ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #50 : 3-08 Episode 7

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.63K
      59
      18 ก.พ. 60

    Chapter 3Beast King of Borderland

    Episode 7 ราชาสิงโตหนุ่ม

    ภูเขาอยู่ใกล้ๆนี้ แน่ละว่า, ใกล้ที่ว่าเป็นใกล้ตามมาตรฐานความสามารถของเผ่ามนุษย์สัตว์ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาคงไม่พ้นเดินสัก 2-3 ถึงจะถึง

     

    ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี อสึมินะที่วิ่งมาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแล้วพลันหยุดนิ่งที่ตีนเขาแล้วหันมาทางผม

     

    ช่างน่าแปลกใจจริงๆเลยนะเจ้าค่ะ, ท่านหญิง ที่ท่านไม่เหนื่อยหอบ ทั้งที่วิ่งไม่หยุดมาตลอดทางแท้ๆ

     

    ระยะเท่านี้ไม่นับว่าเท่าไรหรอก....ไม่ชอบกลิ่นแบบนี้เลย

    อา จริงสิ, เรียกเราว่าฮิยูกิก็ได้นะ เราไม่ถือ

     

    กลิ่นเฉพาะของก๊าซภูเขาไฟและกำมะถัน โดยเฉพาะคืนฟ้าโปร่งแบบนี้จึงทำให้ในจมูกฉุกกึกไปด้วยกลิ่นนี้ ผมตอบทั้งที่ปิดปากและจมูกด้วยผ้าเช็ดหน้าที่พกมา

    (TL: กำมะถัน หรือ ซัลเฟอร์ หรือ Sulfur เป็นธาตุจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต พบในกรดอะมิโนหลายชนิด แต่เมื่ออยู่ในสถานะก๊าซจะมีกลิ่นฉุน เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen sulfide) หรือ ก๊าซไข่เน่า เป็นต้น ;ก๊าซจากภูเขาไฟประกอบด้วย ไอน้ำ, คาร์บอนไดออกไซด์,สารประกอบไนโตรเจน, สารประกอบซัลเฟอร์และอื่นๆ จึงมีกลิ่นฉุนแสบจมูก)

     

    เช่นนั้นข้าขอเรียกฮิยูกิ-ซามะนะเจ้าค่ะ ท่านก็เรียกข้าว่า อสึมินะ เถอะเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากท่านไม่รังเกียจจะเรียกว่า อสึมิน หรือ อสึปอน ก็ได้นะเจ้าค่ะ!”

     

    เธอเป็นมิโกะที่ไฟแรงมาก เป็นคนประเภทที่ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ

     

    อา, จากตรงนี้ไปต้องปีนขึ้น เพราะมันเป็นถนนลูกรังเลยลำบากที่จะเดิน แต่ไปถึงเร็วพอกัน

    ที่ที่เธอชี้ไปไม่มีอะไรนอกจากภูเขาเกลี้ยงๆ ผมสงสัยจริงว่าคนที่อาศัยอยู่บนอย่างผู้สืบทอดของราชาสัตว์ป่าจะประหลาดขนาดไหน

     

    ถ้าไม่มองเรื่องกลิ่น, ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากนี้แล้ว –อา, คิดอีกที, ถ้าได้อาบน้ำร้อนที่ผุดจากภูเขาไฟ ผิวก็จะนุ่มลื่นขึ้น ก็นับว่ายังดีละนะ

     

    ฟุ, ภูเขาไฟตามธรรมชาติก็ต้องมีตาน้ำอยู่แหละ

     

    เมื่อผมพูดไปเช่นนั้น, อสึมินะก็หันมามองหน้าผม--และเลยไปยังเนินอกผมด้วยสายตามีนัยยะ

     

    —มะ,มีอะไรหรือ?

    ด้วยอะไรบางอย่าง, ผมยกมือขึ้นปิดหน้าอกและถอยหลังมา 2-3 ก้าว

     

    ใต้แสงจันทร์อันอ้างว้าง, มีสัตว์กินเนื้อในคราบเด็กสาวที่มองมาด้วยสายตาร้อนแรงและเลียริมฝีปากของเธอเอง....อา, นี่เธอเป็นบ้าไปแล้ว?

     

    อา~ ผิวของฮิยูกิ-ซามะดีจริงๆ มีเคล็ดลับอะไรหรือเจ้าค่ะ?”

     

    อา, งี้นี้เอง....

     

    ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรหรอก, บางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้เดินกลางแดดก็ได้

    ถึงแม้ว่าผมมีภูมิต้านทานแสงแดด แต่มันก็ไม่ถูกกับผมโดยธรรมชาติอยู่แล้ว มันชอบทำให้ผิวแห้งด้วย (เพราะงั้น, ผมเลยใช้ร่มเป็นปกติ)

     

    อืมม~, ยากจัง ด้วยสภาพเผ่าของข้า, พวกเราต้องทำงานกลางแจ้งคงทำไม่ได้ มีอะไรอีกหรือไม่เจ้าค่ะ?”

     

    “…คงเป็นครีมบำรุง--อย่างของฉันก็ครีมกุหลาบนะ

     

    โฮะโฮะ อันนี้ข้าน่าทำได้ ว่าแต่มันต่างจากครีมบำรุงดีทั่วไปยังไงหรือเจ้าค่ะ?”

     

    ดวงตาของอสึมินะส่องประกายวูบวาบ ดูเหมือนเธอจะสนใจเอามากๆ

    ว่าแต่ทำไมมันถึงดูเป็นบทสนทนาประสาผู้หญิงแบบนี้ละ? (TL: ขนาดนี้แล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายอยู่อีกเรอะ!?)

    จุดประสงค์ที่พวกเรามานี่...นี้มันอะไรนะ?

     

    โดยพื้นฐานมันก็เหมือนกันนั่นละ เพียงแต่มีกลิ่นเท่านั้นเอง ถ้าให้ยกตัวอย่างละก็—ถ้าใช้ชนิดกลิ่นส้ม หลังเผชิญแสงแดดไม่นานก็จะกระตุ้นกลิ่นออกมา...อืม, เราควรไปเลยดีหรือไม่?”

     

    —อา, เอาสิ ไปกันเลยเถอะเจ้าค่ะ!

    มองอสึมินะที่พยายามถามอย่างสงสัยใครรู้, สงบลงในที่สุด เธอก็เริ่มปีนเขาที่อยู่ตรงหน้า

     

    “…--ว่าแต่, มีอะไรนอกจากครีมบำรุงอีกไหมเจ้าค่ะ?

     

    นะ-นี่ยังจะวกเข้าเรื่องนี้อีกเหรอ?

     

    ทำไมพวกเราถึงต้องคุยเรื่องนี้ขณะปีนเขากัน? เครื่องหมายคำถามลอยอยู่เต็มหัวผม, ขณะที่พวกเราคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นต่ออย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเรื่องผลิตภัณฑ์ทำมือที่ช่วยดูแลผิวพรรณ หรือวิธีล้างที่มาส์กหน้า, พวกเราปีนขึ้นไปบนภูเขาที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์กันอย่างช้าๆ

     

    แล้วถ้าสงสัยว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องพวกนี้ละก็, บางทีอาจจะพูดได้ว่ากว่าครึ่งปีที่ผมกลายเป็นผู้หญิงก็ได้พบอุปสรรคต่างๆมากมายอยู่เบื้องหลัง, ผ่านมาได้ไงนะเหรอ?.........ไปคิดเอาเองสิ

     

    ◆◇◆◇

     

    ปัจจุบัน, ราว 40 นาทีหลังจากเริ่มปีนเขา

    พูดก็พูดเถอะ, ว่าที่ผู้นำคนถัดไป--

     

    เรวาน-นี่ซามะ, ถูกชาวบ้านยอมรับว่าเป็นผู้นำหนุ่มแล้วเจ้าค่ะ ฮิยูกิ-ซามะ

     

    แล้วทำไมผู้นำหนุ่ม, เรวานถึงได้หลบซ่อนตัวเองอยู่บนภูเขาแบบนี้ละ?”

     

    เรื่องนั้น.... เมื่อ 1 ปีก่อนเห็นจะได้ เขาก็จากมาโดยไม่แม้แต่จะบอกข้า, น้องสาวของเขาด้วยซ้ำ ไม่ว่าข้าจะพยายามถามเขาเท่าไร เขาก็ปฏิเสธตลอด ข้าเลยก็ไม่ทราบเช่นกัน บางทีชาวบ้านก็มาที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝึกตนแต่ข้ารู้ว่าเขาหาได้มีจุดประสงค์เช่นนั้นไม่

     

    คงจะรู้สึกยากจะยอมรับสินะ (TL: เพราะอสึมินะมองว่าเรวานเป็นคนสำคัญสำหรับตัวเอง จึงอยากได้รับความสำคัญตอบด้วยไม่ว่าจะในฐานะน้องสาวหรือภรรยา เมื่อโดนปิดบังเลยรู้สึกเสียใจ...? //แถค่ะ)

     

    อา แต่ก็น่าแปลกใจอยู่นะ นึกว่าอสึมินะที่ดูหลงรักเรวานจะสรรเสริญเขาไว้สูงเสียอีก

     

    หลังจากที่ผมพูดไป, อสึมินะก็เริ่มเรื่องด้วยสายตาหวานซึ้งอย่างคนจมอยู่ในความรักที่มีต่อพี่ชายของเธอ

    แน่นอน, ข้ารักเขา ข้ารักท่านพี่มากจริงๆ ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ข้าป้อนอาหารให้เขา, ข้าคลานขึ้นบนเตียงแล้วปลุกเขาให้ตื่น และข้าก็ซักเสื้อผ้าให้เขาเพื่อให้กลิ่นอายของข้าอยู่กับเขา

     

    อา, เรวาน นายทนไม่ได้เลยหนีไปสินะ

     

    อย่างไรก็ตาม, สีหน้าสุขุมของอสึมินะก็คืนกลับมาแล้วเธอก็เล่าต่อ

    แต่บุคลิกและรสนิยมของท่านพี่และข้านั้นต่างกัน ถึงในด้านการต่อสู้แล้วเขาจะไร้ประโยชน์—แต่โดยส่วนตัวแล้ว, เขาน่ารักมากแม้แต่ความไร้ประโยชน์นั้นก็ด้วย ดังนั้นข้าจึงอยากดูแลเขาก่อนที่เขาจะหัวล้านไปเพราะความเครียดที่ถาโถมตั้งแต่เช้าจรดค่ำนะเจ้าค่ะ

     

    เป็นอีกครั้งที่สีหน้าของอสึมินะเป็นหยาดเยิ้ม

     

    --เรวาน, นายทำถูกแล้ว! พยายามเข้า!

    ผมส่งกำลังใจไปให้ผู้สืบทอดราชาสัตว์ป่าที่ผมยังไม่ได้พบ

     

    จะว่าไป, ผู้หญิงคนนี้หลงรักพี่ชายของเธอจริงๆสินะ!?

     

    จากนั้น, หลังจากสงบอารมณ์บ้างแล้ว อสึมินะก็สีหน้าเศร้าหมอง

    “…แต่ทว่า, เมื่อไม่นานมานี้, ตอนที่ข้าไปเยี่ยมเขาเช่นนี้ ก็ได้รับสีหน้ารำคาญใจกลับมา –บางที, ท่านพี่อาจจะเกลียดข้าแล้วก็เป็นได้?

     

    อืมม—ม ผมสับสนว่าควรแสดงท่าทียังไงดี อา, ถ้าเธอรู้สึกไม่ดี ผมก็ควรปลอบสินะ?

     

    เราไม่คิดเช่นนั้นหรอก ถ้าเขาเกลียดเจ้าจริง เขาก็ไม่ได้กินอาหารที่เจ้าส่งไปทุกวันหรอก และเขาก็ควรจากไปที่อื่นนานแล้ว แต่นี่เขายังอยู่ที่เดิมมาเกือบปีเลยนะ แทนที่จะกล่าวเช่นนั้น, ไม่ใช่ว่าเขารอที่จะได้พบเจ้าหรอกหรือ—อา, ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชายจะพูดความในใจได้อย่างซื่อตรง

     

    เข้าใจแล้ว, ต้องเป็นอย่างที่ท่านว่าแน่เลย

    อสึมินะพยักหน้าด้วยสีหน้าโล่งใจ เด็กสาวฟื้นสภาพอย่างรวดเร็ว

    จะว่าไป, ฮิยูกิ-ซามะรู้ความคิดของผู้ชายดียิ่ง บางทีอาจจะมาจากประสบการณ์ส่วนตัว …?”

     

    จะว่าเช่นนั้นก็ได้ เราเคยประสบความคิดแบบผู้ชายมาเป็นเวลานานแล้ว

     

    อสึมินะพยักหน้าอย่างจริงจัง, พร้อมส่งเสียง เคี๊ยก-เคี๊ยก-คุ-คุ- ,เป็นเชิงหยอกล้อผม

    เป็นมิโกะที่ไม่สง่างามเอาซะเลยนะ

    (TL: ฮิยูกิหมายถึงตัวเองเคยเป็นชายมาก่อนเลยรู้ความคิดของผู้ชาย แต่อสึมินะเข้าใจว่าฮิยูกิรู้จักชอบพอกับผู้ชายมานานจนรู้ความคิดดี ซึ่งแน่นอนว่าฮิยูกิไม่รู้หรอกว่า อสึมินะคิดยังไง)

     

    ฉับพลัน, ท่าทางกระตือรือร้นของอสึมินะก็เปลี่ยนไป เธอหยุดชะงักและห้ามผมด้วยมือหนึ่ง ส่วนอีกมือยื่นนิ้วชี้ไปแตะที่ริมฝีปากของเธอเอง

    ----ชู่วว! จากนี้ไปเป็นอาณาเขตของท่านพี่ ได้โปรดเงียบด้วย

     

    คนที่ส่งเสียงดังก็มีแต่เธอนั่นแหละ ว่าแต่,เธอว่า อาณาเขต (territory) งั้นหรอ?

     

    แทนคำตอบ, อสึมินะคว้าก้อนหินแล้วโยนเข้าไปทางเดินกรวดเบื้องหน้า—ที่ไม่ไกลนักมีกิ่งไม้เป็นรูปตัว ‘Y’

     

    แครก!! กับดักหมีพลันงับเข้าหากัน

    (TL: กับดักหมี เป็นกับดักเหล็กที่นายพรานสมัยก่อนใช้ล่าสัตว์ เมื่อมีอะไรก็ตามกระทบตรงกลางปากเหล็กทั้งสองด้านก็จะงับเข้าหากัน ทำให้เมื่อขาสัตว์มาถูกกับดักก็จะถูกปากเหล็กแทงทะลุขา ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เหมือนปัจจุบันจะเป็นคำศัพท์ในการเล่นหุ้น สามารถดูรูปได้ที่อากู๋)

     

    “…มีกับดักอย่างที่คิด, เลยจากตรงนี้ไปค่อนข้างอันตรายทีเดียว ถ้าหากไม่ระวัง

     

    …….

     

    “…อะอานี่?

     

    เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีกับดักละ? แล้วนี่เธอรู้ได้ไงกัน? มีคำถามมากมายที่ผมอยากจะถาม แต่เสียงของผมกลับเปล่งไม่ออก ร่างของผมชะงักกึกขณะที่ทอดมองไปที่กับดักหมี

     

    และราวกับเธอจะรู้ว่าผมต้องการถามอะไร

    อสึมินะหยักหน้าและเริ่มอธิบาย

    มันเป็นกับดักของท่านพี่ ตั้งแต่ตรงนี้ไปมีกับดักจำนวนนับไม่ถ้วนถูกติดตั้งไว้ ข้าจึงไม่เข้าไปประชิดตัวเขา ดังนั้นแล้วโปรดอย่าสัมผัสสิ่งใดหรือเดินออกนอกทางที่ข้าเดินนะเจ้าค่ะ”

     

    เอ๋!? ว่าอะไรนะ…?”

     

    คงเพราะอย่างที่ฮิยูกิ-ซามะพูดนั่นละเจ้าค่ะ, ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชายจะพูดความในใจได้อย่างซื่อตรง

    ขณะที่พูดเช่นนั้น สัตว์ศักดิ์สิทธ์, ฮาริก็ดูจะฟื้นคืนชีพและออกจากซอกอกแล้วเดินตามหลังอสึมินะไป

     

    ผมมองไปยังแผ่นหลังของร่างทั้งสอง, แล้วคิดจากก้นบึ้งของหัวใจ

     

    --ผิด, ผิดแล้ว! นี่มันคือการปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัดเลยนี่น่า!!

     

    ◆◇◆◇

     

    หลังจากนั้น, พวกเราก็ผ่านกับดักอันแล้วอันเล่า บ้างก็หลุมพราง, ท่องซุงจากระหว่างพุ่มไม้, หินกลิ้ง หรือแม้กระทั่งหอกที่จู่ๆก็พุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้....ในที่สุด, พวกเราก็มาถึงเต้นท์เล็กๆที่ซึ่งเรวาน, หัวหน้าหนุ่มแห่งเผ่าสีเหลือง, อาศัยอยู่เพียงลำพัง

     

    ทำไมผมถึงต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ด้วย?  ผมรู้สึกเสียใจจากก้นบึ้งของหัวใจขณะเดินตามต้นเหตุของความยากลำบาก—อสึมินะ—แล้วจึงโล่งอกได้เมื่อเห็นที่หมายในที่สุด

     

    อย่างไรก็ตาม, ด้วยเหตุผลบางอย่างอสึมินะไม่ได้เดินไปทางเต้นท์ แต่เดินไปบังอีกฝากของถนน

     

    “…? เราไม่เข้าไปในเต้นท์หรือ?”

     

    ตอนนี้, ท่านพี่ไม่ได้อยู่ที่นั้นหรอกเจ้าค่ะ

    ด้วยเหตุผลบางอย่าง, อสึมินะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหอบระรัวๆ

    “เวลานี้ท่านพี่กำลังอาบน้ำอยู่ เขาคงกำลังอาบน้ำอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนข้างล่าง ตรงนี้เป็นจุดที่เหมาะมากเลยนะเจ้าค่ะ เราค่อยไปที่เต้นท์หลังดื่มดำเต็มที่แล้วก็ได้เจ้าค่ะ

     

    “…เออ, เราไม่สนใจของอย่างร่างเปลือยผู้ชายหรอก คงจะดีกว่าถ้า- หว่า---

     

    ไม่สนใจ!! ท่านกำลังจะบอกว่าท่านพี่ของข้าไม่มีเสน่ห์อย่างนั้นหรือ!?”

    อสึมินะพุ่งเข้ามาใกล้ขณะวาดมือเหมือนจะกรีดร้องออกมา, ปากพึมพำทั้งที่รูม่านตาขณะออกกว้าง

     

    “… ขอโทษที น่าสนใจจริงๆ

     

    ยัยแมวขโมย! คิดจะแย่งท่านพี่ไปจากข้าหรือ!?”

    รูม่านตาของเธอเปลี่ยนไปเหมือนสัตว์กินเนื้อ

     

    หวา~, น่ารำคาญจริง~, ผู้หญิงที่ตกอยู่ในห้วงรักเนี้ย~

     

    ขณะที่คิด, พวกเราก็มาถึงก้อนหินที่สูง 1.5 เมตร, กว้างและหนาราว 3 เมตร, ห่างจากบ่อน้ำพุร้อนประมาณ 7-8 เมตรได้, ช่างเป็นจุด(แอบมอง)ที่ดีจริงๆ

    ให้ตายสิ, นี่ผมต้องแอบมองจริงหรอ?

     

    ภาพจากด้านบนสุดยอดที่สุดเลยเจ้าค่ะ....ฮิยูกิ-ซามะเชิญก่อนเลยเจ้าค่ะ

    อสึมินะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วผายมือเชิญผม

     

    เมื่อคิดว่าไม่มีอะไรให้ระวัง, ผมจึงวางมือลงบนหินและกระโดดขึ้นไป, วางปลายเท้าตรงยอดหิน--

    ผมก็รู้สึกเหมือนก้าวสู่อาณาเขตบางๆบางอย่าง, บ่วงเชือกวงกลมก็พุ่งรัดข้อเท้าของผม, ตรึงผมไว้อย่างสมบูรณ์, พอดีกับที่ต้นไม้ที่โอนเอนลงมาเด้งกลับคืนสภาพเดิม ดึงผมให้ไปแขวนตัวกลับหัวอยู่ที่บนต้นไม้

     

    ในช่วงนั้นเองที่ผมรู้สึกเหมือนได้ยินอสึมินะพึมพำว่า “อย่างที่คิด, มีกับดักอันใหม่จริงด้วย” แต่ในตอนนั้นผมยังไม่ทันได้คิดอะไรเพราะพะวงแต่เรื่องกระโปรง

     

    จากนั้น, บางทีอาจจะทราบเพราะเสียง, เด็กหนุ่มวัยราว 15-16 ปีที่มีผิวสีน้ำตาลเข้มและผมสีน้ำตาลอ่อน แต่เข้มกว่าอสึมินะ, ก็ปรากฏตัวออกมาจากละอองน้ำ ทั้งร่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวพาดหลังไว้

     

    ตัวของเขาค่อนข้างสูงไม่น้อย แต่ดูราวกับว่ายังสามารถเติบโตได้อีก ถึงแม้ว่าร่างจะบางแต่ก็มีกล้ามเนื้อที่มองดูก็รู้ว่าผ่านการออกกำลังมาอย่างเหมาะสม ไม่มีส่วนเกินใดๆบนร่าง, เขาทำสีหน้ารำคาญราวกับเป็นสีหน้าปกติขณะหันมาทางผม

     

    เจ้ามาแอบดูข้าอีกแล้ว, พวกเราเป็นพี่น้องร่วมน้ำนมกันไยไม่รู้สึกละอายใจบ้าง—”

     

    สายตาของเขาสบกับของผม

     

    “…เจ้า, ใครนะ?”เขานิ่งคิดเล็กน้อย “—หญิงโรคจิต?”

     

    ผมส่ายหัวปฏิเสธทันที

     

     

    End

    Author Notes

    เพราะสภาพวัฒนธรรมในยุคกลาง, ครีมบำรุงที่ทันสมัย (ถึงใช้น้ำ 90-95% และกลีเชอรีน แค่ 5-10% ก็ตาม) จึงไม่สามารถสร้างได้ (ดูเหมือนยังไม่มีวิธีสกัดกลีเชอรีนอย่างสมบูรณ์) ที่มีอยู่จึงเป็นเพียงเครื่องสำอางที่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเองเท่านั้น

    (TL: กลีเซอรีน (Glycerin) หรือ กลีเซอรอล (Glycerol) เป็นสารประกอบอินทรีย์ในกลุ่มของโพลิไฮดริกแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ถือเป็นสารชนิดเดียวกันสำหรับเป็นสารตั้งต้นสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การผลิตสบู่ การผลิตยา การผลิตเครื่องสำอาง เป็นต้น)

     

    Talk: กลับมาละค่ะ!! ขอโทษที่ให้คอยคะ ภาษาอาจจะดูแปลกไปบ้าง อาจมีคำแปลกๆสำนวนพิลึกๆ(ที่ไม่เข้ากับนิยาย)แอบอยู่, ถ้าใครพบเห็นสามารถแจ้งได้เลยนะคะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×