ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Guardian of Dragon เทพกระบี่มังกรจอมราชันย์

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 28 วิธี

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.93K
      68
      1 ก.ย. 60

    บทที่ 28 วิธี


    การกลับมาของผู้อาวุโสเฉินและศิษย์หลักของสำนักมังกรใต้หล้า ผู้ซึ่งเหลือรอดเพียงสองคนที่สามารถกลับออกาจากป่ามรกต ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ของเมืองแมกไม้ ความโหดร้ายและการสูญเสียที่ใหญ่หลวงได้ทำให้เหล่าผู้คนในเมืองแมกไม้ต้องขวัญผวา ส่งผลให้ป่ามรกตได้ถูกปิดอาณาเขตและกลายเป็นสถานที่ปิดตายต้องห้าม โดยพวกเขาได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ป่ามรกตนั้นเต็มไปด้วยปีศาจที่โหดร้าย และยังเป็นอาณาเขตที่มีอสูรลึกลับผู้ปกป้องอาณาเขตของมัน มันสามารถสังหารผู้คนได้ภายในเสี้ยววิ หากผู้ใดก้าวล้ำอาณาเขตเข้าไปเพียงเล็กน้อย พวกมันจะมิเพียงแค่ตกตายแต่พวกมันจะต้องได้ลิ้มลองความทรมานอย่างสุดแสนสาหัส


    สำนักมังกรใต้หล้าซึ่งเสียเหล่าศิษย์หลักในสำนักมากมายพวกเขากลับมิได้ออกมาเคลื่อนไหวสิ่งใดเลย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้จินหลงแปลกใจยิ่งนัก ตามข่าวลือสำนักมังกรใต้หล้านับว่าเป็นสำนักที่รักพวกพ้อง หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับเหล่าศิษย์ โดยเฉพาะศิษย์หลักด้วยแล้วก็น่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรบ้าง แต่นี่กลับเงียบกริบไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย ทั้งยังมีการประกาศว่าป่ามรกตเป็นพื้นที่ต้องห้ามและห้ามมิให้ศิษย์จากสำนักมังกรใต้หล้าย่างกรายเข้าไปยังพื้นที่นั้นเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกไล่ออกจากสำนักโดยมิมีข้อยกเว้น


    จินหลงนั้นตัดสินใจยังไม่กลับไปที่ตระกูลเฉิน เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขาได้ก้าวเข้าไปยังอาณาเขตป่ามรกต จินหลงเฝ้ารอให้เวลาล่วงเลยผ่านไป และแม้เขาจะอยู่รอบนอกเมืองแต่ข่าวใหญ่ของป่ามรกตก็มาถึงหูเขาเช่นกัน สุดท้ายเวลาล่วงเลยไปถึงสามวันหลังจากข่าวการกลับมาทั้งสองผู้รอดชีวิต จินหลงจึงตัดสินใจกลับไปที่ตระกูลเฉินอีกครั้ง


    ตระกูลเฉิน


                นายน้อย นายน้อย!” เด็กรับใช้ของตระกูลเฉินวิ่งลนลานเข้ามาหาเจี้ยนเหาอย่างรีบเร่ง


                มีสิ่งใดหรือเจี้ยนเหาถามขึ้นพลางมองไปยังเด็กรับใช้


                สะ สหายของนายน้อยกลับมาแล้วขอรับ!” เจี้ยนเหาลุกขึ้นทันทีที่ได้ยิน เมื่อสามวันก่อนผู้อาวุโสเฉินกลับมายังตระกูลพร้อมข่าวร้าย เจี้ยนเหาทราบเรื่องว่ามีเพียงแค่ผู้อาวุโสและศิษย์ของสำนักใต้หล้าที่รอดชีวิตกลับมาเพียงแค่สองคน หลังจากการสอบถาม เจี้ยนเหาไม่รู้เลยว่าจินหลงที่เดินทางไปพร้อมกับผู้อาวุโสนั้นเป็นตายร้ายดีอย่างไร เขาทราบเพียงว่าจินหลงนั้นได้แยกทางกับคนของตระกูลเฉินที่บริเวณปากทางเข้าป่ามรกต และแม้แต่ตัวผู้อาวุโสเองก็ไม่มั่นใจว่าจินหลงได้ย่างกรายเข้าไปในป่ามรกตหรือไม่


    หลังจากนั้นเจี้ยนเหาได้เตรียมที่จะไปตามหาจินหลงในป่ามรกต แต่ทางสำนักมังกรใต้หล้ากลับประกาศให้พื้นที่ป่ามรกตเป็นเขตต้องห้าม และห้ามมิให้ผู้ใดย่างกรายเข้าไปใกล้อาณาเขตโดยโดยเด็ดขาด เจี้ยนเหาจึงทำได้เพียงออกตามหาในบริเวณห่างออกไป แต่เขาก็ไม่พบตัวจินหลงเลย แต่แล้ววันนี้จินหลงกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง!


    น้องจินหลง! เจ้าหายไปอยู่ที่ใดมา!” ทันทีที่เจี้ยนเหาเห็นจินหลง เขาก็รีบตรงปรี่เข้าไปหาจินหลงทันที


    พี่ใหญ่ข้าทำให้ท่านเป็นห่วงแล้วจินหลงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่าอย่างเด็ดขาด


    เมืองแมกไม้ช่างกว้างใหญ่ยิ่งนัก หลังจากแยกจากผู้อาวุโส ข้าก็เดินดูรอบๆเมืองทั้งข้ายังได้สมุนไพรดีดีมาอีกมากมาย พี่ใหญ่ท่านดูสิ จินหลงหยิบเอาสมุนไพรหายากบางชนิดขึ้นมาให้เจี้ยนเหาดู แท้จริงแล้วสมุนไพรพวกนี้เป็นสิ่งที่จินหลงมีอยู่ก่อนแล้ว เขาเพียงแค่ต้องการสร้างเรื่องเพื่อให้เจี้ยนเหาเข้าใจว่าเขาหายไปเพราะมัวแต่สนใจเมืองและสมุนไพรพวกนี้


    สมุนไพรพวกนี้นับว่าเป็นสมุนไพรชั้นดี แต่สมุนไพรพวกนี้หากเจ้าต้องการ เจ้าสามารถบอกข้าได้ ข้าจะให้เด็กรับใช้หามาให้เจ้าเองเจี้ยนเหากล่าวกับจินหลงก่อนจะถอนหายใจออกมา


    เจ้าได้ยินข่าวเกี่ยวกับป่ามรกตแล้วใช่หรือไม่


    แน่นอนพี่ใหญ่ เมื่อสามวันก่อน ระหว่างที่ข้ากำลังเดินเล่นข้าได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากคนในเมืองแล้ว ข้าเสียใจด้วยพี่ใหญ่ที่คนของตระกูลท่าน…”


    จินหลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด จินหลงได้แต่คิดว่าถ้าหากเขารีบช่วยเหลือคนของตระกูลเฉินได้เร็วกว่านี้แม้ซักวินาที พวกเขาอาจจะรอดก็เป็นได้


    เจี้ยนเหานั้นหารู้ไม่ว่าน้ำเสียงที่จินหลงกล่าวเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เจี้ยนเหาคิดเพียงว่าจินหลงนั้นคงรู้สึกโศกเศร้าแทนเขาที่ต้องเสียพี่น้องในตระกูล


                เจี้ยนเหาได้เล่าเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้อาวุโสซึ่งรอดชีวิตกลับมาให้จินหลงฟัง แม้ว่าจินหลงจะทราบดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ทำเพียงพยักหน้าและตั้งใจฟังเงียบๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูลเฉินอย่างมาก เจี้ยนเหายังกล่าวกับจินหลงอีกว่า นับว่าโชคดีมากแล้วที่ผู้อาวุโสสามซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่เปรียบเสมือนเสาหลักของตระกูลรอดชีวิตกลับมาได้ เพราะผู้อาวุโสสามคนนี้มีหน้าที่คอยดูแลคนรุ่นใหม่ของตระกูล เขานับเป็นคนที่มีความสามารถสูงสุดคนหนึ่งในตระกูลเลยทีเดียว และนอกจากบอกเล่าเรื่องราวภายในป่ามรกตแล้ว เจี้ยนเหายังกำชับกับจินหลงอีกว่า ห้ามเข้าไปใกล้บริเวณป่ามรกตอย่างเด็ดขาด


    สาเหตุที่ข้าห้ามไม่ให้เจ้าเข้าไปใกล้บริเวณป่ามรกต ไม่ใช่เพียงเพราะมันอันตรายเท่านั้น แต่สำนักมังกรใต้หล้าได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าป่ามรกตเป็นพื้นที่ต้องห้าม ยิ่งเจ้าต้องการเข้าเป็นศิษย์ของสำนักด้วยแล้ว เจ้ายิ่งห้ามฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด


    ไม่ว่าทางสำนักมังกรใต้หล้าจะมีสาเหตุอะไรถึงทำเช่นนี้ แต่พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าหากไม่สนใจคำประกาศของสำนักมังกรใต้หล้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น


    เจี้ยนเหายังกล่าวอีกว่า หลังจากมีข่าวเรื่องป่ามรกต ทางสำนักมังกรใต้หล้าได้เลื่อนการทดสอบให้มีการเข้าสำนักให้เร็วขึ้น โดยการทดสอบจะมีขึ้นให้อีกสองสัปดาห์ข้างหน้า


    ไม่นานนักหลังจากพูดคุยกันเสร็จ จินหลงจึงขอตัวไปหาหยางติงที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในตระกูลเฉิน


                พี่หญิงอันอันจินหลงส่งเสียงผ่านทางจิตเพื่อเรียกเทพมังกรสาว เวลาผ่านไปซักพักเทพมังกรสาวก็ยังไม่ตอบ จินหลงจึงได้แต่ถอนหายใจ แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องพักที่หยางติงอยู่แทน


    ร่างกายที่ซีดเซียวประกอบกับดวงตาหม่นแสง มันทำให้หยางติงนั้นราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ ภาพที่จินหลงเห็นนั้นทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์ ก่อนที่เขาจะรีบปรับสีหน้าให้กลับเป็นปกติแล้วส่งเสียงทักทายหยางติงอย่างอารมณ์ดี


    เฮ้ นี่เจ้าคิดถึงบ้านของเจ้าขนาดนั้นเลยหรือ!”


    ทันทีที่ได้ยินเสียงหยางติงก็หันหน้ามาทางต้นเสียงทันที แน่นอนว่าเขาจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของจินหลง ภาพตรงหน้าทำให้เขาต้องเบิกตากว้างขึ้นทันที


    จินหลง! เจ้าไปอยู่ที่ใดมา! แค่กๆ


    เมื่อหยางติงได้เห็นจินหลง เขาก็ส่งเสียร้องออกมาด้วยความตกใจ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความตกใจแต่มันก็แสดงออกมาถึงความเป็นห่วงเป็นใยได้อย่างชัดเจน


    จินหลงเห็นท่าทางที่อ่อนแรงของหยางติง จึงรีบเขาไปประคอง แล้วเล่าเรื่องราวให้หยางติงฟัง แน่นอนว่าเรื่องที่เขาเล่านั้นเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเหมือนที่เล่าให้เจี้ยนเหาฟัง


    เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว


    แล้วเจ้าล่ะเป็นเช่นใดบ้าง


    เมื่อจินหลงถามขึ้น หยางติงกลับชะงักไปชั่วครู่ แต่ผ่านไปไม่นานเขาก็ปรับสีหน้า  พร้อมกับพูดขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ


    ข้าจะเป็นเช่นใด ข้าก็สบายดีน่ะสิ กินๆนอนๆ สบายจะตายไป อ้อ จริงสิ หลายวันมานี้พี่เจี้ยนเหาดูข้าอย่างดีเลย เจ้าไม่ต้องห่วงข้า


    หยางติงยิ้มให้จินหลงเล็กน้อย เขาต้องการจะบอกกับจินหลงว่าตัวเขานั้นไม่เป็นอะไรมาก จินหลงได้แต่พยักหน้าเล็กน้อย พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่จินหลงจะขอตัวเพื่อกลับไปพักผ่อนยังห้องของเขา


    หึ ร่างกายบาดเจ็บอย่างรุนแรง พลังวิญญาณอยู่ในสภาพที่ถูกทำลาย กระดูกสันหลังแตกหัก แม้แต่จุดตันเถียรก็ยังถูกทำลาย น่าสมเพศ ทำไมเจ้ามนุษย์นั่นถึงอยู่ในสภาพเช่นนี้กัน


     เสียงของเทพมังกรสาวดังขึ้น ส่งผลให้จินหลงตอบกลับเทพมังกรสาวทันที

    เขาเป็นสหายของข้าเอง ไม่สิ หยางติงนั้นเปรียบเสมือนพี่น้องของข้า เขาถูกพวกคนชั่วมันทำร้าย จึงกลายเป็นเช่นนี้ ซักวันข้าจะต้องแก้แค้นให้หยางติง!”


    จินหลงพูดกับเทพมังกรสาวแล้วความเคียดแค้น


    ต้องทนอยู่ในสภาพนี้ ข้าว่าให้สหายของเจ้าตายๆไปซะยังจะดีกว่าเทพมังกรสาวพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา


    ท่านไม่มีสิทธิ์มาตัดสินชีวิตคน! เขาเป็นพี่น้องของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาตาย และไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานซักเท่าไร ข้าจะต้องหาหนทางรักษาเขาให้ได้!”


    ถึงแม้จะเป็นถึงเทพมังกร แต่ใครก็ตามที่พูดขึ้นพี่น้องของเขาให้ไปตายเช่นนี้ จะเป็นใครหน้าไหนจินหลงก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน


     แม้ข้าจะไม่รู้ว่าศัตรูของเจ้าเป็นใคร แต่ข้าบอกเจ้าได้อย่างนึง ด้วยพลังของเจ้าในตอนนี้ เจ้าก็เหมือนขยะ ที่รนหาที่ตายก็เท่านั้น


    จริงอยู่ที่ในตอนนี้ข้าอ่อนแอ แต่ซักวันข้าจะต้องเก่งขึ้นกว่านี้ มีพลังที่มากกว่านี้ และข้าจะไม่ปล่อยให้คนใกล้ตัวข้าต้องมีชะตากรรมเช่นนี้อีก


    จินหลงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่


    จะว่าไป ทำไมเจ้าจะต้องใช้เวลาหาหนทางเพื่อช่วยสหายเจ้าล่ะ ทำไมไม่ทำซะตั้งแต่ตอนนี้ หรือว่าเจ้าอยากจะเห็นสหายเจ้าใช้ชีวิตเช่นนี้กัน


    พี่เจี้ยนเหา ได้พยายามรักษาเขาแล้ว ละแม้แต่นักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุดของตระกูลเฉินก็ยังมิอาจรักษาเขาให้หายได้


    หึ!” เทพมังกรสาวส่งเสียงในลำคอออกมา แม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆแต่จินหลงก็สัมผัสได้ถึงเสียงที่บ่งบอกถึงความดูถูกของนางที่มีต่อมนุษย์เช่นเขา


    เจ้าลืมอะไรไปหรือเปล่า ข้าถูกขนานนามว่า มังกรแห่งปราชญ์ความรู้!”


                ท่านสามารถรักษาเขาได้หรือ!”


                จินหลงไม่รอช้า เขารีบเข้าไปยังมิติกระบี่ เพื่อไปพบเทพมังกรสาว ภายในมิติกระบี่ จินหลงเห็นเทพมังกรสาวยืนมองมาทางเขาด้วยสายตาเย็นชา จนเขาไม่สามารถเดาได้ว่าเทพมังกรสาวตนนี้กำลังคิดเช่นใดอยู่


                พี่หญิงอันอัน ท่านมีวิธีรักษาสหายของข้าเช่นนั้นหรือ


                สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เช่นเจ้า หาได้ซับซ้อนไม่ การจะรักษาสหายของเจ้าจึงมิใช่เรื่องยากสำหรับข้า แต่สำหรับเจ้าแล้ว ข้าคิดว่ามันคงไม่ง่าย…”


                เทพมังกรสาวหรี่สายตาลง และยืดตัวขึ้น แสดงออกถึงความภูมิใจในตนเอง นางคิดว่านางนั้นเหนือว่ามนุษย์เช่นจินหลงอย่างมาก


                ท่านหมายความว่าอย่างไร


                ถ้าจะให้ข้าพูดสั้นๆ เจ้าจงคำนับข้าเป็นอาจารย์ และมาเป็นศิษย์ของข้าซะ ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีการเป็นนักปรุงยา!”


                เทพมังกรสาวพูดขึ้นด้วยเสียงที่หนักแน่น จินหลงไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของนางได้เลย นางนั้นมักจะแสดงออกอยู่เสมอว่าไม่ชอบมนุษย์เช่นเขา ทั้งยังดูถูกและดูหมิ่นมนุษย์ จากที่เขาเห็นมันชัดเจนว่า นางไม่แม้จะอยากพูดคุยกับเขาด้วยซ้ำแม้จะอาศัยอยู่ในมิติของเขาก็ตาม แล้วเหตุใดกันนางถึงต้องการช่วยเขา



    * ขอบคุณสำหรับการรอคอยค่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×