ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #67 : บทที่หกสิบสาม -- ทำไม่ได้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.12K
      9
      13 มี.ค. 53

    บทที่หกสิบสาม

     
     

                  
                  เราสองคนจูบกันเนิ่นนานหลายนาที จนเขาเอนตัวลงนอนราบบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  พี่สนลุกขึ้นคร่อมและเปลี่ยนไปซุกไซ้ที่ซอกคอ ขบเม้มที่ติ่งหูของเขาเบาๆจนทำให้รู้สึกสยิว
     


                  “ พี่สน...อย่า... ”



                  ฝ่ายนั้นเลื่อนขึ้นมาประกบริมฝีปากของเขาอีกครั้ง  เขาตอบสนองจูบเหมือนอย่างที่เคย ละเลงลิ้นหยอกล้อกับรุ่นพี่จนรู้สึกวาบหวามในใจ   ฝ่ายนั้นเริ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อและลูบไล้แผ่นอกสัมผัสผ่านเม็ดตุ่มไตทั้งสองจนร่างของเขาเริ่มอ่อนระทวย  เขาจึงใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่พยายามดันไหล่อีกฝ่ายออก



                   “ พี่สน...อย่านะ...ไม่เอา... ”

     

                   ร่างสูงหยุดการกระทำ  แล้วมองร่างข้างใต้ที่กำลังเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำ

     
                   “ ณัฐว่าที่นี่...เอ่อ...ไม่เหมาะ   พ่อกับแม่ก็อยู่...ณัฐไม่กล้า ”

     


                   เขาสบตากับรุ่นพี่...สักพักฝ่ายนั้นก็ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆ

     
                   “ เฮ้อ...นั่นน่ะแหละ ”  รุ่นพี่ยกมือก่ายหน้าผากแล้วเอ่ยออกมาช้าๆ

                   “ พี่ก็ไม่กล้ามาปล้ำลูกชายเขาถึงที่หรอก... ” 

                   อีกฝ่ายหันหน้ามามอง  “ ...เกรงใจเหมือนกัน ”



                   คำพูดนั้นทำเอาเขาถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ

                   “ ฮ่ะ ๆ ๆ พี่สนก็รู้นี่นา ”



                   “ แต่พี่ก็ ‘อยาก’ อ่ะ...ณัฐไม่ ‘อยาก’ เหรอ ? ”



                   ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง...จึงพยายามเบือนสายตาไปทางอื่น

                   ไม่กล้าพูดออกไปว่าเขาเองก็ ‘รู้สึกแบบเดียว’ กับพี่สนเหมือนกัน  เพราะว่าซาบซึ้งและเต็มอิ่มกับถ้อยคำบอกรักที่พึ่งได้รับ   ถ้าอยู่ที่หอพักพวกเขาทั้งสองคนคงจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้และระเริงรักอย่างมีความสุขเต็มที่ไปแล้ว

                    แต่ว่า...เพราะตอนนี้เราทั้งสองกำลังอยู่ที่บ้าน  

                    บ้านที่มี ‘พ่อและแม่’ อยู่ด้วย  เขาไม่กล้าทำเรื่องพรรค์นั้นแน่นอน  ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะรู้สึกผิดต่อท่านทั้งสองแน่ๆ



                   “ ...................................... ”  เขาเงียบเป็นคำตอบ แต่หันไปสบตารุ่นพี่


                   เราทั้งสองคนกำลัง..ต้องการกันและกัน...แต่ก็รู้ดีว่าไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้


                   ร่างเพรียวยิ้มบางให้อีกฝ่าย   ประโยคที่กำลังคิดทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า

                   “ ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้ว ”



                   เขาเอ่ยเพียงแค่นั้น  รุ่นพี่ก็คงจะเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี  เพราะอีกฝ่ายเอื้อมมือมาลูบไล้แก้มเขาเบาๆ

                   “ อื้ออ...อยากให้เปิดเทอมเร็วๆจัง ”



                   เขายกมือมากุมทาบทับมือฝ่ายนั้นไว้

                   “ พี่สน ?? ”



                   “ ฮึ ?? ”



                   “ เอ่อ.....”



                   “ ................................... ” รุ่นพี่เลิกคิ้วรอคำตอบ



                    “ ...นอนห้องนี้ด้วยกันนะ ”



                   อีกฝ่ายยิ้มมุมปาก   “ ยั่วกันอีกแล้ว ”



                   “ เปล่าสักหน่อย  !! ”

                   “ ก็.....ก็.....พอได้นอนคนเดียวแล้วรู้สึกเตียงมันโหวงๆน่ะ ”

     

                    นั่นเป็นเพราะ...ช่วงที่ได้อยู่ด้วยกัน  พี่สนจะโอบกอดร่างเขาเอาไว้อย่างนั้นจนถึงเช้า  จนร่างกายรู้สึกคุ้นชินกับความอบอุ่นนั้นเสียแล้ว  

                    แต่พอได้กลับมาอยู่บ้าน...เขาก็ต้องนอนคนเดียว...ทั้งเหงา...ทั้งคิดถึงสัมผัสของพี่สนใจจะขาด  แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง  ต้องอาศัยการคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่จนเผลอหลับไปเองทุกคืนแทน

                    และวันนี้พี่สนมาหาเขาถึงที่บ้าน...ก็อดคิดไม่ได้ว่า...

                    จะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะได้นอนหลับในอ้อมกอดของรุ่นพี่อีกครั้ง ?

     

                   “ ไม่กลัวพ่อแม่รู้แล้วเหรอ ? ”  ฝ่ายนั้นแกล้งถามเสียงทะเล้น

     

                   เขาทำหน้าบูดทันที  “ ไม่อยากนอนก็ไม่ต้องนอน !! ” 

                   อุตส่าห์คิดเอาไว้ว่าพ่อแม่คงไม่มีทางรู้แน่  แต่พี่สนกลับถามออกมาแบบนี้...น่าโมโหจริงๆเลย

     
                   อีกฝ่ายยิ้มกว้างมาให้
     
                   “ โอ๋ ๆ ๆ พี่ไม่ไปหรอกน่า  ใครจะยอมปล่อยให้ณัฐนอนเหงาคนเดียวล่ะ  เดี๋ยวกลางดึกก็ร้องไห้แงแงไปเคาะห้องพี่อีก  ขี้เกียจเปิดน่ะ ”

     
                   เขาทำจมูกย่น  แล้วยื่นมือออกไปบีบจมูกรุ่นพี่เอาไว้
     
                   “ ใครงอแง...ณัฐไม่ได้งอแงแบบนั้นสักหน่อย ”

     

                   “ งอแงจะตาย   อื้ออ...หายใจไม่ออกง่ะ ”  เสียงรุ่นพี่พูดอู้อี้

     

                   “ ฮ่ะ ๆ ๆ ”  เขาอมยิ้มแล้วยอมปล่อยมือออกแต่โดยดี

     

                   แต่ฝ่ายนั้นกลับคว้ามือของเขาไปหอมซะอย่างนั้น !!!

     

                   “ ชื่นใจจัง ”  
    นั่นทำให้เขาถึงกับหน้าแดงออกมาน้อยๆ
     


                   “ ................................... ”

     

                   “ ณัฐ ?? ”

     

                   “ หือ ?? ”

     

                   “ อาบน้ำกันไหม ? ”

     

                   เขามองตารุ่นพี่   “ อาบคนละทีดีกว่า...เพื่อความปลอดภัย ”

     

                   “ อาบด้วยกันนี่แหละ  อาบเฉยๆ...พี่ไม่ทำอะไรหรอกน่า ”

     

                   อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังมีความสุข  และเราทั้งคู่ก็ไม่อาจทำตามความต้องการที่มีมากกว่านี้ได้  เพราะฉะนั้น...

     

                   “ ก็ได้ ”
     

     
     


                   เราทั้งสองนุ่งผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างคนละผืนแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยกัน  เพราะห้องน้ำมีขนาดเล็ก  จึงทำให้รู้สึกแออัดเล็กน้อยเมื่อมีคนยืนอยู่ข้างในถึงสองคน
      

                   หลังจากถอดผ้าเพียงผืนเดียวออกด้วยความเขินอาย  พี่สนก็จัดการใช้ฝักบัวราดน้ำให้ร่างของเขาก่อน  แล้วสระผมพร้อมกับชะโลมถูสบู่ให้  หลังจากที่ถูกชำระจนสะอาดดีแล้ว เขาก็จัดการทำให้อีกฝ่ายเช่นกัน


                   อาจจะเป็นเพราะฝ่ายนั้นมีร่างกายสูงใหญ่กว่า  พี่สนจึงต้องก้มคอลงและใช้มือยันเข่าไว้เพื่อให้เขาสระผมได้สะดวกขึ้น  แต่ในจังหวะนั้นก็ทำให้รู้สึกขัดเขินเป็นที่สุด  


                   นั่นเป็นเพราะว่า...พี่สนก้มศีรษะลง  แล้วสายตาของฝ่ายนั้นก็ตรงกับ...เอ่อ...กึ่งกลางร่างกายของเขาพอดีน่ะสิ


                   อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะไม่คิดเรื่องแบบนี้เด็ดขาด  แต่สมองก็เผลอคิดอะไรน่าอายเข้าจนได้  เขาจึงรีบสระผมให้ฝ่ายนั้นอย่างรวดเร็ว  เพื่อที่รุ่นพี่จะได้ลุกขึ้นยืนเสียที


                   เมื่อสระผมจนเสร็จเรียบร้อย  ต่อมาเขาก็จัดการฟอกสบู่ถูไล้ไปตามร่างกายที่แข็งแรงของอีกฝ่าย  อาจจะเป็นเพราะสมองของเขาเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย  จึงทำให้เผลอใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว


                   ...ณัฐ...ไม่เอานะ...ใจเย็น ๆ ๆ...


                   เขาพยายามบังคับให้ตัวเองสูดหายใจลึกๆ  พร้อมกับที่ใช้ฝักบัวราดน้ำทำความสะอาดให้พี่สนเป็นขั้นตอนสุดท้าย


                   ดีนะ...ที่รุ่นพี่กำลังหันหลังให้  ไม่อย่างนั้นพี่สนต้องสังเกตเห็นร่างกายส่วนล่างของเขาที่กำลังตื่นตัวขึ้นมาน้อยๆนี้แน่เลย

                   น่าอายจังเลยเราเนี่ย !!!  

                   ไม่ได้นะ !! ต้องรีบทำใจให้สงบ...





                   ไม่นาน...การอาบน้ำของเราทั้งสองคนก็เสร็จเรียบร้อยดี  จังหวะที่เขากำลังจะก้าวเท้าไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างกายเพื่อปิดบัง  รุ่นพี่ก็หันกลับมาเสียก่อน 

                    แล้วสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ทำให้เขาตกใจจนตาโตและหัวใจเต้นแรงขึ้น !!



                    นั่นเป็นเพราะ...ส่วนแก่นกลางของฝ่ายนั้นก็ชูชันขึ้นมาน่ะสิ  !!!!


                    “ ณัฐ ?? ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น


                    ใบหน้ากำลังร้อนผ่าว จึงได้แต่หลุบตาต่ำลง

                    “ อะ..อะไร ? ”



                    เพราะห้องน้ำคับแคบ  พี่สนเดินเข้ามาหาเพียงแค่หนึ่งก้าวก็ทำให้ร่างของเราแนบชิดติดกันแล้ว


                    ฝ่ายนั้นยกคางเขาขึ้น  

                    “ ณัฐก็รู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย ? ”



                    ไม่รอคำตอบพี่สนก็โน้มหน้าเข้ามาจูบเบาๆ...ริมฝีปากเย็นชืดของเราทั้งสองเริ่มบดเบียดตอบรับกันอย่างไม่อาจต้านทานได้






    **********************************************



     

                   หลังจากทำความสะอาดร่างกายครั้งที่สองจนเสร็จเรียบร้อย  พี่สนก็บรรจงเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดนอนให้  ฝ่ายนั้นจัดการแต่งตัวให้ตัวเองเสร็จสรรพ  ปิดไฟในห้องและย้ายร่างขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆเขาทันที

     

                   “ พี่สน... ”  เขาเอ่ยเรียก  ขยับศีรษะออกจนเกือบสุดหมอน และใช้มือตบเบาๆ


                  นั่นเป็นเพราะว่าหมอนมีเพียงแค่ใบเดียว   แต่ถึงจะมีมากกว่านี้...ก็คงไม่มีประโยชน์อยู่ดี


                  

                  รุ่นพี่ฉีกยิ้มกว้าง  แล้วขยับตัวมาใกล้อย่างที่ต้องการ
     
                  ฝ่ายนั้นกอดเขาเอาไว้แนบแน่นภายใต้ห้าผ่มผืนเล็กและเตียงขนาดจำกัด  เราทั้งสองสบตากันและกันในความมืด  พร้อมกับส่งยิ้มให้กันเป็นบางครั้ง
      
     

                  ก่อนนอน...รุ่นพี่บรรจง ‘จุมพิต’ ที่หน้าผากของเขาอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง

     

                  “ ฝันดีนะครับ...ที่รัก ”

     

                  เขาอมยิ้ม  แล้วซุกไซ้เข้าไปซบอกฝ่ายนั้นด้วยหัวใจที่อิ่มเอม... 



                  แต่ในจังหวะต่อมา...ร่างเพรียวก็เปลี่ยนใจขยับร่างขึ้นมา ‘จุมพิต’ อีกฝ่ายที่ริมฝีปากเบาๆ  ก่อนที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า...



                  “ ที่รักก็ฝันดีเหมือนกันนะ ”

     

                  พูดแล้วก็รีบกลับมาซุกอกรุ่นพี่ตามเดิม  ก่อนที่จะหลับตาปี๋ด้วยความเขินอาย






    **********************************





                  ....เช้าวันใหม่....





                 “ ณัฐ ? ” 


                 ร่างสูงเรียกอีกฝ่ายที่กำลังทอดลมหายใจราบเรียบสม่ำเสมอหลับสนิทแน่นิ่งอยู่บนเตียง  เขาทอดสายตาก้มลงมองคนรัก  แล้วก็ต้องแอบอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
     
                 ขนตาดำยาว...จมูกโด่ง...แก้มขาวเนียน...ริมฝีปากอมชมพูที่กำลังเผยอน้อยๆ

                 ...น่ารักจังเลย...

     

                 เขาก้มลงหอมแก้มฝ่ายนั้นฟอดใหญ่  ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกครั้ง
     
                 “ ณัฐ...ตื่นได้แล้ว ”

     

                 ร่างเพรียวส่งเสียงครางอื้อในลำคอ  แต่ยังไม่ยอมขยับเขยื้อนร่างกาย
     
                 เขาจึงเริ่มเขย่าร่างนั้นเบาๆ   ไม่นาน...เปลือกตาอีกฝ่ายก็กระตุกและค่อยๆลืมตาขึ้นมามองอย่างสะลึมสะลือ


                  “ อรุณสวัสดิ์ ”  ร่างสูงยิ้มทักทาย

     
                  “ พี่สน...กี่โมงแล้วเนี่ย ?? ”

     
                  “ หกโมงครึ่ง ”

     
                  “ อื้ออ... ยังเช้าอยู่เลย ”  ร่างเพรียวคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทันที  แต่ก็ถูกอีกคนคว้าเอาไว้เสียก่อน
     
                  “ ก็เช้าน่ะแหละ  รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเร็วเข้า  จะได้ใส่บาตรกัน ”

     
                  “ หือ ? ใส่บาตร ”

     
                  “ ใช่ !!  แม่เตรียมอาหารเสร็จหมดแล้ว  เหลือแต่มาปลุกณัฐเนี่ยแหละ ”

     
                  เขายกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ  “ พี่สนตื่นตอนไหนเนี่ย ? ”

     
                  “ ตื่นก่อนณัฐก็แล้วกัน ”

     
                   เขามองอีกฝ่ายที่ยังคงยิ้มกว้างมาให้
     
                  “ ปกติไม่เห็นตื่นเช้าแบบนี้นี่นา ”

     
                  “ ฮ่ะ ๆ....ไป ๆ ๆ ไปอาบน้ำเร็ว  เดี๋ยวก็สายหรอก ”

     
                  เมื่อโดนรุ่นพี่ไล่ขนาดนั้นเขาจึงลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย

     




                   พ่อ  แม่  เขาและพี่สน  ยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกันอย่างพร้อมหน้า   โดยมีโต๊ะวางถาดอาหารและดอกไม้ตั้งอยู่ด้านหลัง  
     
                    เวลาประมาณเจ็ดโมงกว่า...พระก็มาถึงหน้าบ้าน  เราทั้งสี่คนจึงได้ใส่บาตรและรับพรจนอิ่มบุญกันไป

     

                    ระหว่างที่เก็บของเดินกลับเข้าบ้าน  แม่ก็พูดยิ้มๆขึ้นมาว่า
     
                   “ พี่สนนี่ขยันเนอะ  ”
     


                    เขาหันเหลือบมองคนที่ถูกพูดถึงที่กำลังแบกโต๊ะเดินตามมาด้านหลัง

                    “ ทำไมแม่ถึงพูดอย่างงั้นล่ะ ? ”

     

                   “ ก็พี่สนตื่นมาทำกับข้าวช่วยแม่ตั้งแต่เช้า  แถมยังช่วยพ่อรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านอีก...จะไม่ให้บอกว่าขยันได้ยังไงล่ะ ”
     


                   “ จริงเหรอครับ ?! ”  เขาทำหน้าแปลกใจ



                   “ ใช่น่ะสิ...ณัฐยังนอนหลับอุตุอยู่เลยมั้ง ฮ่ะ ๆ ”  แม่หันมายิ้มให้

     

                   “ แม่อ่ะ... ”  เขาแอบค้อน

     

                   “ เฮ้อ...ถ้าแม่มีลูกสาวนะ  แม่จะยกลูกสาวให้พี่สนเลย  ทั้งดีทั้งหล่อขนาดนี้ ”

     

                   ประโยคนั้นทำเอาเขาเผลอตะโกนเสียงดัง
     
                   “ แม่ !!! ”

     

                  อีกฝ่ายหันมามองหน้าอย่างงงๆ
     
                  “ ทำไมล่ะ ? แม่สมมติหรอก...ณัฐจะตกใจทำไมเนี่ย ? ”

     

                   เขารีบก้มหน้าโดยเร็ว แล้วพยายามเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา
     
                  “ ก็แม่พูดอะไรแปลกๆนี่นา ”

     

                   แม่ไม่สนใจ  หันไปบอกคนทางด้านหลัง
     
                  “ สน...เอาโต๊ะไปเก็บข้างบ้านเหมือนเดิมนะลูก ขอบใจมากนะ ”

     

                  “ ครับแม่ ! ” เสียงของรุ่นพี่ตอบกลับมา

     

                  หา !! เดี๋ยวนี้พี่สนเรียกแม่ว่า... ‘แม่’...เลยเหรอ ?!!
     




    ************************************ 
     
     


                    เขากับพี่สนอยู่บ้านด้วยกันตลอดทั้งวัน  พ่อดูรายการทีวีและนอนกลางวันเหมือนปกติ  ส่วนเขากับพี่สนก็ได้แต่นั่งเล่นนอนเล่นเพราะไม่รู้จะทำอะไร  นั่นเป็นเพราะรุ่นพี่ไม่อยากให้เขาออกไปร้านดอกไม้น่ะสิ  สาเหตุคงไม่พ้นเรื่องลูกค้าคนเมื่อวาน
     
          
                   ‘ ไม่เอาอ่ะ...เดี๋ยวไอ้หน้าปลาจวดนั่นมาจีบณัฐอีก ! ’  พี่สนพูดอย่างนี้  


                    และถ้าจะให้พูดจริงๆเขาก็อยากอยู่บ้านกับพี่สนเฉยๆแบบนี้เหมือนกัน  เพราะวันนี้ตอนเย็นรุ่นพี่ก็จะเดินทางกลับแล้ว

     
                    ตอนบ่ายพวกเราจึงไปกินอาหารกลางวันนอกบ้านกัน  เพราะว่าวันอาทิตย์แม่จะเปิดร้านแค่ครึ่งวัน  ครั้งนี้พี่นวลก็ไปด้วย  ทำให้บรรยากาศยิ่งดูครึกครื้นไปกันใหญ่
     

                    นอกจากพ่อกับแม่จะไม่สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพี่สนแล้ว  ดูเหมือนว่าจะถูกอกถูกใจและเข้ากันได้ดีกับรุ่นพี่อีกต่างหาก
     

                     ตอนนี้บอกตามตรงว่ารู้สึก...สบายใจและโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก...

     



                     และเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงเย็น   เขาช่วยรุ่นพี่เก็บของใส่กระเป๋าอยู่บนห้อง 
    รู้สึกใจหายเหมือนกันที่พี่สนกำลังจะกลับแล้ว  ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า...อีกไม่นานเขาก็จะได้กลับไปหารุ่นพี่เหมือนเดิม

     

                    “ นี่ !! อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  ”  รุ่นพี่เข้ามาประคองใบหน้าของเขาเอาไว้
     
                    “ อะไรกัน...ไม่อยากให้พี่กลับขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” 

     


                    “ ................................. ”  เขาจ้องหน้ารุ่นพี่  รู้สึกว่าน้ำตารื้นขึ้นมานิดๆ




                    พี่สนยิ้มบาง  “ งั้นเดี๋ยว ‘เสาร์หน้า’ พี่มาหาอีกมั้ย ? ”

     


                   ร่างเพรียวส่ายหัว  “ ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวณัฐจะไปหาพี่สนเอง ”

     

                   “ หือ ?? ”  ฝ่ายนั้นแปลกใจ

     

                   “ ณัฐว่า...จะกลับก่อนสักหนึ่งอาทิตย์น่ะ  พ่อกับแม่ก็อนุญาตแล้ว ”



                   คำตอบนั้นทำเอารุ่นพี่ยิ้มกว้าง  และก็โน้มตัวมา ‘จูบ’ เขาด้วยความดีใจ   จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นจูบแสนหวานที่ประทับเนิ่นนาน...นานจนสามารถทดแทนได้อย่างเต็มอิ่มจนกว่าพวกเราจะกลับมาพบกันอีกครั้ง

     

                   “ พี่จะรอนะ ”

     

                   “ อื้มม ”  เขาผงกหัวให้  และเราก็ประทับริมฝีปากกันอีกครั้ง...
     




                    หลังจากที่กล่าวลาพ่อกับแม่เสร็จ  เขาก็เดินมาส่งพี่สนจนถึงหน้าบ้าน  ทั้งๆที่อาสาจะขึ้นรถไปส่งด้วย  แต่รุ่นพี่ก็ไม่ยอม...บอกว่า  ‘ไม่ต้องไปส่งหรอก...อยู่บ้านนี่แหละดีแล้ว ’


     
                    เขาจึงได้แต่โบกมือลาให้  จนรถแท็กซี่เคลื่อนตัวไปไกลจนลับสายตา





    ********************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×