ลำดับตอนที่ #98
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #98 : บทที่เก้าสิบ -- ใกล้...ชิด
บทที่เก้าสิบ
พอกลับมาถึงห้อง เขาก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายทันที เพราะว่าพึ่งเตะบอลเสร็จก็เลยรู้สึกเหนียวตัวมาก แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งที่โต๊ะหนังสือเตรียมตัวเขียนรายงานที่ค้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องรีบทำก่อน นั่นก็คือ...
ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกหา...รักที่สุด...
ได้ยินเสียงรอสายอยู่นานมาก ก็ไม่มีคนรับ จนสายถูกตัดไปเอง...
ณัฐไม่อยากรับโทรศัพท์เขาเหรอ ? รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ
ตัดสินใจลองโทรไปใหม่ เป็นครั้งที่สอง...รอนานเหมือนเดิม เพียงแต่ครั้งนี้...
“ ฮัลโหล ” ได้ยินเสียงหวานๆของณัฐแล้วก็รู้สึกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“ ณัฐ...เรื่องวันนี้พี่ขอโทษนะครับ ” เขารีบบอกออกไปทันที
“ ณัฐนึกว่าพี่สนจะไม่โทรมาซะแล้ว ” อีกฝ่ายเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา
“ ต้องโทรมาสิครับ พี่ขอโทษนะ ที่วันนี้พูดไม่ค่อยดีแล้วตัดสายไปก่อน ”
“ พี่สนไม่เคยตัดสายณัฐมาก่อนเลยนะ ทำไม ? ” เสียงปลายสายสั่นเครือมากยิ่งขึ้น จนเขาคิดว่าณัฐน่าจะกำลังร้องไห้อยู่ ยิ่งรู้สึกใจไม่ดีไปกันใหญ่ นี่เขาทำให้ณัฐร้องไห้เหรอเนี่ย ?
“ ณัฐพี่ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ จะไม่ทำอีกแล้ว พี่สัญญา อย่าโกรธพี่เลยนะ ”
“ ณัฐไม่โกรธพี่สนหรอก ณัฐแค่ไม่เข้าใจ แล้วก็รู้สึก...น้อยใจด้วย ที่พี่สนวางสายไปก่อน แล้วยังไม่โทรกลับมาอีก ”
“ พี่โทรกลับมาแล้วนะครับ โทรมาหาแล้ว แล้วตอนนี้ก็เป็นห่วงมากด้วย ถ้าอยู่ด้วยกันพี่จะกอดณัฐให้แน่นๆแล้วก็เช็ดน้ำตาให้ด้วย เสียใจจังที่ทำให้ณัฐร้องไห้อ่ะ ไม่ร้องนะครับคนดี...พี่ขอโทษนะ ”
“ แล้วทำไมพี่สนถึงวางสายไปก่อนล่ะ ? ” พอน้ำเสียงฝ่ายนั้นดีขึ้นแล้ว เขาจึงเริ่มเล่าต่อ
“ ก็พี่...แค่น้อยใจที่ณัฐบอกว่า ‘อยากเรียน’ ทั้งๆที่พี่ก็เป็นห่วงมาก พี่เป็นห่วงณัฐมากจริงๆนะครับ ถ้าเราอยู่ด้วยกันพี่จะยอมให้เรียนแล้วขับรถไปรับไปส่งเลยก็ได้ แต่ตอนนี้พี่ไม่ได้อยู่ดูแลณัฐใกล้ๆ พี่ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ณัฐเข้าใจพี่มั้ยครับ ? ”
“ ณัฐปฏิเสธไปแล้วล่ะ ” อีกฝ่ายบอกออกมาแทบจะในทันที
“ หา ?? ”
“ ใช่ ณัฐปฏิเสธไปแล้ว พรุ่งนี้จะไปเรียนเป็นวันสุดท้าย ”
“ จริงๆนะ ”
“ อื้มมม ”
เขาหลุดยิ้มออกมาทันที “ น่ารักจังเลย ขอบคุณมากนะครับที่เชื่อพี่ ”
“ ที่จริงแล้ว...ณัฐก็ไม่กล้าไปเรียนหรอก ก็คิดอยู่ว่าพี่สนคงไม่ให้เรียนเหมือนกัน แต่พี่สนก็ดันมาโกรธซะก่อนน่ะ ”
“ ป่าวโกรธนะ แค่น้อยใจเองอ่ะ ”
“ ก็นั่นแหละ ไม่ต้องเลย แล้วทำอะไรอยู่ตั้งนาน ไม่ยอมโทรกลับมาหาณัฐด้วย ? ”
“ ไปเตะบอลกับพวกไอ้กฤตที่หอแพทย์มา แล้วก็รอโทรศัพท์จากณัฐเหมือนกัน แต่ก็ไม่โทรมา ก็เลยโทรมาเองซะเลย ”
“ โทรมาง้อเค้าก่อนอ่ะดิ้ ๆ ”
เขาคิดว่าฝ่ายนั้นต้องกำลังยิ้มแบบน่ารักๆอยู่แน่ๆ “ อืมม ใครรักมากกว่าจะโทรก่อน ไม่รู้เหรอ ? ”
ได้ยินแต่เสียงหัวเราะคิกคักผ่านมาทางปลายสาย เขาคิดว่าณัฐคงอารมณ์ดีขึ้นแล้วแหละ
“ แล้วนี่ทำอะไรอยู่ครับ ? ”
“ ว่าจะอ่านนิยาย เมื่อวานไปหาซื้อหนังสือมาอ่านก็เลยได้นิยายมาเล่มหนึ่งอ่ะ ”
“ คงไม่ใช่นิยายเกย์วาบหวิว เหมือนที่แพรซื้อมาให้คราวที่แล้วหรอกนะ ”
“ จะบ้าเหรอ พี่สนอ่ะ ! นิยายแฟนตาซีธรรมดาเนี่ยแหละ ก็สนุกดีเหมือนกัน อยู่ว่างๆจะได้ไม่เบื่อ ”
“ แล้วเล่มปกแดงนั้นอ่านจบแล้วเหรอครับ ? ” เขาแอบถามเล่นๆ
“ ณัฐยังไม่ได้อ่านต่อเลยด้วยซ้ำ ”
“ จริงแน่เร้ออ ? ”
“ จริงสิ ”
“ อืม ถ้าอ่านจบแล้ว เอามาให้อ่านด้วยละกัน ”
“ อืมได้ ”
“ นั่น เห็นมั้ย ? ”
“ พี่สนอ่ะ ! ณัฐไม่ได้อ่านสักหน่อย ล้อเล่นหรอก ”
“ ฮ่ะ ๆ แล้วนี่กินข้าวยังครับ ”
“ กินแล้ว แล้วพี่สนล่ะ ? ”
“ กินมาแล้ว ” แถมมีคนเลี้ยงด้วย แต่คำนี้ต้องเก็บไว้ให้ณัฐรู้ไม่ได้ ไม่ได้อยากปิดบัง แค่คิดว่าไม่ได้สำคัญอะไรเท่านั้นเอง
“ ณัฐค้าบบบบ ? ”
“ อะไร ? ทำไมต้องทำเสียงอ้อนด้วย ”
“ เมื่อไหร่จะกลับมาหาสักที คิดถึงมากเลยรู้ป่าว ? อยากกอดอ่ะ ”
“ อื้ม ณัฐคิดไว้แล้วล่ะ ว่าจะกลับก่อนเปิดเทอมสักสองอาทิตย์ พี่สนคิดว่าไง ? ”
“ หือ ? จริงนะ ” ก่อนเปิดเทอมสักสองอาทิตย์ งั้นก็แปลว่าประมาณอาทิตย์หน้านี่เองน่ะสิ
“ อาทิตย์หน้าจริงนะ สัญญาแล้วนะ !! ” เขาพูดด้วยความดีใจ
“ อื้มมม ”
“ ดีใจจังจะได้เจอณัฐแล้ว อยากกอด อยากหอม อยากจูบ อยากปั่มปั๊มให้ชื่นใจ ”
“ พี่สนบ้า !! พอแล้ว ”
เขาคิดว่าฝ่ายนั้นต้องกำลังอมยิ้มพร้อมกับหน้าแดงแน่ๆ แค่คิดก็อยากเจอแล้วอ่ะ
“ ที่รัก รีบกลับมาหาพี่นะ คิดถึงจะแย่แล้ว ”
“ ค้าบบ จะไปนั่งกินนอนกินอย่างเดียวตลอดสองอาทิตย์เลย ณัฐหัดทำกับข้าวจากแม่ตั้งหลายอย่าง เดี๋ยวกลับไปจะทำให้กินนะ ”
“ แฟนใครเนี่ย ? น่ารักที่สุดเลย ” เขายิ้มกว้าง
“ แฟนใครก็ม่ายรู้ นึกไม่ออก ”
“ หือออ ? ว่าไงนะ ถ้าอยู่ด้วยกันจะกอดให้กระดูกหักเลยคอยดู ”
“ ใจร้ายอ่ะ ”
“ ร้ายแล้วรักมั้ยล่ะ ? ”
“ อื้มม รัก ”
เราคุยโทรศัพท์กันนานหลายชั่วโมงมากกว่าทุกครั้ง จนฝ่ายนั้นง่วงและหลับไปเอง เขาจึงกดปิดสาย แล้วมานั่งเขียนรายงานต่อ ค่ำคืนนี้ที่ยาวนานกับรายงานที่ต้องเขียนให้เสร็จทันพรุ่งนี้เช้า สำหรับเขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะรู้สึกมีกำลังใจอย่างแปลกประหลาด...เพราะอาทิตย์หน้า ณัฐก็จะกลับมาแล้ว
...อยากกอดให้ชื่นใจจังเลย...
**************************************
เขารีบตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว เตรียมอุปกรณ์วาดรูปใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย กินอาหารเช้าแล้วร่ำลาพ่อแม่ วันนี้พี่โจจะมารับไปเรียนด้วยกัน เขาคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะยังไง...วันนี้ก็เป็นวันสุดท้าย
เขายืนรอที่หน้าร้านดอกไม้ ไม่นานรถฝ่ายนั้นก็ขับมาถึง
“ รอนานมั้ยครับ ? พอดีรถติดน่ะ ” พี่โจเอ่ยถาม
“ ไม่ครับ ” เขาเข้ามานั่งในรถอย่างว่าง่าย
แล้วเราก็มาถึงที่เรียนอย่างปลอดภัย ชั่วโมงของการเรียนเป็นไปในแบบเดิม เพียงแต่ครูโจจะสอนละเอียดและเน้นย้ำมากขึ้น ดูท่าแล้วฝ่ายนั้นคงอยากจะสอนเขามากจริงๆนั่นแหละ เพราะชั่วโมงสุดท้ายก็พยายามสอนอัดให้เสียเหลือเกิน คิดแล้วก็เสียดายที่ต้องได้เลิกเรียนกลางคัน แต่ทำไงได้...ก็เขาไม่ได้อยากวาดรูปจริงจังขนาดนั้นนี่นา
เลิกเรียนครูโจชวนเขาไปนั่งเล่นร้านกาแฟ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่ไป แต่คิดไปคิดมาถึงยังไงก็ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ได้ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้ายก็คงไม่เสียหายอะไร
“ ผมเอานมช็อกโกแลตละกันครับ ” ปกติเขาเองก็ไม่ได้กินกาแฟสักเท่าไหร่ จึงไม่สันทัดเท่าใดนัก
ฝ่ายนั้นสั่งกาแฟรสเข้มหนึ่งแก้ว แล้วเราก็นั่งคุยกันต่อ ระหว่างนั้นเขาแอบสังเกตเห็นว่าคนรอบข้างชอบมองมาที่คนตรงหน้าเขาบ่อยๆ อืมม...ครูโจก็ค่อนข้างเด่นเหมือนกันแฮะ เพราะผู้หญิงทั้งในร้านและนอกร้านที่เดินผ่านไปมา ต่างมองเป็นสายตาเดียว ก็คงจะคล้ายๆกับพี่สนล่ะมั้ง เพียงแต่ว่า...ครูโจบุคลิกจะน่าเข้าหามากกว่าเพราะยิ้มเก่งเท่านั้นเอง
“ ณัฐไม่กินกาแฟเหรอ ? ”
“ ไม่อ่ะครับ ไม่ค่อยจะกินเท่าไหร่ ”
อีกฝ่ายยิ้ม มองหน้าเขา แล้วก็หันไปจิบกาแฟต่อ
“ พี่โจชอบยิ้มจังเลยนะครับ ” ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหรือเปล่า แต่ฝ่ายนั้นกลับหัวเราะออกมาเบาๆ
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ณัฐนี่น่ารักจังเลยนะ ”
อยู่ดีๆมาชมกันแบบนี้ เขินเหมือนกันนะเนี่ย
“ ก็พูดจริงๆนี่นา เห็นทีไรพี่โจยิ้มตลอดเลย เจอกันครั้งแรกก็ด้วย ”
“ หึหึ แต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก ”
พอได้ยินแบบนี้แล้วเขาหวนไปนึกถึงรูปภาพที่อีกฝ่ายเคยวาดเอาไว้ในห้องเรียน...รูปหญิงสาวที่แสนเศร้านั้น
“ เกี่ยวกับภาพนั้นหรือเปล่าครับ ? ”
พี่โจหันมาสบตาสักพัก ฝ่ายนั้นก็คงทราบว่าเขาหมายถึงภาพไหน เพราะเผยยิ้มบางออกมา
“ อืม ใช่ ”
เรื่องนี้เขาเองก็เคยสงสัย และครั้งนั้นพี่โจก็บอกว่าถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟัง...พี่เขายังจำได้หรือเปล่านะ ?
“ มีอะไรหรือเปล่าครับ ? ” เขาถามออกมาเพราะเห็นสีหน้าอีกฝ่ายไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ฝ่ายนั้นเผยยิ้มอบอุ่น “ พี่...คิดถึงแฟนน่ะ ”
เขาพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา รอฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
“ แฟนพี่โจต้องน่ารักมากแน่ๆเลย ใช่มั้ยครับ ? ”
“ ใช่...เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก ตัวเล็กๆ ผมยาวๆ หน้าตาคล้ายๆณัฐเนี่ยแหละ ” ฝ่ายนั้นยิ้มให้
“ อ้าว เหมือนผมได้ไง ผมเป็นผู้ชายนะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ก็เหมือนกันจริงๆนี่นา พี่เห็นครั้งแรก ยังแอบนึกถึงหน้าแฟนเลย ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนนะ นิสัยยังเหมือนกันเลย วาดรูปก็แนวคล้ายๆ
กันด้วย...ออกแนวมองโลกในแง่ดี ประมาณนั้นน่ะ ”
“ แล้ว...ตอนนี้เธออยู่ไหนเหรอครับ ? ”
ฝ่ายนั้นมองมาที่เขาด้วยสายตาอบอุ่น
“ อยู่บนสวรรค์ ”
เขาตกใจตาโต “ หา ?! ”
“ ใช่ เขาเสียแล้ว พึ่งเสียไปเมื่อสองปีก่อนเพราะอุบัติเหตุรถชน พี่เสียใจจนแทบบ้าเลยล่ะตอนนั้น ”
“ จริงเหรอครับ ? งั้น...พี่โจก็เลยวาดรูปนั้นออกมาเหรอ ? ”
“ ที่จริงพี่วาดหลายรูปมากเลยล่ะ นั่นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ” ฝ่ายนั้นยกกาแฟมาดื่ม แต่เขากลับรู้สึกเศร้าใจแทน
“ แล้วตอนนี้ พี่โจ...ทำใจได้ยังครับ ? ”
ฝ่ายนั้นหันหน้ามามอง
“ เอาตามตรงเลยนะ...ยัง ”
มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นสินะ พึ่งผ่านมาแค่สองปีเอง ถ้าคนที่เรารักมากต้องตายไป เป็นเขาก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน
“ เห้ย ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น พี่แค่อยากเล่าให้ณัฐฟังเฉยๆ ตามที่สัญญาไว้ไง ”
“ แต่ณัฐไม่นึกว่าเรื่องจะเศร้าขนาดนี้นี่ครับ พี่โจ...โอเคแน่นะ ? ”
“ ก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่ก็ยังคิดถึงเหมือนเดิม ”
“ ณัฐอาจจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็...สู้ๆนะครับ ” เขายกมือขึ้นมากำแน่น เพราะก็ไม่รู้จะปลอบใจยังไง นอกจากวิธีนี้ คิดแล้วก็ตลกตัวเองดีเหมือนกัน
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ขำหน้าณัฐชะมัดเลยอ่ะ ”
“ อะไรอ่ะ คนเขาอุตส่าห์อยากปลอบนะ ”
พี่โจเอื้อมมือมาลูบหัวเขาเบาๆ “ ขอบคุณมากละกัน ถ้าอยากช่วยจริงๆ...มาเป็นแฟนพี่มั้ยล่ะ ? ”
...เอ่อ....
“ หา !!! ”
เขาไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าอะไรออกไป เพราะฝ่ายนั้นหัวเราะใหญ่เลยน่ะสิ
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ล้อเล่นหรอกน่า ณัฐนี่ก็ตลกดีเหมือนกันนะ ”
“ พี่โจอ่ะ แกล้งผมแบบนี้ได้ไง ตกใจหมดเลย ”
“ แล้วได้มั้ยล่ะ ? ” ฝ่ายนั้นมองสบตาแล้วถามย้ำอีกครั้ง เหมือนกับว่าครั้งนี้ไม่ได้ล้อเล่นอย่างนั้นแหละ
เขานิ่งสักพัก “ เอาตามตรงนะครับ...ถ้าผมไม่มีแฟน ผมอาจจะชอบพี่โจจริงๆก็ได้ แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว...น่ะ ”
“ ว้า...เสียดายจัง ”
“ ครับ เสียดายแทนพี่โจจริงๆ ” เขาตอบอมยิ้มพูดติดตลก
“ ขอบคุณนะ ”
“ ขอบคุณอะไรครับ ? ” เขางง
“ ก็...ที่ได้มารู้จักกันไง ”
“ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักพี่โจเหมือนกัน ”
“ ต่อไปนี้ก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรอยากปรึกษาเรื่องวาดรูปก็โทรมาหาได้ทุกเมื่อนะ หรือเรื่องอื่นก็ได้พี่ยินดี แต่ถ้าสนใจอยากมาเรียนต่อ...อืม...ไม่รู้ว่าปีหน้าพี่จะอยู่หรือเปล่า ? ”
“ อ้าว ทำไมเหรอครับ ? ”
“ ก็...ว่าจะไปเรียนต่อที่...อิตาลีน่ะ ”
“ เหรอครับ ? ดีจังเลย ”
“ อื้มม เป็นความฝันของพี่เลยแหละ ”
“ งั้นก็ ขอให้พี่โจโชคดีนะครับ ในทุกๆเรื่องเลยละกัน ”
เราคุยกันต่อไม่นาน พี่โจก็อาสามาส่งที่บ้าน พอได้คุยกับพี่โจในวันนี้แล้วก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เรื่องในอดีตที่ฝ่ายนั้นเล่าให้ฟังคิดดูแล้วก็เศร้าเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่เห็นพี่โจสามารถเข้มแข็งและยืนหยัดมาได้ เขาไม่รู้ว่าเขากับแฟนเก่าของพี่โจเหมือนกันจริงหรือเปล่า ? แต่อย่างน้อยก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกดีๆที่ฝ่ายนั้นมีให้ผ่านทางสายตา คำพูด และการกระทำทุกอย่าง
ที่เขาพูดออกไปยังคงยืนยันว่าคิดอย่างนั้นจริงๆ...ถ้าเขายังไม่ได้เจอพี่สน เขาอาจจะรักผู้ชายคนนี้ได้ก็เป็นได้...
เพียงแต่ว่า...ตอนนี้เขารักกับพี่สนไปแล้วน่ะสิ
คงรักใครไม่ได้อีกแล้วล่ะ
*******************************
...หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...
เขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันจันทร์ที่อากาศแสนสดใส สูดอากาศเข้าเต็มปอดแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างอารมณ์ดีทันที เพราะวันนี้เป็นวันที่เขาจะเดินทางกลับมหาลัยแล้ว
เคยบอกพ่อกับแม่ว่าอยากกลับเร็วสักหน่อยเพื่อจะได้เตรียมตัวสำหรับการเรียนปีสอง รวมถึงไปหาเพื่อนๆด้วย ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเขาเองก็เบื่ออยู่ที่บ้านมานานเป็นเดือนแล้ว
“ ณัฐ เก็บของเสร็จหรือยังลูก ? ” แม่มาเคาะประตูถาม
“ เก็บเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ”
แม่เดินเข้ามากอดมาหอมแก้มเขาเสียฟอดใหญ่
“ ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ตั้งใจเรียนนะลูก ดูแลตัวเองดีๆด้วย พ่อกับแม่เป็นห่วงณัฐมากนะ ”
เขากอดแม่กลับคืนให้ชื่นใจ “ ณัฐรักแม่มากนะ เรื่องตั้งใจเรียนน่ะไม่ต้องเป็นห่วง เต็มที่อยู่แล้ว ฮ่ะๆ ”
แม่ยิ้มหวาน “ จ้ะ งั้นลงไปหาพ่อข้างล่างกันเถอะนะ ”
เขาถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่ แล้วลงมาร่ำลาพ่อเหมือนอย่างที่ทำกับแม่ รู้สึกอบอุ่นซาบซึ้งกันอยู่พักใหญ่ก็พร้อมแล้วสำหรับพลังใจในการที่จะไปเรียนต่อ
พ่อและแม่ขับรถมาส่งเขาที่สถานีขนส่งด้วยกันทั้งคู่ กอดร่ำลากันอีกครั้ง ก็พร้อมเดินทางขึ้นรถทัวร์ ครั้งนี้เลือกรถเที่ยวกลางวันประมาณสิบโมง เพราะจะได้ถึงมหาลัยตอนสี่โมงเย็นพอดีกับที่พี่สนเลิกเรียน ฝ่ายนั้นจะได้มารับได้ อันนี้พี่สนเป็นคนวางแผนให้และเขาเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
ตอนเที่ยงรุ่นพี่โทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว ฝ่ายนั้นคงร้อนใจอยู่เหมือนกัน ส่วนเขาเองก็คิดถึงพี่สนมากๆ ไม่ได้เจอกันเกือบสองเดือนจะเป็นไงบ้างน้า ? คงใกล้เป็นคุณหมอเต็มตัวแล้วสิเนอะ เพราะใส่เสื้อกาวน์ด้วยนี่นา...ต้องเท่มากแน่ๆ คิดเองก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว จนคนที่นั่งด้านข้างหันมามอง เขาจึงต้องเก็บอาการสักหน่อย
กึ่งหลับกึ่งตื่นมาตลอดทาง จนถึงที่หมาย ก็รีบโทรหาพี่สนทันทีว่ามาถึงแล้ว ฝ่ายนั้นบอกว่าทำงานใกล้เสร็จแล้ว จะรีบออกมารับทันที เขาก็นั่งรอไปเรื่อยๆ
ไม่นาน...รถ BMW สีขาวคันคุ้นตาก็มาจอดเทียบท่า เขารีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ ฝ่ายนั้นเปิดประตูลงจากรถมาทันที พี่สนยังใส่เสื้อกาวน์อยู่เลย พอเห็นว่าเป็นรุ่นพี่เขาก็ยิ้มกว้างจนหุบไม่ได้ รุ่นพี่โผเข้ามากอดเขาด้วยความดีใจทันที
“ คิดถึงณัฐจังเลย ” ฝ่ายนั้นบอกทั้งที่ยังกอดกันแนบแน่น และเขาก็กอดกลับคืน
“ ณัฐก็คิดถึงพี่สนเหมือนกัน ”
รุ่นพี่ผละกอด แล้วเอามือมาประคองใบหน้าเขาเอาไว้ เรามองสบตากันอยู่อย่างนั้น อยากกอดให้แน่นๆนานๆให้ชื่นใจ แต่ตอนนี้คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่
“ พี่สน เราขึ้นรถกันเถอะ คนอื่นมองกันหมดแล้ว ”
“ อื้มม งั้นกลับห้องของเราดีกว่าเนอะ ”
ระหว่างทางฝ่ายนั้นก็นั่งกุมมือเขาเอาไว้ตลอด บ้างก็ดึงไปหอม บ้างก็ดึงไปวางไว้บนตักตัวเอง เห็นรอยยิ้มพี่สนแบบนี้แล้วคิดถึงมากๆเลย
“ พี่สนดูแปลกไปนิดหน่อยนะเนี่ย ” เขาบอกพลางอมยิ้ม
“ แปลกไปยังไง ? ” พูดแล้วก็ดึงมือเขาไปหอมอีกแน่ะ
“ ก็ดู ผมสั้นขึ้น แล้วก็...เหมือนเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ”
หรืออาจจะเป็นเพราะใส่เสื้อกาวน์ด้วยล่ะมั้ง เลยทำให้เขามองแบบนี้ แต่พี่สนก็ผมสั้นขึ้นจริงๆ สงสัยพึ่งไปตัดผมมา
“ เหรอ ? แล้วชอบลุคนี้มั้ยล่ะ ”
“ อื้มม ก็ชอบมั้ง ”
“ ณัฐก็เปลี่ยนไปเหมือนกันนะ ”
“ เปลี่ยนไปไงอ่ะ ? ”
“ น่ารักขึ้น ตัวขาวขึ้น ผมยาวมากขึ้น น่าหลงใหลมากขึ้น...น่าจับกดมากขึ้นกว่าเดิมอีก ”
“ พอแล้ว ทำไมเยอะจัง ? แล้วอันหลังนี่หมายความว่าไงอ่ะ ทะลึ่งแล้ว ! ” เขาบอกพลางหน้าแดงหลบสายตา
“ ก็จริงๆนี่นา แสดงว่าไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยล่ะสิ ? ขาวอยู่แล้วก็ยิ่งขาวไปกันใหญ่เลยเนี่ย ”
“ ก็ไม่ค่อยอ่ะ มีแต่อยู่บ้าน กับออกไปร้าน เสาร์อาทิตย์ก็ออกไปเรียนวาดรูป ก็แค่นั้นแหละ ”
ขับรถไม่นานก็มาถึงหอพักสักที ฝ่ายนั้นช่วยถือกระเป๋าทุกอย่างให้ แล้วเราก็ขึ้นห้องพัก พอเข้ามาด้านในหลังจากที่ปิดประตูและวางของเรียบร้อยแล้ว รุ่นพี่ก็เข้ามากอดเขาทางด้านหน้าทันที
“ คิดถึงมากที่สุดเลยรู้ไหมครับ ที่รัก ? ”
อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นที่เขาเฝ้ารอมานาน เขากอดกระชับอีกฝ่ายไว้ให้แน่นๆเช่นกัน
“ อื้มม ณัฐก็... ”
ยังพูดไม่ทันจบ ฝ่ายนั้นก็เข้ามาประคองใบหน้า แล้วประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มลงมาทันที เขาหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่แสนอ่อนโยนด้วยความโหยหาและคิดถึงเช่นกัน จูบที่แสนหวานและดูดดื่มในที เขาอ้าปากรับลิ้นอุ่นนุ่มของฝ่ายนั้นที่พยายามชอนไชไปจนทั่วโพรงปากด้วยความหิวกระหาย ลิ้นเราทั้งคู่ต่างกระหวัดเกี่ยวพันกันด้วยความต้องการสลับกับจูบกันอย่างดูดดื่ม จนเขาต้องกอดคออีกฝ่ายไว้แน่น
“ อืออ...อืมมม ”
ไม่รู้ว่ายืนจูบกันนานเท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เมื่อยคอเมื่อยลิ้นไปหมด เขาจึงผละริมฝีปากออกก่อนพลางหายใจหอบ
“ บ้า !! ” เขาตีแขนฝ่ายนั้นทันที พลางเช็ดปากเบาๆ “ ไม่ปล่อยให้หายใจหายคอกันเลยเหรอ ? ”
“ ก็คนมันคิดถึงมากนี่นา ”
“ รู้แล้วว่าคิดถึง ” รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว เขาต้องกำลังหน้าแดงอยู่แน่ๆเลย
“ แล้วณัฐก็น่ารักขึ้นมากด้วย ” ฝ่ายนั้นใช้มือเกลี่ยแก้มเขาเบาๆ พลางเสยผมทางด้านหลัง
“ ผมยาวมากเลย ตอนนี้อย่าพึ่งตัดนะ เดี๋ยวพอใกล้เปิดเทอมพี่จะพาไปตัดเอง ”
“ ครับ ” เขายิ้มกว้าง แต่ก็หารู้ไม่ว่า...
“ ณัฐ...ยิ้มแบบนี้มันทำให้พี่ใจละลายรู้มั้ย ? ”
“ อ้าว ?...อ๊ะ ” แล้วเขาก็โดนกระหน่ำจูบอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่นั้น เพราะฝ่ายนั้นเล่นใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายเขาด้วยเนี่ยสิ
“ พี่สน ? อ๊ะ...อะไรเนี่ย ? ”
เขาถามพลางพ่นลมหายใจหนัก เพราะลูบไล้ด้วยปลายนิ้วที่ยอดอกทั้งสองข้าง จนรู้สึกวาบหวาม ไม่รู้ทำไมครั้งนี้ถึงรู้สึกว่าถูกกระตุ้นได้ง่ายกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานล่ะมั้ง ทั้งจูบทั้งถูกสัมผัสจนร่างกายอ่อนระทวยแทบจะยืนไม่ไหว จนฝ่ายนั้นต้องเข้ามาประคองแล้วอุ้มเขาไว้ในอ้อมกอด และ...เดินมุ่งตรงไปยังห้องนอนทันที
พี่สนวางร่างเขาลงบนเตียงอย่างเบามือ สายตามองมาอย่างโหยหา มือลูบไล้ตามใบหน้า แล้วค่อยๆประทับจูบลงบนหน้าผาก เปลือกตา แก้มทั้งสองข้าง แล้วจุมพิตเบาๆอย่างอ่อนโยน
********************************
พอกลับมาถึงห้อง เขาก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายทันที เพราะว่าพึ่งเตะบอลเสร็จก็เลยรู้สึกเหนียวตัวมาก แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งที่โต๊ะหนังสือเตรียมตัวเขียนรายงานที่ค้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องรีบทำก่อน นั่นก็คือ...
ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกหา...รักที่สุด...
ได้ยินเสียงรอสายอยู่นานมาก ก็ไม่มีคนรับ จนสายถูกตัดไปเอง...
ณัฐไม่อยากรับโทรศัพท์เขาเหรอ ? รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ
ตัดสินใจลองโทรไปใหม่ เป็นครั้งที่สอง...รอนานเหมือนเดิม เพียงแต่ครั้งนี้...
“ ฮัลโหล ” ได้ยินเสียงหวานๆของณัฐแล้วก็รู้สึกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“ ณัฐ...เรื่องวันนี้พี่ขอโทษนะครับ ” เขารีบบอกออกไปทันที
“ ณัฐนึกว่าพี่สนจะไม่โทรมาซะแล้ว ” อีกฝ่ายเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา
“ ต้องโทรมาสิครับ พี่ขอโทษนะ ที่วันนี้พูดไม่ค่อยดีแล้วตัดสายไปก่อน ”
“ พี่สนไม่เคยตัดสายณัฐมาก่อนเลยนะ ทำไม ? ” เสียงปลายสายสั่นเครือมากยิ่งขึ้น จนเขาคิดว่าณัฐน่าจะกำลังร้องไห้อยู่ ยิ่งรู้สึกใจไม่ดีไปกันใหญ่ นี่เขาทำให้ณัฐร้องไห้เหรอเนี่ย ?
“ ณัฐพี่ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ จะไม่ทำอีกแล้ว พี่สัญญา อย่าโกรธพี่เลยนะ ”
“ ณัฐไม่โกรธพี่สนหรอก ณัฐแค่ไม่เข้าใจ แล้วก็รู้สึก...น้อยใจด้วย ที่พี่สนวางสายไปก่อน แล้วยังไม่โทรกลับมาอีก ”
“ พี่โทรกลับมาแล้วนะครับ โทรมาหาแล้ว แล้วตอนนี้ก็เป็นห่วงมากด้วย ถ้าอยู่ด้วยกันพี่จะกอดณัฐให้แน่นๆแล้วก็เช็ดน้ำตาให้ด้วย เสียใจจังที่ทำให้ณัฐร้องไห้อ่ะ ไม่ร้องนะครับคนดี...พี่ขอโทษนะ ”
“ แล้วทำไมพี่สนถึงวางสายไปก่อนล่ะ ? ” พอน้ำเสียงฝ่ายนั้นดีขึ้นแล้ว เขาจึงเริ่มเล่าต่อ
“ ก็พี่...แค่น้อยใจที่ณัฐบอกว่า ‘อยากเรียน’ ทั้งๆที่พี่ก็เป็นห่วงมาก พี่เป็นห่วงณัฐมากจริงๆนะครับ ถ้าเราอยู่ด้วยกันพี่จะยอมให้เรียนแล้วขับรถไปรับไปส่งเลยก็ได้ แต่ตอนนี้พี่ไม่ได้อยู่ดูแลณัฐใกล้ๆ พี่ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ณัฐเข้าใจพี่มั้ยครับ ? ”
“ ณัฐปฏิเสธไปแล้วล่ะ ” อีกฝ่ายบอกออกมาแทบจะในทันที
“ หา ?? ”
“ ใช่ ณัฐปฏิเสธไปแล้ว พรุ่งนี้จะไปเรียนเป็นวันสุดท้าย ”
“ จริงๆนะ ”
“ อื้มมม ”
เขาหลุดยิ้มออกมาทันที “ น่ารักจังเลย ขอบคุณมากนะครับที่เชื่อพี่ ”
“ ที่จริงแล้ว...ณัฐก็ไม่กล้าไปเรียนหรอก ก็คิดอยู่ว่าพี่สนคงไม่ให้เรียนเหมือนกัน แต่พี่สนก็ดันมาโกรธซะก่อนน่ะ ”
“ ป่าวโกรธนะ แค่น้อยใจเองอ่ะ ”
“ ก็นั่นแหละ ไม่ต้องเลย แล้วทำอะไรอยู่ตั้งนาน ไม่ยอมโทรกลับมาหาณัฐด้วย ? ”
“ ไปเตะบอลกับพวกไอ้กฤตที่หอแพทย์มา แล้วก็รอโทรศัพท์จากณัฐเหมือนกัน แต่ก็ไม่โทรมา ก็เลยโทรมาเองซะเลย ”
“ โทรมาง้อเค้าก่อนอ่ะดิ้ ๆ ”
เขาคิดว่าฝ่ายนั้นต้องกำลังยิ้มแบบน่ารักๆอยู่แน่ๆ “ อืมม ใครรักมากกว่าจะโทรก่อน ไม่รู้เหรอ ? ”
ได้ยินแต่เสียงหัวเราะคิกคักผ่านมาทางปลายสาย เขาคิดว่าณัฐคงอารมณ์ดีขึ้นแล้วแหละ
“ แล้วนี่ทำอะไรอยู่ครับ ? ”
“ ว่าจะอ่านนิยาย เมื่อวานไปหาซื้อหนังสือมาอ่านก็เลยได้นิยายมาเล่มหนึ่งอ่ะ ”
“ คงไม่ใช่นิยายเกย์วาบหวิว เหมือนที่แพรซื้อมาให้คราวที่แล้วหรอกนะ ”
“ จะบ้าเหรอ พี่สนอ่ะ ! นิยายแฟนตาซีธรรมดาเนี่ยแหละ ก็สนุกดีเหมือนกัน อยู่ว่างๆจะได้ไม่เบื่อ ”
“ แล้วเล่มปกแดงนั้นอ่านจบแล้วเหรอครับ ? ” เขาแอบถามเล่นๆ
“ ณัฐยังไม่ได้อ่านต่อเลยด้วยซ้ำ ”
“ จริงแน่เร้ออ ? ”
“ จริงสิ ”
“ อืม ถ้าอ่านจบแล้ว เอามาให้อ่านด้วยละกัน ”
“ อืมได้ ”
“ นั่น เห็นมั้ย ? ”
“ พี่สนอ่ะ ! ณัฐไม่ได้อ่านสักหน่อย ล้อเล่นหรอก ”
“ ฮ่ะ ๆ แล้วนี่กินข้าวยังครับ ”
“ กินแล้ว แล้วพี่สนล่ะ ? ”
“ กินมาแล้ว ” แถมมีคนเลี้ยงด้วย แต่คำนี้ต้องเก็บไว้ให้ณัฐรู้ไม่ได้ ไม่ได้อยากปิดบัง แค่คิดว่าไม่ได้สำคัญอะไรเท่านั้นเอง
“ ณัฐค้าบบบบ ? ”
“ อะไร ? ทำไมต้องทำเสียงอ้อนด้วย ”
“ เมื่อไหร่จะกลับมาหาสักที คิดถึงมากเลยรู้ป่าว ? อยากกอดอ่ะ ”
“ อื้ม ณัฐคิดไว้แล้วล่ะ ว่าจะกลับก่อนเปิดเทอมสักสองอาทิตย์ พี่สนคิดว่าไง ? ”
“ หือ ? จริงนะ ” ก่อนเปิดเทอมสักสองอาทิตย์ งั้นก็แปลว่าประมาณอาทิตย์หน้านี่เองน่ะสิ
“ อาทิตย์หน้าจริงนะ สัญญาแล้วนะ !! ” เขาพูดด้วยความดีใจ
“ อื้มมม ”
“ ดีใจจังจะได้เจอณัฐแล้ว อยากกอด อยากหอม อยากจูบ อยากปั่มปั๊มให้ชื่นใจ ”
“ พี่สนบ้า !! พอแล้ว ”
เขาคิดว่าฝ่ายนั้นต้องกำลังอมยิ้มพร้อมกับหน้าแดงแน่ๆ แค่คิดก็อยากเจอแล้วอ่ะ
“ ที่รัก รีบกลับมาหาพี่นะ คิดถึงจะแย่แล้ว ”
“ ค้าบบ จะไปนั่งกินนอนกินอย่างเดียวตลอดสองอาทิตย์เลย ณัฐหัดทำกับข้าวจากแม่ตั้งหลายอย่าง เดี๋ยวกลับไปจะทำให้กินนะ ”
“ แฟนใครเนี่ย ? น่ารักที่สุดเลย ” เขายิ้มกว้าง
“ แฟนใครก็ม่ายรู้ นึกไม่ออก ”
“ หือออ ? ว่าไงนะ ถ้าอยู่ด้วยกันจะกอดให้กระดูกหักเลยคอยดู ”
“ ใจร้ายอ่ะ ”
“ ร้ายแล้วรักมั้ยล่ะ ? ”
“ อื้มม รัก ”
เราคุยโทรศัพท์กันนานหลายชั่วโมงมากกว่าทุกครั้ง จนฝ่ายนั้นง่วงและหลับไปเอง เขาจึงกดปิดสาย แล้วมานั่งเขียนรายงานต่อ ค่ำคืนนี้ที่ยาวนานกับรายงานที่ต้องเขียนให้เสร็จทันพรุ่งนี้เช้า สำหรับเขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะรู้สึกมีกำลังใจอย่างแปลกประหลาด...เพราะอาทิตย์หน้า ณัฐก็จะกลับมาแล้ว
...อยากกอดให้ชื่นใจจังเลย...
**************************************
เขารีบตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว เตรียมอุปกรณ์วาดรูปใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย กินอาหารเช้าแล้วร่ำลาพ่อแม่ วันนี้พี่โจจะมารับไปเรียนด้วยกัน เขาคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะยังไง...วันนี้ก็เป็นวันสุดท้าย
เขายืนรอที่หน้าร้านดอกไม้ ไม่นานรถฝ่ายนั้นก็ขับมาถึง
“ รอนานมั้ยครับ ? พอดีรถติดน่ะ ” พี่โจเอ่ยถาม
“ ไม่ครับ ” เขาเข้ามานั่งในรถอย่างว่าง่าย
แล้วเราก็มาถึงที่เรียนอย่างปลอดภัย ชั่วโมงของการเรียนเป็นไปในแบบเดิม เพียงแต่ครูโจจะสอนละเอียดและเน้นย้ำมากขึ้น ดูท่าแล้วฝ่ายนั้นคงอยากจะสอนเขามากจริงๆนั่นแหละ เพราะชั่วโมงสุดท้ายก็พยายามสอนอัดให้เสียเหลือเกิน คิดแล้วก็เสียดายที่ต้องได้เลิกเรียนกลางคัน แต่ทำไงได้...ก็เขาไม่ได้อยากวาดรูปจริงจังขนาดนั้นนี่นา
เลิกเรียนครูโจชวนเขาไปนั่งเล่นร้านกาแฟ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่ไป แต่คิดไปคิดมาถึงยังไงก็ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ได้ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้ายก็คงไม่เสียหายอะไร
“ ผมเอานมช็อกโกแลตละกันครับ ” ปกติเขาเองก็ไม่ได้กินกาแฟสักเท่าไหร่ จึงไม่สันทัดเท่าใดนัก
ฝ่ายนั้นสั่งกาแฟรสเข้มหนึ่งแก้ว แล้วเราก็นั่งคุยกันต่อ ระหว่างนั้นเขาแอบสังเกตเห็นว่าคนรอบข้างชอบมองมาที่คนตรงหน้าเขาบ่อยๆ อืมม...ครูโจก็ค่อนข้างเด่นเหมือนกันแฮะ เพราะผู้หญิงทั้งในร้านและนอกร้านที่เดินผ่านไปมา ต่างมองเป็นสายตาเดียว ก็คงจะคล้ายๆกับพี่สนล่ะมั้ง เพียงแต่ว่า...ครูโจบุคลิกจะน่าเข้าหามากกว่าเพราะยิ้มเก่งเท่านั้นเอง
“ ณัฐไม่กินกาแฟเหรอ ? ”
“ ไม่อ่ะครับ ไม่ค่อยจะกินเท่าไหร่ ”
อีกฝ่ายยิ้ม มองหน้าเขา แล้วก็หันไปจิบกาแฟต่อ
“ พี่โจชอบยิ้มจังเลยนะครับ ” ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหรือเปล่า แต่ฝ่ายนั้นกลับหัวเราะออกมาเบาๆ
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ณัฐนี่น่ารักจังเลยนะ ”
อยู่ดีๆมาชมกันแบบนี้ เขินเหมือนกันนะเนี่ย
“ ก็พูดจริงๆนี่นา เห็นทีไรพี่โจยิ้มตลอดเลย เจอกันครั้งแรกก็ด้วย ”
“ หึหึ แต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก ”
พอได้ยินแบบนี้แล้วเขาหวนไปนึกถึงรูปภาพที่อีกฝ่ายเคยวาดเอาไว้ในห้องเรียน...รูปหญิงสาวที่แสนเศร้านั้น
“ เกี่ยวกับภาพนั้นหรือเปล่าครับ ? ”
พี่โจหันมาสบตาสักพัก ฝ่ายนั้นก็คงทราบว่าเขาหมายถึงภาพไหน เพราะเผยยิ้มบางออกมา
“ อืม ใช่ ”
เรื่องนี้เขาเองก็เคยสงสัย และครั้งนั้นพี่โจก็บอกว่าถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟัง...พี่เขายังจำได้หรือเปล่านะ ?
“ มีอะไรหรือเปล่าครับ ? ” เขาถามออกมาเพราะเห็นสีหน้าอีกฝ่ายไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ฝ่ายนั้นเผยยิ้มอบอุ่น “ พี่...คิดถึงแฟนน่ะ ”
เขาพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา รอฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
“ แฟนพี่โจต้องน่ารักมากแน่ๆเลย ใช่มั้ยครับ ? ”
“ ใช่...เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก ตัวเล็กๆ ผมยาวๆ หน้าตาคล้ายๆณัฐเนี่ยแหละ ” ฝ่ายนั้นยิ้มให้
“ อ้าว เหมือนผมได้ไง ผมเป็นผู้ชายนะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ก็เหมือนกันจริงๆนี่นา พี่เห็นครั้งแรก ยังแอบนึกถึงหน้าแฟนเลย ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนนะ นิสัยยังเหมือนกันเลย วาดรูปก็แนวคล้ายๆ
กันด้วย...ออกแนวมองโลกในแง่ดี ประมาณนั้นน่ะ ”
“ แล้ว...ตอนนี้เธออยู่ไหนเหรอครับ ? ”
ฝ่ายนั้นมองมาที่เขาด้วยสายตาอบอุ่น
“ อยู่บนสวรรค์ ”
เขาตกใจตาโต “ หา ?! ”
“ ใช่ เขาเสียแล้ว พึ่งเสียไปเมื่อสองปีก่อนเพราะอุบัติเหตุรถชน พี่เสียใจจนแทบบ้าเลยล่ะตอนนั้น ”
“ จริงเหรอครับ ? งั้น...พี่โจก็เลยวาดรูปนั้นออกมาเหรอ ? ”
“ ที่จริงพี่วาดหลายรูปมากเลยล่ะ นั่นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ” ฝ่ายนั้นยกกาแฟมาดื่ม แต่เขากลับรู้สึกเศร้าใจแทน
“ แล้วตอนนี้ พี่โจ...ทำใจได้ยังครับ ? ”
ฝ่ายนั้นหันหน้ามามอง
“ เอาตามตรงเลยนะ...ยัง ”
มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นสินะ พึ่งผ่านมาแค่สองปีเอง ถ้าคนที่เรารักมากต้องตายไป เป็นเขาก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน
“ เห้ย ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น พี่แค่อยากเล่าให้ณัฐฟังเฉยๆ ตามที่สัญญาไว้ไง ”
“ แต่ณัฐไม่นึกว่าเรื่องจะเศร้าขนาดนี้นี่ครับ พี่โจ...โอเคแน่นะ ? ”
“ ก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่ก็ยังคิดถึงเหมือนเดิม ”
“ ณัฐอาจจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็...สู้ๆนะครับ ” เขายกมือขึ้นมากำแน่น เพราะก็ไม่รู้จะปลอบใจยังไง นอกจากวิธีนี้ คิดแล้วก็ตลกตัวเองดีเหมือนกัน
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ขำหน้าณัฐชะมัดเลยอ่ะ ”
“ อะไรอ่ะ คนเขาอุตส่าห์อยากปลอบนะ ”
พี่โจเอื้อมมือมาลูบหัวเขาเบาๆ “ ขอบคุณมากละกัน ถ้าอยากช่วยจริงๆ...มาเป็นแฟนพี่มั้ยล่ะ ? ”
...เอ่อ....
“ หา !!! ”
เขาไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าอะไรออกไป เพราะฝ่ายนั้นหัวเราะใหญ่เลยน่ะสิ
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ล้อเล่นหรอกน่า ณัฐนี่ก็ตลกดีเหมือนกันนะ ”
“ พี่โจอ่ะ แกล้งผมแบบนี้ได้ไง ตกใจหมดเลย ”
“ แล้วได้มั้ยล่ะ ? ” ฝ่ายนั้นมองสบตาแล้วถามย้ำอีกครั้ง เหมือนกับว่าครั้งนี้ไม่ได้ล้อเล่นอย่างนั้นแหละ
เขานิ่งสักพัก “ เอาตามตรงนะครับ...ถ้าผมไม่มีแฟน ผมอาจจะชอบพี่โจจริงๆก็ได้ แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว...น่ะ ”
“ ว้า...เสียดายจัง ”
“ ครับ เสียดายแทนพี่โจจริงๆ ” เขาตอบอมยิ้มพูดติดตลก
“ ขอบคุณนะ ”
“ ขอบคุณอะไรครับ ? ” เขางง
“ ก็...ที่ได้มารู้จักกันไง ”
“ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักพี่โจเหมือนกัน ”
“ ต่อไปนี้ก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรอยากปรึกษาเรื่องวาดรูปก็โทรมาหาได้ทุกเมื่อนะ หรือเรื่องอื่นก็ได้พี่ยินดี แต่ถ้าสนใจอยากมาเรียนต่อ...อืม...ไม่รู้ว่าปีหน้าพี่จะอยู่หรือเปล่า ? ”
“ อ้าว ทำไมเหรอครับ ? ”
“ ก็...ว่าจะไปเรียนต่อที่...อิตาลีน่ะ ”
“ เหรอครับ ? ดีจังเลย ”
“ อื้มม เป็นความฝันของพี่เลยแหละ ”
“ งั้นก็ ขอให้พี่โจโชคดีนะครับ ในทุกๆเรื่องเลยละกัน ”
เราคุยกันต่อไม่นาน พี่โจก็อาสามาส่งที่บ้าน พอได้คุยกับพี่โจในวันนี้แล้วก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เรื่องในอดีตที่ฝ่ายนั้นเล่าให้ฟังคิดดูแล้วก็เศร้าเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่เห็นพี่โจสามารถเข้มแข็งและยืนหยัดมาได้ เขาไม่รู้ว่าเขากับแฟนเก่าของพี่โจเหมือนกันจริงหรือเปล่า ? แต่อย่างน้อยก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกดีๆที่ฝ่ายนั้นมีให้ผ่านทางสายตา คำพูด และการกระทำทุกอย่าง
ที่เขาพูดออกไปยังคงยืนยันว่าคิดอย่างนั้นจริงๆ...ถ้าเขายังไม่ได้เจอพี่สน เขาอาจจะรักผู้ชายคนนี้ได้ก็เป็นได้...
เพียงแต่ว่า...ตอนนี้เขารักกับพี่สนไปแล้วน่ะสิ
คงรักใครไม่ได้อีกแล้วล่ะ
*******************************
...หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...
เขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันจันทร์ที่อากาศแสนสดใส สูดอากาศเข้าเต็มปอดแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างอารมณ์ดีทันที เพราะวันนี้เป็นวันที่เขาจะเดินทางกลับมหาลัยแล้ว
เคยบอกพ่อกับแม่ว่าอยากกลับเร็วสักหน่อยเพื่อจะได้เตรียมตัวสำหรับการเรียนปีสอง รวมถึงไปหาเพื่อนๆด้วย ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเขาเองก็เบื่ออยู่ที่บ้านมานานเป็นเดือนแล้ว
“ ณัฐ เก็บของเสร็จหรือยังลูก ? ” แม่มาเคาะประตูถาม
“ เก็บเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ”
แม่เดินเข้ามากอดมาหอมแก้มเขาเสียฟอดใหญ่
“ ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ตั้งใจเรียนนะลูก ดูแลตัวเองดีๆด้วย พ่อกับแม่เป็นห่วงณัฐมากนะ ”
เขากอดแม่กลับคืนให้ชื่นใจ “ ณัฐรักแม่มากนะ เรื่องตั้งใจเรียนน่ะไม่ต้องเป็นห่วง เต็มที่อยู่แล้ว ฮ่ะๆ ”
แม่ยิ้มหวาน “ จ้ะ งั้นลงไปหาพ่อข้างล่างกันเถอะนะ ”
เขาถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่ แล้วลงมาร่ำลาพ่อเหมือนอย่างที่ทำกับแม่ รู้สึกอบอุ่นซาบซึ้งกันอยู่พักใหญ่ก็พร้อมแล้วสำหรับพลังใจในการที่จะไปเรียนต่อ
พ่อและแม่ขับรถมาส่งเขาที่สถานีขนส่งด้วยกันทั้งคู่ กอดร่ำลากันอีกครั้ง ก็พร้อมเดินทางขึ้นรถทัวร์ ครั้งนี้เลือกรถเที่ยวกลางวันประมาณสิบโมง เพราะจะได้ถึงมหาลัยตอนสี่โมงเย็นพอดีกับที่พี่สนเลิกเรียน ฝ่ายนั้นจะได้มารับได้ อันนี้พี่สนเป็นคนวางแผนให้และเขาเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
ตอนเที่ยงรุ่นพี่โทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว ฝ่ายนั้นคงร้อนใจอยู่เหมือนกัน ส่วนเขาเองก็คิดถึงพี่สนมากๆ ไม่ได้เจอกันเกือบสองเดือนจะเป็นไงบ้างน้า ? คงใกล้เป็นคุณหมอเต็มตัวแล้วสิเนอะ เพราะใส่เสื้อกาวน์ด้วยนี่นา...ต้องเท่มากแน่ๆ คิดเองก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว จนคนที่นั่งด้านข้างหันมามอง เขาจึงต้องเก็บอาการสักหน่อย
กึ่งหลับกึ่งตื่นมาตลอดทาง จนถึงที่หมาย ก็รีบโทรหาพี่สนทันทีว่ามาถึงแล้ว ฝ่ายนั้นบอกว่าทำงานใกล้เสร็จแล้ว จะรีบออกมารับทันที เขาก็นั่งรอไปเรื่อยๆ
ไม่นาน...รถ BMW สีขาวคันคุ้นตาก็มาจอดเทียบท่า เขารีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ ฝ่ายนั้นเปิดประตูลงจากรถมาทันที พี่สนยังใส่เสื้อกาวน์อยู่เลย พอเห็นว่าเป็นรุ่นพี่เขาก็ยิ้มกว้างจนหุบไม่ได้ รุ่นพี่โผเข้ามากอดเขาด้วยความดีใจทันที
“ คิดถึงณัฐจังเลย ” ฝ่ายนั้นบอกทั้งที่ยังกอดกันแนบแน่น และเขาก็กอดกลับคืน
“ ณัฐก็คิดถึงพี่สนเหมือนกัน ”
รุ่นพี่ผละกอด แล้วเอามือมาประคองใบหน้าเขาเอาไว้ เรามองสบตากันอยู่อย่างนั้น อยากกอดให้แน่นๆนานๆให้ชื่นใจ แต่ตอนนี้คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่
“ พี่สน เราขึ้นรถกันเถอะ คนอื่นมองกันหมดแล้ว ”
“ อื้มม งั้นกลับห้องของเราดีกว่าเนอะ ”
ระหว่างทางฝ่ายนั้นก็นั่งกุมมือเขาเอาไว้ตลอด บ้างก็ดึงไปหอม บ้างก็ดึงไปวางไว้บนตักตัวเอง เห็นรอยยิ้มพี่สนแบบนี้แล้วคิดถึงมากๆเลย
“ พี่สนดูแปลกไปนิดหน่อยนะเนี่ย ” เขาบอกพลางอมยิ้ม
“ แปลกไปยังไง ? ” พูดแล้วก็ดึงมือเขาไปหอมอีกแน่ะ
“ ก็ดู ผมสั้นขึ้น แล้วก็...เหมือนเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ”
หรืออาจจะเป็นเพราะใส่เสื้อกาวน์ด้วยล่ะมั้ง เลยทำให้เขามองแบบนี้ แต่พี่สนก็ผมสั้นขึ้นจริงๆ สงสัยพึ่งไปตัดผมมา
“ เหรอ ? แล้วชอบลุคนี้มั้ยล่ะ ”
“ อื้มม ก็ชอบมั้ง ”
“ ณัฐก็เปลี่ยนไปเหมือนกันนะ ”
“ เปลี่ยนไปไงอ่ะ ? ”
“ น่ารักขึ้น ตัวขาวขึ้น ผมยาวมากขึ้น น่าหลงใหลมากขึ้น...น่าจับกดมากขึ้นกว่าเดิมอีก ”
“ พอแล้ว ทำไมเยอะจัง ? แล้วอันหลังนี่หมายความว่าไงอ่ะ ทะลึ่งแล้ว ! ” เขาบอกพลางหน้าแดงหลบสายตา
“ ก็จริงๆนี่นา แสดงว่าไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยล่ะสิ ? ขาวอยู่แล้วก็ยิ่งขาวไปกันใหญ่เลยเนี่ย ”
“ ก็ไม่ค่อยอ่ะ มีแต่อยู่บ้าน กับออกไปร้าน เสาร์อาทิตย์ก็ออกไปเรียนวาดรูป ก็แค่นั้นแหละ ”
ขับรถไม่นานก็มาถึงหอพักสักที ฝ่ายนั้นช่วยถือกระเป๋าทุกอย่างให้ แล้วเราก็ขึ้นห้องพัก พอเข้ามาด้านในหลังจากที่ปิดประตูและวางของเรียบร้อยแล้ว รุ่นพี่ก็เข้ามากอดเขาทางด้านหน้าทันที
“ คิดถึงมากที่สุดเลยรู้ไหมครับ ที่รัก ? ”
อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นที่เขาเฝ้ารอมานาน เขากอดกระชับอีกฝ่ายไว้ให้แน่นๆเช่นกัน
“ อื้มม ณัฐก็... ”
ยังพูดไม่ทันจบ ฝ่ายนั้นก็เข้ามาประคองใบหน้า แล้วประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มลงมาทันที เขาหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่แสนอ่อนโยนด้วยความโหยหาและคิดถึงเช่นกัน จูบที่แสนหวานและดูดดื่มในที เขาอ้าปากรับลิ้นอุ่นนุ่มของฝ่ายนั้นที่พยายามชอนไชไปจนทั่วโพรงปากด้วยความหิวกระหาย ลิ้นเราทั้งคู่ต่างกระหวัดเกี่ยวพันกันด้วยความต้องการสลับกับจูบกันอย่างดูดดื่ม จนเขาต้องกอดคออีกฝ่ายไว้แน่น
“ อืออ...อืมมม ”
ไม่รู้ว่ายืนจูบกันนานเท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เมื่อยคอเมื่อยลิ้นไปหมด เขาจึงผละริมฝีปากออกก่อนพลางหายใจหอบ
“ บ้า !! ” เขาตีแขนฝ่ายนั้นทันที พลางเช็ดปากเบาๆ “ ไม่ปล่อยให้หายใจหายคอกันเลยเหรอ ? ”
“ ก็คนมันคิดถึงมากนี่นา ”
“ รู้แล้วว่าคิดถึง ” รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว เขาต้องกำลังหน้าแดงอยู่แน่ๆเลย
“ แล้วณัฐก็น่ารักขึ้นมากด้วย ” ฝ่ายนั้นใช้มือเกลี่ยแก้มเขาเบาๆ พลางเสยผมทางด้านหลัง
“ ผมยาวมากเลย ตอนนี้อย่าพึ่งตัดนะ เดี๋ยวพอใกล้เปิดเทอมพี่จะพาไปตัดเอง ”
“ ครับ ” เขายิ้มกว้าง แต่ก็หารู้ไม่ว่า...
“ ณัฐ...ยิ้มแบบนี้มันทำให้พี่ใจละลายรู้มั้ย ? ”
“ อ้าว ?...อ๊ะ ” แล้วเขาก็โดนกระหน่ำจูบอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่นั้น เพราะฝ่ายนั้นเล่นใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายเขาด้วยเนี่ยสิ
“ พี่สน ? อ๊ะ...อะไรเนี่ย ? ”
เขาถามพลางพ่นลมหายใจหนัก เพราะลูบไล้ด้วยปลายนิ้วที่ยอดอกทั้งสองข้าง จนรู้สึกวาบหวาม ไม่รู้ทำไมครั้งนี้ถึงรู้สึกว่าถูกกระตุ้นได้ง่ายกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานล่ะมั้ง ทั้งจูบทั้งถูกสัมผัสจนร่างกายอ่อนระทวยแทบจะยืนไม่ไหว จนฝ่ายนั้นต้องเข้ามาประคองแล้วอุ้มเขาไว้ในอ้อมกอด และ...เดินมุ่งตรงไปยังห้องนอนทันที
พี่สนวางร่างเขาลงบนเตียงอย่างเบามือ สายตามองมาอย่างโหยหา มือลูบไล้ตามใบหน้า แล้วค่อยๆประทับจูบลงบนหน้าผาก เปลือกตา แก้มทั้งสองข้าง แล้วจุมพิตเบาๆอย่างอ่อนโยน
********************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น