ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Guardian of Dragon เทพกระบี่มังกรจอมราชันย์

    ลำดับตอนที่ #23 : บทที่ 23 เส้นแสงสีขาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.4K
      74
      31 ส.ค. 60

    บทที่ 23 เส้นแสงสีขาว


                เมื่อน้ำเสียงหยาบกระด้างแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวดังออกมา มันกลับส่งผลให้ทุกคนไม่กล้าที่จะขยับเขยื้อนร่างกายประกอบกับแสงสว่างจ้าสีขาวที่พุ่งเข้ามา ทำให้เหล่าผู้คนที่อยู่รอบบริเวณต้องรีบหลบสายตาจากแสงที่พุ่งเข้าปะทะกับม่านตา


                นั่นมันเสียงอะไรกัน


                จินหลงยังคงนั่งอยู่ที่เดิม หลังจากที่พวกคนจากสำนักมังกรใต้หล้าถอยห่างจากเขาไป


                พลันคลื่นเสียงสงบลง จากกระแสน้ำที่เคยนิ่งสงบบัดนี้กลับกลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดยักษ์ ภายในข้างใต้กระแสน้ำวนปรากฏเป็นโพงกว้างสีดำมืดทมิฬ คล้ายกับมันจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างในจมลงสู่ความมืดมิดที่ไร้ซึ่งทางออก!


                วิ่ง! พวกเจ้ารีบไปเร็วเข้า!”


                คนที่ตั้งสติได้คนแรกไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือผู้อาวุโสของตระกูลเฉิน เมื่อเห็นสิ่งที่กำลังเกิดเขารีบสั่งให้คนในตระกูลเคลื่อนไหวทันที


                ไม่นานหลังจากที่คนตระกูลเฉินขยับตัว คนอื่นๆจากทั่วทุกตระกูลก็รีบทะยานตัวเพื่อเร่งออกจากพื้นที่ที่เป็นดั่งนรกนี้เช่นกัน


                อ๊าาาาาา


                เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากทิศทางบึงมรกต ! จินหลงหันมองยังทิศทางที่เกิดเสียง พลันปรากฏกลุ่มก้อนพลังงานแสงสีขาวคล้ายร่างของสิ่งมีชีวิตอิสตรีนางหนึ่ง โผล่พรวดขึ้นมาจากโพงกว้างอันมืดทมิฬนั่น แต่จินหลงไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์ได้อย่างชัดเจนนัก เพราะมันเป็นเพียงแค่ร่างที่เป็นเสมือนกลุ่มก้อนพลังงานแสงสีขาวที่รวมตัวกัน รอบๆกลุ่มก้อนพลังงานนั่น ปรากฏเส้นแสงสีขาวเรียวเล็ก มันมีลักษณะคล้ายเข็มนับร้อยนับพันลอยละล่องอยู่รอบๆกลุ่มก้อนพลังงานแสงที่คล้ายอิสตรีนั่น


                พรึ่บ!


                เข็มนับร้อยนับพันพุ่งออกจากกลุ่มก้อนพลังงานสีขาวนั่น มันตรงเข้าใส่เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่วิ่งหนีกันอย่างลนลาน ผู้ฝึกวรยุทธ์หลายคนนำอาวุธขึ้นมากำบังและปัดป้องจากเส้นแสงที่พุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย เส้นแสงที่ราวกับเข็มเล็กๆนั่นพุ่งทะลุอาวุธพวกเขาราวกับอาวุธพวกนั้นเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ! พลังเจาะทะลุทะลวงของมันทรงพลังยิ่งนัก! ไม่ว่าจะเป็นศาสตราวุธ ต้นไม้หรือแม้แต่ก้อนหินยักษ์ล้วนถูกประกายเส้นแสงสีขาวราวเข็มเล็กๆนั่นพุ่งเจาะทะลุทะลวง มันตรงเข้าปะทะกับร่างเหล่าผู้ฝึกยุทธ์นับพันในทันที!


                อึกกก


                ตุบบ


                เคร้ง!


                อ๊าาาาาา


    เหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ถูกเข็มเรียวเล็กที่อาบไปด้วยแสงสีขาวพุ่งทะลุร่างกาย พวกเขาทั้งหมดต่างล้มลงและต้องดิ้นทุรนทุลายด้วยความเจ็บปวด ราวกับถูกมดนับล้านตัวชอนไชเข้าสู่ร่างกายและเริ่มกัดกินร่างกายของเขา ที่บาดแผลรอยทะลุจากเข็มไปพุ่งทะลุทะลวงเริ่มปรากฏเป็นสีม่วงรอบๆบาดแผลเล็กๆนั่น แต่ไม่นานมันกลับรุกลามกระจายไปทั่วร่างกายของผู้ฝึกวรยุทธ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายของพวกเขาแปรสภาพกลายเป็นสีม่วงทั่วทั่งร่างทันที


    พิษ!


    มันต้องเป็นพิษชนิดรุนแรงอย่างแน่นอน เข็มนั่นอาบด้วยยาพิษ!


    ประกายแสงเส้นหนึ่งพุ่งตรงมายังจุดที่จินหลงล้มตัวอยู่ จินหลงเบิกตากว้างหลังจากที่เขาได้เห็นถึงพิษสงของมัน แต่ตัวเขานั้นได้รับบาดเจ็บก่อนหน้าอย่างรุนแรง ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้อย่างใจนึกคิด จินหลงคว้ากระบี่ไม้ขึ้นมาก่อนจะใช้มืดตวัดปลายกระบี่ไปยังทิศทางที่เส้นแสงนั่นพุ่งมา!


    ปึก!


    เส้นแสงสีขาวราวกับเข็มเรียวเล็กนั่นพุ่งปะทะกับกระบี่จินหลง เกิดประกายแสงเสียดสีกับกระบี่ของจินหลงอย่างหนักหน่วง แต่มันกลับไม่ทะลุทะลวงอย่างเช่นที่ผ่านมา เข็มนั่นยังคงพุ่งกดดันใส่ตัวกระบี่ของจินหลงที่ยังคงต้านทานมันอยู่ ด้วยแรงมศาลของพลังจากเส้นแสงนั่นทำให้ตัวจินหลงค่อยๆถูกดันให้ถอยหลังไปทีละก้าวๆ


    อึก!


    จินหลงยังคงกัดฟันแน่น! เขาพยายามออกแรงดันเส้นแสงสีขาวนั่นกลับไป แต่จินหลงไม่เหลือแรงพอที่จะดันมันกลับไป ไม่นานเส้นแสงสีขาวนั่นพุ่งทะลุทะลวงและปัดกระบี่ของจินหลงกระเด็นออกไปไกล และพุ่งเข้าเสียบทะลุเข้าที่กลางอกของจินหลงอย่างฉับพลัน


    ฉึก!


    จินหลงใช้มือกุมหน้าอกบริเวณที่เส้นแสงสีขาวนั่นพุ่งเข้าไป เขารู้สึกอย่างเจ็บปวดอย่างสุดแสนก่อนละล้มตัวไปด้านหน้า จินหลงรู้สึกได้ถึงพิษสีม่วงเข้มข้นที่พุ่งกระจายไปทั่วร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว มันชอนไชซอกซอนไปทั่วร่าง จินหลงพยายามสกัดกั้นพิษที่เข้าสู่ร่างกายโดยการใช้พลังลมปราณสกัดกั้นมัน


    พิษร้ายนั่นพิษสงของมันย่อมไม่ธรรมดา มันต่อต้านพลังลมปราณในร่างกายจินหลงก่อนจะผลักดันให้พลังลมปราณจินหลงแตกกระจาย ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปที่จุดตันเถียรของจินหลงเพื่อทำลายซึ่งการบ่มเพาะพลังของเขา!


    หลังจากเหตุการณ์ที่เหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ถูกโจมตีจากเส้นแสงสีขาวปริศนา พวกเขาทุกคนที่อยู่รอบบริเวณล้วนไม่มีผู้ใดรอดจากการโจมตีของเส้นแสงสีขาวได้ บัดนี้ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนถูกพิษจากเส้นแสงสีขาวนั่นกระจายไปทั่วร่างทำให้ร่างกายทุกส่วนของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง


    เสียงร้องโอดโอยดังระงม ไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงความโหดร้ายตรงหน้านี้มาก่อน พวกเขาไม่แม้แต่จะได้หลบหนีหรือแม้กระทั้งต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปที่จะสามารถรับมือได้ ต่อหน้าประกายแสงสีขาวนั่นพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย สิ่งที่รออยู่อย่างเดียวของพวกเขาคือความตาย!


    ช่วย.. ช่วยข้าด้วย!”


    ข้ายังไม่อยากตาย!”


    อ๊ากก


    แค่กๆ


    ชะ.. ช่วยข้าที


    ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถิดด


    ไว้ชีวิตข้า ข้าขอร้องท่านล่ะ!”


    เสียงร้องดังโอดโอยดังมา แม้แต่เหล่าผู้ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในแต่ละเหล่าผู้อาวุโสประจำแต่ละตระกูล! พวกเขาถึงแม้จะเป็นเสาหลักของแต่ละตระกูลแต่เมื่อมาเจอกับเหตุการณ์ตรงหน้า ประตูแห่งความตายที่กำลังเปิดอ้ารอพวกเขา ทำให้พวกเขานั้นร้องออกมาด้วยความน่าเวทนาแสดงถึงความสิ้นหวัง และไร้ซึ่งศักดิ์ศรีอีกต่อไป


    ผู้ฝึกวรยุทธ์หลายคนไม่อาจจะทนซึ่งความเจ็บปวดที่กัดกินพลังชีวิตของพวกเขาและทะยอยกันสิ้นชีพ ผู้คนที่อยู่โดยรอบจากทั่วทุกตระกูลเริ่มล้มตายกันราวกับใบไม้ร่วง หลงเหลือแต่เพียงผู้ที่มีวรยุทธ์สูงส่งบางคนที่ยังคงต่อสู้กับพิษร้ายที่เข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ผู้อาวุโสหลายคนทำได้เพียงจิกมือลงไปบนพื้นดินและอดทนอดกลั้นที่ไม่อาจช่วยคนในตระกูลได้


    พรึ่บ!


    กลุ่มก้อนพลังงานสีขาว ณ ใจกลางบึงมรกตเริ่มลดประกายแสงลง รูปร่างของสตรีนางหนึ่งค่อยๆปรากฏชัดเจนขึ้น นางล่องลอยอยู่กลางบึงมรกตราวกับเทพธิดาที่สวมใส่อาภรณ์ที่ขาวสะอาดบริสุทธิ์ ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา พวงแก้มสีชมพูและริมฝีปากนั่นสามารถมัดใจบุรุษได้อย่างง่ายดาย


    มนุษย์!?


    ทะ ท่านเป็นใครกัน!”


    ผู้อาวุโสแห่งตระกูลเฉิน แม้ร่างกายจะอ่อนล้าและดวงตาเริ่มพร่ามัวจากการได้รับพิษอย่างรุนแรง แต่เมื่อเห็นสตรีที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา หากเป็นเวลาปกติแล้วเขาคงจะหลงใหลกับความงดงามตรงหน้า แต่บัดนี้ทุกสายตาและทุกคำพูดที่เปล่งออกมามันกลับเต็มไปด้วยความหวาดหลัว เขาไม่สามารถควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติได้ ความกลัวได้ถูกฝังลึกเข้าสู่จิตใจของพวกเขาแล้ว


    วกเขาพียงจิกมือลงไปบนพื้นดินและอดทนอดกลั้นแล้ว งที่คับแค้น ลำพบางคนที่ยังคงต่อสู้กับพิษร้ายที่เข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ผู้อาวุโส

    เป็นแค่มนุษย์ตัวกระจ้อยริอาจมาบุกรุกอาณาเขตของข้า ทั้งยังกล้าแตะต้องสมบัติของข้าอีก!”


    สตรีตรงหน้าเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแต่น้ำเสียงของนางแฝงได้ความโกรธเกรี้ยวและความชิงชังอย่างสุดแสน


    ท่านผู้เยี่ยมยุทธ์! ได้โปรดให้อภัยพวกข้าที่โง่เขลาเบาปัญญา พวกข้าหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของท่าน ข้า.. ข้าจะคืนสิ่งที่ข้าหยิบฉวยจากท่านทั้งหมดรวมถึงข้าจะมอบสมบัติล้ำค่าที่ข้ามีติดตัวให้แก่ท่านทั้งหมด ได้โปรด! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย


    ชายแก่คนหนึ่งรีบกล่าวขึ้นอย่างหน้าสังเวช สองมือของมันรีบขยับร่างที่ไร้เรี่ยวแรงเพื่อหยิบวงแหวนมิติของตน ก่อนจะยกวงแหวนมิติเพื่อหยิบยื่นไปทิศที่สตรีนางนั้นอยู่ด้วยความหวาดกลัว


    นางหรี่สายตาเย็นชามองไปยังชายแก่ก่อนจะสะบัดแขนไปทิศทางที่ชายแก่นอนอยู่ พลันประกายแสงพุ่งเข้าหาชายแก่อย่างฉับพลัน ลำแสงนั่นคมราวกับใบมีด มันวาดผ่านศีรษะชายแก่ที่ยังคงนอนทุรนทุรายจากพิษได้อย่างเหมาะเจาะ ครั้นเมื่อลำแสงนั้นวาดผ่านศีรษะของชายแก่มันกลับตัดศีรษะชายแก่ในเสี้ยววินาที ชายแก่นั่นสิ้นใจในทันที ทั้งที่ร่างกายยังคงกระตุกจากพิษร้าย!


    โหดเหี้ยม! มันเป็นการฆ่าที่ไร้ซึ่งเสียง นางไม่แม้แต่จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใด นางฆ่าคนคนนึงได้โดยไม่กระพริบตา ! เหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ที่เห็นเหตุกาณ์ตรงหน้าล้วนแล้วแต่มีความคิดเฉกเช่นเดียวกัน สตรีนางนี้ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก นางคือปีศาจอย่างแท้จริง!


    พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ร้องขอชีวิต!”


    นางยกมือขึ้นอีกครั้งพลันวงแหวนมิติทั้งหมดรอบบริเวณทั้งจากศพที่สิ้นชีพไปแล้วหรือแม้แต่ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ วงแหวนมิติที่อยู่ในมือพวกเขาทั้งหมดราวกับถูกพลังลึกลับบางอย่างดึงดูดวงแหวนมิติของพวกเขา วงแหวนมิติทั้งหมดล้วนลอยละล่องไปอยู่ตรงหน้าของนางอย่างรวดเร็ว แน่นอนการกระทำของนางไม่มีใครที่คิดจะขัดขืน พวกเขาแม้ต้องแลกด้วยทุกอย่างที่เขามีเพื่อแลกกับชีวิตพวกเขาก็ยินยอม หากแต่มันคงไม่ง่ายเช่นนั้นเมื่อเห็นชายแก่ที่โดยปลิดชีพไปก่อนหน้านี้ พวกเขาได้แต่ถอดถอนหายใจและไม่กล้าที่จะปริปากเอื้อเอ่ยคำพูดใดๆออกมาอีก ทั้งยังปรากฏความคิดที่ว่า พวกเขาคงมิอาจรอดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราชตนนี้ได้เป็นแน่ ประตูสู่ความตายกำลังเปิดอ้าแขนรอรับพวกเขาอยู่!






    มุมนักเขียน :

    อัพให้อ่านกันแล้วนะคะ มาๆมาอ่านกันต่อได้เลยฮับบบ!!







    สรุปข้อมูลตัวละครปัจจุบัน
    ซุนจินหลง - อายุ 14 ธาตุภูผา ชั้นกำเนิดลมปราณ ระดับที่ 1
    ซุนลู่หยุน - ธาตุเหมันต์ ชั้นชะตาสวรรค์ ระดับที่ 4
    เจ้าเมืองวายุจันทรา - ชั้นลิขิตสวรรค์ ระดับที่ 1
    หลินไห่ , ซุนเสี่ยวซา - ชั้นลมปราณก่อตั้งระดับที่ 1
    มู่หยางติง - อายุ 14 ธาตุอัคคี ชั้นแรกเริ่ม ระดับที่ 4
    เฉินเจี้ยนเหา - อายุ 15 ธาตุแสงสว่าง ชั้นกำเนิดลมปราณ ระดับที่ 3


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×