ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Attack On Titan Fic:Levi x Eren } My sweet puppy

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่สาม ฤาสวรรค์จะลงโทษม้า.....เอ้ย.....คนคิดไม่ซื่อ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.59K
      37
      28 ก.ย. 56

    บทที่สาม ฤาสวรรค์จะลงโทษม้า.....เอ้ย.....คนคิดไม่ซื่อ

     

    พรุ่งนี้จะรออยู่ข้างล่างนะ ต้องให้พี่ปลุกมั้ย

    ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งนาฬิกาปลุกเองได้ครับ

    อืม เจอกันพรุ่งนี้ พี่รีไวเดินออกจากห้องไป........ แต่เดี๋ยวสิพี่ลืมอะไรไปหรือเปล่าน่ะ

    พี่ครับ!!!” ผมรีบวิ่งตามออกไป พี่เขากำลังเปิดประตูห้องที่อยู่ข้างๆกันกับผมพอดี

    มีอะไรเอเลน

    เอ่อ....คือ....พี่......พี่ลืมอะไรไปรึเปล่าครับ

    หนังสือเหรอ เขาทำหน้าตาสงสัยแต่ผมรีบส่ายหน้าตอบ

    หรือกระเป๋า ผมส่ายหน้าอีกครั้งพลางก้มหน้านิ่ง...........ผมไงครับพี่ลืมบอกลาผมเหรอ

    มองเจ้าเด็กตรงหน้าที่ง๊องแง๊ง งอแงแล้วก็เหมือนจะนึกได้ว่าตนลืมอะไร......

    อา.....โทษที พอดีรีบไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจจะลืมหรอกนะ มือใหญ่วางลงบนเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มของเด็กหนุ่มแล้วยีมันเบาๆ

    แล้วเจอกันพรุ่งนี้.....ราตรีสวัสดิ์นะเอเลน

    มือที่สัมผัสเส้นผมอ่อนนุ่มทำให้เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง

    ครับ ราตรีสวัสดิ์ เจอกันพรุ่งนี้นะครับพี่

    ผมยืนส่งจนกระทั่งพี่รีไวเข้าห้องไป ถ้าพี่เขาไม่บอกลาผมด้วยมืออุ่นๆคู่นั้น คืนนี้ผมต้องนอนไม่หลับแน่ๆ...........

    รอฟังจนเสียงประตูห้องข้างๆปิดลง เด็กหนุ่มจึงเปิดประตูออกไปแอบส่องดูคนข้างห้องอีกครั้ง นี่แค่เขาลืมบอกลาเจ้าหนูนั่นเหมือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำเด็กนั่นถึงกับวิ่งโร่ตามมาอ้อนขอด้วยตัวเองถึงที่ ที่มือยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นแชมพูจางๆที่เจ้าเด็กนั่นชอบใช้อยู่เลย

    บางทีก็น่ารักไปนะเอเลน

     

    ผมเดินกลับเข้าห้องมาด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสกว่าเดิม

    อา......เค้กก็หมดไปแล้วสิ จะเอาอะไรไปฝากแจนดีล่ะ อุตส่าห์ใช้มันทำการบ้านให้......ทำคุกกี้ไปให้มันดีกว่า เผื่อให้พี่รีไวด้วย

    เสียงก๊องแก๊ง ปึงปังที่ดังอยู่ข้างห้องเรียกความสนใจของชายหนุ่มได้ไม่น้อย

    ไม่ใช่ว่าซุ่มซ่ามชนนั่นชนนี่จนได้แผลอีกหรอกนะ

    ลุกออกเดินไปยังระเบียงหลังห้องด้วยความเป็นห่วง

    เอเลน.....เอเลน!!!”

    ครับ....ครับพี่ เจ้าตัวรีบวิ่งปึงปังออกมาหาในสภาพที่ผ้ากันเปื้อนหลุดลุ่ย ทั้งหน้าตาเส้นผมเลอะแป้งเค้กเป็นหย่อมๆ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของเนยโชยออกมาจากตัว

    ทำอะไรเสียงดังชะมัด

    ทำขนมครับ เอ่อ รบกวนพี่อ่านหนังสือหรือเปล่าครับเนี่ย ผมลืมไปเลยว่าพี่ต้องเตรียมสอบ

    เปล่าหรอก เสียงดังแบบนั้นนึกว่าหกล้มหกลุกเป็นอะไรไปต่างหาก

    เปล่าครับ ผมซุ่มซ่ามเองก็เลยเสียงดังไปหน่อย เจ้าหนุ่มน้อยเอ่ยเขินๆ แก้มเริ่มแดงเรื่อๆ

    ก็รู้อยู่หรอกน่า......ถึงได้เป็นห่วง   ว่าพลางเกลี่ยแก้มที่เปื้อนแป้งให้เบาๆ

    เลอะเทอะไปหมด

    ขอโทษครับๆ เอเลนหัวเราะแหะๆพลางยกผ้ากั้นเปื้อนขึ้นเช็ดหน้าลวกๆ เสียงเตาอบส่งเสียงบอกเวลาเตือน

    อ๊า......เหมือนจะได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเอาให้พี่กินนะครับขอตัวไปดูขนมก่อนว่าพลางวิ่งปึงปังกลับเข้าห้องไปด้วยความรีบร้อน

    คุกกี้สีสวยหอมกรุ่นถูกยกออกจากเตา คุกกี้รูปสารพัดสัตว์ส่งกลิ่นหอมฉุย

    อ่า......ใช้แม่พิมพ์รูปม้าเยอะไปหน่อยแฮะ แจนมันคงไม่คิดว่าเราประชดมันหรอกมั้ง ค่อยๆจัดเรียงแบ่งลงถุงสองถุงเท่าๆกันแล้วผูกริบบิ้นปิดปากถุงเป็นการปิดท้าย เป็นอันเสร็จสิ้น

    พรุ่งนี้เช้าค่อยเอาให้พี่รีไวดีกว่า......

     

    ขณะที่กำลังนอนแช่น้ำอุ่นพลางเล่นเจ้าเป็ดเหลืองลอยน้ำไปด้วย สัญญาณเมสเซ็จจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

    การบ้านแกเสร็จแล้วนะ เอเลนพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนไปร้องเกะกันเถอะ นะนะ....ขอร้องล่ะ

    - แจน

     

    ผมกดโทรออกหาเจ้าของข้อความ เพลงรอสายดังไม่ถึงสามวิมันก็รับแล้ว อย่าบอกนะว่าแกนั่งเฝ้าโทรศัพท์อยู่น่ะ

    เฮ้ย เอเลน....ว่าไง ตกลงป่ะ

    ขอถามพี่รีไวดูก่อน ผมตอบขณะที่บีบลูกเป็ดน้อยในมือเล่น ให้มันส่งเสียงดัง แป้ด แป้ด ออกมา

    ทำไมต้องไปขอไอ้พี่เตี้ยนั่นด้วยเล่า มันไม่ใช่พ่อแกนี่

    ไม่ใช่พ่อ แต่ก็เป็นพี่นี่

    ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆสักหน่อยนี่หว่า

    ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ..........เออ ก็รู้อยู่หรอก

    แต่ก็ต้องถามพี่เขาดูก่อนอยู่ดี........

    โหย.....ไรวะ ถามมันก็ไม่ได้ไปน่ะสิ

    อย่าบ่นน่าแจน มันจะว้อนท์อะไรผมนักหนาเจ้าเพื่อนคนนี้

    แกอยู่ไหนวะเอเลน ทำไมเสียงมันก้องๆ เหมือนได้ยินเสียงน้ำด้วย

    ห้องน้ำ.......อาบน้ำอยู่

    อ.....อาบน้ำเหรอ....ก....แก....โทรหาฉันตอนอาบน้ำเนี่ยนะ น้ำเสียงจากปลายสายดังตะกุกตะกัก

    เออ.....ก็แล้วใครใช้ให้แกส่งข้อความหาฉันตอนนี้ล่ะ

    ก็ใครจะไปรู้ล่ะวะ.....ล.....แล้ว.....แก้ผ้าอยู่....ร....เหรอ น้ำเสียงปลายสายส่งเสียงถามมาเบาๆ

    ก็เออ บ้านแกเขาใส่เสื้อผ้าอาบน้ำกันรึไง ถามอะไรโง่ๆเหมือนหน้าตาจริงๆไอ้นี่......ได้ยินเสียงเหมือนสูดน้ำมูกเบาๆ

    แจน แกเป็นหวัดเหรอ....

    เปล่าๆ ไม่มีอะไร ไม่กวนแล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปด้วยกันให้ได้นะเข้าใจนะ ว่าพลางตัดบทเองเสร็จสรรพ

    อะไรของมัน ลุกลี้ลุกลนชอบกล......

     

    หยดน้ำสีแดงหยดลงบนพื้นเป็นวงดังแหมะ....แหมะ....

    ทิชชู่.......ทิชชู่ เด็กหนุ่มบีบจมูกตัวเองไว้พลางวิ่งหากระดาษจ้าละหวั่น พอเจอปุ๊บก็ปั้นเป็นก้อนยาวๆอุดรูจมูกทั้งสองข้างเอาไว้ หายใจทางปากแทน

    ไอ้บ้าเอ้ย.....โทรหาฉันตอนอาบน้ำเนี่ยนะ.......แกไม่สงสารฉันเหรอไง วิ่งไปคุ้ยตู้เย็นหาก้อนน้ำแข็งมาวางโปะบนดั้งจมูกของตน นัยน์ตาพลันเหลือบไปทางประตูห้องน้ำที่เปิดอยู่ รู้สึกได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวกับไอควันลอยกรุ่นออกมาจากประตูห้องน้ำ ค่อยๆเดินเข้าไปดูใกล้ๆด้วยความประหลาดใจ ร่างขาวเนียนคุ้นตายืนหันหลังอยู่ภายใต้ฝักบัว เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มเปียกโชกแนบลู่ไปกับศีรษะได้รูป แผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวเนียนพราวระยับไปด้วยหยดน้ำ เอวบางและสะโพกกลมกลึงถูกไอหมอกควันบดบังให้เห็นเลือนลางเพียงวับๆแวมๆ ใบหน้าขาวใสที่แลดูขึ้นสีแดงระเรื่อจากน้ำอุ่นเอียงเสี้ยวหน้าหันกลับมาถามยิ้มๆ

    มาอาบน้ำด้วยกันมั้ยแจน.....

    น้ำแข็งที่ถืออยู่พลันร่วงหลุดจากมือตกทับนิ้วหัวแม่เท้าดังปั่ก!!! เลือดกำเดาที่ถูกทิชชู่อุดไว้ทะลักทลายไหลออกมาราวกับเขื่อนแตกพร้อมกับเสียงตะโกนดังลั่นบ้าน

    อ้ากกกกกกกกกก!!! แกต้องการอะไรจากฉันวะ เอเลนนนนนนนน!!!!”

     

    หืม.....รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหมาหอนแว่วมาเลยแฮะ พอเป่าผมที่เปียกจนแห้งสนิทก็เป็นอันเสร็จกิจของวันนี้

    นอนดีกว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเรียนพร้อมพี่รีไว

     

     

    เอ่อ เป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามนายแพทย์ผู้ชราผู้มีผมสีดอกเลากับรูปร่างอ้วนท้วม

    อืม....ถูกกระแทกจนอักเสบหนักขนาดนี้ มีทางเดียวคือต้องถอดเล็บนั่นแหละครับ ลองมีเลือดคลั่งแบบนี้ปล่อยไว้เล็บต้องเน่าแน่ๆ มีทางเดียวคือต้องถอดเล็บออกเพื่อระบายเลือดเสียครับ

    ถอดเล็บ!!! แม่ไม่เอานะ ผมกลัวอ่ะ แจนส่ายหน้าดิกกอดเอวแม่ไว้แน่น

    แต่มันต้องรักษานะลูก ผู้เป็นแม่ลูบหัวลูกชายเบาๆ

    ก็ผมกลัวนี่นา คุณนายกิลชูไตน์หันไปถามนายแพทย์อีกครั้ง

    ไม่มีทางอื่นอีกเหรอคะ

    ต้องถอดเล็บอย่างเดียวครับคุณผู้หญิง คุณหมอยืนยันหนักแน่น

    งั้นก็ตกลงค่ะ

    แม่อ่ะ!!!!” แจนโวยวายเสียงดัง เด็กหนุ่มผู้ขาเดี้ยงถูกเข็นตัวเข้าสู่ห้องทำหัตถการ ในขณะที่คุณหมอเฒ่ากำลังดรอยาใส่ไซริงค์ยี่สิบซีซีคอย แจนลอบกลืนน้ำลายตาเหลือก

    ค....คุณหมอครับ.....วางยาสลบใช่มั้ยครับ

    แค่ถอดเล็บ ยาชาก็พอแล้วหนู นี่ไง คุณหมอชูไซริ้งค์ยี่สิบซีซี ที่สะท้อนแสงไฟวาวแว่บให้ดู

    ล.....แล้วมันเจ็บมั้ยครับ

    ก็เจ็บนิดหน่อยเดี๋ยวก็ชา คุณหมอบรรจงเสียบเข็มลงไปบนโคนนิ้วหัวแม่เท้าของแจนเบาๆ

    ค่อยยังชั่ว......ไม่เจ็บเท่าไหร่

    เอาล่ะ จะเริ่มล่ะนะ คุณหมอยกอุปกรณ์ลักษณะเหมือนคีมขึ้นเตรียมลงมือ

    แต่คุณหมอครับ.....ผมยังไม่รู้สึกชาเลยนะครับ อีกอย่างยาชาตั้งยี่สิบซีซี คุณฉีดให้ผมไม่ถึงสามซีซีเลยนะครับคุณหมอ

    อีกเดี๋ยวมันก็ชาเองแหละ.....คนไข้หมอเยอะ.....หมอรีบ

    ต....แต่....ผมว่า แจนพยายามประท้วงเหงื่อแตกซิก คุณหมอบ่นขึ้นเบาๆ

    อา.....ลืมพกแว่นมาด้วยสิ ไม่เป็นไรๆ มองเห็นอยู่ เอาล่ะนะ

    อุปกรณ์คีบถูกหนีบลงบนนิ้วเท้าในขณะที่คุณหมอออกแรงดึงสุดแรง เลือดสีแดงสดกระฉูดกระจาย

    อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! คุณหมอคร้าบบบบบบ คุณถอดเล็บผมผิดนิ้วแล้ว!!!!” เสียงร้องโหยหวนของแจนดังก้องทั่วทั้งห้องฉุกเฉิน คุณหมอก้มลงมองผลงานของตนชัดๆ

    อ้าว...... นิ้วกลางหรอกเหรอ ก็เล็งหัวแม่เท้าไว้แล้วนี่นา.....ไม่เป็นไรๆ เอาใหม่ๆ ลงมือล่ะนะ

    คุณหมอคร้าบ.....จะเสียเวลากลับไปเอาแว่นสักนิดผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ!!!”

    ไม่เป็นไรๆ.....คนไข้หมอเยอะ.....หมอรีบ....เอาล่ะคุณหมอไม่เป็นแต่ผมน่ะสิครับที่เป็น.....

    อ้ากกกกกกกก!!!!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นขึ้นคำรบสอง

    นี่คงเป็นบาปกรรมของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อที่เอาเพื่อนมาจิ้นอะไรแปลกๆสัปดนสินะ.....อาเมน.....อภัยให้ผมด้วยเถอะสวรรค์....ฉันผิดไปแล้วเอเลน......ขอโทษ!!!!!!

     

    แย่ล่ะตื่นสายเสียได้ เมื่อคืนนอนเพลินไปหน่อย วิ่งกระหืดกระหอบหิ้วเสื้อนอกออกจากห้อง....

    อ๊ะ....คุกกี้ เกือบลืมไปแล้ว ยัดถุงคุกกี้ลงใส่ถุงกระดาษลวกๆ แล้วรีบวิ่งออกจากห้อง ที่ลานจอดรถเด็กหนุ่มร่างสันทัดยืนรออยู่ก่อนแล้ว

    ขอโทษครับ นอนเพลินไปหน่อย หอบแฮ่กด้วยความรีบ เผ้าผมชี้ฟูแทบไม่เป็นทรง

    ก็ถึงได้บอกไงว่าจะปลุก พี่รีไวบ่นเบาๆขณะที่ช่วยติดกระดุมเสื้อนักเรียนให้ผมใหม่ ตายล่ะรีบจนติดมั่วไปหมด ก้มมองใบหน้าคมคายที่ตั้งอกตั้งใจติดกระดุมเสื้อให้แล้วก็อดคิดไม่ได้

    พี่รีไวน่ารักจังแฮะ......เหมือนสมัยเด็กๆเลย

    มองอะไร หน้าพี่มีอะไรติดรึไง

    เปล่า....ฮะ แค่คิดว่าพี่น่ารักจัง

    ปึด!!!!.........คนคิ้วของคนฟังถึงกับกระตุก

    อย่างพี่ ใช้คำว่าน่ารักด้วยไม่ได้หรอกนะ ก้มหัวลงมาสิ ผมยุ่งหมดแล้ว

    ครับๆ มือใหญ่ค่อยๆช่วยจัดแจงทรงผมกระดกชี้ให้เข้าที่เข้าทาง แล้วลูบเบาๆ

    เสร็จแล้ว

    ขอบคุณครับ วันนี้เอาจักรยานไปนะครับ เผื่อวันนี้ออกนอกเส้นทางกัน

    ก็ได้ แต่เดี๋ยวพี่ปั่นเองดีกว่า

    ผมหนักนะครับ

    ไม่ได้มากมายอะไรหรอกน่า

    ขึ้นนั่งซ้อนท้ายพลางเกาะเอวของพี่เขาไปด้วย.......ไม่ได้อะไรหรอกนะ ก็ผมกลัวตกนี่นา

    วันหลังก็ให้พี่ปลุกเสียก็สิ้นเรื่อง

    ก็ผมไม่อยากรบกวนพี่นี่ครับ

    ถ้าอย่างนั้น ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยเป็นไง

    เอ๋....อะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ถนัด ไอ้รถบรรทุกคันเดิมมันขับผ่านมาอีกแล้ว จะตีนผีไปไหน เสียงดังจนกลบเสียงพี่รีไวไปหมด

    ......ก็ไม่ได้รบกวนอะไรหรอกน่ะ

    ครับๆ วันหลังผมจะให้พี่ปลุกแล้วกันครับ

    เอเลน.....

    ครับ

    จับดีๆหน่อยสิ เดี๋ยวก็ร่วงลงไปหรอก

    ผมก็จับแน่นแล้วนะครับ

    จับแบบนั้นเดี๋ยวก็ถูกลมพัดปลิวไปหรอก

    โหย.....ผมไม่ได้เบาขนาดนั้นสักหน่อย

    กอดไว้ซะ

    ครับ?

    เอวพี่น่ะ......กอดไว้แน่นๆ เดี๋ยวตก ผมประสานมืออ้อมแขนไปกอดเอวพี่เขาไว้

    แบบนี้เหรอครับ มือใหญ่จัดแจงดึงแขนผมไปใกล้จนหน้าผมนี่แนบไปกับแผ่นหลังของพี่เขาเลยทีเดียว

    อืมแบบนี้แหละ....กอดแน่นๆนะ จะซิ่งล่ะ เด็กหนุ่มอมยิ้มกริ่มพลางเริ่มออกแรงขาถีบปั่นจักรยานด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

    หวา..มิน่าล่ะถึงได้บอกให้กอดแน่น ถ้าพี่จะซิ่งขนาดนี้ล่ะก็เตือนผมล่วงหน้าไว้หน่อยก็ดีนะครับยังไงซะโรงเรียนมันก็คงไม่วิ่งหนีเราไปไหนหรอกน่ะ

     

    พี่รีไวจอดจักรยานไว้ที่ลานจอดข้างโรงเรียน ในขณะที่ผมกำลังนั่งกุมขมับด้วยความหัวหมุนตาลาย มือใหญ่แนบสัมผัสแก้มผมเบาๆ

    ไหวมั้ยเอเลน

    เวียนหัวนิดหน่อยฮะ.....ไม่คิดว่าพี่จะเร็วขนาดนี้ นี่ผมกำลังเมาจักรยานงั้นเหรอ.......

    โทษที พี่เขาเอ่ยขึ้นในขณะที่ช่วยลูบหลังผมเบาๆ.....แอ่ะ.....อยากอ้วกชะมัด ผมโก่งคออาเจียนก็ยังไม่มีอะไรออกมา เมื่อเช้าผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ ตื่นสายนี่นา

    โย่...ไอ้เสือ มาแต่เช้าเชียวนะ น้ำหนักที่โถมเข้ามาทับจากทางด้านหลังทำให้รีไวต้องหันไปเอ็ดด้วยความหงุดหงิด

    ลงไปนานาบะ.....ฉันไม่ใช่ต้นมะพร้าวเอาไว้ให้ลิงอย่างเธอมาปีนเล่น มันหนัก!!!!!”

    แหมๆ หงุดหงิดแต่เช้าเชียวนะรีไว....เอ๋.....เอเลน!!!....เอเลนเป็นอะไรน่ะลูก นานาบะเลิกก่อกวนเพื่อนร่างเล็กแล้วหันไปสนใจหนุ่มน้อยที่หน้าซีดท่าทางพะอืดพะอมนั่งทรุดกับพื้นแทน

    ผมเวียนหัวนิดหน่อยน่ะครับ ผมเอ่ยตอบในขณะที่รู้สึกว่าตาเริ่มลายเห็นพี่นานาบะเป็นสามคน

    ว....เวียนหัว....คลื่นไส้....อาเจียนด้วยใช่มั้ยลูก...ล.....แล้วประจำเดือนเดือนนี้มารึยังลูก เธอถามด้วยความร้อนรนช็อคสุดขีด

    เอ่อ....คือ ผมควรจะตอบพี่เขาว่าอะไรดีล่ะครับเนี่ย พี่นานาบะวิ่งไปกระชากคอเสื้อพี่รีไวแล้วตะคอกถามเสียงดัง

    รีไว!!! นาย....นายเล่นลูกชายฉันแล้วใช่มั้ย.....ฟาดมันจนท้องแล้วเนี่ย.....นายจะไม่รับผิดชอบรึไงห๊า!!! ลูกชายฉันทั้งคนนะ ไหนจะหลานในท้องมันอีก

    อย่าพูดบ้าๆนะเฮ่ย!!!!” พี่รีไวตะคอกกลับพลางผลักอกพี่นานาบะเสียเกือบล้ม พี่รีไวมองหน้าผมแล้วพูดออกมาเสียงดังลั่น

    ถ้าฉันทำ ฉันก็รับผิดชอบเอเลนอยู่แล้วล่ะน่า!!!”......เมียทั้งคนนี่หว่า

     เอ่อ พี่รีไวครับ พี่ไม่ต้องบ้าจี้ตามพี่นานาบะไปก็ได้นะครับ

    โฮ.....โชคดีนะลูก อย่างน้อยผู้ชายตัวสั้นคนนี้มันก็ยังมีความรับผิดชอบ หนูไม่ต้องอุ้มท้องคนเดียวแล้วลูก เอเลน!!!” พี่นานาบะกอดผมทำท่าสะอึกสะอื้น นี่พวกพี่กำลังเล่นตลกยามเช้าให้ผมดูอยู่หรือยังไงครับเนี่ย

    เลิกเกาะแกะได้แล้วน่า พี่รีไวบ่นขณะที่จับแยกพี่นานาบะโยนออกไปไกลจากผม

    ดีขึ้นรึยังเอเลน มือใหญ่ยกอังหน้าผากผมด้วยความเป็นห่วง

    ผมว่าผมหายเมาดีกว่าครับ ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่ ผมว่าพลางหัวเราะเจื่อนๆ ในขณะที่พี่นานาบะหัวเราะจนตัวงอไปแล้ว รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆฟุดฟิดอยู่ที่ข้างหู

    เอเลน!!!......หอมน่ากิน

    เฮ้ย!!!” ผมตกใจรีบถอยหนีจนเกือบสะดุด

    ใกล้ไปนะมิเกะ พี่รีไวพูดกับพี่ชายร่างสูงตรงหน้าเรียบๆ พี่มิเกะแสยะยิ้มแล้วเอ่ยซ้ำ

    เอเลน......น่ากิน ผมเผลอกุมต้นคอด้วยความขนลุกเลยทีเดียว บรื๋อ!!!!

    ไหนแกพูดใหม่ซิวะ....มิเกะ นัยน์ตาสีเข้มหรี่เรียวด้วยความไม่พอใจ จับจ้องพี่ชายร่างสูงตรงหน้าราวกับพญาเหยี่ยวจ้องเหยื่อ

    เอเลน......น่ากิน พี่มิเกะเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ แล้วยิ้มมุมปาก

    จะไฝว้เหรอ......เตี้ย!!!”

    ไม่ทันขาดคำ พี่รีไวกระโดดตัวลอยประเคนเข่าใส่ใบหน้าพี่ชายผู้มีส่วนสูงถึงร้อยเก้าสิบหกเซ็นโดยไม่บอกไม่กล่าว พี่มิเกะยกแขนขึ้นตั้งการ์ดรับแทบไม่ทัน

    ถึงฉันจะเตี้ย....ก็เตะปากกอริลล่าอย่างแกได้ว่ะ มิเกะ

    พี่ชายร่างสูงสูดปาก ซี้ด!!!! แล้วเอ่ยขำๆ

    ไม่เล่นและ......เจ็บว่ะ เขานวดข้อแขนที่แดงเถือกของตัวเองเบาๆ ในขณะที่พี่รีไวจะตรงเข้าไปซ้ำอีกรอบ พี่นานาบะก็รีบจับสองคนนั้นแยกกันเสียก่อน

    อ้าว.....แจน อรุณสวัสดิ์ ในขณะที่กำลังมองพวกเด็กโข่ง....เอ้ย พวกรุ่นพี่แกล้งกันอยู่ ผมก็หันไปเห็นแจนเดินคอตกขากะเผลกเข้าโรงเรียนมาพอดี

    อ....เอเลน? มันเงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วจู่ๆหน้ามันก็แดงเถือก มันยกแขนขึ้นบังหน้าตัวเองแล้วโวยวายเสียงดัง

    อ...เอเลน....ท.....ทำไม.....แกไม่....ไม่ใส่เสื้อผ้ามาโรงเรียนวะ แจนที่หน้าแดงอยู่ดีๆเลือดกำเดาก็ไหลออกมา.......แกเป็นไรของแกวะแจน!!!! ฉันเป็นห่วงนะเนี่ย

    โฮ่ย!!!! พล่ามอะไรของแกวะ ไอ้เด็กเวร พี่รีไวตรงเข้าไปหาแจนอย่างเอาเรื่อง ขนาดมีพี่มิเกะกับพี่นานาบะช่วยกันฉุดแล้วนะ ยังเอาไม่อยู่.......พี่ชายผมจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว

    แกมโนอะไรของแกอยู่วะ ไอ้หน้าม้า.....คิดทะลึ่งอะไรอยู่รึไง

    อ๋มอ่าวอะ(ผมเปล่านะ) แจนพยายามเปล่งเสียงขณะที่ถูกพี่รีไวบีบกรามไว้แน่น เลือดกำเดาที่ไหลออกมาเป็นทางบังเอิญไปเลอะมือพี่เขาพอดี พี่รีไวถึงได้ยอมปล่อย

    ชิ....สกปรก บ่นไปขณะที่เช็ดมือไปด้วย

    ผ....ผมหมายถึง.....ท.....ทำไมเอเลนไม่ใส่เสื้อนอกต่างหาก เจ้าแจนที่หน้าแดงเถือกแก้ตัวตะกุกตะกัก

    ก็อากาศตอนเช้ากำลังดี เอาไว้ใส่ตอนเข้าแถวก็ได้นี่ ผมเอ่ยพลางยื่นกระดาษทิชชู่ส่งให้เพื่อนจอมเกรียน อากาศก็ไม่ได้ร้อนสักหน่อย ไอ้นี่มันเลือดกำเดาไหลได้ไงกัน

    อืมๆ นี่กระเป๋าแก การบ้านก็อยู่ในนั้นแหละ มันตอบรับสั้นๆ ยื่นกระเป๋าส่งให้แต่ไม่ยักสบตาผมแฮะ

    แกไม่สบายหรือเปล่าแจน ฉันว่าวันนี้แกดูแปลกๆว่ะ

    ก็....ก็นิดหน่อย ผมพยายามยื่นหน้าไปมองมัน แต่มันยิ่งเอียงหน้าหนี แต่ผมเห็นนะว่าหน้ามันแดงไปถึงหูแล้ว

    เท้าแกมีผ้าพันแผลด้วยนี่ ไปทำอะไรมา ผมนั่งลงจิ้มๆนิ้วเท้ามันเบาๆ แต่มันถึงกับสะดุ้ง....เจ็บเหรอวะ ฉันแค่แตะแกเบาๆเองนะเว่ย

    ก....ก็...ใจลอยไปหน่อยน่ะ....เลยเดินเตะโต๊ะ....เมื่อคืนไปถอดเล็บมา มันตอบอึ่กอั่กๆ

    เจ็บแทนเลยว่ะ แต่นี่แกถอดสองนิ้วเลยเหรอ

    ก...ก็เตะสองรอบอ่ะ!!!”

    แกโง่หรือเปล่าแจน

    ช่างฉันเหอะน่า มันหันมาตะคอกใส่หน้าผม แต่เดี๋ยวเดียวเท่านั้นมันก็รีบหันหน้าหนี วันนี้แกแปลกๆว่ะแจน.....บอกตรง

    น่าสงสาร....เกิดมาหน้าเหมือนม้าแล้วยังขาพิการอีก

    แรคคูนมะขามข้อเดียวอย่างรุ่นพี่ไม่มีสิทธิ์มาว่าผมนะครับ

    นั่น....ทะเลาะกันอีกแล้ว เจ้าแจนมันไม่ยอมมองหน้าผมตรงๆด้วยซ้ำแต่กับพี่รีไวนี่มันจ้องเอา จ้องเอาเชียวนะ ก่อนที่ทั้งสองคนจะเขม่นกันมากไปกว่านี้ ผมตัดสินใจดึงคุกกี้จากถุงกระดาษออกมาให้แจน

    อ่ะ....ฉันให้ มันมองคุกกี้ในมือผมตาเป็นประกาย

    อ....เอเลน.....แกให้ฉันจริงอ่ะ

    เออ ก็ตั้งใจทำมาให้นั่นแหละ.......แล้วถุงนี้ก็ของพี่ครับ ผมยื่นถุงคุกกี้ให้พี่รีไวกับแจนคนละถุง แต่เพิ่งจะสังเกตเห็นนี่เองว่าถุงที่จะให้พี่รีไวคุกกี้มันแตกไปหลายชิ้นแล้ว คงถูกกระแทกกระทั้นระหว่างทางตอนที่มาโรงเรียน

    โทษที สลับถุงกัน ผมรีบเปลี่ยนถุงคุกกี้เละไปให้แจน แล้วยื่นถุงคุกกี้ที่มีสภาพดีให้พี่รีไว แจนมันดูสลดลงเล็กน้อย แต่มันก็ยิ้ม นัยน์ตามันวาวๆเหมือนน้ำตาจะไหล.....แกเป็นอะไรมากมั้ยแจน!!!

    ขอบใจนะเอเลน.....ที่แกยังนึกถึงฉันน่ะ

    เออๆ ตอบแทนเรื่องการบ้านไงล่ะ

    อืม แจนมันยกถุงคุกกี้ขึ้นดมแล้วกอดไว้แน่น อะไรวะ ก็แค่คุกกี้อ่ะ

    แกชอบคุกกี้ขนาดนั้นเลยเหรอวะแจน

    อืม...ชอบสิ....ชอบมากๆเลย.... คนทำคุกกี้นะ....ชอบสุดๆ

    ไว้วันหลังจะทำมาให้อีกแล้วกัน ผมบอกกับมันแล้วหันไปคุยกับพวกรุ่นพี่

    งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ

    อืม พี่รีไวพยักหน้ารับเงียบๆ

    แล้วเจอกันพักเที่ยงนะจ้ะลูกชาย พี่นานาบะโบกไม้โบกมือให้

    กลิ่นเอเลนกลิ่นนี้แหละ.....น่ากิน พี่มิเกะดมคุกกี้ฟุดฟิด แหม ที่แท้พี่เขาก็ได้กลิ่นคุกกี้เองหรอกเหรอ นี่สรุปว่าพี่เป็นกอริลล่าหรือเป็นหมากันแน่ครับพี่มิเกะ จมูกดีชะมัด

    ผมเดินช้าๆรอแจนที่โขยกเขยกกลับห้องเรียนด้วยกัน ช้าชะมัด.........ก็เข้าใจนะว่ามันเจ็บน่ะ

    มา ฉันช่วย ผมพูดกับมันขณะที่ยกแขนมันขึ้นประคองพาดคอ แต่มันกลับเบี่ยงตัวออกราวกับต้องของร้อน

    เฮ่ย!!! ฉ...... ฉันเดินเองได้

    แกเดินคนเดียว เที่ยงก็คงยังไม่ถึงห้องอ่ะ อย่าเล่นตัวน่า ผมล็อคแขนมันขึ้นพาดคอแล้วโอบเอวประคองช่วยมันเดิน

    แจน.....หน้าแกอ่ะ....ใกล้ซอกคอฉันไปมั้ย ผมพูดกับมันเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอ

    อ่ะ....โทษที มันก้มหน้านิ่งเอ่ยขอโทษเบาๆ

    มันก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ มันก็แค่จั๊กจี้น่ะ ผมพูดขณะที่ผลักหัวมันไปด้วย ไม่อยากให้มันสลดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

     

    เด็กหนุ่มทั้งสองเดินประคองกันไปเงียบๆ แจนมองเสี้ยวหน้าขาวใสของเพื่อนสนิทสุดรัก(?) แล้วก็ยิ่งรู้สึกผิด

    ทั้งๆที่แกดีกับฉันขนาดนี้ ฉันกลับเอาแกไปมโนอะไรแปลกๆ....ขอโทษด้วยเอเลน....ฉันมันเพื่อนเลว คิดไม่ซื่อกับแก......

    ผมเห็นแจนมันทำหน้าซึมๆแบบนั้นก็ยิ่งเป็นห่วง จึงหันกลับไปถามมันบ้าง

    แจนวันนี้แกเป็นอะ..... ด้วยความที่รีบร้อนเกินไปไม่ทันระวัง ปลายจมูกของเราทั้งคู่เฉียดกันไปชั่วขณะ แจนมันถึงกับเดินผิดจังหวะขาสะดุดล้มทับมาใส่ผมทั้งตัว

    อา เจ็บว่ะ..... ผมล้มก้นจ้ำเบ้าในขณะที่แจนมันล้มคร่อมทับผม หน้ามันแลดูตกใจมาก จากที่แดงอยู่แล้วกลับแดงหนักขึ้นกว่าเดิม มันค่อยๆโน้มหน้าลงมาใกล้ตาลอยๆชอบกล

    แจน....... ผมพยายามผลักมันออก แต่แม่ม....ทำไมมันแรงเยอะนักล่ะ มันก้มหน้าลงมาใกล้จะติดหน้าผมแล้วเนี่ย!!!!!

    แจน!!!” ผมตะโกนใส่หูมัน แล้วบิดหูมันสุดแรง มันส่งเสียงร้องลั่น แล้ววิ่งเตลิดหนีออกไปทันที

    ขอโทษ.....ขอโทษ....ฉันขอโทษ!!!!” มันตะโกนขอโทษวิ่งหนีไปสุดทาง

    เป็นบ้าอะไรของมันกันล่ะเนี่ย......เจ็บเท้าไม่ใช่เหรอไง เปิดแน่บไปซะขนาดนั้น ผมบ่นให้มันขณะที่ช่วยหิ้วกระเป๋าเป้ที่มันมัวแต่เตลิดหนีจนลืมเก็บไปด้วยให้

    ไอ้ม้าบ้าเอ้ย!!!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×