ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #11 : 1-09 Episode 8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.11K
      122
      2 มิ.ย. 59

    Chapter 1 – Land of Rebirth

    Episode 8 ช่วงเวลาที่สาบสูญ

     “เหรียญที่หายสาบสูญไปแล้วงั้นหรอ.... อืม

    ที่ระเบียงของ โรงแรมพระราชวังอาเรียนา ซึ่งเป็นที่เฉพาะของพวกชนชั้นสูง ผมนึกถึงคำพูดของหัวหน้ากิลด์ที่บอกก่อนหน้านี้ ตอนที่ทอดมองลงไปยังเมืองที่ปกคลุมด้วยความมืดยามราตรี (แน่นอนว่าสำหรับเจ้าหญิงแวมไพร์อย่างผมแล้ว มันไม่ได้ต่างอะไรไปจากตอนกลางวันเลย)

    ก่อนหน้านี้ ตอนที่ห้องหัวหน้ากิลด์ตกอยู่ในความวุ่นวายบางอย่าง คอนราดยังไม่กลับมาจากความมึนงง เกาว์ก็แยกตัวจากโลกภายนอกด้วยสีหน้าของพ่อแม่ที่ถูกลูกสาวทรยศ และยามทั้งสองคนก็ยังดื้อดึง ด้วยความอดทนของผมที่หมดลง ผมจึงเผลอตอบพวกเขาออกไปโดยไม่ได้เจตนา “ฉันคิดว่าพวกเขาทั้งคู่กำลังคบอยู่กับผู้ชาย” จากนั้นทั้งคู่ก็ชะงักและทรุดตัวร้องไห้ เพื่อทำให้ทุกคนสงบลง ผมเลยตัดสินใจใช้ดวงตาปีศาจจัดการกับความทรงจำของพวกเขาโดยตรง พูดอีกอย่างคือทำให้มันกลับสู่สภาพปกติ

    หลังจากที่สติของหัวหน้ากิลด์กลับมา ผมก็ถามเข้าถึงสิ่งที่ผมอยากรู้

    ปฏิกิริยาของเขาแปลกไปทันทีที่เห็นเหรียญ ดังนั้นผมเลยถามเขาว่าเขารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเหรียญที่ผมได้มาจากในเกม จากนั้นเขาจึงตอบคำถามผม

    เหรียญนี้เป็นของในตำนานที่รู้จักกันดีในชื่อ ช่วงเวลาที่สาบสูญ ซึ่งไม่มีบันทึกหลงเหลือเอาไว้เลย และของในตำนานที่ถูกค้นพบนั้นเป็นของที่หายากมาก โดยเฉพาะเหรียญสายรุ้งที่สร้างขึ้นมาจากแร่โฮริฮารูกอน โดยแรกเริ่ม วิธีการสร้างสิ่งของจากแร่โฮริฮารูกอนนั้นก็ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก เหรียญหนึ่งถูกเก็บรักษาในคลังสมบัติของอาณาจักร ส่วนที่เหลือถูกเก็บรักษาอยู่ในธนาคารของจักรวรรดิ ตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าพบเพียง 5 เหรียญเท่านั้น

    อา ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็พกเหรียญสายรุ้งมาเกือบ 500 เหรียญ และผมก็สามารถสร้างเพิ่มได้ถ้าหากผมต้องการ เพราะพวกนักเล่นแร่แปรธาตุสะสมเครื่องจักรระดับสุดยอดไว้ประดับตกแต่งปราสาทของผม ดังนั้นมันจึงมีกองกันภูเขาอยู่ในที่โล่งของปราสาท

    “…อา ไม่มีอะไรกระจ่างเลย ดูเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่โลกใบนี้จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยจาก EHO {Eternal Horizon Online}”

    ท่านคิดจะทำสิ่งใดต่อไปหรือขอรับ องค์หญิง? พวกสมาชิกกิลด์ระดับสูงของเมืองพวกนั้นก็เหมาะจะเป็นหุ่นเชิดด้วยดวงตาปีศาจของท่านดี แทนที่จะเสียเวลาเปล่าในกระต๊อบโสโครกอย่างนี้ พวกเรากลับไปที่ปราสาทไม่ดีกว่าหรือขอรับ?”

    ด้วยรูปแบบมนุษย์ หลังที่แยกจากผมด้วยการยกเลิก pet unison เท็นไกก็แนะนำผมในชุดทักซิโดตามปกติ
    ถึงแม้ว่าผมจะใช้ดวงตาปีศาจไปก่อนหน้านี้ ผมก็ไม่ได้ต้องการให้คอนราดกับเกาว์กลายมาเป็นหุ่นเชิดและควบคุมพวกเขา

    บางที ผมอาจจะพูดได้ว่ามันขัดกับความต้องการของผม แต่สิ่งที่เขาพูดอาจจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้ ผมหมายถึง เขาบอกว่าโรงแรมนี้เป็น กระต๊อบโสโครกแต่ว่าโรงแรมนี้ก็เป็นที่ที่ดีที่สุดที่หนึ่งในเมืองอาระซึ่งมีแค่ชนชั้นสูงเข้าใช้ อา พูดถึงชนชั้นสูง น่าจะได้เวลาพูดแล้ว

    แน่นอนว่า จุดประสงค์ของเรานั้นบรรลุแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็รู้สึกไม่ดีเท่าไรนักเกี่ยวกับ ช่วงเวลาที่สาบสูญ

    องค์หญิงเป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งนั้นหรือขอรับ? มันเป็นเพียงตำนานอย่างหนึ่งเท่านั้น ไมมีค่าให้ใส่ใจหรอกขอรับ

    แต่ถึงอย่างไร การที่เหรียญสายรุ้งถูกค้นพบในที่อื่นเช่นนี้ ก็มีความเป็นได้ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกัน อาจเป็นไปได้ว่าจะมีคนจากสถานที่เดียวกับพวกเรามายังโลกนี้เมื่อนานมาแล้ว

    ก็จริงขอรับ สำหรับกรณีนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่กับพวกเรา
    ดูเหมือนว่าจะไม่มีความคิดรวมกลุ่มเพื่อนเก่าเลยสำหรับเขา

    ด้วยความเป็นไปได้นั้น จากคำอธิบายเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สาบสูญดูเหมือนรายละเอียดจะกระจัดกระจายอยู่กับพวกวิหารกับพวกชนชั้นสูง ถ้าทุกสิ่งเป็นไปตามที่คาด หลังจากนี้พวกเราน่าจะไปสืบจากพวกชนชั้นสูงดีหรือไม่?”

    “…กระผมเข้าใจแล้ว ความต้องการของท่านคือคำสั่งของกระผม ถ้าเช่นนั้น เกี่ยวกับอาหารของโรงแรมก่อนหน้านี้ องค์หญิงไม่สามารถย่อยมันได้ พวกเราได้รับการอนุมัติจากกิลด์แล้ว ถ้าอย่างไรให้กระผมไปจัดเตรียม สิ่งจำเป็น สำหรับคืนนี้นะขอรับ

    อานั่นก็จริง ซอสมันรสหนักเกินไป เครื่องเทศก็ไม่เข้ากันเอาซะเลย ดังนั้นผมจึงกินมันได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมอยากกินราเม็งทงคัตสึปกติจริงๆ

    จะเอาแบบนั้นหรือ? ย่อมได้ เรามอบให้เจ้าหาอาหารสำหรับมื้อเช้าวันพรุ่งนี้ แต่จงกระทำอย่างระมัดระวังหน่อยละ เพื่อไม่ให้สะดุดตาใครนัก

    ด้วยความสัตย์จริง ผมก็ไม่แน่ใจนิดหน่อยที่จะดื่มมัน แต่ก็ไม่ว่าอย่างไรผมก็ไม่สามารถหยุดความกระหายทางกายภาพได้ ดังนั้นการดื่มอาหารที่เท็นไกไปหามาน่าจะดีกว่าการไปกัดคอใครโดยตรง

    -แน่นอน กระผมจะระวัง
    จบคำพูดนั้น ร่างของเท็นไกก็พลันหายไปจากจุดนั้น

    เอาละ คิดถึงเรื่องนั้น ฉันสงสัยว่าโจอี้จะหลับลงหรือเปล่านะ?”

    ในค่ำคืนที่เจ้าหญิงแวมไพร์สำแดงอำนาจ ผมก็พลันนึกถึงใบหน้าที่จวนจะร้องไห้ของโจอี้ตอนจะแยกจากกัน

    ◆◇◆◇

    โจอี้ถือถาดอาหารที่ผ่านการใช้มาอย่างยาวนาน บนนั้นคืออาหารเย็นธรรมดาๆชุดหนึ่ง พลางถอนหายใจ เขาเดินกลับไปยังห้องของตัวเองที่ชั้นสอง เขาเดินขึ้นไปบนบันได

    เขาจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายที่กิลด์ได้

    คิดถึงความโง่เขลาที่เขามีและสร้างความลำบากให้เด็กสาวคนหนึ่งไป เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง

    อา บางทีเธออาจจะผิดหวังในตัวผม …”
    เรื่องมันจบไปแล้ว แต่เพียงนึกถึงก็ทำให้เขาหมดเรี่ยวแรงไปหมดแล้ว

    ขณะถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่ทราบ เขาก็ใช้เท้าเปิดประตูไม้ของห้อง เพราะกุญแจไม่สามารถเปิดมันได้ จากนั้นจึงเข้าไปในห้อง

    อ่า กลับมาแล้วหรอ โจอี้

    ฮิยูกินั่งอยู่บนเตียงแทนที่จะเป็นเก้าอี้ และถึงแม้ว่าเธอจะทักเขาไปแล้ว โจอี้ก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจความเป็นจริงได้

    มันคงเป็นอะไร อย่างภาพลวงตาจากแสงจันทร์ การเล่นพิเรนทร์ของแฟรี่ หรือบางทีอาจจะเป็นเขาที่กำลังจะเป็นบ้า
     “มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับเช้าตามสัญญา แต่ฉันรู้สึกกังวลเกี่ยวกับนาย ก็เลยขออนุญาตบุกรุกเข้ามานะ

    ฟังเสียงฮิยูกิแล้ว ในที่สุดโจอี้ก็ตั้งสติได้ เขาวางถาดอาหารไว้บนเตียงใกล้ๆฮิยูกิ (เพราะมันไม่มีโต๊ะ) ด้วยความเร่งรีบ เขาล๊อคประตูด้วยกุญแจกระจอกๆของเขา

    ธะ เธอเข้ามาได้ไง?!”

    ถึงแม้เธอจะได้ยินเขาถามเสียงหลง บุคคลในคำถามอย่างฮิยูกิก็ถูกดึงดูดด้วยความสงสัยเกี่ยวกับอาหารเย็นของโจอี้

    อา หน้าต่างมันเปิดอยู่ ฉันเลยเข้ามานะ
    เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจขณะจ้องมองสิ่งที่อยู่ในถาดอาหารของเขา

    หน้าต่าง? นี่มันชั้นสองไม่ใช่หรือไง? แล้วที่สำคัญชุดนี้มัน …”

    สิ่งที่ฮิยูกิสวมดูคล้ายกระโปรงนอน มันเป็นกระโปรงยาวจนถึงข้อเท้าสีดำกับเสื้อคลุมยาวสีงาช้าง โจอี้ไม่สามารถซ่อนความเขินอายไว้ได้เมื่อจ้องมองไปที่เธอ แต่ฮิยูกิกลับไม่ใส่และจดจ้องไปที่อาหารเย็นของเขา 

    นี่ นี่ สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”

    ถามว่า มันคืออะไรนี่นะ มันก็คือข้าวโอ๊ตบดไง.... เธอไม่รู้จักมันหรอ?”
    แม้คิดได้ว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคำถามไร้สาระ โจอี้ตอบคำถามเธอแล้วถอนหายใจ

    เห นี่คือข้าวโอ๊ตบดงั้นหรอ เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเลยละ ฉันลองชิมหน่อยได้ไหม?”

    อา ได้สิ ว่าแต่ไม่ใช่ว่ากิลด์จองโรงแรมให้เธอแล้วหรือไง? ทำไมเธอไม่ทานข้าวเย็นที่นั้นละ?”

    หืม? อา มันก็ใช่ละนะ.. ฉันพักอยู่ที่ห้องพักชนชั้นสูงที่เรียกว่าโรงแรมพระราชวังอาเรียนา แต่ว่าอาหารที่นั้นมันไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ฉันเลยทานไม่ได้นะ

    ขณะพูดเช่นนั้น ฮิยูกิก็ตักข้าวโอ๊ตบดขึ้นมาช้อนหนึ่ง

    -ดะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เธอพูดว่า โรงแรมพระราชวังอาเรียนางั้นหรอ ฉันได้ยินมาว่าราคาที่พักคืนหนึ่งที่นั้นเท่ากับรายได้ของคนทั่วไปเดือนหนึ่งเลยนะ!? แล้วจะบอกว่าอาหารของห้องชนชั้นสูงรสชาติไม่ได้เรื่องนี่มัน…”

    ไม่ว่าฮิยูกิจะฟังอยู่หรือไม่ ใบหน้าอันประณีตของเธอก็พลันแข็งทื่อขณะที่ช้อนยังอยู่ในปาก เธอเคี้ยวข้าวโอ๊ตบดที่อยู่ในปาก ลิ้มรสมันแล้วค่อยๆกลืนมันลงไป
     “…ไม่ มันไม่อร่อยเอาซะเลย เมื่อเทียบกับอาหารที่ปราสาท แต่มันก็ไม่ได้แย่อะไร จะว่าไปถ้าให้เทียบกับเจ้านี้ เจ้านี้มันแย่สุดๆไปเลยละ

    -อา ก็คนทั่วไปอย่างพวกเราไม่ได้มีเงินมากนี่นะ แต่พวกเราก็จำเป็นต้องให้อาหารแก่ร่างกาย ดังนั้นไม่ว่าจะมีอะไรก็ต้องกินทั้งนั้นละ

    ขณะที่อธิบาย โจอี้ก็กินข้าวโอ๊ตบดที่ฮิยูกิส่งคืนมาเสียงดัง เขาทาเนยไปทั่วขนมปังและกินคู่กับมันฝรั่งและเบคอนเล็กๆจำนวนหนึ่ง

    ฉันเข้าใจ แต่มันไม่มีอะไรนอกจากคาร์บอไฮเดรตที่โดดเด่น อา มันจะแย่กับร่างกายนายนะ ถ้าไม่กินผักซะบ้างนะ

    ไม่เป็นไร ฉันพอใจกับอาหารมื้อนี้แล้ว!”
    ด้วยเหตุผลบางอย่าง โจอี้ก็ฉุกโกรธขึ้นมา คำพูดของเขาทำให้เธอตกตะลึง ฮิยูกิเบิกตากว้างครู่หนึ่งแล้วจึงก้มหน้าลงอย่างเสียใจ
     “…นั่นสินะ มันแค่ความผิดของฉันเอง

    อา ไม่ มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรืออะไรพวกนั้นหรอก …”

    มองไปที่ร่างเล็กๆของฮิยูกิเหมือนจะหดเล็กลง โจอี้ก็ชะงักและรีบหาคำปลอบใจทันที

    -ขอโทษทีนะ ที่ผมแสดงความโกรธออกไปก่อนหน้านี้ เพราะฉันรู้สึกว่ามันมีกำแพงที่ใหญ่เอามากๆ กั้นกลางระหว่างพวกเรา ฉันเลยรู้สึกสิ้นหวังนะ

    คำพูดของเขาทำให้ฮิยูกิเอียงคอด้วยความสงสัย

    มันไม่มีบาเรียอยู่ระหว่างพวกเราซะหน่อย ฉันคิดว่านายน่าจะรู้สึกได้นะถ้าฉันสัมผัสนายแบบนี้
    พูดอย่างนั้นแล้ว เธอก็แตะฝ่ามือเย็นลงบนแก้มของโจอี้ เพียงชั่วครู่ก็ละมือออก

    การการะทำโดยไม่คาดคิดของเด็กสาว ทำให้หัวใจของโจอี้พลันเต้นถี่รัว ชั่วพริบตานั่นเขาก็ถามสวนออกไป

    “…ถ้างั้นฉันจับตัวเธอได้ไหม?”

    -อะ อืม
    ฮิยูกิเขินอายแต่ก็พยักหน้าให้เขา ดังนั้นโจอี้จึงยืดแขนออกไปตรงหน้าเธอ เขาลังเล รู้สึกราวกับว่าไม่ว่าเขาจะจับตรงไหนก็อาจจะทำให้เธอแตกสลายได้ แต่เขาก็ตัดสินใจได้ในที่สุด และเอื้อมไปจับที่เรียวแขน

    เธอทำไมเธอถึงผอมแบบนี้ละ แล้วทำไมถึงได้นุ่มจัง?! เธอมีเคล็ดลับยังไงหรอ?”

    -นาย...อ่านบรรยากาศไม่เป็นสินะ

    โจอี้พูดต่อด้วยน้ำเสียงและท่าทางประหลาดใจ

    เอ๋ เพราะทั้งพวกนักผจญภัยหญิงกับพวกสาวชาวบ้าน ทุกคนต่างก็ผิวกระด้างมากแม้ว่าจะเป็นผู้หญิง
    ถึงแม้ว่าเขาจะพูดอธิบายอย่างน่าสิ้นหวัง ใบหน้าของเขาก็มีแต่ความประหลาดใจและประหลาดใจ จนรู้สึกกระดากใจ โจอี้จึงปล่อยมือของเขา

    คงเป็นแขนของผู้หญิงที่ทำงานในไร่ไม่ก็ใช้แรงงานสินะ? นี่อาจจะหายากสำหรับนาย แต่ผู้หญิงทั่วไปก็มีแขนแบบฉันนั่นแหละ ถ้านายชอบ ครั้งหน้าลองไปขอร้องมินะ-ซังดูสิ ฉันคิดว่าเธอน่าจะยินดี

    “…มิยะ-ซัง อืม ฉันคิดว่าเธอชอบหยอกฉันเฉยๆนะ”

    นายคิดผิดแล้วละ ไม่มีทางที่ผู้หญิงจะทำถึงขนาดนี้หรอก บางทีนายอาจจะรู้สึกเหมือนเธอชอบพูดจาแข็งกร้าวแล้วตำหนินาย ฉันคิดว่าทุกสิ่งที่เธอทำเพื่อนายเพราะชอบนาย ถ้านายต้องการคนรักหรือภรรยา นายควรเลือกผู้หญิงประเภทนี้นะ โดยเฉพาะนาย เธอเหมาะกับนายมากเลยละ เพราะนายขาดอะไรหลายอย่างๆ

    มันไม่ใช่ธุระของเธอสักหน่อย! ที่สำคัญมันไม่ใช่เหตุผลที่รุ่นพี่จะมาสนใจคนอย่างฉันซะหน่อย

    ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ นั่นนะเพราะความดื้อรั้นของนายไม่ใช่หรือไง? ตามความคิดของฉัน บางทีการเลิกราจากคนรักเมื่อหลายปีก่อนจะทำให้เธอเป็นทุกข์ ฉันคิดว่าเธอเจอวิธีรักษาบาดแผลของตัวเองจากตัวนาย

    อะไรกันละนั่น สัญชาตญาณผู้หญิง หรือไง?”

    หืม- บางทีนะถ้านายเข้าใจอย่างนั้น โอ๋ แย่ละ ดูเหมือนอาหารนายจะเย็นซะแล้ว อา คงได้เวลาที่ฉันต้องไปแล้วละ
    ฮิยูกิพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง

    ไป? อย่าบอกนะว่า จะไปทางหน้าต่างนะ…”

    ทันใดนั้น ดวงตาของฮิยูกิก็ดูจะเปล่งแสงจ้า และสติของโจอี้ก็พลันเลือนหายไป-

    ราตรีสวัสดิ์ โจอี้ เจอกันใหม่ตอนเช้านะ

    โจอี้เงยหัวขึ้นทันทีที่เขาได้ยินเสียงที่คล้ายกับฮิยูกิ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เห็นเธอเลยไม่ว่าส่วนใดของห้อง ประตูก็ถูกล๊อคจากข้างใน
     “…บางทีฉันอาจจะฝันไป
    แม้ว่าจะยังสงสัยอยู่ โจอี้ก็หันไปทานอาหารที่เหลือ แม้ว่ามันจะเย็นชืดไปหมดแล้วก็ตาม

    ตอนนั้นเองความมึนงงก่อนหน้านี้ก็ถูกพัดพาหายไป ค่ำคืนผ่านพ้นไป โดยที่เขาไม่ได้ฝันถึงสิ่งใด

     

    End

    Author Notes

    ฉันตัดสินใจให้เรื่องเดินไปในทางที่หวานขึ้นนิดหน่อย แต่เมื่อพยายามจบมันลง โจอี้-คุงก็กลายเป็นคนที่น่าสงสารโดยสมบูรณ์ซะแล้ว

    สำหรับพื้นหลังของมิยะ-ซัง เมื่อตอนอายุ 15 เธอเสียคนรักที่เป็นนักผจญภัยอายุเท่าเธอไป เธอไม่ต้องการเจอเรื่องน่าเศร้าแบบนั้นอีก ส่วนโจอี้-คุงนั้นมีความเซ่อที่คล้ายกับนักผจญภัยคนนั้น

    และถ้าคุณใส่ส่วนผสมบางอย่างลงในข้าวโอ๊ตบดมันก็จะอร่อยขึ้นเล็กน้อย แต่ที่โจอี้-คุงทานนั้นเป็นข้าวต้มข้าวโอ๊ตที่มีแค่ข้าวโอ๊ตกับน้ำเท่านั้น
    เมนูอาหารที่ใช้อ้างอิงมาจากอาหารของชนชั้นล่างของประเทศอังกฤษ (เกาะบริเตน) ในช่วงปี 1840 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×