คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : Special : เห็นซึนแบบนี้...ก็หึงเป็นนะ (1/2)
“เคียวยะ นี่ เคียวยะ”
“.....”
“เคียวยะ ยังไม่ตื่นอีกหรอ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก”
“.....”
“เคียวยะ ตื่นได้แล้ว”
มือแกร่งเขย่าร่างคนรักให้รู้สึกตัวสักที เสียงที่ออกมาจากปากก็ชักจะดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่คนที่นอนอยู่กลับไม่ยอมตอบรับอะไรมาเลยสักนิด นอกจากจะนอนหลับตาสบายใจเฉิบ แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“เคียวยะ ถ้าไม่ตื่นฉันจะจับกดนายจริง ๆ นะ”
“กล้าหรือไง”
เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นมาทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หากแต่เปลือกตากับปิดสนิทไม่ยอมลืมขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย ร่างบางพลิกตัวนอนต่ออย่างไม่แคร์ว่าตัวเองจะไปโรงเรียนสายอย่างที่อีกคนว่าหรือเปล่า
“เคียวยะ”
“ถ้าคุณกล้ากดผมทั้ง ๆ ที่ผมไม่เต็มใจนะ รับรองว่าคุณจะไม่ได้มาเหยียบที่เรือนนี้อีกชัวร์ ๆ”
น้ำเสียงเย้ยหยัยที่คนรักใช้ทำเอาดีโน่ไม่รู้จะไปต่อยังไงดี จำกันได้ใช่ไหมว่าเขาโดนสั่งห้ามไม่ให้มีอะไรกับเคียวยะจนกว่าเจ้าตัวจะอายุครบ 18 ปีเต็ม แต่...ตอนนี้เจ้าตัวก็อายุครบตามกำหนดแล้ว ก็ยังไม่ได้มีอะไรกันสักทีเพราะว่าเจ้าตัวไม่ยอม แถมยังขู่เขาไว้อีกต่างหากว่าถ้ากล้าขืนใจละก็ จะไล่ออกจากบ้านแล้วแล้วไม่ให้กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย
“เฮ้อ ตามใจนายก็แล้วกัน ไปโรงเรียนสายไม่รู้ด้วยนะ”
“ไม่สายหรอกน่า ก็วันนี้ผมไม่ต้องไป”
“หืม?”
“วันนี้วันเสาร์นะ อาจารย์นะมีสอนพิเศษ แต่ว่าผมไม่มีเรียนพิเศษ ปลุกผมทุกวันจนหลอนไปแล้วหรือไง”
เจ้าตัวว่าเสียงใสก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองหน้าคนรักที่ทำหน้าตกใจออกมาได้ตลกสุด ๆ มือบางยกขึ้นลูบใบหน้าคมก่อนจะตบแก้มเรียกสติไป 2-3 ทีเบา ๆ
“ไปเตรียมตัวเข้าสอนได้แล้วครับ เดี๋ยวสายนะ”
ดีโน่มองหน้าคนรักก่อนจะมองนาฬิกา แล้วนี่เขามาเสียเวลาปลุกคนว่างแบบนี้ได้ยังไงกันเนี้ย ลืมจริง ๆ ด้วยว่าวันนี้วันเสาร์ เขามีสอนพิเศษ แต่คนตรงหน้าไม่มีเรียน
“งั้นฉันไปก่อนนะ”
ฮิบาริโบกมือบ๊าย บายให้คนที่วิ่งออกจากห้องไปอย่างเร็ว ก่อนจะต้องมานั่งส่ายหัวแล้วก็ขำ เบา ๆ เมื่อคนจะไปสอนหนังสือ ดันลืมหนังสือไว้บนฟูกนอนนี่สิ
“ทั้ง ๆ ที่ผมกะว่าจะนอนตื่นสายแท้ ๆ ยังจะทำให้ต้องไปโรงเรียนอีกจนได้นะ”
“อ้าว แล้วหนังสือหายไปไหนหว่า”
ดีโน่บ่นกับตัวเองพร้อมทั้งหันซ้ายหันขวามองหาหนังสือที่จะต้องใช้ แต่ไม่ว่ายังไงก็หาไม่เจอ สมองม้า ๆ(?)จึงลองทบทวนดูว่าตัวเองเอาไปลืมไว้ที่ไหน
“ปัดโธ่ ลืมไว้ที่ห้อง”
เจ้าตัวบ่นขึ้นเบา ๆ ก่อนจะเหลือบไปมองทางประตูห้องที่มีใครบางคนเปิดออก รอยยิ้มหวานคือสิ่งแรกที่เห็นก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะ
“จะให้รอรับกลับไหม”
อเลาดิหันไปถามน้องชายหลังจากที่รถมาจอดสนิทอยู่ที่หน้าโรงเรียน วันนี้วันเสาร์ และเขาก็ไม่มีสอนพิเศษเหมือนดีโน่ เลยกะว่าจะไปเที่ยวกับดันเต้สักหน่อย แต่เมื่อเช้าอยู่ ๆ เจ้าน้องชายก็วิ่งมาหาแล้วบอกว่าให้พามาโรงเรียนหน่อย ดีโน่ลืมหนังสือไว้ที่บ้าน
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมกลับพร้อมอาจารย์ดีโน่ก็ได้ กะว่าจะเดินตรวจโรงเรียนด้วย พี่ไปเที่ยวกับดันเต้ต่อเถอะ”
“เอางั้นหรอ”
“อืม”
พูดจบเจ้าตัวก็ส่งยิ้มให้พี่ชายและดันเต้ที่เป็นคนขับรถ ก่อนจะเปิดประตูลงมา ยืนมองรถที่ขับจากไปจนลับตาแล้วค่อยเดินขึ้นอาคาร จุดมุ่งหมายคือห้องพักครูที่ใครบางคนประจำอยู่
“ป่านนี้ไม่หาตาลีตาเหลือกแล้วหรอ”
เจ้าตัวพูดกับตัวเองขำ ๆ ก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องซึ่งเป็นเป้าหมาย รอยยิ้มหวานถูกแต้มขึ้นบนใบหน้าก่อนมือเรียวจะเลือนบานประตูออกเพื่อสำรวจข้างใน
...ว่างเปล่า...
“อ้าว ไม่อยู่หรอกหรอ”
คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ หรือจะลงไปหาที่รถเพราะจำไม่ได้ว่าลืมไว้ที่ห้อง แต่ว่าตอนจะเดินขึ้นมาก็ไม่ได้สวนกันนี่หน่า เจ้าตัวคิดในใจคนเดียวก่อนตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง ถ้าไม่เพราะอยู่ ๆ ก็มีใครทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากใต้โต๊ะซะก่อน
“ออกไปได้แล้ว”
ฮิบาริมองคนรักยืนตะแคงข้างกึ่ง ๆ หันหลังให้ตัวเองอยู่อย่างไม่เข้าใจ น้ำเสียงเมื่อกี้ของดีโน่ฟังดูเรียบเฉย น่ากลัวแปลก ๆ ตั้งท่าจะอ้าปากถามก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งผลุดลุกขึ้นมาซะก่อน ชุดนักเรียนที่เธอใส่อยู่เกือบหลุดลุ่ย กระดุมสองเม็ดบนถูกปลดออกเผยให้เห็นเนินอกขาวน่าสัมผัส เข็มขัดนักเรียนถูกถอดแต่ไม่เอาออกจากกระโปรง ชายเสื้อก็หลุดออกมา กระดุมเม็ดล่างก็ไม่ได้ใส่ ชายข้างหนึ่งพับขึ้นจนเห็นหน้าท้องแบนราบอยู่รำไร สภาพโดยรวมคือ...
“อาจารย์ ทำไมถึงไล่ฉันอย่างนี้ละคะ”
เสียงถามฟังดูออดอ้อน เธอขยับเข้ามาใกล้คนร่างสูงแล้วคว้ามือของเขามาวางลงบนหน้าอกข้างหนึ่งของตัวเอง ส่วนอีกมือก็คว้ามือแกร่งอีกข้างมาวางที่เอวคอด เลื่อนลงไปยังสะโพกแล้วกำมือบังคับให้อีกคนขย๋ำสะโพกของเธอเอง
“เธอออกไปได้แล้ว”
“ทำไมละคะ ไม่มีใครอยู่สักหน่อย อาจารย์ไม่จำเป็นต้องวางมาดหรอกนะคะ”
ฮิบาริกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด ยิ่งเห็นว่าคนของตัวเองไม่มีทีท่าว่าจะเอามือออกเขาก็ยิ่งรู้สึกโมโห ดูท่าสองคนนั้นจะยังไม่ได้สังเกตเห็นเขา แต่เขาสู่โหมดโลกส่วนตัวกันอยู่
“ออกไปได้แล้ว จะได้เวลาเรียนแล้วไม่เห็นหรือไง”
“เลยแค่ 5 นาที 10 นาทีไม่เป็นไรหรอกคะ”
ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งขยับตัวเบียดกับอาจารย์ร่างสูงมากขึ้น รอยยิ้มเชิญชวนถูกส่งให้คนที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ ดีโน่ยืนมองเธอแบบไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ก่อนจะชักมือตัวเองออก แต่ติดที่ว่าเธอไม่ยอมให้ถอนมือออกมาง่าย ๆ นี่สิ
“อาจารย์อย่าเย็นชานักสิคะ เลทแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ไม่เป็นไรหร...”
“เอาหนังสือมาให้”
ในเมื่อทนมองทนฟังต่อไปไม่ไหว คนร่างบางเลยตัดสินใจพูดขัดขึ้นมา เขาเดินเข้าไปใกล้แล้ววางหนังสือลงบนโต๊ะ เห็นดีโน่มองมาอย่างตกใจ เด็กผู้หญิงคนนั้นเองก็เหมือนกัน ใบหน้าน่ารักซีดเผือดก่อนเธอจะรีบถอยออกจากคนร่างสูงแล้วติดกระดุมให้เรียบร้อยทันที ไม่คิดเลยว่าแม้แต่วันเสาร์แบบนี้ ผู้คุมโรงเรียนก็ยังจะมากับเขาด้วย กิตติศัพท์ความโหดร้ายของคนตรงหน้ามากมายแค่ไหนทำไมเธอจะไม่รู้ ถึงจะเป็นหัวหน้าห้องพิเศษที่ได้ชื่อว่าแสบที่สุด แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำผิดกฎโรงเรียน ไหนจะด้วยฐานะหน้าตาทางสังคม หุ้นส่วนของโรงเรียนนี้ และอิทธิพลของตระกูลเก่าแก่ที่ปกครองนามิโมริมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ คน ๆ นี้เลยกลายเป็นผู้คุมกฎของโรงเรียนไปโดยปริยาย และไม่ว่าใครก็ตามที่ทำผิดกฎของโรงเรียนนี้ ทั้งนักเรียนและอาจารย์ก็จะได้รับการลงโทษอย่างหนักหนาเช่นเดียวกัน
“เคียวยะ”
“ฮิบาริซัง”
“มีอะไรกันในโรงเรียนมันผิดกฎ ถ้าอยากจะทำกันนักก็ออกไปทำข้างนอก”
ดีโน่รีบตามไปคว้าร่างคนรักที่พอพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปทันที มือแกร่งโอบรอบเอวบางไว้จากทางด้านหลัง มืออีกข้างก็รวบข้อมือทั้งสองข้างของเจ้าตัวไว้
“ปล่อย”
เสียงหวานถูกทำให้เย็นชา เจ้าตัวออกแรงดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของคนด้านหลัง แต่เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผล เท้าเล็ก ๆ จึงยกขึ้นแล้วกระทืบลงไปเต็มแรง
“โอ้ย!!!”
ดีโน่ร้องลั่นพร้อมทั้งยกเท้าขึ้นมากุมไว้ทันที แม้จะไม่ใช่รองเท้าส้นสูงที่ปลายแหลม ๆ เหมือนผู้หญิง แต่รองเท้าผ้าใบที่เจ้าตัวใส่ก็สร้างความเจ็บปวดให้ได้มากเหมือนกัน ดีโน่มองคนรักที่หันหน้ากลับมาแล้วเปิดปากพูดกับผู้หญิงคนนั้น
“เธออยู่ห้อง 5 ชั้นเดียวกับฉันใช่ไหม”
“คะ”
“วันนี้ฉันจะยังไม่ทำอะไร แต่วันจันทร์เธอต้องมารายงานตัวกับฉัน แล้วฉันจะบอกบทลงโทษกับเธอเอง”
“คะ”
“อย่าคิดหนีโดยการไม่มาโรงเรียน ไม่อย่างนั้นโทษของเธอจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว...แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเข้าห้องเรียนไปได้แล้ว”
“คะ”
พูดจบสาวเจ้าก็รีบจัดการตัวเองแล้วออกจากห้องไปทันที ในที่นี้จึงเหลือคนเพียงสองคนที่ยืนจ้องตากันอยู่ ก่อนจะเป็นฝ่ายคนตัวเล็กที่เลิกจ้องแล้วหันหลังเดินออกจากห้องนั้นมาก่อน
“เคียวยะ เดี๋ยวสิเคียวยะ”
“อาจารย์เองก็เหมือนกัน วันนี้ผมจะปล่อยไปก่อน แล้ววันจันทร์ค่อยมารับบทลงโทษกับผม ตอนนี้รีบเข้าไปสอนได้แล้ว”
“แต่เคียวยะ...”
“ถ้ายังไม่รีบไป ผมคงต้องพิจารณาอาจารย์ใหม่ว่าจะมีความผิดโทษฐานไม่รับผิดชอบในหน้าที่ ปล่อยให้นักเรียนทั้งห้องต้องรอและเสียเวลาเรียนไปเปล่า ๆ ด้วยไหมอีกหนึ่งกระทง”
ดีโน่มองตามหลังคนรักไปจนลับสายตา ก่อนเจ้าตัวจะขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะคว้าหนังสือและอุปกรณ์การสอนต่าง ๆ เดินตามนักเรียนหญิงคนนั้นไป
“เคียวยะ”
“.....”
“นี่เคียวยะ”
อเลาดินั่งมองคนสองคนที่อีกหนึ่งเรียกอีกหนึ่งเงียบแล้วถอนหายใจ ตอนนี้พวกเขาสี่คนนั่งเล่นกันอยู่ที่ห้องน้ำชาหลังจากกินข้าวเย็นด้วยกันเสร็จ ที่บอกว่ามีสี่คนก็เป็นเพราะตอนนี้คุณพ่อเดินทางไปต่างประเทศอีกแล้ว แต่คราวนี้ไปสเปน อีก 5-6 วันนั้นแหละกว่าจะกลับ
“ผมไปนอนก่อนนะ ง่วงแล้ว”
พูดจบเจ้าตัวก็เดินปึงปังออกจากห้องไปทันที ทิ้งคนสามคนให้นั่งถอนหายใจกันอย่างเหนื่อย ๆ ดีโน่ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาในห้องอย่างคนจนปัญญาจะง้อ
“นายไปทำอะไรให้เคียวยะโกรธ”
“เรื่องเข้าใจผิดนะ”
“เข้าใจผิด?”
ดันเต้และอเลาดิหันมามองหน้ากัน ก่อนจะกลับไปจ้องคนที่นอนแผ่หลาอยู่ต่ออย่างไม่เข้าใจ เรื่องเข้าใจผิดมันมีตั้งร้อยแปดเชียวนะ พูดมาแค่นี้จะไปรู้เรื่องไหมเนี้ย
“เมื่อเช้าตอนที่จะไปสอน อยู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาสารภาพรักกับฉัน แต่พอฉันไม่สนใจเธอก็เลย เอิ่ม...จะว่ายังไงดีละ เหมือนกับจะถอดเสื้อผ้าตัวเองเพื่อมีอะไรกับฉันนั้นแหละ”
“เด็กคนนั้นชื่ออะไร”
คนตาฟ้าถามขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นแบบนั้นดันเต้เลยต้องรีบเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้วลูบหลังให้ใจเย็นลงก่อน ค่อย ๆ ฟังที่ดีโน่เล่าต่อให้จบ
“ซาเอโกะ อยู่ชั้นเดียวกับเคียวยะแหละ แต่อยู่ห้อง 5...จริง ๆ ฉันก็มีส่วนผิด เพราะตอนที่เคียวยะเข้ามาเห็นมันเป็นฉากที่เธอจับมือของฉันไปวางไว้ที่หน้าอกกับสะโพก แล้วฉันก็ไม่ได้ขัดขืนหรือชักออก แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอนี่หน่า ที่ค้างไว้แบบนั้นเพราะอยากจะรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อไปต่างหาก ไม่คิดว่าเคียวยะจะเอาหนังสือไปให้นี่”
“งั้นก็รีบไปปรับความเข้าใจกันเถอะ เคียวยะเป็นคนมีเหตุผล ค่อย ๆ อธิบายให้เขาฟัง นายเองก็ต้องใจเย็น ๆ เขาอาจจะเงียบจะเฉยไปบ้างก็ห้ามอารมณ์ขึ้นเข้าใจไหม”
ดีโน่พยักหน้ารับคำพี่ชายก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ปล่อยอเลาดิที่นั่งหน้าบึงกับดันเต้ที่ทำสีหน้าลำบากใจไว้ด้วยกัน
“นี่ คุณโกรธดีโน่มากเลยหรอ”
“...ก็นิดหน่อย แต่โมโหเด็กผู้หญิงคนนั้นมากกว่า”
“อ้าว!?”
“คุณไม่ได้ยินหรือไง ดีโน่บอกว่าพอตัวเองไม่สนใจ เด็กคนนั้นเลยจะถอดเสื้อผ้าออก เป็นสาวเป็นนางทำแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายได้ยังไง ถ้าเป็นลูกผมละก็มีเฆี่ยนกันหลังลายแน่ ๆ”
ดันเต้ลอบยิ้มออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น อยากจะค้านออกไปจังเลยว่าแล้วเจ้าตัวจะมีลูกได้ยังไง นอกเสียจากว่าผู้ชายจะตั้งท้องได้ละนะ
“แบบนั้นโหดร้ายไปไหม”
“ไม่โหดร้ายหรอกถ้าเป็นลูกของผมก็ต้องทนได้ ไม่สิ ถ้าเป็นลูกของผมจะไม่มีวันทำแบบนั้นแน่”
“อืม ๆ งั้นผมก็จะช่วยคุณสอนลูกด้วยอีกแรงนะ”
อเลาดิชะงักไปเมื่อได้ยินแบบนั้น ก่อนดวงหน้าขาว ๆ จะขึ้นสีแดงระเรื่อ เจ้าตัวรีบหันหน้าหลบไปอีกทางแล้วนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อถูกอีกฝ่ายโอบกอดเอาไว้
“ดันเต้”
“ผมว่าเราเข้าห้องกันดีกว่านะ เพื่อว่าจะติดลูกบ้าง”
จากเดิมที่หน้าร้อนอยู่แล้วก็ยิ่งร้อนขึ้นไปอีกเมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ยิ่งพอดันเต้ไล้จมูกอยู่กับแก้มแผ่ว ๆ เขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเฉย ๆ ปล่อยให้อีกคนลวนลามต่อไปอย่างค้านอะไรไม่ออก
ดันเต้ยิ้มออกมาน้อย ๆ เมื่อเห็นแบบนั้น เจ้าตัวแนบริมฝีปากลงกับใบหูขาวก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กกว่าพาเดินเข้าห้องไปผลิต...สงสัยคงต้องทำมากเป็นพิเศษด้วยแหะ ก็ดูท่าว่าเจ้าตัวเขาอยากจะมีลูกซะขนาดนี้นี่หน่า
To be continued…
……………………………………………………………….
Writer talk : เห็นนิ่ง ๆ แบบนี้เฮียดันเต้แกก็แอบหื่_นิด ๆ เหมือนกันนะเนี้ย อเลาจังเองก็นะ ดันพูดเรื่องลูกแบบนี้ซะได้ เฮียดันเต้แกก็เลยต้องสนองให้ซะเลย
ส่วนอีกคู่หนึ่งนี่ก็นะ เคียว ๆ ถึงจะซึน ๆ แบบนี้แต่ก็หึงเป็นนะเฮียโน่ เห็นภาพแบบนั้นเข้าไปใครไม่หึงก็บ้าแล้ว รีบ ๆ ตามไปง้อให้เคียว ๆ หายไว ๆ เลย ถ้าเจ้าตัวเขาไม่ยอมคืนดีด้วยละก็ หึ ๆ...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) เอาเป็นว่าเรามารอตอนจบของ Special นี้กันดีกว่านะคะ ว่าเฮียแกจะง้อนกสำเร็จหรือเปล่า ^_^
ความคิดเห็น