ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #23 : 2-04 Episode 3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.19K
      119
      29 มิ.ย. 59

    Chapter 2Turbulence in Royal Capital

    Episode 3 ผู้ที่เจ้าหญิงได้พบ

    อาณาจักรเอมาที อยู่ในส่วนพื้นที่ทวีปตะวันตก เป็นประเทศขนาดกลาง (เป็นขนาดเท่ากับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดรวมกัน ยกเว้นชาติมหาอำนาจทั้งสามอย่าง จักรวรรดิ สหพันธ์และอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์) พื้นดินอุดมสมบูรณ์ ภูมิอากาศอยู่ในเขตอบอุ่น เหมาะแก่การเกษตรและเลี้ยงสัตว์ สามารถทำการเพาะปลูกเก็บเกี่ยวได้หลายครั้งกว่าเพื่อนบ้าน จึงเป็นขาใหญ่ในการส่งออกสินค้าการเกษตร เรียกได้ว่าอาณาจักรเอมาทีเป็นห้องครัวของทวีปตะวันตกก็ไม่ผิดนัก

    แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยเกิดสงครามรุนแรงเพื่อยึดครองอาณาจักรอันอุดมสมบูรณ์นี้ก็ตาม แต่เพราะการเจรจาประนีประนอมและการเจรจาทางการเมืองกับประเทศรอบข้าง ทำให้เกิดสงครามเพียง 80 ปีก็สงบลง หากไม่รวมความเสียหายจากมอนเตอร์ ก็ไม่เคยเกิดสงครามแบบเต็มรูปแบบขึ้นอีกเลย นับว่าเป็นอาณาจักรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบสุขสันติอย่างแท้จริง

     

    ในยามค่ำคืน โรงละครโอเปร่าในเมืองหลวง คาร์เดีย แห่งอาณาจักรเอมาทีจะมีงานเต้นรำสวมหน้ากาก ที่เต็มไปด้วยบรรดาขุนนางและคนรวยมากมาย

    เดิมทีงานเต้นรำสวมหน้ากากเป็นงานพบกันของเหล่าเชื้อพระวงศ์ แต่เพราะความสงบสุขที่มีกันมาอย่างยาวนาน ทำให้แพร่กระจายไปสู่สาธารณชน (อย่างน้อยผู้ที่เข้าร่วมได้ก็ต้องมีฐานะทางสังคมพอสมควร) และจัดงานกันที่โรงละครโอเปร่า

    ผู้เข้าร่วมมีหลายระดับ ตั้งแต่ขุนนางชั้นสูงจนไปถึงพ่อค้าระดับสูง บางครั้งก็มีเชื้อพระวงศ์และขุนนางจากต่างถิ่น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ชายหญิงจะมองไปยังดวงตากันและกัน และคาดเดาว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ขณะพูดคุยหรือเต้นรำ

    แต่บรรยากาศปกติก็ถูกทำลายลงไปในทันที เมื่อพวกเธอปรากฏตัวขึ้น

     

    เพียงแค่ยืนนิ่งๆ ตัวตนของเด็กสาวก็เด่นชัดออกมา

    เพียงแวบแรกที่มองร่างเล็กใน ชุดเดรสยาวสีดำแนบสนิทร่างกายส่วนบนจนถึงเอวบางก่อนจะบานสยายออกราวกับดอกไม้ ประดับด้วยมวลดอกกุหลาบสีแดงสดใสเต็มไปหมด เป็นชุดที่วิจิตรการตาอย่างถึงที่สุด ต้องทุ่มเวลา แรงกายแรงใจเท่าใดกัน แล้วผู้ที่สวมอยู่---ยังเป็นเด็กสาววัยแรกรุ่นเท่านั้นไม่ใช่หรือ?

    แม้ต้องจินตนาการถึงใบหน้าที่แท้จริง ซึ่งถูกปิดบังไว้ด้วยหน้ากากปีศาจสีแดงชาด เรือนผมเงางามยาวสยายถึงเอว แลเห็นผิวสีขาวราวกับไข่มุกเม็ดงาม ถึงแม้ได้เห็นเพียงใต้แก้มลงมาก็ยังรู้สึกได้ถึงความงดงาม....ทำได้เพียงถอนหายใจให้ความงามดุจศิลปะชั้นเลิศเบื้องหน้า

    และผู้ติดตามซึ่งอยู่เบื้องหลัง เป็นหญิงสาววัย 17-18 ปี สวมชุดเดรสยาวแนบตัวสีฟ้าสว่าง เส้นผมสีแพลตินัมบลอนด์เปล่งประกายและผิวใสไร้ที่ติ แม้ว่ามีหน้ากากสีขาวบังส่วนบนใบหน้าก็ยังบอกได้เลยว่าเธอเป็นหญิงสาวที่งดงามมากอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีกคนหนึ่ง

    เพียงเธอทั้งสองปรากฏกาย ผู้คนทั้งหมดก็หยุดนิ่ง ความสนใจทั้งหมดพุ่งพล่านไปยังพวกเธอราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน --เล่อค่ายิ่งกว่าเครื่องเพชรหรือของชั้นเลิศในแว่นแคว้น แต่หากยิ่งใหญ่กว่านั้น ราวกับเจ้าหญิงและผู้ติดตามจากชาติมหาอำนาจ ช่างลึกลับยิ่ง ทุกคนต่างเว้นระยะห่างจากพวกเขาและกระซิบพูดคุยคาดเดาถึงตัวตนที่แท้จริงของคนทั้งคู่ แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะกล้าเข้าไปทักผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองนั้น

    ◆◇◆◇

    “…ก็ไม่อยากจะบ่นหรอกนะ แต่งานเต้นรำสวมหน้ากากนี่ น่าเบื่อกว่าที่คิดซะอีก

    นึกว่าพวกเขาจะใช้แสงไฟจากเวทมนต์เสียอีก แต่กลายเป็นว่างานเต้นรำจัดใต้แสงจากแชนเดอเลียร์ บริเวณรอบๆก็เลยดูสลัวๆ (แน่นอนว่าไม่มีผลต่อดวงตาเจ้าหญิงแวมไพร์อย่างผม) ผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในงานเต้นรำผีสิงในบ้านร้างไม่มีผิด

    มิโคโตะเหมือนจะเห็นด้วย—แน่นอนว่าอยู่ในสภาพซ่อนปีกเอาไว้--เธอเอียงคอน้อยๆอย่างครุ่นคิด
    บางทีอาจเป็นเพราะระดับของพวกเขาก็ได้นะเจ้าค่ะ? ถ้าว่ากันตามตัวอักษร มันก็คืองานที่เปิดให้ชายหญิงได้รู้จักกันนะเจ้าคะ (TL: น่าจะหมายถึง คนที่มางานเป็นขุนนางไม่ก็พ่อค้า ก็เลยจัดกันง่ายๆแค่ให้ชายหญิงมาพบกัน ทั้งที่ควรจะหรูหราหรือน่าสนใจกว่านี้)

    น่าจะเป็นแบบนั้น
    ภายใต้ความมืดลางๆที่แสงจากแชนเดอเลียร์ไปไม่ถึง ผมเห็นชายหญิงหลายคนทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมเท่าไร (จนผมสงสัยว่าทำไมไม่ไปเปิดห้องแยกซะ) ด้วยสายตาที่ดีเกินธรรมดา ผมเลยได้แต่รีบเบนหน้าไปมองทางอื่น

    จะว่าไป ผมสงสัยจังว่าคุณเจ้าชายที่สามอะไรนั่นอยู่ที่ไหน
    บางทีอาจจะมองไม่เห็นผม? นี่ผมยังไม่เด่นพอหรือไงกัน

    “…ชิ อุตส่าห์ซ้อมเต้นมาเพื่อคืนนี้แท้ๆ

    ท่านอยากจะเต้นรำหรือ องค์หญิง?”
    มิโคโตะเอียงคอสงสัย

    ไม่ใช่แบบนั้น แค่รู้สึกว่าเสียเวลาซ้อมไปเปล่าประโยชน์

    ถึงจะเป็นเช่นนั้น การที่เขาทำให้องค์หญิงต้องรอคอยเช่นนี้ ช่างเป็นการหยามเกียรติกันเสียจริง

    อืม ช่างเถอะ มันไม่ได้เจาะจงเวลาพบอะไร... อะ มิโคโตะ ถ้าเจ้าชายมาช้าก็อย่าไปชวนทะเลาะซะละ

    ถ้าเกิดเรื่องขึ้น คงจะอยู่อย่างสงบต่อไปไม่ได้
    ฟังผมพูดเช่นนั้นแล้ว มิโคโตะก็ลอบถอนหายใจอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

    ไม่ว่าจะเป็นเท็นไก-โดโน่หรือข้ารับใช้คนไหนก็ไม่มีทางให้อภัยกับการกระทำเสียมารยาทเช่นนี้ได้ –แล้วท่านคิดว่าดิฉันที่อยู่กับองค์หญิงมา กว่าร้อยปีจะยอมได้หรือเจ้าค่ะ?”

    อา ถึงจะพูดว่าเป็นร้อยปีก็เถอะ...อย่างมากก็แค่ 3-4 ปีเองไม่ใช่หรือไง?

    แต่เพราะนั้นคือความประสงค์ขององค์หญิง ดิฉันจึงลังเลไม่น้อยว่าควรจะลงโทษเจ้าคนโอหังนั้นดีหรือไม่ …”
    อ๊า ไม่ต้องมาลังเลเลยนะ!

    ไม่ดีแน่ ไม่นึกว่ามิโคโตะที่ดูจะปกติที่สุด ก็ยังคิดจะใช้กำลัง

    “…จะว่าไปแล้ว
    มิโคโตะเหลือบมองใบหน้า –ไม่สิ หน้ากากของผม
    เกี่ยวกับหน้ากาก ไม่ทราบว่าท่านทราบหรือไม่เจ้าค่ะ? ในเมืองมีข่าวลือกันว่ามีคนสวมหน้ากากไปที่ร้านราเม็งนะเจ้าค่ะ

    อะ-อา ใครกันน้า…?”

    นั่นสิคะ? อาจจะเป็นเพียงข่าวลือก็เป็นได้

    อะ-อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้
    ความลับคงยังไม่แตกสินะ?

    เด็กสาวผมบลอนด์คนหนึ่งก้าวมาทางผม เธอสวมชุดเดรสสีชมพูและมีความสูงไล่เลี่ยกับผม เธอหยุดยืนตรงหน้าแล้วจับที่ชายกระโปรง ถอนสายบัวในรูปแบบที่ต่างจากของผม (ทำความเคารพโดยการไขว้เข่าข้างหนึ่งไปหลังอีกข้างหนึ่ง)

    (TL: อิงจากตอนที่ 4 ของเล่ม 1 ท่าถอนสายบัวของฮิยูกิ:ไขว้เข่ามาด้านหลังและย่อตัวลงเล็กน้อย สามารถหาดูความแตกต่างได้ที่อากู๋)

    สายันต์สวัสดิ์ ชุดสวยจังเลยนะคะ

    สายันต์สวัสดิ์ เธอเองก็เช่นกัน ชุดเข้ากับเธอมากเลยละ
    ผมตอบกลับไปแบบเดียวกันด้วยน้ำเสียงสุภาพ

    เธอมองมาที่หน้าของผม (แน่นอนว่าหน้าของเธอก็ถูกปิดด้วยหน้ากากเหลือแค่ดวงตาสีฟ้า) แล้วถามด้วยน้ำเสียงสงสัยอย่างไม่ปิดบัง

    คือแบบว่าฉันมีข้อสงสัยบางอย่าง ฉันไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงน่ารักๆอย่างเธอจะเหมาะกับหน้ากากน่ากลัวแบบนั้น ไม่ทราบว่ามันมีความหมายอะไรพิเศษงั้นหรอ?

    มิโคโตะที่อยู่ข้างหลังผมพึมพำว่านั่นสิแล้วพยักหน้าน้อยๆหึ ถึงจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไร มันก็เป็นไอเทมกาชาหายาก (Rare gacha item) เลยนะ

    ถ้าให้พูดถึงความหมายความจริงแล้ววันนี้ฉันมีนัดพบใครบางคน ก็เลยทำให้สามารถแยกฉันออกได้ง่ายๆนะ
    เจ้าหญิงเมืองปีศาจ มันเป็นสัญลักษณ์ง่ายๆ ผมจึงเลือกใช้หน้ากากนี้

    เมื่อผมพูดเช่นนั้น เด็กสาวแปลกหน้าก็แสดงท่าทีตกใจ ปากเล็กพูดต่อ
    เอ๋! พี่ชาย...อา คนที่เธอมาพบบอกให้ทำแบบนี้นะเหรอ?!”

    อา ไม่ใช่หรอก ฉันตัดสินใจทำแบบนี้เอง อีกฝ่ายระบุสถานที่กับเวลามา แต่ได้ระบุจุดนัดหมายหรือสัญลักษณ์ ฉันเลยทำให้สังเกตได้ง่ายๆ ---คงเพราะความบ้านนอกของฉันด้วย ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียสายตา

    ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่คิดว่ามันแปลกนิดหน่อยเอง ที่สำคัญ อีกฝ่ายต่างหากที่ผิด ที่เชิญมาแล้วให้ข้อมูลไม่ชัดเจน

    เด็กสาวเปิดปากพูดราวกับเป็นคนเสียหายเสียเอง

    นั่นสินะ คงต้องรออีกสักหน่อย

    ถ้าเช่นนั้น…” เธอพูดพลางเอนคอน้อยๆอืม จะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขออนุญาตเชิญเธอ ไปห้องรับรองของฉันนะ?”

    ห๊ะ? ผมเบิกตามองเข้าไปในดวงตาของเธอ
    ความจริงแล้วฉันมากับพี่ชาย แต่ไม่มีคนอายุไล่เลี่ยกันเลย ก็เลยรู้สึกเบื่อ
    เพราะฉะนั้นแล้วจึงอยากจะเชิญไปนั่งคุยด้วย จะเป็นการรบกวนไปไหมคะ?”

    เด็กสาวพูดด้วยท่าทีเขินอาย แต่ดวงตากลับเป็นประกายสดใส

    โอ แย่ละสิ ดูท่าจะเป็นพวกอ่านบรรยากาศไม่เป็นสินะ
    ถึงจะเป็นแค่ความคิดก็เถอะ แต่เหมือนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนยังไงไม่รู้

    ถะ-ถ้าสักครู่ละก็…”
    ก่อนจะรู้สึกตัวก็เผลอตอบรับไปแล้ว อา นี่ผมทำอะไรไปนี่

    ดีจัง! อา อาจจะไม่สุภาพ แต่ไม่ทราบว่าเธออายุเท่าไรหรอ? ฉันอายุ 12 ปีละ

    เอ ฉัน 13 ปีพอดีนะ
    เพราะตั้งเอาไว้เท่านี้นี่!

    อา อายุมากกว่าหนึ่งปีงั้นหรอ ---ถ้างั้นเธอจะช่วยมาเป็นพี่สาวฉันได้ไหม?
    เด็กสาวถามด้วยท่าทางตื่นเต้น

    อา ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้

    อะ-อา ถ้าเธอยินดี
    ต้านทานไม่ได้เลย

    อืม โอเน่-ซามะ มีห้องรับรองจองไว้แล้ว เราไปกันเถอะ ให้ผู้ติดตามมาด้วยก็ได้นะ (TL: โอเน่ คือ พี่สาว)

    “…จะดีหรือเจ้าคะ?”  มิโคโตะถามเสียงแผ่ว ผมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

    ดีสิ เจ้าชายงี่เง่านั้นยังไม่มา ไปเดินเล่นเสียหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร”

    มิโคโตะพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่ผมจะถูกมือเด็กสาวลากไปชั้นสองของโรงละครโอเปร่า ที่หน้าห้องส่วนตัวที่เรียงรายกันอยู่ห้องหนึ่ง

    เด็กสาวเคาะประตูห้องเบาๆแล้วตะโกนว่า
    “โอนี่-ซามะ นี่ แองเจริกา ฉันพาแขกมาด้วย (TL: โอนี่ คือ พี่ชาย)

    อา เข้ามาสิ!

    เสียงชายหนุ่มดังมาจากในห้อง
    “….!?”
    ทั้งผมและมิโคโตะต่างก็ถอยหลังไปคนละ 2-3 ก้าวตามสัญชาตญาณระวังภัย

    เด็กสาวหันมาทางพวกเราแล้วถอดหน้ากากออก –เป็นเด็กผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกละมุนละไมเหมือนขนมลูกกวาด— เผยใบหน้าที่แท้จริงแล้วกล่าวทักทายอีกครั้ง

    ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่หลอกลวง โอเน่-ซามะ ขอแนะนำตัวอีกครั้ง ดิฉัน แองเจริกาไอริส เจ้าหญิงลำดับที่สี่แห่งอาณาจักรเอมาที เป็นน้องสาวร่วมมารดากับพี่ชายงี่เง่าของฉัน แอชชิวคราวด์ เจ้าชายลำดับที่สามแห่งอาณาจักรเอมาที

    เด็กสาวพูดแล้วหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง ผมกับมิโคโตะมองหน้ากัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

     

    End

    Author Notes

    เพราะความต้องการดูดเลือดคล้ายกับแรงกระตุ้นทางเพศ สัมผัสของแองเจริกาจึงไม่ส่งผลต่อฮิยูกิมากนัก

    แต่ถ้าอีก 3-4 ปีก็ไม่แน่

     

    Talk: ถ้าใช้คำราชศัพท์จะโดนปาของใส่ไหมคะเนี้ย แต่คิดอีกทีไม่ใช้ดีกว่า กลัวใช้แล้วงงไปมากกว่านี้ //หัวเราะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×