ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #5 : 1-03 Episode 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.64K
      168
      23 พ.ค. 59

    Chapter 1 – Land of Rebirth

    Episode 3 เด็กหนุ่มและเด็กสาว

     “ชิ เจ้าหมาบ้านี่!”

    เด็กหนุ่มแกว่งดาบด้วยแรงทั้งที่มี มันโจมตีไปยังร่างของสุนัขคลั่ง แต่เพราะขนที่หนาของมัน ทำให้ดาบหยุดชะงักลงจนสุนัขตัวนั้นหลบไปได้ก่อนจะถูกปะทะจึงไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เด็กหนุ่มเข้าสู่ระยะโจมตีของพวกมันอีกครั้ง

    --กร๊าก!!”

    เด็กหนุ่มเล็งเป้าหมายไปที่สุนัขที่ท่าทางจะลืมเสื้อผ้าไว้ที่ไหนซักแห่งตรงหน้าเขา แต่เขากลับลืมไปว่ามันยังมีสุนัขอีกตัวที่อยู่ข้างหลังเขา และมันก็พุ่งเข้ากัดที่ข้อเท้าของเด็กหนุ่ม.

    หว่า--!?”

    โชคดีที่เขี้ยวของมันพลาดไปโดนรองเท้าบูทหนาของเขา กันเขาจากการบาดเจ็บไปหวุดหวิด แต่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ยอมแพ้ มันกัดแล้วก็ดึงไปดึงมาราวกับกำลังพยายามฉีกกระฉากรองเท้าบูท

    ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะพยายามสะบัดออก แต่สุนัขตัวนั้นก็ยังคงกัดแน่นไม่ยอมปล่อย... ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจ ด้วยความเร่งรีบ เขาใช้ดาบในมือแทงมัน หลังจากนั้นสุนัขอีกตัวที่คอยจังหวะอยู่ก็กระโดหมายจะขย้ำคอของเด็กหนุ่ม

     “อุหว่า…!?!”

    เขาเอนตัวไปด้านหลังโดยสันชาติญาณ เขายกยกดาบขึ้นกันคมเขี้ยวไว้ได้หวุดหวิด เขาพยายามจะดันกลับไป แต่ไม่สามารถต้านทางแรงได้จึงล้มลงไปด้านหลังทั้งที่ยังมีสุนัขคลั่งอยู่ด้านบน

    “…แฮ!!”

    เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น เขาก็พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด สุนัขคลั่งทั้งสองอ้าปากกว้าง--- ในตอนนั้นเอง ด้วยอะไรบางอย่างร่างของสุนัขคลั่งทั้งสองก็ถูกดีดออกจากร่างของเด็กหนุ่ม พวกมันหันไปมองรอบๆอย่างขลาดกลัวและจ้องที่ว่างเปล่าที่หนึ่ง

    --เอ๊ง?!”

    สุนัขทั้งสองวิ่งหนีหางจุกก้นจากไปพร้อมกับเสียงร้องไห้อย่างหวาดกลัว
     “…ระ รอดแล้วสินะ…?”

    เขาพึมพำ ทันใดนั้นก็เกิดเงาขนาดใหญ่ทาบทับร่างของเขา และเมื่อเขาหงายหน้าขึ้น เขาก็ต้องตกตะลึง
     “วะ ไว...ไวเวิร์น?! นะ นี่... นี่มัน มะ มังกรโบราณ

    จากสายตาแล้ว ไม่ใช่มังกรไวเวิร์นที่ใช้ขี่อยู่ในเมืองหลวง ตัวของมันใหญ่มาก อีกทั้งยังส่องแสงเป็นสีทองและมี 4 ขา-ดูแล้วน่าจะกลืนไวเวิร์นทั่วไปได้ภายในคำเดียว มันเป็นอสูรกายที่ใหญ่โตมากจริงๆ

    เพียงการชำเลืองมองจากดวงตาสีทองก็ทำให้เด็กหนุ่มขนลุกซู่ ดวงตาเบิกกว้าง ในเวลานั้นเขาได้พ่ายแพ้ให้กับความหวาดกลัวไปแล้วโดยสิ้นเชิง
    —อะ เอ๋----!!”
    เขาโยนดาบในมือทิ้งเช่นเดียวกับหัวของเขาที่ว่างเปล่า—ในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงร่างที่ยืนอยู่บนหัวของมังกรโบราณ แต่มันอาจเป็นเพียงภาพหลอนเนื่องจากความกลัวมากเกินไปก็ได้

    “……”

    แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานก็ตาม

    หรือว่าเราจะรอดแล้ว…?

    เขาคิด ก่อนจะหันไปมองรอบๆช้าๆราวกับเต่า ทันใดนั้นมีเสียงเด็กสาวที่ใสกังวานราวกับเสียงระฆังดังขึ้นจากด้านหลังเขา

    เฮ้ นายนะ เป็น NPC (Non-Player Character) ใช่ไหม คงไม่ได้เป็นผู้เล่น (Player) หรอกนะ?”

    ◆◇◆◇

    เด็กสาวที่แปลกประหลาด
    นั่นคือสิ่งที่เด็กหนุ่ม—นักผจญภัยหน้าใหม่ที่เพิ่งจะอายุได้ 15 ปีชื่อ โจอี้ --ใช้บรรยายเธอ

    เขาหันไปมองเจ้าของคำถามที่เขาไปไม่เข้าใจ

    “….เทพธิดาจันทรา
    เขาหลุดปากพูดออกไป เมื่อได้เห็นเด็กสาวที่งดงามเสียจนไม่น่าเชื่อ

    ผิวกายสีขาวนวลไร้ซึ่งรอยด่างพร้อยราวกับถูกปกคลุมไว้ด้วยไอแสงจันทร์ เส้นผมสีดำขลับทิ้งตัวยาวจนถึงเอวเหมือนถูกมนต์ของราตรียามค่ำคืนและหมู่ดารา และเมื่อเพ็งมองดวงหน้าของเธอ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าเหล่าสาวงามที่เขาเคยเห็นในงานเทศกาล กลายเป็นฝักทองหรือหุ่นไล่กาไปเลย
    ถึงแม้เขาจะเคยอ่านเทพนิยายต่างๆมามากมาย แต่สิ่งที่ใช้ หญิงงามล่มเมืองหรือ ไซเรนก็ไม่อาจเทียบเท่า มันเป็นความงามถึงขนาดที่ทำให้แทบลืมหายใจ

    -การถูกชมตรงๆแบบนี้ มันก็ทำให้อายนิดหน่อยนะ

    รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาว นิ้วเรียวบางแตะลงใบหน้าของตัวเองอย่างลำบากใจ ด้วยท่าทางเช่นนั้นของเธอ ทำให้โจอี้ตระหนักขึ้นมาได้ว่าคนตรงหน้ามีตัวตนจริงๆ เขาฟื้นคืนสติขึ้นมา เขาลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างเชื่องช้าและปัดเศษฝุ่นทรายออกจากร่าง แล้วหันไปทางเด็กสาวอย่างใจเย็น

    ดูจากสายตา เธอนั้นประมาณ 10-12 ปี ชุดที่สวมใส่เป็นของชั้นหนึ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ชุดกระโปรงสีดำยาวถึงหัวเข่าประดับตกแต่งด้วยช่อดอกกุหลาบสีแดงที่หรูหราและดูสดใหม่ราวกับยังมีชีวิต
    ตามจริงแล้ว ทั้งที่คาดผม ถุงเท้าสีขาวบริสุทธิ์และรองเท้าสีดำของเธอนั้นล้วนถูกตกแต่งด้วยดอกกุหลาบ การตกแต่งเช่นนั้นทำให้ดูสมบูรณ์แบบอย่างน่าลึกลับ

    หลายๆส่วนของกระโปรงส่องแสง มันถูกตกแต่งด้วยบางสิ่งที่ไม่ใช่แก้วสี แต่เป็นอัญมณีชนิดหนึ่งที่ไม่รู้จัก
    ในมือของเธอคือร่มกันแดดชั้นดีที่มีรอยจีบอยู่มากมาย โดยไม่ต้องสงสัยเธอช่างดูราวกับเจ้าหญิงที่ไม่น่ามีอยู่จริง

    เกินกว่าคำใดจะบรรยาย

    เพียงแค่เพียงคำเดียวคงไม่พอที่จะบรรยาย หากจะบรรยายเธอออกมาคงต้องใช้ถ้อยคำมากมาย แต่ทว่าตอนนี้เขามีบางอย่างที่จะต้องทำ

    อะ เอ่อ มังกรโบราณสีทองบินจากไปแล้วใช่ไหม?!”

    ประโยคนั้นทำให้เด็กสาวตกอยู่ในความตกใจครู่หนึ่ง
    -อา ดูเหมือนมันจะบินหนีไปแล้ว ช่างน่ากลัวจริงๆ ว่าไหม?~”
    ตามทางเธอชี้ไป ฟิ้ว~ (TL: เสียงถอนหายใจ) มันไม่มีอะไรในไกลๆนั่น

    “…ถะถ้างั้นก็รอดแล้วสินะ…”

    โจอี้ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ด้วยเหตุผลบางอย่างเด็กสาวดูแปลกๆ.

    อืม~ ดูจากท่าทางของเขาไม่ต่างไปจากคนปกติเลย ยังกับไม่ใช่พวก AI อือ...”
    เธอพึมพำบางอย่างแล้วพยักหน้ายืนยัน

    ในอีกด้านหนึ่ง โจอี้ที่ถูกจำแนกว่าเป็น คนปกติก็เกิดโกรธขึ้นมา
    ขอโทษนะ ฉันนะเป็นนักผจญภัยผู้เก่งกาจ อย่าตัดสินฉันว่าเป็นคนธรรมดาสิ
    เขาพูดออกมาขณะยึดอกขึ้นอย่างทะนงตน

    ครั้นแล้ว เด็กสาวก็เปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ เธอมองไปที่เด็กหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กๆ
    เห~~ นักผจญภัย! ช่างน่าประหลาดใจที่ได้เห็นนักผจญภัยจริงๆแบบนี้

    เด็กสาวแสดงท่าทางออกมาอย่างที่คิด ด้วยความอารมณ์ดี โจอี้โชว์บัตรกิลด์ที่เอาออกมาจากกระเป๋า
     “แน่นอน และบัตรนี้คือสิ่งยืนยันว่าฉันคือนักผจญภัย

    แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงนำออกมาเช่นนี้ แต่สิ่งที่เขียนอยู่บนแผ่นเหล็กบางๆนั้นคือชื่อเต็มของโจอี้ ความเป็นสมาชิก และอะไรบางอย่างที่เหมือนกับเลเวล เด็กสาวสำรวจมันด้วยดวงตาที่เหมือนมองเหยื่อ

    โจอี้ อลัน 15 ปี สังกัดเมืองอาระ.... โอ สมาชิกกิลด์นักผจญภัยเมืองอาระสินะ? Rank F นักดาบ.... ไม่สิ นักสู้มือเปล่าที่มีดาบ งั้นหรอ? ไม่มีประวัติต้องโทษ อา อ่านยากจัง ทำไมถึงใช้แต่ฮิราคานะกับคันตาคานะนะ- ทำไมถึงไม่ใช่คันจิละ?”

    (TL: ภาษาญี่ปุ่นมีการเขียนสามแบบ คือ ฮิราคานะ, คันตาคานะ และคันจิ)

    อะไรคือคันจิ?”

    “…มันเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักดีในการแบ่งแยกคำที่ความหมายต่างกัน
    อย่างไรก็ตามเด็กสาวถอนหายใจเมื่อได้เห็นสีหน้าสับสนของเขา

    “-อา ช่างมันเถอะ ลืมสิ่งที่พูดไปซะ ดูเหมือนจะรบกวนเกินไปแล้ว ขอตัวละ

    เด็กสาวก้มศีรษะลงเล็กน้อยเร็วๆแล้วหันหลังไป โจอีหยุดเธอไว้อย่างลนลาน
     “ดะ เดี๋ยวก่อน เธอจะไปที่ไหน?”

    แน่นอน ก็ต้องเมืองอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? ก่อนหน้านี้จากข้างบน... อืม ไม่จากระยะนี้ก็เห็นทางไปเมืองอยู่ ตอนนี้ฉันก็คงจะไปที่นั้นแหละ

    ด้วยสีหน้านึกไม่ถึง เธอชี้ปลายร่มไปทางเมืองอาระ ขณะที่เด็กสาวกางร่มในมือ แต่ไม่ว่าจะดูอย่างไรเธอก็ดูอ่อนแอ ไร้ทางสู้ โจอี้ไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง

    ถ้าเธอเดินเท้าจากที่นี้ไปตามแสงอาทิตย์ก็อาจจะถึงได้
    ไม่ อย่างแรกคือ เด็กสาวมีใบหน้าที่สวยงามมากและสวมชุดที่มีราคาแพง ไม่มีทางที่เธอจะไปถึงได้ด้วยตัวคนเดียว

    มันจะต้องมีพวกโจรผู้ร้ายมาอย่างแน่นอน ขโมยและอาชญากรรมจะตามเธอไปทุกที่
    เมื่อกลุ่มคนเห็นเธอ เพียงได้สบตา พวกเขาจะล่อลวงให้ทำร้ายเธอ เธอเหมือนป้ายเดินได้เขียนไว้ว่า
    ได้โปรดลักพาตัวฉันที

    โจอี้กังวลเกี่ยวกับคำร้องขอที่ยังไม่สำเร็จดีอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ตัดสินใจทิ้งความลังเลนั้นไป

    “….ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันคุ้มกันเธอไปแล้วกัน!”

    โดยไม่เข้าใจคำที่เขาประกาศ เด็กสาวเอียงคออย่างน่ารัก

     

    End

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×