คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #67 : บทที่หกสิบสาม -- ทำไม่ได้
บทที่หกสิบสาม
เราสองคนจูบกันเนิ่นนานหลายนาที จนเขาเอนตัวลงนอนราบบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พี่สนลุกขึ้นคร่อมและเปลี่ยนไปซุกไซ้ที่ซอกคอ ขบเม้มที่ติ่งหูของเขาเบาๆจนทำให้รู้สึกสยิว
“ พี่สน...อย่า... ”
ฝ่ายนั้นเลื่อนขึ้นมาประกบริมฝีปากของเขาอีกครั้ง เขาตอบสนองจูบเหมือนอย่างที่เคย ละเลงลิ้นหยอกล้อกับรุ่นพี่จนรู้สึกวาบหวามในใจ ฝ่ายนั้นเริ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อและลูบไล้แผ่นอกสัมผัสผ่านเม็ดตุ่มไตทั้งสองจนร่างของเขาเริ่มอ่อนระทวย เขาจึงใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่พยายามดันไหล่อีกฝ่ายออก
“ พี่สน...อย่านะ...ไม่เอา... ”
ร่างสูงหยุดการกระทำ แล้วมองร่างข้างใต้ที่กำลังเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ ณัฐว่าที่นี่...เอ่อ...ไม่เหมาะ พ่อกับแม่ก็อยู่...ณัฐไม่กล้า ”
เขาสบตากับรุ่นพี่...สักพักฝ่ายนั้นก็ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆ
“ เฮ้อ...นั่นน่ะแหละ ” รุ่นพี่ยกมือก่ายหน้าผากแล้วเอ่ยออกมาช้าๆ
“ พี่ก็ไม่กล้ามาปล้ำลูกชายเขาถึงที่หรอก... ”
อีกฝ่ายหันหน้ามามอง “ ...เกรงใจเหมือนกัน ”
คำพูดนั้นทำเอาเขาถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ
“ ฮ่ะ ๆ ๆ พี่สนก็รู้นี่นา ”
“ แต่พี่ก็ ‘อยาก’ อ่ะ...ณัฐไม่ ‘อยาก’ เหรอ ? ”
ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง...จึงพยายามเบือนสายตาไปทางอื่น
ไม่กล้าพูดออกไปว่าเขาเองก็ ‘รู้สึกแบบเดียว’ กับพี่สนเหมือนกัน เพราะว่าซาบซึ้งและเต็มอิ่มกับถ้อยคำบอกรักที่พึ่งได้รับ ถ้าอยู่ที่หอพักพวกเขาทั้งสองคนคงจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้และระเริงรักอย่างมีความสุขเต็มที่ไปแล้ว
แต่ว่า...เพราะตอนนี้เราทั้งสองกำลังอยู่ที่บ้าน
บ้านที่มี ‘พ่อและแม่’ อยู่ด้วย เขาไม่กล้าทำเรื่องพรรค์นั้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะรู้สึกผิดต่อท่านทั้งสองแน่ๆ
“ ...................................... ” เขาเงียบเป็นคำตอบ แต่หันไปสบตารุ่นพี่
เราทั้งสองคนกำลัง..ต้องการกันและกัน...แต่ก็รู้ดีว่าไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้
ร่างเพรียวยิ้มบางให้อีกฝ่าย ประโยคที่กำลังคิดทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า
“ ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้ว ”
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้น รุ่นพี่ก็คงจะเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี เพราะอีกฝ่ายเอื้อมมือมาลูบไล้แก้มเขาเบาๆ
“ อื้ออ...อยากให้เปิดเทอมเร็วๆจัง ”
เขายกมือมากุมทาบทับมือฝ่ายนั้นไว้
“ พี่สน ?? ”
“ ฮึ ?? ”
“ เอ่อ.....”
“ ................................... ” รุ่นพี่เลิกคิ้วรอคำตอบ
“ ...นอนห้องนี้ด้วยกันนะ ”
อีกฝ่ายยิ้มมุมปาก “ ยั่วกันอีกแล้ว ”
“ เปล่าสักหน่อย !! ”
“ ก็.....ก็.....พอได้นอนคนเดียวแล้วรู้สึกเตียงมันโหวงๆน่ะ ”
นั่นเป็นเพราะ...ช่วงที่ได้อยู่ด้วยกัน พี่สนจะโอบกอดร่างเขาเอาไว้อย่างนั้นจนถึงเช้า จนร่างกายรู้สึกคุ้นชินกับความอบอุ่นนั้นเสียแล้ว
แต่พอได้กลับมาอยู่บ้าน...เขาก็ต้องนอนคนเดียว...ทั้งเหงา...ทั้งคิดถึงสัมผัสของพี่สนใจจะขาด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ต้องอาศัยการคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่จนเผลอหลับไปเองทุกคืนแทน
และวันนี้พี่สนมาหาเขาถึงที่บ้าน...ก็อดคิดไม่ได้ว่า...
จะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะได้นอนหลับในอ้อมกอดของรุ่นพี่อีกครั้ง ?
“ ไม่กลัวพ่อแม่รู้แล้วเหรอ ? ” ฝ่ายนั้นแกล้งถามเสียงทะเล้น
เขาทำหน้าบูดทันที “ ไม่อยากนอนก็ไม่ต้องนอน !! ”
อุตส่าห์คิดเอาไว้ว่าพ่อแม่คงไม่มีทางรู้แน่ แต่พี่สนกลับถามออกมาแบบนี้...น่าโมโหจริงๆเลย
อีกฝ่ายยิ้มกว้างมาให้
“ โอ๋ ๆ ๆ พี่ไม่ไปหรอกน่า ใครจะยอมปล่อยให้ณัฐนอนเหงาคนเดียวล่ะ เดี๋ยวกลางดึกก็ร้องไห้แงแงไปเคาะห้องพี่อีก ขี้เกียจเปิดน่ะ ”
เขาทำจมูกย่น แล้วยื่นมือออกไปบีบจมูกรุ่นพี่เอาไว้
“ ใครงอแง...ณัฐไม่ได้งอแงแบบนั้นสักหน่อย ”
“ งอแงจะตาย อื้ออ...หายใจไม่ออกง่ะ ” เสียงรุ่นพี่พูดอู้อี้
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ” เขาอมยิ้มแล้วยอมปล่อยมือออกแต่โดยดี
แต่ฝ่ายนั้นกลับคว้ามือของเขาไปหอมซะอย่างนั้น !!!
“ ชื่นใจจัง ” นั่นทำให้เขาถึงกับหน้าแดงออกมาน้อยๆ
“ ................................... ”
“ ณัฐ ?? ”
“ หือ ?? ”
“ อาบน้ำกันไหม ? ”
เขามองตารุ่นพี่ “ อาบคนละทีดีกว่า...เพื่อความปลอดภัย ”
“ อาบด้วยกันนี่แหละ อาบเฉยๆ...พี่ไม่ทำอะไรหรอกน่า ”
อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังมีความสุข และเราทั้งคู่ก็ไม่อาจทำตามความต้องการที่มีมากกว่านี้ได้ เพราะฉะนั้น...
“ ก็ได้ ”
เราทั้งสองนุ่งผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างคนละผืนแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยกัน เพราะห้องน้ำมีขนาดเล็ก จึงทำให้รู้สึกแออัดเล็กน้อยเมื่อมีคนยืนอยู่ข้างในถึงสองคน
หลังจากถอดผ้าเพียงผืนเดียวออกด้วยความเขินอาย พี่สนก็จัดการใช้ฝักบัวราดน้ำให้ร่างของเขาก่อน แล้วสระผมพร้อมกับชะโลมถูสบู่ให้ หลังจากที่ถูกชำระจนสะอาดดีแล้ว เขาก็จัดการทำให้อีกฝ่ายเช่นกัน
อาจจะเป็นเพราะฝ่ายนั้นมีร่างกายสูงใหญ่กว่า พี่สนจึงต้องก้มคอลงและใช้มือยันเข่าไว้เพื่อให้เขาสระผมได้สะดวกขึ้น แต่ในจังหวะนั้นก็ทำให้รู้สึกขัดเขินเป็นที่สุด
นั่นเป็นเพราะว่า...พี่สนก้มศีรษะลง แล้วสายตาของฝ่ายนั้นก็ตรงกับ...เอ่อ...กึ่งกลางร่างกายของเขาพอดีน่ะสิ
อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะไม่คิดเรื่องแบบนี้เด็ดขาด แต่สมองก็เผลอคิดอะไรน่าอายเข้าจนได้ เขาจึงรีบสระผมให้ฝ่ายนั้นอย่างรวดเร็ว เพื่อที่รุ่นพี่จะได้ลุกขึ้นยืนเสียที
เมื่อสระผมจนเสร็จเรียบร้อย ต่อมาเขาก็จัดการฟอกสบู่ถูไล้ไปตามร่างกายที่แข็งแรงของอีกฝ่าย อาจจะเป็นเพราะสมองของเขาเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย จึงทำให้เผลอใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว
...ณัฐ...ไม่เอานะ...ใจเย็น ๆ ๆ...
เขาพยายามบังคับให้ตัวเองสูดหายใจลึกๆ พร้อมกับที่ใช้ฝักบัวราดน้ำทำความสะอาดให้พี่สนเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ดีนะ...ที่รุ่นพี่กำลังหันหลังให้ ไม่อย่างนั้นพี่สนต้องสังเกตเห็นร่างกายส่วนล่างของเขาที่กำลังตื่นตัวขึ้นมาน้อยๆนี้แน่เลย
น่าอายจังเลยเราเนี่ย !!!
ไม่ได้นะ !! ต้องรีบทำใจให้สงบ...
ไม่นาน...การอาบน้ำของเราทั้งสองคนก็เสร็จเรียบร้อยดี จังหวะที่เขากำลังจะก้าวเท้าไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างกายเพื่อปิดบัง รุ่นพี่ก็หันกลับมาเสียก่อน
แล้วสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ทำให้เขาตกใจจนตาโตและหัวใจเต้นแรงขึ้น !!
นั่นเป็นเพราะ...ส่วนแก่นกลางของฝ่ายนั้นก็ชูชันขึ้นมาน่ะสิ !!!!
“ ณัฐ ?? ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
ใบหน้ากำลังร้อนผ่าว จึงได้แต่หลุบตาต่ำลง
“ อะ..อะไร ? ”
เพราะห้องน้ำคับแคบ พี่สนเดินเข้ามาหาเพียงแค่หนึ่งก้าวก็ทำให้ร่างของเราแนบชิดติดกันแล้ว
ฝ่ายนั้นยกคางเขาขึ้น
“ ณัฐก็รู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย ? ”
ไม่รอคำตอบพี่สนก็โน้มหน้าเข้ามาจูบเบาๆ...ริมฝีปากเย็นชืดของเราทั้งสองเริ่มบดเบียดตอบรับกันอย่างไม่อาจต้านทานได้
**********************************************
หลังจากทำความสะอาดร่างกายครั้งที่สองจนเสร็จเรียบร้อย พี่สนก็บรรจงเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดนอนให้ ฝ่ายนั้นจัดการแต่งตัวให้ตัวเองเสร็จสรรพ ปิดไฟในห้องและย้ายร่างขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆเขาทันที
“ พี่สน... ” เขาเอ่ยเรียก ขยับศีรษะออกจนเกือบสุดหมอน และใช้มือตบเบาๆ
นั่นเป็นเพราะว่าหมอนมีเพียงแค่ใบเดียว แต่ถึงจะมีมากกว่านี้...ก็คงไม่มีประโยชน์อยู่ดี
รุ่นพี่ฉีกยิ้มกว้าง แล้วขยับตัวมาใกล้อย่างที่ต้องการ
ฝ่ายนั้นกอดเขาเอาไว้แนบแน่นภายใต้ห้าผ่มผืนเล็กและเตียงขนาดจำกัด เราทั้งสองสบตากันและกันในความมืด พร้อมกับส่งยิ้มให้กันเป็นบางครั้ง
ก่อนนอน...รุ่นพี่บรรจง ‘จุมพิต’ ที่หน้าผากของเขาอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง
“ ฝันดีนะครับ...ที่รัก ”
เขาอมยิ้ม แล้วซุกไซ้เข้าไปซบอกฝ่ายนั้นด้วยหัวใจที่อิ่มเอม...
แต่ในจังหวะต่อมา...ร่างเพรียวก็เปลี่ยนใจขยับร่างขึ้นมา ‘จุมพิต’ อีกฝ่ายที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า...
“ ที่รักก็ฝันดีเหมือนกันนะ ”
พูดแล้วก็รีบกลับมาซุกอกรุ่นพี่ตามเดิม ก่อนที่จะหลับตาปี๋ด้วยความเขินอาย
**********************************
....เช้าวันใหม่....
“ ณัฐ ? ”
ร่างสูงเรียกอีกฝ่ายที่กำลังทอดลมหายใจราบเรียบสม่ำเสมอหลับสนิทแน่นิ่งอยู่บนเตียง เขาทอดสายตาก้มลงมองคนรัก แล้วก็ต้องแอบอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
ขนตาดำยาว...จมูกโด่ง...แก้มขาวเนียน...ริมฝีปากอมชมพูที่กำลังเผยอน้อยๆ
...น่ารักจังเลย...
เขาก้มลงหอมแก้มฝ่ายนั้นฟอดใหญ่ ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกครั้ง
“ ณัฐ...ตื่นได้แล้ว ”
ร่างเพรียวส่งเสียงครางอื้อในลำคอ แต่ยังไม่ยอมขยับเขยื้อนร่างกาย
เขาจึงเริ่มเขย่าร่างนั้นเบาๆ ไม่นาน...เปลือกตาอีกฝ่ายก็กระตุกและค่อยๆลืมตาขึ้นมามองอย่างสะลึมสะลือ
“ อรุณสวัสดิ์ ” ร่างสูงยิ้มทักทาย
“ พี่สน...กี่โมงแล้วเนี่ย ?? ”
“ หกโมงครึ่ง ”
“ อื้ออ... ยังเช้าอยู่เลย ” ร่างเพรียวคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทันที แต่ก็ถูกอีกคนคว้าเอาไว้เสียก่อน
“ ก็เช้าน่ะแหละ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเร็วเข้า จะได้ใส่บาตรกัน ”
“ หือ ? ใส่บาตร ”
“ ใช่ !! แม่เตรียมอาหารเสร็จหมดแล้ว เหลือแต่มาปลุกณัฐเนี่ยแหละ ”
เขายกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ “ พี่สนตื่นตอนไหนเนี่ย ? ”
“ ตื่นก่อนณัฐก็แล้วกัน ”
เขามองอีกฝ่ายที่ยังคงยิ้มกว้างมาให้
“ ปกติไม่เห็นตื่นเช้าแบบนี้นี่นา ”
“ ฮ่ะ ๆ....ไป ๆ ๆ ไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวก็สายหรอก ”
เมื่อโดนรุ่นพี่ไล่ขนาดนั้นเขาจึงลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย
พ่อ แม่ เขาและพี่สน ยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกันอย่างพร้อมหน้า โดยมีโต๊ะวางถาดอาหารและดอกไม้ตั้งอยู่ด้านหลัง
เวลาประมาณเจ็ดโมงกว่า...พระก็มาถึงหน้าบ้าน เราทั้งสี่คนจึงได้ใส่บาตรและรับพรจนอิ่มบุญกันไป
ระหว่างที่เก็บของเดินกลับเข้าบ้าน แม่ก็พูดยิ้มๆขึ้นมาว่า
“ พี่สนนี่ขยันเนอะ ”
เขาหันเหลือบมองคนที่ถูกพูดถึงที่กำลังแบกโต๊ะเดินตามมาด้านหลัง
“ ทำไมแม่ถึงพูดอย่างงั้นล่ะ ? ”
“ ก็พี่สนตื่นมาทำกับข้าวช่วยแม่ตั้งแต่เช้า แถมยังช่วยพ่อรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านอีก...จะไม่ให้บอกว่าขยันได้ยังไงล่ะ ”
“ จริงเหรอครับ ?! ” เขาทำหน้าแปลกใจ
“ ใช่น่ะสิ...ณัฐยังนอนหลับอุตุอยู่เลยมั้ง ฮ่ะ ๆ ” แม่หันมายิ้มให้
“ แม่อ่ะ... ” เขาแอบค้อน
“ เฮ้อ...ถ้าแม่มีลูกสาวนะ แม่จะยกลูกสาวให้พี่สนเลย ทั้งดีทั้งหล่อขนาดนี้ ”
ประโยคนั้นทำเอาเขาเผลอตะโกนเสียงดัง
“ แม่ !!! ”
อีกฝ่ายหันมามองหน้าอย่างงงๆ
“ ทำไมล่ะ ? แม่สมมติหรอก...ณัฐจะตกใจทำไมเนี่ย ? ”
เขารีบก้มหน้าโดยเร็ว แล้วพยายามเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา
“ ก็แม่พูดอะไรแปลกๆนี่นา ”
แม่ไม่สนใจ หันไปบอกคนทางด้านหลัง
“ สน...เอาโต๊ะไปเก็บข้างบ้านเหมือนเดิมนะลูก ขอบใจมากนะ ”
“ ครับแม่ ! ” เสียงของรุ่นพี่ตอบกลับมา
หา !! เดี๋ยวนี้พี่สนเรียกแม่ว่า... ‘แม่’...เลยเหรอ ?!!
************************************
เขากับพี่สนอยู่บ้านด้วยกันตลอดทั้งวัน พ่อดูรายการทีวีและนอนกลางวันเหมือนปกติ ส่วนเขากับพี่สนก็ได้แต่นั่งเล่นนอนเล่นเพราะไม่รู้จะทำอะไร นั่นเป็นเพราะรุ่นพี่ไม่อยากให้เขาออกไปร้านดอกไม้น่ะสิ สาเหตุคงไม่พ้นเรื่องลูกค้าคนเมื่อวาน
‘ ไม่เอาอ่ะ...เดี๋ยวไอ้หน้าปลาจวดนั่นมาจีบณัฐอีก ! ’ พี่สนพูดอย่างนี้
และถ้าจะให้พูดจริงๆเขาก็อยากอยู่บ้านกับพี่สนเฉยๆแบบนี้เหมือนกัน เพราะวันนี้ตอนเย็นรุ่นพี่ก็จะเดินทางกลับแล้ว
ตอนบ่ายพวกเราจึงไปกินอาหารกลางวันนอกบ้านกัน เพราะว่าวันอาทิตย์แม่จะเปิดร้านแค่ครึ่งวัน ครั้งนี้พี่นวลก็ไปด้วย ทำให้บรรยากาศยิ่งดูครึกครื้นไปกันใหญ่
นอกจากพ่อกับแม่จะไม่สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพี่สนแล้ว ดูเหมือนว่าจะถูกอกถูกใจและเข้ากันได้ดีกับรุ่นพี่อีกต่างหาก
ตอนนี้บอกตามตรงว่ารู้สึก...สบายใจและโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก...
และเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงเย็น เขาช่วยรุ่นพี่เก็บของใส่กระเป๋าอยู่บนห้อง
รู้สึกใจหายเหมือนกันที่พี่สนกำลังจะกลับแล้ว ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า...อีกไม่นานเขาก็จะได้กลับไปหารุ่นพี่เหมือนเดิม
“ นี่ !! อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ” รุ่นพี่เข้ามาประคองใบหน้าของเขาเอาไว้
“ อะไรกัน...ไม่อยากให้พี่กลับขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”
“ ................................. ” เขาจ้องหน้ารุ่นพี่ รู้สึกว่าน้ำตารื้นขึ้นมานิดๆ
พี่สนยิ้มบาง “ งั้นเดี๋ยว ‘เสาร์หน้า’ พี่มาหาอีกมั้ย ? ”
ร่างเพรียวส่ายหัว “ ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวณัฐจะไปหาพี่สนเอง ”
“ หือ ?? ” ฝ่ายนั้นแปลกใจ
“ ณัฐว่า...จะกลับก่อนสักหนึ่งอาทิตย์น่ะ พ่อกับแม่ก็อนุญาตแล้ว ”
คำตอบนั้นทำเอารุ่นพี่ยิ้มกว้าง และก็โน้มตัวมา ‘จูบ’ เขาด้วยความดีใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นจูบแสนหวานที่ประทับเนิ่นนาน...นานจนสามารถทดแทนได้อย่างเต็มอิ่มจนกว่าพวกเราจะกลับมาพบกันอีกครั้ง
“ พี่จะรอนะ ”
“ อื้มม ” เขาผงกหัวให้ และเราก็ประทับริมฝีปากกันอีกครั้ง...
หลังจากที่กล่าวลาพ่อกับแม่เสร็จ เขาก็เดินมาส่งพี่สนจนถึงหน้าบ้าน ทั้งๆที่อาสาจะขึ้นรถไปส่งด้วย แต่รุ่นพี่ก็ไม่ยอม...บอกว่า ‘ไม่ต้องไปส่งหรอก...อยู่บ้านนี่แหละดีแล้ว ’
เขาจึงได้แต่โบกมือลาให้ จนรถแท็กซี่เคลื่อนตัวไปไกลจนลับสายตา
********************************
ความคิดเห็น