ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #74 : บทที่หกสิบเก้า -- แว่ว2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.17K
      9
      19 มิ.ย. 53

    บทที่หกสิบเก้า

     



                    ลมหนาวยังคงพัดผ่านจนทำให้อุณหภูมิแต่ละวันลดลงเรื่อยๆ  เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจนิดหน่อยเพราะอากาศที่กรุงเทพฯไม่เคยหนาวขนาดนี้   แต่ที่นี่อากาศเย็นเสียจนต้องค้นเสื้อกันหนาวในตู้มาใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย   และหนาวมากเสียจนรุ่นพี่ต้องไปหาซื้อผ้าพันคอและถุงมือมาใส่ให้
     
                    และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่อากาศหนาวเย็นมากเช่นกัน...
     
     


                    “ ณัฐแต่งแบบนี้แล้วน่ารักมากเลยรู้ไหม ? ”  ฝ่ายนั้นยิ้มกรุ้มกริ่มหลังจากพยายามใส่ผ้าพันคอสีน้ำตาลอ่อนให้เขา...ซึ่งเข้ากันดีกับชุดไหมพรมแขนยาวสีขาว

          


                    “ แน่ล่ะ ”  ร่างเพรียวเชิดหน้าอย่างภูมิใจ



                     แต่ที่จริงไม่อยากจะบอกเลยว่า...ชุดเสื้อฮู้ทสีดำที่รุ่นพี่กำลังใส่อยู่ตอนนี้ ก็ทำให้พี่สนดูเท่อย่าบอกใครเหมือนกัน  นายแบบก็นายแบบเถอะ !!

     

                     “ ถ้าไม่ห่วงเรื่องที่ต้องไปเรียน  พี่คงจะจับณัฐกดตรงนี้เลย ” รุ่นพี่ยิ้มเจ้าเล่ห์

     

                     เขาอมยิ้มเขินอาย
     
                     “ เมื่อคืนยังไม่พออีกหรือไง ? ”  ร่างเพรียวพูดเสียงเบา แต่แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ ไม่รู้ว่าเพราะอากาศหนาวหรือเพราะอะไรกันแน่




                    เมื่อคืนอากาศหนาวมาก...หลังจากนอนกอดกันกลมเพื่อเพิ่มความอบอุ่น สักพักฝ่ายนั้นก็เริ่มซุกซนเข้ามาหยอกล้อกับร่างกายของเขา...ไล้สัมผัสไปเรื่อยๆจนเสื้อผ้าของเราทั้งคู่หายไปจากร่างกายตอนไหนก็ไม่รู้

                    แปลกมาก...ทั้งที่อากาศหนาว แต่กลับรู้สึกอบอุ่นได้อย่างน่าประหลาด  บทรักที่แสนเร่าร้อนได้เริ่มต้นขึ้นและผ่านพ้นไปด้วยความสุขสม  รุ่นพี่จุมพิตที่หน้าผากเบาๆก่อนนอนและเราทั้งสองก็ตระกองกอดกันเนื้อแนบเนื้ออย่างนั้นจนถึงเช้า

                   ...รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากจริงๆ...



                    “ ไม่พอหรอก...ไม่มีวันพอ ” ฝ่ายนั้นตอบกลับมา



                    “ ก็พี่สนหื่นนี่นา ”  เขากระซิบบ่น

     

                    “ ที่รักใส่ถุงมือมั้ย ? ” รุ่นพี่ยื่นถุงมือสีน้ำตาลอ่อนซึ่งเป็นเซ็ทเดียวกับผ้าพันคอมาให้

     

                    “ ไม่เอาอ่ะ...แต่ว่า ”

     

                    เขายื่นมือออกไปรับ แล้วจัดการใส่ให้คนตรงหน้าทันที

                   “ ให้พี่สนใส่ดีกว่า ”



                    รุ่นพี่ยิ้มกว้างมาให้  และร่างทั้งสองก็เคลื่อนตัวเข้า..จูบกัน..ราวกับว่ามีแรงดึงดูดอยู่ระหว่างกลาง



                   “ ไปเรียนกันเถอะ ”



                   “ ครับ ”




    ***************************

     

                    การเรียนในวันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม  เพราะเป็นการเรียนภาควิชาบรรยาย  จึงไม่แปลกเลยที่คาบเรียนนี้จะรู้สึกว่าห้องดูกว้างขึ้นถนัดตา  เพราะเพื่อนบางคนคงกำลังต่อสู้กับอากาศหนาวอยู่ใต้ผ้าห่มภายในห้องของตัวเองอยู่แน่นอน
     
                    เขานั่งในตำแหน่งประจำกับเพื่อนสนิททั้งสอง  เพราะอาจารย์ยังไม่มาสอน เพื่อนคนอื่นๆจึงยังคงพูดคุยสนทนากันเสียงดังเจี้ยวจ้าว และเดินผ่านไปมาตามปกติ

     


                    “ เอ๋ ?? ”  เสียงใสของแพรดังขึ้น  ขณะที่กำลังจ้องมองมือถือของตนเอง



                   
    เขาหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างงงๆ

     
                    เธอหันมาสบตาเขา แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานทันที  “ อาทิตย์หน้า... ”

     
                    “ ทำไมเหรอ ? ” ร่างเพรียวทำหน้าสงสัย

     
                          เธอยิ้มมีเลศนัยมากขึ้น  “ อิอิ  อาทิตย์หน้า....วันเกิดใครเอ่ย ? ”

     
                    ได้ยินดังนั้นเขาก็หลุดยิ้มออกมา  “ นี่แพรจำได้ด้วยเหรอ ? ”

     
                    “ แหม...จำได้สิ  แพรอุตส่าห์บันทึก ‘วันเกิดณัฐ’ ไว้ในมือถือเลยนะ ”

     

                     ไม่แปลกเลยที่แพรจะรู้โดยไม่ต้องถาม  เพราะทุกคนจะมีใบข้อมูลของเพื่อนในชั้นปีอยู่แล้ว  ในนั้นมีตั้งแต่ชื่อ ชื่อเล่น  วันเกิด  โรงเรียนมัธยมที่จบมา  รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ของทุกคน  เพราะพวกเราปีหนึ่งจัดทำขึ้นกันเอง  จะได้สามารถติดต่อกันได้โดยสะดวก
     
     

                     “ ฮ่ะ ๆ ๆ จะซื้อของขวัญอะไรให้ณัฐดีน้า ?? ”  เธอทำหน้านึกคิดกับตัวเอง

     
                          “ ซื้อต้นกระบองเพชรไง !! ” ไอ้จัมโบ้พูดเสริมขึ้นมา

     
                          “ หือ ? ทำไมอ่ะ ? ”  แพรถามขึ้น  ส่วนเขาก็สงสัยเหมือนกัน
     

                    “ ก็...เข้าห้องหอแล้ว ”
                    “ ก็อยากให้ ‘ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร’ ไง ”  เพื่อนตัวอ้วนเอ่ยแซว

     
                    “ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ งานวันเกิดนะ ไม่ใช่งานแต่งงาน ”  แพรหัวเราะร่า  ส่วนเขาก็ได้แต่อมยิ้ม เพราะเป็นครั้งแรกที่ไอ้จัมโบ้พูดแซวแบบนี้ รู้สึกเหมือนว่า...มันจะสนิทใจเรื่องนี้มากขึ้นแล้วสิ

     
                          “ อันนั้นเขาพูดถึงกระบอง  แต่มึงพูดถึงต้นไม้  ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ”  เขาตอบกลับ

     
                     “ มันก็เหมือนๆกันน่ะแหละ ”
                     “ แต่ว่า...จะไปเลี้ยงฉลองกันที่ไหนดี ? ”

     
                     “ ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะเลี้ยง ”  เขาพูดอมยิ้ม

     
                     “ ใช่สิ !!  เขาก็คงอยากจะฉลองกับแฟนเขา ” ไอ้จัมโบ้พูดเสียงสูงหันหน้าไปพยักเพยิดกับแพร
                     “ เนอะ ?? ”

     
                     “ ช่ายยยยยยยยย ” เธอลากเสียงยาว แล้วหัวเราะคิกคักๆ จนเขาไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปดี

                     “ ไม่ใช่สักหน่อย...พี่สนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ”  เขาบอกด้วยน้ำเสียงปกติ

     
                     “ อ้าว ? ยังไม่ได้มีแพลนกันหรอกเหรอ ? ”  แพรหันมาถามต่อ

     
                     “ อืมม ”  เขายิ้มบาง
                     “ แต่ณัฐก็ไม่ได้คิดมากหรอกนะ ไม่ต้องมีของขวัญก็ได้  ขอแค่ได้นั่งกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิมก็พอ ”  

                     “ เหมือนอย่างวันนี้...แค่แพรจำวันเกิดณัฐได้ก็ดีใจแล้ว ”

     
                     แพรยิ้มหวานมาให้  “ จริงเหรอ ? ”

     
                     “ ฮ่ะ ๆ ๆ จริงสิ ”

     

                    ระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งสนทนากันนั้น เพื่อนคนอื่นๆก็เดินผ่านไปมาตามทางเดินตามปกติ แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อยคือ...มีบางคนจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ  พอเขาหันไปสบตา คนเหล่านั้นก็แกล้งมองไปทางอื่นแทน  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอรู้สึกว่ามีหลายคนมากขึ้นก็เริ่มแปลกใจ

     
                     มีอะไรหรือเปล่านะ ??



    *****************************


     

                    ...ช่วงพักกลางวัน...

     
                    วันนี้โรงอาหารยังคงแน่นขนัดเหมือนเคย  เพราะทั้งนักศึกษา  บุคลากรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล  หรือแม้กระทั่งญาติผู้ป่วยต่างมารับประทานอาหารกันที่นี่ทั้งนั้น
     

                    ณัฐตัดสินใจเลือกต่อคิวซื้ออาหารที่ร้านข้าวราดแกงร้านประจำ  แพรเลือกร้านข้าวมันไก่ที่อยู่ไม่ไกล และจัมโบ้ก็ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวอีกทางฝั่งหนึ่ง
     

                    เมื่อถึงคิว...เขาเอ่ยบอกเมนูที่เคยทานเป็นประจำทั้งสองอย่างไป  ไม่นานคุณป้าก็ยื่นจานอาหารมาให้  เขาหันกลับหลังแยกออกมาจากแถวเพื่อเดินมาเอาช้อนส้อม  แต่วินาทีต่อมากลับมีร่างๆหนึ่งที่มาจากไหนไม่รู้มาชนกระแทกไหล่เขาอย่างจัง !!!

     

                    จานข้าวร่วงลงสู่พื้น...เศษอาหารกระจายไปทั่วทุกทิศ !!!

     

                     ร่างเพรียวได้แต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาหันไปมองร่างๆนั้นทันที  ก็พบว่าเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งที่ในความคิดแรกเขานึกว่าฝ่ายนั้นจะรีบละล่ำละลักเอ่ยขอโทษขอโพย แล้วก็ตามด้วยหน้าที่ของเขาที่ต้องบอกว่าไม่เป็นไร  แต่แล้ว...กลับไม่ใช่ !!!...อย่างสิ้นเชิง

     
                     เพราะฝ่ายนั้นมีสีหน้าถมึงทึงราวกับโกรธใครมา  และมองมาที่เขาด้วยสายตา...รังเกียจเหยียดหยาม  จนเขาอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้

     
                    
    “ พอดีมองไม่เห็นน่ะ ”  เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วเดินไปทางอื่นทันที ปล่อยให้เขาได้แต่ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น

     
                     ที่เดินชนเมื่อกี้  ไม่ขอโทษก็ไม่ว่าหรอกนะ !!
     

                     แต่...ไอ้สายตาและท่าทางเมื่อกี้นี่ล่ะ !!!  มันหมายความว่ายังไง ???

     

                     แต่ระหว่างที่กำลังยืนอึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น...
     
                     “ คุณหมอ...คุณหมอ ”  เสียงคุณป้าร้านข้าวเอ่ยเรียกจากทางด้านหลัง  เขาค่อยๆหันตามเสียงนั้นอย่างงงงวย
     

                     “ ครับ ”

     
                     “ จานนั้นช่างมันเถอะ  เดี๋ยวป้าตักจานใหม่ให้ ”  คุณป้ายิ้มอย่างใจดี

     
                     “ ขอบคุณคุณป้ามากนะครับ ”  เขาตั้งสติและยิ้มบางกลับไปให้  ก่อนที่จะรับจานข้าวจานใหม่มาและเอ่ยขอบคุณอีกสองครั้ง จนคุณป้าหัวเราะ
     


                     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่  เขาเล่าให้เพื่อนสนิททั้งสองฟังทันที  แพรทำหน้านิ่วคิ้วขมวดฟังอย่างตั้งใจ  ส่วนไอ้จัมโบ้ก็ยังคงทำตัวตามสบายของมันไปตามปกติ

     
                     “ มึงไปทำอะไรให้ใครโกรธหรือเปล่า ? ”

     
                     “ ไม่เคยเว้ยย ”  เขารีบปฏิเสธ

     
                      “ แบบไม่รู้ตัวไง ”

     
                      “ อ้าว...ถ้าไม่รู้ตัว  แล้วกูจะรู้ได้ไงล่ะว่าเรื่องอะไร ? ”

     
                      “ แพรก็ว่ามันแปลกๆนะ  เพราะเท่าที่ฟังณัฐเล่า  เหมือนเค้า ‘ตั้งใจ’ มาชนเลยอ่ะ ”

     
                      “ อืมม...ณัฐก็พยายามจะคิดว่ามันคงเป็นอุบัติเหตุ แต่พอเห็นสายตาแบบนั้นแล้วณัฐก็รู้เลยว่ามัน...คงไม่ใช่ ”

     
                      “ แล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ ? ณัฐรู้จักมั้ย ? ”

     
                      “ ไม่อ่ะ !  รู้แต่ว่าเป็นรุ่นพี่  แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นปีสองหรือปีสาม  แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ปี  4,5,6 แน่นอน เพราะยังไม่ได้ใส่ชุดกาวน์น่ะ ”

     
                      “ อืมม ”  แพรทำหน้าคิ้วขมวด

     
                      “ แต่หน้าตาไม่ค่อยคุ้น  สงสัยเป็นพี่ปีสามมั้ง ”  เขาบอกไปตามที่คิด  เพราะว่าปีหนึ่งอย่างพวกเขาได้ร่วมงานกับปีสองบ่อยครั้งมากกว่า จึงอาจจะพอจำหน้ารุ่นพี่ได้บ้าง แต่นี่เขาไม่รู้สึกคุ้นเลยแฮะ

     
                      “ .................................. ”

     
                      หลังจากที่ฟังเขากับแพรพูดกันอยู่นาน  จัมโบ้จึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง...

     
                      “ กูว่านะ... ”


                      “ อาจจะเป็นกิ๊กพี่สน หรือไม่ก็เป็นคนที่แอบชอบพี่สนมากๆก็ได้ ฮ่ะ ๆ ๆ ”

     
                      มันพูดแค่นั้นแล้วก็ลุกขึ้นไปซื้อของหวานมากินเพิ่มทันที...ปล่อยให้เขากับแพรได้แต่มองหน้ากันอย่างงงๆ




    *****************************




                      หลังจากกินข้าวเที่ยงกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  แพร...หญิงสาวร่างเล็กก็ขอแยกตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ

     
                      “ เจอกันที่ห้องเรียนเลยละกันนะ  แพรขอเข้าห้องน้ำก่อน ”  เธอเอ่ยบอกเพื่อนสนิทก่อนที่จะรีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำหญิงที่อยู่ไม่ไกลทันที

     
                      ระหว่างที่กำลังทำธุระอยู่ภายในห้องน้ำห้องหนึ่งที่อยู่มุมสุดอย่างสบายใจ  เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายคนเดินเข้ามาในห้องน้ำ  นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย...ถ้าไม่ใช่เพราะเขาบังเอิญมาได้ยินบทสนทนาของคนเหล่านั้นน่ะสิ !!!

     

                      “ ............................ ”

     

                      “ ฉันว่านะ...ชัวร์ !!! ” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ

     

                      “ แต่ไม่เห็น ‘เหมือน’ เลย....ทั้งสองคน ” หญิงสาวคนที่สองเอ่ยบ้าง

     

                      “ ตอนแรกฉันก็คิดแบบแกแหละ ใครล่ะจะคิดว่า... ”  เสียงนั้นลดลงจนแทบจะกระซิบ
     
                      “ ...พี่สนจะ ‘เป็น’ น่ะ ”
     
                      “ แต่ณัฐนี่ก็ไม่แน่หรอก...หน้าตาน่ารักออกขนาดนั้น อาจจะ ‘เป็น’ ก็ได้ ”

     

                      “ แล้วแกรู้ได้ไง ? ” เสียงที่สามเอ่ยถาม

     

                      “ ก็ฉันอยู่หอพักเดียวกันกับพี่สนนี่นา  เห็นณัฐมาหาพี่สนที่หอบ่อยๆ  แล้วคู่นี้ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันประจำแหละ ”

     

                       “ เค้าอาจจะแค่สนิทกันเฉยๆก็ได้ม้างงง ? ”



                       “ แค่สนิทอะไรล่ะ ?  เวลาเห็นเดินไปด้วยกันหัวเราะคิกคักกระหนุงกระหนิงยังกะคนจู๋จี๋กันเลยแก  ไม่ใช่แค่แถวหอนะ  ออกไปข้างนอกยังเจอเลย  ไม่อย่างนั้น...คนอื่นๆจะ ‘ลือ’ เหมือนกันเหรอ ”

                       “ อีกอย่างอ่ะนะ...คู่นี้  ฉันสังเกตการณ์มานานแล้วย่ะ !! ”



                       “ อือ...ฉันก็เคยเห็นสองคนนี้ไปดูหนังด้วยกันตั้งนานแล้วเหมือนกัน  แล้วก็เห็นตอนไปกินข้าวครั้งนึง ”



                       “ เห็นมะ ??!!! ”



                       “ เฮ้อ...เสียดายอ่ะแก  ณัฐน่ารักมากเลย  ฉันชอบมองอยู่บ่อยๆ ”



                       “ อือ...ใช่  คนอะไรก็ไม่รู้  เหมือนมีแสงประกายวิ้งๆออกมาตลอดเวลา  ยิ้มทีแล้วจะละลายตาม  ”



                       “ มิน่าล่ะ...ถึงทำให้พี่สนเปลี่ยนใจไปเป็นเกย์ได้  ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”



                       “ แต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี  ว่าพี่สนจะ ‘เป็น’ นะ ”



                       “ ทำใจเถอะแก  เพราะฉันมั่นใจมาก ว่าสองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันชัวร์ !! ”

                       “ เฮ้อ...อิจฉาณัฐอ่ะ ”


                 
                       “ เฮ้อ...อิจฉาพี่สนด้วย ”
     
     


                       สิ้นประโยคนั้น ประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายก็เปิดผ่างออกทันที !!!

     
                       หญิงสาวร่างเล็กที่ได้ยินการสนทนาทุกคำพูด  ค่อยๆเดินออกมาด้วยใบหน้าที่สงบเยือกเย็นพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดนั้นไว้  ก่อนที่จะใช้หางตามองเพื่อนทั้งสามทีละคนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าอึ้งจนตาค้างกันเลยทีเดียว

     

                      “ เอ่อ...แพร ?? อยู่นี่ตั้งแต่ตอนไหนเหรอ ? ”  หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างลนลาน

     

                      “ ตั้งแต่..........แรก.........  ” เธอพูดช้าๆเน้นคำ

     

                      “ งะ  งั้นเหรอ ? ”

     

                      แพรพยายามไม่สนใจ รีบเดินออกมาจากห้องน้ำทันที !!
     
     
                      หญิงสาวพยายามระงับความรู้สึกว้าวุ่นใจเอาไว้
     
                   ...คนอื่นๆรู้เรื่องของณัฐกับพี่สนแล้วงั้นเหรอ ?... แต่ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก  เพราะเธอคิดว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงแน่นอน  แล้วตอนนี้เธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ ?
     
                      ควรจะบอกเรื่องนี้กับณัฐดีไหม ? เพราะถ้าบอกไป เธอมั่นใจว่าณัฐจะต้องคิดมากอย่างแน่นอน 


     

                      หญิงสาวร่างเล็ก เดินกลับเข้ามาในห้องเรียน  ก็เห็นเพื่อนสนิททั้งสองคนกำลังนั่งอยู่แถวด้านหลังที่เป็นที่ประจำของเรา
     

                      “ ณัฐ...?? ”  เธอเอ่ยเรียกเพื่อน แล้วนั่งลงด้านข้างทันที

     

                      “ หือ ?? ”

     

                      “ คือว่า... ”  เธอพยายามมองสบตา  ก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกไปว่า

     

                      “ แพรมีอะไรจะบอก... ”

     

                      เธอตัดสินใจแล้ว...ว่าควรจะบอกความจริงที่ได้ยินมาให้เจ้าตัวได้รู้  เพราะว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป  สิ่งที่เธอได้ยินมาเมื่อครู่ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้แล้วว่าไม่ใช่แค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่รู้ ‘เรื่องนี้’ ...แต่อาจหมายถึงคนจำนวนมากกว่านี้ก็เป็นได้ 

                      ยิ่งรู้เร็วเท่าไหร่...ยิ่งรับมือได้เร็วเท่านั้น !

     

                      “ อะไรเหรอ ? ”  ฝ่ายนั้นทำหน้าตั้งใจฟัง

     


                      “ คือ... ”

     

                      “ .................................. ”

     

                      
                      “ แพรคิดว่า......คนอื่นๆคงรู้เรื่องของณัฐกับพี่สนแล้วแหละ ” 




    *************************** 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×