน้อยๆ  แล้วกระชับมือเขาไว้แน่น
     
                       “ ไปกันเถอะ...คนอื่นเดินไปไกลแล้วนะ ”


     

                       “ อ๋อ...อืม ”  เขาพยักหน้าให้

     
                       แล้วเราทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันไป...โดยไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองมา


     


    ****************

     

                       “ ณัฐชอบตัวนี้มั้ย..? ”   พี่สนถามพร้อมกับยกเสื้อแขนยาวสีขาวตัวสวยขึ้นมาให้ดู

     

                       “ อื้อ ”  เขาพยักหน้าให้

     

                       ตอนนี้เราทั้งคู่กำลังดูของที่ร้านแบรนด์ดังร้านหนึ่ง  ส่วนรุ่นพี่คนอื่นก็ต่างแยกย้ายไปตามร้านที่ตัวเองสนใจ โดยตกลงกันว่า...เมื่อช็อปปิ้งกันเสร็จแล้วค่อยโทรหากันอีกที
     

       
                        “ แล้วถ้าเป็นสีนี้ล่ะ..? ”  พี่สนถามเขาอีกครั้ง

     

                        เขาทำหน้างง...มันก็เหมือนกันนี่นา  แค่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำเฉยๆ

     

                        “ อือ...ณัฐว่ามันก็สวยทั้งสองตัวแหละ  แต่ตัวนี้น่าจะเหมาะกับพี่สนมากกว่า ”
     


                        “ โอเค ”  พี่สนยิ้มบางให้   แล้วหันหน้าไปเรียกพนักงาน



                        “ พี่ครับ...งั้นเอาสองตัวนี้นะครับ  แต่ว่าตัวสีขาว ขอเบอร์เล็กกว่านี้ได้มั้ยครับ..? ”



                        “ อ๋อ...ได้ค่ะ ”  พนักงานสาวสวยยิ้มหวานให้กับรุ่นพี่  แล้วรีบบริการให้อย่างรวดเร็ว



                        พี่สนซื้อเสื้อแบบเดียวกันทำไมตั้งสองตัว...?  จะซื้อไปฝากใครหรือเปล่า..?





                        “ ณัฐมาดูนี่สิ ”  ฝ่ายนั้นกวักมือเรียกให้ไปดูสิ่งของบางอย่างที่วางโชว์ในตู้ใสระหว่างที่กำลังรอพี่พนักงานจัดหาเสื้อให้



                        “ หือ..? ” เขาถามทันทีเมื่อเดินไปถึง



                        “ สวยมั้ย..? ”   รุ่นพี่ชี้ไปที่กระเป๋าสตางค์สีดำแถบเขียวใบเก๋



                        “ อืม...สวย ”  แล้วสายตาเขาก็พลันไปเห็นกระเป๋าอีกใบที่อยู่ด้านข้าง



                        “ แต่ดูนี่สิ...มีสีฟ้าด้วยนะ...แบบเดียวกันเลย ”  เขาพูดพลางชี้ไปที่กระเป๋าอีกใบที่วางอยู่ไม่ห่างกัน


     
                        “ นั่นสิ...แล้วณัฐว่าสีไหนสวยกว่ากันอ่ะ..? ”

     

                        เขาพยายามมองกระเป๋าสองใบสลับกันไปมา...มันก็สวยทั้งสองใบนะ  ทั้งดูเท่และก็เก๋ไปในตัว   เลือกไม่ถูก

     

                       “ ถ้าถามณัฐ...ณัฐก็ว่าสีเขียวสวยกว่า...แต่ถ้าพี่สนจะใช้...ณัฐคิดว่าสีฟ้าจะเหมาะกับพี่สนมากกว่า”

     

                        “ เหรอ..? ”  รุ่นพี่หันหน้ามาถามแล้วยิ้มกว้าง
     
     

                         “ อือ ” เขาพยักหน้าให้

     

                         แล้วพี่สนก็เรียกพนักงานขายคนเดิมอีกครั้ง
     
                         “ พี่ครับ...งั้นเอากระเป๋าตังค์สองใบนี้ด้วยนะครับ ” 


     
                        เอ๋...?  แล้วทำไมถึงเอาสองใบล่ะ..?  ตัดสินใจไม่ถูกเหรอ ? 

                        ถ้าจะเอาสองใบตั้งแต่แรก  จะมาถามเขาอีกทำไมกัน..??  เฮ้อ...

     


                        “ คิดเงินรวมกันเลยใช่มั้ยคะ...?  ” เธอถามพลางส่งสายตาหวานให้รุ่นพี่

     

                        “ ครับ ”

     

                        “ ทั้งหมด  8,310   บาทค่ะ  ”

     

                       หา !!   เขาตกใจเล็กน้อย
     
                       แพงจัง...แค่เสื้อสองตัว กับกระเป๋าสองใบเนี่ยนะ..? 

     

                       รุ่นพี่ไม่ได้มีท่าทีแปลกใจแต่อย่างใด...แล้วก็ยื่นบัตรเครดิตให้สาวสวยคนนั้นไป

                       ...ว้าว...บัตรทองซะด้วย...

                       คนรวยนี่เขาใช้เงินโดยไม่รู้สึกเสียดายอย่างนี้เลยเหรอ..?  เงินตั้งแปดพัน...อีกนิดเดียวก็จะถึงหมื่น   เอาไปใช้อะไรได้อีกตั้งเยอะ...พี่สนฟุ่มเฟือยจริงๆเลย
     


     



                        หลังจากชำระเงินเสร็จเรียบร้อย  เราทั้งสองก็เดินออกมาจากร้าน แล้วตระเวนไปตามร้านอื่นๆอีก  แต่หลังจากนั้นเขากับพี่สนก็แค่เดินดูของไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น  บางครั้งก็หยุดถ่ายรูปเล่นกับบรรยากาศภายในสถานที่นั้น  และเวลาที่ได้เดินข้างกัน...บางครั้งพี่สนก็มาแอบกุมมือเขาไว้...แต่ว่า...เขาก็ไม่ยอมให้เกินหนึ่งนาทีหรอก     
      
                        จะบ้าเหรอ...เดี๋ยวรุ่นพี่คนอื่นมาเห็นเข้าจะว่าไง..? 

     


                         เป็นอย่างที่คิด...เพราะไม่นานเราทั้งสองคนก็เดินไปเจอพี่กฤต  พี่นนท์ แล้วก็พี่โต้ง  พวกรุ่นพี่ซื้อของกันเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

     
                         
                        “ ไม่ไหวว่ะ..แพง  กูเก็บตังค์ไว้เที่ยวพรุ่งนี้ดีกว่า ”  นั่นเป็นคำที่พี่โต้งเอ่ยขึ้น

     

                        ใช่...เขาเห็นด้วย  เก็บตังค์ไว้ซื้อความสนุกจากการเที่ยวดีกว่าตั้งเยอะ


     

                         หลังจากนั้นก็เดินไปเจอกับพวกที่เหลือที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านไอศครีมพอดี...เราทั้งเก้าคนยืนปรึกษากันสักพัก  ในที่สุดจึงลงความเห็นกันว่า...จุดหมายต่อไปควรจะไปกันที่  ‘รีสอร์ท’ เลย  เพราะตอนนี้ทุกคนอยากพักผ่อนเหลือเกิน  คิดว่านอนพักเอาแรงเสร็จ  พรุ่งนี้ค่อยเริ่มเที่ยวกันใหม่

                 


                         แล้วเราก็เริ่มเดินทางมุ่งหน้าไปยังที่พักทันที



    *****************

     


                        “ ทางนี้ว่ะ...กูว่าทางนี้ ”  พี่เก่งพูดขึ้นหลังจากที่พี่นนท์เอ่ยถามทาง

     

                        “ ไอ้เก่ง...สรุปมึงจำได้หรือเปล่า..? ” พี่นนท์ตัดสินใจชะลอรถแล้วหันหน้ามาปรึกษาหารือกันใหม่

     

                        “ ไอ้สัด!!...ก็กูไม่ได้มาบ่อยนี่หว่า...ใครจะไปจำได้วะ ”  พี่เก่งตอบทั้งที่สายตายังพิจารณาทางด้านหน้า

     

                        “ ใช่...ทางนี้แหละ  กูพอจะจำได้รางๆ ”  พี่กฤตเอ่ยขึ้นบ้าง

     
                         หลังจากคณะทัวร์ของเราขับหารีสอร์ทของลุงพี่เก่งอยู่นานเกือบชั่วโมง...จนพระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน ในที่สุดก็หาเจอเสียที

     

                         เขามองดูทางด้านหน้าก็เห็นป้ายไม้ขนาดใหญ่ที่เขียนแกะสลักตัวบรรจงว่า... 

                         ‘ รีสอร์ทบ้านไม้ ’ ....ยินดีต้อนรับ

     


                         แล้วรถก็เคลื่อนตัวเลี้ยวเข้าไปภายในบริเวณรีสอร์ทอย่างช้าๆ...

     


                         “ ว้าวว ”  เขาเผลออุทานออกมา เมื่อสายตามองออกไปข้างนอก

     
                         พี่สนโอบที่ไหล่เขาเบาๆแล้วมองตามบ้าง

     
                         เท่าที่เขามองเห็น  รีสอร์ทแห่งนี้...เป็นรีสอร์ทที่ตกแต่งสไตล์ธรรมชาติทั้งหมด  ทั้งต้นไม้สูงใหญ่ที่ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบไปตามทางเดิน  สวนดอกไม้หลากสีสันที่มองแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น   เขาเห็นบ้านหลายหลังตั้งคดเคี้ยวเรียงรายจนสุดลูกลูกตา  แต่ละหลังมีความสวยงามแตกต่างกัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติ  เพราะวัสดุที่ก่อสร้างทำมาจากไม้ทั้งหมด

     
                         เมื่อรถจอดเทียบท่าที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ปากทางเข้า  ทุกคนจึงทยอยลงจากรถโดยมีพี่เก่งเดินนำหน้าเพื่อเข้าไปที่บ้านหลังนั้น ส่วนคนอื่นๆก็เดินตามไปเช่นกัน

     

                          “ ทำไมมาช้ากันจัง !! ”  เสียงเหมือนตะโกนดังแทรกออกมาจากบริเวณบ้าน

     

                         สายตาเขาหันไปมองด้วยความตกใจทันที  ก็เห็นชายวัยกลางคนค่อนข้างมีอายุ รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดุดัน กำลังเดินออกมาจากส่วนที่เขาคิดว่าเป็นบริเวณที่ใช้สำหรับรองรับแขก

     

                         “ ขับรถหลงทางนิดหน่อยอ่ะครับ ”  พี่เก่งตอบหลังจากยกมือไหว้อย่างเคารพ

     

                         คนที่เหลือก็รีบยกมือไหว้ทันที  โดยเฉพาะเขา
     
                         นี่ลุงพี่เก่งเหรอ..?...ทำไมน่ากลัวจัง...




                         แล้วพี่เก่งก็ชี้นิ้วไปยังโต๊ะอาหารโต๊ะกว้างบ่งบอกให้ทุกคนไปนั่งรวมกันตรงนั้น  และลุงคนนั้นก็เดินมานั่งที่หัวโต๊ะบ้าง  เขาจึงรีบนั่งเก้าอี้อีกตัวข้างพี่สนทันที

     

                         “ หลงได้ไง...ทำไมไม่ถามทาง   ถามเขาไปเลยว่ารีสอร์ทที่เจ้าของหน้าตาดีที่สุดอยู่ตรงไหน ? ฮ่ะ ๆ ๆ  ”  ฝ่ายนั้นพูดทีเล่นทีจริง...พูดเสร็จก็หัวเราะเสียงดังจนเขาตกใจ

     
                         ...ขนาดหัวเราะแล้วหน้ายังไม่หายดุเลย...
     


                         เขาพยายามพิจารณาชายตรงหน้า

                         ...หัวโล้น  หนวดเครายาวเฟิ้ม  หน้าดุอย่างกับโจร....นี่เหรอที่บอกว่าหน้าตาดีที่สุด

                        ได้แต่คิดว่า...บรรยากาศอันแสนสวยงามและร่มรื่นของรีสอร์ทแห่งนี้ช่างขัดกับบุคลิกของเจ้าของจริงๆ

     



                         “ มากันทุกคนเหมือนเดิมหรือเปล่า..? ”  ลุงเอ่ยขึ้น

     

                         “ ก็เหมือนเดิมครับ...แต่เพิ่มมาคนหนึ่ง ”  ไม่ทันที่พี่เก่งจะชี้นิ้วมาทางเขา  ลุงคนนั้นก็หันมามองเขาอยู่ก่อนแล้ว



                         ...หวา...มองมาแล้ว...

                          อย่าจ้องได้มั้ย..?  ทำไมต้องทำหน้าดุใส่ด้วยล่ะ..?

     
                         แต่อยู่ดีๆฝ่ายนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน 

                         “ สวยนี่หว่า..? ” 



                         “ มีแฟนยังจ๊ะ...คนสวย ”



                         หา !! 

                         ได้ยินดังนั้นเขาก็ตกใจจนแทบจะวิ่งหนี

                          นี่ถามแบบนี้...รู้หรือเปล่า..? ว่าเขาเป็นผู้ชาย




                         “ ลุงอ๊อด...เก็บงูหน่อย ”  พี่เก่งรีบพูดตัดบทเสียก่อน



                         จากเหตุการณ์นั้น...ทุกคนบนโต๊ะก็หัวเราะเสียงดัง รวมทั้งพี่สนด้วย

                         มันน่าขำมากนักเหรอ..? ที่เขาถูกเรียกว่า ‘คนสวย’ เนี่ย

                         นี่ทุกคนไม่กลัวลุงของพี่เก่งกันหรือไง  ทำไมถึงทำตัวตามสบายขนาดนั้น  โดยเฉพาะพี่เก่งที่ถึงแม้ว่าจะเป็นลุง  แต่รุ่นพี่ก็กล้าพูดตัดบทได้ด้วยท่าทางที่สบายๆเหมือนกับเพื่อนแซวกันเล่นอย่างนั้นแหละ




                        “ นี่คือของที่จะมาถวายของการมาพักฟรีคืนนี้ใช่มั้ย..? ”  ลุงอ๊อดพยายามพูดเสียงหล่อและสายตายังไม่ละไปจากใบหน้าเขา



                        ทุกคนบนโต๊ะหัวเราะในท่าทางของฝ่ายนั้น  ส่วนพี่เม้งก็เอาแต่นั่งกุมท้องเพราะขำไม่หยุด




                        “ ลุงครับ...น้องเค้าเป็นผู้ชายนะครับ ”  

                        ในที่สุด...เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น  เมื่อพี่นนท์พูดประโยคที่เขากำลังรอคอย




                        อีกฝ่าย..เมื่อได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตา  แล้วยิ่งเพ่งมองมาที่เขาไปกันใหญ่  รวมทั้งมองที่แผ่นอกของเขาสลับกับใบหน้าไปมา...




                       “ หา !! ....ผู้ชายจริงเหรอ..?!!!!! ”  ลุงตะโกนเสียงดังจนเขารีบหลับตาปี๋



                      ใช่ครับลุง...ผมเป็นผู้ชาย  แต่เขาทำได้แค่นึกในใจเพราะไม่กล้าเอ่ยออกไป




                      “ ผู้ชายอะไร...สวยยิ่งกว่าผู้หญิงอีก ”  ลุงค่อยๆลดระดับเสียงลงเมื่อรู้ตัวว่าพูดเสียงดังเกินไป




                      “ ฮ่า ๆ ๆ...ใช่ครับ ”




                      “ แฟนไอ้สนมัน ”  พี่กฤตเอ่ยขึ้น



                      ....................


                      ...................


                      ...................


                      สมองของเขาหยุดทำงานไปชั่วขณะ    


                      หือ..?   

                      ....................


                      เมื่อกี้พี่กฤตพูดว่าอะไรนะ..??


                      ....................


                      เขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า...??


                      ....................


                      พี่กฤตพูดว่า.....



                      เขาเป็นแฟนพี่สนงั้นเหรอ...?



    ******************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×