เนื้อหาเยอะมากๆ เลยนะค่ะ อาจจะอ่านจนตาลายเลยก็ได้ นี่แค่ส่วนหนึ่งนะค่ะ
ถ้าอยากให้ลงหมดเลยก็บอกได้นะค่ะ มีตารางเรียนด้วยนะ
(ด้านล่างตอบคำถามของ คห. 23 นะค่ะ)
ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีเป็นประเทศในซีกโลกตะวันออกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 มาอย่างโชกโชน ผ่านการถูกยึดครองจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านการเกิดสงครามกลางเมืองจนทำให้ประเทศต้องแบ่งแยกออกเป็น 2 ประเทศ เมื่อมาถึงช่วงกลางและปลายศตวรรษเกาหลีได้เลือกทางเลือก 2 ทาง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างใหม่ที่เกิดขึ้นในสังคมคือความเป็นโลกไร้พรมแดน และโลกยุคข้อมูลข่าวสาร 2 ทางเลือกที่ว่านั้น ทางเลือกหนึ่งคือความเป็นประชาธิปไตยของระบบการเมือง ที่สองคือการเป็นสังคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ที่ทัดเทียมกับประเทศที่เจริญแล้ว
ในเอกสารชื่อ The Koreans (1993 : 85 - 87) ได้ประกาศความพยายามของประธานาธิบดี คิม ยัง ซัม ที่จะทำให้เกาหลีเป็นเกาหลีใหม่ (New Korea) คือเป็นเกาหลีในศตวรรษที่ 21 โดยการปฏิรูปทุกด้านของเกาหลีเพื่อให้สังคมเกาหลีเป็นสังคมเปิดมากขึ้นหลากหลายมากขึ้นและกระจายอำนาจมากขึ้น โดยมีเป้าหมายพื้นฐานอยู่ที่การส่งเสริมค่านิยมแบบประชาธิปไตย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ส่งเสริมเศรษฐกิจในระบบการตลาดส่งเสริมการอยู่รวมกันอย่างสันติสุข และการมีบทบาทกว้างขวางขึ้นในสังคมระหว่างชาติ การจัดงาน Expo 93 อย่างยิ่งใหญ่ ที่เมืองแตจง (TAEJON) ในช่วง 7 สิงหาคม ถึง 7 พฤศจิกายน 1993 นั่นคือสัญญาณอย่างหนึ่งของการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของเกาหลี
เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายที่ต้องการเกาหลีเน้นหนักที่การลงทุนพัฒนาคน โดยมีความเชื่อว่าการพัฒนาคนนั้น ไม่ใช่สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชาวเกาหลีเท่านั้น แต่ยังมีผลดีถึงมนุษยชาติโดยรวมด้วย
ยุทธศาสตร์ของการปฏิรูปการศึกษา
ดังได้กล่าวไว้แล้วว่าประเทศเกาหลีให้ความสำคัญแก่การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนหลักจากการพ้นจากการยึดครองของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1945 รัฐบาลและประชาชนเกาหลีต่างมีความกระตือรือร้นที่จะพยายามและรับการศึกษาจนได้ชื่อว่า คลั่งการศึกษา (Educational Fever) แต่ถึงทศวรรษ 1990 ความคิดเรื่องการปฏิรูปการศึกษาได้เกิดขึ้นแทนความคิดเรื่องการขยายการศึกษาซึ่งกระทำมาตลอดเวลา 4 ทศวรรษ ผลของการขยายการศึกษาได้ทำให้เยาวชนเกาหลีเข้ามาสู่ระบบการศึกษาอย่างน่าพอใจ ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นมีอัตราการเข้าเรียนสูงถึงเกือบ 100% ในระดับอุดมศึกษามีสูงถึง 50% ทั้งนี้ยังไม่รวมการศึกษานอกระบบที่มีรูปแบบหลากหลาย
ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อมีความต้องการที่จะปฏิรูปการศึกษา สาธารณรัฐเกาหลีดำเนินการอย่างไรบ้างเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายที่ต้องการ ทั้งนี้เพื่อนำมาเป็นบทเรียนของการปฏิรูปการศึกษาไทยต่อไป
จากการศึกษาการปฏิรูปการศึกษาของสาธารณรัฐเกาหลีจากเอกสาร และการศึกษาดูงานจากระบบปฏิบัติจริง พบว่าสาธารณรัฐเกาหลี ได้ดำเนินการอย่างน้อย 3 ประการคือ
---- 1. การจัดให้มีองค์กรสูงสุดที่ทำหน้าที่กำหนดทิศทาง และกำกับดูแลโครงการปฏิรูป จากระดับบนของโครงสร้างการบริหาร
---- 2. มีการกำหนดปรัชญา แนวคิดและแนวปฏิบัติใหม่อย่างชัดเจนและเป็นระบบ
---- 3. ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ พร้อมกับมีระบบสนับสนุนที่ชัดเจน
แนวความคิดในการจัดการศึกษาเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ปรารถนา แนวทางของการจัดการศึกษาตามครรลองของความความคิดปรัชญาที่มุ่งไปสู่ระบบเปิดทางการศึกษา ได้แก่
............2.4.1 ระบบการเรียนแบบสะสมหน่วยกิต (Credit Bank System) ที่ผู้เรียนใน ระบบการศึกษาแบบเปิด สามารถเรียนสะสมหน่วยไว้จนครบหลักสูตรได้ เพื่อทำให้ไม่เกิดอุปสรรคระหว่างการเรียน และการสอน
............2.4.2 ขยายโปรแกรมการเรียนในมหาวิทยาลัยและโรงเรียนเพื่ออำนวยความ สะดวกให้แก่คนในชุมชนที่จะเข้าศึกษาในบางโปรแกรมของมหาวิทยาลัย
............2.4.3 การลงทะเบียนเรียนแบบนอกเวลาหรือบางเวลา เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ที่มีงานทำ
............2.4.4 จัดโปรแกรมการศึกษาให้มีหลายรูปหลายแบบ เพื่อตอบสนองความคิด ที่มีหลากหลายของผู้เรียน
............2.4.5 ให้อิสระในการย้ายสถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยมศึกษา หรือมหาวิทยาลัย
............2.4.6 ลดจำนวนหน่วยกิตของแต่ละวิชาเอกลงอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 6 ของปัจจุบัน และลดพรมแดนของภาควิชาลง
............2.4.7 ต้องจัดการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่ชุมชนชนบท อุปกรณ์การสอนสมัย ใหม่ต้องมีไม่ให้ขาด
............2.4.8 ขยายการศึกษาให้แก่ผู้หญิงและคนชรา
............2.4.9 จัดการศึกษาผู้ใหญ่ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใหญ่
............2.4.10 สร้างระบบสนับสนุนการเรียนการสอนทางไกลทั้ง ซีดี - รอม เคเบิล ทีวี วิดีโอ เป็นต้น
............2.4.11 จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเพื่อเป็นการนำร่อง การเรียนในระบบสะสม หน่วยกิต
ปรับปรุงหลักสูตรและตำราเรียน
เกาหลีให้ความสำคัญแก่การปรับปรุงหลักสูตรเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เริ่มใช้การศึกษาอย่างเป็นระบบ เกาหลีได้มีการปรับปรุงหลักสูตรขนานใหญ่มาแล้ว 6 ครั้งโดยครั้งสุดท้ายในปี 1992 ได้ปรับปรุงบนหลักการต่อไปนี้คือ
---- 1. การกระจายอำนาจการตัดสินใจเรื่องหลักสูตรออกไปสู่โรงเรียนมากขึ้น
---- 2. ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลักสูตรใหม่
---- 3. ปรับความเหมาะสมของเนื้อหา
---- 4. เน้นประสิทธิภาพของการจัดการหลักสูตร
มาถึงยุคปัจจุบันได้มีการปรับปรุงหลักสูตรอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาคนดังที่ตั้งไว้โดยเน้นสิ่งต่อไปนี้คือ
สร้างหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาที่กลมกลืนแทนหลักสูตรมาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับความถนัดและความสามารถพิเศษของผู้เรียนแตกต่างกัน โดย
-- นำเสนอโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาระบบใหม่ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มีความหลากหลาย เพื่อให้นักเรียนได้เรียนตามความถนัดและความสามารถแต่ละคน แทนการเรียนแบบท่องจำ
--- กำหนดระยะเวลาการศึกษาสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะเริ่มจากปีที่ 1 ของระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และในระดับนี้มีการพัฒนาหลักสูตรร่วมสำหรับนักเรียนทุก ๆ คน ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหา 3 ด้านได้แก่ หลักสูตรที่มีเนื้อหาด้านวิชาการ กิจกรรมเสริมหลักสูตรและวิชาเลือก
ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การพัฒนาสุขภาพ ความสามารถในการพึ่งตนเองได้และความเข้มแข็งทางจริยธรรมของประชาชนเกาหลี ซึ่งจะต้องเป็นผู้นำประเทศไปสู่ ศตวรรษที่ 21
สำหรับตำราเรียนได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามกรอบของหลักสูตร มี 3 ประเภทคือ
1. ตำราที่ใช้ทั่วประเทศ ออกโดยกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนใหญ่เป็นตำราใน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เช่นตำราภาษาเกาหลี หน้าที่ศีลธรรม ประวัติศาสตร์ เป็นต้น
2. ตำราที่เอกชนผลิตแต่ตรวจสอบและรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ เช่น ศิลปะ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
3. ตำราซึ่งเอกชนหรือบุคคลอื่น ๆ เป็นผู้ผลิตแล้วกระทรวงศึกษา หรือผู้อำนวยการการศึกษาของท้องถิ่นเห็นว่ามีประโยชน์เหมาะสมที่จะนำมาใช้ประกอบการเรียน
ตำราทุกประเภทจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
ตารางที่ 6 วิชาและชั่วโมงสอนระดับประถมศึกษา
ตารางที่ 7 หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นแยกเป็นระดับชั้นและชั่วโมง
หมายเหตุ : 1 ชั่วโมงเท่ากับ 50 นาที
ตารางที่ 8 หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย
หมวดวิชา |
วิชาบังคับร่วม |
วิชาบังคับเฉพาะสาย |
วิชาเลือกเฉพาะสาย |
จริยศาสตร์ |
จริยศาสตร์ (6) |
. |
. |
ภาษาเกาหลี |
ภาษาเกาหลี (10) |
การพูด (4) การอ่าน (6) หลักภาษา (4) วรรณคดี (8) |
. |
วัฒนธรรมจีนโบราณ |
. |
วัฒนธรรม 1 (6) วัฒนธรรม 2 (4) |
. |
คณิตศาสตร์ |
คณิตศาสตร์ (8) |
คณิต I (10) คณิต II (10) คณิตฯ ประยุกต์ (8) |
. |
สังคมศึกษา |
สังคมศึกษา (8) ประวัติฯ เกาหลี (6) |
การเมือง (4) เศรษฐกิจ (4) สังคมและวัฒนธรรม (4) ภูมิศาสตร์โลก (6) |
. |
วิทยาศาสตร์ |
วิทย์ฯ (8) |
ฟิสิกส์ I (4) ฟิสิกส์ II (8) เคมี I (4) เคมี II (8) ชีว I (4) ชีว II (8) โลก I (4) โลก II (8) |
. |
พลศึกษา |
พลศึกษา I (8) |
พลศึกษา II (8) |
. |
ฝึกวิชาทหาร |
. |
ฝึกวิชาทหาร (6) |
. |
ดนตรี |
ดนตรี I (8) |
ดนตรี II (4) |
. |
ทัศนศิลป์ |
ทัศนศิลป์ I (4) |
ทัศนศิลป์ II (4) |
. |
อาชีวศึกษาและคหกรรม |
. |
เทคโนโลยี (8) คหกรรม (8) เกษตร (6) อุตสาหกรรม (6) พาณิชย์ (6) ประมง (6) แม่บ้าน (6) อุตสาหกรรม สารสนเทศ (6) อาชีพศึกษา (6) |
. |
ภาษาต่างประเทศ |
ภาษาอังกฤษ (8) |
ภาษาอังกฤษ I (8) ภาษาอังกฤษ II (8) ความเข้าใจภาษา อังกฤษ (6) เยอรมัน I (6), II (6) ฝรั่งเศษ I (6), II (6) สเปน I (6), II (6) จีน I (6), II (6) ญี่ปุน I (6), II (6) รัสเซีย I (6), II (6) |
. |
เลือกเสรี |
. |
. |
ปรัญญา, ตรรกะ, จิตวิทยา, การศึกษา, เศรษฐกิจ, ศาสนา, สิ่งแวดล้อม, ฯลฯ |
กิจกรรมเสริมหลักสูตร |
กิจกรมชั้นเรียน ชุมนุม (12) กิจกรรมกลุ่ม (12) |
. |
. |
การศึกษาของมหาวิทยาลัย อานนี้ไม่รู้อะค่ะ คงจะคล้ายๆ กับการเรียนของมัธยมอะค่ะ เรื่องของการให้ความสำคัญต่อการศึกษาก็คงจะให้ความสำคัญ
ไม่น้อยเลย เรื่องภาษาอังกฤษของเกาหลีก็เหมือนกับบ้านเราอะค่ะ ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้าก็จะได้นิดหน่อย แต่ถ้าเป็นคนทำงานดีๆ หน่อยก็จะพอพูดได้
ไปถึงพูดได้เลย เรื่องของดาราเกาหลีวัยรุ่นก็ต้องชอบเยอะเป็นธรรมดาอะค่ะ แต่ถ้าคนทำงานแล้ว บางคนอาจจะไม่รู้จักเลยว่าเป็นใครก็ได้ ส่วนเรื่องของคนเกาหลีก็ต้องมีทั้งนิสัยดีและนิสัยไม่ดีอะค่ะเป็นเรื่องธรรมดา ประเทศเกาหลีก็เป็นประเทศที่น่าอยู่นะค่ะ แต่บ้านเมืองเค้าค่อนข้างจะเข้มงวดหลายๆ อย่าง ไม่เหมือนบ้านเมืองเราอะค่ะ มันจะปล่อยวางซะมากกว่า
************************************************************************************************
เครดิต www.onec.go.thเม้นให้หน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น