คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #50 : 3-08 Episode 7
Chapter 3
– Beast King of Borderland
Episode 7 ราชาสิงโตหนุ่ม
ภูเขาอยู่ใกล้ๆนี้
แน่ละว่า, ใกล้ที่ว่าเป็นใกล้ตามมาตรฐานความสามารถของเผ่ามนุษย์สัตว์
ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาคงไม่พ้นเดินสัก 2-3 ถึงจะถึง
ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี
อสึมินะที่วิ่งมาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแล้วพลันหยุดนิ่งที่ตีนเขาแล้วหันมาทางผม
“ช่างน่าแปลกใจจริงๆเลยนะเจ้าค่ะ, ท่านหญิง ที่ท่านไม่เหนื่อยหอบ
ทั้งที่วิ่งไม่หยุดมาตลอดทางแท้ๆ”
“ระยะเท่านี้ไม่นับว่าเท่าไรหรอก....ไม่ชอบกลิ่นแบบนี้เลย
อา
จริงสิ, เรียกเราว่า『ฮิยูกิ』ก็ได้นะ
เราไม่ถือ”
กลิ่นเฉพาะของก๊าซภูเขาไฟและกำมะถัน
โดยเฉพาะคืนฟ้าโปร่งแบบนี้จึงทำให้ในจมูกฉุกกึกไปด้วยกลิ่นนี้
ผมตอบทั้งที่ปิดปากและจมูกด้วยผ้าเช็ดหน้าที่พกมา
(TL: กำมะถัน
หรือ ซัลเฟอร์ หรือ Sulfur เป็นธาตุจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต
พบในกรดอะมิโนหลายชนิด แต่เมื่ออยู่ในสถานะก๊าซจะมีกลิ่นฉุน เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์
(Hydrogen
sulfide) หรือ ก๊าซไข่เน่า เป็นต้น ;ก๊าซจากภูเขาไฟประกอบด้วย ไอน้ำ,
คาร์บอนไดออกไซด์,สารประกอบไนโตรเจน, สารประกอบซัลเฟอร์และอื่นๆ จึงมีกลิ่นฉุนแสบจมูก)
“เช่นนั้นข้าขอเรียกฮิยูกิ-ซามะนะเจ้าค่ะ ท่านก็เรียกข้าว่า อสึมินะ
เถอะเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากท่านไม่รังเกียจจะเรียกว่า อสึมิน หรือ อสึปอน
ก็ได้นะเจ้าค่ะ!”
…เธอเป็นมิโกะที่ไฟแรงมาก เป็นคนประเภทที่ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ
“อา, จากตรงนี้ไปต้องปีนขึ้น เพราะมันเป็นถนนลูกรังเลยลำบากที่จะเดิน แต่ไปถึงเร็วพอกัน”
ที่ที่เธอชี้ไปไม่มีอะไรนอกจากภูเขาเกลี้ยงๆ
ผมสงสัยจริงว่าคนที่อาศัยอยู่บนอย่าง『ผู้สืบทอดของราชาสัตว์ป่า』จะประหลาดขนาดไหน
“ถ้าไม่มองเรื่องกลิ่น, ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากนี้แล้ว –อา, คิดอีกที,
ถ้าได้อาบน้ำร้อนที่ผุดจากภูเขาไฟ ผิวก็จะนุ่มลื่นขึ้น ก็นับว่ายังดีละนะ”
ฟุ,
ภูเขาไฟตามธรรมชาติก็ต้องมีตาน้ำอยู่แหละ
เมื่อผมพูดไปเช่นนั้น,
อสึมินะก็หันมามองหน้าผม--และเลยไปยังเนินอกผมด้วยสายตามีนัยยะ
“—มะ,มีอะไรหรือ…?”
ด้วยอะไรบางอย่าง,
ผมยกมือขึ้นปิดหน้าอกและถอยหลังมา 2-3 ก้าว
ใต้แสงจันทร์อันอ้างว้าง,
มีสัตว์กินเนื้อในคราบเด็กสาวที่มองมาด้วยสายตาร้อนแรงและเลียริมฝีปากของเธอเอง....อา,
นี่เธอเป็นบ้าไปแล้ว?
“อา~ ผิวของฮิยูกิ-ซามะดีจริงๆ
มีเคล็ดลับอะไรหรือเจ้าค่ะ?”
อา,
งี้นี้เอง....
“ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรหรอก,
บางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้เดินกลางแดดก็ได้”
ถึงแม้ว่าผมมีภูมิต้านทานแสงแดด
แต่มันก็ไม่ถูกกับผมโดยธรรมชาติอยู่แล้ว มันชอบทำให้ผิวแห้งด้วย (เพราะงั้น,
ผมเลยใช้ร่มเป็นปกติ)
“อืมม~ม, ยากจัง
ด้วยสภาพเผ่าของข้า, พวกเราต้องทำงานกลางแจ้งคงทำไม่ได้ มีอะไรอีกหรือไม่เจ้าค่ะ?”
“…คงเป็นครีมบำรุง--อย่างของฉันก็ครีมกุหลาบนะ”
“โฮะโฮะ อันนี้ข้าน่าทำได้ ว่าแต่มันต่างจากครีมบำรุงดีทั่วไปยังไงหรือเจ้าค่ะ?”
ดวงตาของอสึมินะส่องประกายวูบวาบ
ดูเหมือนเธอจะสนใจเอามากๆ
ว่าแต่ทำไมมันถึงดูเป็นบทสนทนาประสาผู้หญิงแบบนี้ละ? (TL: ขนาดนี้แล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายอยู่อีกเรอะ!?)
จุดประสงค์ที่พวกเรามานี่...นี้มันอะไรนะ?
“โดยพื้นฐานมันก็เหมือนกันนั่นละ เพียงแต่มีกลิ่นเท่านั้นเอง
ถ้าให้ยกตัวอย่างละก็—ถ้าใช้ชนิดกลิ่นส้ม
หลังเผชิญแสงแดดไม่นานก็จะกระตุ้นกลิ่นออกมา...อืม, เราควรไปเลยดีหรือไม่?”
“—อา, เอาสิ ไปกันเลยเถอะเจ้าค่ะ!”
มองอสึมินะที่พยายามถามอย่างสงสัยใครรู้,
สงบลงในที่สุด เธอก็เริ่มปีนเขาที่อยู่ตรงหน้า
“…--ว่าแต่, มีอะไรนอกจากครีมบำรุงอีกไหมเจ้าค่ะ?”
นะ-นี่ยังจะวกเข้าเรื่องนี้อีกเหรอ?
ทำไมพวกเราถึงต้องคุยเรื่องนี้ขณะปีนเขากัน? เครื่องหมายคำถามลอยอยู่เต็มหัวผม,
ขณะที่พวกเราคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นต่ออย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ว่าจะเรื่องผลิตภัณฑ์ทำมือที่ช่วยดูแลผิวพรรณ หรือวิธีล้างที่มาส์กหน้า,
พวกเราปีนขึ้นไปบนภูเขาที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์กันอย่างช้าๆ
แล้วถ้าสงสัยว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องพวกนี้ละก็,
บางทีอาจจะพูดได้ว่ากว่าครึ่งปีที่ผมกลายเป็นผู้หญิงก็ได้พบอุปสรรคต่างๆมากมายอยู่เบื้องหลัง,
ผ่านมาได้ไงนะเหรอ?.........ไปคิดเอาเองสิ
◆◇◆◇
ปัจจุบัน,
ราว 40 นาทีหลังจากเริ่มปีนเขา
“พูดก็พูดเถอะ, ว่าที่ผู้นำคนถัดไป--”
“เรวาน-นี่ซามะ, ถูกชาวบ้านยอมรับว่าเป็น『ผู้นำหนุ่ม』แล้วเจ้าค่ะ
ฮิยูกิ-ซามะ”
“แล้วทำไมผู้นำหนุ่ม, เรวานถึงได้หลบซ่อนตัวเองอยู่บนภูเขาแบบนี้ละ?”
“เรื่องนั้น.... เมื่อ 1 ปีก่อนเห็นจะได้
เขาก็จากมาโดยไม่แม้แต่จะบอกข้า, น้องสาวของเขาด้วยซ้ำ
ไม่ว่าข้าจะพยายามถามเขาเท่าไร เขาก็ปฏิเสธตลอด ข้าเลยก็ไม่ทราบเช่นกัน
บางทีชาวบ้านก็มาที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝึกตนแต่ข้ารู้ว่าเขาหาได้มีจุดประสงค์เช่นนั้นไม่”
…คงจะรู้สึกยากจะยอมรับสินะ (TL: เพราะอสึมินะมองว่าเรวานเป็นคนสำคัญสำหรับตัวเอง
จึงอยากได้รับความสำคัญตอบด้วยไม่ว่าจะในฐานะน้องสาวหรือภรรยา
เมื่อโดนปิดบังเลยรู้สึกเสียใจ...? //แถค่ะ)
“อา แต่ก็น่าแปลกใจอยู่นะ
นึกว่าอสึมินะที่ดูหลงรักเรวานจะสรรเสริญเขาไว้สูงเสียอีก”
หลังจากที่ผมพูดไป,
อสึมินะก็เริ่มเรื่องด้วยสายตาหวานซึ้งอย่างคนจมอยู่ในความรักที่มีต่อพี่ชายของเธอ
“แน่นอน, ข้ารักเขา ข้ารักท่านพี่มากจริงๆ ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ข้าป้อนอาหารให้เขา,
ข้าคลานขึ้นบนเตียงแล้วปลุกเขาให้ตื่น
และข้าก็ซักเสื้อผ้าให้เขาเพื่อให้กลิ่นอายของข้าอยู่กับเขา”
อา,
เรวาน นายทนไม่ได้เลยหนีไปสินะ…
อย่างไรก็ตาม,
สีหน้าสุขุมของอสึมินะก็คืนกลับมาแล้วเธอก็เล่าต่อ
“แต่บุคลิกและรสนิยมของท่านพี่และข้านั้นต่างกัน
ถึงในด้านการต่อสู้แล้วเขาจะไร้ประโยชน์—แต่โดยส่วนตัวแล้ว,
เขาน่ารักมากแม้แต่ความไร้ประโยชน์นั้นก็ด้วย
ดังนั้นข้าจึงอยากดูแลเขาก่อนที่เขาจะหัวล้านไปเพราะความเครียดที่ถาโถมตั้งแต่เช้าจรดค่ำนะเจ้าค่ะ”
เป็นอีกครั้งที่สีหน้าของอสึมินะเป็นหยาดเยิ้ม
--เรวาน,
นายทำถูกแล้ว! พยายามเข้า!
ผมส่งกำลังใจไปให้ผู้สืบทอดราชาสัตว์ป่าที่ผมยังไม่ได้พบ
จะว่าไป,
ผู้หญิงคนนี้หลงรักพี่ชายของเธอจริงๆสินะ!?
จากนั้น,
หลังจากสงบอารมณ์บ้างแล้ว อสึมินะก็สีหน้าเศร้าหมอง
“…แต่ทว่า, เมื่อไม่นานมานี้, ตอนที่ข้าไปเยี่ยมเขาเช่นนี้
ก็ได้รับสีหน้ารำคาญใจกลับมา –บางที, ท่านพี่อาจจะเกลียดข้าแล้วก็เป็นได้?”
อืมม—ม
ผมสับสนว่าควรแสดงท่าทียังไงดี อา, ถ้าเธอรู้สึกไม่ดี ผมก็ควรปลอบสินะ?
“เราไม่คิดเช่นนั้นหรอก ถ้าเขาเกลียดเจ้าจริง เขาก็ไม่ได้กินอาหารที่เจ้าส่งไปทุกวันหรอก
และเขาก็ควรจากไปที่อื่นนานแล้ว แต่นี่เขายังอยู่ที่เดิมมาเกือบปีเลยนะ
แทนที่จะกล่าวเช่นนั้น, ไม่ใช่ว่าเขารอที่จะได้พบเจ้าหรอกหรือ—อา, ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชายจะพูดความในใจได้อย่างซื่อตรง”
“เข้าใจแล้ว, ต้องเป็นอย่างที่ท่านว่าแน่เลย”
อสึมินะพยักหน้าด้วยสีหน้าโล่งใจ
เด็กสาวฟื้นสภาพอย่างรวดเร็ว
“จะว่าไป, ฮิยูกิ-ซามะรู้ความคิดของผู้ชายดียิ่ง
บางทีอาจจะมาจากประสบการณ์ส่วนตัว …?”
“จะว่าเช่นนั้นก็ได้ เราเคยประสบความคิดแบบผู้ชายมาเป็นเวลานานแล้ว”
อสึมินะพยักหน้าอย่างจริงจัง,
พร้อมส่งเสียง เคี๊ยก-เคี๊ยก-คุ-คุ- ,เป็นเชิงหยอกล้อผม
…เป็นมิโกะที่ไม่สง่างามเอาซะเลยนะ
(TL: ฮิยูกิหมายถึงตัวเองเคยเป็นชายมาก่อนเลยรู้ความคิดของผู้ชาย
แต่อสึมินะเข้าใจว่าฮิยูกิรู้จักชอบพอกับผู้ชายมานานจนรู้ความคิดดี ซึ่งแน่นอนว่าฮิยูกิไม่รู้หรอกว่า
อสึมินะคิดยังไง)
ฉับพลัน,
ท่าทางกระตือรือร้นของอสึมินะก็เปลี่ยนไป เธอหยุดชะงักและห้ามผมด้วยมือหนึ่ง ส่วนอีกมือยื่นนิ้วชี้ไปแตะที่ริมฝีปากของเธอเอง
“----ชู่วว! จากนี้ไปเป็นอาณาเขตของท่านพี่ ได้โปรดเงียบด้วย”
คนที่ส่งเสียงดังก็มีแต่เธอนั่นแหละ
ว่าแต่,เธอว่า อาณาเขต (territory) งั้นหรอ?
แทนคำตอบ,
อสึมินะคว้าก้อนหินแล้วโยนเข้าไปทางเดินกรวดเบื้องหน้า—ที่ไม่ไกลนักมีกิ่งไม้เป็นรูปตัว
‘Y’
แครก!! กับดักหมีพลันงับเข้าหากัน
(TL: กับดักหมี
เป็นกับดักเหล็กที่นายพรานสมัยก่อนใช้ล่าสัตว์
เมื่อมีอะไรก็ตามกระทบตรงกลางปากเหล็กทั้งสองด้านก็จะงับเข้าหากัน
ทำให้เมื่อขาสัตว์มาถูกกับดักก็จะถูกปากเหล็กแทงทะลุขา ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เหมือนปัจจุบันจะเป็นคำศัพท์ในการเล่นหุ้น
สามารถดูรูปได้ที่อากู๋)
“…มีกับดักอย่างที่คิด, เลยจากตรงนี้ไปค่อนข้างอันตรายทีเดียว
ถ้าหากไม่ระวัง”
…….
“…อะ…อา…นี่…?”
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมถึงมีกับดักละ? แล้วนี่เธอรู้ได้ไงกัน? มีคำถามมากมายที่ผมอยากจะถาม
แต่เสียงของผมกลับเปล่งไม่ออก ร่างของผมชะงักกึกขณะที่ทอดมองไปที่กับดักหมี
และราวกับเธอจะรู้ว่าผมต้องการถามอะไร
อสึมินะหยักหน้าและเริ่มอธิบาย
“มันเป็นกับดักของท่านพี่ ตั้งแต่ตรงนี้ไปมีกับดักจำนวนนับไม่ถ้วนถูกติดตั้งไว้
ข้าจึงไม่เข้าไปประชิดตัวเขา
ดังนั้นแล้วโปรดอย่าสัมผัสสิ่งใดหรือเดินออกนอกทางที่ข้าเดินนะเจ้าค่ะ”
“เอ๋!? ว่าอะไรนะ…?”
“คงเพราะอย่างที่ฮิยูกิ-ซามะพูดนั่นละเจ้าค่ะ,
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชายจะพูดความในใจได้อย่างซื่อตรง”
ขณะที่พูดเช่นนั้น
สัตว์ศักดิ์สิทธ์, ฮาริก็ดูจะฟื้นคืนชีพและออกจากซอกอกแล้วเดินตามหลังอสึมินะไป
ผมมองไปยังแผ่นหลังของร่างทั้งสอง,
แล้วคิดจากก้นบึ้งของหัวใจ
--ผิด,
ผิดแล้ว! นี่มันคือการปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัดเลยนี่น่า!!
◆◇◆◇
หลังจากนั้น,
พวกเราก็ผ่านกับดักอันแล้วอันเล่า บ้างก็หลุมพราง, ท่องซุงจากระหว่างพุ่มไม้,
หินกลิ้ง หรือแม้กระทั่งหอกที่จู่ๆก็พุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้....ในที่สุด,
พวกเราก็มาถึงเต้นท์เล็กๆที่ซึ่งเรวาน, หัวหน้าหนุ่มแห่งเผ่าสีเหลือง,
อาศัยอยู่เพียงลำพัง
ทำไมผมถึงต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ด้วย?
ผมรู้สึกเสียใจจากก้นบึ้งของหัวใจขณะเดินตามต้นเหตุของความยากลำบาก—อสึมินะ—แล้วจึงโล่งอกได้เมื่อเห็นที่หมายในที่สุด
อย่างไรก็ตาม,
ด้วยเหตุผลบางอย่างอสึมินะไม่ได้เดินไปทางเต้นท์ แต่เดินไปบังอีกฝากของถนน
“…? เราไม่เข้าไปในเต้นท์หรือ?”
“ตอนนี้, ท่านพี่ไม่ได้อยู่ที่นั้นหรอกเจ้าค่ะ”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง,
อสึมินะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหอบระรัวๆ
“เวลานี้ท่านพี่กำลังอาบน้ำอยู่
เขาคงกำลังอาบน้ำอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนข้างล่าง
ตรงนี้เป็นจุดที่เหมาะมากเลยนะเจ้าค่ะ
เราค่อยไปที่เต้นท์หลังดื่มดำเต็มที่แล้วก็ได้เจ้าค่ะ”
“…เออ, เราไม่สนใจของอย่างร่างเปลือยผู้ชายหรอก คงจะดีกว่าถ้า- หว่า---”
“ไม่สนใจ!! ท่านกำลังจะบอกว่าท่านพี่ของข้าไม่มีเสน่ห์อย่างนั้นหรือ!?”
อสึมินะพุ่งเข้ามาใกล้ขณะวาดมือเหมือนจะกรีดร้องออกมา,
ปากพึมพำทั้งที่รูม่านตาขณะออกกว้าง
“… ขอโทษที น่าสนใจจริงๆ”
“ยัยแมวขโมย! คิดจะแย่งท่านพี่ไปจากข้าหรือ!?”
รูม่านตาของเธอเปลี่ยนไปเหมือนสัตว์กินเนื้อ
หวา~, น่ารำคาญจริง~, ผู้หญิงที่ตกอยู่ในห้วงรักเนี้ย~
ขณะที่คิด,
พวกเราก็มาถึงก้อนหินที่สูง 1.5 เมตร, กว้างและหนาราว 3 เมตร, ห่างจากบ่อน้ำพุร้อนประมาณ 7-8 เมตรได้,
ช่างเป็นจุด(แอบมอง)ที่ดีจริงๆ
…ให้ตายสิ, นี่ผมต้องแอบมองจริงหรอ?
“ภาพจากด้านบนสุดยอดที่สุดเลยเจ้าค่ะ....ฮิยูกิ-ซามะเชิญก่อนเลยเจ้าค่ะ”
อสึมินะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วผายมือเชิญผม
เมื่อคิดว่าไม่มีอะไรให้ระวัง,
ผมจึงวางมือลงบนหินและกระโดดขึ้นไป, วางปลายเท้าตรงยอดหิน--
ผมก็รู้สึกเหมือนก้าวสู่อาณาเขตบางๆบางอย่าง,
บ่วงเชือกวงกลมก็พุ่งรัดข้อเท้าของผม, ตรึงผมไว้อย่างสมบูรณ์,
พอดีกับที่ต้นไม้ที่โอนเอนลงมาเด้งกลับคืนสภาพเดิม
ดึงผมให้ไปแขวนตัวกลับหัวอยู่ที่บนต้นไม้
ในช่วงนั้นเองที่ผมรู้สึกเหมือนได้ยินอสึมินะพึมพำว่า
“อย่างที่คิด, มีกับดักอันใหม่จริงด้วย”
แต่ในตอนนั้นผมยังไม่ทันได้คิดอะไรเพราะพะวงแต่เรื่องกระโปรง
จากนั้น,
บางทีอาจจะทราบเพราะเสียง, เด็กหนุ่มวัยราว 15-16 ปีที่มีผิวสีน้ำตาลเข้มและผมสีน้ำตาลอ่อน
แต่เข้มกว่าอสึมินะ, ก็ปรากฏตัวออกมาจากละอองน้ำ ทั้งร่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวพาดหลังไว้
ตัวของเขาค่อนข้างสูงไม่น้อย
แต่ดูราวกับว่ายังสามารถเติบโตได้อีก ถึงแม้ว่าร่างจะบางแต่ก็มีกล้ามเนื้อที่มองดูก็รู้ว่าผ่านการออกกำลังมาอย่างเหมาะสม
ไม่มีส่วนเกินใดๆบนร่าง, เขาทำสีหน้ารำคาญราวกับเป็นสีหน้าปกติขณะหันมาทางผม
“เจ้ามาแอบดูข้าอีกแล้ว,
พวกเราเป็นพี่น้องร่วมน้ำนมกันไยไม่รู้สึกละอายใจบ้าง—”
สายตาของเขาสบกับของผม
“…เจ้า, ใครนะ?”เขานิ่งคิดเล็กน้อย “—หญิงโรคจิต?”
ผมส่ายหัวปฏิเสธทันที
End
Author Notes
เพราะสภาพวัฒนธรรมในยุคกลาง,
ครีมบำรุงที่ทันสมัย (ถึงใช้น้ำ 90-95% และกลีเชอรีน แค่ 5-10% ก็ตาม) จึงไม่สามารถสร้างได้
(ดูเหมือนยังไม่มีวิธีสกัดกลีเชอรีนอย่างสมบูรณ์)
ที่มีอยู่จึงเป็นเพียงเครื่องสำอางที่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเองเท่านั้น
(TL: กลีเซอรีน (Glycerin) หรือ กลีเซอรอล (Glycerol) เป็นสารประกอบอินทรีย์ในกลุ่มของโพลิไฮดริกแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง
ถือเป็นสารชนิดเดียวกันสำหรับเป็นสารตั้งต้นสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การผลิตสบู่
การผลิตยา การผลิตเครื่องสำอาง เป็นต้น)
Talk: กลับมาละค่ะ!! ขอโทษที่ให้คอยคะ ภาษาอาจจะดูแปลกไปบ้าง อาจมีคำแปลกๆสำนวนพิลึกๆ(ที่ไม่เข้ากับนิยาย)แอบอยู่,
ถ้าใครพบเห็นสามารถแจ้งได้เลยนะคะ!
ความคิดเห็น