คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : บทที่ 31 หมูในอวย
บทที่ 31 หมูในอวย
จินหลงกำชับผ้าคลุมที่ปกปิดใบหน้าของเขา
ก่อนจะย่างกรายออกจากจุดที่ซ่อนตัว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปรากฎตัวออกมา
ด้วยระดับการบ่มเพาะพลัง
จินหลงทราบดีว่าไม่อาจจะหลบหนีจากกลุ่มศิษย์นอกพวกนี้ได้อย่างแน่นอน
ทางเลือกเดียวคือต้องสู้!
“อ้าวๆข้าก็คิดว่าเจ้าจะหลบอยู่อย่างนั้นเสียอีก”
“เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
จริงๆพวกข้าก็มิใช่คนใจร้าย หากเจ้ายอมทิ้งป้ายของเจ้าไว้แล้วจากไปแต่โดยดี
บางทีพวกข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปก็ได้นะ”
เหล่าศิษย์นอกพูดขึ้นเมื่อเห็นจินหลงก้าวออกมาจากที่ซ่อน
ความจริงแล้วพวกมันไม่มีความคิดที่จะปล่อยตัวจินหลงไปอยู่แล้ว
พวกมันทุกคนล้วนหยิ่งผยองและคิดว่าตนมีพลังที่แข็งแกร่งสามารถรังแกคนที่อ่อนด้อยกว่าตนได้
พวกมันจนมองจินหลงราวกับ หมูในอวย
แม้ว่าจินหลงจะมีระดับการบ่มเพาะพลังที่อ่อนด้อยกว่า
แต่สายตาภายใต้ผ้าคลุมสีดำกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
จินหลงนั้นเห็นถึงความเลวร้ายของกลุ่มคนตรงหน้า
พวกมันทำร้ายคนที่ไร้ซึ่งทางสู้ด้วยสีหน้าและท่าทางที่สนุก
ราวกับเล่นสนุกบนความทุกข์ของคนอื่น เขาจึงไม่มีความลังเลหากจะต้องต่อสู้เขาก็พร้อมที่จะสู้
“เจ้ามีปัญญาชนะคนพวกนี้หรือ”
เสียงเทพมังกรสาวดังขึ้นในห้วงความคิดของจินหลง
“หากข้าไม่สั่งสอนคนพวกนี้ พวกเขาคงต้องไล่ทำร้ายคนอื่นอยู่เช่นนี้เรื่อยไป
แม้ข้าจะมีระดับการบ่มเพาะพลังที่ต่ำกว่าพวกเขา แต่ข้าคิดว่าข้ามีวิธีที่จะสอนให้คนพวกนี้ได้รู้ถึงคำว่า
เหนือฟ้ายังมีฟ้า”
จินหลงลอยตัวขึ้นในอากาศอย่างฉับพลัน สร้างความตกใจให้พวกศิษย์นอกอย่างมาก
ตามที่เหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ทราบกัน ผู้ที่สามารถล่องลอยและทะยานไปบนอากาศได้
จะต้องบรรลุถึงขั้นชะตาสวรรค์แล้วเท่านั้น แต่กับชายตรงหน้าพวกเขา
เป็นเพียงชายชุดดำที่พวกเขาสัมผัสพลังได้เพียงระดับกำเนิดลมปราณเพียงเท่านั้น
แล้วเหตุใดจึงทะยานไปบนอากาศได้
จินหลงเรียกกระบี่ไม้ของตนขึ้นมา
ก่อนจะพุ่งใส่ศิษย์นอกของรวดเร็วโดยมิทันให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว
เขาตวัดกระบี่ฟันเข้าไปยังกลางลำตัวของศิษย์นอกคนหนึ่งอย่างรวดเร็วจนชายคนนั้นร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
อ้าาาาาาา
เมื่อเห็นสหายของตนถูกทำร้ายจนเลือดไหลอาบ
ใบหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไปในทันที ไม่หลงเหลือซึ่งความหยิ่งผยองก่อนหน้า
ชายชุดดำตรงหน้าพวกเขายังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เขายังพุ่งปะทะกับเหล่าศิษย์นอกที่เหลืออย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง
“มันเป็นใครกัน!” ศิษย์นอกหลายคนเริ่มโวยวาย
พวกเข้าล้วนได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปะทะกับชายชุดดำตรงหน้า
เห็นได้ชัดว่าจินหลงมิได้ต้องการสังหารพวกเขา
แต่การโจมตีของจินหลงนั้นมาจากพลังกายและกระบวนท่ากระบี่ที่รุนแรง
ทำให้เหล่าศิษย์นอกหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัด
“กระบวนท่าของมันมีบางอย่างแปลกประหลาด”
“ข้าก็สัมผัสได้
ทุกครั้งที่ข้าปะทะกับมันข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าหนักขึ้น!”
“มันมีระดับการบ่มเพาะพลังเช่นใดกันแน่ หรือว่ามันจะปกปิดพลังเอาไว้
มันอยู่ระดับชะตาสวรรค์”
“เจ้าจะบ้าหรือไงเป็นไปไม่ได้ เจ้าสัมผัสไม่ได้หรืออย่างไร! มันอยู่ชั้นกำเนิดลมปราณ”
“ถูกต้อง! พวกเราไม่จำเป็นต้องไปหวาดกลัวมัน
หากพวกเราร่วมมือกัน ต้องชนะมันแน่นอน!”
แท้จริงแล้วทักษะทั้งหมดที่จินหลงได้ใช้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงทักษะที่เทพมังกรแห่งภูผาได้สอนเขาไว้แต่เพียงเท่านั้น
ผนวกกับกระบวนท่ากระบี่ของตระกูลกระบี่สวรรค์ที่เข้าได้ฝึกฝนมาทั้งชีวิต
ทำให้กระบวนท่าที่อ่อนช้อยงดงามตามต้นตำรับของตระกูลกระบี่สวรรค์แฝงไปด้วยความหนักหน่วงและดุดันที่จินหลงหลวมรวมพลังธาตุแห่งภูผาเข้ากับวรยุทธ์กายามังกรสีชาด
อีกทั้งยังใช้พลังแรงโน้มถ่วงซึ่งเป็นทักษะลับเฉพาะ
ทำให้ทุกครั้งที่เขาตวัดกระบี่หรือฟาดฟันกระบี่ออกมาจะมีน้ำหนักและความหนักหน่วง
ทั้งยังมีพลังแรงโน้มถ่วงที่จินหลงใส่มันเข้าไปในกระบี่
ด้วยสติปัญญาความสามารถประยุกต์ใช้พลังของจินหลง
เขาทั้งทำให้สิ่งของหรืออาวุธที่สัมผัสถูกของกระบี่ของเขามีน้ำหนักมากขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนทิศทาง
ทั้งยังทำให้มันเบาเพื่อตีโต้กลับอย่างรุนแรงโดยมิให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว
สิ่งที่เกิดขึ้น แม้จินหลงจะทำได้เพียงปรับเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงจากการโจมตีต่างๆได้เพียงเล็กน้อยจากจุดที่อาวุธสัมผัสกัน
แต่นั่นก็สร้างความฉงนงงงวยให้กับเหล่าศิษย์นอกได้เป็นอย่างดี
เพียงแค่เสี้ยววิที่ปะทะกันมันกลับเป็นจุดเปลี่ยนของการต่อสู้! เหล่าศิษย์นอกนั้นสัมผัสได้ว่าตนมีพลังที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน
แต่พวกเขาหารู้ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การโจมตีของพวกเขาไร้ผลอยู่เสมอ ราวกับชายชุดดำเบื้องหน้าพวกเขาสามารถอ่านออกทุกการเคลื่อนไหวและการกระทำ
แต่หารู้ไม่ว่าจินหลงเพียงแค่ควบคุมแรงโน้มถ่วงเล็กน้อย
เพื่อให้การโจมตีเกิดการสับสนและทำให้การเคลื่อนไหวชะงักไปชั่วครู่
แล้วสวนกลับอย่างรุนแรงแทน
“ส่งป้ายของพวกเจ้ามาซะ ไม่เช่นนั้น...”
อั้กก
จินหลงคว้าไปที่แขนของศิษย์นอกคนหนึ่งเข้ามาใกล้ตัวก่อนจะกระชากชายคนนั้นลงพื้นด้วยความรุนแรงเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
เขาก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนตัวของศิษย์นอกผู้เคราะห์ร้ายก่อนจะพูดด้วยเสียงเย็นเหยียบอีกครั้ง
“ข้าจะพูดอีกครั้ง ส่งป้ายทั้งหมดที่พวกเจ้ามีมาให้ข้า แล้วไสหัวออกไปจากที่แห่งนี้ซะ!”
ตอนแรกพวกเขามีอยู่ด้วยกัน
7 คน แต่บัดนี้ สองคนกลับถูกจินหลงซัดจนหมดสติไป
ส่วนหกคนที่เหลือแม้จะยังมีสติอยู่ แต่ล้วนได้รับบาดเจ็บกันทั้งนั้น
พวกเขามองไม่เห็นทางที่จะชนะชายตรงหน้าได้เลย
พวกเขานั้นล้วนมีการบ่มเพาะพลังในขั้นกำเนิดลมปราณขั้นสูง
และหนึ่งในพวกเขาที่มีพลังการบ่มเพาะมากที่สุด คือกำเนิดลมปราณ ระดับ7
แต่กลับเอาชนะผู้ที่อยู่ในระดับ1 ขั้นกำเนิดลมปราณไม่ได้
ทั้งหกคนที่เหลือเริ่มหันหน้ามองกันด้วยความลังเล
ศิษย์นอกคนหนึ่งที่ถูกจินหลงโจมตีจนแขนและขาซ้ายหัก รีบใช้แขนขวาหยิบเอาป้ายออกมาแล้วรีบโยนไปทางจินหลงทันที
ก่อนที่คนที่เหลือทั้งห้าจะทำแบบเดียวกัน หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งออกจากพื้นที่นี้และทิ้งสหายทั้งสองที่หมดสติและหนีเอาตัวรอด
โดยมิเหลียวหลังกลับมามองจินหลงอีกเลย
แต่ถึงอย่างนั้นจินหลงก็ไร้ซึ่งความสนใจต่อศิษย์นอกที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
เขาปรายตามองไปยังป้ายที่ศิษย์นอกพวกนั้นทิ้งไว้
“โอ้โห เจ้าพวกนั้นแย่งชิงป้ายมาได้เยอะแยะถึงเพียงนี้เชียว”
เทพมังกรสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นจำนวนแผ่นป้ายทั้งหมด
มันมีทั้งแผ่นป้ายหินสีขาว 5 แผ่น และยังมีแผ่นป้ายไม้กว่า 20 แผ่น
จินหลงเดินไปเก็บแผ่นป้ายพวกนั้นขึ้นมา
ก่อนจะเดินไปยังร่างที่หมดสติของศิษย์นอกทั้งสอง
และหยิบเอาทั้งแผ่นป้ายที่เหลือขึ้นมา ดังนั้นจินหลงจึงมีแผ่นป้ายสีขาวของศิษย์นอก
7 แผ่น และ แผ่นไม้อีก 22 แผ่น
เมื่อรวบรวมแผ่นป้ายจบหมดจินหลงก็ทะยานหายเข้าไปยังป่าอีกด้านหนึ่งทันที
ทิ้งไว้แต่เพียงร่างของศิษย์นอกที่นอนจมกองเลือด ราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ
อั้ก..
ตุบ
จินหลงที่เร่งทะยานออกจากจุดเกิดเหตุค่อยๆ
เมื่อออกมาได้ระยะที่ไกลพอสมควรเขาก็ลดความเร็วลงและทะยานลงสู่ผืนป่าอันเงียบสงบ
เมื่อขาแตะถึงพื้นจินหลงก็กระอักเลือดออกมากองโต
ก่อนจะค่อยๆทรุดตัวลงนั่งและเอนกายไปกับต้นไม้ต้นใหญ่ที่สูงเสียดฟ้าปกคลุมบริเวณที่จินหลงอยู่
“เฮ้ออ ข้าคิดว่าข้าจะไม่รอดเสียแล้ว”
จินหลงรำพึงรำพันกับตนเอง
แท้จริงแล้วการต่อสู้เมื่อครู่เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงเช่นกันเมื่อต้องปะทะกับผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าตน
แต่ถึงแม้เขาจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็อดทนฝืนกลั้นมิให้พวกศิษย์นอกได้รับรู้ว่าเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
และทำทีเป็นไม่รู้สึกรู้สากับการโจมตีต่างๆ
ตั้งสมาธิเพื่อจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เพราะจินหลงมั่นใจว่า
หากการต่อสู้ยืดเยื้อนานไปมากกว่านี้จะต้องเป็นเขาที่พ่ายแพ้อย่างแน่นอน
เขาจึงต้องใช้ไหวพริบเพื่อให้พวกศิษย์นอกยอมรามือไปเอง
“หึ เจ้าหนูฝีปากเจ้าคงจะดีกว่าฝีมือการต่อสู้ล่ะสินะ”
“ข้าว่าท่านก็คงจะติดใจในฝีปากข้ามากขึ้นละสิ”
จินหลงตอบเทพมังกรสาวอย่างอารมณ์ดี
ใช่แล้วเขาจะต้องอารมณ์ดีมีความสุขอย่างแน่นอน
ก็ตอนนี้เขาสามารถรวบรวมแผ่นป้ายได้มากมายถึงเพียงนี้
แม้จะต้องแลกกับอาการบาดเจ็บ
แต่สุดท้าย ข้าก็เป็นฝ่ายชนะ ไม่เพียงแต่ฝีมือทางด้านวรยุทธ์แต่เพียงเท่านั้น
ข้าว่าฝีปากและสมองอันชาญฉลาดก็เป็นสิ่งที่ขาดมิได้เช่นกัน
จินหลงได้แต่คิดและชื่นชมในตนเองอยู่นาน
จนเทพมังกรสาวรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาจนต้องเรียกจินหลงเข้าไปในมิติกระบี่
ก่อนจะตบจินหลงจนกระเด็นตกน้ำไปโดยที่เจ้าตัวมิทันตั้งตัวอีกหนึ่งครา
“เฮ้! ข้าบาดเจ็บอยู่นะ!
ท่านชอบเล่นทีเผลอทุกที!”
“หรือจะเอาตอนที่เจ้าไม่เผลอแบบตอนนี้ก็ได้นะ...”
ไม่ทันขาดคำจินหลงก็ถูกซัดปลิวไปอีกรอบ จนเขาได้แต่ร้องโหยหวนและครำครวญอยู่ในใจ นี่ท่านเห็นข้าเป็นอะไรกัน ข้ามิใช่ศิษย์ของท่านหรือไร! ข้าเป็นศิษย์ของท่านนะ !
ความคิดเห็น